เห็ดรา (อังกฤษ: fungus (เอกพจน์), fungi - ฟันไจ , funguses ฟันกัสเสส (พหูพจน์)) คือสิ่งมีชีวิตใด ๆ ในกลุ่มยูแคริโอตที่ประกอบด้วยทั้งสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอย่างยีสต์และรา และสิ่งมีชีวิตที่คุ้นเคยอย่าง เห็ด สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้รับการจัดเป็นอาณาจักรเห็ดราที่แยกออกจากสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์กลุ่มพืชและสัตว์
ฟันไจ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ต้นยุคดีโวเนียน–ปัจจุบัน (แต่ดูบทความ) 410–0Ma | |
---|---|
ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย:
| |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
เคลด: | |
เคลด: | |
ไม่ได้จัดลำดับ: | โอพิสโธคอนตา |
เคลด: | |
อาณาจักร: | เห็ดรา (L.) |
อาณาจักรย่อย/ไฟลัม/ไฟลัมย่อย | |
(inc. ) Subphyla |
ลักษณะเฉพาะที่จัดเห็ดราให้อยู่แยกในอาณาจักรอื่นจากพืช แบคทีเรีย และโพรทิสต์บางชนิด คือ ไคทินที่ผนังเซลล์ เห็ดราเหมือนกับสัตว์ตรงที่เป็นสิ่งมีชีวิตเฮเทโรทรอพ กล่าวคือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับอาหารโดยการย่อยโมเลกุลอาหารให้มีขนาดเล็กพอกับเซลล์ด้วย และไม่สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ การเติบโตเป็นวิธีของพวกมัน ยกเว้นสปอร์ (บางชนิดมีหางที่เรียกว่าแฟลเจลลัม) ที่อาจลอยไปตามอากาศหรือน้ำ เห็ดราเป็นผู้สลายสารอินทรีย์หลักในระบบนิเวศ ลักษณะดังกล่าวและลักษณะอื่น ๆ ทำให้เห็ดราได้รับการจัดให้เป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มเดียวกันเรียกว่า ยูไมโคตา (Eumycota) โดยมีบรรพบุรุษร่วมกัน (เกิดเป็นกลุ่ม) อันเป็นการอธิบายที่ได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มเห็ดรานี้แตกต่างจากไมเซโตซัว (ราเมือก) และ (ราน้ำ) ที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกัน การศึกษาที่เกี่ยวกับเห็ดราโดยเฉพาะ เรียกว่า ในอดีตกิณวิทยาจัดเป็นหนึ่งในสาขาของพฤกษศาสตร์ แม้ว่าทุกวันนี้จะเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า เห็ดรามีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกับสัตว์มากกว่าพืช
เห็ดราพบได้ทั่วโลก แต่ส่วนมากไม่มีความโดดเด่นเพราะมีขนาดเล็ก และมีการพรางตัวในดินหรือบนสิ่งที่ตายแล้ว เห็ดราบางชนิดยังมีจากพืช สัตว์ เห็ดราประเภทอื่นหรือกระทั่งปรสิต พวกมันจะเริ่มเป็นที่สังเกตได้เมื่อออกผลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเห็ดหรือราก็ตาม เห็ดรามีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายสารอินทรีย์และมีบทบาทโดยพื้นฐานในวัฏจักรสารอาหารและการแลกเปลี่ยนในธรรมชาติ พวกมันยังเป็นแหล่งอาหารโดยตรงมานานแล้ว ในรูปของเห็ด เป็นหัวเชื้อในการทำขนมปัง และในการหมักผลิตภัณฑ์หลาย ๆ อย่าง เช่น ไวน์ เบียร์ และซีอิ๊ว ตั้งแต่ช่วงคริสตทศวรรษที่ 1940 เห็ดรานำมาใช้ในการแพทย์ เพื่อผลิตยาปฏิชีวนะ และล่าสุด นำมาใช้ผลิตเอนไซม์มากมาย ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมและในผงซักฟอก เห็ดรายังใช้เป็นปราบแมลง โรคในพืช และวัชพืชต่าง ๆ สายพันธุ์มากมายของเห็ดราผลิตสารประกอบที่ออกฤทธิ์กับสิ่งมีชีวิต เรียกว่า ไมโซโทซิน เช่น อัลคาลอยด์และ ซึ่งเป็นพิษต่อสัตว์ รวมทั้งมนุษย์ โครงสร้างในบางสายพันธุ์ประกอบด้วยสารประกอบที่ออกฤทธิ์ต่อประสาท และใช้บริโภค หรือในพิธีกรรมทางศาสนาแบบดั้งเดิม เห็ดรายังสามารถทำลายโครงร่างของวัตถุดิบและสิ่งก่อสร้างได้ และกลายเป็นเชื้อโรคแก่มนุษย์หรือสัตว์อื่น ๆ การสูญเสียไร่เนื่องจากโรคทางเห็ดรา (เช่น ) หรืออาหารที่เน่าเสียสามารถมีผลกระทบขนาดใหญ่กับของมนุษย์และระบบนิเวศโดยรอบ
อาณาจักรเห็ดราประกอบไปด้วยความหลากหลายมากมายด้วยระบบนิเวศ การดำเนินชีวิต และสัณฐาน ตั้งแต่ไคทริดน้ำเซลล์เดียวไปจนถึงเห็ดขนาดใหญ่ ถึงกระนั้น ความหลากหลายทางชีวภาพที่แท้จริงของอาณาจักรเห็ดรายังไม่มีข้อมูลมากนัก ซึ่งได้มีการประมาณจำนวนสายพันธุ์ไว้ที่ 1.5 - 5 ล้านสายพันธุ์ โดยมีเพียง 5% เท่านั้นที่ได้รับการจำแนกประเภทแล้ว นับตั้งแต่การสำรวจในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 โดยคาร์ล ลินเนียส และ เห็ดราจำแนกประเภทตามสัณฐาน (เช่นสีของสปอร์ หรือลักษณะในระดับเล็ก ๆ) หรือรูปร่าง ความก้าวหน้าในอณูพันธุศาสตร์ได้เปิดทางให้สำหรับการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ เพื่อจัดลำดับตามอนุกรมวิธาน ซึ่งบางครั้งได้ขัดแย้งกับกลุ่มพันธุ์ที่ได้จัดไว้ก่อนในอดีตแล้ว การศึกษาในไม่กี่คริสต์ศตวรรษที่ผ่านมาได้ช่วยให้มีการตรวจสอบการจัดจำแนกประเภทใหม่ภายในอาณาจักรเห็ดรา ซึ่งได้แบ่งออกเป็นหนึ่ง เจ็ดไฟลัม และสิบไฟลัมย่อย
รากศัพท์
คำว่า เห็ดรา มีรากศัพท์จากคำว่า "เห็ด" กับ "รา" โดยบัญญัติขึ้นเพื่อใช้กับคำว่า fungi ในภาษาอังกฤษ
คำว่า fungus ในภาษาอังกฤษเป็นคำยืมจากภาษาละติน fungus (เห็ด) แต่เดิมใช้ในงานเขียนของและพลินี ซึ่งคำดังกล่าวก็มีรากศัพท์จากคำในภาษากรีกว่า sphongos (σφόγγος "ฟองน้ำ") หมายความถึงโครงสร้างและสัณฐานของเห็ดกับรา รากนี้ยังปรากฏใช้ในภาษาอื่นด้วย เช่น Schwamm ("ฟองน้ำ") และ Schimmel ("รา") ในภาษาเยอรมัน
คำว่า mycology มีรากศัพท์จากคำว่า mykes (μύκης "เห็ด") และ logos (λόγος "คำพูด วาทกรรม") โดยหมายถึงการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเห็ดรา รูปคุณศัพท์ในภาษาละตินของ "mycology" (mycologicæ) ปรากฏใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2339 ในหนังสือของ ส่วนคำว่า mycology นั้นปรากฏใช้ในภาษาอังกฤษตั้งแต่ พ.ศ. 2367 ในหนังสือของ ในงานตีพิมพ์ของ The English Flora of Sir James Edward Smith, Vol. 5. ของปี พ.ศ. 2379 ก็อิงคำว่า mycology ถึงการศึกษาเห็ดราเช่นกัน
กลุ่มของเห็ดราทั้งหมดที่ปรากฏในพื้นที่หรือภูมิภาคหนึ่งเรียกว่า
ลักษณะ
ก่อนที่จะมีสำหรับการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม นักอนุกรมวิธานพิจารณาว่าเห็ดราเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรพืช เพราะรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เหมือนกัน คือ ทั้งพืชและเห็ดราต่างเคลื่อนที่ไม่ได้เป็นส่วนมาก และยังมีความคล้ายคลึงกันในรูปร่างสัณฐานและพฤติกรรมการเจริญเติบโต เห็ดรามักจะเติบโตในดินและสร้างผลที่ปรากฏชัดเจน (สำหรับเห็ด) เช่นเดียวกับพืช บางครั้งเห็ดราก็มีรูปร่างคล้ายพืช เช่น มอสส์ ปัจจุบันอาณาจักรเห็ดราซึ่งแตกต่างจากทั้งพืชและสัตว์ ถูกพิจารณาว่าอยู่ต่างอาณาจักรกับพืช เชื่อกันว่าปรากฏขึ้นครั้งแรกราว ๆ 1 พันล้านปีก่อน (ประมาณจุดเริ่มต้นมหายุคนีโอโพรเทอโรโซอิก) ลักษณะทางสัณฐาน ชีวเคมี และพันธุกรรมบางอย่างของเห็ดรามีเหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่น แต่ก็มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้แยกจากอาณาจักรอื่นได้อย่างชัดเจน
ลักษณะที่เหมือน:
- กับยูแคริโอตอื่น: เซลล์เห็ดราประกอบไปด้วยนิวเคลียสมีเยื่อหุ้ม ข้างในมีโครโมโซมที่ประกอบด้วย DNA ที่มี เรียกว่า อินทรอน และบริเวณที่ถอดรหัสแล้ว เรียกว่า เห็ดรามีออร์แกเนลล์ที่หุ้มด้วยเยื่อ ได้แก่ ไมโทคอนเดรีย เยื่อหุ้มที่ประกอบด้วยสเตอรอล และไรโบโซมประเภท 80S ซึ่งพวกมันมีลักษณะเป็นสารประกอบคาร์โบไฮเดรตละลายน้ำได้ เช่น น้ำตาลแอลกอฮอล์ (เช่น ) น้ำตาลโมเลกุลคู่ (เช่น ) และพอลิแซ็กคาไรด์ (เช่น ไกลโคเจน ซึ่งพบในสัตว์เช่นกัน)
- กับสัตว์: เห็ดราไม่มีคลอโรพลาสต์ และเป็นสิ่งมีชีวิตเฮเทโรทรอพ จึงต้องการสารประกอบอินทรีย์เพื่อเป็นแหล่งพลังงาน
- กับพืช: เห็ดรามีผนังเซลล์และแวคิวโอล เห็ดรายังสืบพันธุ์โดยทั้งอาศัยและไม่อาศัยเพศ และผลิตสปอร์ เหมือนกับกลุ่มพืชดั้งเดิม (เช่น เฟิร์นและมอสส์) เห็ดรามีนิวเคลียร์ที่เป็นแฮพลอยด์
- กับพวกและแบคทีเรีย: เห็ดราชั้นสูง ยูกลีนิด และแบคทีเรียบางชนิดสร้างกรดอะมิโน ไลซีน ขึ้นในกระบวนการชีวสังเคราะห์ขั้นหนึ่ง เรียกว่า
- เซลล์เห็ดราส่วนมากมักจะเติบโตมาเป็นโครงสร้างรูปแท่งยาว ๆ เรียกว่า ไฮฟา ซึ่งอาจจะมีนิวเคลียสมากกว่าหนึ่งนิวเคลียสและขยายตัวที่ปลายยอด ที่ปลายยอดจะมีเวสิเคิล (โครงสร้างของเซลล์ที่ประกอบไปด้วยโปรตีน ลิพิด และโมเลกุลอินทรีย์อื่นๆ)ที่กระจายกันอยู่เป็นกลุ่มๆ เรียกว่า ทั้งเห็ดราและ (ราน้ำ) เจริญเติบโตเป็นไฮฟา ในทางตรงกันข้าม สิ่งมีชีวิตที่คล้าย ๆ กัน เช่นสาหร่ายสีเขียว เจริญเติบโตด้วยการแบ่งเซลล์ซ้ำ ๆ ภายในโซ่ของเซลล์ นอกจากนี้ยังมีเห็ดราเซลล์เดียว (ยีสต์) ที่ไม่มีโครงสร้างเป็นไฮฟา และเห็ดราที่มีทั้งโครงสร้างแบบไฮฟาและยีสต์
- เห็ดรามากกว่า 70 สายพันธุ์มี เหมือนกับพืชและสัตว์บางชนิด
ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์:
- บางสายพันธุ์เจริญเติบโตเป็นยีสต์เซลล์เดียวที่สืบพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ หรือ เห็ดราสองสัณฐานสามารถเปลี่ยนรูปร่างให้เป็นยีสต์และไฮฟาได้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมขณะนั้น
- ผนังเซลล์ของเห็ดรามีและไคติน แม้ว่ากลูแคนพบได้ในพืชและไคตินพบได้ในโครงกระดูกภายนอกของสัตว์ขาปล้อง เห็ดราเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่รวมทั้งสองอย่างเข้ากันเป็นองค์ประกอบในผนังเซลล์ และก็ไม่มีเซลลูโลส ต่างกับผนังเซลล์พืชและโอไมซีต
เห็ดราส่วนมากไม่มีระบบการลำเลียงน้ำและสารอาหารที่มีประสิทธิภาพที่เหมือนกับเนื้อไม้และของพืช เห็ดราบางชนิด เช่น ที่สร้างสายใย จึงมีลักษณะและทำหน้าที่คล้ายรากไม้ เพื่อลบข้อจำกัดนี้ ในฐานะที่เป็นยูแคริโอต เห็ดราจึงมีวิถีเมแทบอลิซึม สำหรับผลิตเทอร์พีนที่ใช้และเป็นตัวตั้งต้น พืชและสิ่งมีชีวิตอื่นบางชนิดมีเทอร์พีนในคลอโรพลาสต์ที่เห็ดราและสัตว์ไม่มี เห็ดราผลิตที่มีโครงสร้างคล้ายหรือเหมือนกับเมแทโบไลต์รองที่พบในพืช เอนไซม์ของพืชและเห็ดราส่วนมากที่สร้างสารประกอบต่างๆ เหล่านี้แตกต่างในลำดับโปรตีนและอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าเอนไซม์เหล่านี้ของพืชและเห็ดรามีต้นกำเนิดและวิวัฒนาการที่แตกต่างกัน
ความหลากหลาย
เห็ดราพบได้ทั่วโลก และเจริญเติบโตได้ในหลากหลายแหล่งที่อยู่ รวมทั้งสภาพแวดล้อมสุดขั้ว เช่น ทะเลทราย พื้นที่มีความเค็มสูง หรือพื้นที่มีรังสีก่อไอออน แม้กระทั่งตะกอนใต้ทะเลลึก เห็ดราบางชนิดสามารถมีชีวิตรอดจากรังสีคอสมิกและยูวีเข้มข้นที่มีในอวกาศ เห็ดราส่วนใหญ่เจริญเติบโตบนพื้นดิน แม้จะมีบางสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำแค่ช่วงหนึ่งของชีวิตหรือตลอดชีวิต เช่น เป็นปรสิตที่ทำให้ประชากรของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกลดลงทั่วโลก สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้ใช้ชีวิตช่วงหนึ่งเป็น ทำให้สามารถผลักตัวเองไปตามน้ำและเข้าไปอาศัยในตัวสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกได้ ตัวอย่างอื่นสำหรับเห็ดราที่อาศัยในน้ำรวมไปถึงพวกที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีการไหลเวียนความร้อนของมหาสมุทร
นักอนุกรมวิธานได้บรรยายเห็ดราไว้ประมาณ 120,000 ชนิด แต่ความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งอาณาจักรเห็ดราก็ยังคงไม่เป็นที่เข้าใจกันมากนัก การประมาณในปี 2560 เสนอว่าอาจมีเห็ดราอยู่ระหว่าง 2.2 ล้าน ถึง 3.8 ล้านชนิด ในทางกิณวิทยา แต่ละสายพันธุ์ของเห็ดราได้รับการจำแนกด้วยวิธีการหลายวิธี วิธีการจำแนกด้วยสัณฐาน เช่น ขนาดและรูปร่างของสปอร์หรือโครงสร้างผล นิยมใช้กันมากกับอาณาจักรเห็ดรา สายพันธุ์หนึ่งอาจจำแนกด้วยลักษณะทางกายภาพและทางเคมี เช่น ความสามารถในการเผาผลาญสารชีวเคมีบางชนิด หรือปฏิกิริยาที่มีต่อการทดสอบทางเคมี แนวคิดสปีชีส์ในทางชีววิทยา จะจำแนกแต่ละสปีชีส์ด้วยความสามารถใน การใช้อุปกรณ์โมเลกุลเพื่อศึกษาความหลากหลาย เช่น การหาลำดับดีเอ็นเอและการวิเคราะห์ทางโมเลกุล ได้ทำให้การประมาณความหลากหลายทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ดีมากยิ่งขึ้น
กิณวิทยา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สัณฐาน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กรารเคลื่อนไหว
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การสืบพันธุ์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วิวัฒนาการ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อนุกรมวิธาน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
นิเวศวิทยา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เห็ดราพิษ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กลไกที่ทำให้เกิดโรค
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การนำมาใช้ของมนุษย์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สามารถนำมาประกอบอาหารได้ (บางชนิดเท่านั้น)
อ้างอิง
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อMoore1980
- The classification system presented here is based on the 2007 phylogenetic study by Hibbett et al.
- "เห็ด (๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๓)". สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. สืบค้นเมื่อ 31 ธันวาคม 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSimpson1979
- Ainsworth, p. 2.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อMitzka1960
- Alexopoulos et al., p. 1.
- Persoon, Christiaan Hendrik (1796). (ภาษาละติน). Vol. Part 1. Leipzig, (Germany): Peter Philipp Wolf. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-19. สืบค้นเมื่อ 2019-12-31.
- Greville, Robert Kaye (1824). Scottish Cryptogamie Flora: Or Coloured Figures and Descriptions of Cryptogamic Plants, Belonging Chiefly to the Order Fungi. Vol. vol. 2. Edinburgh, Scotland: Maclachland and Stewart. p. 65.
{{}}
:|volume=
has extra text ((help)) From p. 65: "This little plant will probably not prove rare in Great Britain, when mycology shall be more studied." - Smith, James Edward; Hooker, William Jackson, ed. (1836). Berkeley, Miles Joseph (บ.ก.). The English Flora of Sir James Edward Smith. Vol. vol. 5, part II: "Class XXIV. Cryptogamia". London, England: Longman, Rees, Orme, Brown, Green & Longman. p. 7.
{{}}
:|volume=
has extra text ((help));|first2=
มีชื่อเรียกทั่วไป ((help)) From p. 7: "This has arisen, I conceive, partly from the practical difficulty of preserving specimens for the herbarium, partly from the absence of any general work, adapted to the immense advances which have of late years been made in the study of Mycology." - "LIAS Glossary". สืบค้นเมื่อ 14 August 2013.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBruns2006
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBaldauf1993
- Deacon, p. 4.
- Deacon, pp. 128–129.
- Alexopoulos et al., pp. 28–33.
- Alexopoulos et al., pp. 31–32.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อShoji2006
- Deacon, p. 58.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อZabriskie2000
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อXu2006
- Alexopoulos et al., pp. 27–28.
- Alexopoulos et al., p. 685.
- Alexopoulos et al., p. 30.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อDesjardin 2010
- Alexopoulos et al., pp. 32–33.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBowman2006
- Alexopoulos et al., p. 33.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อMikhail2005
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อKeller2005
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อWu2007
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTudzynski2005
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อVaupotic2008
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อDadachova2007
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อRaghukumar1998
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSancho2007
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBrem2008
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLeCalvez2009
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อMueller2006
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLucking2017
- Kirk et al., p. 489.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHibbett2007
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ehdra xngkvs fungus exkphcn fungi fnic funguses fnksess phhuphcn khuxsingmichiwitid inklumyuaekhrioxtthiprakxbdwythngsingmichiwitkhnadelkxyangyistaelara aelasingmichiwitthikhunekhyxyang ehd singmichiwitehlaniidrbkarcdepnxanackrehdrathiaeykxxkcaksingmichiwithlayesllklumphuchaelastwfnic chwngewlathimichiwitxyu tnyukhdioweniyn pccubn aetdubthkhwam 410 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg Ntamekhmnalikacakbnsay aebsidioximsitchnidhnung aexsokimsitchnidhnung khnmpngkhunra chnidhnung Aspergillus chnidhnungkarcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtekhld ekhld imidcdladb oxphisothkhxntaekhld xanackr ehdra L xanackryxy iflm iflmyxy inc dd dd Subphyla lksnaechphaathicdehdraihxyuaeykinxanackrxuncakphuch aebkhthieriy aelaophrthistbangchnid khux ikhthinthiphnngesll ehdraehmuxnkbstwtrngthiepnsingmichiwitehethorthrxph klawkhuxepnsingmichiwitthiidrbxaharodykaryxyomelkulxaharihmikhnadelkphxkbeslldwy aelaimsamarthsngekhraahdwyaesngid karetibotepnwithikhxngphwkmn ykewnspxr bangchnidmihangthieriykwaaeflecllm thixaclxyiptamxakashruxna ehdraepnphuslaysarxinthriyhlkinrabbniews lksnadngklawaelalksnaxun thaihehdraidrbkarcdihepnsingmichiwitklumediywkneriykwa yuimokhta Eumycota odymibrrphburusrwmkn ekidepnklum xnepnkarxthibaythiidrbkarsnbsnuncak klumehdraniaetktangcakimesotsw raemuxk aela rana thimiokhrngsrangkhlaykhlungkn karsuksathiekiywkbehdraodyechphaa eriykwa inxditkinwithyacdepnhnunginsakhakhxngphvkssastr aemwathukwnnicaepnthithrabkndiaelwwa ehdramikhwamsmphnthiklekhiyngkbstwmakkwaphuch ehdraphbidthwolk aetswnmakimmikhwamoddednephraamikhnadelk aelamikarphrangtwindinhruxbnsingthitayaelw ehdrabangchnidyngmicakphuch stw ehdrapraephthxunhruxkrathngprsit phwkmncaerimepnthisngektidemuxxxkphlaelw imwacaepnehdhruxraktam ehdramibthbathsakhyinkaryxyslaysarxinthriyaelamibthbathodyphunthaninwtckrsarxaharaelakaraelkepliyninthrrmchati phwkmnyngepnaehlngxaharodytrngmananaelw inrupkhxngehd epnhwechuxinkarthakhnmpng aelainkarhmkphlitphnthhlay xyang echn iwn ebiyr aelasixiw tngaetchwngkhristthswrrsthi 1940 ehdranamaichinkaraephthy ephuxphlityaptichiwna aelalasud namaichphlitexnismmakmay sungichinxutsahkrrmaelainphngskfxk ehdrayngichepnprabaemlng orkhinphuch aelawchphuchtang sayphnthumakmaykhxngehdraphlitsarprakxbthixxkvththikbsingmichiwit eriykwa imosothsin echn xlkhalxydaela sungepnphistxstw rwmthngmnusy okhrngsranginbangsayphnthuprakxbdwysarprakxbthixxkvththitxprasath aelaichbriophkh hruxinphithikrrmthangsasnaaebbdngedim ehdrayngsamarththalayokhrngrangkhxngwtthudibaelasingkxsrangid aelaklayepnechuxorkhaekmnusyhruxstwxun karsuyesiyirenuxngcakorkhthangehdra echn hruxxaharthienaesiysamarthmiphlkrathbkhnadihykbkhxngmnusyaelarabbniewsodyrxb xanackrehdraprakxbipdwykhwamhlakhlaymakmaydwyrabbniews kardaeninchiwit aelasnthan tngaetikhthridnaesllediywipcnthungehdkhnadihy thungkrann khwamhlakhlaythangchiwphaphthiaethcringkhxngxanackrehdrayngimmikhxmulmaknk sungidmikarpramancanwnsayphnthuiwthi 1 5 5 lansayphnthu odymiephiyng 5 ethannthiidrbkarcaaenkpraephthaelw nbtngaetkarsarwcinkhriststwrrsthi 18 aela 19 odykharl lineniys aela ehdracaaenkpraephthtamsnthan echnsikhxngspxr hruxlksnainradbelk hruxruprang khwamkawhnainxnuphnthusastridepidthangihsahrbkarwiekhraahdiexnex ephuxcdladbtamxnukrmwithan sungbangkhrngidkhdaeyngkbklumphnthuthiidcdiwkxninxditaelw karsuksainimkikhriststwrrsthiphanmaidchwyihmikartrwcsxbkarcdcaaenkpraephthihmphayinxanackrehdra sungidaebngxxkepnhnung ecdiflm aelasibiflmyxyraksphthkhawa ehdra miraksphthcakkhawa ehd kb ra odybyytikhunephuxichkbkhawa fungi inphasaxngkvs khawa fungus inphasaxngkvsepnkhayumcakphasalatin fungus ehd aetedimichinnganekhiynkhxngaelaphlini sungkhadngklawkmiraksphthcakkhainphasakrikwa sphongos sfoggos fxngna hmaykhwamthungokhrngsrangaelasnthankhxngehdkbra rakniyngpraktichinphasaxundwy echn Schwamm fxngna aela Schimmel ra inphasaeyxrmn khawa mycology miraksphthcakkhawa mykes mykhs ehd aela logos logos khaphud wathkrrm odyhmaythungkarsuksathangwithyasastrekiywkbehdra rupkhunsphthinphasalatinkhxng mycology mycologicae praktichtngaet ph s 2339 inhnngsuxkhxng swnkhawa mycology nnpraktichinphasaxngkvstngaet ph s 2367 inhnngsuxkhxng inngantiphimphkhxng The English Flora of Sir James Edward Smith Vol 5 khxngpi ph s 2379 kxingkhawa mycology thungkarsuksaehdraechnkn klumkhxngehdrathnghmdthipraktinphunthihruxphumiphakhhnungeriykwalksnaesllihfakhxngehdra phnngihfaimothkhxnedriyaewkhiwoxlkhristlirobosmniwekhliysrangaehexnodphlasumeyuxhumesllkxlcikhxmephlks kxnthicamisahrbkarwiekhraahkhwamsmphnththangphnthukrrm nkxnukrmwithanphicarnawaehdraepnswnhnunginxanackrphuch ephraarupaebbkardaeninchiwitthiehmuxnkn khux thngphuchaelaehdratangekhluxnthiimidepnswnmak aelayngmikhwamkhlaykhlungkninruprangsnthanaelaphvtikrrmkarecriyetibot ehdramkcaetibotindinaelasrangphlthipraktchdecn sahrbehd echnediywkbphuch bangkhrngehdrakmiruprangkhlayphuch echn mxss pccubnxanackrehdrasungaetktangcakthngphuchaelastw thukphicarnawaxyutangxanackrkbphuch echuxknwapraktkhunkhrngaerkraw 1 phnlanpikxn pramancuderimtnmhayukhnioxophrethxorosxik lksnathangsnthan chiwekhmi aelaphnthukrrmbangxyangkhxngehdramiehmuxnkbsingmichiwitxun aetkmilksnathiepnexklksn chwyihaeykcakxanackrxunidxyangchdecn lksnathiehmuxn kbyuaekhrioxtxun esllehdraprakxbipdwyniwekhliysmieyuxhum khanginmiokhromosmthiprakxbdwy DNA thimi eriykwa xinthrxn aelabriewnthithxdrhsaelw eriykwa ehdramixxraekenllthihumdwyeyux idaek imothkhxnedriy eyuxhumthiprakxbdwysetxrxl aelairobosmpraephth 80S sungphwkmnmilksnaepnsarprakxbkharobihedrtlalaynaid echn natalaexlkxhxl echn natalomelkulkhu echn aelaphxliaeskkhaird echn iklokhecn sungphbinstwechnkn kbstw ehdraimmikhlxorphlast aelaepnsingmichiwitehethorthrxph cungtxngkarsarprakxbxinthriyephuxepnaehlngphlngngan kbphuch ehdramiphnngesllaelaaewkhiwoxl ehdrayngsubphnthuodythngxasyaelaimxasyephs aelaphlitspxr ehmuxnkbklumphuchdngedim echn efirnaelamxss ehdraminiwekhliyrthiepnaehphlxyd kbphwkaelaaebkhthieriy ehdrachnsung yuklinid aelaaebkhthieriybangchnidsrangkrdxamion ilsin khuninkrabwnkarchiwsngekhraahkhnhnung eriykwa esllehdraswnmakmkcaetibotmaepnokhrngsrangrupaethngyaw eriykwa ihfa sungxaccaminiwekhliysmakkwahnungniwekhliysaelakhyaytwthiplayyxd thiplayyxdcamiewsiekhil okhrngsrangkhxngesllthiprakxbipdwyoprtin liphid aelaomelkulxinthriyxun thikracayknxyuepnklum eriykwa thngehdraaela rana ecriyetibotepnihfa inthangtrngknkham singmichiwitthikhlay kn echnsahraysiekhiyw ecriyetibotdwykaraebngesllsa phayinoskhxngesll nxkcakniyngmiehdraesllediyw yist thiimmiokhrngsrangepnihfa aelaehdrathimithngokhrngsrangaebbihfaaelayist ehdramakkwa 70 sayphnthumi ehmuxnkbphuchaelastwbangchnid lksnathiepnexklksn bangsayphnthuecriyetibotepnyistesllediywthisubphnthudwykaraetkhnx hrux ehdrasxngsnthansamarthepliynruprangihepnyistaelaihfaid khunxyukbsphaphaewdlxmkhnann phnngesllkhxngehdramiaelaikhtin aemwakluaekhnphbidinphuchaelaikhtinphbidinokhrngkradukphaynxkkhxngstwkhaplxng ehdraepnsingmichiwitchnidediywthirwmthngsxngxyangekhaknepnxngkhprakxbinphnngesll aelakimmieslluols tangkbphnngesllphuchaelaoximsitehdraeruxngaesng ehdraswnmakimmirabbkarlaeliyngnaaelasarxaharthimiprasiththiphaphthiehmuxnkbenuximaelakhxngphuch ehdrabangchnid echn thisrangsayiy cungmilksnaaelathahnathikhlayrakim ephuxlbkhxcakdni inthanathiepnyuaekhrioxt ehdracungmiwithiemaethbxlisum sahrbphlitethxrphinthiichaelaepntwtngtn phuchaelasingmichiwitxunbangchnidmiethxrphininkhlxorphlastthiehdraaelastwimmi ehdraphlitthimiokhrngsrangkhlayhruxehmuxnkbemaethobiltrxngthiphbinphuch exnismkhxngphuchaelaehdraswnmakthisrangsarprakxbtang ehlaniaetktanginladboprtinaelaxun chiihehnwaexnismehlanikhxngphuchaelaehdramitnkaenidaelawiwthnakarthiaetktangknkhwamhlakhlayehdraphbidthwolk aelaecriyetibotidinhlakhlayaehlngthixyu rwmthngsphaphaewdlxmsudkhw echn thaelthray phunthimikhwamekhmsung hruxphunthimirngsikxixxxn aemkrathngtakxnitthaelluk ehdrabangchnidsamarthmichiwitrxdcakrngsikhxsmikaelayuwiekhmkhnthimiinxwkas ehdraswnihyecriyetibotbnphundin aemcamibangsayphnthuthixasyxyuinaehlngnaaekhchwnghnungkhxngchiwithruxtlxdchiwit echn epnprsitthithaihprachakrkhxngstwsaethinnasaethinbkldlngthwolk singmichiwitsayphnthuniichchiwitchwnghnungepn thaihsamarthphlktwexngiptamnaaelaekhaipxasyintwstwsaethinnasaethinbkid twxyangxunsahrbehdrathixasyinnarwmipthungphwkthixasyxyuinbriewnthimikarihlewiynkhwamrxnkhxngmhasmuthr nkxnukrmwithanidbrryayehdraiwpraman 120 000 chnid aetkhwamhlakhlaythangchiwphaphkhxngthngxanackrehdrakyngkhngimepnthiekhaicknmaknk karpramaninpi 2560 esnxwaxacmiehdraxyurahwang 2 2 lan thung 3 8 lanchnid inthangkinwithya aetlasayphnthukhxngehdraidrbkarcaaenkdwywithikarhlaywithi withikarcaaenkdwysnthan echn khnadaelaruprangkhxngspxrhruxokhrngsrangphl niymichknmakkbxanackrehdra sayphnthuhnungxaccaaenkdwylksnathangkayphaphaelathangekhmi echn khwamsamarthinkarephaphlaysarchiwekhmibangchnid hruxptikiriyathimitxkarthdsxbthangekhmi aenwkhidspichisinthangchiwwithya cacaaenkaetlaspichisdwykhwamsamarthin karichxupkrnomelkulephuxsuksakhwamhlakhlay echn karhaladbdiexnexaelakarwiekhraahthangomelkul idthaihkarpramankhwamhlakhlaythangphnthukrrmkhxngsingmichiwittang dimakyingkhunkinwithyaswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidsnthanswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkrarekhluxnihwswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkarsubphnthuswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidwiwthnakarswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxnukrmwithanswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidniewswithyaswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidehdraphisswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidklikthithaihekidorkhswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkarnamaichkhxngmnusyswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniid samarthnamaprakxbxaharid bangchnidethann xangxingxangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Moore1980 The classification system presented here is based on the 2007 phylogenetic study by Hibbett et al ehd 20 thnwakhm 2553 sanknganrachbnthityspha subkhnemux 31 thnwakhm 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Simpson1979 Ainsworth p 2 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Mitzka1960 Alexopoulos et al p 1 Persoon Christiaan Hendrik 1796 phasalatin Vol Part 1 Leipzig Germany Peter Philipp Wolf khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 12 19 subkhnemux 2019 12 31 Greville Robert Kaye 1824 Scottish Cryptogamie Flora Or Coloured Figures and Descriptions of Cryptogamic Plants Belonging Chiefly to the Order Fungi Vol vol 2 Edinburgh Scotland Maclachland and Stewart p 65 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a volume has extra text help From p 65 This little plant will probably not prove rare in Great Britain when mycology shall be more studied Smith James Edward Hooker William Jackson ed 1836 Berkeley Miles Joseph b k The English Flora of Sir James Edward Smith Vol vol 5 part II Class XXIV Cryptogamia London England Longman Rees Orme Brown Green amp Longman p 7 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a volume has extra text help first2 michuxeriykthwip help From p 7 This has arisen I conceive partly from the practical difficulty of preserving specimens for the herbarium partly from the absence of any general work adapted to the immense advances which have of late years been made in the study of Mycology LIAS Glossary subkhnemux 14 August 2013 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Bruns2006 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Baldauf1993 Deacon p 4 Deacon pp 128 129 Alexopoulos et al pp 28 33 Alexopoulos et al pp 31 32 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Shoji2006 Deacon p 58 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Zabriskie2000 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Xu2006 Alexopoulos et al pp 27 28 Alexopoulos et al p 685 Alexopoulos et al p 30 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Desjardin 2010 Alexopoulos et al pp 32 33 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Bowman2006 Alexopoulos et al p 33 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Mikhail2005 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Keller2005 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Wu2007 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Tudzynski2005 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Vaupotic2008 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Dadachova2007 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Raghukumar1998 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Sancho2007 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Brem2008 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux LeCalvez2009 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Mueller2006 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Lucking2017 Kirk et al p 489 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Hibbett2007