ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
มาการง (ฝรั่งเศส: macaron, ออกเสียง: [makaˈʁɔ̃]) เป็นขนมหวานที่ได้จากการผสมเมอแร็งก์กับไข่ขาว, น้ำตาลไอซิ่ง, , หรือ และสีผสมอาหาร มาการงรูปร่างเหมือนแซนด์วิช เป็นขนมปังสองชิ้นประกบกัน มีสอดไส้ตรงกลาง ส่วนไส้มักจะเป็น, (ครีมเนยที่ใช้แต่งหน้าเค้ก) หรือแยม คำว่า มาการง แผลงมาจากคำในภาษาอิตาลีว่า macarone, maccarone หรือ maccherone, เมอแร็งก์แบบอิตาลี
มาการงจากร้าน ปารีส ฝรั่งเศส | |
ประเภท | |
---|---|
แหล่งกำเนิด | ฝรั่งเศส |
ส่วนผสมหลัก | ส่วนขนมปัง : ไข่ขาว, น้ำตาลไอซิ่ง, น้ำตาลทราย, หรือ, สีผสมอาหาร ส่วนไส้ : , หรือแยม |
|
มาการง มีลักษณะคล้ายคุกกี้ ลักษณะเด่นของมาการงคือ ผิวด้านบนของขนมจะเรียบ ขอบรอบ ๆ เป็นรอยหยัก (มักจะเรียกว่า "ขา" หรือ "เท้า") และมีฐานเรียบแบน ขนมจะนุ่มชุ่มเล็กน้อยและละลายง่ายในปาก มาการงมีหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่รสดั้งเดิม (ราสป์เบอร์รี, ช็อกโกแลต) ไปจนถึงรสใหม่ ๆ (ฟัวกรา, ชาเขียว)
คนส่วนใหญ่มักจะสับสนระหว่างมาการงกับ (macaroon) จึงมีการใช้ชื่อภาษาฝรั่งเศสมาแทนภาษาอังกฤษเพื่อให้ดูต่างกัน แต่ก็ยิ่งทำให้สะกดชื่อกันผิดมากขึ้น บางตำราอาหารแยกชื่อ แมคารูน ไว้ใช้กับมาการงที่ไม่ใช่แบบของฝรั่งเศสดั้งเดิม แต่หลาย ๆ คนมีความเห็นว่า ขนมทั้งสองอย่างนี้มีความหมายเหมือนกัน ซึ่งความจริงแล้ว คำว่า แมคารูน เป็นคำภาษาอังกฤษที่แปลมาจากคำว่า มาการง ในภาษาฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นชื่อทั้งสองชื่อนี้มีความหมายเรียกขนมแบบเดียวกัน ทั้งนี้การใช้แต่ละชื่อก็อาจขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละบุคคล เคยมีศาสตราจารย์ภาควิชาวัฒนธรรมอาหารที่สแตนฟอร์ด, แดน จูราฟสกี้ ชี้แจงว่า 'มาการง' (รวมถึง "มาการงปารีส", หรือ "มาการงแฌร์แบ") คือชื่อเรียกที่ถูกต้อง
ประวัติ
ถึงส่วนใหญ่จะพูดกันว่า มาการงเป็นขนมสัญชาติฝรั่งเศส ก็ยังมีข้อถกเถียงกันมากมาย สารานุกรมอาหารการกินชื่อ (Larousse Gastronomique) ระบุว่า มาการงนั้นมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1791 ในคอนแวนต์แห่งหนึ่งใกล้กับเมือง จังหวัดแอ็งเดรลัวร์ บ้างก็สืบค้นประวัติศาสตร์ชาติฝรั่งเศสย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1533 สมัยที่กาเตรีนา เด เมดีชี อภิเษกสมรสกับพระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส นางได้นำเชฟทำขนมชาวอิตาลีกลับมาด้วย ในปี ค.ศ. 1792 ช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส มีแม่ชีนิกายคาทอลิกสองท่านซึ่งหลบภัยไปอยู่ที่เมืองน็องซี ได้อบขนมคุกกี้มาการงขายเพื่อจะนำเงินมาจ่ายค่าบ้าน ทำให้มาการงเป็นที่รู้จักโดยทั่ว มีคนตั้งชื่อให้ท่านทั้งสองว่า "ซิสเตอร์มาการง" ซึ่งในช่วงแรกนั้น มาการงจะเป็นขนมเปล่า ๆ ไม่มีรสหรือไส้อะไรที่พิเศษ
จนกระทั่งในคริสต์ทศวรรษ 1830 เริ่มมีการเสิร์ฟมาการงเป็นคู่ ๆ พร้อมกับแยม เหล้า และเครื่องเทศต่าง ๆ แต่มาการงในทุกวันนี้ประกอบไปด้วยเมอแร็งก์แอลมอนด์สองชิ้นประกบกันสอดไส้ตรงกลาง ไส้ที่ว่านี้อาจจะเป็นครีมเนยที่ใช้แต่งหน้าเค้ก (บัตเตอร์ครีม) แยม หรือ ซึ่งแต่เดิมเรียกว่า "แฌร์แบ" หรือ "มาการงปารีส" มีการกล่าวอ้างว่า เมื่อต้นยุคศตวรรษที่ 20 เชฟปีแยร์ เดฟงแตนแห่งร้านขนมฝรั่งเศส (Ladurée) เป็นผู้คิดค้นสูตรนี้ขึ้นมา แต่นักทำขนมอีกคนหนึ่งคือ โกลด แฌร์แบ ก็อ้างว่าสูตรนี้เป็นผลงานของเขาเช่นกัน
รสชาติต่าง ๆ
- มาการงรสแอลมอนด์
- มาการงรสบลูเบอร์รี
- มาการงรสคาราเมล
- มาการงรสช็อกโกแลต
- มาการงรสมะพร้าว
- มาการงรสน้ำผึ้ง
- มาการงรสเลมอน
- มาการงรสส้ม
- มาการงรสพริกไทยอ่อน
- มาการงรสพิสตาชีโอ
- มาการงรสกุหลาบ
- มาการงรสวานิลลา
ความหลากหลายของมาการง
ฝรั่งเศส
ในหลาย ๆ เมืองของฝรั่งเศสต่างมีประวัติที่หลากหลายและมีความเป็นมายาวนานมาก อย่างเช่นที่แคว้นลอแรนมีความโดดเด่นมาก (น็องซีและ), (), แซ็งเตมีลียง, อาเมียง, , , (Sault), ชาทร์, , และในเบอร์กันดี
มาการงดาเมียง (Macarons d'Amiens) ในอาเมียงมีขนาดเล็ก รูปร่างกลมแบบมาการงทั่ว ๆ ไป ทำมาจาก (เมล็ดแอลมอนด์บดผสมรวมกับน้ำตาล และไข่), ผลไม้และน้ำผึ้ง ซึ่งค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1855
ส่วนในเมือง มาการงเลื่องชื่อมากขนาดมีการสร้างพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะ ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1920 ที่เมืองนี้มีร้านเบเกอรีมาการงที่เก่าแก่ที่สุดตั้งอยู่ ชื่อว่า แมซงรานู-เมตีวีเย (Maison Rannou-Métivier) มาการงของมงมอรียงนี้เป็นสูตรดั้งเดิมที่สืบทอดกันมากว่า 150 ปีแล้ว
ในเมืองน็องซีที่แคว้นลอแรน มาการงเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองนี้เลยทีเดียว เป็นที่เล่าขานกันมาว่า หัวหน้าแม่ชีท่านหนึ่งจากเมือง (Remiremont) ตั้งกฎขึ้นมาปกครองแม่ชีทั้งหมด กฎนี้ชื่อว่า "ดามดูว์แซ็ง-ซาเครอม็อง" (Dames du Saint-Sacrement) เป็นกฎห้ามแม่ชีไม่ให้รับประทานเนื้อทุกชนิด และต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีแม่ชีสองท่าน (ซิสเตอร์มาร์เกอริตและมารี-เอลีซาแบ็ต) ที่เชื่อกันว่าคือผู้ที่คิดค้นวิธีการทำมาการงขึ้นมา เพื่อจะได้รับประทานอาหารที่เหมาะสมและเป็นไปตามกฎนั้น ต่อมาท่านทั้งสองเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ซิสเตอร์มาการง" (เลเซอร์มาการง) ในปี ค.ศ. 1952 เมืองน็องซีนำชื่อของท่านมาใช้ตั้งชื่อถนนบางส่วนของรูว์เดอลาอาช (Rue de la Hache) (สถานที่ที่พวกท่านคิดค้นมาการงขึ้นมา) เพื่อเป็นการให้เกียรติ
สวิตเซอร์แลนด์
ในสวิตเซอร์แลนด์ มียี่ห้อลุกเซิมบัวร์เกอร์ลี (Luxemburgerli) เป็นขนมที่ผสมผสานงานของร้าน (Confiserie Sprüngli) ที่ตั้งอยู่ในเมืองซูริก มาการงของยี่ห้อลุกเซิมบัวร์เกอร์ลีนี้ ประกอบไปด้วยเมอแร็งก์แอลมอนด์สองแผ่น สอดไส้บัตเตอร์ครีม ขนาดชิ้นมาการงจะเล็กกว่า เบากว่ามาการงของเจ้าอื่น ๆ ว่ากันว่า ส่วนผสมเบามาก สัมผัสเหมือนอากาศ รสชาติที่มีจำหน่าย ได้แก่ วานิลลา, ช็อกโกแลต, (ช็อกโกแลตชิป), คาราเมล, ถั่วเฮเซล, , เหล้า, เกาลัด, , อบเชย, เลมอน, ส้มจีน และราสป์เบอร์รี รสชาติบางแบบก็มีเฉพาะบางเทศกาลเท่านั้น มาการงวางขายในตู้โชว์แช่เย็นซึ่งจะอยู่ได้นานราว 3-5 วัน
ลุกเซิมบัวร์เกอร์ลีได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นโดยกามีย์ ชตูเดอร์ นักศิลปะขนมหวานซึ่งนำสูตรมาที่ซูริกหลังจากที่ได้คิดค้นขนมชนิดนี้ในร้านขนมหวานแห่งหนึ่งในลักเซมเบิร์ก (กงฟีซรีนามูร์) เมื่อปี ค.ศ. 1957 ที่นั่นเธอปรับปรุงสูตรเพื่อเข้าแข่งขันการทำศิลปะขนมหวาน คำว่า ลุกเซิมบัวร์เกอร์ลี (Luxemburgerli) คือชื่อเล่นที่เพื่อน ๆ ตั้งให้เขา เพราะครอบครัวเธอแต่เดิมมาจากลักเซมเบิร์ก แต่แรกเลยใช้ชื่อว่า แบเซเดอมุส" (Baiser de Mousse) (ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า โฟม คิส (foam kiss)) ต่อมาเปลี่ยนเป็น "เกอเบ็คเด็สลุกเซิมบัวร์เกิร์ส" (Gebäck des Luxemburgers) ("ขนมหวานของชาวลักเซมเบิร์ก") ให้ดูเข้ากับขนมมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดเปลี่ยนมาเป็นชื่อในคือ "ลุกเซิมบัวร์เกอร์ลี" (Luxemburgerli) แปลว่า "ชาวลักเซมเบิร์กตัวน้อย"
เกาหลีใต้
มาการงเป็นที่นิยมมากในเกาหลีใต้ ที่นี่เรียกว่า "มาคารง" (ออกเสียงแบบภาษาเกาหลี) มีการนำผงชาเขียวหรือใบชาเขียวมาทำมาการงรสชาเขียว
ญี่ปุ่น
มาการงในญี่ปุ่นก็เป็นที่นิยมมาก ที่นี่เรียกกันว่า "มะกะรง" มีการใช้แป้งถั่วลิสงแทนแอลมอนด์และแต่งรสชาติแบบ (ขนมหวานดั้งเดิมของญี่ปุ่น) มีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ
ความนิยม
ในปารีส ร้านขนมหวานชื่อ (Ladurée) โด่งดังมากเรื่องมาการงมาเป็นเวลายาวนานถึง 150 ปี[update] ที่ฝรั่งเศส แมคโดนัลด์วางขายมาการงในด้วย (จะเห็นในโฆษณาบางตัวที่มีการเชื่อมโยงระหว่างรูปร่างของเบอร์เกอร์กับมาการง) มาการงของแมคคาเฟ่ผลิตโดย (Château Blanc) ซึ่งคล้ายกับลาดูว์เร เพราะเป็นบริษัทภายใต้ กรุ๊ป โฮลเดอร์ (Groupe Holder) เหมือนกัน แต่สูตรของมาการงของทั้งสองร้านไม่เหมือนกัน
นอกจากที่ยุโรปแล้ว มาการงแบบฝรั่งเศสนี้สามารถหาได้ในแคนาดา และสหรัฐอเมริกา
ในออสเตรเลีย มีรายงานในรายการมาสเตอร์เชฟ ว่า มาการงเป็นขนมที่ถูกใจใครหลาย ๆ คน ถึงขนาดที่มีการวางจำหน่ายในแมคคาเฟ่ของแมคโดนัลด์
มาการงเป็นที่นิยมมากทั่วโลก มีการประกาศให้วันที่ 20 มีนาคมเป็น "วันมาการง" เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ที่ปารีสโดยร้านของ (Pierre Hermé) แต่นั้นมาก็เป็นที่รู้กันไปทั่วโลก ในวันมาการงนี้ ร้านมาการงหลาย ๆ ที่ทั่วโลกจะแจกมาการงลูกค้าฟรีคนละชิ้น ส่วนที่ลูกค้าซื้อเพิ่มจะนำไปบริจาคการกุศลทั้งหมด
ดูเพิ่ม
- (alfajor) ขนมหวานสเปนที่มีลักษณะคล้ายกัน
- (whoopie pie) เค้กแซนด์วิชชิ้นเล็ก ๆ แบบอเมริกัน
บรรณานุกรม
- Meyers, Cindy: The Macaron and Madame Blanchez. In: Gastronomica. The Journal of Food and Culture, Vol. 9, No. 2 (Spring 2009), pp. 14–18, University of California Press, online.
- Jurafsky, Dan (16 November 2011). "Macarons, Macaroons, Macaroni. The curious history". Slate.
(About the history of the macaron.)
{{}}
: Cite magazine ต้องการ|magazine=
((help))
อ้างอิง
- Henry, Liz (2 May 2010). . Sun Journal. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-10. สืบค้นเมื่อ 10 May 2012.
- Comparison of good and bad recipes on making macarons 2012-04-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Wikimama.com
- . Dessert Eater. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-11. สืบค้นเมื่อ 2014-07-21.
- "Macaron vs Macaroon". Foodpr0n.com. 26 February 2010. สืบค้นเมื่อ 8 July 2012.
- "Macarons & Macaroons: What's the Difference?". ChefSteps. 2015. สืบค้นเมื่อ 1 November 2019.
- "Macarons, Macaroons, Macaroni. The curious history". Slate Magazine.
- History of Macarons 2009-02-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Madmacnyc.com
- Introduction to French Macarons
- The story of the Macaron 2010-07-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Laduree.fr
- Macarons, the Daddy Mac of Cookies, Fox News
- Jurafsky, Dan. "Macarons, Macaroons, Macaroni: the curious history". Slate.com. สืบค้นเมื่อ 9 March 2013.
- Naherny, Michelle. "Photos courtesy of". Honey B's Macarons. สืบค้นเมื่อ 8 July 2014.
- Nick Rider (1 May 2005). . New Holland Publishers. p. 135. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-24. สืบค้นเมื่อ 2014-07-21.
- Press book 2006-06-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Musée de l'Amande et du Macaron, see article La Maison Rannou-Métiviere, July/August 2003.
- Notre Histoire Maison des soeurs 2014-10-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Achat-nancy.com
- Hubbeling, Christina. "Wer macht die besten Macarons? (Who makes the best macarons?)". Neue Zürcher Zeitung. Neue Zürcher Zeitung AG. สืบค้นเมื่อ 3 March 2014.
- . Confiserie Sprüngli. Confiserie Sprüngli AG. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-22. สืบค้นเมื่อ 3 March 2014.
- Böhler, Guido. "Macarons: wer macht die besten und schönsten? (Macarons: who makes the best and most attractive ones?)". delikatessenschweiz.ch. foodaktuell.ch. สืบค้นเมื่อ 3 March 2014.
- Malgieri, Nick. "Baking : How to Make a Macaroon". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 3 March 2014.
- Gasser, Benno. "Auf der Suche nach dem besten Zürcher Macaron (The search for the best Zurich macaron)". Tages-Anzeiger. Tamedia AG. สืบค้นเมื่อ 3 March 2014.
- Kummer, Corby. "Smackaroon! The Switzerland vs. France Cookie Smackdown". The Atlantic. The Atlantic Monthly Group. สืบค้นเมื่อ 3 March 2014.
- Luxemburgerli – die luftig leichte Versuchung 2015-07-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Spruengli.ch
- Cha, Daniella: "Macarons: The New Trend for Desserts." Phoenix Plume. The official newspaper for Korea International School, 27 April 2011. Retrieved 8 December 2012.
- "마카롱,마카롱만드는법" (ภาษาเกาหลี). Naver. 7 August 2011. สืบค้นเมื่อ 8 May 2012.
- Dr. Grace (17 March 2012). . Graceful Cuisine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-08-02. สืบค้นเมื่อ 8 May 2012.
- (ภาษาญี่ปุ่น). Fukui News. 9 July 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-17. สืบค้นเมื่อ 8 May 2012.
- Jargon, Julie (March 2, 2010). "Mon Dieu! Will Newfound Popularity Spoil the Dainty Macaron?". The Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ December 29, 2010.
- Reed, M. H. (January 29, 2009). "Macaroon Delight". The New York Times. สืบค้นเมื่อ December 29, 2010.
- Chesterman, Lesley (October 11, 2008). . The Gazette (Montreal). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-09. สืบค้นเมื่อ December 29, 2010.
- Denn, Rebekah (October 25, 2009). "French macarons are sweet, light and luscious". The Seattle Times.
- Greenspan, Dorie (April 1, 2010). "Macarons: New to The Easter Parade This Year". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ December 29, 2010.
- "Move Over, Cupcake: Make Way For The Macaroon". NPR. February 12, 2010. สืบค้นเมื่อ December 29, 2010.
- . Il est difficile de résister à atteindre pour un autre!. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-08-01. สืบค้นเมื่อ 2021-08-21.
- Chavassieu, Olivia. "Heaven on Earth". Sydney Morning Herald. สืบค้นเมื่อ 7 March 2012.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-19. สืบค้นเมื่อ 2014-07-21.
เอกสารเพิ่มเติม
- B. Clermont (1776), "Des Macarons; commonly called Macaroni-drops", The professed cook, or, The modern art of cookery, pastry, and confectionary, made plain and easy, London: W. Davis, OCLC 6194222
- Louise-Béate-Augustine Friedel (1811), Le confiseur impérial, ou, L'art du confiseur dévoilé aux gourmands, A Paris: Chez Henri Tardieu ..., OCLC 61172534
- Frances Crawford (1853). "Macarons". French confectionary adapted for English families.
- Emile Herisse (1893), "Macaroons", The art of pastry making, London: Ward, Lock, Bowden
- ChefSteps (2013). "Macarons". ChefSteps Class on French Macarons.
แหล่งข้อมูลอื่น
- How To Make French Makaron 2014-09-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud makarng frngess macaron xxkesiyng makaˈʁɔ epnkhnmhwanthiidcakkarphsmemxaerngkkbikhkhaw natalixsing hrux aelasiphsmxahar makarngruprangehmuxnaesndwich epnkhnmpngsxngchinprakbkn misxdistrngklang swnismkcaepn khrimenythiichaetnghnaekhk hruxaeym khawa makarng aephlngmacakkhainphasaxitaliwa macarone maccarone hrux maccherone emxaerngkaebbxitalimakarngmakarngcakran paris frngesspraephthaehlngkaenidfrngessswnphsmhlkswnkhnmpng ikhkhaw natalixsing natalthray hrux siphsmxahar swnis hruxaeymtaraxahar makarng sux makarng makarng milksnakhlaykhukki lksnaednkhxngmakarngkhux phiwdanbnkhxngkhnmcaeriyb khxbrxb epnrxyhyk mkcaeriykwa kha hrux etha aelamithaneriybaebn khnmcanumchumelknxyaelalalayngayinpak makarngmihlakhlayrschati tngaetrsdngedim raspebxrri chxkokaelt ipcnthungrsihm fwkra chaekhiyw khnswnihymkcasbsnrahwangmakarngkb macaroon cungmikarichchuxphasafrngessmaaethnphasaxngkvsephuxihdutangkn aetkyingthaihsakdchuxknphidmakkhun bangtaraxaharaeykchux aemkharun iwichkbmakarngthiimichaebbkhxngfrngessdngedim aethlay khnmikhwamehnwa khnmthngsxngxyangnimikhwamhmayehmuxnkn sungkhwamcringaelw khawa aemkharun epnkhaphasaxngkvsthiaeplmacakkhawa makarng inphasafrngess ephraachannchuxthngsxngchuxnimikhwamhmayeriykkhnmaebbediywkn thngnikarichaetlachuxkxackhunxyukbkartikhwamkhxngaetlabukhkhl ekhymisastracaryphakhwichawthnthrrmxaharthisaetnfxrd aedn curafski chiaecngwa makarng rwmthung makarngparis hrux makarngaechraeb khuxchuxeriykthithuktxngprawtimakarngcakemuxngnxngsi caksaranukrm Dictionnaire encyclopedique de l epicerie et des industries annexes ody prbprungihmody L Epicier inpi kh s 1904 hna 431 thungswnihycaphudknwa makarngepnkhnmsychatifrngess kyngmikhxthkethiyngknmakmay saranukrmxaharkarkinchux Larousse Gastronomique rabuwa makarngnnmimatngaetpi kh s 1791 inkhxnaewntaehnghnungiklkbemuxng cnghwdaexngedrlwr bangksubkhnprawtisastrchatifrngessyxnklbipemuxpi kh s 1533 smythikaetrina ed emdichi xphiesksmrskbphraecaxxngrithi 2 aehngfrngess nangidnaechfthakhnmchawxitaliklbmadwy inpi kh s 1792 chwngkarptiwtifrngess miaemchinikaykhathxliksxngthansunghlbphyipxyuthiemuxngnxngsi idxbkhnmkhukkimakarngkhayephuxcanaenginmacaykhaban thaihmakarngepnthiruckodythw mikhntngchuxihthanthngsxngwa sisetxrmakarng sunginchwngaerknn makarngcaepnkhnmepla immirshruxisxairthiphiess cnkrathnginkhristthswrrs 1830 erimmikaresirfmakarngepnkhu phrxmkbaeym ehla aelaekhruxngethstang aetmakarnginthukwnniprakxbipdwyemxaerngkaexlmxndsxngchinprakbknsxdistrngklang isthiwanixaccaepnkhrimenythiichaetnghnaekhk btetxrkhrim aeym hrux sungaetedimeriykwa aechraeb hrux makarngparis mikarklawxangwa emuxtnyukhstwrrsthi 20 echfpiaeyr edfngaetnaehngrankhnmfrngess Laduree epnphukhidkhnsutrnikhunma aetnkthakhnmxikkhnhnungkhux okld aechraeb kxangwasutrniepnphlngankhxngekhaechnknrschatitang makarngrsaexlmxnd makarngrsbluebxrri makarngrskharaeml makarngrschxkokaelt makarngrsmaphraw makarngrsnaphung makarngrselmxn makarngrssm makarngrsphrikithyxxn makarngrsphistachiox makarngrskuhlab makarngrswanillakhwamhlakhlaykhxngmakarngmakarngsitang makarnginparis canhnasud Macarons from La Grande Epicerie the deli department of ParisMacaron cookie basefrngess inhlay emuxngkhxngfrngesstangmiprawtithihlakhlayaelamikhwamepnmayawnanmak xyangechnthiaekhwnlxaernmikhwamoddednmak nxngsiaela aesngetmiliyng xaemiyng Sault chathr aelainebxrkndi makarngdaemiyng Macarons d Amiens inxaemiyngmikhnadelk ruprangklmaebbmakarngthw ip thamacak emldaexlmxndbdphsmrwmkbnatal aelaikh phlimaelanaphung sungkhnphbkhrngaerkinpi kh s 1855 swninemuxng makarngeluxngchuxmakkhnadmikarsrangphiphithphnthodyechphaa yxnklbipinpi kh s 1920 thiemuxngnimiranebekxrimakarngthiekaaekthisudtngxyu chuxwa aemsngranu emtiwiey Maison Rannou Metivier makarngkhxngmngmxriyngniepnsutrdngedimthisubthxdknmakwa 150 piaelw inemuxngnxngsithiaekhwnlxaern makarngepnswnhnungkhxngprawtisastremuxngnielythiediyw epnthielakhanknmawa hwhnaaemchithanhnungcakemuxng Remiremont tngkdkhunmapkkhrxngaemchithnghmd kdnichuxwa damduwaesng saekhrxmxng Dames du Saint Sacrement epnkdhamaemchiimihrbprathanenuxthukchnid aelatxngptibtitamxyangekhrngkhrd sungmiaemchisxngthan sisetxrmarekxritaelamari exlisaaebt thiechuxknwakhuxphuthikhidkhnwithikarthamakarngkhunma ephuxcaidrbprathanxaharthiehmaasmaelaepniptamkdnn txmathanthngsxngepnthiruckkninchux sisetxrmakarng elesxrmakarng inpi kh s 1952 emuxngnxngsinachuxkhxngthanmaichtngchuxthnnbangswnkhxngruwedxlaxach Rue de la Hache sthanthithiphwkthankhidkhnmakarngkhunma ephuxepnkarihekiyrti switesxraelnd inswitesxraelnd miyihxlukesimbwrekxrli Luxemburgerli epnkhnmthiphsmphsanngankhxngran Confiserie Sprungli thitngxyuinemuxngsurik makarngkhxngyihxlukesimbwrekxrlini prakxbipdwyemxaerngkaexlmxndsxngaephn sxdisbtetxrkhrim khnadchinmakarngcaelkkwa ebakwamakarngkhxngecaxun waknwa swnphsmebamak smphsehmuxnxakas rschatithimicahnay idaek wanilla chxkokaelt chxkokaeltchip kharaeml thwehesl ehla ekald xbechy elmxn smcin aelaraspebxrri rschatibangaebbkmiechphaabangethskalethann makarngwangkhayintuochwaecheynsungcaxyuidnanraw 3 5 wn Zurich Switzerland Sprungli confectionery shop display with Luxemburgerli lukesimbwrekxrliidrbkarsrangsrrkhkhunodykamiy chtuedxr nksilpakhnmhwansungnasutrmathisurikhlngcakthiidkhidkhnkhnmchnidniinrankhnmhwanaehnghnunginlkesmebirk kngfisrinamur emuxpi kh s 1957 thinnethxprbprungsutrephuxekhaaekhngkhnkarthasilpakhnmhwan khawa lukesimbwrekxrli Luxemburgerli khuxchuxelnthiephuxn tngihekha ephraakhrxbkhrwethxaetedimmacaklkesmebirk aetaerkelyichchuxwa aebesedxmus Baiser de Mousse phasafrngessaeplwa ofm khis foam kiss txmaepliynepn ekxebkhedslukesimbwrekirs Geback des Luxemburgers khnmhwankhxngchawlkesmebirk ihduekhakbkhnmmakkhun sungthaythisudepliynmaepnchuxinkhux lukesimbwrekxrli Luxemburgerli aeplwa chawlkesmebirktwnxy ekahliit makarngepnthiniymmakinekahliit thinieriykwa makharng xxkesiyngaebbphasaekahli mikarnaphngchaekhiywhruxibchaekhiywmathamakarngrschaekhiyw yipun makarnginyipunkepnthiniymmak thinieriykknwa makarng mikarichaepngthwlisngaethnaexlmxndaelaaetngrschatiaebb khnmhwandngedimkhxngyipun miwangcahnayxyangaephrhlaythwpraethskhwamniyminparis rankhnmhwanchux Laduree odngdngmakeruxngmakarngmaepnewlayawnanthung 150 pi update thifrngess aemkhodnldwangkhaymakarngindwy caehninokhsnabangtwthimikarechuxmoyngrahwangruprangkhxngebxrekxrkbmakarng makarngkhxngaemkhkhaefphlitody Chateau Blanc sungkhlaykbladuwer ephraaepnbristhphayit krup ohledxr Groupe Holder ehmuxnkn aetsutrkhxngmakarngkhxngthngsxngranimehmuxnkn nxkcakthiyuorpaelw makarngaebbfrngessnisamarthhaidinaekhnada aelashrthxemrika inxxsetreliy miraynganinraykarmasetxrechf wa makarngepnkhnmthithukicikhrhlay khn thungkhnadthimikarwangcahnayinaemkhkhaefkhxngaemkhodnld makarngepnthiniymmakthwolk mikarprakasihwnthi 20 minakhmepn wnmakarng erimtngaetpi kh s 2005 thiparisodyrankhxng Pierre Herme aetnnmakepnthiruknipthwolk inwnmakarngni ranmakarnghlay thithwolkcaaeckmakarnglukkhafrikhnlachin swnthilukkhasuxephimcanaipbricakhkarkuslthnghmdduephim alfajor khnmhwansepnthimilksnakhlaykn whoopie pie ekhkaesndwichchinelk aebbxemriknbrrnanukrmMeyers Cindy The Macaron and Madame Blanchez In Gastronomica The Journal of Food and Culture Vol 9 No 2 Spring 2009 pp 14 18 University of California Press online Jurafsky Dan 16 November 2011 Macarons Macaroons Macaroni The curious history Slate About the history of the macaron a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite magazine title aemaebb Cite magazine cite magazine a Cite magazine txngkar magazine help xangxingHenry Liz 2 May 2010 Sun Journal khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 03 10 subkhnemux 10 May 2012 Comparison of good and bad recipes on making macarons 2012 04 22 thi ewyaebkaemchchin Wikimama com Dessert Eater khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 08 11 subkhnemux 2014 07 21 Macaron vs Macaroon Foodpr0n com 26 February 2010 subkhnemux 8 July 2012 Macarons amp Macaroons What s the Difference ChefSteps 2015 subkhnemux 1 November 2019 Macarons Macaroons Macaroni The curious history Slate Magazine History of Macarons 2009 02 05 thi ewyaebkaemchchin Madmacnyc com Introduction to French Macarons The story of the Macaron 2010 07 04 thi ewyaebkaemchchin Laduree fr Macarons the Daddy Mac of Cookies Fox News Jurafsky Dan Macarons Macaroons Macaroni the curious history Slate com subkhnemux 9 March 2013 Naherny Michelle Photos courtesy of Honey B s Macarons subkhnemux 8 July 2014 Nick Rider 1 May 2005 New Holland Publishers p 135 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 10 24 subkhnemux 2014 07 21 Press book 2006 06 15 thi ewyaebkaemchchin Musee de l Amande et du Macaron see article La Maison Rannou Metiviere July August 2003 Notre Histoire Maison des soeurs 2014 10 23 thi ewyaebkaemchchin Achat nancy com Hubbeling Christina Wer macht die besten Macarons Who makes the best macarons Neue Zurcher Zeitung Neue Zurcher Zeitung AG subkhnemux 3 March 2014 Confiserie Sprungli Confiserie Sprungli AG khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 07 22 subkhnemux 3 March 2014 Bohler Guido Macarons wer macht die besten und schonsten Macarons who makes the best and most attractive ones delikatessenschweiz ch foodaktuell ch subkhnemux 3 March 2014 Malgieri Nick Baking How to Make a Macaroon Los Angeles Times subkhnemux 3 March 2014 Gasser Benno Auf der Suche nach dem besten Zurcher Macaron The search for the best Zurich macaron Tages Anzeiger Tamedia AG subkhnemux 3 March 2014 Kummer Corby Smackaroon The Switzerland vs France Cookie Smackdown The Atlantic The Atlantic Monthly Group subkhnemux 3 March 2014 Luxemburgerli die luftig leichte Versuchung 2015 07 22 thi ewyaebkaemchchin Spruengli ch Cha Daniella Macarons The New Trend for Desserts Phoenix Plume The official newspaper for Korea International School 27 April 2011 Retrieved 8 December 2012 마카롱 마카롱만드는법 phasaekahli Naver 7 August 2011 subkhnemux 8 May 2012 Dr Grace 17 March 2012 Graceful Cuisine khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 08 02 subkhnemux 8 May 2012 phasayipun Fukui News 9 July 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 03 17 subkhnemux 8 May 2012 Jargon Julie March 2 2010 Mon Dieu Will Newfound Popularity Spoil the Dainty Macaron The Wall Street Journal subkhnemux December 29 2010 Reed M H January 29 2009 Macaroon Delight The New York Times subkhnemux December 29 2010 Chesterman Lesley October 11 2008 The Gazette Montreal khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 11 09 subkhnemux December 29 2010 Denn Rebekah October 25 2009 French macarons are sweet light and luscious The Seattle Times Greenspan Dorie April 1 2010 Macarons New to The Easter Parade This Year Los Angeles Times subkhnemux December 29 2010 Move Over Cupcake Make Way For The Macaroon NPR February 12 2010 subkhnemux December 29 2010 Il est difficile de resister a atteindre pour un autre khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 08 01 subkhnemux 2021 08 21 Chavassieu Olivia Heaven on Earth Sydney Morning Herald subkhnemux 7 March 2012 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 06 19 subkhnemux 2014 07 21 exksarephimetimB Clermont 1776 Des Macarons commonly called Macaroni drops The professed cook or The modern art of cookery pastry and confectionary made plain and easy London W Davis OCLC 6194222 Louise Beate Augustine Friedel 1811 Le confiseur imperial ou L art du confiseur devoile aux gourmands A Paris Chez Henri Tardieu OCLC 61172534 Frances Crawford 1853 Macarons French confectionary adapted for English families Emile Herisse 1893 Macaroons The art of pastry making London Ward Lock Bowden ChefSteps 2013 Macarons ChefSteps Class on French Macarons aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb makarng wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb makarngfrngess How To Make French Makaron 2014 09 20 thi ewyaebkaemchchin