บทความนี้ไม่มีจาก |
ปราสาทโอซากะ (ญี่ปุ่น: 大坂城 หรือ 大阪城) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในแขวงชูโอ นครโอซากะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีบทบาทในช่วงสงครามการรวมประเทศญี่ปุ่นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในยุคอาซูจิ–โมโมยามะ
ปราสาทโอซากะ 大坂城 | |
ปราสาททอง (金城) | |
ศิลปะสมัยโทโยโตมิ และ | |
พ.ศ. 2126 | |
พ.ศ. 2411 |
ลักษณะเด่น
ปราสาทโอซากะมีสิ่งก่อสร้าง 13 อย่างที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุให้เป็นทรัพย์สมบัติสำคัญในทางวัฒนธรรม สิ่งที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ ประตูขนาดใหญ่และและป้อมปราการที่อยู่ตามคูกำแพงเมืองรอบนอก กำแพงสูงชันที่สูงเกือบถึง 30 เมตร นั้นทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งส่งเข้ามาในโอซากะจากเหมืองที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 100 กิโลเมตร ความสูงของกำแพงและความกว้างของคูกำแพงเมืองที่เห็นนั้นไม่สามารถเทียบได้กับปราสาทอื่นๆในญี่ปุ่นได้เลย
สิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูปปลาโลมาแปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปเสือ ซึ่งทั้งหมดถูกชุบด้วยทองคำ
หอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี พ.ศ. 2540 การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซากะ
ประวัติ
ในปี ค.ศ. 1583 โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ สั่งให้มีการก่อสร้างปราสาทโอซากะที่บริเวณวัดอิชิยามะฮงกัน โดยนำแบบผังมาจากปราสาทอาซูจิ อันเป็นศูนย์บัญชาการหลักของโอดะ โนบูนางะ โทโยโตมิต้องการจะสร้างให้เหมือนกับปราสาทอาซูจิ แต่สุดท้ายแล้วกลับโดดเด่นกว่า โดยหอคอยหลักมี 5 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น มีใบไม้ทองที่ด้านข้างของปราสาท ทำให้ตัวปราสาทสวยงามโดดเด่นประทับใจผู้พบเห็น ในปี ค.ศ. 1585 เมื่อตัวปราสาทแล้วเสร็จ โทโยโตมิจึงเริ่มแผนขยายตัวปราสาทเพิ่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก จนประทั่งในปี ค.ศ. 1597 การก่อสร้างได้แล้วเสร็จและฮิเดโยชิได้เสียชีวิตลง ตัวปราสาทจึงตกเป็นของบุตรของฮิเดโยชิ คือ โทโยโตมิ ฮิเดโยริ
ในปี ค.ศ. 1600 โทกูงาวะ อิเอยาซุ ปราบศัตรูลงได้ในยุทธการที่เซกิงาฮาระและเริ่มจัดตั้งรัฐบาลเอโดะ ในปี ค.ศ. 1614 โทกูงาวะเริ่มโจมตีกองกำลังของฮิเดโยริในช่วงหน้าหนาวจนเข้าสู่ยุทธการการล้อมโอซากะ แม้กองกำลังของโทโยโตมิมีจะน้อยกว่ากองกำลังของโทกูงาวะเกือบครึ่งหนึ่ง แต่ก็สามารถต้านทานทัพ 200,000 นายของโทกูงาวะและรักษากำแพงเมืองเอาไว้ได้
ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1615 ฮิเดโยริเริ่มขุดคูเมืองรอบนอกเพิ่มขึ้นอีกชั้น โทกูงาวะจึงได้ส่งกองกำลังของตนไปโจมตีปราสาทโอซากะอีกครั้งหนึ่งและสามารถเจาะกำลังทหารของโทโยโตมิเข้าไปในกำแพงเมืองได้เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปราสาทโอซากะจึงตกเป็นของโทกูงาวะ และตระกูลโทโยโตมิก็ถึงคราอวสาน
ในปี ค.ศ. 1620 โทกูงาวะ ฮิเดตาดะ โชกุนคนที่ 2 แห่งตระกูลโทกูงาวะ เริ่มบูรณะและสร้างปราสาทโอซากะขึ้นมาใหม่ ยกระดับหอคอยให้สูงขึ้น ภายนอกมี 5 ชั้น ภายในมี 8 ชั้น ก่อสร้างกำแพงใหม่ให้เป็นเกียรติแต่ตระกูลซะมุไรแต่ละคน กำแพงในสมัยนั้นยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้โดยนำหินมาจากทะเลเซโตะใน และสลักยอดด้วยชื่อของตระกูลที่อุทิศให้กับการสร้างกำแพงเหล่านี้
ในปี ค.ศ. 1660 เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่คลังแสงเป็นผลให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตัวปราสาท จากนั้นในปี 1665 เกิดฟ้าผ่าทำให้ตัวปราสาทหลักได้รับความเสียหายและพังลงมา
หลังถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน รัฐบาลเอโดะต้องการจะซ่อมตัวปราสาทซึ่งมีส่วนให้ต้องซ่อมอีกมาก ในปี 1843 รัฐบาลจึงได้เรี่ยไรเงินจากประชาชนในท้องถิ่นเพื่อสร้างคอคอยขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ในปี ค.ศ. 1868 ปราสาทโอซากะถูกล้อมด้วยกองกำลังจักรพรรดิต่อต้านรัฐบาลเอโดะ และตัวปราสาทก็ถูกเผาในสงครามกลางเมืองสมัยการปฏิรูปเมจิ
ต่อมา รัฐบาลเมจิได้ให้ปราสาทโอซากะเป็นคลังแสงผลิตปืน อาวุธยุทธภัณฑ์ และระเบิด เพื่อขยายขีดความสามารถทางการทหารของญี่ปุ่นในตามแบบตะวันตก
ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการสร้างหอคอยหลักขึ้นมาใหม่หลังจากที่เทศบาลเมืองโอซากะสามารถระดมทุนจากประชาชนมาจำนวนมาก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คลังแสงกลายเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่น มีคนงานกว่า 60,000 คน และเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรด้วย ทำให้ปราสาทโอซากะเสียหายอย่างหนักในช่วงท้ายสงครามเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1945 จากการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ คลังแสงเสียหายไปร้อยละ 90 และคนงานเสียชีวิต 382 คน
ในปี ค.ศ. 1995 เทศบาลนครโอซากะเริ่มต้นโครงการบูรณะปราสาทโอซากะอีกครั้ง โดยให้ภายนอกยังคงความเป็นยุคเอโดะ แผนการบูรณะแล้วเสร็จในปี 1997 ตัวปราสาทมีความทันสมัยขึ้นมาก และมีสวนบ๊วย มีต้นดอกซากุระ มีลิฟต์ติดตั้งภายในและมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบสมัยใหม่มากมาย
คลังภาพ
- หอคอยกลาง
- ประตูโอเตมง
- ภาพวาดแสดงความเสียหายของปราสาทโอซากะ ในหนังสือของฟรองซัวส์ คารอน ในปี ค.ศ. 1663
- จากหลังคาของหอคอยกลาง ปราสาทโอซากะ
- สวนบ๊วยในอุทยานปราสาทโอซากะ
อ้างอิง
- . Osaka-info.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-28. สืบค้นเมื่อ 2013-02-15.
- Meek, Miki. . National Geographic Magazine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-27. สืบค้นเมื่อ 2008-01-22.
{{}}
: ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)) - . Ndl.go.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-09. สืบค้นเมื่อ 2013-02-15.
{{}}
: ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help)); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ ((help))
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ปราสาทโอซากะ
- เว็บไซต์ทางการ (ในภาษาอังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir prasathoxsaka yipun 大坂城 hrux 大阪城 epnprasathyipun tngxyuinaekhwngchuox nkhroxsaka praethsyipun epnprasaththimichuxesiyngthisudaehnghnunginpraethsyipun mibthbathinchwngsngkhramkarrwmpraethsyipunemuxkhriststwrrsthi 16 inyukhxasuci omomyamalogoprasathoxsaka 大坂城chaya prasaththxng 金城 sthaptykrrm silpasmyothoyotmi aela smyexodaphusrang othoyotmi hiedoychi aelaothkungawa xiexyasupithisrang ph s 2126pkkhrxngody trakulothoyotmi aelatrakulothkungawaichnganthung ph s 2411lksnaednprasathoxsakamisingkxsrang 13 xyangthirthbalyipunrabuihepnthrphysmbtisakhyinthangwthnthrrm singthimichuxesiyngmakepnphiesskhux pratukhnadihyaelaaelapxmprakarthixyutamkhukaaephngemuxngrxbnxk kaaephngsungchnthisungekuxbthung 30 emtr nnthamacakkxnhinkhnadihysungsngekhamainoxsakacakehmuxngthixyuhangxxkipmakkwa 100 kiolemtr khwamsungkhxngkaaephngaelakhwamkwangkhxngkhukaaephngemuxngthiehnnnimsamarthethiybidkbprasathxuninyipunidely singthinasnicyngrwmthung hlngkharupplaolmaaepdtwkhxnghx aelahlngkhaxyupradbipdwykraebuxngaelaaekaslkepnrupesux sungthnghmdthukchubdwythxngkha hxsungkhxngprasathidrbkarsxmaesmihminpi ph s 2540 karsxmaesminkhrngniidnaokhrngsrangxnngdngamkhxngkaaephngkhwambrisuththiaelakhwamsukiskhxngthxngkhaklbmaiheraehnxikkhrng khwamngdngamkhxngprasathcungidklaymaepnsylksnkhxngemuxngoxsakaprawtiinpi kh s 1583 othoyotmi hiedoychi sngihmikarkxsrangprasathoxsakathibriewnwdxichiyamahngkn odynaaebbphngmacakprasathxasuci xnepnsunybychakarhlkkhxngoxda onbunanga othoyotmitxngkarcasrangihehmuxnkbprasathxasuci aetsudthayaelwklboddednkwa odyhxkhxyhlkmi 5 chn aelamichnitdinxik 3 chn miibimthxngthidankhangkhxngprasath thaihtwprasathswyngamoddednprathbicphuphbehn inpi kh s 1585 emuxtwprasathaelwesrc othoyotmicungerimaephnkhyaytwprasathephixpxngknkarrukrancakkhasuk cnprathnginpi kh s 1597 karkxsrangidaelwesrcaelahiedoychiidesiychiwitlng twprasathcungtkepnkhxngbutrkhxnghiedoychi khux othoyotmi hiedoyri inpi kh s 1600 othkungawa xiexyasu prabstrulngidinyuththkarthieskingaharaaelaerimcdtngrthbalexoda inpi kh s 1614 othkungawaerimocmtikxngkalngkhxnghiedoyriinchwnghnahnawcnekhasuyuththkarkarlxmoxsaka aemkxngkalngkhxngothoyotmimicanxykwakxngkalngkhxngothkungawaekuxbkhrunghnung aetksamarthtanthanthph 200 000 naykhxngothkungawaaelarksakaaephngemuxngexaiwid inchwngvdurxnpi kh s 1615 hiedoyrierimkhudkhuemuxngrxbnxkephimkhunxikchn othkungawacungidsngkxngkalngkhxngtnipocmtiprasathoxsakaxikkhrnghnungaelasamarthecaakalngthharkhxngothoyotmiekhaipinkaaephngemuxngidemuxwnthi 4 mithunayn prasathoxsakacungtkepnkhxngothkungawa aelatrakulothoyotmikthungkhraxwsan inpi kh s 1620 othkungawa hiedtada ochkunkhnthi 2 aehngtrakulothkungawa erimburnaaelasrangprasathoxsakakhunmaihm ykradbhxkhxyihsungkhun phaynxkmi 5 chn phayinmi 8 chn kxsrangkaaephngihmihepnekiyrtiaettrakulsamuiraetlakhn kaaephnginsmynnyngkhngxyumacnthukwnniodynahinmacakthaelesotain aelaslkyxddwychuxkhxngtrakulthixuthisihkbkarsrangkaaephngehlani inpi kh s 1660 ekidehtukarnfaphathikhlngaesngepnphlihekidraebidaelaifihmtwprasath caknninpi 1665 ekidfaphathaihtwprasathhlkidrbkhwamesiyhayaelaphnglngma hlngthukplxythingrangmanan rthbalexodatxngkarcasxmtwprasathsungmiswnihtxngsxmxikmak inpi 1843 rthbalcungideriyirengincakprachachninthxngthinephuxsrangkhxkhxykhunmaihmxikkhrng inpi kh s 1868 prasathoxsakathuklxmdwykxngkalngckrphrrditxtanrthbalexoda aelatwprasathkthukephainsngkhramklangemuxngsmykarptirupemci txma rthbalemciidihprasathoxsakaepnkhlngaesngphlitpun xawuthyuththphnth aelaraebid ephuxkhyaykhidkhwamsamarththangkarthharkhxngyipunintamaebbtawntk inpi kh s 1928 idmikarsranghxkhxyhlkkhunmaihmhlngcakthiethsbalemuxngoxsakasamarthradmthuncakprachachnmacanwnmak inchwngsngkhramolkkhrngthisxng khlngaesngklayepnaehlngphlitxawuthyuthothpkrnthisakhykhxngyipun mikhnngankwa 60 000 khn aelaepnepahmaykarocmtithangxakaskhxngfayphnthmitrdwy thaihprasathoxsakaesiyhayxyanghnkinchwngthaysngkhramemuxwnthi 14 singhakhm kh s 1945 cakkarthingraebidkhrngihy khlngaesngesiyhayiprxyla 90 aelakhnnganesiychiwit 382 khn inpi kh s 1995 ethsbalnkhroxsakaerimtnokhrngkarburnaprasathoxsakaxikkhrng odyihphaynxkyngkhngkhwamepnyukhexoda aephnkarburnaaelwesrcinpi 1997 twprasathmikhwamthnsmykhunmak aelamiswnbwy mitndxksakura milifttidtngphayinaelamisingxanwykhwamsadwkaebbsmyihmmakmaykhlngphaphhxkhxyklang pratuoxetmng phaphwadaesdngkhwamesiyhaykhxngprasathoxsaka inhnngsuxkhxngfrxngsws kharxn inpi kh s 1663 cakhlngkhakhxnghxkhxyklang prasathoxsaka swnbwyinxuthyanprasathoxsakaxangxingsthaniyxypraethsyipunsthaniyxyprawtisastr Osaka info jp khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 12 28 subkhnemux 2013 02 15 Meek Miki National Geographic Magazine khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 01 27 subkhnemux 2008 01 22 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite news title aemaebb Cite news cite news a rabu archivedate aela archive date makkwahnungraykar help rabu archiveurl aela archive url makkwahnungraykar help Ndl go jp khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 02 09 subkhnemux 2013 02 15 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a rabu archivedate aela archive date makkwahnungraykar help rabu archiveurl aela archive url makkwahnungraykar help aehlngkhxmulxunwikithxngethiyw mikhaaenanakarthxngethiywsahrb oxsaka wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb prasathoxsaka ewbistthangkar inphasaxngkvs 34 41 14 N 135 31 33 E 34 68722 N 135 52583 E 34 68722 135 52583