บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ อาจมีข้อเสนอแนะ |
ไซหนับ เป็นบุตรคนที่สามของท่านหญิง ฟาติมะฮ์ (อ.) บุตรสาวของท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อลฯ) และท่านอิมาม อาลี บิน อบีฏอลิบ(อ.) เธอเป็นหนึ่งในสตรีผู้มีเกรียรติในหมู่ ชีอะฮ์ และพวกเขาเรียกเธอว่า "ท่านหญิงไซนับ" ท่านหญิงเป็น น้องสาวของท่านอิมาม Hussein ibn Ali ผู้ที่ถูกสังหารในเหตการณ์กัรบาลา แต่ท่านหญิงภายหลังเหตุการกัรบาลาและหลังถูกจับเป็นเชลยและถูกจองจำ เธอมีบทบาทสำคัญในการปกป้องความชอบธรรมของพี่ชายของเธอ และปกป้องความชอบธรรมของบิดาของเธอ อาลี อิบนิ ฮุเซน (อิหม่ามท่านที่สี่ของ ชีอะห์ ) ก่อนการเดินทางไปกัรบาลาท่านหญิงแต่งงานกับ อับดุลลาห์ บิน ญะฟาร์ และท่านหญิงมีลูกชายสี่คนและลูกสาวอีกหนึ่งคน หลังจากที่พี่ชายถูกสังหารใน ในสงครามที่กัรบะลา ในปีคริสตศักราชที่ 680 (ปีฮิจเราะห์ศักราชที่ 61) ท่านหญิงไซหนับ มีบทบาทสำคัญในการปกป้องชีวิตของหลานชายของท่าน คืออาลี บิน ฮุเซน (อิมามซัยนุลอาบิดีน) และท่านหญิงถูกเรียกว่า "วีรสตรีแห่งกับบะลา " ด้วยเพราะความเสียสละและความกล้าหาญของเธอ ท่านหญิงไซหนับเสียชีวิตในปี ค.ศ. 681 เทียบเท่ากับปีฮิจเราะห์ศักราชที่ 63
การต้ังชื่อ
ท่านหญิงซัยนับ เกิดเมื่อวันที่ 5 ของ ญะมาดิลเอาวัล ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่หก หรืออีกในทัศนะหนึ่งท่านหญิงเกิดในวันที่ 5 ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 6 ตรงกับปีคริสต์ศักราชที่ 628
ตามรางานฮะดิษของชีอะฮ์ ตอนที่ท่านหญิงไซหนับ ถือกำเนิด ท่านศาดา มูฮัมหมัด กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทาง ท่านหญิงฟาติมะฮ์ขอให้ท่านอิมามอาลีผู้เป็นสามีตั้งชื่อให้ ท่านอิมามอาลีกล่าวตอบว่า : "ฉันจะไม่ทำสิ่งใดล้ำหน้าบิดาของท่านโอ้ฟาติมะฮ์ เราจะรอจนกว่าท่านนบีกลับมาจากการเดินทาง" เมื่อท่านศาสดามูฮัมหมัดกลับมาและได้ยินข่าวการคลอดบุตรของท่านหญิงซะฮ์รอจากท่านอิมามอาลี ท่านศาสดากล่าวว่า: "บุตรของฟาติมะฮ์คือบุตรของฉัน แต่อัลลอฮ์จะเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับพวกเขาเอง" (Naskh al- Tawarikh, vol. Zainabiya, p. 47) หลังจากนั้น ญิบรออีล ได้ลงมาและนำสลามและความสิริมงคลจากพระเจ้ามาส่งมอบให้ท่านศาสดาพร้อมกับกล่าวว่า : จงตั้งชื่อเด็กหญิงคนนี้ว่าไซหนับ ซึ่งชื่อนี้ได้ถูกเขียนไว้บนแผ่นจารึกที่ปลอดภัยแล้ว จากนั้นท่านศาสดามูฮัมหมัดได้รับท่านไซนับมาอุ้มและจูบพร้อมกับกล่าวว่า: ฉันขอให้ทุกคนเคารพเด็กผู้หญิงคนนี้ซึ่งนางจะเป็นเหมือน Khadijah ( Khasas al-Zainabiya, p. 15) คนต่อไป แต่บางรายงานกล่าวว่า ท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้ตั้งชื่อท่านหญิงเหมือนกับชื่อลูกพี่ลูกของท่านหญิง (ไม่ทราบแหล่ง) ไซหนับ : คือชื่อต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม (ดาห์ร่า) เป็นไม้ยืนต้นที่สวยงามและมีกลิ่นหอม (Muntahi Al-Arb) (Anandraj) (จากหนังสืออักรอบุลมะวาริด) (หนังสือ Nazim Al-Atab) และในหนังสือซะคีเราะฮ์ของ Khwarazmshahi หมายถึงความบริสุทธิ์ของการแสดงออกของผู้คน: ในการแสดงความบริสุทธิ์และความงามของรูปลักษณ์ของผู้คนที่จะใช้คำว่า ซัยนับ (หนังสือ Khwarizmshahi) (แหล่งต้นฉบับ: Dehkhoda Dictionary) (แหล่งต้นฉบับ: dictionary.abadis.ir)
การแต่งงาน
ท่านหญิงซัยนับได้แต่งงานกับหลานชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ของบิดาของเธอ อับดุลลาห์ บิน ญะฟัร อิบนิ อาบีตอลิบ ซึ่งมีอายุมากกว่าท่านหญิงห้าปี
นักประวัติศาสตร์นับจำนวนบุตรของท่านหญิงซัยนับและกล่าวถึงชื่อของบรรดาลูก ๆ ของท่านหหญิงแตกต่างกัน ฏอบาร์ซี รายงานจากนักวิชาการชีอะห์ว่า จำนวนบุตรของท่านหญิงมีสี่คนทีชื่อดังต่อไปนี้คือ อาลี,ญะอ์ฟัร,อูนุลอักบัรและอุมมุลกุลซูม
นักวิชาการบางท่านก็เขื่อว่าท่านหญิงซัยนับมีบุตรชายห้าคนกับอับดุลลาห์สามีของเธอ ได้แก่ อาลี,อูน,อัคบาร์,อับบาส,มูฮัมหมัด และเด็กหญิงชื่อ อุมมุลกุลซูม อับบาส อูน และ มุฮัมมัด ถูกสังหารในเหตุการณ์กัรบะลา
ชีวประวัติ
ชีวิตของท่านหญิงประสบกับความทุกข์ยากมากมาย เมื่อท่านหญิงอายุได้ 5 ขวบ ท่านสูญเสียปู่ มูฮัมหมัด บิน อับดุลลาห์ และในไม่กี่เดือนต่อมา ท่านหญิงสูญเสียแม่ ท่านหญิง ฟาติมะฮ์ซะฮ์รอ จากเหตุการณ์อันน่าเศร้าใจ และอีก 9 ปีท่านหญิงสูญเสียบิดา ท่านอิมาม อาลี อิบัน อาบีตาลิบ (ถูกสังหารโดยน้ำมือของอิบนิมุลญัม มุรอดีย์) และท่านหญิงยังได้เห็นการถูกสังหารของพี่ชาย อิมามฮัสซัน อัลมุจตะบา จนกระทั่งท่านหญิงเดินทางมาที่ กันบะลา และเผชิญเหตุการณ์ในวัน อาชูรอ และการถูกจองจำใน ซีเรีย และความทุกข์ทรมานมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการสูญเสียพี่น้องและญาติพี่น้องสิบแปดคน ในเวลาเพียงหนึ่งวัน ด้วยเหตุนี้เองท่านหญิงไซหนับจึงได้ฉายา "มารดาแห่งความทุกข์"
เนื่องจากความเจ็บป่วยของหลานชายของท่านหญิงคือท่านอิมาม อาลี บิน ฮุเซน ซึ่งในหมู่ชีอะฮ์เรียกว่า อิมามซัยนุลอาบิดีน ท่านหญิงกลายเป็นผู้นำกองคาราวานเชลย ท่านหญิงได้กล่าวคำเทศนาในวังของยะซีดเพือปกป้องพี่ชายของนางอิมามฮุเซน ท่านอิมาม อาลี บิน ฮุเซน ก็เช่นได้ขึ้น มิมบัร และกล่าวคำเทศเพื่อป้องกันตัวเองและบิดาของท่าน ยาซิดหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้และได้รับความกดดันจากประชาชนและความสำนึกผิดของประชาชน จนพวกรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไปและส่งคืนเชลยทั้งหลายกลับไปยัง มะดีนะฮ์ อย่างสมเกียรติ
สุนทรพจน์ในวังยะซีด
หลังจากเหตุการณ์กัรบะลาอ์ ท่านหญิงไซนับกล่าวสุนทรพจน์ที่โด่งดังและร้อนแรงต่อหน้า ยาซิด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบทสุนทรพจน์ที่สำคัญและมีอิทธิพลมากที่สุดในการปกป้องความชอบธรรมของอิมามฮุเซน บิน อาลี ไซนับบุตรสาวของ ท่านอิมาม อาลี บิน อบีฏอลิบ ยืนขึ้นยืนในที่ประชุมและกล่าวว่า: ... โอ้ ยาซิดเจ้าคิดหรือว่าเจ้าได้ปิดแผ่นดินและขอบฟ้าให้แคบลง และปิดทางท้ังหมดจนทำให้เราถูกจับไปเป็นเชลย เหมือนเป็นทาส และคิดพวกเราต่ำต้อยและเจ้าสูงส่ง ณ ที่อัลลอฮ์กระ และเจ้าคิดว่าเจ้ามีสถานะอันสูงส่ง ณ ที่อัลลอฮ์กระนั้นหรือ ... ในไม่ช้าเจ้าจะได้เข้าร่วมกับบรรพบุรุษของเจ้าแล้ว และหวังว่าเจ้า ถึงเวลานั้นเจ้าจะเสียใจจนได้แต่หวังว่าจะเป็นใบ้และเป็นบ้า จะเสียใจว่าไม่น่าพูดในสิ่งที่เคยพูดและไม่น่าทำในสิ่งที่เคยทำไว้เลย ... ขอสาบานต่ออัลลอฮ์จะไม่ถูกถลกเว้นแต่ผิวหนังของเจ้า จะไม่เฉือนนอกจากจะเฉือนเนื้อตัวเอง .. โอ้ยะซีด แสดงความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเจ้าออกมาให้หมดเถิด ทำทุกอย่างที่อยากจะทำเถิด พยามเถิดในสิ่งที่อยากจะทำ ขอสาบานต่ออัลลอฮ์เจ้าจะไม่มีวันลบชื่อพวกเราได้หรอก ... เจ้าจะไม่มีวันลบความน่ารังเกียจที่ทำไว้ได้หรอก ... วันหนึ่งที่อำนาจและผู้คนรอบข้างเจ้าเหลือน้อยลง วันที่เสียงร้องไปสู่สัจธรรมดังขึ้น วันนั้นเจ้าจะพบกับความเลวร้าย ขอความเมตตาจากอัลลอฮ์จงห่างไกลจากผู้กดขี่ทั้งหลายเถิด
การเสียชีวิต
หลุมฝังศพของท่านหญิงไซหนับ ในอยู่เขตชานเมืองของ ดามัสกัส ซีเรีย ตามรายงานที่เป็นที่ยอมรับของนักวิชาการกล่าวว่า ท่านหญิงเสียชีวิตในวันที่ 15 เดือน Rajab ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 62
นักวิชาการบางคนเชื่อว่าท่านเสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษของยาซิด เพราะหลังจากกลับมาที่มะดีนะฮ์ ท่านหญิงร้องคร่ำครวญ และกล่าวสุนทรพจน์เพื่อปกป้องพี่ชายที่ถูกสังหาร สิ่งนี้ถือเป็นอันตรายต่อผู้ปกครองในสมัยนั้น []
นอกจากนี้ยังมีความขัดแย้งเกี่ยวกับสถานที่ฝังศพของทานหญิง นักประวัติศาสตร์หลายคน รวมทั้ง Massoudi ได้เขียนว่าท่านหญิงเสียชีวิตในมะดีนะฮ์ และสถานที่ฝังศพของท่านญิงคือ บาเกียะอ์ ใน มะดีนะฮ์ บางคนยังเชื่อว่า หลังเเหตุการณ์ฮุรเราะฮ์ในปีฮิจเราะฮ์ที่ 62 ท่านหญิงได้อพยพไปยังดามัสกัสกับสามี อับดุลลาห์ อิบนิ ญะฟัร ซึ่งเขามีที่ดินใน ดามัสกัส และเสียชีวิตในวันที่ 15 ราญับ 1362 ในกรุงดามัสกัส
ท่านหญิงไซหนับ เสียชีวิตในช่วงอายุเดียวกันกับพี่ชายของท่าน อิมามฮุเซนคือเสียชีวิตเมื่ออายุ 56 ปี
หลุมฝังศพของท่านหญิงซัยนับ
หมู่บ้านหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานของไซนับเป็นที่รู้จักในอดีตในชื่อรอวียะฮ์และปัจจุบันถูกเรียกว่าซัยนะบียะฮ์ ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านเชื่อมต่อกับเมืองดามัสกัสและตั้งอยู่ห่างจากสนามบิน ดามัสกัส ไปทางตะวันออกประมาณ 7 กิโลเมตร
ในถนนสายหลักของเมืองนี้ โดม และหอคอยสุเหร่าของหลุมฝังศพของท่านหญิงสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล โดมเป็นอาคารสีทอง และด้านตะวันออกและตะวันตกมี หอคอย ประดับด้วยกระเบื้อง สองหลัง
ฮะรัมของท่านหญิงตกแต่งด้วย กระเบื้องโมเสก ในยุคร่วมสมัยของ ซึ่งการ ปูกระเบื้อง นี้ทำโดย Ali Panjehpour ศิลปินชาวอิสฟาฮานประมาณ 10 ปีที่แล้วในสไตล์ อิสฟาฮาน
ที่ทางเข้าประตูด้านตะวันตกของหลุมฝังศพของท่านหญิงไซหนับและทางด้านขวาภายในห้องเล็ก ๆ มีหลุมฝังศพอีกสามแห่ง หนึ่งในนั้นคือหลุมฝังศพของ Hussein Yousef Maki Ameli ซึ่งเสียชีวิตในปี 1397 และอีกแห่งคือ Mohsen Al- Amin Ameli นักเขียนชื่อดังผลงาน อะอ์ยานุชีอะฮ์ และคนที่สามคือลูกสาวของ Mirza Taghi Behbahani
พื้นที่ของ หลุมฝังศพ ของท่านหญิงไซหนับ และลานภายในเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มี ห้องโถง โดม และ หลุมฝังศพ อยู่ตรงกลาง และมีทางเข้าสี่ทาง เพดานและตัวหลุมฝังศพประกอบจากสามส่วนด้วยกันที่ถูกสร้างเป็นแบบไต่ระดับเป็นชั้นบันไดที่มีโดมอยู่ตรงกลาง บนโดมนี้มีการเขียนประโยคจาก อัลกุรอาน และปิดทองโดยสาธารณรัฐอิสลามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ทางด้านตะวันออกของอาคารนี้ ห้องละหมาด Zeinabia สร้างขึ้นโดย Fahri Zanjani ตัวแทนของ Seyyed Ali Khamenei ในซีเรีย ในห้องจะให้ในการนมาซวันศุกร์ อ่านดุอา และนมาซญะมาอะฮ์ ห้องโถงหลังนี้ใหญ่มาก พื้นที่ทั้งหมดของประมาณหนึ่งหมื่นตารางเมตร มีห้องทั้งหมด 114 ห้องในหลุมฝังศพ โดย 64 ห้องอยู่ในลานขนาดใหญ่ ส่วนที่เหลืออยู่ในลานที่สองและรอบ ๆ husseiniyahs
หลุมฝังศพของท่านหญิงไซหนับ อยู่ตรงกลางของหลุมฝังศพที่มีมะกอมเป็นสีเงินและรอบ ๆ นั้นมีเสากระเบื้องแปดเสาซึ่งเป็นที่ตั้งของโดม ผนังของหลุมฝังศพเป็นสีขาวครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นกระจกเงา และเป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมอิสลามของอิหร่าน อาคารภายในและภายนอกอาคาร เช่นเดียวกับหออะซานและโดม มีอายุประมาณยี่สิบปี แต่การพัฒนารอบ ๆ ลานภายในและการตกแต่งทั้งหมดได้เสร็จสิ้นลงโดยความร่วมมือของสาธารณรัฐอิสลาม ตามคำกล่าวของ Hossein Emadzadeh ในหนังสือ ชีวประวัติของ 14 มะอ์ซูม การสร้างสุสานของท่านหญิงไซหนับ ได้รับการจัดระเบียบใหม่ ปิดทอง และตกแต่งใน สมัยของ Mohammad Reza Shah Pahlavi และตามคำสั่งของ Farah Pahlavi ราชินีแห่งอิหร่าน และค่าบำรุงรักษา ถูกส่งโดย Farah ทุกเดือน
ฉายานาม
- อุมมุลมะซออิบ
- อุมุรรอซายา
- อุมมุลนาวาอิบ
ชื่อ
- อัมมะตุสซาดาต
- Aqila Bani Hashem
- ศิดดีเกาะฮ์ ซุฆรอ
- เอาลิยามุค็อดดิเราะฮ์
- อาลิมะฮ์ ฆ็อยเราะ มุอัลลิมะฮ์
- ซิรุอาบีฮา
- มะอ์ซูมะฮ์
- อุมมุกุลซูม
- อิสมะตุซซุฆรอ
- ผู้พิทักษ์ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ
- นามุซุลกุบรอ
- ชะรีกะตุลฮุเซน
- Arefeh
- กามีละฮ์
- อาลีมะฮ์
- มุคบิเราะฮ์
- มุฮัดดะซะฮ์
- มะฮ์บูบ อัลมุสตอฟา
- บากียะฮ์
- อัลบาลีเฆาะฮ์
- ฟาฎิละฮ์
บทความเกี่ยวข้อง
- ฮุสเซน บิน อาลี
- เหตุการณ์กัรบะลา
- Ahl-e-Bayt
- สุสานประวัติศาสตร์ของดามัสกัส
แหล่งอ้างอิง
- Esposito, J.L., ed., The Oxford Dictionary of Islam, New York:2003
- ابن عساکر، اعلام النسا، ص۱۹۰؛ ریاحین الشریعه، ج۳، ص۴۱
- مفید، الارشاد فی معرفة حجج الله علی العباد، ۱۴۱۳ق، ج۲، ص۱۲۵
- متن سخنرانی حضرت زینب (س) در شام بر اساس نص لهوف
- رحلت حضرت زینب سلام الله علیها حوزه
- عمادزاده، حسین، ۱۳۳۹: زندگانی چهارده معصوم، تهران: نشر طلوع، ۱۳۶۰ صفحه.
- "کنیه و القاب حضرت زینب". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-03. สืบค้นเมื่อ 2022-03-30.
- سید احمد موسوی ( سید احمد موسوی ( سید احمد موسوی (คุณธรรมของ Zeinab, เตหะราน: Nik Maaref, p. سید احمد موسوی ( سید احمد موسوی (ชะบัก سید احمد موسوی (
การเชื่อมโยงภายนอก
- เว็บไซต์ของ Hazrat Zeinab International Congress
- ชีวิตของ Aghileh Bani Hashem Zeinab Kobra (PBUH) / บรรยายโดยลูกสาวของ Ali (AS) ในมัสยิด Kufa
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngekhiynihmthnghmdephuxihepniptammatrthankhunphaphkhxngwikiphiediy hruxkalngdaeninkarxyu khunchwyeraid xacmikhxesnxaena ishnb epnbutrkhnthisamkhxngthanhying fatimah x butrsawkhxngthansasdamuhmmd sxl aelathanximam xali bin xbitxlib x ethxepnhnunginstriphumiekriyrtiinhmu chixah aelaphwkekhaeriykethxwa thanhyingisnb thanhyingepn nxngsawkhxngthanximam Hussein ibn Ali phuthithuksngharinehtkarnkrbala aetthanhyingphayhlngehtukarkrbalaaelahlngthukcbepnechlyaelathukcxngca ethxmibthbathsakhyinkarpkpxngkhwamchxbthrrmkhxngphichaykhxngethx aelapkpxngkhwamchxbthrrmkhxngbidakhxngethx xali xibni huesn xihmamthanthisikhxng chixah kxnkaredinthangipkrbalathanhyingaetngngankb xbdullah bin yafar aelathanhyingmilukchaysikhnaelaluksawxikhnungkhn hlngcakthiphichaythuksngharin insngkhramthikrbala inpikhristskrachthi 680 pihiceraahskrachthi 61 thanhyingishnb mibthbathsakhyinkarpkpxngchiwitkhxnghlanchaykhxngthan khuxxali bin huesn ximamsynulxabidin aelathanhyingthukeriykwa wirstriaehngkbbala dwyephraakhwamesiyslaaelakhwamklahaykhxngethx thanhyingishnbesiychiwitinpi kh s 681 ethiybethakbpihiceraahskrachthi 63kartngchuxthanhyingsynb ekidemuxwnthi 5 khxng yamadilexawl inpihiceraahskrachthihk hruxxikinthsnahnungthanhyingekidinwnthi 5 pihiceraahskrachthi 6 trngkbpikhristskrachthi 628 tamranganhadiskhxngchixah txnthithanhyingishnb thuxkaenid thansada muhmhmd kalngxyuinrahwangkaredinthang thanhyingfatimahkhxihthanximamxaliphuepnsamitngchuxih thanximamxaliklawtxbwa chncaimthasingidlahnabidakhxngthanoxfatimah eracarxcnkwathannbiklbmacakkaredinthang emuxthansasdamuhmhmdklbmaaelaidyinkhawkarkhlxdbutrkhxngthanhyingsahrxcakthanximamxali thansasdaklawwa butrkhxngfatimahkhuxbutrkhxngchn aetxllxhcaepnphutdsinicekiywkbphwkekhaexng Naskh al Tawarikh vol Zainabiya p 47 hlngcaknn yibrxxil idlngmaaelanaslamaelakhwamsirimngkhlcakphraecamasngmxbihthansasdaphrxmkbklawwa cngtngchuxedkhyingkhnniwaishnb sungchuxniidthukekhiyniwbnaephncarukthiplxdphyaelw caknnthansasdamuhmhmdidrbthanisnbmaxumaelacubphrxmkbklawwa chnkhxihthukkhnekharphedkphuhyingkhnnisungnangcaepnehmuxn Khadijah Khasas al Zainabiya p 15 khntxip aetbangraynganklawwa thanhyingfatimahidtngchuxthanhyingehmuxnkbchuxlukphilukkhxngthanhying imthrabaehlng ishnb khuxchuxtnimthimiklinhxm dahra epnimyuntnthiswyngamaelamiklinhxm Muntahi Al Arb Anandraj cakhnngsuxxkrxbulmawarid hnngsux Nazim Al Atab aelainhnngsuxsakhieraahkhxng Khwarazmshahi hmaythungkhwambrisuththikhxngkaraesdngxxkkhxngphukhn inkaraesdngkhwambrisuththiaelakhwamngamkhxngruplksnkhxngphukhnthicaichkhawa synb hnngsux Khwarizmshahi aehlngtnchbb Dehkhoda Dictionary aehlngtnchbb dictionary abadis ir karaetngnganthanhyingsynbidaetngngankbhlanchay lukphiluknxng khxngbidakhxngethx xbdullah bin yafr xibni xabitxlib sungmixayumakkwathanhyinghapi nkprawtisastrnbcanwnbutrkhxngthanhyingsynbaelaklawthungchuxkhxngbrrdaluk khxngthanhhyingaetktangkn txbarsi rayngancaknkwichakarchixahwa canwnbutrkhxngthanhyingmisikhnthichuxdngtxipnikhux xali yaxfr xunulxkbraelaxummulkulsum nkwichakarbangthankekhuxwathanhyingsynbmibutrchayhakhnkbxbdullahsamikhxngethx idaek xali xun xkhbar xbbas muhmhmd aelaedkhyingchux xummulkulsum xbbas xun aela muhmmd thuksngharinehtukarnkrbalachiwprawtichiwitkhxngthanhyingprasbkbkhwamthukkhyakmakmay emuxthanhyingxayuid 5 khwb thansuyesiypu muhmhmd bin xbdullah aelainimkieduxntxma thanhyingsuyesiyaem thanhying fatimahsahrx cakehtukarnxnnaesraic aelaxik 9 pithanhyingsuyesiybida thanximam xali xibn xabitalib thuksngharodynamuxkhxngxibnimulym murxdiy aelathanhyingyngidehnkarthuksngharkhxngphichay ximamhssn xlmuctaba cnkrathngthanhyingedinthangmathi knbala aelaephchiyehtukarninwn xachurx aelakarthukcxngcain sieriy aelakhwamthukkhthrmanmakmay sunghnunginnnkhuxkarsuyesiyphinxngaelayatiphinxngsibaepdkhn inewlaephiynghnungwn dwyehtuniexngthanhyingishnbcungidchaya mardaaehngkhwamthukkh enuxngcakkhwamecbpwykhxnghlanchaykhxngthanhyingkhuxthanximam xali bin huesn sunginhmuchixaheriykwa ximamsynulxabidin thanhyingklayepnphunakxngkharawanechly thanhyingidklawkhaethsnainwngkhxngyasidephuxpkpxngphichaykhxngnangximamhuesn thanximam xali bin huesn kechnidkhun mimbr aelaklawkhaethsephuxpxngkntwexngaelabidakhxngthan yasidhlngcakidyinkhaphudehlaniaelaidrbkhwamkddncakprachachnaelakhwamsanukphidkhxngprachachn cnphwkrusukesiyickbsingthiekhaidkrathalngipaelasngkhunechlythnghlayklbipyng madinah xyangsmekiyrtisunthrphcninwngyasidZeinabia Hill inkrbalax hlngcakehtukarnkrbalax thanhyingisnbklawsunthrphcnthiodngdngaelarxnaerngtxhna yasid sungthuxepnhnunginbthsunthrphcnthisakhyaelamixiththiphlmakthisudinkarpkpxngkhwamchxbthrrmkhxngximamhuesn bin xali isnbbutrsawkhxng thanximam xali bin xbitxlib yunkhunyuninthiprachumaelaklawwa ox yasidecakhidhruxwaecaidpidaephndinaelakhxbfaihaekhblng aelapidthangthnghmdcnthaiherathukcbipepnechly ehmuxnepnthas aelakhidphwkeratatxyaelaecasungsng n thixllxhkra aelaecakhidwaecamisthanaxnsungsng n thixllxhkrannhrux inimchaecacaidekharwmkbbrrphburuskhxngecaaelw aelahwngwaeca thungewlannecacaesiyiccnidaethwngwacaepnibaelaepnba caesiyicwaimnaphudinsingthiekhyphudaelaimnathainsingthiekhythaiwely khxsabantxxllxhcaimthukthlkewnaetphiwhnngkhxngeca caimechuxnnxkcakcaechuxnenuxtwexng oxyasid aesdngkhwamecaelhephthubaykhxngecaxxkmaihhmdethid thathukxyangthixyakcathaethid phyamethidinsingthixyakcatha khxsabantxxllxhecacaimmiwnlbchuxphwkeraidhrxk ecacaimmiwnlbkhwamnarngekiycthithaiwidhrxk wnhnungthixanacaelaphukhnrxbkhangecaehluxnxylng wnthiesiyngrxngipsuscthrrmdngkhun wnnnecacaphbkbkhwamelwray khxkhwamemttacakxllxhcnghangiklcakphukdkhithnghlayethidkaresiychiwithlumfngsphkhxngthanhyingishnb inxyuekhtchanemuxngkhxng damsks sieriy tamraynganthiepnthiyxmrbkhxngnkwichakarklawwa thanhyingesiychiwitinwnthi 15 eduxn Rajab pihiceraahskrachthi 62 nkwichakarbangkhnechuxwathanesiychiwitcakkarthukwangyaphiskhxngyasid ephraahlngcakklbmathimadinah thanhyingrxngkhrakhrwy aelaklawsunthrphcnephuxpkpxngphichaythithuksnghar singnithuxepnxntraytxphupkkhrxnginsmynn txngkarxangxing nxkcakniyngmikhwamkhdaeyngekiywkbsthanthifngsphkhxngthanhying nkprawtisastrhlaykhn rwmthng Massoudi idekhiynwathanhyingesiychiwitinmadinah aelasthanthifngsphkhxngthanyingkhux baekiyax in madinah bangkhnyngechuxwa hlngeehtukarnhureraahinpihiceraahthi 62 thanhyingidxphyphipyngdamskskbsami xbdullah xibni yafr sungekhamithidinin damsks aelaesiychiwitinwnthi 15 rayb 1362 inkrungdamsks thanhyingishnb esiychiwitinchwngxayuediywknkbphichaykhxngthan ximamhuesnkhuxesiychiwitemuxxayu 56 pi hlumfngsphkhxngthanhyingsynb hmubanhnungsungepnthitngkhxngsusankhxngisnbepnthiruckinxditinchuxrxwiyahaelapccubnthukeriykwasynabiyah pccubnepnhmubanechuxmtxkbemuxngdamsksaelatngxyuhangcaksnambin damsks ipthangtawnxxkpraman 7 kiolemtr inthnnsayhlkkhxngemuxngni odm aelahxkhxysuehrakhxnghlumfngsphkhxngthanhyingsamarthmxngehnidcakrayaikl odmepnxakharsithxng aeladantawnxxkaelatawntkmi hxkhxy pradbdwykraebuxng sxnghlng harmkhxngthanhyingtkaetngdwy kraebuxngomesk inyukhrwmsmykhxng sungkar pukraebuxng nithaody Ali Panjehpour silpinchawxisfahanpraman 10 pithiaelwinsitl xisfahan thithangekhapratudantawntkkhxnghlumfngsphkhxngthanhyingishnbaelathangdankhwaphayinhxngelk mihlumfngsphxiksamaehng hnunginnnkhuxhlumfngsphkhxng Hussein Yousef Maki Ameli sungesiychiwitinpi 1397 aelaxikaehngkhux Mohsen Al Amin Ameli nkekhiynchuxdngphlngan xaxyanuchixah aelakhnthisamkhuxluksawkhxng Mirza Taghi Behbahani phunthikhxng hlumfngsph khxngthanhyingishnb aelalanphayinepnrupsiehliymctursthimi hxngothng odm aela hlumfngsph xyutrngklang aelamithangekhasithang ephdanaelatwhlumfngsphprakxbcaksamswndwyknthithuksrangepnaebbitradbepnchnbnidthimiodmxyutrngklang bnodmnimikarekhiynpraoykhcak xlkurxan aelapidthxngodysatharnrthxislaminchwngimkipithiphanma thangdantawnxxkkhxngxakharni hxnglahmad Zeinabia srangkhunody Fahri Zanjani twaethnkhxng Seyyed Ali Khamenei insieriy inhxngcaihinkarnmaswnsukr xanduxa aelanmasyamaxah hxngothnghlngniihymak phunthithnghmdkhxngpramanhnunghmuntarangemtr mihxngthnghmd 114 hxnginhlumfngsph ody 64 hxngxyuinlankhnadihy swnthiehluxxyuinlanthisxngaelarxb husseiniyahs hlumfngsphkhxngthanhyingishnb xyutrngklangkhxnghlumfngsphthimimakxmepnsienginaelarxb nnmiesakraebuxngaepdesasungepnthitngkhxngodm phnngkhxnghlumfngsphepnsikhawkhrunghnung swnthiehluxepnkrackenga aelaepnsilpaaelasthaptykrrmxislamkhxngxihran xakharphayinaelaphaynxkxakhar echnediywkbhxxasanaelaodm mixayupramanyisibpi aetkarphthnarxb lanphayinaelakartkaetngthnghmdidesrcsinlngodykhwamrwmmuxkhxngsatharnrthxislam tamkhaklawkhxng Hossein Emadzadeh inhnngsux chiwprawtikhxng 14 maxsum karsrangsusankhxngthanhyingishnb idrbkarcdraebiybihm pidthxng aelatkaetngin smykhxng Mohammad Reza Shah Pahlavi aelatamkhasngkhxng Farah Pahlavi rachiniaehngxihran aelakhabarungrksa thuksngody Farah thukeduxnchayanamxummulmasxxib xumurrxsaya xummulnawaxibchuxxmmatussadat Aqila Bani Hashem siddiekaah sukhrx exaliyamukhxddieraah xalimah khxyeraa muxllimah siruxabiha maxsumah xummukulsum xismatussukhrx phuphithkskhxngphraecaphuthrngvththanuphaph namusulkubrx charikatulhuesn Arefeh kamilah xalimah mukhbieraah muhddasah mahbub xlmustxfa bakiyah xlbaliekhaah fadilahbthkhwamekiywkhxnghusesn bin xali ehtukarnkrbala Ahl e Bayt susanprawtisastrkhxngdamsksaehlngxangxingEsposito J L ed The Oxford Dictionary of Islam New York 2003 ابن عساکر اعلام النسا ص۱۹۰ ریاحین الشریعه ج۳ ص۴۱ مفید الارشاد فی معرفة حجج الله علی العباد ۱۴۱۳ق ج۲ ص۱۲۵ متن سخنرانی حضرت زینب س در شام بر اساس نص لهوف رحلت حضرت زینب سلام الله علیها حوزه عمادزاده حسین ۱۳۳۹ زندگانی چهارده معصوم تهران نشر طلوع ۱۳۶۰ صفحه کنیه و القاب حضرت زینب khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 08 03 subkhnemux 2022 03 30 سید احمد موسوی سید احمد موسوی سید احمد موسوی khunthrrmkhxng Zeinab etharan Nik Maaref p سید احمد موسوی سید احمد موسوی chabk سید احمد موسوی karechuxmoyngphaynxkewbistkhxng Hazrat Zeinab International Congress chiwitkhxng Aghileh Bani Hashem Zeinab Kobra PBUH brryayodyluksawkhxng Ali AS inmsyid Kufa