การพักรบตางกู (อังกฤษ: Tanggu Truce จีนตัวย่อ: 塘沽协定; จีนตัวเต็ม: 塘沽協定; พินอิน: Tánggū Xiédìng) , (ญี่ปุ่น: 塘沽協定; โรมาจิ: Tanku kyōtei) เป็นการพักรบ ระหว่างประเทศจีนกับจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่ เทียนจิน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1933 อย่างเป็นทางการ ภายหลังญี่ปุ่นรุกรานแมนจูเรียเมื่อสองปีที่แล้ว
เบื้องหลัง
หลังจาก กรณีมุกเดน เมื่อวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 1931 กองทัพคันโตของจักรวรรดิญี่ปุ่น และสามารถยึดครองแมนจูเรียทั้งหมดได้เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ 1932 จักรพรรดิผู่อี๋ จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง ผู้ซึ่งถูกเนรเทศใน กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกให้พระองค์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งแมนจูกัว ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ในเดือนมกราคม 1933 เพื่อที่จะรักษาแนวชายแดนด้านทิศใต้ กองทัพผสมญี่ปุ่น-แมนจูกัวได้ และภายหลังยึดมณฑลนี้ได้ในเดือนมีนาคม กองทัพญี่ปุ่นยังได้กวาดล้างกองทัพชาตินิยมจีนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เอาชนะกองทัพจีนได้ที่ และเข้าสู่มณฑลเหอเป่ย์
มหาอำนาจตะวันตกได้ประณามการกระทำของญี่ปุ่น แต่ก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้น เมื่อสันนิบาตชาติประกาศให้ญี่ปุ่นยอมยุติความเคลื่อนไหวลง หลังจากนั้น ญี่ปุ่นไม่ปฏิบัติตาม และได้ถอนตัวออกจากความเป็นสมาชิกของสันนิบาตชาติ เมื่อปี 1933
ด้านกองทัพญี่ปุ่นยังไม่ได้รับพระบัญชาใหม่จากสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ กองทัพญี่ปุ่นยังไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีนในตอนนี้ กองทัพญี่ปุ่นได้หยุดการรุกรานเมื่อเดือนพฤษภาคม 1933
การเจรจา
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1933 ผู้แทนชาวจีนและชาวญี่ปุ่นได้เดินทางมาประชุมเพื่อหาทางเจรจายุติความขัดแย้งครั้งนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นต้องการเขตปลอดทหาร ยาวตั้งแต่กำแพงเมืองจีนไปทางใต้กว่า 100 กิโลเมตร และจากปักกิ่งไปยังเทียนจิน รวมไปถึงให้ญี่ปุ่นครอบครองกำแพงเมืองจีนอีกด้วย โดยห้ามมิให้มีทหารของก๊กมินตั๋งแม้แต่นายเดียวอยู่ในเขตปลอดทหารแห่งนี้ และยังต้องอนุญาตให้ฝ่ายญี่ปุ่นมีหรือกองทหารลาดตระเวนเพื่อรักษาข้อตกลงดังนี้ด้วย และประชาชนซึ่งอยู่ในเขตปลอดทหารนี้จะอยู่ภายใต้อำนาจของ
จากข้อตกลงดังกล่าวได้ก่อให้เกิดจากกองกำลังรักษาสันติภาพที่ว่านี้ และแย่งอำนาจโดยที่รัฐบาลจีนและรัฐบาลญี่ปุ่นไม่อาจแก้ไขได้ หลังจากที่เจียงไคเช็คได้พ่ายแพ้ในการรบครั้งสำคัญหลายครั้งและสูญเสียเขตอิทธิพลให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งได้ทำให้เจียงไคเช็คมีความวิตกกังวลต่อพรรคคอมมิวนิสต์มากกว่าพวกญี่ปุ่นเสียอีก ดังนั้นรัฐบาลจีนจึงยอมรับข้อตกลงของญี่ปุ่นโดยไม่มีเงื่อนไข และนอกเหนือจากนั้น เขตปลอดทหารนี้ส่วนใหญ่จะเป็นดินแดนที่เหลืออยู่ของขุนศึกแห่งแมนจูเรีย จางเซวฺเหลียง
ผลที่ตามมา
การพักรบตางกูได้แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในดินแดนแมนจูกัวของรัฐบาลก๊กมินตั๋ง ซึ่งได้รับบทเรียนสำคัญจากเรอเหอ การพักรบครั้งนี้ได้ยุติการสู้รบระหว่างจีนและญี่ปุ่นเป็นเวลาช่วงระยะเวลาหนึ่ง และความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้รับการฟื้นฟู เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1935 สถานทูตชั้นสองของญี่ปุ่นในจีนได้เลื่อนสถานะขึ้นเป็นสถานทูต และเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1935 สิ้นสุดลง ช่วงเวลาพักรบนี้ทำให้รัฐบาลของเจียงไคเช็คได้เรียกระดมพล และพยายามแผ่อิทธิพลไปยังพรรคคอมมิวนิสต์จีน แม้ว่าจะต้องแลกกับการเสียดินแดนทางภาคเหนือก็ตาม แต่ทว่า ความคิดเห็นของประชาชนจีนส่วนใหญ่ได้มองว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นการเอื้ออำนวยให้แก่ฝ่ายญี่ปุ่นและได้สร้างความอับอายให้แก่ประเทศชาติ ถึงแม้ว่าข้อตกลงจะเป็นการสร้างเขตปลอดทหารก็ตาม แต่ว่าอิทธิพลของญี่ปุ่นยังคงคุกคามดินแดนจีนอยู่ดี และได้กลายมาเป็นความจริงเมื่อญี่ปุ่นรุกรานจีนในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1937
อ้างอิง
- Bix, Herbert B (2001). Hirohito and the Making of Modern Japan. Harper Perennial. .
- Fenby, Jonathan (2003). Chiang Kai-shek: China's Generalissimo and the Nation He Lost. Carroll & Graf Publishers. .
- Hane, Mikiso (2001). Modern Japan: A Historical Survey. Westview Press. .
แหล่งข้อมูลอื่น
- นิตยสารไทมส์ วันที่ 12 มิถุนายน 1933 2013-05-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karphkrbtangku xngkvs Tanggu Truce cintwyx 塘沽协定 cintwetm 塘沽協定 phinxin Tanggu Xieding yipun 塘沽協定 ormaci Tanku kyōtei epnkarphkrb rahwangpraethscinkbckrwrrdiyipun thi ethiyncin emuxwnthi 31 phvsphakhm kh s 1933 xyangepnthangkar phayhlngyipunrukranaemncueriyemuxsxngpithiaelwkarecrcathitangkuebuxnghlnghlngcak krnimukedn emuxwnthi 18 knyayn kh s 1931 kxngthphkhnotkhxngckrwrrdiyipun aelasamarthyudkhrxngaemncueriythnghmdidemuxthungeduxnkumphaphnth 1932 ckrphrrdiphuxi ckrphrrdiphraxngkhsudthayaehngrachwngsching phusungthukenrethsin kxngthphyipunideluxkihphraxngkhkhunepnphramhakstriyaehngaemncukw sungxyuphayitkarpkkhrxngkhxngkxngthphckrwrrdiyipun ineduxnmkrakhm 1933 ephuxthicarksaaenwchayaedndanthisit kxngthphphsmyipun aemncukwid aelaphayhlngyudmnthlniidineduxnminakhm kxngthphyipunyngidkwadlangkxngthphchatiniymcinipthangthistawnxxkechiyngehnux exachnakxngthphcinidthi aelaekhasumnthlehxepy mhaxanactawntkidpranamkarkrathakhxngyipun aetkimekidphlxairkhun emuxsnnibatchatiprakasihyipunyxmyutikhwamekhluxnihwlng hlngcaknn yipunimptibtitam aelaidthxntwxxkcakkhwamepnsmachikkhxngsnnibatchati emuxpi 1933 dankxngthphyipunyngimidrbphrabychaihmcaksmedcphrackrphrrdiochwa kxngthphyipunyngipimthungkaaephngemuxngcinintxnni kxngthphyipunidhyudkarrukranemuxeduxnphvsphakhm 1933karecrcaemuxwnthi 22 phvsphakhm 1933 phuaethnchawcinaelachawyipunidedinthangmaprachumephuxhathangecrcayutikhwamkhdaeyngkhrngni fayyipuntxngkarekhtplxdthhar yawtngaetkaaephngemuxngcinipthangitkwa 100 kiolemtr aelacakpkkingipyngethiyncin rwmipthungihyipunkhrxbkhrxngkaaephngemuxngcinxikdwy odyhammiihmithharkhxngkkmintngaemaetnayediywxyuinekhtplxdthharaehngni aelayngtxngxnuyatihfayyipunmihruxkxngthharladtraewnephuxrksakhxtklngdngnidwy aelaprachachnsungxyuinekhtplxdthharnicaxyuphayitxanackhxng cakkhxtklngdngklawidkxihekidcakkxngkalngrksasntiphaphthiwani aelaaeyngxanacodythirthbalcinaelarthbalyipunimxacaekikhid hlngcakthieciyngikhechkhidphayaephinkarrbkhrngsakhyhlaykhrngaelasuyesiyekhtxiththiphlihaekphrrkhkhxmmiwnistcin sungidthaiheciyngikhechkhmikhwamwitkkngwltxphrrkhkhxmmiwnistmakkwaphwkyipunesiyxik dngnnrthbalcincungyxmrbkhxtklngkhxngyipunodyimmienguxnikh aelanxkehnuxcaknn ekhtplxdthharniswnihycaepndinaednthiehluxxyukhxngkhunsukaehngaemncueriy cangesw ehliyngphlthitammakarphkrbtangkuidaesdngihehnthungkaryxmrbindinaednaemncukwkhxngrthbalkkmintng sungidrbbtheriynsakhycakerxehx karphkrbkhrngniidyutikarsurbrahwangcinaelayipunepnewlachwngrayaewlahnung aelakhwamsmphnthkhxngthngsxngpraethsidrbkarfunfu emuxwnthi 17 phvsphakhm kh s 1935 sthanthutchnsxngkhxngyipunincinideluxnsthanakhunepnsthanthut aelaemuxwnthi 10 mithunayn 1935 sinsudlng chwngewlaphkrbnithaihrthbalkhxngeciyngikhechkhideriykradmphl aelaphyayamaephxiththiphlipyngphrrkhkhxmmiwnistcin aemwacatxngaelkkbkaresiydinaednthangphakhehnuxktam aetthwa khwamkhidehnkhxngprachachncinswnihyidmxngwakhxtklngdngklawepnkarexuxxanwyihaekfayyipunaelaidsrangkhwamxbxayihaekpraethschati thungaemwakhxtklngcaepnkarsrangekhtplxdthharktam aetwaxiththiphlkhxngyipunyngkhngkhukkhamdinaedncinxyudi aelaidklaymaepnkhwamcringemuxyipunrukrancininsngkhramcin yipunkhrngthisxng inpi kh s 1937xangxingBix Herbert B 2001 Hirohito and the Making of Modern Japan Harper Perennial ISBN 0 06 093130 2 Fenby Jonathan 2003 Chiang Kai shek China s Generalissimo and the Nation He Lost Carroll amp Graf Publishers ISBN 0786713186 Hane Mikiso 2001 Modern Japan A Historical Survey Westview Press ISBN 0813337569 aehlngkhxmulxunnitysarithms wnthi 12 mithunayn 1933 2013 05 22 thi ewyaebkaemchchin