Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร เป็นนักการเมืองชาวไทย เป็นอดีตหัวหน้าพรรครัฐบุรุษ
ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร | |
|---|---|
 | |
| หัวหน้าพรรครัฐบุรุษ | |
| ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2517 – 24 ธันวาคม พ.ศ. 2518 | |
| ข้อมูลส่วนบุคคล | |
| เกิด | 7 ธันวาคม พ.ศ. 2481 จังหวัดมหาสารคาม |
| เสียชีวิต | 9 มกราคม พ.ศ. 2563 (81 ปี) กรุงเทพมหานคร |
| พรรคการเมือง | (2517-2518) (2512-2514) |
| คู่สมรส | พิมจันทร์ กมลเพ็ชร |
ประวัติ
ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (2498) ระดับอุดมศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2502) หลังจากจบการศึกษาได้สอบบรรจุเข้าทำงานในกรมมหาดไทยในตำแหน่งปลัดอำเภอบางรัก และสอบชิงทุนไปศึกษาดูงานในหลักสูตรพัฒนาชุมชนในมหาวิทยาลัยที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเวลา 9 เดือน จบแล้วได้กลับมาทำงานในกรมพัฒนาชุมชนที่เริ่มก่อตั้งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2499 ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายแผนงานและบริหารงานฝึกอบรม พร้อมรับผิดชอบงานวางแผนการพัฒนาภาคอีสานด้วย หลังจากนั้นได้ลาออกจากงานพร้อมกับพัฒนากรอีกสามสิบกว่าคนเพื่อประท้วงรัฐบาลโดยกรมมหาดไทยว่าขาดความจริงใจในการที่จะพัฒนาชุมชนตามภาระกิจหลักขององค์กร จึงได้ใช้เวลาช่วงนี้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้มีผลงานการเขียนในฐานะนักวิชาการทางการเมืองการปกครองออกมาหลายชิ้นที่สะท้อนภาพรวมของเหตุการณ์ทางการเมืองภายในประเทศสมัยนั้นอาทิ “ผลและผลสะท้อนของการปฏิวัติภายใต้การนำของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์” “ธรรมะปฏิวัติ” “ศานติปฏิวัติ”
หลังจากนั้นได้เบนเข็มไปสมัครเป็นผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ ทำงานที่ศูนย์เพิ่มผลผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม แล้วสอบไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการที่ศูนย์เพิ่มผลผลิตแห่งเอเชียที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 ปี ระหว่างนั้นได้รับเชิญให้ไปเป็นอาจารย์พิเศษสอนที่ Tokyo University of Foreign Studies เพื่อเผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมไทยให้นักศึกษาชาวญี่ปุ่นด้วย หลังจากนั้นได้รับเชิญกลับมาเป็นอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับนักศึกษาหลาย ๆ สถาบัน และได้เริ่มจุดกระแสการเรียกร้องรัฐธรรมนูญขึ้น แต่เนื่องจากถูกจำกัดเสรีภาพโดยรัฐบาลจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองได้คล่องตัวนัก แต่ช่วงนั้นรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจรเองก็ถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนักให้จำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในปี พ.ศ. 2512 และมีการเลือกตั้งซ่อมตามมาในอีกหลาย ๆ จังหวัด ประพันธ์ศักดิ์จึงสบโอกาสที่จะใช้เวทีปราศรัยหาเสียงในการเรียกร้องรัฐธรรมนูญและเผยแพร่แนวความคิดทางการเมืองเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงด้วย จึงลาออกจากการเป็นอาจารย์มาตั้งพรรคไทยธิปัตย์ขึ้นเพื่อใช้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดกาฬสินธุ์
ต่อมาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดอื่น ๆ อีก 4 จังหวัดติดต่อกันในนามขบวนการรัฐบุรุษ โดยเริ่มมีการรวบรวมประชามติเพื่อเสนอให้มีการเลือกตั้งนายกฯ โดยตรงจากประชาชนที่มาฟังการปราศรัยหาเสียงด้วย ประมาณปลายปี พ.ศ. 2514 หลังการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดพระนครได้จัดการปราศรัยขอบคุณประชาชน ณ ท้องสนามหลวงอันเป็นจุดกำเนิดขององค์กรชื่อว่า สภาประชาชนสนามหลวง หรือสภาราษฎรในกาลต่อมา ที่ประพันธ์ศักดิ์ภายหลังได้ใช้เป็นสภาคู่ขนานอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลฉ้อฉลจำนวนนับไม่ถ้วน และดำเนินงานทางการเมืองในเรื่องอื่น ๆ เรื่อยมาในฐานะประธานสภาฯ หลังจากหมดฤดูการเลือกตั้งซ่อมแล้วประพันธ์ศักดิ์ได้สอบเข้าทำงานที่การประปานครหลวงในตำแหน่งผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ ในระหว่างนี้กิจกรรมทางการเมืองของนักศึกษาและประชาชนในการเรียกร้องประชาธิปไตยก็เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ และต้องการให้เข้ามาช่วยในเรื่องการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ จึงลาออกจากการประปานครหลวงเพื่อให้สามารถลงมือทำงานทางการเมืองได้อย่างเต็มตัว ในช่วงนี้ประพันธ์ศักดิ์ได้เขียนบทความและบทกวีเรียกร้องรัฐธรรมนูญออกมาหลายชิ้นอาทิ “ธารอธิปไตย” “บทกวีปณิธานรัฐธรรมนูญ” และ “ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของปวงชนชาวไทย” ลงในหนังสือพิมพ์ประชาธิปไตยเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนที่กำลังมีพลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนนำมาสู่ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เรียกขานกันว่า "13 ขบถ รัฐธรรมนูญ" ที่ประพันธ์ศักดิ์เป็น 1 ใน 13 นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เดินแจกใบปลิวเรียกร้องรัฐธรรมนูญไปตามท้องถนนแล้วโดนรัฐบาลทหารจับไปขังที่คุกบางเขน จนมีนิสิตนักศึกษาประชาชนจำนวนมหาศาลพากันเดินลงถนนเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเผด็จการทหารปล่อยตัวบุคคลทั้ง 13 จนเป็นชนวนนำไปสู่ เหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516
หลังจากเหตุการณ์นี้ ประพันธ์ศักดิ์ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ และได้รับเลือกจากสมาชิกสมัชชาฯ ด้วยกันให้ไปเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2517 ที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนามม้านางเลิ้ง) ด้วย แต่เนื่องจากประพันธ์ศักดิ์มีความเห็นว่ารัฐธรรมนูญที่ร่างออกมายังไม่เป็นประชาธิปไตยเพียงพอจึงตัดสินใจไม่รับร่างแล้วลาออกจากการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติฯ ออกมาตั้งพรรครัฐบุรุษเพื่อต่อสู้ทางการเมืองในสนามเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ. 2518 ผลก็คือพ่ายแพ้แต่ชนะใจเยาวชน นิสิตนักศึกษา ประชาชน ที่รักชาติเอกราชประชาธิปไตยและความเป็นธรรม กาลเวลาผ่านไปแต่การเมืองไทยยังคงมีแต่การพลิกผันเปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างการยึดอำนาจรัฐประหารกับการเลือกตั้งทุจริต ประพันธ์ศักดิ์ยังยืนหยัดต่อสู้ด้วยการร่วมจัดตั้งพรรคราษฎร พรรคมหาชน สนับสนุนพรรคสยามประชาธิปไตยลงเลือกตั้ง รับเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคสยาม ได้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมทั้งสิ้น ๑๐ ครั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ๑ ครั้ง เพื่อเผยแพร่นโยบายทางการเมือง และบำเพ็ญตนเป็นนักการเมืองตัวอย่างที่ดีในการสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งไม่เคยซื้อเสียงเลือกตั้ง และไม่เคยทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้ง แม้แต่มาตราเดียว ทุนรอนทุกบาททุกสตางค์มาจากเงินส่วนตัวของครอบครัว ประพันธ์ศักดิ์ถือหลักว่านักการเมืองต้องเสียสละ ผลปรากฏว่าไม่สามารถฝ่าด่านการเมืองระบบผูกขาดทรราชย์ ต้องเคลื่อนไหวก่อกระแสฉันทามติมหาชนประชาธิปไตยต้านลู่ทางเผด็จการตลอดมาจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
การทำงาน
นายประพันธ์ศักดิ์ เคยเล่นการเมือง เคยเป็นผู้สมัคร ส.ส. สังกัด ในปี พ.ศ. 2512 และได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กระทั่งตั้งพรรคการเมืองมาหลายพรรค อาทิ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ประพันธ์ศักดิ์ ยังติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิดและเข้มข้นแม้กระทั่งในช่วงปลายของชีวิต โดยทำการเมืองภาคประชาชน โดยมีแนวความคิดเรื่อง "สภาราษฎร" ที่จะให้ราษฎรทั่วไปเป็นเจ้าของสภาและประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ในเหตุการณ์การขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2549 ได้เข้าร่วมมาตั้งแต่ต้นและแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม เนื่องจากเป็นอัมพฤกษ์ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น
อ้างอิง
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเปลี่ยนแปลงกรรมการอำนวยการพรรคการเมือง
- รายชื่อพรรคการเมืองไทย[]ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
- Thammasat University Library Catalog - Call no.: DS575 .ป414 2511[]
- National Library of Australia Catalog - Bib ID6569805
- อาลัย ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร - ผลงาน - ธารอธิปไตย
- อาลัย ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร - ผลงาน - ปณิธานรัฐธรรมนูญ
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-06-19. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-27. สืบค้นเมื่อ 2018-07-23.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-08. สืบค้นเมื่อ 2012-07-27.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ขบถ 14 ตุลา ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร อุดมคติประชาธิปไตยไม่มีสิ้นสุด 2007-03-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud praphnthskdi kmlephchr epnnkkaremuxngchawithy epnxdithwhnaphrrkhrthburuspraphnthskdi kmlephchrhwhnaphrrkhrthburusdarngtaaehnng ph s 2517 24 thnwakhm ph s 2518khxmulswnbukhkhlekid7 thnwakhm ph s 2481 cnghwdmhasarkhamesiychiwit9 mkrakhm ph s 2563 81 pi krungethphmhankhrphrrkhkaremuxng 2517 2518 2512 2514 khusmrsphimcnthr kmlephchrprawtipraphnthskdi kmlephchr saerckarsuksaradbmthymcakorngeriynswnkuhlabwithyaly 2498 radbxudmsuksacakkhnarthsastr culalngkrnmhawithyaly 2502 hlngcakcbkarsuksaidsxbbrrcuekhathanganinkrmmhadithyintaaehnngpldxaephxbangrk aelasxbchingthunipsuksadunganinhlksutrphthnachumchninmhawithyalythipraethsfilippinsepnewla 9 eduxn cbaelwidklbmathanganinkrmphthnachumchnthierimkxtngkhunihminpi ph s 2499 intaaehnnghwhnafayaephnnganaelabriharnganfukxbrm phrxmrbphidchxbnganwangaephnkarphthnaphakhxisandwy hlngcaknnidlaxxkcaknganphrxmkbphthnakrxiksamsibkwakhnephuxprathwngrthbalodykrmmhadithywakhadkhwamcringicinkarthicaphthnachumchntampharakichlkkhxngxngkhkr cungidichewlachwngniekhasuksatxinradbpriyyaoththikhnarthsastr culalngkrnmhawithyaly cnidmiphlngankarekhiyninthanankwichakarthangkaremuxngkarpkkhrxngxxkmahlaychinthisathxnphaphrwmkhxngehtukarnthangkaremuxngphayinpraethssmynnxathi phlaelaphlsathxnkhxngkarptiwtiphayitkarnakhxngcxmphl svsdi thnarcht thrrmaptiwti santiptiwti hlngcaknnidebnekhmipsmkhrepnphuechiywchayrahwangpraeths thanganthisunyephimphlphlitaehngpraethsithy krathrwngxutsahkrrm aelwsxbipthanganepnecahnathifayokhrngkarthisunyephimphlphlitaehngexechiythipraethsyipunepnewla 2 pi rahwangnnidrbechiyihipepnxacaryphiesssxnthi Tokyo University of Foreign Studies ephuxephyaephrphasaaelawthnthrrmithyihnksuksachawyipundwy hlngcaknnidrbechiyklbmaepnxacarypracakhnarthsastr culalngkrnmhawithyaly cungidmioxkasrwmkickrrmthangkaremuxngkbnksuksahlay sthabn aelaiderimcudkraaeskareriykrxngrththrrmnuykhun aetenuxngcakthukcakdesriphaphodyrthbalcungimsamarthekhluxnihwthangkaremuxngidkhlxngtwnk aetchwngnnrthbalcxmphlthnxm kittikhcrexngkthukkraaessngkhmkddnxyanghnkihcaepntxngcdkareluxktngthwipkhuninpi ph s 2512 aelamikareluxktngsxmtammainxikhlay cnghwd praphnthskdicungsboxkasthicaichewthiprasryhaesiynginkareriykrxngrththrrmnuyaelaephyaephraenwkhwamkhidthangkaremuxngeruxngkareluxknaykrthmntriodytrngdwy cunglaxxkcakkarepnxacarymatngphrrkhithythiptykhunephuxichlngsmkhrrbeluxktngepnphuaethnrasdrinkareluxktngsxmthicnghwdkalsinthu txmaidlngsmkhrrbeluxktngsxmincnghwdxun xik 4 cnghwdtidtxkninnamkhbwnkarrthburus odyerimmikarrwbrwmprachamtiephuxesnxihmikareluxktngnayk odytrngcakprachachnthimafngkarprasryhaesiyngdwy pramanplaypi ph s 2514 hlngkareluxktngsxmcnghwdphrankhridcdkarprasrykhxbkhunprachachn n thxngsnamhlwngxnepncudkaenidkhxngxngkhkrchuxwa sphaprachachnsnamhlwng hruxspharasdrinkaltxma thipraphnthskdiphayhlngidichepnsphakhukhnanxphiprayimiwwangicrthbalchxchlcanwnnbimthwn aeladaeninnganthangkaremuxngineruxngxun eruxymainthanaprathanspha hlngcakhmdvdukareluxktngsxmaelwpraphnthskdiidsxbekhathanganthikarprapankhrhlwngintaaehnngphuxanwykarkxngkarecahnathi inrahwangnikickrrmthangkaremuxngkhxngnksuksaaelaprachachninkareriykrxngprachathipitykerimekhmkhnkhuneruxy aelatxngkarihekhamachwyineruxngkareriykrxngrththrrmnuy cunglaxxkcakkarprapankhrhlwngephuxihsamarthlngmuxthanganthangkaremuxngidxyangetmtw inchwngnipraphnthskdiidekhiynbthkhwamaelabthkwieriykrxngrththrrmnuyxxkmahlaychinxathi tharxthipity bthkwipnithanrththrrmnuy aela prawtisastrhnaihmkhxngpwngchnchawithy lnginhnngsuxphimphprachathipityephuxsnbsnunkarekhluxnihwkhxngphakhprachachnthikalngmiphlngephimkhuneruxy cnnamasupraktkarnthangkaremuxngthieriykkhanknwa 13 khbth rththrrmnuy thipraphnthskdiepn 1 in 13 nkekhluxnihwthangkaremuxngthiedinaeckibpliweriykrxngrththrrmnuyiptamthxngthnnaelwodnrthbalthharcbipkhngthikhukbangekhn cnminisitnksuksaprachachncanwnmhasalphaknedinlngthnnephuxeriykrxngihrthbalephdckarthharplxytwbukhkhlthng 13 cnepnchnwnnaipsu ehtukarn 14 tula ph s 2516 hlngcakehtukarnni praphnthskdiidrbkaroprdekla aetngtngihepnsmachiksmchchaaehngchati aelaidrbeluxkcaksmachiksmchcha dwyknihipepnsmachiksphanitibyytiaehngchatiephuxthahnathirangrththrrmnuypi ph s 2517 thirachtvnmysmakhmaehngpraethsithy inphrabrmrachupthmph snammanangeling dwy aetenuxngcakpraphnthskdimikhwamehnwarththrrmnuythirangxxkmayngimepnprachathipityephiyngphxcungtdsinicimrbrangaelwlaxxkcakkarepnsmachiksphanitibyyti xxkmatngphrrkhrthburusephuxtxsuthangkaremuxnginsnameluxktngthwippi ph s 2518 phlkkhuxphayaephaetchnaiceyawchn nisitnksuksa prachachn thirkchatiexkrachprachathipityaelakhwamepnthrrm kalewlaphanipaetkaremuxngithyyngkhngmiaetkarphlikphnepliynaeplngipmarahwangkaryudxanacrthpraharkbkareluxktngthucrit praphnthskdiyngyunhydtxsudwykarrwmcdtngphrrkhrasdr phrrkhmhachn snbsnunphrrkhsyamprachathipitylngeluxktng rbepnprathanthipruksaphrrkhsyam idsmkhrrbeluxktngsmachiksphaphuaethnrasdrrwmthngsin 10 khrng phuwarachkarkrungethphmhankhr 1 khrng ephuxephyaephrnoybaythangkaremuxng aelabaephytnepnnkkaremuxngtwxyangthidiinkarsrangwthnthrrmthangkaremuxng rahwanghaesiyngeluxktngimekhysuxesiyngeluxktng aelaimekhythaphidkdhmayrththrrmnuy kdhmayphrrkhkaremuxngaelakdhmayeluxktng aemaetmatraediyw thunrxnthukbaththukstangkhmacakenginswntwkhxngkhrxbkhrw praphnthskdithuxhlkwankkaremuxngtxngesiysla phlpraktwaimsamarthfadankaremuxngrabbphukkhadthrrachy txngekhluxnihwkxkraaeschnthamtimhachnprachathipitytanluthangephdckartlxdmacwbcnwarasudthaykhxngchiwitkarthangannaypraphnthskdi ekhyelnkaremuxng ekhyepnphusmkhr s s sngkd inpi ph s 2512 aelaidrbaetngtngepnsmachiksphanitibyytiaehngchati inpi ph s 2516 krathngtngphrrkhkaremuxngmahlayphrrkh xathi aetimprasbkhwamsaerc praphnthskdi yngtidtamkaremuxngxyangiklchidaelaekhmkhnaemkrathnginchwngplaykhxngchiwit odythakaremuxngphakhprachachn odymiaenwkhwamkhideruxng spharasdr thicaihrasdrthwipepnecakhxngsphaaelaprachathipityxyangaethcring inehtukarnkarkhbil ph t th thksin chinwtr ihlaxxkcaktaaehnngnaykrthmntri inpi ph s 2549 idekharwmmatngaettnaelaaesdngkhwamkhidehn wiphakswicarnxyangrunaerng aemrangkaycaimexuxxanwyktam enuxngcakepnxmphvkstxngnngxyubnrthekhnxangxingprakaskrathrwngmhadithy eruxng karepliynaeplngkrrmkarxanwykarphrrkhkaremuxng raychuxphrrkhkaremuxngithy lingkesiy thankhxmulkaremuxngkarpkkhrxng sthabnphrapkekla Thammasat University Library Catalog Call no DS575 p414 2511 lingkesiy National Library of Australia Catalog Bib ID6569805 xaly praphnthskdi kmlephchr phlngan tharxthipity xaly praphnthskdi kmlephchr phlngan pnithanrththrrmnuy PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2018 06 19 subkhnemux 2017 03 16 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2015 09 27 subkhnemux 2018 07 23 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 11 08 subkhnemux 2012 07 27 aehlngkhxmulxunkhbth 14 tula praphnthskdi kmlephchr xudmkhtiprachathipityimmisinsud 2007 03 12 thi ewyaebkaemchchin