พะยูน เป็นสัตว์ป่าสงวนชนิดหนึ่งตาม เป็นสัตว์น้ำชนิดแรกของประเทศไทยที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าสงวน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเลเขตอบอุ่น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dugong dugon อยู่ในอันดับพะยูน (Sirenia)
พะยูน ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยไมโอซีน–ปัจจุบัน | |
---|---|
คู่พะยูนแม่ลูก | |
ขณะใช้ปากดุนพื้นทรายหาอาหาร | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม |
อันดับ: | อันดับพะยูน |
วงศ์: | |
วงศ์ย่อย: | , 1799 |
สกุล: | พะยูน (, 1776) |
สปีชีส์: | Dugong dugon |
ชื่อทวินาม | |
Dugong dugon (, 1776) | |
แผนที่แสดงที่อยู่อาศัยของพะยูน |
วิวัฒนาการ
มีการศึกษาพะยูนในทางวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 1776 โดยได้ตัวอย่างต้นแบบจากที่จับได้จากน่านน้ำแหลมกู๊ดโฮปถึงฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายโลมาและวาฬ เดิมจึงถูกจัดรวมอยู่ในอันดับเดียวกันคือ Cetacea แต่จากการศึกษาลักษณะโครงสร้างโดยละเอียดพบว่ามีความแตกต่างกันมาก กล่าวคือ มีขนาดเล็กกว่า หัวกลม รูจมูกแยกจากกัน ปากเล็ก มีฟันหน้าและฟันกรามพัฒนาดี ไม่เป็นฟันยอดแหลมธรรมดาอย่างวาฬ และมีเส้นขนที่ริมฝีปากตลอดชีวิต ใน ค.ศ. 1816 นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้แยกความแตกต่างระหว่างพะยูนกับโลมาและวาฬออกจากกัน และจัดพะยูนเข้าไว้ในในอันดับ Sirenia โดยนับว่าพะยูนมีบรรพบุรุษร่วมกันกับช้างมาก่อน
นอกจากนี้ การศึกษาซากโบราณของพะยูนในสกุล ในประเทศอียิปต์ ยังพบว่ามีลักษณะบางอย่างเหมือนและใกล้เคียงกันกับ ซึ่งเป็นต้นตระกูลของช้างยุคอีโอซีนตอนต้นหรือเมื่อประมาณ 40 ล้านปีมาแล้ว Eotheroides เป็นสัตว์มี 4 ขา มีฟันครบและอาศัยอยู่ในน้ำ ต่อมามีวิวัฒนาการเพื่อให้อาศัยอยู่ในน้ำได้ดีขึ้น โดยขาหลังจะลดขนาดลงและหายไปในที่สุด ส่วนขาหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปมีลักษณะคล้ายใบพายเพื่อให้เหมาะสมกับการว่ายน้ำ จากนั้นก็มีวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็นพะยูนในปัจจุบัน
ลักษณะและพฤติกรรม
พะยูนมีรูปร่างคล้ายแมวน้ำขนาดใหญ่ที่อ้วนกลมเทอะทะ ครีบมีลักษะคล้ายใบพายซึ่งมีวิวัฒนาการมาจากขาหน้าใช้สำหรับพยุงตัวและขุดหาอาหาร ไม่มีครีบหลัง ไม่มีใบหู ตามีขนาดเล็ก ริมฝีปากมีเส้นขนอยู่โดยรอบ ตัวผู้บางตัวเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจะมีฟันคู่หนึ่งงอกออกจากปากคล้ายงาช้าง ใช้สำหรับต่อสู้เพื่อแย่งคู่กับใช้ขุดหาอาหาร ในตัวเมียมีนมอยู่ 2 เต้า ขนาดเท่านิ้วก้อย ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร อยู่ถัดลงมาจากขาคู่หน้า สำหรับเลี้ยงลูกอ่อน มีลำตัวและหางคล้ายโลมา สีสันของลำตัวด้านหลังเป็นสีเทาดำ หายใจทางปอด จึงต้องหายใจบริเวณผิวน้ำ 1–2 นาที อายุ 9–10 ปี สามารถสืบพันธุ์ได้ เวลาท้อง 9–14 เดือน ปกติมีลูกได้ 1 ตัว ไม่เกิน 2 ตัว แรกเกิดยาว 1 เมตร หนัก 15–20 กิโลกรัม ใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 1 ปี กินนมและหญ้าทะเลประมาณ 2–3 สัปดาห์ หย่านมประมาณ 8 เดือน อายุประมาณ 70 ปี โดยแม่พะยูนจะดูแลลูกไปจนโต ขนาดเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 2 เมตร ถึง 3 เมตร น้ำหนักเต็มที่ได้ถึง 300 กิโลกรัม
พะยูนสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานราว 20 นาที เมื่อจะนอนหลับพักผ่อน พะยูนจะทิ้งตัวลงในแนวดิ่ง และนอนอยู่นิ่ง ๆ กับพื้นทะเลราว 20 นาที ก่อนจะขึ้นมาหายใจอีกครั้งหนึ่ง
อาหารของพะยูน ได้แก่ หญ้าทะเลที่ขึ้นตามแถบชายฝั่งและน้ำตื้น โดยพะยูนมักจะหากินในเวลากลางวัน และใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน พฤติกรรมการหากินจะคล้ายกับหมู โดยจะใช้ครีบอกและปากดุนพื้นทรายไถไปเรื่อย ๆ จนบางครั้งจะเห็นทางยาวตามชายหาด จากพฤติกรรมเช่นนี้ พะยูนจึงได้ชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "หมูน้ำ" หรือ "หมูดุด" ในแถบจังหวัดจันทบุรี บางตัวที่เชื่องกับมนุษย์อาจเกาะกินตะไคร่บริเวณใต้ท้องเรือได้
การกระจายพันธุ์และการอนุรักษ์
พะยูนพบได้ในทะเลเขตอบอุ่นอย่างกว้างขวางตั้งแต่ชายฝั่งของแอฟริกาตะวันออก มหาสมุทรอินเดีย ทะเลอันดามัน อ่าวไทย ทะเลจีนใต้ ทะเลฟิลิปปิน ทะเลซูลู ทะเลเซเลบีส เกาะชวา จนถึงโอเชียเนีย โดยปกติแล้วมักจะไม่อาศัยอยู่น้ำที่ขุ่น
สำหรับสถานะของพะยูนในประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากถูกคุกคามอย่างหนักในเรื่องถิ่นที่อยู่อาศัย ทำให้พฤติกรรมการหากินเปลี่ยนไปกลายเป็นมักจะหากินเพียงลำพังตัวเดียว ปัจจุบันในประเทศไทยเหลืออยู่เพียงที่เดียว คือ บริเวณหาดเจ้าไหมและรอบ ๆ เกาะลิบง จังหวัดตรัง เท่านั้น และอาจเป็นไปได้ว่ายังมีเหลืออยู่แถบทะเลจังหวัดระยอง แต่ยังไม่มีรายงานที่มีข้อมูลยืนยันถึงเรื่องนี้เพียงพอ
ในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2549 มีชาวประมงจับพะยูนตัวหนึ่งได้ที่ จังหวัดจันทบุรี หลังจากการหายตัวไปนานของพะยูนในแถบนี้นานถึง 34 ปี (ตัวสุดท้ายที่จับได้ในบริเวณนี้คือเมื่อ พ.ศ. 2515) พะยูนตัวดังกล่าวมีความยาว 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม
ใน พ.ศ. 2554 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ทำพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการอนุรักษ์และการจัดการพะยูนและแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูน โดยครอบคลุมพื้นที่อาศัยของพะยูนทั้งหมด ระหว่าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ/อนุสัญญาว่าด้วยชนิดพันธุ์ที่มีการเคลื่อนย้ายถิ่น โดยที่ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 20 ที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจนี้
มีรายงานว่า ประเทศที่มีประชากรพะยูนที่หลงเหลืออยู่มากที่สุดคือออสเตรเลีย มีอยู่ประมาณ 20,000 ตัว โดยสถานที่ที่พบมากที่สุดคืออ่าวชาร์กทางภาคตะวันตกของประเทศ มีประมาณ 10,000 ตัว คิดเป็นร้อยละ 12.5 ของประชากรพะยูนทั่วโลก เพราะเป็นสถานที่อุดมไปด้วยหญ้าทะเล ขณะที่ในประเทศไทย สถานที่ที่เป็นแหล่งอาศัยแหล่งสุดท้ายของพะยูน คือ ทะเลจังหวัดตรัง โดยพบที่รอบ ๆ เกาะลิบง มากที่สุด คาดว่ามีราว 210 ตัว ซึ่งเป็นข้อมูลจากการสำรวจในเดือนมกราคม พ.ศ. 2557 โดยเฉพาะที่เกาะลิบงนั้นเป็นที่อาศัยของจำนวนประชากรพะยูนในประเทศมากถึงร้อยละ 60–70 ซึ่งปัจจุบันถูกคุกคามอย่างหนัก โดยมีการล่าเอาเนื้อ กระดูก และเขี้ยวไปขายตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ มีการคำนวณว่าหากพะยูนในน่านน้ำไทยตายปีละ 5 ตัว พะยูนจะหมดไปภายใน 60 ปี และเหลือ 169 ตัว ในการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2560
ความเชื่อ
พะยูนเป็นสัตว์ที่ทำให้นักเดินเรือในยุคกลางเชื่อว่าคือ นางเงือก เนื่องจากแม่พะยูนเวลาให้นมลูกมักจะกอดอยู่กับอกและตั้งฉากกับท้องทะเล ทำให้แลเห็นในระยะไกลคล้ายผู้หญิงอยู่ในน้ำ พะยูนมีชื่อเรียกในภาษามลายูว่า ดูยุง หรือ ดูยง (duyung) แปลว่า "หญิงสาว" หรือ "ผู้หญิงแห่งท้องทะเล" มีนิทานพื้นบ้านเล่าว่า พะยูนเดิมเป็นผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และอยากกินหญ้าทะเล ผู้เป็นสามีจึงไปนำหญ้าทะเลมาให้ แต่ว่ายังไม่พอใจจึงลงไปกินหญ้าทะเลเองในน้ำ เมื่อน้ำทะเลขึ้น ก็กลายเป็นพะยูนไป และได้ให้สัญญากับสามีว่า หากต้องการพบให้ปักเสาไม้ลงไปหนึ่งเสา และจะมาที่เสานี้ตามที่เรียก
มีความเชื่อว่า ทั้งเนื้อ กระดูก และเขี้ยวพะยูน มีคุณสมบัติทางเมตตามหานิยม เขี้ยวพะยูนมีชื่อเรียกเฉพาะในแวดวงการค้าในตลาดมืดว่า "งาช้างน้ำ" ทั้งเขี้ยวและกระดูกพะยูนมีราคาซื้อขายที่แพงมาก โดยมักนำไปทำเป็นหัวแหวน เหมือนกับหนามปลากระเบน นอกจากนี้แล้วยังเชื่อว่าน้ำตาพะยูนและเขี้ยวพะยูนมีอำนาจทำให้เพศตรงข้ามลุ่มหลงคล้ายซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดและไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง เพราะไม่สามารถเป็นจริงได้
ในปัจจุบันยังพบผู้ลักลอบ ตัดเขี้ยวพะยูนเพื่อนำไปทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ โดยไม่คำนึงถึงการเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ดังกล่าว
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-13. สืบค้นเมื่อ 2023-06-04.
- Lin, Mingli; Turvey, Samuel T.; Han, Chouting; Huang, Xiaoyu; Mazaris, Antonios D.; Liu, Mingming; Ma, Heidi; Yang, Zixin; Tang, Xiaoming (24 August 2022). "Functional extinction of dugongs in China". Royal Society Open Science. 9 (8): 211994. Bibcode:2022RSOS....911994L. doi:10.1098/rsos.211994. PMC 9399689. PMID 36016916.
- "Appendices | CITES". cites.org. สืบค้นเมื่อ 2022-01-14.
- (2005). "Order Sirenia". ใน ; Reeder, D.M (บ.ก.). Mammal Species of the World: A Taxonomic and Geographic Reference (3rd ed.). Johns Hopkins University Press. p. 92. ISBN . OCLC 62265494.
- Myers, P. 2002. Dugongidae. University of Michigan Museum of Zoology. Retrieved on 10 March 2007.
- "สารคดี BBC : อัศจรรย์แดนจิงโจ้ ตอนที่ 5 คลิป 2/2". ช่อง 7. 4 November 2014. สืบค้นเมื่อ 4 November 2014.
- จุดประกาย, แกะรอยดุหยงทะเลใต้ โดย ชัยณรงค์ กิตินารถอินทราณี. กรุงเทพธุรกิจปีที่ 29 ฉบับที่ 10441: วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560
- "Dugong & Din". by: Animal Planet.
- . กรุงเทพธุรกิจ. 30 June 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-27. สืบค้นเมื่อ 3 September 2014.
- Riley, Laura and William (2005). Nature's Strongholds: The World's Great Wildlife Reserves. Princeton, New Jersey: Princeton University Press. pp. 595–596. ISBN . สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- "เปิดปม : ล่าพะยูน". ไทยพีบีเอส. 1 September 2014. สืบค้นเมื่อ 3 September 2014.
- Winger, Jennifer. 2000. What's in a Name: Manatees and Dugongs 2007-08-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. . Retrieved on 22 July 2007.
- ยืดหยัด ใจสมุทร. ตรัง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน, 2539. 161 หน้า. ISBN
- "ตัดปมล่า "ตัดเขี้ยว" พะยูนแม่ลูก-มีแผลลึกคาดสมอเรือกระแทก". Thai PBS. 2020-12-18.
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phayun epnstwpasngwnchnidhnungtam epnstwnachnidaerkkhxngpraethsithythiidrbkarkahndihepnstwpasngwn epnstweliynglukdwynmthixasyxyuinthaelekhtxbxun michuxwithyasastrwa Dugong dugon xyuinxndbphayun Sirenia phayun chwngewlathimichiwitxyu smyimoxsin pccubnkhuphayunaemlukkhnaichpakdunphunthrayhaxaharsthanakarxnurks IUCN 3 1 CITES Appendix I CITES karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngchn stweliynglukdwynmxndb xndbphayunwngs wngsyxy 1799skul phayun 1776 spichis Dugong dugonchuxthwinamDugong dugon 1776 aephnthiaesdngthixyuxasykhxngphayunwiwthnakarmikarsuksaphayuninthangwithyasastrepnkhrngaerkin kh s 1776 odyidtwxyangtnaebbcakthicbidcaknannaaehlmkudohpthungfilippins enuxngcakmiruprangkhlayolmaaelawal edimcungthukcdrwmxyuinxndbediywknkhux Cetacea aetcakkarsuksalksnaokhrngsrangodylaexiydphbwamikhwamaetktangknmak klawkhux mikhnadelkkwa hwklm rucmukaeykcakkn pakelk mifnhnaaelafnkramphthnadi imepnfnyxdaehlmthrrmdaxyangwal aelamiesnkhnthirimfipaktlxdchiwit in kh s 1816 nkwithyasastrchawfrngessidaeykkhwamaetktangrahwangphayunkbolmaaelawalxxkcakkn aelacdphayunekhaiwininxndb Sirenia odynbwaphayunmibrrphburusrwmknkbchangmakxn nxkcakni karsuksasakobrankhxngphayuninskul inpraethsxiyipt yngphbwamilksnabangxyangehmuxnaelaiklekhiyngknkb sungepntntrakulkhxngchangyukhxioxsintxntnhruxemuxpraman 40 lanpimaaelw Eotheroides epnstwmi 4 kha mifnkhrbaelaxasyxyuinna txmamiwiwthnakarephuxihxasyxyuinnaiddikhun odykhahlngcaldkhnadlngaelahayipinthisud swnkhahnacaepliynaeplngipmilksnakhlayibphayephuxihehmaasmkbkarwayna caknnkmiwiwthnakarmaeruxy cnklaymaepnphayuninpccubnlksnaaelaphvtikrrmphayunmiruprangkhlayaemwnakhnadihythixwnklmethxatha khribmilksakhlayibphaysungmiwiwthnakarmacakkhahnaichsahrbphyungtwaelakhudhaxahar immikhribhlng immiibhu tamikhnadelk rimfipakmiesnkhnxyuodyrxb twphubangtwemuxekhasuwyruncamifnkhuhnungngxkxxkcakpakkhlayngachang ichsahrbtxsuephuxaeyngkhukbichkhudhaxahar intwemiyminmxyu 2 eta khnadethaniwkxy yawpraman 2 esntiemtr xyuthdlngmacakkhakhuhna sahrbeliynglukxxn milatwaelahangkhlayolma sisnkhxnglatwdanhlngepnsiethada hayicthangpxd cungtxnghayicbriewnphiwna 1 2 nathi xayu 9 10 pi samarthsubphnthuid ewlathxng 9 14 eduxn pktimilukid 1 tw imekin 2 tw aerkekidyaw 1 emtr hnk 15 20 kiolkrm ichewlatngthxngpraman 1 pi kinnmaelahyathaelpraman 2 3 spdah hyanmpraman 8 eduxn xayupraman 70 pi odyaemphayuncaduaellukipcnot khnademuxotetmthipraman 2 emtr thung 3 emtr nahnketmthiidthung 300 kiolkrm phayunsamarthklnhayicitnaidnanraw 20 nathi emuxcanxnhlbphkphxn phayuncathingtwlnginaenwding aelanxnxyuning kbphunthaelraw 20 nathi kxncakhunmahayicxikkhrnghnung xaharkhxngphayun idaek hyathaelthikhuntamaethbchayfngaelanatun odyphayunmkcahakininewlaklangwn aelaichewlananthung 8 chwomngtxwn phvtikrrmkarhakincakhlaykbhmu odycaichkhribxkaelapakdunphunthrayithiperuxy cnbangkhrngcaehnthangyawtamchayhad cakphvtikrrmechnni phayuncungidchuxeriykxikchuxhnungwa hmuna hrux hmudud inaethbcnghwdcnthburi bangtwthiechuxngkbmnusyxacekaakintaikhrbriewnitthxngeruxidkarkracayphnthuaelakarxnurksphayunphbidinthaelekhtxbxunxyangkwangkhwangtngaetchayfngkhxngaexfrikatawnxxk mhasmuthrxinediy thaelxndamn xawithy thaelcinit thaelfilippin thaelsulu thaeleselbis ekaachwa cnthungoxechiyeniy odypktiaelwmkcaimxasyxyunathikhun sahrbsthanakhxngphayuninpraethsithyxyuinphawawikvt enuxngcakthukkhukkhamxyanghnkineruxngthinthixyuxasy thaihphvtikrrmkarhakinepliynipklayepnmkcahakinephiynglaphngtwediyw pccubninpraethsithyehluxxyuephiyngthiediyw khux briewnhadecaihmaelarxb ekaalibng cnghwdtrng ethann aelaxacepnipidwayngmiehluxxyuaethbthaelcnghwdrayxng aetyngimmiraynganthimikhxmulyunynthungeruxngniephiyngphx inwnthi 23 emsayn ph s 2549 michawpramngcbphayuntwhnungidthi cnghwdcnthburi hlngcakkarhaytwipnankhxngphayuninaethbninanthung 34 pi twsudthaythicbidinbriewnnikhuxemux ph s 2515 phayuntwdngklawmikhwamyaw 2 emtr nahnkpraman 200 kiolkrm in ph s 2554 krathrwngthrphyakrthrrmchatiaelasingaewdlxmidthaphithilngnambnthukkhwamekhaicwadwykarxnurksaelakarcdkarphayunaelaaehlngthixyuxasykhxngphayun odykhrxbkhlumphunthixasykhxngphayunthnghmd rahwang krathrwngthrphyakrthrrmchatiaelasingaewdlxm kbokhrngkarsingaewdlxmaehngshprachachati xnusyyawadwychnidphnthuthimikarekhluxnyaythin odythipraethsithynbepnpraethsthi 20 thilngnaminbnthukkhwamekhaicni miraynganwa praethsthimiprachakrphayunthihlngehluxxyumakthisudkhuxxxsetreliy mixyupraman 20 000 tw odysthanthithiphbmakthisudkhuxxawcharkthangphakhtawntkkhxngpraeths mipraman 10 000 tw khidepnrxyla 12 5 khxngprachakrphayunthwolk ephraaepnsthanthixudmipdwyhyathael khnathiinpraethsithy sthanthithiepnaehlngxasyaehlngsudthaykhxngphayun khux thaelcnghwdtrng odyphbthirxb ekaalibng makthisud khadwamiraw 210 tw sungepnkhxmulcakkarsarwcineduxnmkrakhm ph s 2557 odyechphaathiekaalibngnnepnthixasykhxngcanwnprachakrphayuninpraethsmakthungrxyla 60 70 sungpccubnthukkhukkhamxyanghnk odymikarlaexaenux kraduk aelaekhiywipkhaytamkhwamechuxthangisysastr mikarkhanwnwahakphayuninnannaithytaypila 5 tw phayuncahmdipphayin 60 pi aelaehlux 169 tw inkarsarwcemuxpi ph s 2560khwamechuxphayunepnstwthithaihnkedineruxinyukhklangechuxwakhux nangenguxk enuxngcakaemphayunewlaihnmlukmkcakxdxyukbxkaelatngchakkbthxngthael thaihaelehninrayaiklkhlayphuhyingxyuinna phayunmichuxeriykinphasamlayuwa duyung hrux duyng duyung aeplwa hyingsaw hrux phuhyingaehngthxngthael minithanphunbanelawa phayunedimepnphuhyingthitngkhrrphaelaxyakkinhyathael phuepnsamicungipnahyathaelmaih aetwayngimphxiccunglngipkinhyathaelexnginna emuxnathaelkhun kklayepnphayunip aelaidihsyyakbsamiwa haktxngkarphbihpkesaimlngiphnungesa aelacamathiesanitamthieriyk mikhwamechuxwa thngenux kraduk aelaekhiywphayun mikhunsmbtithangemttamhaniym ekhiywphayunmichuxeriykechphaainaewdwngkarkhaintladmudwa ngachangna thngekhiywaelakradukphayunmirakhasuxkhaythiaephngmak odymknaipthaepnhwaehwn ehmuxnkbhnamplakraebn nxkcakniaelwyngechuxwanataphayunaelaekhiywphayunmixanacthaihephstrngkhamlumhlngkhlaysungepnkhwamechuxthiphidaelaimkhwrthatamxyangying ephraaimsamarthepncringid inpccubnyngphbphulklxb tdekhiywphayunephuxnaipthaphithikrrmthangisysastr odyimkhanungthungkaresiyngtxkarsuyphnthukhxngstwdngklawduephimmanathixangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2021 12 13 subkhnemux 2023 06 04 Lin Mingli Turvey Samuel T Han Chouting Huang Xiaoyu Mazaris Antonios D Liu Mingming Ma Heidi Yang Zixin Tang Xiaoming 24 August 2022 Functional extinction of dugongs in China Royal Society Open Science 9 8 211994 Bibcode 2022RSOS 911994L doi 10 1098 rsos 211994 PMC 9399689 PMID 36016916 Appendices CITES cites org subkhnemux 2022 01 14 2005 Order Sirenia in Reeder D M b k Mammal Species of the World A Taxonomic and Geographic Reference 3rd ed Johns Hopkins University Press p 92 ISBN 978 0 8018 8221 0 OCLC 62265494 Myers P 2002 Dugongidae University of Michigan Museum of Zoology Retrieved on 10 March 2007 sarkhdi BBC xscrryaedncingoc txnthi 5 khlip 2 2 chxng 7 4 November 2014 subkhnemux 4 November 2014 cudprakay aekarxyduhyngthaelit ody chynrngkh kitinarthxinthrani krungethphthurkicpithi 29 chbbthi 10441 wncnthrthi 24 emsayn ph s 2560 Dugong amp Din by Animal Planet krungethphthurkic 30 June 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 06 27 subkhnemux 3 September 2014 Riley Laura and William 2005 Nature s Strongholds The World s Great Wildlife Reserves Princeton New Jersey Princeton University Press pp 595 596 ISBN 0 691 12219 9 subkhnemux 12 July 2011 epidpm laphayun ithyphibiexs 1 September 2014 subkhnemux 3 September 2014 Winger Jennifer 2000 What s in a Name Manatees and Dugongs 2007 08 05 thi ewyaebkaemchchin Retrieved on 22 July 2007 yudhyd icsmuthr trng krungethph sankphimphmtichn 2539 161 hna ISBN 974 7115 60 3 tdpmla tdekhiyw phayunaemluk miaephllukkhadsmxeruxkraaethk Thai PBS 2020 12 18 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phayun