ปลาซีลาแคนท์มหาสมุทรอินเดียตะวันตก | |
---|---|
Latimeria chalumnae | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Sarcopterygii |
ชั้นย่อย: | Coelacanthimorpha |
อันดับ: | Coelacanthiformes |
วงศ์: | Latimeriidae |
สกุล: | Latimeria |
สปีชีส์: | L. chalumnae |
ชื่อทวินาม | |
Latimeria chalumnae , 1939 |
ปลาซีลาแคนท์มหาสมุทรอินเดียตะวันตก (Latimeria chalumnae) เป็นปลาซีลาแคนท์หนึ่งในสองชนิดที่ยังมีชีวิตอยู่ ลำตัวมีสีน้ำเงิน เป็นที่รู้จักกันดีกว่าปลาซีลาแคนท์อีกชนิด
ลักษณะ
น้ำหนักของปลาซีลาแคนท์ทางด้านตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย (ลาติเมอเรีย ชาลัมนี) เฉลี่ยแล้วประมาณ 80 กิโลกรัมและอาจมีความยาวของลำตัวได้มากถึง 2 เมตร เพศเมียที่โตเต็มวัยหนักมากกว่าเพศผู้เล็กน้อย พบการกระจายพันธุ์เป็นวงกว้างแต่พบได้ในปริมาณน้อยมากในบริเวณขอบด้านตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย จากอัฟริกาใต้ทางด้านเหนือไปตาม ชายฝั่งอัฟริกาตะวันออกไปจนถึงเคนย่า โคโมรอส และมาดากัสการ์ ซึ่งดูเหมือนว่าจะพบเป็นโคโลนีเล็ก ๆ
ประชากรและการอนุรักษ์
ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ ปลาซีลาแคนท์ถูกจัดอยู่ในบัญชีที่ 1 เมื่อ ค.ศ. 1989 ในสนธิ สัญญาการค้าระหว่างประเทศรวมถึงการส่งตัวอย่างไปยังพิพิธภัณฑ์ต้องได้รับการอนุญาต ในปี ค.ศ. 1998 ประชากรปลาซีลาแคนท์มหาสมุทรอินเดียตะวันตกคาดว่าเหลืออยู่ราว 500 ตัวหรือน้อยกว่านั้นซึ่งถือเป็นการคุกคามการคงอยู่ของปลาชนิดนี้เป็นอย่างมากIUCN ได้จัดให้ L. chalumniae อยู่ในสภาวะถูกคุกคามถึงขั้นวิกฤติ (CR) และ L. menadoensis อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (VU)
การพบครั้งแรกในอัฟริกาใต้
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1938 เฮนดริก กูเซน (Hendrik Goosen) กัปตันเรือลากอวนพาณิชย์ “เนอรีน” กลับไปที่ท่าเรืออีสต์ลอนดอนในอัฟริกาใต้หลังจากลากอวนแถวปากแม่น้ำชาลัมน่า แล้วเขาก็ทำอย่างที่เขาเคยทำอยู่บ่อย ๆ คือโทรศัพท์ไปหาเพื่อนของเขา มาร์จอรี คอร์ทีเนย์-ลาติเมอร์ (Marjorie Courtenay-Latimer) ภัณฑรักษ์ที่พิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในอีสต์ลอนดอน เพื่อให้ไปดูว่าสิ่งที่จับได้นั้นเป็นสิ่งที่เธอสนใจหรือไม่ และยังบอกเธอว่ามีปลาเกล็ดแข็งที่เขาเก็บไว้ให้เธอดูอีกด้วย จากจดหมายเหตุของสถาบันความหลากหลายทางชีวภาพทางน้ำแห่งแอฟริกาใต้ (SAIAB) แสดงให้เห็นว่ากูเซนรักษาสภาพของปลาอย่างดี และสั่งให้ลูกเรือนำมันไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์อีสต์ลอนดอน ภายหลังกูเซนกล่าวว่าปลามีน้ำเงินโลหะแต่กว่าที่เนอรีนจะเข้าเทียบท่าก็กินเวลาหลายชั่วโมงทำให้ปลากลายเป็นสีเทาเข้ม
สิ่งที่ค้นพบนั้นไม่พบว่ามีการบันทึกถึงลักษณะเอาไว้ในหนังสือใด ๆ ที่เธอมีอยู่ เธอพยายามติดต่อกับเพื่อนของเธอ ศาสตราจารย์เจมส์ เลียวนาร์ด เบรียเลย์ สมิธ (James Leonard Brierley Smith) แต่เขาไม่อยู่เนื่องจากเทศกาลคริสต์มาส เนื่องด้วยไม่อาจเก็บรักษาสภาพของปลาเอาไว้ได้เธอจึงลังเลใจที่จะส่งมันไปทำเทคนิคการทำให้ซากสัตว์คงสภาพเหมือนมีชีวิต เมื่อสมิธกลับมาเขาพบว่ามันเป็นปลาซีลาแคนท์ที่พบได้เฉพาะเป็นฟอสซิล สมิธได้ตั้งชื่อปลาชนิดนี้ว่า “ลาติเมอเรีย ชาลัมนี” (Latimeria chalumnae) เพื่อเป็นเกียรติแก่ มาร์จอรี คอร์ทีเนย์-ลาติเมอร์และแม่น้ำที่เป็นแหล่งค้นพบ ผู้ค้นพบทั้งสองจึงกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรู้จักกันไปทั่ว และปลาชนิดนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นฟอสซิลที่มีชีวิต และปลาซีลาแคนท์ที่พบในปี ค.ศ. 1938 นี้ปัจจุบันยังคงจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในอีสต์เบิร์นนั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ชิ้นตัวอย่างที่ถูกสตัฟฟ์นั้น ไม่สามารถตรวจสอบลักษณะของเหงือกและโครงกระดูกได้และยังมีข้อสงสัยที่ค้างคาอยู่ว่ามันจะเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ สมิธเริ่มล่าตัวที่สองซึ่งก็ต้องใช้เวลามากกว่าทศวรรษ
อ้างอิง
- Jewett, Susan L., "On the Trail of the Coelacanth, a Living Fossil", The Washington Post, 1998-11-11, Retrieved on 2007-06-19.
- "IUCN Redlist--L. chalumnae"[]
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-02-14. สืบค้นเมื่อ 2010-05-24.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
plasilaaekhnthmhasmuthrxinediytawntkLatimeria chalumnaesthanakarxnurks IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Sarcopterygiichnyxy Coelacanthimorphaxndb Coelacanthiformeswngs Latimeriidaeskul Latimeriaspichis L chalumnaechuxthwinamLatimeria chalumnae 1939 plasilaaekhnthmhasmuthrxinediytawntk Latimeria chalumnae epnplasilaaekhnthhnunginsxngchnidthiyngmichiwitxyu latwmisinaengin epnthiruckkndikwaplasilaaekhnthxikchnidlksnatwxyang Latimeria chalumnae thiphiphithphnthstwsastr okhepnehekn nahnkkhxngplasilaaekhnththangdantawntkkhxngmhasmuthrxinediy latiemxeriy chalmni echliyaelwpraman 80 kiolkrmaelaxacmikhwamyawkhxnglatwidmakthung 2 emtr ephsemiythiotetmwyhnkmakkwaephsphuelknxy phbkarkracayphnthuepnwngkwangaetphbidinprimannxymakinbriewnkhxbdantawntkkhxngmhasmuthrxinediy cakxfrikaitthangdanehnuxiptam chayfngxfrikatawnxxkipcnthungekhnya okhomrxs aelamadakskar sungduehmuxnwacaphbepnokholnielk prachakraelakarxnurkstamxnusyyawadwykarkharahwangpraethssungchnidstwpaaelaphuchpaiklsuyphnthu plasilaaekhnththukcdxyuinbychithi 1 emux kh s 1989 insnthi syyakarkharahwangpraethsrwmthungkarsngtwxyangipyngphiphithphnthtxngidrbkarxnuyat inpi kh s 1998 prachakrplasilaaekhnthmhasmuthrxinediytawntkkhadwaehluxxyuraw 500 twhruxnxykwannsungthuxepnkarkhukkhamkarkhngxyukhxngplachnidniepnxyangmakIUCN idcdih L chalumniae xyuinsphawathukkhukkhamthungkhnwikvti CR aela L menadoensis xyuinsphawaesiyngtxkarsuyphnthu VU karphbkhrngaerkinxfrikaittwxyangpla Latimeria chalumnae thiekbrksaiwthiphiphithphnthprawtisastrthrrmchati krungewiynna praethsxxsetriy yaw 170 sm nahnk 60 kk twxyangnithukcbidemuxwnthi 18 tulakhm 1974 iklkbsalimani aekrnd okhomr ekaaokhomrxs 11 48 40 7 S 43 16 3 3 E 11 811306 S 43 267583 E 11 811306 43 267583 emuxwnthi 23 thnwakhm kh s 1938 ehndrik kuesn Hendrik Goosen kptneruxlakxwnphanichy enxrin klbipthithaeruxxistlxndxninxfrikaithlngcaklakxwnaethwpakaemnachalmna aelwekhakthaxyangthiekhaekhythaxyubxy khuxothrsphthiphaephuxnkhxngekha marcxri khxrthieny latiemxr Marjorie Courtenay Latimer phnthrksthiphiphithphnthelk aehnghnunginxistlxndxn ephuxihipduwasingthicbidnnepnsingthiethxsnichruxim aelayngbxkethxwamiplaekldaekhngthiekhaekbiwihethxduxikdwy cakcdhmayehtukhxngsthabnkhwamhlakhlaythangchiwphaphthangnaaehngaexfrikait SAIAB aesdngihehnwakuesnrksasphaphkhxngplaxyangdi aelasngihlukeruxnamnipekbrksaiwthiphiphithphnthxistlxndxn phayhlngkuesnklawwaplaminaenginolhaaetkwathienxrincaekhaethiybthakkinewlahlaychwomngthaihplaklayepnsiethaekhm singthikhnphbnnimphbwamikarbnthukthunglksnaexaiwinhnngsuxid thiethxmixyu ethxphyayamtidtxkbephuxnkhxngethx sastracaryecms eliywnard ebriyely smith James Leonard Brierley Smith aetekhaimxyuenuxngcakethskalkhristmas enuxngdwyimxacekbrksasphaphkhxngplaexaiwidethxcunglngelicthicasngmnipthaethkhnikhkarthaihsakstwkhngsphaphehmuxnmichiwit emuxsmithklbmaekhaphbwamnepnplasilaaekhnththiphbidechphaaepnfxssil smithidtngchuxplachnidniwa latiemxeriy chalmni Latimeria chalumnae ephuxepnekiyrtiaek marcxri khxrthieny latiemxraelaaemnathiepnaehlngkhnphb phukhnphbthngsxngcungklayepnphuthimichuxesiyngodngdngruckknipthw aelaplachnidnikklayepnthiruckknwaepnfxssilthimichiwit aelaplasilaaekhnththiphbinpi kh s 1938 nipccubnyngkhngcdaesdngiwthiphiphithphnthinxistebirnnnexng xyangirktam chintwxyangthithukstffnn imsamarthtrwcsxblksnakhxngehnguxkaelaokhrngkradukidaelayngmikhxsngsythikhangkhaxyuwamncaepnchnidediywknhruxim smitherimlatwthisxngsungktxngichewlamakkwathswrrsxangxingJewett Susan L On the Trail of the Coelacanth a Living Fossil The Washington Post 1998 11 11 Retrieved on 2007 06 19 IUCN Redlist L chalumnae lingkesiy khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 02 14 subkhnemux 2010 05 24