กันเกรา | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Asterids |
อันดับ: | Gentianales |
วงศ์: | Gentianaceae |
สกุล: | |
สปีชีส์: | F. fragrans |
ชื่อทวินาม | |
Fagraea fragrans Roxb. |
กันเกรา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Fagraea fragrans) เป็นขนาดกลางถึงใหญ่ ขึ้นโดยทั่วไปในทุกภาคของประเทศไทย ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนจะออกดอกเป็น ช่อสีเหลือง มีกลิ่นหอมขจรขจาย ต้นกันเกรามีชื่อเรียกอื่นว่า มันปลา ตำเสา มะซูไม้ต้น
กันเกรามีชื่อเรียกต่างกันไปคือ ภาคกลางเรียก กันเกรา ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียก มันปลา ส่วนภาคใต้เรียก ตำแสง หรือตำเสา มูซูเป็นภาษาถิ่นทางภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งถือเป็นชนิดหนึ่ง อันมีชื่อเป็นมงคลและมีคุณสมบัติที่ดีในการใช้ประโยชน์ คือชื่อกันเกราหมายถึง กันสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายไม่ให้มาทำอันตรายใด ๆ ชื่อตำเสาคือ เป็นมงคลแก่เสาบ้านไม่ให้ปลวก แมลงต่าง ๆ เจาะกิน ชื่อมันปลา น่าจะเป็นลักษณะของดอกที่เหมือนกับไขมันของปลาเมื่อลอยน้ำไขมันของปลาในถ้วยน้ำแกง โดยเฉพาะช่วงข้าวใหม่ปลามันที่ปลาจะมีความมันและเอร็ดอร่อยเป็นที่สุด
ต้นกันเกรามีลักษณะต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15–25 เมตร เปลือกสีน้ำตาลเข้ม แตกเป็นร่องลึกไม่เป็นระเบียบ ออกตรงกันข้าม แผ่นใบรูปมนขนาดกว้าง 2.5–3.5 เซนติเมตร ยาว 8–11 เซนติเมตร ปลายใบแหลมหรือยาวเรียว ฐานใบแหลม โคนมน ใบเขียวมันวาว มีทรงพุ่งเป็นทรงฉัตรแหลมสวยงาม ดอกเริ่มบานสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กลิ่นหอม ผลกลมเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 มิลลิเมตร สีส้มแล้วเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเลือดนกเมื่อแก่เต็มที่ มีเมล็ดขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก นิเวศวิทยา ขึ้นทั่วไปในป่าเบญจพรรณชื้นและตามที่ต่ำที่ชื้นแฉะใกล้น้ำทั่วทุกภาคของประเทศไทย ออกดอกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน เป็นผลช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ขยายพันธุ์โดยเมล็ด
ประโยชน์ได้แก่ เนื้อไม้สีเหลืองอ่อน เสี้ยนตรง เนื้อละเอียด เหนียว แข็ง ทนทาน ใช้ในการก่อสร้าง นิยมใช้ทำเสาเรือน แก่นมีรสฝาดใช้เข้ายาบำรุงธาตุ แน่นหน้าอก เปลือกใช้บำรุงโลหิต ผิวหนังพุพอง ปลูกเป็นไม้ประดับ ลักษณะลำต้นที่สวยงามทั้งลวดลายของเปลือกและเนื้อไม้ เหมาะแก่การนำไปใช้ประโยชน์ทำเครื่องเรือนและต่าง ๆ มีน้ำมันหอมระเหยที่เปลือก
กันเกรามีความสวยงามและกลิ่นหอมไม่เหมือนใคร ทั้งยังเป็นไม้มงคล 1 ใน 9 ชนิด เช่นเดียวกับราชพฤกษ์ ขนุน ชัยพฤกษ์ ไผ่สีสุก ทรงบาดาล สัก และพะยูง ที่คนนิยมนำมาใช้ในพิธีกรรมเมื่อเวลาก่อสร้างบ้านเรือนให้เป็นสิริมงคล นอกจากนั่นคนอีสานยังนำมาบูชาพระโดยเฉพาะเมื่อเวลางานบุญบวชนาคช่วงเดือนพฤษภาคมหรือเดือน 6 ของทุกปี ก่อนที่จะถึงวันผู้ที่จะบวชนาคต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจอย่างดี เรียกว่า การเข้านาค ผู้ที่จะบวชนาคซึ่งต้องมาเข้านาคนั้นจะต้องแต่งกายชุดสุภาพ มีหรือผ้าขาวม้าพับอย่างงามพาดบ่า รวมทั้งละเว้นอบายมุขต่างๆ พิธีกรรมหนึ่งของการเข้านาคจะมีการแห่ดอกไม้ก็คือดอกมันปลาหรือดอกกันเกรา จุดเริ่มต้นของขบวนอยู่ที่วัดจากนั้นก็เคลื่อนขบวนแห่ไปตามถนน บ้านเรือนท้องไร่ ท้องนา เพื่อไปเก็บดอกมันปลามาบูชาพระ พร้อมที่จะเข้า ในระหว่างการแห่ก็จะมีการตีกลองร้องเพลงไปโดยตลอด เวลาเริ่มแห่ก็ช่วงบ่ายๆพอขบวนจะกลับถึงวัดก็ใกล้ค่ำ พิธีกรรมต่อไปคือนำช่อของดอกมันปลาที่เก็บมาในขบวนแห่จุ่มน้ำแล้วสะบัดให้น้ำจากดอกมันปลาไปสรงพระพุทธรูปบูชาขอพรเป็นอันเสร็จพิธี ผู้ที่ร่วมพิธีกรรมตั้งแต่การแห่จนแล้วเสร็จพิธีจะมีพระ 1 รูป สามเณร คนที่จะอุปสมบท หญิงสาวที่อาจจะเป็นที่รักหรือเพื่อนๆของผู้ที่จะอุปสมบท รวมทั้งเด็กๆด้วย พิธีกรรมนี้จะทำจนกว่าจะถึงวันอุปสมบท เมื่อถึงวันอุปสมบทก็มีพิธีกรรมตามประเพณีซึ่งไม่ขอกล่าวในที่นี้
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
- พันธุ์ไม้มงคลพระราชทานและต้นไม้ประจำจังหวัดจังหวัดนครพนม
- ต้นไม้ประจำจังหวัดสุรินทร์ (พันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดคือมะค่าแต้)
สัญลักษณ์ประจำสถานศึกษา
- มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
- มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม
- มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
- โรงเรียนรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
- โรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์
- วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- กันเกรา 2009-01-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน กรมอุทยานแห่งชาติ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
knekrakarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Plantaeimidcdladb Angiospermsimidcdladb Eudicotsimidcdladb Asteridsxndb Gentianaleswngs Gentianaceaeskul spichis F fragranschuxthwinamFagraea fragrans Roxb knekra chuxwithyasastr Fagraea fragrans epnkhnadklangthungihy khunodythwipinthukphakhkhxngpraethsithy inchwngeduxnemsaynthungeduxnmithunayncaxxkdxkepn chxsiehluxng miklinhxmkhcrkhcay tnknekramichuxeriykxunwa mnpla taesa masuimtn knekramichuxeriyktangknipkhux phakhklangeriyk knekra phakhehnuxaelaphakhtawnxxkechiyngehnux eriyk mnpla swnphakhiteriyk taaesng hruxtaesa musuepnphasathinthangphakhittxnlang sungthuxepnchnidhnung xnmichuxepnmngkhlaelamikhunsmbtithidiinkarichpraoychn khuxchuxknekrahmaythung knsingchwraythnghlayimihmathaxntrayid chuxtaesakhux epnmngkhlaekesabanimihplwk aemlngtang ecaakin chuxmnpla nacaepnlksnakhxngdxkthiehmuxnkbikhmnkhxngplaemuxlxynaikhmnkhxngplainthwynaaekng odyechphaachwngkhawihmplamnthiplacamikhwammnaelaexrdxrxyepnthisud tnknekramilksnatnkhnadklangthungkhnadihy sung 15 25 emtr epluxksinatalekhm aetkepnrxnglukimepnraebiyb xxktrngknkham aephnibrupmnkhnadkwang 2 5 3 5 esntiemtr yaw 8 11 esntiemtr playibaehlmhruxyaweriyw thanibaehlm okhnmn ibekhiywmnwaw mithrngphungepnthrngchtraehlmswyngam dxkerimbansikhaw aelwepliynepnsiehluxng klinhxm phlklmelk esnphasunyklangpraman 6 milliemtr sismaelwepliynipepnsiaedngeluxdnkemuxaeketmthi miemldkhnadelkepncanwnmak niewswithya khunthwipinpaebycphrrnchunaelatamthitathichunaechaiklnathwthukphakhkhxngpraethsithy xxkdxkchwngeduxnemsaynthungmithunayn epnphlchwngeduxnmithunaynthungkrkdakhm khyayphnthuodyemld praoychnidaek enuximsiehluxngxxn esiyntrng enuxlaexiyd ehniyw aekhng thnthan ichinkarkxsrang niymichthaesaeruxn aeknmirsfadichekhayabarungthatu aennhnaxk epluxkichbarungolhit phiwhnngphuphxng plukepnimpradb lksnalatnthiswyngamthnglwdlaykhxngepluxkaelaenuxim ehmaaaekkarnaipichpraoychnthaekhruxngeruxnaelatang minamnhxmraehythiepluxk knekramikhwamswyngamaelaklinhxmimehmuxnikhr thngyngepnimmngkhl 1 in 9 chnid echnediywkbrachphvks khnun chyphvks iphsisuk thrngbadal sk aelaphayung thikhnniymnamaichinphithikrrmemuxewlakxsrangbaneruxnihepnsirimngkhl nxkcaknnkhnxisanyngnamabuchaphraodyechphaaemuxewlanganbuybwchnakhchwngeduxnphvsphakhmhruxeduxn 6 khxngthukpi kxnthicathungwnphuthicabwchnakhtxngmikaretriymtwetriymicxyangdi eriykwa karekhanakh phuthicabwchnakhsungtxngmaekhanakhnncatxngaetngkaychudsuphaph mihruxphakhawmaphbxyangngamphadba rwmthnglaewnxbaymukhtang phithikrrmhnungkhxngkarekhanakhcamikaraehdxkimkkhuxdxkmnplahruxdxkknekra cuderimtnkhxngkhbwnxyuthiwdcaknnkekhluxnkhbwnaehiptamthnn baneruxnthxngir thxngna ephuxipekbdxkmnplamabuchaphra phrxmthicaekha inrahwangkaraehkcamikartiklxngrxngephlngipodytlxd ewlaerimaehkchwngbayphxkhbwncaklbthungwdkiklkha phithikrrmtxipkhuxnachxkhxngdxkmnplathiekbmainkhbwnaehcumnaaelwsabdihnacakdxkmnplaipsrngphraphuththrupbuchakhxphrepnxnesrcphithi phuthirwmphithikrrmtngaetkaraehcnaelwesrcphithicamiphra 1 rup samenr khnthicaxupsmbth hyingsawthixaccaepnthirkhruxephuxnkhxngphuthicaxupsmbth rwmthngedkdwy phithikrrmnicathacnkwacathungwnxupsmbth emuxthungwnxupsmbthkmiphithikrrmtampraephnisungimkhxklawinthinisylksnpracacnghwdphnthuimmngkhlphrarachthanaelatnimpracacnghwdcnghwdnkhrphnm tnimpracacnghwdsurinthr phnthuimmngkhlphrarachthanpracacnghwdkhuxmakhaaet sylksnpracasthansuksamhawithyalyxublrachthani cnghwdxublrachthani mhawithyalynkhrphnm cnghwdnkhrphnm mhawithyalyrachphtrxyexd cnghwdrxyexd orngeriynrtnburi cnghwdsurinthr orngeriyn sur withyakhar cnghwd surinthr withyalyxachiwsuksasurinthr cnghwdsurinthr duephimraychuxphnthuimmngkhlphrarachthanpracacnghwdxangxingknekra 2009 01 16 thi ewyaebkaemchchin krmxuthyanaehngchati