บทความนี้ไม่มีจาก |
จักรพรรดิปัฟเวลที่ 1 เปโตรวิช (รัสเซีย: Па́вел I Петро́вич; Pavel Petrovich;; 1 ตุลาคม [ตามปฎิทินเก่า: 20 กันยายน] ค.ศ. 1754 – 23 มีนาคม [ตามปฎิทินเก่า: 11 มีนาคม] ค.ศ. 1801) เป็นจักรพรรดิแห่งรัสเซีย ระหว่างปี 1796 – 1801 สวรรคตโดยการถูกปลงพระชนม์ขณะครองราชย์ พระราชโอรสของพระองค์ จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 1 จึงขึ้นสืบราชสมบัติต่อจากพระองค์
จักรพรรดิปัฟเวลที่ 1 | |||||
---|---|---|---|---|---|
![]() พระบรมสาทิสลักษณ์ โดย ในปี 1800 | |||||
จักรพรรดิแห่งรัสเซียทั้งปวง | |||||
ครองราชย์ | 17 พฤศจิกายน 1796 – 23 มีนาคม 1801 | ||||
ราชาภิเษก | 16 เมษายน 1797 | ||||
ก่อนหน้า | จักรพรรดินีนาถเยกาเจรีนาที่ 2 | ||||
ถัดไป | จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 1 | ||||
ครองราชย์ | 9 พฤศจิกายน 1763 – 23 มีนาคม 1801 | ||||
พระราชสมภพ | 1 ตุลาคม [ตามปฎิทินเก่า: 20 กันยายน] ค.ศ. 1754 เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก, จักรวรรดิรัสเซีย | ||||
สวรรคต | 23 มีนาคม ค.ศ. 1801 , เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก, จักรวรรดิรัสเซีย | (46 ปี)||||
ฝังพระศพ | |||||
คู่อภิเษก |
| ||||
พระราชบุตร รายละเอียด | |||||
| |||||
ราชวงศ์ | ฮ็อลชไตน์-ก็อทตาร์ฟ-โรมานอฟ (อย่างเป็นทางการ) (ข่าวลือ) | ||||
พระราชบิดา | จักรพรรดิปิออตร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย (อย่างเป็นทางการ) (ข่าวลือ) | ||||
พระราชมารดา | จักรพรรดินาถเยกาเจรีนาที่ 2 แห่งรัสเซีย | ||||
ศาสนา | รัสเซียออร์ทอดอกซ์ | ||||
ลายพระอภิไธย |
ทรงพระเยาว์
พระองค์พระราชสมภพ ณ พระตำหนักของพระอัยยิกา จักรพรรดินีนาถเยลีซาเวตา ในเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก เป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิปิออตร์ที่ 3 กับจักรพรรดินีนาถเยกาเจรีนาที่ 2 ในความทรงจำช่วงวัยเยาว์ของพระองค์ พระราชมารดาของพระองค์ทรงบ่งชี้เป็นนัยมากมายว่าพระราชบิดาของพระองค์ไม่ใช่ จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 3 แต่เป็นชู้รักของพระมารดานั้นคือ ขุนนางในราชสำนัก ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนเยกาเจรีนาอ้างว่าจักรพรรดิปีเตอร์ทรงเป็นหมันโดยไม่มีหลักฐานใดอ้างอิงถึง อีกทั้งยังอ้างว่าพระองค์ไม่สามารถมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเยกาเจรีนาตั้งแต่หมั้นกันจนกระทั่งปีเตอร์เข้ารับการผ่าตัด จึงทำให้พระองค์จะไม่สามารถให้กำเนิดรัชทายาทได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ฝ่ายผู้ที่ต่อต้านพอลได้ใช้โจมตีพระองค์ ซึ่งสามารถทำให้พระองค์พ้นจากความเป็นรัชทายาทได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากข้อสงสัยในสายเลือดกษัตริย์และสิทธิอันชอบธรรมในการขึ้นเสวยราชย์ของพระองค์ เยกาเจรีนาจึงตอบโต้โดยใช้ข้ออ้างที่คลุมเคลือว่าสรีระของพอลละม้ายคล้ายคลึงกับปีเตอร์ แม้กระนั้นก็ตามยังมีข้อสงสัยถึงข้ออ้างเกี่ยวกับบุตรนอกสมรสตามมา
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2WTI5dGJXOXVjeTkwYUhWdFlpOHpMek01TDA1aGRHRnNhV0ZmUVd4bGVHVnBaWFp1WVY5dlpsOVNkWE56YVdGZllubGZRUzVTYjNOc2FXNWZKVEk0TVRjM05pVXlRMTlJWlhKdGFYUmhaMlVsTWprdWFuQm5Mekl3TUhCNExVNWhkR0ZzYVdGZlFXeGxlR1ZwWlhadVlWOXZabDlTZFhOemFXRmZZbmxmUVM1U2IzTnNhVzVmSlRJNE1UYzNOaVV5UTE5SVpYSnRhWFJoWjJVbE1qa3VhbkJuLmpwZw==.jpg)
ในช่วงครั้งยังเป็นทารกปัฟเวลได้รับความเอาใจใส่โดยพระราชมารดาโดยพระอัยยิกาเยลีซาเวตา คอยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งถูกโรคร้ายลงโทษในภายหลัง ในขณะที่ยังเป็นเด็กพระองค์ถูกเล่าขานว่าทรงมีไหวพริบที่ดีและบุคลิกภาพที่เยี่ยมยอด ต่อมาพระนาสิก (จมูก) ของพระองค์หัก ทำให้ใบหน้าของพระองค์อัปลักษณ์ ที่ต่อมาพระองค์อ้างว่าเป็นผลมาจากโรคไข้รากสาดใหญ่ที่พระองค์ประชวรอย่างทรมานใน ค.ศ. 1771 ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้พระราชมารดาทรงเกลียดพระองค์ อีกทั้งยังมีผู้ที่หมายปองจะกำจัดพระองค์ และในช่วงวัยเยาว์นี้เองที่พระองค์ต้องทนอยู่กับความกลัวที่ว่าการลอบปลงพระชนม์จะมาถึงพระองค์ ถึงแม่เยกาเจรีนาจะเห็นว่าพระองค์อ่อนแอไม่เหมาะจะขึ้นครองราชย์ แต่ด้วยความที่เยกาเจรีนาเป็นผู้ซึ่งมีจิตใจรักเด็กอยู่แล้ว จึงปฏิบัติต่อพอลอย่างเมตตา พระองค์ถูกมองว่าเหลวไหลในงานราชการต่าง ๆ และตั้งข้อกังขาถึงอนาคตพระจักรพรรดิแห่งรัสเซีย ต่อมาเมื่อพระชนมายุมากขึ้นพระราชมารดาก็ได้นำภาระและความลำบากมาสู่พระองค์เมื่อพระราชมารดาจัดการอภิเษกสมรสครั้งแรกของพระองค์กับ เจ้าหญิงวิลเฮ็ลมีเนอ ธิดาใน ซึ่งต่อมาเปลี่ยนพระนามเป็น ซึ่งต่อมาทรงสิ้นพระชนม์ก่อนจะพระราชสวามีจะได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ และพระองค์อภิเษกสมรสอีกครั้งกับ (เจ้าหญิงโซฟี โดโรเทอาแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค) ผู้ซึ่งเป็นจักรพรรดินีในภายหลัง
ครองราชย์สมบัติ
พระองค์ขึ้นสืบราชสมบัติต่อจากพระราชมาดา จากการที่พระราชมารดาเกิดอาการโรคหลอดเลือดสมอง ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1796 และสวรรคตบนแท่นบรรทมอย่างสงบหลังจากฟื้นสติขึ้นมาได้ไม่นาน การกระทำแรกของพระองค์ในการเป็นพระจักรพรรดิคือการสั่งให้ไต่สวนเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อทราบแน่ชัดแล้วว่าพระราชมารดาสวรรคตจริงจึงได้ออกคำสั่งให้ทำลายพินัยกรรมของพระมารดาทิ้ง ซึ่งเป็นที่กล่าวลือกันว่าพินัยกรรมฉบับนี้เขียนขึ้นจากความปรารถนาที่เยกาเจรีนาต้องการจะกีดกันพระองค์จากราชบัลลังก์รัสเซียและยกให้ พระนัดดาพระองค์โตแทน ซึ่งจากความกลัวนี้เองที่น่าจะทำให้พระองค์ประกาศ หรือเป็นที่รู้จักในนาม "กฎหมายพอลไลน์" เพื่อเป็นการจำกัดหลักในการสรรหารัชทายาทขึ้นสืบราชบัลลังก์ในราชวงศ์โรมานอฟ ซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยรัชทายาทของพระองค์เลย
ช่วงปีแรกในรัชกาลของพระองค์ พระองค์ได้ปรับเปลี่ยนโยบายของพระราชมารดามากมายอย่างตรงกันข้ามและสุดโต่ง ถึงแม้พระองค์จะตั้งข้อหาอาญาต่อพวกลัทธิรุนแรง (Jacobinism) และเนรเทศผู้คนเพียงเพราะสวมใสเสื้อผ้าตามแบบชาวปารีสหรือผู้คนที่อ่านหนังสือภาษาฝรั่งเศส และประกาศอภัยโทษแก่ อะเลคซันดร์ ราดิชเชฟ ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วไปในฐานะนักวิจารณ์ที่ชอบวิจารณ์การทำงานของเยกาเจรีนา จนถูกจับและเนรเทศไปยังไซบีเรีย ทางด้านการทหาร ขณะกองกำลังทหารกลำงเข้าจู่โจมเปอร์เซีย ซึ่งเป็นพระราชประสงค์ชิ้นสุดท้ายของพระราชมารดาเกี่ยวกับ ก็ถูกเรียกกลับมายังเมืองหลวงภายในหนึ่งเดือนของการเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์ พระศพของพระราชบิดาปีเตอร์ก็ถูกขุดขึ้นมาเพื่อทำพิธีฝังพระศพใหม่อย่างเอิกเกริก ณ สุสานหลวงใน โบสถ์ปีเตอร์แอนด์พอล เพื่อเป็นการกลบข่าวลือเรื่องฐานะบุตรนอกสมรสของพระองค์ นอกจากนี้พอลต้องรับผิดชอบการเดินตรวจแถวสวนสนามซึ่งเป็นพระราชกรณียกิจที่ตกทอดมาจากจักรพรรดิปีเตอร์มหาราช จารึกบนถูกสถาปนาขึ้นในช่วงรัชกาลของพอลล์ใกล้ ๆ กลับพระตำหนักเซนต์ไมเคิลโดยเป็นภาษารัสเซีย แปลในภาษาอังกฤษว่า "To the Great-Grandfather from the Great-Grandson" ("แด่พระบรมปัยยิกาเจ้าจากพระบรมปนัดดา") ซึ่งมีความหมายเป็นนัย ๆ แต่ที่ปรากฏเด่นชัดคือคำเยาะเย้ยในภาษาละตินที่ว่า "PETRO PRIMO CATHERINA SECUNDA" ซึ่งเป็นคำจารึกอุทิศที่รู้จักไปทั่วสลักใต้ ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่โด่งดังที่สุดของปีเตอร์มหาราชในเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2WTI5dGJXOXVjeTkwYUhWdFlpOWpMMk5oTDFCaGQyeHZkM05yTFZCaGJHRnpkRjh5TURBMVgySXVhbkJuTHpJd01IQjRMVkJoZDJ4dmQzTnJMVkJoYkdGemRGOHlNREExWDJJdWFuQm4uanBn.jpg)
พระราชโอรสและพระราชธิดา
จักรพรรดิปัฟเวลที่ 1 และจักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย มีพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งสิ้น 10 พระองค์ ดังนี้
- จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 1 (ภาษารัสเซีย : Александр I Павлович ; 23 ธันวาคม ค.ศ. 1777 – 1 ธันวาคม ค.ศ. 1825)
- เสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากพระชนกเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1801
พระราชกิจด้านต่างประเทศ
ความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศของพระองค์ฉุดรั้งให้จักรวรรดิรัสเซียต้องเข้าสู่สงครามอีกครั้ง ในสงครามเพื่อต่อต้านฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1798 พระองค์ได้ส่งนายพลซูวารอฟไปปะทะกับนโปเลียนที่สวิตเซอร์แลนด์ และส่งนายพลยูชาคอฟไปช่วยปฏิบัติการของเนลสันในแถบเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากต้องอดทนผจญกับความยากลำบากในการรบจนได้รับชัยชนะจากกองกำลังที่ส่งไปทั้งสอง พระองค์ก็ทรงเปลี่ยนพระทัยกะทันหันโดยออกคำสั่งให้เหล่าทัพต่าง ๆ มุ่งทัพเข้าโจมตีสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1801 ซึ่งก่อนหน้านี้พระองค์ทรงทะเลาะกับฝรั่งเศสต่อมาก็กับอังกฤษหลังจากที่อังกฤษเข้ายึดมอลตาได้ อีกทั้งยังทรงละเลยกับแผนที่จะเข้าร่วมทำสงครามด้วยกันกับนาวิกโยธินฝรั่งเศส และความโง่เขลาของพระองค์อีกครั้งหนึ่งคือการส่งกองทหารม้าคอสเซคไปโจมตีกองทัพอังกฤษที่อินเดีย
ถูกลอบปลงพระชนม์
ลางสังหรณ์ถึงการถูกลอบปลงพระชนม์ของพระองค์มีมานานแล้ว พระองค์ทรงกำจัดขุนนางที่มีท่าที่เป็นปฏิปักษ์กับพระองค์ และอุปการะชุบเลี้ยงอีกทั้งยังมอบเบี้ยรางวัลแกขุนนางที่พระองค์ทรงไว้วางพระทัย นอกจากนี้พระองค์ยังทรงค้นพบถึงการกระทำเพทุบายและฉ้อราษฎบังหลวงร้ายแรงในท้องพระคลังรัสเซียด้วย อีกทั้งพระองค์ได้ทรงล้มเลิกกฎหมายของพระนางเจ้าแคทเธอรีนที่ว่าด้วยการสำเร็จโทษทางร่างกายโดยอิสระและทรงปรับเปลี่ยนใหม่อย่างสิ้นเชิงซึ่งเอื้อความชอบธรรมให้แกชนชั้นล่างมากขึ้น และทรงปรับเปลี่ยนวิธีการทำกสิกรรมของชาวรัสเซียให้ดีขึ้น ซึ่งถูกมองว่าเป็นนโยบายที่กลั่นแกล้งชนชั้นขุนนางและเป็นการชักชวนให้ผู้ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อพระองค์ล้มเลิกแผนการโค่นล้มพระองค์
กลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดการลอบปลงพระชนม์ได้จัดตั้งขึ้นหนึ่งเดือนก่อนการลงมือ โดยประกอบด้วย , , และ โดยเป็นพลเรือลูกครึ่งสเปน-เนเปิลส์ ซึ่งการเสียชีวิตของเขาทำให้การลอบปลงชนม์ล่าช้าออกไป โดยในคืนวันที่ 23 มีนาคม (นับตามแบบเก่า: 11 มีนาคม) ค.ศ. 1801 พระจักรพรรดิพอลล์ถูกปลงพระชนม์บนแท่นพระบรรทมในห้องบรรทมใหม่เอี่ยม ณ พระตำหนักใน โดยความร่วมมือจากการที่นายพเบนนิกเซนออกคำสั่งยกเลิกประจำการบริเวณพระตำหนักของเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาพระองค์ ผู้ซึ่งเป็นชาวฮันโนเฟอร์ในราชสำนักรัสเซีย อีกทั้งจากความร่วมมือของนายพลยาชวิลชาวจอร์เจีย โดยพวกเขาจู่โจมเข้าไปในห้องพระบรรทม ซึ่งก่อนหน้าที่ยังทรงพระกระยาหารค่ำด้วยกันกับเหล่านายพล เหล่าผู้ก่อกบฏพบตัวพระองค์ซ่อนอยู่ในผ้าบริเวณมุมห้อง จากนั้นลากตัวพระองค์ออกมาและบังคับให้ไปยังโต๊ะทรงงาน จากนั้นบังคับให้ทรงลงพระนามในเอกสารสละราชสมบัติ แต่พระองค์ทรงขัดขืนแต่ต่อสู้ ผู้ร่วมก่อกบฏคนหนึ่งจึงแทงพระองค์ด้วยดาบ พระองค์ทรงถึงหายใจไม่ออกและทรงกล่าวเหยียดหยามต่อความตาย ราชบัลลังก์ตกมาเป็นของพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ แกรนด์ดยุกอะเลคซันดร์ โดยนายพลนิโคลัส ซูบอฟ หนึ่งในผู้ร่วมก่อกบฏได้กล่าวแนะนำให้พระองค์ขึ้นสืบราชบัลลังก์ โดยกล่าวกับอะเลคซันดร์ว่า
ถึงเวลาที่พระองค์จะต้องทรงเติบใหญ่และเสวยราชย์เป็นจักรพรรดิแล้ว
— นายพลนิโคลัส ซูบอฟ
![image](https://www.wiki3.th-th.nina.az/image/aHR0cHM6Ly93d3cud2lraTMudGgtdGgubmluYS5hei9pbWFnZS9hSFIwY0hNNkx5OTFjR3h2WVdRdWQybHJhVzFsWkdsaExtOXlaeTkzYVd0cGNHVmthV0V2WTI5dGJXOXVjeTkwYUhWdFlpODRMemhsTDFOaGFXNTBYMUJsZEdWeWMySjFjbWRmVTNSZlRXbGphR0ZsYkNVeU4zTmZRMkZ6ZEd4bExtcHdaeTh5TlRCd2VDMVRZV2x1ZEY5UVpYUmxjbk5pZFhKblgxTjBYMDFwWTJoaFpXd2xNamR6WDBOaGMzUnNaUzVxY0djPS5qcGc=.jpg)
หมายเหตุ
- [: 6 พฤศจิกายน]
- [: 11 มีนาคม]
- [: 5 เมษายน]
- [: 11 มีนาคม]
อ้างอิง
ก่อนหน้า | จักรพรรดิปัฟเวลที่ 1 แห่งรัสเซีย | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
จักรพรรดินีนาถเยกาเจรีนาที่ 2 | ![]() | ![]() จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิรัสเซีย (17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1796 – 23 มีนาคม ค.ศ. 1801) | ![]() | จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 1 |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์