เวียงต้า เป็น 1 ใน 9 ตำบลของอำเภอลอง จังหวัดแพร่ เป็นชุมชนโบราณที่ตั้งของศูนย์กลางการปกครองของเวียงต้า (เมืองต้า) มีวัดต้าเวียงเป็นวัดหลวงกลางเวียง และเวียงปูซึ่งเป็นเวียงบริวารของเวียงต้า
ตำบลเวียงต้า | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Wiang Ta |
นางสีเวย เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังวิหารของวัดต้าม่อน งานของฝีมือช่างชุดเดียวกันกับจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | แพร่ |
อำเภอ | ลอง |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 283.01 ตร.กม. (109.27 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2565) | |
• ทั้งหมด | 6,248 คน |
• ความหนาแน่น | 22.07 คน/ตร.กม. (57.2 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 54150 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 540304 |
เทศบาลตำบลเวียงต้า | |
---|---|
ทต.เวียงต้า ที่ตั้งสำนักงานเทศบาลตำบลเวียงต้า | |
พิกัด: 18°15′42.1″N 99°59′26.6″E / 18.261694°N 99.990722°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | แพร่ |
อำเภอ | ลอง |
จัดตั้ง | • 24 สิงหาคม 2516 (สภาตำบลเวียงต้า) • 30 มกราคม 2539 (อบต.เวียงต้า) • 18 กรกฎาคม 2551 (ทต.เวียงต้า) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 283.01 ตร.กม. (109.27 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2565) | |
• ทั้งหมด | 6,248 คน |
• ความหนาแน่น | 22.07 คน/ตร.กม. (57.2 คน/ตร.ไมล์) |
รหัส อปท. | 05540303 |
ที่อยู่ สำนักงาน | เลขที่ 45 หมู่ที่ 3 ถนนสายเวียงต้า – น้ำริน ตำบลเวียงต้า อำเภอลอง จังหวัดแพร่ 54150 |
เว็บไซต์ | www |
ที่ตั้งและอาณาเขต
ตำบลเวียงต้ามีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลห้วยหม้าย (อำเภอสอง) และตำบลวังหลวง ตำบลทุ่งแค้ว (อำเภอหนองม่วงไข่)
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลต้าผามอก และตำบลบ้านปิน
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลวังหงส์ (อำเภอเมืองแพร่) และตำบลต้าผามอก
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลนาสัก และตำบลจางเหนือ (อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง)
ประวัติ
เมืองต้า เป็นที่ราบแคบในหุบเขา มีห้วยแม่ต้าลำห้วยสาขาใหญ่ของแม่น้ำยมไหลผ่าน มีการสร้างบ้านแปลงเมืองต้าเนื่องจากมีแหล่งแร่เหล็กที่เรียกว่า “บ่อต้า” หรือ “บ่อเหล็กต้า” ปรากฏร่องรอยการถลุงตั้งแต่ยุคโลหะจึงดึงดูดผู้คนให้เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนขนาดเล็ก อีกทั้งตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมทางบก คือ เมืองลอง – เมืองต้า – เมืองสอง – เมืองน่าน – กลุ่มเมืองพะเยา เชียงแสน เชียงราย หรือ เมืองลอง – เมืองต้า – เมืองแพร่ ดังสมัยพญาเมกุ(กษัตริย์ล้านนา พ.ศ. 2094–2107) เคยใช้เส้นทางผ่านเมืองต้า เมื่อเสด็จกลับจากการทำสงครามกับล้านช้างจะขึ้นเมืองพระนครเชียงใหม่ใน พ.ศ. 2101 ดังตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวว่า
“...เดือน ๗ ออก ๒ ฅ่ำ ลุกแต่แก่งไปนอนยางคุนสะเอยียบ ๘๐๐๐ วา ยางคุนไปนอนป่าเลา ๑๒๐๐๐ วา ป่าเลาไปนอนเมืองสอง ๑๐๐๐๐ วา เมืองสองไปนอนวังฅำ ๕๐๐๐ วา วังฅำไปนอนป่าเสี้ยว ๑๒๐๐๐ วา ป่าเสี้ยวรอดแพล่ ๑๒๐๐๐ วา อยู่เมืองแพล่ ๑๒ วัน เดือน ๗ แรม ๑๓ ฅ่ำนำพระญาเชียงเลิอ (พญาเชียงเลือก หรือ พญาเชียงเรือ – ผู้เขียน) หื้อกินเมืองแพร่ แต่เมืองแพล่มานอนคราวตนหัว ๕๐๐๐ วา คราวตนหัวหัวมานอนน้ำต้า ๙๐๐๐ วา อยู่น้ำต้าวัน ๑ น้ำต้ามานอนห้วยส้ม ๙๓๐๐ วา ห้วยสมมานอนน้ำเมาะ ๙๒๐๐ วา น้ำเมาะรอดนคอร ๑๓๕๐๐ วา เดือน ๗ แรม ๑๓ ฅ่ำ นำจตุปริหมอฅำกินเมืองนคอร…”
ส่วนเส้นทางน้ำเมื่อเมืองลองเป็นชุมทางสถานีการค้าขนาดใหญ่ของแอ่ง ได้ขยายตัวขึ้นมาตอนเหนือเพื่อแสวงหาทรัพยากร เส้นทางน้ำจึงใช้เพียงลำเลียงสินค้าเหล็กและของป่าที่เก็บได้จากชุมชนนี้ลงสู่แม่น้ำยมเท่านั้น เพราะเป็นลำห้วยระยะสั้นๆ ไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอ่งภายนอกได้ กอปรกับการขยายตัวของอาณาจักรล้านนาในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช (พ.ศ. 1984–2030) ที่ทรงมีนโยบายขยายพระราชอาณาเขตออกไปให้กว้างขวาง จึงทรงทำสงครามกับหัวเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเมืองน่านและเมืองแพร่ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเมืองต้าเพื่อเป็นฐานกำลังให้กองทัพหลวงเชียงใหม่ จากตำนานเมืองต้ากล่าวว่าสร้างเมืองต้าโดยเจ้าเมืองลำปางเพื่อเป็นเมืองหน้าด่านระหว่างเมืองลำปางกับเมืองแพร่ เมื่อพิจารณาจากบริบทเหตุการณ์แล้วควรสร้างขึ้นในช่วงเจ้าหมื่นด้งนครเป็นเจ้าเมืองลำปาง (พ.ศ. 1980–1992) และสร้างขึ้นก่อนยึดได้เมืองแพร่ พ.ศ. 1986 และเมืองน่าน พ.ศ. 1992 ดังนั้นปัจจัยสำคัญของการก่อรูปเมืองต้าคือการขยายตัวของอาณาจักรล้านนา จึงได้สร้างบ้านแปลงเมืองต้าขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 (พ.ศ. 1901–2000) ซึ่งเมืองต้ามีการสร้างเวียงขึ้น 2 แห่ง คือ เวียงต้า เป็นเวียงศูนย์กลางการปกครองของเมืองต้า และเวียงปู เป็นเวียงบริวาร
- "เวียงต้า" (บ้านต้าม่อนและบ้านต้าเวียง) เวียงต้าอยู่เหนือเวียงลองประมาณ 37 กิโลเมตร เป็นศูนย์กลางการปกครองของเมืองต้า มีวัดต้าเวียงเป็นวัดหลวงกลางเวียง ตัวเวียงเป็นรูปเกือกม้า มีคูน้ำ 1 ชั้น กำแพงดิน 2 ชั้นล้อมรอบ 3 ด้าน ด้านทิศตะวันออกกำแพงเวียงติดห้วยแม่ต้าและสร้างกำแพงบรรจบกับหน้าผาสูงด้านตะวันตกที่มีถ้ำใช้หลบภัย ดังปรากฏตำนาน พญาอุปเสน เจ้าเมืองต้า และญาติวงศ์เข้าหลบภัยและสิ้นชีวิตภายในถ้ำจึงเรียกว่า “ผาเจ้า” เวียงต้ามีชัยภูมิที่ดี คือ ด้านหน้าติดแม่น้ำและด้านหลังติดหน้าผา การสร้างอย่างแน่นหนาเช่นนี้ เพราะเป็นเวียงหน้าด่านด้านตะวันออกให้เมืองลำปางและด้านเหนือให้เมืองลอง ในยามสงบก็เป็นศูนย์กลางควบคุมผลผลิตของเมืองต้า ส่งส่วยให้เมืองลองกับเมืองลำปาง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นพร้อมเมืองต้าช่วงระหว่าง พ.ศ. 1980–1986
- "เวียงปู" (บ้านต้าม่อนและบ้านเย็น) เป็นเวียงที่ตั้งอยู่เหนือสุดแอ่งลอง ห่างจากเวียงต้าประมาณ 1 กิโลเมตร ตัวเวียงเป็นรูปวงกลม มีคูน้ำ 1 ชั้น กำแพงดิน 2 ชั้น เป็นเวียงบริวารของเวียงต้า เวียงปู(ภูเขา) ตั้งบนเนิน ภายในเวียงไม่ปรากฏศาสนสถาน เป็นป้อมปราการสามารถมองเห็นได้รายรอบ อยู่ไม่ไกลจากเวียงศูนย์กลางสามารถยกกำลังเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที ดังนั้นเวียงปูจัดเป็นเวียงรูปแบบเดียวกับเวียงลัวะของเมืองลอง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเวลาใกล้เคียงกับเวียงต้าในปลายพุทธศตวรรษที่ 20 (พ.ศ. 1901–2000)
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
ตำบลเวียงต้าแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 10 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ 1 | บ้านแป้น | (Ban Paen) | หมู่ 7 | บ้านหัวฝาย | (Ban Hua Fai) | ||||||
หมู่ 2 | บ้านเหล่า | (Ban Lao) | หมู่ 8 | บ้านเหล่าศรีภูมิ | (Ban Lao Si Phum) | ||||||
หมู่ 3 | บ้านม่อน | (Ban Mon) | หมู่ 9 | บ้านสันติสุข | (Ban Santisuk) | ||||||
หมู่ 4 | บ้านน้ำดิบ | (Ban Nam Dip) | หมู่ 10 | บ้านแสนทอง | (Ban Saen Thong) | ||||||
หมู่ 5 | บ้านแหลง | (Ban Laeng) | |||||||||
หมู่ 6 | บ้านผาลาย | (Ban Pha Lai) |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่ตำบลเวียงต้า มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพียงแห่งเดียว คือ เทศบาลตำบลเวียงต้า ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเวียงต้าทั้งหมด ซึ่งเป็นสภาตำบลเวียงต้าที่จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2516 และยกฐานะขึ้นเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงต้าในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2539
เมื่อองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงต้า จังหวัดแพร่ มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น องค์การบริหารส่วนตำบลเวียงต้าได้ยกฐานะขึ้นเป็น เทศบาลตำบลเวียงต้า ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2551 และมีผลในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีเดียวกัน
อ้างอิง
- ประวัติศาสตร์เมืองลอง ๕ ยุคจารีต : ล้านนาแพร่ประชาสัมพันธ์ สืบค้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2566
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดตั้งสภาตำบลตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๒๖ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๕" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 90 (108 ง): (ฉบับพิเศษ) 1–72. วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2516
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 113 (9 ง): 5–219. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2023-05-03. สืบค้นเมื่อ 2023-05-15. วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2539
- "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงฐานะองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงต้า อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เป็นเทศบาลตำบลเวียงต้า". ราชกิจจานุเบกษา: 1. วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ewiyngta epn 1 in 9 tablkhxngxaephxlxng cnghwdaephr epnchumchnobranthitngkhxngsunyklangkarpkkhrxngkhxngewiyngta emuxngta miwdtaewiyngepnwdhlwngklangewiyng aelaewiyngpusungepnewiyngbriwarkhxngewiyngtatablewiyngtatablkarthxdesiyngxksrormn xksrormnTambon Wiang Tanangsiewy epnphaphcitrkrrmfaphnngwiharkhxngwdtamxn ngankhxngfimuxchangchudediywknkbcitrkrrmfaphnngwdphuminthr cnghwdnanpraethsithycnghwdaephrxaephxlxngphunthi thnghmd283 01 tr km 109 27 tr iml prachakr 2565 thnghmd6 248 khn khwamhnaaenn22 07 khn tr km 57 2 khn tr iml rhsiprsniy 54150rhsphumisastr540304swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyethsbaltablewiyngtaethsbaltabltht ewiyngtathitngsanknganethsbaltablewiyngtaphikd 18 15 42 1 N 99 59 26 6 E 18 261694 N 99 990722 E 18 261694 99 990722praeths ithycnghwdaephrxaephxlxngcdtng 24 singhakhm 2516 sphatablewiyngta 30 mkrakhm 2539 xbt ewiyngta 18 krkdakhm 2551 tht ewiyngta phunthi thnghmd283 01 tr km 109 27 tr iml prachakr 2565 thnghmd6 248 khn khwamhnaaenn22 07 khn tr km 57 2 khn tr iml rhs xpth 05540303thixyu sanknganelkhthi 45 hmuthi 3 thnnsayewiyngta narin tablewiyngta xaephxlxng cnghwdaephr 54150ewbistwww wbr wiangta wbr go wbr thswnhnungkhxngsaranukrmpraethsithythitngaelaxanaekhttablewiyngtamixanaekhttidtxkbxaephxaelacnghwdiklekhiyngdngni thisehnux tidtxkbtablhwyhmay xaephxsxng aelatablwnghlwng tablthungaekhw xaephxhnxngmwngikh thisit tidtxkbtabltaphamxk aelatablbanpin thistawnxxk tidtxkbtablwnghngs xaephxemuxngaephr aelatabltaphamxk thistawntk tidtxkbtablnask aelatablcangehnux xaephxaememaa cnghwdlapang prawtiemuxngta epnthirabaekhbinhubekha mihwyaemtalahwysakhaihykhxngaemnaymihlphan mikarsrangbanaeplngemuxngtaenuxngcakmiaehlngaerehlkthieriykwa bxta hrux bxehlkta praktrxngrxykarthlungtngaetyukholhacungdungdudphukhnihekhamatngthinthanepnchumchnkhnadelk xikthngtngxyubnesnthangkhmnakhmthangbk khux emuxnglxng emuxngta emuxngsxng emuxngnan klumemuxngphaeya echiyngaesn echiyngray hrux emuxnglxng emuxngta emuxngaephr dngsmyphyaemku kstriylanna ph s 2094 2107 ekhyichesnthangphanemuxngta emuxesdcklbcakkarthasngkhramkblanchangcakhunemuxngphrankhrechiyngihmin ph s 2101 dngtananphunemuxngechiyngihmklawwa eduxn 7 xxk 2 Kha lukaetaekngipnxnyangkhunsaexyiyb 8000 wa yangkhunipnxnpaela 12000 wa paelaipnxnemuxngsxng 10000 wa emuxngsxngipnxnwngKha 5000 wa wngKhaipnxnpaesiyw 12000 wa paesiywrxdaephl 12000 wa xyuemuxngaephl 12 wn eduxn 7 aerm 13 Khanaphrayaechiyngelix phyaechiyngeluxk hrux phyaechiyngerux phuekhiyn huxkinemuxngaephr aetemuxngaephlmanxnkhrawtnhw 5000 wa khrawtnhwhwmanxnnata 9000 wa xyunatawn 1 natamanxnhwysm 9300 wa hwysmmanxnnaemaa 9200 wa naemaarxdnkhxr 13500 wa eduxn 7 aerm 13 Kha nactuprihmxKhakinemuxngnkhxr swnesnthangnaemuxemuxnglxngepnchumthangsthanikarkhakhnadihykhxngaexng idkhyaytwkhunmatxnehnuxephuxaeswnghathrphyakr esnthangnacungichephiynglaeliyngsinkhaehlkaelakhxngpathiekbidcakchumchnnilngsuaemnaymethann ephraaepnlahwyrayasn imsamarthechuxmtxkbaexngphaynxkid kxprkbkarkhyaytwkhxngxanackrlannainrchsmyphraecatiolkrach ph s 1984 2030 thithrngminoybaykhyayphrarachxanaekhtxxkipihkwangkhwang cungthrngthasngkhramkbhwemuxngtang odyechphaaemuxngnanaelaemuxngaephr dwyehtunicungepnpccysakhyinkarsrangemuxngtaephuxepnthankalngihkxngthphhlwngechiyngihm caktananemuxngtaklawwasrangemuxngtaodyecaemuxnglapangephuxepnemuxnghnadanrahwangemuxnglapangkbemuxngaephr emuxphicarnacakbribthehtukarnaelwkhwrsrangkhuninchwngecahmundngnkhrepnecaemuxnglapang ph s 1980 1992 aelasrangkhunkxnyudidemuxngaephr ph s 1986 aelaemuxngnan ph s 1992 dngnnpccysakhykhxngkarkxrupemuxngtakhuxkarkhyaytwkhxngxanackrlanna cungidsrangbanaeplngemuxngtakhunrawplayphuththstwrrsthi 20 ph s 1901 2000 sungemuxngtamikarsrangewiyngkhun 2 aehng khux ewiyngta epnewiyngsunyklangkarpkkhrxngkhxngemuxngta aelaewiyngpu epnewiyngbriwar ewiyngta bantamxnaelabantaewiyng ewiyngtaxyuehnuxewiynglxngpraman 37 kiolemtr epnsunyklangkarpkkhrxngkhxngemuxngta miwdtaewiyngepnwdhlwngklangewiyng twewiyngepnrupekuxkma mikhuna 1 chn kaaephngdin 2 chnlxmrxb 3 dan danthistawnxxkkaaephngewiyngtidhwyaemtaaelasrangkaaephngbrrcbkbhnaphasungdantawntkthimithaichhlbphy dngprakttanan phyaxupesn ecaemuxngta aelayatiwngsekhahlbphyaelasinchiwitphayinthacungeriykwa phaeca ewiyngtamichyphumithidi khux danhnatidaemnaaeladanhlngtidhnapha karsrangxyangaennhnaechnni ephraaepnewiynghnadandantawnxxkihemuxnglapangaeladanehnuxihemuxnglxng inyamsngbkepnsunyklangkhwbkhumphlphlitkhxngemuxngta sngswyihemuxnglxngkbemuxnglapang snnisthanwasrangkhunphrxmemuxngtachwngrahwang ph s 1980 1986 ewiyngpu bantamxnaelabaneyn epnewiyngthitngxyuehnuxsudaexnglxng hangcakewiyngtapraman 1 kiolemtr twewiyngepnrupwngklm mikhuna 1 chn kaaephngdin 2 chn epnewiyngbriwarkhxngewiyngta ewiyngpu phuekha tngbnenin phayinewiyngimpraktsasnsthan epnpxmprakarsamarthmxngehnidrayrxb xyuimiklcakewiyngsunyklangsamarthykkalngekhachwyehluxidthnthwngthi dngnnewiyngpucdepnewiyngrupaebbediywkbewiynglwakhxngemuxnglxng snnisthanwasrangkhunewlaiklekhiyngkbewiyngtainplayphuththstwrrsthi 20 ph s 1901 2000 karaebngekhtkarpkkhrxngkarpkkhrxngswnphumiphakh tablewiyngtaaebngphunthikarpkkhrxngxxkepn 10 hmuban idaek hmu 1 banaepn Ban Paen hmu 7 banhwfay Ban Hua Fai hmu 2 banehla Ban Lao hmu 8 banehlasriphumi Ban Lao Si Phum hmu 3 banmxn Ban Mon hmu 9 bansntisukh Ban Santisuk hmu 4 bannadib Ban Nam Dip hmu 10 banaesnthxng Ban Saen Thong hmu 5 banaehlng Ban Laeng hmu 6 banphalay Ban Pha Lai karpkkhrxngswnthxngthin thxngthitablewiyngta mixngkhkrpkkhrxngswnthxngthin ephiyngaehngediyw khux ethsbaltablewiyngta khrxbkhlumphunthitablewiyngtathnghmd sungepnsphatablewiyngtathicdtngkhuninpi ph s 2516 aelaykthanakhunepnxngkhkarbriharswntablewiyngtainwnthi 30 mkrakhm ph s 2539 emuxxngkhkarbriharswntablewiyngta cnghwdaephr mikhwamecriykawhnamakkhun xngkhkarbriharswntablewiyngtaidykthanakhunepn ethsbaltablewiyngta tamprakaskrathrwngmhadithy emuxwnthi 25 mkrakhm ph s 2551 aelamiphlinwnthi 1 kumphaphnthpiediywknxangxingprawtisastremuxnglxng 5 yukhcarit lannaaephrprachasmphnth subkhnemuxwnthi 15 emsayn ph s 2566 prakaskrathrwngmhadithy eruxng karcdtngsphatabltamprakaskhnaptiwti chbbthi 326 lngwnthi 13 thnwakhm 2515 PDF rachkiccanuebksa 90 108 ng chbbphiess 1 72 wnthi 24 singhakhm ph s 2516 PDF rachkiccanuebksa 113 9 ng 5 219 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2023 05 03 subkhnemux 2023 05 15 wnthi 30 mkrakhm ph s 2539 prakaskrathrwngmhadithy eruxng epliynaeplngthanaxngkhkarbriharswntablewiyngta xaephxlxng cnghwdaephr epnethsbaltablewiyngta rachkiccanuebksa 1 wnthi 18 krkdakhm ph s 2551 bthkhwamekhtkarpkkhrxngkhxngpraethsithyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk