นารีมาน ศอดิก (อาหรับ:ناريمان صادق Nārīmān Sādiq, เกิด 31 ตุลาคม ค.ศ. 1933 —เสียชีวิต 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005) เป็นธิดาของนายฮุสเซน ฟาห์มี ศอดิก เบย์ และนางอาซีลา คามิล โดยนารีมานเป็นพระมเหสีองค์ที่สองของพระเจ้าฟารุกที่ 1 แห่งอียิปต์
นารีมาน ศอดิก | |
---|---|
สมเด็จพระราชินีแห่งอียิปต์ | |
ดำรงพระยศ | ค.ศ. 1951-1952 |
ก่อนหน้า | ฟารีดา |
ถัดไป | สิ้นสุด |
เกิด | 31 ตุลาคม ค.ศ. 1933 อเล็กซานเดรีย อียิปต์ |
เสียชีวิต | 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 (72 ปี) โรงพยาบาลดาร์ อัล-เฟาอัด กีซา อียิปต์ |
พระราชสวามี | พระเจ้าฟารุกที่ 1 แห่งอียิปต์ (ค.ศ. 1951-1954) |
สามี | นายอาดัม เอล นาจีบ (ค.ศ. 1954-1961) นายอิสมาอิล ฟาห์มี (ค.ศ. 1967-2005) |
บุตร | พระเจ้าฟูอัดที่ 2 แห่งอียิปต์ นายอะกรัม อาดัม อาเหม็ด เอล นาจีบ |
ราชวงศ์ | (อภิเษกสกสมรส) |
บิดา | นายฮุสเซน ฟาห์มี ศอดิก เบย์ |
มารดา | นางอาซีลา คามิล |
ประวัติ
นารีมาน ศอดิก เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1933 เป็นธิดาของนายฮุสเซน ฟาห์มี ศอดิก เบย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศอียิปต์ และนางอาซีละ คามิล ซึ่งเป็นบุตรสาวของกาเมล มะห์มุด
เนื่องด้วยสมเด็จพระราชินีฟารีดาแห่งอียิปต์ พระมเหสีของพระเจ้าฟารุกที่ 1 แห่งอียิปต์ มีพระประสูติกาลพระราชธิดาถึง 3 พระองค์ เป็นเวลาถึง 10 ปี สร้างความไม่พอพระทัยแก่พระเจ้าฟารุกเป็นอย่างมาก ด้วยความมุ่งมั่นในการที่จะได้พระโอรสเป็นรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ พระเจ้าฟารุกที่ 1 จึงได้ตัดสินพระทัยหย่ากับราชินีฟารีดา เพื่อให้แน่ใจต่อการสืบทอดราชบัลลังก์ รวมถึงการต่อต้านประชาชนที่ทำให้อำนาจของราชวงศ์มูฮัมหมัดอาลีเสื่อมลงเรื่อยๆ พระเจ้าฟารุกจึงมองหาเจ้าสาวชาวอียิปต์คนใหม่ ที่มิใช่ชนชั้นสูงมากนัก นั่นก็คือนารีมานนั่นเอง
อภิเษกสมรส
นารีมาน อภิเษกสมรสกับพระเจ้าฟารุกที่ 1 แห่งอียิปต์ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1951 ขณะที่เธอมีอายุได้ 16 ปี และฉายาว่า "ซินเดอเรลลาแห่งลุ่มน้ำไนล์" เธอถูกเลือกเพื่อเป็นสัญญาณการอยู่รอดของระบอบกษัตริย์ของอียิปต์ที่กำลังง่อนแง่นเนื่องจากขาดผู้สืบทอดอำนาจราชบัลลังก์กษัตริย์ แม้ว่านารีมานจะได้หมั้นหมายกับซากี้ ฮาเซม นักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วก็ตาม แต่เธอก็ได้ทำการยกเลิกการหมั้นนั้นเสีย เพื่อที่ตนจะได้เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งอียิปต์ เธอเข้าคอร์สลดน้ำหนัก เพื่อที่จะทำให้พระราชสวามีโปรด ในงานอภิเษกสมรสเธอได้ชุดครุยประดับเพชร 20,000 เม็ด โดยของขวัญแต่งงานล้วนทำจากทองคำ และถูกละลายไปหลังพิธีการ เธอได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งอียิปต์
ในวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1952 สมเด็จพระราชินีทรงมีพระประสูติกาลพระโอรสองค์แรกในพระเจ้าฟารุกที่ 1 แห่งอียิปต์ ซึ่งสร้างความปลื้มปิติแก่พระราชสวามีมาก ซึ่งพระราชโอรสองค์นี้มีพระนามว่า เจ้าชายฟูอัดที่ 2 ตามพระนามของพระราชบิดาของพระเจ้าฟารุก
ต่อมาในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 (Mohamed Naguib) ได้ก่อการรัฐประหารขึ้น โดยบังคับให้พระเจ้าฟารุกทรงสละราชสมบัติ และสถาปนาให้เจ้าชายฟูอัดที่ 2 ครองราชย์เป็นกษัตริย์อียิปต์องค์ใหม่ มีพระนามว่า พระเจ้าฟูอัดที่ 2 แห่งอียิปต์ โดยครองราชย์ในเวลาอันสั้นก่อนเพียงหนึ่งปี ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบราชาธิปไตยเป็นแบบสาธารณรัฐดังเช่นในปัจจุบัน
ชีวิตหลังการหย่า
หลังจากทรงสละราชสมบัติ พระเจ้าฟารุกได้เสด็จลี้ภัยไปกับเรือยอร์ชหลวง El-Mahrousa ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1953 สร้างความเบื่อหน่ายให้แก่สมเด็จพระราชินีนารีมานมาก โดยสมเด็จพระราชินีเสด็จกลับอียิปต์พร้อมด้วยมารดาของพระองค์ และได้ทำการหย่ากับพระเจ้าฟารุกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1954
การสมรสใหม่ครั้งที่สอง
ต่อมาในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1954 นารีมานได้สมรสใหม่กับ ดร.อาดัม เอล-นาจีบ ชาวเมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นนายแพทย์ประจำพระองค์ของพระเจ้าฟารุก อดีตพระราชสวามีนั่นเอง นารีมาน และสามีใหม่ มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน คือ นายอะกรัม อาดัม อาเหม็ด เอล นาจีบ และต่อมาภายหลังนารีมานกับ ดร.อาดัม ได้หย่ากันในปี ค.ศ. 1961
การสมรสครั้งสุดท้าย
ต่อมา เธอได้สมรสครั้งสุดท้ายกับ ดร.อิสมาอิล ฟาห์มี ซึ่งนายแพทย์ ในปี ค.ศ. 1967 โดยเธออาศัยอยู่กับเขาใน กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ จนถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิต
เสียชีวิต
นารีมานเริ่มมีอาการปอดบวม และนอนโรงพยาบาล ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยออกจากบ้านเลย นอกจากจะมีความจำเป็นจริงๆ เธอนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเนื่องจากเกิดอาการโคม่า และเสียชีวิตอย่างสงบในช่วงเช้าเวลา 8.00 นาฬิกา ของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 สิริอายุได้ 72 ปี
เกียรติยศ
- 31 ตุลาคม 1933 - พฤษภาคม 1951 : นางสาวนารีมาน ศอดิก
- 6 พฤษภาคม 1951 - 23 กรกฎาคม 1952 : เฮอร์มาเจสตี สมเด็จพระราชินีแห่งอียิปต์
- 23 กรกฎาคม 1952 - 2 กุมภาพันธ์ 1954 : เฮอร์มาเจสตี สมเด็จพระราชินีนารีมาน
อ้างอิง
- "Narriman Sadek". The Telegraph. March 1, 2005. สืบค้นเมื่อ 26 January 2011.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-19. สืบค้นเมื่อ 2009-12-04.
- Queen Narriman's Official website
- Egyptian Royalty by Ahmed S. Kamel, Hassan Kamel Kelisli-Morali, Georges Soliman and Magda Malek.
- L'Egypte D'Antan... Egypt in Bygone Days 2019-05-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน by Max Karkegi.
ก่อนหน้า | นารีมาน ศอดิก | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชินีฟารีดาแห่งอียิปต์ | สมเด็จพระราชินีแห่งอียิปต์ (6 พฤษภาคม ค.ศ. 1951-26 กรกฎาคม ค.ศ. 1952) | สิ้นสุดตำแหน่ง |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nariman sxdik xahrb ناريمان صادق Nariman Sadiq ekid 31 tulakhm kh s 1933 esiychiwit 16 kumphaphnth kh s 2005 epnthidakhxngnayhusesn fahmi sxdik eby aelanangxasila khamil odynarimanepnphramehsixngkhthisxngkhxngphraecafarukthi 1 aehngxiyiptnariman sxdiksmedcphrarachiniaehngxiyiptdarngphrayskh s 1951 1952kxnhnafaridathdipsinsudekid31 tulakhm kh s 1933 xelksanedriy xiyiptesiychiwit16 kumphaphnth kh s 2005 72 pi orngphyabaldar xl efaxd kisa xiyiptphrarachswamiphraecafarukthi 1 aehngxiyipt kh s 1951 1954 saminayxadm exl nacib kh s 1954 1961 nayxismaxil fahmi kh s 1967 2005 butrphraecafuxdthi 2 aehngxiyipt nayxakrm xadm xaehmd exl nacibrachwngs xphiesksksmrs bidanayhusesn fahmi sxdik ebymardanangxasila khamilprawtinariman sxdik ekidemuxwnthi 31 tulakhm kh s 1933 epnthidakhxngnayhusesn fahmi sxdik eby sungepnecahnathiradbsungkhxngpraethsxiyipt aelanangxasila khamil sungepnbutrsawkhxngkaeml mahmud enuxngdwysmedcphrarachinifaridaaehngxiyipt phramehsikhxngphraecafarukthi 1 aehngxiyipt miphraprasutikalphrarachthidathung 3 phraxngkh epnewlathung 10 pi srangkhwamimphxphrathyaekphraecafarukepnxyangmak dwykhwammungmninkarthicaidphraoxrsepnrchthayathsubthxdrachbllngk phraecafarukthi 1 cungidtdsinphrathyhyakbrachinifarida ephuxihaenictxkarsubthxdrachbllngk rwmthungkartxtanprachachnthithaihxanackhxngrachwngsmuhmhmdxaliesuxmlngeruxy phraecafarukcungmxnghaecasawchawxiyiptkhnihm thimiichchnchnsungmaknk nnkkhuxnarimannnexngxphiesksmrsnariman xphiesksmrskbphraecafarukthi 1 aehngxiyipt ineduxnphvsphakhm kh s 1951 khnathiethxmixayuid 16 pi aelachayawa sinedxerllaaehnglumnainl ethxthukeluxkephuxepnsyyankarxyurxdkhxngrabxbkstriykhxngxiyiptthikalngngxnaengnenuxngcakkhadphusubthxdxanacrachbllngkkstriy aemwanarimancaidhmnhmaykbsaki haesm nksuksaaephthycakmhawithyalyharwardaelwktam aetethxkidthakarykelikkarhmnnnesiy ephuxthitncaidepnsmedcphrarachiniaehngxiyipt ethxekhakhxrsldnahnk ephuxthicathaihphrarachswamioprd innganxphiesksmrsethxidchudkhruypradbephchr 20 000 emd odykhxngkhwyaetngnganlwnthacakthxngkha aelathuklalayiphlngphithikar ethxidrbkarsthapnaphraxisriyysepnsmedcphrarachiniaehngxiyipt inwnthi 16 mkrakhm kh s 1952 smedcphrarachinithrngmiphraprasutikalphraoxrsxngkhaerkinphraecafarukthi 1 aehngxiyipt sungsrangkhwamplumpitiaekphrarachswamimak sungphrarachoxrsxngkhnimiphranamwa ecachayfuxdthi 2 tamphranamkhxngphrarachbidakhxngphraecafaruk txmainwnthi 23 krkdakhm kh s 1952 Mohamed Naguib idkxkarrthpraharkhun odybngkhbihphraecafarukthrngslarachsmbti aelasthapnaihecachayfuxdthi 2 khrxngrachyepnkstriyxiyiptxngkhihm miphranamwa phraecafuxdthi 2 aehngxiyipt odykhrxngrachyinewlaxnsnkxnephiynghnungpi kxnthicaepliynaeplngkarpkkhrxngrabxbrachathipityepnaebbsatharnrthdngechninpccubnchiwithlngkarhyahlngcakthrngslarachsmbti phraecafarukidesdcliphyipkberuxyxrchhlwng El Mahrousa ineduxnminakhm kh s 1953 srangkhwamebuxhnayihaeksmedcphrarachininarimanmak odysmedcphrarachiniesdcklbxiyiptphrxmdwymardakhxngphraxngkh aelaidthakarhyakbphraecafarukinwnthi 2 kumphaphnth kh s 1954 karsmrsihmkhrngthisxng txmainwnthi 3 phvsphakhm kh s 1954 narimanidsmrsihmkb dr xadm exl nacib chawemuxngxelksanedriy sungepnnayaephthypracaphraxngkhkhxngphraecafaruk xditphrarachswaminnexng nariman aelasamiihm mibutrchaydwykn 1 khn khux nayxakrm xadm xaehmd exl nacib aelatxmaphayhlngnarimankb dr xadm idhyakninpi kh s 1961 karsmrskhrngsudthay txma ethxidsmrskhrngsudthaykb dr xismaxil fahmi sungnayaephthy inpi kh s 1967 odyethxxasyxyukbekhain krungikhor praethsxiyipt cnthungwarasudthayaehngchiwitesiychiwitnarimanerimmixakarpxdbwm aelanxnorngphyabal thngthikxnhnaniethximekhyxxkcakbanely nxkcakcamikhwamcaepncring ethxnxnphkrksatwxyuinorngphyabalenuxngcakekidxakarokhma aelaesiychiwitxyangsngbinchwngechaewla 8 00 nalika khxngwnthi 16 kumphaphnth ph s 2548 sirixayuid 72 piekiyrtiys31 tulakhm 1933 phvsphakhm 1951 nangsawnariman sxdik 6 phvsphakhm 1951 23 krkdakhm 1952 ehxrmaecsti smedcphrarachiniaehngxiyipt 23 krkdakhm 1952 2 kumphaphnth 1954 ehxrmaecsti smedcphrarachininarimanxangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb nariman sxdik Narriman Sadek The Telegraph March 1 2005 subkhnemux 26 January 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 10 19 subkhnemux 2009 12 04 Queen Narriman s Official website Egyptian Royalty by Ahmed S Kamel Hassan Kamel Kelisli Morali Georges Soliman and Magda Malek L Egypte D Antan Egypt in Bygone Days 2019 05 22 thi ewyaebkaemchchin by Max Karkegi kxnhna nariman sxdik thdipsmedcphrarachinifaridaaehngxiyipt smedcphrarachiniaehngxiyipt 6 phvsphakhm kh s 1951 26 krkdakhm kh s 1952 sinsudtaaehnng bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk