ยุคเฮอัง (ญี่ปุ่น: 平安時代; โรมาจิ: Heian-jidai; : เฮอังจิได) อยู่ในช่วง ค.ศ. 794 - 1185
ในปลายศตวรรษที่ 8 มีการย้ายเมืองหลวงไปที่ เฮอังเกียว (平安京 Heian-kyou) หรือเมืองเคียวโตะในปัจจุบัน นับเป็นยุคทองของประเทศญี่ปุ่น ที่ทั้งศิลปะและวัฒนธรรมรุ่งเรืองถึงขีดสุด มีการพัฒนาปรับปรุงวัฒนธรรมต่างๆ ที่หยิบยืมมาจากประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถัง และลัทธิขงจื้อ จนกลายเป็นวัฒนธรรมแบบเฉพาะตัวของญี่ปุ่น เฮอัง (平安,Heian) แปลว่า ความสงบสันติ
ประวัติ
ในช่วงปลาย เกิดโรคระบาดภาวะข้าวยากหมากแพง ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นในสมัยคลาสสิกว่าการย้ายที่อยู่เพื่อหลีบหนีวิญญาณชั่วร้ายจะช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ในค.ศ. 784 พระจักรพรรดิคัมมุ (桓武, Kammu) ทรงย้ายราชสำนักจากเฮโจวเกียวไปยังนะงะโอะกะ-เคียว (長岡京, Nagaoka-kyō) แต่ก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดในราชสำนักอีกพระจักรพรรดิคัมมุทรงเกรงกลัววิญญาณอาฆาตของพระอนุชาของพระองค์ จึงทรงย้ายราชสำนักมายังเฮอัง-เกียว (平安京, Heian-kyō) ที่เมืองเคียวโตะในปัจจุบัน ในค.ศ. 794 การย้ายเมืองหลวงในครั้งนี้เป็นเพียงการย้ายสถานที่เท่านั้น ระบอบการปกครองที่มีต้นแบบมาจากราชวงศ์ถังตั้งแต่ปลายและอิทธิพลของตระกูลฟุจิวะระก็ยังติดตามมาเช่นเดิม ในสมัยเฮอังตระกูลฟุจิวะระมีอำนาจในฐานะเป็นตระกูลเดียวที่พระจักรพรรดิจะอภิเษกพระจักรพรรดินี และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนสำหรับพระจักรพรรดิที่ทรงพระเยาว์ เรียกว่า เซ็สโช (摂政, Sesshō) หรือเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของพระจักรพรรดิ เรียกว่า คัมปะกุ (関白, Kampaku) อำนาจในการปกครองตกอยู่แก่เซ็สโชโดยพระจักรพรรดิที่ทรงพระเยาว์นั้นเป็นเพียงหุ่นเชิด ในสมัยเฮอังสตรีสูญเสียบทบาทและอำนาจในการปกครอง เนื่องจากอิทธิพลแนวความคิดตามแบบจากจีนที่เน้นความสำคัญของบุรุษ จะเห็นได้จากการที่ในสมัยเฮอังและในสมัยต่อมาไม่มีพระจักรพรรดินีที่เป็นสตรีปกครองประเทศอีกเลยเป็นเวลานาน สตรีถูกแบ่งแยกจากบุรุษและถูกกีดกัดเข้าสู่ฝ่ายใน แต่กระนั้นสตรีในราชสำนักเฮอังก็ได้กลับขึ้นมามีอำนาจในฐานะ โคไทโง (皇太后, kōtaigō) หรือพระพันปี
ในค.ศ. 833 พระจักรพรรดิจุนนะ (淳和, Junna) ทรงสละราชสมบัติให้แก่พระโอรสบุญธรรมขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระจักรพรรดินินเมียว (仁明, Ninmyō) โดยแต่งตั้งให้พระโอรสของพระจักรพรรดิจุนนะคือองค์ชายซึเนะซะดะ (恒貞, Tsunesada) เป็นองค์ชายรัชทายาทรอคอยการสืบราชสมบัติ แต่อุไดจินฟุจิวะระ โยะชิฟุสะ (藤原 良房, Fujiwara no Yoshifusa) เข้าทำการยึดอำนาจปลดองค์ชายซึเนะซะดะจากตำแหน่งองค์ชายรัชทายาท และตั้งองค์ชายมิฉิยะสุ (道康, Michiyasu) ซึ่งเป็นพระโอรสของพระจักรพรรดินินเมียวและพระจักรพรรดินีฟุจิวะระที่เป็นน้องสาวของโยะชิฟุสะ หรือก็คือหลานของโยะชิฟุสะนั่นเอง เป็นองค์ชายรัชทายาทแทน เรียกว่า"เหตุการณ์ปีโจวะ" เป็นเหตุการณ์ที่นำฟุจิวะระโยะชิฟุสะสู่อำนาจและเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าครอบงำราชสำนักของตระกูลฟุจิวะระ องค์ชายมิฉิยะสุขึ้นครองราชย์เป็นพระจักรพรรดิมงโตกุ (文徳, Montoku) และในค.ศ. 858 พระจักรพรรดิมงโตกุสวรรคตในราชสมบัติ พระโอรสพระจักรพรรดิเซวะ (清和, Seiwa) ขึ้นครองราชสมบัติด้วยพระชนมายุเพียงเก้าชันษา ฟุจิวะระ โยะชิฟุสะจึงขึ้นเป็นเซ็สโชคนแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
พระจักรพรรดิอุดะ (宇多, Uda) ทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์เดียวที่พระมารดาไม่ได้มาจากตระกูลฟุจิวะระ พระจักรพรรดิอุดะทรงสละราชสมบัติในค.ศ. 897 มอบราชสมบัติแก่พระโอรสคือพระจักรพรรดิไดโงะ (醍醐, Daigo) โดยให้ฟุจิวะระ โทะกิฮิระ (藤原 時平, Fujiwara Tokihira) และสุงะวะระ มิฉิซะเนะ (菅原 道真, Sugawara Michizane) คอยช่วยเหลือพระจักรพรรดิที่ทรงพระเยาว์ แต่ฟุจิวะระ โทะกิฮิระ เมื่อได้เป็นเซ็สโชแล้วก็ได้ใส่ร้ายป้ายสีซุงะวะระ มิฉิซะเนะคู่แข่งทางการเมืองของตน จนซุงะวะระถูกเนรเทศและเสียชีวิตในค.ศ. 903 ทันใดนั้นที่เมืองเฮอังก็เกิดภัยภิบัติต่างๆ พระโอรสของพระจักรพรรดิไดโงะรวมทั้งโทะกิฮิระต่างเสียชีวิตจากโรตระบาด จนพระจักรพรรดิไดโงะทรงต้องขอขมาต่อวิญญาณของสุงะวะระ ทำลายเอกสารบันทึกเกี่ยวกับความผิดของสุงะวะระ และยกย่องให้สุงะวะระเป็นเทพแห่งนักปราชญ์ตามศาสนาชินโต
การแบ่งช่วงในยุคเฮอัง
ยุคเฮอังตอนต้น ค.ศ. 782-967
- ค.ศ. 782-833 ย้ายราชธานีมาสู่นครเฮอังเกียว สถาปนาหน่วยราชการใหม่ๆ เช่น สำนักพระราชเลขานุการส่วนพระองค์ และ สำนักราชองครักษ์หลวงส่วนพระจักรพรรดิ ก่อตั้งพุทธศาสนา (天台宗 Tendai-shuu) และ (真言宗 Shingon-shuu) ที่ถือสันโดษ และไม่เป็นอันตรายต่อพระราชอำนาจ
- ค.ศ. 833-877 พระราชอำนาจของพระจักรพรรดิเสื่อมถอยลง อำนาจการปกครองตกอยู่ในเมือขุนนางตระกูลฟุจิวะระ ที่มักจะมีตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการ และ มหาเสนาบดี
- ค.ศ. 887-967 ช่วงการแย่งชิงอำนาจระหว่างพระจักพรรดิและตระกูลฟุจิวะระ
ยุคเฮอังตอนปลาย ค.ศ. 967-1167
- ค.ศ. 967-1068 อำนาจการปกครองตกอยู่ในมือตระกูลฟุจิวะระอย่างสมบรูณ์
- ค.ศ. 1068-1156 องค์พระจักรพรรดิผู้สละราชย์ชิงอำนาจการปกครองกลับคืนมา
- ค.ศ. 1156-1167 การลุกฮือขึ้นแย่งชิงอำนาจของชนชั้นขุนศึก
ศิลปวัฒนธรรม
วัฒนธรรมที่เป็นรูปแบบของญี่ปุ่นโดดเด่นมากในสมัยเฮอัง ในศตวรรษที่ 9 ญี่ปุ่นยังคงรับวัฒนธรรมของราชวงศ์ถังอยู่ พุทธศาสนานิกายมิเคียว (密教 Mikkyou) กับการเขียนรูปประโยคแบบจีนแพร่หลายมาก พอเข้าสู่ศตวรรษที่ 10 หลังจากที่ญี่ปุ่นไม่ได้ติดต่อโดยตรงกับภาคพื้นทวีปแล้ว ได้เกิดวัฒนธรรมชนชั้นสูงที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะของญี่ปุ่นเอง วรรณกรรมที่เด่นในเวลานี้ อาทิ “โคะคินวะกะชู” (古今和歌集 Kokinwakashuu) เป็นหนังสือรวมกวีนิพนธ์ญี่ปุ่นเล่มแรกตามพระราชโองการของจักรพรรดิ (ในต้นศตวรรษที่ 10) “ตำนานเก็นจิ” (源氏物語 Genji Monogatari) นวนิยายเรื่องยาวที่นับว่าเก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งโลก (ประมาณต้นศตวรรษที่ 11) และ “มะคุระโนะโซชิ” (枕草子 Makura-no-sōshi) หนังสือข้างหมอน[1] 2009-12-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ประมาณ ค.ศ. 1000) วรรณกรรมเหล่านี้เขียนด้วยตัวอักษร คะนะ อีกด้วย ตั้งแต่ช่วงหลังศตวรรษที่ 10 เป็นต้นมา พุทธศาสนานิกายโจโดะ (浄土教 Joudo-kyo) ซึ่งมุ่งหวังความสุขในชาติหน้าเป็นที่นับถืออย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับนิกายมิคเคียว ที่หวังผลประโยชน์เฉพาะในชาตินี้ และเราจะเห็นถึงความมีเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นปรากฏอยู่ในวรรณกรรมกับงานศิลปะ เช่น สถาปัตยกรรม การเขียนภาพ การแกะสลัก เป็นต้น
ศาสนา
ในยุคเฮอังพุทธศาสนานิกายวัชรยานจากจีนราชวงศ์ถังเผยแพร่เข้ามาสู่ประเทศญี่ปุ่น แต่เดิมพุทธศาสนาในญี่ปุ่นถูกปกครองโดยพุทธศาสนาหกสำนักแห่งเมืองนาระ (Six schools of Nara) ซึ่งเน้นการคิดวิเคราะห์และศึกษาพระธรรมมากกว่าการปฏิบัติ คณะสงฆ์เมืองนาระมีอำนาจมากทั้งในทางศาสนาและทางโลก ทำให้พระจักรพรรดิคัมมูมีพระประสงค์จะหลีกเลี่ยงอิทธิพลของคณะสงฆ์เมืองนาระ ราชสำนักญี่ปุ่นในยุคเฮอังจึงให้การสนับสนุนแก่พุทธศาสนานิกายวัชรยานใหม่ซึ่งมาจากประเทศจีนเพื่อคานอำนาจกันกับคณะสงฆ์เมืองนาระ ประกอบด้วยนิกายชิงงน (ญี่ปุ่น: 真言; โรมาจิ: Shingon) และนิกายเทงได (ญี่ปุ่น: 天台; โรมาจิ: Tendai) นิกายวัชรยานซึ่งเน้นเรื่องพิธีกรรมการบูชาทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างพุทธศาสนาและศาสนาชินโตหรือความเชื่อดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น เรียกว่า ชิมบูตสึ-ชูโง (ญี่ปุ่น: 神仏習合; โรมาจิ: Shinbutsu-shūgō)
นิกายเทงไดและนิกายชิงงน
ในค.ศ. 804 พระภิกษุญี่ปุ่นสองรูปได้แก่ พระภิกษุไซโช (ญี่ปุ่น: 最澄; โรมาจิ: Saichō) และพระภิกษุคูไก (ญี่ปุ่น: 空海; โรมาจิ: Kūkai) ลงเรือไปกับคณะทูตเดินทางไปยังประเทศจีนยุคราชวงศ์ถังเพื่อศึกษาพุทธศาสนา ภิกษุไซโชเดินทางไปศึกษาที่เขาเทียนไถในขณะที่ภิกษุคูไกเดินทางไปศึกษาพุทธศาสนาวัชรยานที่เมืองฉางอัน บนเขาเทียนไถพระภิกษุไซโชศึกษาพุทธศาสนานิกายมหายานเทียนไถซึ่งให้ความสำคัญแก่การศึกษาสัทธรรมปุณฑริกสูตร (Lotus Sutra) เป็นสำคัญ ในขณะที่ภิกษุคูไกศึกษาหลักการของพุทธศาสนาวัชรยานตันตระ หรือพุทธศาสนาคุยหยาน (Esoteric Buddhism) ในแบบราชวงศ์ถังเรียกว่าถังมี่ (จีน: 唐密; พินอิน: Tángmì) หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า มิกเกียว (ญี่ปุ่น: 密教; โรมาจิ: Mikkyō) ซึ่งเน้นในเรื่องการปฏิบัติและพิธีกรรมเพื่อการบรรลุโพธิจิต หลักการปฏิบัติและพิธีกรรมของวัชรยานนั้นเป็นความลับไม่เปิดเผยแก่คนทั่วไป พระสงฆ์ผู้ซึ่งได้รับการ "อภิเษก" เข้าสู่พุทธศาสนาวัชรยานแล้วเท่านั้นจึงสามารถเข้าถึงหลักคำสอนของวัชรยานได้ ภิกษุคูไกเล่าเรียนกับภิกษุชาวจีนและได้รับการอภิเษกเข้าสู่พิธีกรรมของวัชรยาน เช่นเดียวกับพระภิกษุไซโชซึ่งนอกจากศึกษานิกายเทียนไถแล้วยังได้เรียนรู้พุทธศาสนาวัชรยานจากประเทศจีนอีกด้วย
ภิกษุไซโชศึกษาพุทธศาสนาที่จีนเป็นเวลาประมาณหนึ่งปีจึงเดินทางกลับญี่ปุ่นในค.ศ. 805 และก่อตั้งนิกายเท็งไดขึ้น ในค.ศ. 806 พระจักรพรรดิคัมมูพระราชทานภูเขาฮิเอ (ญี่ปุ่น: 比叡山; โรมาจิ: Hiei-zan) ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครหลวงเฮอังเกียวให้เป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายเท็งไดนำไปสู่การก่อตั้งวัดเองเรียกุ (ญี่ปุ่น: 延暦寺; โรมาจิ: Enryaku-ji) ชาวญี่ปุ่นในยุคเฮอังเชื่อว่าทิศอีสานเป็นทิศอัปมงคลการตั้งวัดใหญ่ทางทิศนั้นจะเป็นการป้องกันสิ่งชั่วร้ายและปีศาจต่างๆไม่ให้เข้ามากล้ำกรายนครเฮอังเกียวได้ นิกายเทงไดของญี่ปุ่นมีความแตกต่างจากนิกายเทียนไถของจีน นิกายเทียนไถของจีนเน้นเรื่องการศึกษาสัทธรรมปุณฑริกสูตร แต่นิกายเทงไดมีพิธีกรรมเกี่ยวกับวัชรยานร่วมด้วย ราชสำนักญี่ปุ่นในต้นยุคเฮอังให้การสนับสนุนแก่นิกายเทงได ภิกษุไซโชปฏิรูปพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์ในญี่ปุ่นใหม่ แต่เดิมนั้นพระสงฆ์ญี่ปุ่นรับศีลปาติโมกข์ในการอุปสมบทตามรูปแบบของเมืองนาระ พระภิกษุไซโชมีความเห็นว่าศีลปาติโมกข์นั้นเป็นของหีนยานและไม่ใช่มหายานที่แท้จริง พระสงฆ์ในสำนักของไซโชนั้นจึงรับศีลของพระโพธิสัตว์ (Bodhisattva precepts) ในการอุปสมบท ซึ่งการรับศีลของพระโพธิสัตว์แทนการรับศีลปาติโมกข์นั้นจะเป็นแบบอย่างให้แก่พุทธศาสนาญี่ปุ่นนิกายอื่นในอนาคต และเป็นเหตุให้พระสงฆ์ญี่ปุ่นบางนิกายสามารถมีครอบครัวได้
พระภิกษุคูไกเดินทางกลับจากประเทศจีนในค.ศ. 806 ก่อตั้งนิกายชิงงนเป็นนิกายวัชรยานของญี่ปุ่น นิกายชิงงนต้องเผชิญกับการแข่งขันกับนิกายเทงไดซึ่งได้รับการสนับสนุนจากราชสำนักญี่ปุ่น พระภิกษุไซโชต้องการเรียนรู้หลักของพุทธศาสนาวัชรยานจึงแสวงหาความรู้จากพระภิกษุคูไก พระภิกษุคูไกทำพิธีอภิเษกให้แก่พระภิกษุไซโชแต่กระทำพิธีไม่ครบถ้วนและภิกษุคูไกปิดบังความรู้บางส่วนจากพระภิกษุไซโช ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างภิกษุไซโชและภิกษุคูไก เมื่อพระจักรพรรดิซางะประชวรพระภิกษุคูไกมีโอกาสได้ทำพิธีทางวัชรยานเพื่อรักษาอาการประชวรของพระจักรพรรดิซางะ ทำให้พระจักรพรรดิซางะทรงโปรดพระภิกษุคูไกอย่างมากและพระราชทานภูเขาโคยะ (ญี่ปุ่น: 高野山; โรมาจิ: Kōyasan) บนเทือกเขาคีอิให้เป็นศูนย์กลางของนิกายชิงงนในค.ศ. 816 นิกายชิงงนมีหลักคำสอนมาจากพระสูตรในนิกายตันตระต่างๆจากอินเดีย เน้นเรื่องการสวด "มนตรา" และการเพิ่งจิตไปที่ "มัณฑละ" เพื่อการบรรลุโพธิจิตและบูชาพระโพธิสัตว์และเทพต่างๆโดยเฉพาะพระไวโรจนพุทธะ มีการใช้อักษรสิทธัมในการจารมันฑละ นิกายชิงงนบูชาพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ต่างๆ รวมทั้งบูชาวิทยาราชท้าวจตุโลกบาลและเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์เช่นพระอินทร์หรือไทชากูเท็ง (ญี่ปุ่น: 帝釈天; โรมาจิ: Taishaku-ten)
อย่างไรก็ตามในช่วงปลายยุคเฮอังวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ในญี่ปุ่นเสื่อมลง นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพุทธศาสนานิกายต่างๆในญี่ปุ่น พุทธศาสนานิกายต่างๆทั้งในเมืองเฮอังเกียวและเมืองนาระต่างสะสมกองกำลังไว้เพื่อสร้างฐานอำนาจและเพื่อป้องกันตนเองจากการคุกคามจากสำนักอื่น นำไปสู่การกำเนิดของพระสงฆ์นักรบหรือโซเฮ (ญี่ปุ่น: 僧兵; โรมาจิ: Sōhei) โดยเฉพาะกองกำลังโซเฮของวัดเองเรียกุบนเขาฮิเอและวัดมิอิ (ญี่ปุ่น: 三井寺; โรมาจิ: Mii-dera) ได้ชื่อว่าเป็นกองกำลังที่เข้มแข็ง ไทระ โนะ คิโยโมริ เข้าต่อสู้กับกองทัพโซเฮของเขาฮิเอแต่ต่อมาได้รับความช่วยเหลือจากกองกำลังกองเขาฮิเอในสงครามเก็มเป ความเสื่อมของพุทธศาสนาในปลายยุคเฮอังนำไปสู่การแยกตัวและการกำเนิดพุทธศาสนานิกายใหม่ๆได้แก่นิกายโจโด หรือนิกายแดนบริสุทธิ์สุขาวดี และนิกายเซ็น
ศาสนาชูเกนโด
ศาสนาชูเกนโด (ญี่ปุ่น: 修験道; โรมาจิ: Shugendō) เกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างการปฏิบัติฝึกตนของพุทธศาสนา พิธีกรรมของวัชรยาน และความเชื่อของศาสนาชินโต ศาสนาชูเกนโดเกิดขึ้นจาก (ญี่ปุ่น: 役行者; โรมาจิ: En no Gyōja) นักบวชในยุคนาระผู้ริเริ่มการธุดงค์เป็นฤๅษีบำเพ็ญเพียรตามป่าเขาเพื่อฝึกจิตแสวงหาทางหลุดพ้นพร้อมทั้งบูชาเทพเจ้าในศาสนาชินโตไปด้วยกัน ต่อมาในยุคเฮอังลัทธิชูเกนโดรับพิธีกรรมของพุทธศาสนาวัชรยานไปประกอบด้วย นักบวชในศาสนาชูเกนโดซึ่งอาศัยอยู่ตามป่าเขาเรียกว่า ชูเกงจะ (ญี่ปุ่น: 修験者; โรมาจิ: Shugenja) หรือ ยามาบูชิ (ญี่ปุ่น: 山伏; โรมาจิ: Yamabushi) ศาสนาชูเกงโดมีต้นกำเนิดและมีศูนย์กลางอยู่ที่ภูเขาโยชินะ (Yoshino จังหวัดนาระในปัจจุบัน) ซึ่งต่อมาเผยแพร่ไปยังภูเขาแห่งอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น
ลัทธิอมเมียว
ลัทธิอมเมียว หรือ อมเมียวโด (ญี่ปุ่น: 陰陽道; โรมาจิ: Onmyōdō) แปลว่า "วิถีทางแห่งหยินและหยาง" หรือลัทธิหยินหยาง เป็นการนำปรัชญาของลัทธิเต๋ามาผสมรวมกับความเชื่อดั้งเดิมของญี่ปุ่นในศาสนาชินโต ลัทธิอมเมียวเกี่ยวข้องกับโชคลางและโหราศาสตร์การพยากรณ์อนาคต ในยุคเฮอังชนชั้นสูงและราชสำนักญี่ปุ่นมีความเชื่อเกี่ยวกับความโชคดีและความโชคร้าย มีการจ้างนักพรตในลัทธิอมเมียวเพื่อคอยดูแลโชคชะตาของขุนนางและปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายปราบภูตผีปีศาจต่างๆ นักพรตที่รับราชการในราชสำนักญี่ปุ่นเรียกว่าอมเมียวจิ (ญี่ปุ่น: 陰陽師; โรมาจิ: Onmyōji) ซึ่งมีหน้าที่คอยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปจากบ้านเมืองรวมทั้งแปลความหมายของลางบอกเหตุธรรมชาติพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญต่างๆ นักพรตอมเมียวจิที่มีชื่อเสียงในยุคเฮอังได้แก่ (ญี่ปุ่น: 安倍 晴明; โรมาจิ: Abe no Seimei)
สถาปัตยกรรม
รูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในยุคนี้คือ สถาปัตยกรรมแบบชินเด็ง (寝殿造 Shinden-zukuri) หลักๆจะประกอบด้วยเรือนหลัก ( Shinden ) และเรือนต่อขยายด้านตะวันตกและตะวันออก เชื่อมกับเรือนหลักด้วยทางเดินที่มีหลังคาคลุม เรือนหลักจะหันหน้าไปทางทิใต้ซึ่งเป็นทิศมงคลตามคติแบบจีน เรือนทางทิศเหนือนั้นจะจัดให้เป็นที่พำนักของภรรยาหลวงเสมอ ดังนั้นในสมัยนั้นเรียกภรรยาหลวงว่า คิตะโนะคะตะ (北の方 Kita-no-kata - ผู้ที่อยู่ทางทิศเหนือ ) ด้านหน้าเป็นสวนที่ประกอบด้วยสระน้ำ เกาะ เนินเขาจำลอง และสะพาน มีกำแพงดินล้อมรอบหมู่คฤหาสน์ทั้งหมด หลังคานิยมมุงด้วยเปลือกสนที่ซ้อนกันเป็นชั้นหนามากกว่ากระเบื้อง เพราะกระเบื้องแบบจีนนั้นไม่เหมาะกันอากาศของญี่ปุ่น พื้นจะเป็นพื้นไม้กระดาน ไม่มีเสื่อวาง เรือนด้านตะวันออกส่วนใหญ่จะมีทางเดินยาวเชื่อมสู่เรือนตกปลา (釣殿 Tsuri-dono) ที่สร้างเหนือลำธารหรือสระน้ำ
เรือนแบบชินเด็งแต่ละหลัง สามารถแบ่งห้องได้ตั้งแต่ 4 ห้องถึง 9 ห้อง โดยใช้ฉาก หรือ ราวผ้าม่านเป็นเครื่องกั้นหองตามขนาดความต้องการใช้งาน ห้องที่มีข้างฝาและประตูมิดชิดมี 1 ห้องเรียกว่า โมะยะ สถาปัตยกรรมแบบชินเด็งนี้จะเย็นสบายในฤดูร้อน แต่ในฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก
เหตุการณ์ที่สำคัญ
- ค.ศ. 794 - ย้ายเมืองหลวงไปที่เฮอังเกียว (เมืองเคียวโตะะในปัจจุบัน)
- ค.ศ. 804 - ส่ง (最澄 Saichou) และ คูไก (空海 Kukai) ไปยังประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถังตามคำแนะนำของราชทูตญี่ปุ่น
- ค.ศ. 805 - พระไซโช เดินทางกลับญี่ปุ่น และก่อตั้งศาสนาพุทธ นิกายเทนได
- ค.ศ. 806 - พระคูไก เดินทางกลับญี่ปุ่น และก่อตั้งศาสนาพุทธ นิกายชินงอน
- อำนาจของจักรพรรดิเริ่มสั่นคลอน จากการขึ้นมามีอำนาจของตระกูลฟูจิวาระ ที่ได้รับตำแหน่งสูงในราชสำนัก นอกจากนี้ยังได้อำนาจมาจากการไปแต่งงานกับเชื้อพระวงศ์ของจักรพรรดิด้วย
- ค.ศ. 884 - โมโททสึเนะ ฟุจิวะระ ได้รับแต่งตั้งเป็น คัมปากุ ตำแหน่งผู้สำเร็จราชการผู้อาวุโส ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของขุนนาง และทำให้ระยึดครองอำนาจในราชสำนัก
- ค.ศ. 894 - มิจิซาเนะ สุงาวาระ (ซึ่งเป็นตระกูลที่จักรพรรดิทรงให้การอุปถัมภ์เพื่อยับยั้งการมีอำนาจของตระกูลฟูจิวาระ) ได้สั่งระงับการส่งทูตไปเมืองถังของจีน (เนื่องจากการเมืองในจีนกำลังวุ่นวาย) ส่งผลให้การรับวัฒนธรรมจากแผ่นดินใหญ่ยุติลงด้วย แต่ส่งผลทำให้อารยธรรมญี่ปุ่นเริ่มที่จะมีลักษณะและรูปแบบพิเศษเฉพาะเป็นของตนเอง
- ค.ศ. 901 - สุงาวาระ ถูกเนรทศไปอยู่ที่ดาไซฟุ เกาะคีวชู เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการวางแผนล้มล้างการปกครอง
- มีการประดิษฐ์ โดยพระคูไก ประกอบด้วยพยางค์ทั้งหมด 47 ตัว โดยดัดแปลงมาจากตัวอักษรของจีน และนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง นับเป็นการเปิดทางให้แก่งานเขียนที่มีรูปแบบเป็นของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และมีการใช้กันอย่างแพร่หลายแทนถ้อยคำสำนวนที่ยืมมาจากภาษาจีน
- ค.ศ. 1010 - ชิกิบุ มุราซากิ เขียนนิยายเรื่อง เกนจิ โมโนงาตาริ
- ค.ศ. 1016 - มิจินางะ ฟุจิวะระ ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และตระกูลฟุจิวะระได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความรุ่งเรือง
- กลุ่มขุนนางที่ปกครองในส่วนภูมิภาคได้เริ่มตั้งตนเป็นหัวหน้าของพวกนักรบ หรือ พวกบูชิโด ที่เกิดจากการที่สมาชิกต่างๆของครอบครัวได้จัดตั้งองค์กรทางทหารของตนขึ้นมาทำการปกครองมณฑลต่างๆ
- ในตอนปลายของศตวรรษที่11 ได้เกิดการต่อสู้ระหว่างกองทหารของพวกนักรบในมณฑลทางเหนือหลายครั้ง และตระกูลมินาโมโตะได้มีชื่อเสียงและอิทธิพลที่สุดในแถบคันโต
- ค.ศ. 1051 - โยริโยชิ มินาโมโตะ ได้ปราบปรามกลุ่มกบฏของตระกูลอาเบะที่โอชู
- ค.ศ. 1053 - หอนกฟินิกซ์ในวัดเบียวโดอิน ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์
- ค.ศ. 1083 - โยชิอิเอะ มินาโมโตะ ได้ปราบปรามตระกูลคิโยฮาระที่โอชู
- ค.ศ. 1086 - จักรพรรดิชิรากาวะ เป็นจักรพรรดิองค์แรกที่สละบัลลังก์ออกบวช แต่ยังกุมอำนาจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง และต่อมาก็มีจักรพรรดิอีกหลายองค์ที่ทำเช่นเดียวกัน จักรพรรดิชิรากาวะได้แสวงหาวิธีการที่จะต่อต้านอิทธิพลของตระกูลมินาโมโตะ จึงได้แต่งตั้งคนในตระกูลไทระ เป็นที่ปรึกษาของพระองค์
- ค.ศ. 1156 - ศึกโฮเงน แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและความมีอำนาจของชนชั้นนักรบ
- ค.ศ. 1180 - เกิดสงครามเก็มเป เป็นการต่อสู้ระหว่างตระกูลไทระ กับตระกูลมินาโมโตะ ผลคือตระกูลมินาโมโตะ เป็นฝ่ายชนะ และทำให้ตระกูลมินาโมโตะ ขึ้นมามีอำนาจสูงสุดในราชสำนัก
- ค.ศ. 1185- ตระกูลไทระ ถูกทำลายล้างโดยตระกูลมินาโมโตะ ในศึกดันโนะอุระ
อ้างอิง
- Fukutō Sanae, Takeshi Watanabe. From Female Sovereign to Mother of the Nation, Heian Japan, centers and peripheries. 2007
- คุโระอิตะ คัตสึมิ, Kokoshi no Kenkyuu, หน้า 6
- [http://www.lizadalby.com/LD/TofM_archi.html" Heian 'a architecture "] 2015-05-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.. .
- " เหตุการณ์สำคัญสมัยเฮอัง " 2009-02-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. ..
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yukhehxng yipun 平安時代 ormaci Heian jidai thbsphth ehxngciid xyuinchwng kh s 794 1185 inplaystwrrsthi 8 mikaryayemuxnghlwngipthi ehxngekiyw 平安京 Heian kyou hruxemuxngekhiywotainpccubn nbepnyukhthxngkhxngpraethsyipun thithngsilpaaelawthnthrrmrungeruxngthungkhidsud mikarphthnaprbprungwthnthrrmtang thihyibyummacakpraethscininsmyrachwngsthng aelalththikhngcux cnklayepnwthnthrrmaebbechphaatwkhxngyipun ehxng 平安 Heian aeplwa khwamsngbsntiprawtiinchwngplay ekidorkhrabadphawakhawyakhmakaephng tamkhwamechuxkhxngchawyipuninsmykhlassikwakaryaythixyuephuxhlibhniwiyyanchwraycachwyihrxdphncakphyphibtitang inkh s 784 phrackrphrrdikhmmu 桓武 Kammu thrngyayrachsankcakehocwekiywipyngnangaoxaka ekhiyw 長岡京 Nagaoka kyō aetkekidehtukarnnxngeluxdinrachsankxikphrackrphrrdikhmmuthrngekrngklwwiyyanxakhatkhxngphraxnuchakhxngphraxngkh cungthrngyayrachsankmayngehxng ekiyw 平安京 Heian kyō thiemuxngekhiywotainpccubn inkh s 794 karyayemuxnghlwnginkhrngniepnephiyngkaryaysthanthiethann rabxbkarpkkhrxngthimitnaebbmacakrachwngsthngtngaetplayaelaxiththiphlkhxngtrakulfuciwarakyngtidtammaechnedim insmyehxngtrakulfuciwaramixanacinthanaepntrakulediywthiphrackrphrrdicaxphieskphrackrphrrdini aelaepnphusaercrachkaraethnsahrbphrackrphrrdithithrngphraeyaw eriykwa essoch 摂政 Sesshō hruxepnthipruksakhnsakhykhxngphrackrphrrdi eriykwa khmpaku 関白 Kampaku xanacinkarpkkhrxngtkxyuaekessochodyphrackrphrrdithithrngphraeyawnnepnephiynghunechid insmyehxngstrisuyesiybthbathaelaxanacinkarpkkhrxng enuxngcakxiththiphlaenwkhwamkhidtamaebbcakcinthiennkhwamsakhykhxngburus caehnidcakkarthiinsmyehxngaelainsmytxmaimmiphrackrphrrdinithiepnstripkkhrxngpraethsxikelyepnewlanan strithukaebngaeykcakburusaelathukkidkdekhasufayin aetkrannstriinrachsankehxngkidklbkhunmamixanacinthana okhithong 皇太后 kōtaigō hruxphraphnpi inkh s 833 phrackrphrrdicunna 淳和 Junna thrngslarachsmbtiihaekphraoxrsbuythrrmkhunkhrxngrachsmbtiepnphrackrphrrdininemiyw 仁明 Ninmyō odyaetngtngihphraoxrskhxngphrackrphrrdicunnakhuxxngkhchaysuenasada 恒貞 Tsunesada epnxngkhchayrchthayathrxkhxykarsubrachsmbti aetxuidcinfuciwara oyachifusa 藤原 良房 Fujiwara no Yoshifusa ekhathakaryudxanacpldxngkhchaysuenasadacaktaaehnngxngkhchayrchthayath aelatngxngkhchaymichiyasu 道康 Michiyasu sungepnphraoxrskhxngphrackrphrrdininemiywaelaphrackrphrrdinifuciwarathiepnnxngsawkhxngoyachifusa hruxkkhuxhlankhxngoyachifusannexng epnxngkhchayrchthayathaethn eriykwa ehtukarnpiocwa epnehtukarnthinafuciwaraoyachifusasuxanacaelaepncuderimtnkhxngkarekhakhrxbngarachsankkhxngtrakulfuciwara xngkhchaymichiyasukhunkhrxngrachyepnphrackrphrrdimngotku 文徳 Montoku aelainkh s 858 phrackrphrrdimngotkuswrrkhtinrachsmbti phraoxrsphrackrphrrdieswa 清和 Seiwa khunkhrxngrachsmbtidwyphrachnmayuephiyngekachnsa fuciwara oyachifusacungkhunepnessochkhnaerkinprawtisastryipun phrackrphrrdixuda 宇多 Uda thrngepnckrphrrdiphraxngkhediywthiphramardaimidmacaktrakulfuciwara phrackrphrrdixudathrngslarachsmbtiinkh s 897 mxbrachsmbtiaekphraoxrskhuxphrackrphrrdiidonga 醍醐 Daigo odyihfuciwara othakihira 藤原 時平 Fujiwara Tokihira aelasungawara michisaena 菅原 道真 Sugawara Michizane khxychwyehluxphrackrphrrdithithrngphraeyaw aetfuciwara othakihira emuxidepnessochaelwkidisraypaysisungawara michisaenakhuaekhngthangkaremuxngkhxngtn cnsungawarathukenrethsaelaesiychiwitinkh s 903 thnidnnthiemuxngehxngkekidphyphibtitang phraoxrskhxngphrackrphrrdiidongarwmthngothakihiratangesiychiwitcakortrabad cnphrackrphrrdiidongathrngtxngkhxkhmatxwiyyankhxngsungawara thalayexksarbnthukekiywkbkhwamphidkhxngsungawara aelaykyxngihsungawaraepnethphaehngnkprachytamsasnachinotkaraebngchwnginyukhehxngyukhehxngtxntn kh s 782 967 kh s 782 833 yayrachthanimasunkhrehxngekiyw sthapnahnwyrachkarihm echn sankphrarachelkhanukarswnphraxngkh aela sankrachxngkhrkshlwngswnphrackrphrrdi kxtngphuththsasna 天台宗 Tendai shuu aela 真言宗 Shingon shuu thithuxsnods aelaimepnxntraytxphrarachxanac kh s 833 877 phrarachxanackhxngphrackrphrrdiesuxmthxylng xanackarpkkhrxngtkxyuinemuxkhunnangtrakulfuciwara thimkcamitaaehnngepnphusaercrachkar aela mhaesnabdi kh s 887 967 chwngkaraeyngchingxanacrahwangphrackphrrdiaelatrakulfuciwarayukhehxngtxnplay kh s 967 1167 kh s 967 1068 xanackarpkkhrxngtkxyuinmuxtrakulfuciwaraxyangsmbrun kh s 1068 1156 xngkhphrackrphrrdiphuslarachychingxanackarpkkhrxngklbkhunma kh s 1156 1167 karlukhuxkhunaeyngchingxanackhxngchnchnkhunsuksilpwthnthrrmtwxksrkhatana wthnthrrmthiepnrupaebbkhxngyipunoddednmakinsmyehxng instwrrsthi 9 yipunyngkhngrbwthnthrrmkhxngrachwngsthngxyu phuththsasnanikaymiekhiyw 密教 Mikkyou kbkarekhiynruppraoykhaebbcinaephrhlaymak phxekhasustwrrsthi 10 hlngcakthiyipunimidtidtxodytrngkbphakhphunthwipaelw idekidwthnthrrmchnchnsungthimilksnaphiessechphaakhxngyipunexng wrrnkrrmthiedninewlani xathi okhakhinwakachu 古今和歌集 Kokinwakashuu epnhnngsuxrwmkwiniphnthyipunelmaerktamphrarachoxngkarkhxngckrphrrdi intnstwrrsthi 10 tananeknci 源氏物語 Genji Monogatari nwniyayeruxngyawthinbwaekaaekthisuderuxnghnungolk pramantnstwrrsthi 11 aela makhuraonaoschi 枕草子 Makura no sōshi hnngsuxkhanghmxn 1 2009 12 30 thi ewyaebkaemchchin praman kh s 1000 wrrnkrrmehlaniekhiyndwytwxksr khana xikdwy tngaetchwnghlngstwrrsthi 10 epntnma phuththsasnanikayocoda 浄土教 Joudo kyo sungmunghwngkhwamsukhinchatihnaepnthinbthuxxyangaephrhlayechnediywkbnikaymikhekhiyw thihwngphlpraoychnechphaainchatini aelaeracaehnthungkhwammiexklksnaebbyipunpraktxyuinwrrnkrrmkbngansilpa echn sthaptykrrm karekhiynphaph karaekaslk epntnsasnainyukhehxngphuththsasnanikaywchryancakcinrachwngsthngephyaephrekhamasupraethsyipun aetedimphuththsasnainyipunthukpkkhrxngodyphuththsasnahksankaehngemuxngnara Six schools of Nara sungennkarkhidwiekhraahaelasuksaphrathrrmmakkwakarptibti khnasngkhemuxngnaramixanacmakthnginthangsasnaaelathangolk thaihphrackrphrrdikhmmumiphraprasngkhcahlikeliyngxiththiphlkhxngkhnasngkhemuxngnara rachsankyipuninyukhehxngcungihkarsnbsnunaekphuththsasnanikaywchryanihmsungmacakpraethscinephuxkhanxanacknkbkhnasngkhemuxngnara prakxbdwynikaychingngn yipun 真言 ormaci Shingon aelanikayethngid yipun 天台 ormaci Tendai nikaywchryansungenneruxngphithikrrmkarbuchathaihekidkarphsmphsanrahwangphuththsasnaaelasasnachinothruxkhwamechuxdngedimkhxngchawyipun eriykwa chimbutsu chuong yipun 神仏習合 ormaci Shinbutsu shugō nikayethngidaelanikaychingngn hxkhmpngchuod Konpon chudō 根本中堂 khxngwdexngeriykubnekhahiex sungepnsunyklangkhxngphuththsasnayipunnikayethngid inkh s 804 phraphiksuyipunsxngrupidaek phraphiksuisoch yipun 最澄 ormaci Saichō aelaphraphiksukhuik yipun 空海 ormaci Kukai lngeruxipkbkhnathutedinthangipyngpraethscinyukhrachwngsthngephuxsuksaphuththsasna phiksuisochedinthangipsuksathiekhaethiynithinkhnathiphiksukhuikedinthangipsuksaphuththsasnawchryanthiemuxngchangxn bnekhaethiynithphraphiksuisochsuksaphuththsasnanikaymhayanethiynithsungihkhwamsakhyaekkarsuksasththrrmpunthriksutr Lotus Sutra epnsakhy inkhnathiphiksukhuiksuksahlkkarkhxngphuththsasnawchryantntra hruxphuththsasnakhuyhyan Esoteric Buddhism inaebbrachwngsthngeriykwathngmi cin 唐密 phinxin Tangmi hruxphasayipuneriykwa mikekiyw yipun 密教 ormaci Mikkyō sungennineruxngkarptibtiaelaphithikrrmephuxkarbrrluophthicit hlkkarptibtiaelaphithikrrmkhxngwchryannnepnkhwamlbimepidephyaekkhnthwip phrasngkhphusungidrbkar xphiesk ekhasuphuththsasnawchryanaelwethanncungsamarthekhathunghlkkhasxnkhxngwchryanid phiksukhuikelaeriynkbphiksuchawcinaelaidrbkarxphieskekhasuphithikrrmkhxngwchryan echnediywkbphraphiksuisochsungnxkcaksuksanikayethiynithaelwyngideriynruphuththsasnawchryancakpraethscinxikdwy phithiokhma Goma hruxphithibuchaif macakphithiohmkrrmkhxngxinediy epnphithithisakhykhxngnikaychingngn ephuxbuchawithyarachxcla Acala phumibthbathinkarthalaysingchwray phiksuisochsuksaphuththsasnathicinepnewlapramanhnungpicungedinthangklbyipuninkh s 805 aelakxtngnikayethngidkhun inkh s 806 phrackrphrrdikhmmuphrarachthanphuekhahiex yipun 比叡山 ormaci Hiei zan thangthistawnxxkechiyngehnuxkhxngnkhrhlwngehxngekiywihepnsunyklangkhxngphuththsasnanikayethngidnaipsukarkxtngwdexngeriyku yipun 延暦寺 ormaci Enryaku ji chawyipuninyukhehxngechuxwathisxisanepnthisxpmngkhlkartngwdihythangthisnncaepnkarpxngknsingchwrayaelapisactangimihekhamaklakraynkhrehxngekiywid nikayethngidkhxngyipunmikhwamaetktangcaknikayethiynithkhxngcin nikayethiynithkhxngcinenneruxngkarsuksasththrrmpunthriksutr aetnikayethngidmiphithikrrmekiywkbwchryanrwmdwy rachsankyipunintnyukhehxngihkarsnbsnunaeknikayethngid phiksuisochptirupphrathrrmwinykhxngkhnasngkhinyipunihm aetedimnnphrasngkhyipunrbsilpatiomkkhinkarxupsmbthtamrupaebbkhxngemuxngnara phraphiksuisochmikhwamehnwasilpatiomkkhnnepnkhxnghinyanaelaimichmhayanthiaethcring phrasngkhinsankkhxngisochnncungrbsilkhxngphraophthistw Bodhisattva precepts inkarxupsmbth sungkarrbsilkhxngphraophthistwaethnkarrbsilpatiomkkhnncaepnaebbxyangihaekphuththsasnayipunnikayxuninxnakht aelaepnehtuihphrasngkhyipunbangnikaysamarthmikhrxbkhrwid khrrphthatumnthla emuxprakxbkb wchrthatumnthla rwmknepnthwiphphmnthla Mandala of Two Realms epnmnthlathisakhythisudinnikaychingngn mnthlaepnekhruxngprakxbkarephingcitekhaipinrupkhxngphraophthistwephuxkarekhathungophthicit phraphiksukhuikedinthangklbcakpraethscininkh s 806 kxtngnikaychingngnepnnikaywchryankhxngyipun nikaychingngntxngephchiykbkaraekhngkhnkbnikayethngidsungidrbkarsnbsnuncakrachsankyipun phraphiksuisochtxngkareriynruhlkkhxngphuththsasnawchryancungaeswnghakhwamrucakphraphiksukhuik phraphiksukhuikthaphithixphieskihaekphraphiksuisochaetkrathaphithiimkhrbthwnaelaphiksukhuikpidbngkhwamrubangswncakphraphiksuisoch thaihekidkhwamkhdaeyngrahwangphiksuisochaelaphiksukhuik emuxphrackrphrrdisangaprachwrphraphiksukhuikmioxkasidthaphithithangwchryanephuxrksaxakarprachwrkhxngphrackrphrrdisanga thaihphrackrphrrdisangathrngoprdphraphiksukhuikxyangmakaelaphrarachthanphuekhaokhya yipun 高野山 ormaci Kōyasan bnethuxkekhakhixiihepnsunyklangkhxngnikaychingngninkh s 816 nikaychingngnmihlkkhasxnmacakphrasutrinnikaytntratangcakxinediy enneruxngkarswd mntra aelakarephingcitipthi mnthla ephuxkarbrrluophthicitaelabuchaphraophthistwaelaethphtangodyechphaaphraiworcnphuththa mikarichxksrsiththminkarcarmnthla nikaychingngnbuchaphraphuththecaaelaphraophthistwtang rwmthngbuchawithyarachthawctuolkbalaelaethphecainsasnaphrahmnechnphraxinthrhruxithchakuethng yipun 帝釈天 ormaci Taishaku ten xyangirktaminchwngplayyukhehxngwtrptibtikhxngphrasngkhinyipunesuxmlng naipsukhwamkhdaeyngthangkaremuxngrahwangphuththsasnanikaytanginyipun phuththsasnanikaytangthnginemuxngehxngekiywaelaemuxngnaratangsasmkxngkalngiwephuxsrangthanxanacaelaephuxpxngkntnexngcakkarkhukkhamcaksankxun naipsukarkaenidkhxngphrasngkhnkrbhruxoseh yipun 僧兵 ormaci Sōhei odyechphaakxngkalngosehkhxngwdexngeriykubnekhahiexaelawdmixi yipun 三井寺 ormaci Mii dera idchuxwaepnkxngkalngthiekhmaekhng ithra ona khioyomri ekhatxsukbkxngthphosehkhxngekhahiexaettxmaidrbkhwamchwyehluxcakkxngkalngkxngekhahiexinsngkhramekmep khwamesuxmkhxngphuththsasnainplayyukhehxngnaipsukaraeyktwaelakarkaenidphuththsasnanikayihmidaeknikayocod hruxnikayaednbrisuththisukhawdi aelanikayesn sasnachueknod sasnachueknod yipun 修験道 ormaci Shugendō ekidkhuncakkarphsmphsanrahwangkarptibtifuktnkhxngphuththsasna phithikrrmkhxngwchryan aelakhwamechuxkhxngsasnachinot sasnachueknodekidkhuncak yipun 役行者 ormaci En no Gyōja nkbwchinyukhnaraphurierimkarthudngkhepnvisibaephyephiyrtampaekhaephuxfukcitaeswnghathanghludphnphrxmthngbuchaethphecainsasnachinotipdwykn txmainyukhehxnglththichueknodrbphithikrrmkhxngphuththsasnawchryanipprakxbdwy nkbwchinsasnachueknodsungxasyxyutampaekhaeriykwa chuekngca yipun 修験者 ormaci Shugenja hrux yamabuchi yipun 山伏 ormaci Yamabushi sasnachuekngodmitnkaenidaelamisunyklangxyuthiphuekhaoychina Yoshino cnghwdnarainpccubn sungtxmaephyaephripyngphuekhaaehngxuninpraethsyipun lththixmemiyw Abe no Seimei nkphrtinlththixmemiywphumichuxesiynginyukhehxng lththixmemiyw hrux xmemiywod yipun 陰陽道 ormaci Onmyōdō aeplwa withithangaehnghyinaelahyang hruxlththihyinhyang epnkarnaprchyakhxnglththietamaphsmrwmkbkhwamechuxdngedimkhxngyipuninsasnachinot lththixmemiywekiywkhxngkbochkhlangaelaohrasastrkarphyakrnxnakht inyukhehxngchnchnsungaelarachsankyipunmikhwamechuxekiywkbkhwamochkhdiaelakhwamochkhray mikarcangnkphrtinlththixmemiywephuxkhxyduaelochkhchatakhxngkhunnangaelapdepasingchwrayprabphutphipisactang nkphrtthirbrachkarinrachsankyipuneriykwaxmemiywci yipun 陰陽師 ormaci Onmyōji sungmihnathikhxypdepasingchwrayihxxkipcakbanemuxngrwmthngaeplkhwamhmaykhxnglangbxkehtuthrrmchatiphyakrnehtukarnsakhytang nkphrtxmemiywcithimichuxesiynginyukhehxngidaek yipun 安倍 晴明 ormaci Abe no Seimei sthaptykrrmrupaebbsthaptykrrmthioddedninyukhnikhux sthaptykrrmaebbchinedng 寝殿造 Shinden zukuri hlkcaprakxbdwyeruxnhlk Shinden aelaeruxntxkhyaydantawntkaelatawnxxk echuxmkberuxnhlkdwythangedinthimihlngkhakhlum eruxnhlkcahnhnaipthangthiitsungepnthismngkhltamkhtiaebbcin eruxnthangthisehnuxnncacdihepnthiphankkhxngphrryahlwngesmx dngnninsmynneriykphrryahlwngwa khitaonakhata 北の方 Kita no kata phuthixyuthangthisehnux danhnaepnswnthiprakxbdwysrana ekaa eninekhacalxng aelasaphan mikaaephngdinlxmrxbhmukhvhasnthnghmd hlngkhaniymmungdwyepluxksnthisxnknepnchnhnamakkwakraebuxng ephraakraebuxngaebbcinnnimehmaaknxakaskhxngyipun phuncaepnphunimkradan immiesuxwang eruxndantawnxxkswnihycamithangedinyawechuxmsueruxntkpla 釣殿 Tsuri dono thisrangehnuxlatharhruxsrana eruxnaebbchinedngaetlahlng samarthaebnghxngidtngaet 4 hxngthung 9 hxng odyichchak hrux rawphamanepnekhruxngknhxngtamkhnadkhwamtxngkarichngan hxngthimikhangfaaelapratumidchidmi 1 hxngeriykwa omaya sthaptykrrmaebbchinedngnicaeynsbayinvdurxn aetinvduhnawcahnaweynmakehtukarnthisakhykh s 794 yayemuxnghlwngipthiehxngekiyw emuxngekhiywotaainpccubn kh s 804 sng 最澄 Saichou aela khuik 空海 Kukai ipyngpraethscininsmyrachwngsthngtamkhaaenanakhxngrachthutyipun kh s 805 phraisoch edinthangklbyipun aelakxtngsasnaphuthth nikayethnid kh s 806 phrakhuik edinthangklbyipun aelakxtngsasnaphuthth nikaychinngxn xanackhxngckrphrrdierimsnkhlxn cakkarkhunmamixanackhxngtrakulfuciwara thiidrbtaaehnngsunginrachsank nxkcakniyngidxanacmacakkaripaetngngankbechuxphrawngskhxngckrphrrdidwy kh s 884 omoththsuena fuciwara idrbaetngtngepn khmpaku taaehnngphusaercrachkarphuxawuos sungepntaaehnngsungsudkhxngkhunnang aelathaihrayudkhrxngxanacinrachsank kh s 894 micisaena sungawara sungepntrakulthickrphrrdithrngihkarxupthmphephuxybyngkarmixanackhxngtrakulfuciwara idsngrangbkarsngthutipemuxngthngkhxngcin enuxngcakkaremuxngincinkalngwunway sngphlihkarrbwthnthrrmcakaephndinihyyutilngdwy aetsngphlthaihxarythrrmyipunerimthicamilksnaaelarupaebbphiessechphaaepnkhxngtnexng kh s 901 sungawara thukenrthsipxyuthidaisfu ekaakhiwchu enuxngcakthukklawhawamiswnrwminkarwangaephnlmlangkarpkkhrxng mikarpradisth odyphrakhuik prakxbdwyphyangkhthnghmd 47 tw odyddaeplngmacaktwxksrkhxngcin aelanamaichknxyangkwangkhwang nbepnkarepidthangihaeknganekhiynthimirupaebbepnkhxngyipunxyangaethcring aelamikarichknxyangaephrhlayaethnthxykhasanwnthiyummacakphasacin kh s 1010 chikibu murasaki ekhiynniyayeruxng eknci omonngatari kh s 1016 micinanga fuciwara idepnphusaercrachkaraephndin aelatrakulfuciwaraidkawekhasuyukhaehngkhwamrungeruxng klumkhunnangthipkkhrxnginswnphumiphakhiderimtngtnepnhwhnakhxngphwknkrb hrux phwkbuchiod thiekidcakkarthismachiktangkhxngkhrxbkhrwidcdtngxngkhkrthangthharkhxngtnkhunmathakarpkkhrxngmnthltang intxnplaykhxngstwrrsthi11 idekidkartxsurahwangkxngthharkhxngphwknkrbinmnthlthangehnuxhlaykhrng aelatrakulminaomotaidmichuxesiyngaelaxiththiphlthisudinaethbkhnot kh s 1051 oyrioychi minaomota idprabpramklumkbtkhxngtrakulxaebathioxchu kh s 1053 hxnkfiniksinwdebiywodxin idsrangesrcsmburn kh s 1083 oychixiexa minaomota idprabpramtrakulkhioyharathioxchu kh s 1086 ckrphrrdichirakawa epnckrphrrdixngkhaerkthislabllngkxxkbwch aetyngkumxanacthangkaremuxngxyuebuxnghlng aelatxmakmickrphrrdixikhlayxngkhthithaechnediywkn ckrphrrdichirakawaidaeswnghawithikarthicatxtanxiththiphlkhxngtrakulminaomota cungidaetngtngkhnintrakulithra epnthipruksakhxngphraxngkh kh s 1156 sukohengn aesdngihehnthungkhwamrungeruxngaelakhwammixanackhxngchnchnnkrb kh s 1180 ekidsngkhramekmep epnkartxsurahwangtrakulithra kbtrakulminaomota phlkhuxtrakulminaomota epnfaychna aelathaihtrakulminaomota khunmamixanacsungsudinrachsank kh s 1185 trakulithra thukthalaylangodytrakulminaomota insukdnonaxuraxangxingFukutō Sanae Takeshi Watanabe From Female Sovereign to Mother of the Nation Heian Japan centers and peripheries 2007 khuoraxita khtsumi Kokoshi no Kenkyuu hna 6 http www lizadalby com LD TofM archi html Heian a architecture 2015 05 09 thi ewyaebkaemchchin ehtukarnsakhysmyehxng 2009 02 23 thi ewyaebkaemchchin