พระวินัยปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระสุตตันตปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระอภิธรรมปิฎก | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระอภิธรรมปิฎก (บาลี: Abhidhammapiṭaka) เป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎกซึ่งประมวลพระพุทธพจน์หมวดพระอภิธรรม คือ หลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่เกี่ยวด้วยบุคคลหรือเหตุการณ์ แบ่งเป็น 7 คัมภีร์ (เรียกย่อหรือหัวใจว่า สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ) คือ
- ธัมมสังคณี รวมข้อธรรมเข้าเป็นหมวดหมู่แล้วอธิบายทีละประเภท ๆ
- วิภังค์ ยกหมวดธรรมสำคัญ ๆ ขึ้นตั้งเป็นหัวเรื่องแล้วแยกแยะออกอธิบายชี้แจงวินิจฉัยโดยละเอียด
- ธาตุกถา สงเคราะห์ข้อธรรมต่าง ๆ เข้าในขันธ์ อายตนะ ธาตุ
- ปุคคลบัญญัติ บัญญัติความหมายของบุคคลประเภทต่างๆ ตามคุณธรรมที่มีอยู่ในบุคคลนั้น
- กถาวัตถุ แถลงและวินิจฉัยทัศนะของนิกายต่างๆ สมัยสังคายนาครั้งที่ 3
- ยมก (ภาค 1, ภาค 2) ยกหัวข้อธรรมขึ้นวินิจฉัยด้วยวิธีถามตอบ โดยตั้งคำถามย้อนกันเป็นคู่ๆ
- ปัฏฐาน หรือ มหาปกรณ์ (ภาค 1, ภาค 2, ภาค 3, ภาค 4, ภาค 5, ภาค 6) อธิบายปัจจัย 24 แสดงความสัมพันธ์เนื่องอาศัยกันแห่งธรรมทั้งหลายโดยพิสดาร
ประวัติ
คำสอนของพระพุทธเจ้า เดิมเรียกว่า "ธรรมวินัย" ทั้งหมด ยังมิได้แยกเป็นปิฎกสามปิฎก ดังพระพุทธวจนะว่า "ธรรมและวินัยใดที่เราตถาคตแสดงไว้แล้วบัญญัติไว้แล้ว ธรรมและวินัยนั้นจะเป็นศาสดาของพวกเธอเมื่อเราตถาคตล่วงลับไปแล้ว" ต่อมาในการ พระธรรมวินัยได้รับการแบ่งแยกออกเป็นปิฎกสามปิฎก คือ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก[]
อรรถกา อันเป็นที่อธิบายคัมภีร์สังคณีแห่งพระอภิธรรมปิฎก และอรรถกาธัมมปทัฏฐกา อันเป็นอรรถกถาที่อธิบายคัมภีร์ธรรมบทแห่งพระสุตตันตปิฎก ว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จขึ้นไปเทศน์พระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในพรรษาที่ 7 หลังจากทรงตรัสรู้ และได้ทรงถ่ายทอดพระอภิธรรมนั้นแก่พระสารีบุตรในเวลาต่อมา
มีผู้สันนิษฐานว่าพระอภิธรรมปิฎกนี้เป็นของแต่งขึ้นใหม่ โดยมีเหตุผล ได้แก่
- สำนวนในการเขียนพระอภิธรรมปิฎกเป็น ภาษาหนังสือ แตกต่างจากสำนวนภาษาในพระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก
- หลักมหาปเทสให้สาวกเทียบเคียงความถูกต้องกับพระสูตรและพระวินัย ไม่ปรากฏว่าให้เทียบเคียงกับพระอภิธรรมปิฎกเลย
- ข้ออ้างเรื่องพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปเทศนาโปรดพระพุทธมารดาที่ดาวดึงส์ ไม่ปรากฏในพระสูตรและพระวินัย
- คำว่า อภิธมฺเม ที่ปรากฏในพระสูตรบางแห่งหมายถึง โพธิปักขิยธรรม
- พระพุทธเจ้าตรัสกับสาวกว่า ธมฺโม จ วินโย จ หมายถึงพระธรรมกับพระวินัยเท่านั้น (ที่ให้เป็นศาสดาแทนต่อไป)
- ยญฺจ โข ภควตา ชานตา ปสฺสตา ซึ่งแปลว่า "พระผู้มีพระภาคเจ้ารู้อยู่ เห็นอยู่" และ วุตฺตญฺเจตํ ภควตา ซึ่งแปลว่า พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ดังนี้ เป็นสำนวนของ
- นิกายสรวาสติวาทิน (นิกายอภิธรรม) ถือว่าพระอภิธรรมปิฎกเป็นสาวกภาษิต
เนื้อหา
พระอภิธรรมปิฎก 12 เล่ม
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 34 ธัมมสังคณี
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 35 วิภังค์
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 36 ธาตุกถา และปุคคลบัญญัติ
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 37 กถาวัตถุ
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 38 ยมก ภาค 1
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 39 ยมก ภาค 2
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 40 ปัฏฐาน ภาค 1
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 41 ปัฏฐาน ภาค 2 อนุโลมติกปัฏฐาน
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 42 ปัฏฐาน ภาค 3 อนุโลมทุกปัฏฐาน
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 43 ปัฏฐาน ภาค 4 อนุโลมทุกปัฏฐาน
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 44 ปัฏฐาน ภาค 5 อนุโลม
- พระไตรปิฎกเล่มที่ 45 ปัฏฐาน ภาค 6 ปัจจนียปัฏฐาน
องค์ประกอบ
สำหรับพระอภิธรรมปิฎกนั้นแบ่งออกเป็นเจ็ดคัมภีร์ ซึ่งเรียกย่อว่า สํ. วิ. ธา. ปุ. ก. ย. และ ป. ตามลำดับ ประกอบไปด้วย
- (เรียกโดยย่อว่า "สํ.") - รวมข้อธรรมเข้าเป็นหมวดหมู่แล้วอธิบายทีละประเภท
- วิภังค์ (เรียกโดยย่อว่า "วิ.") - ยกหมวดธรรมขึ้นตั้งเป็นหัวข้อเรื่องแล้วแยกแยะออกอธิบายชี้แจงวินิจฉัยโดยละเอียด
- (เรียกโดยย่อว่า "ธา.") - สังเคราะห์หรือจัดประเภทข้อธรรมต่าง ๆ เข้าเป็นหมวดเป็นหมู่ดังต่อไปนี้ คือ ขันธ์ อายตนะ และธาตุ
- ปุคคลบัญญัติ (เรียกโดยย่อว่า "ปุ.") - บัญญัติความหมายบุคคลประเภทต่าง ๆ ตามคุณธรรมที่มีอยู่
- กถาวัตถุ (เรียกโดยย่อว่า "ก.") - แถลงและวินิจฉัยทัศนะที่ขัดแย้งกันของนิกายต่าง ๆ ในสมัยสังคายนาครั้งที่ 3 โดยเน้นความถูกต้องของฝ่ายเถรวาท คัมภีร์นี้เป็นบทนิพนธ์ของ
- ยมก (เรียกโดยย่อว่า "ย.") - ยกหัวข้อธรรมขึ้นวินิจฉัยด้วยวิธีถามตอบ โดยตั้งคำถามย้อนกันเป็นคู่ ๆ
- หรือมหาปกรณ์ (เรียกโดยย่อว่า "ป.") - อธิบายปัจจัย 24 และแสดงความสัมพันธ์ระหว่างธรรมทั้งหลายอย่างละเอียด
ดูเพิ่ม
- พระวินัยปิฎก พระไตรปิฎกส่วนว่าด้วยวินัยบัญญัติ
- พระสุตตันตปิฎก พระไตรปิฎกส่วนว่าด้วยพระสูตร
อ้างอิง
- ราชบัณฑิตยถาน. (2551, กุมภาพันธ์). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. เข้าถึงได้จาก: < http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp 2009-03-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน >. (เข้าถึงเมื่อ: 18 ตุลาคม 2551)..
- ราชบัณฑิตยสถาน. (2548). พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. (พิมพ์ครั้งที่สอง). กรุงเทพฯ : มติชน. หน้า 3-4.
- "ความหมายของ พระอภิธรรมปิฎก". 84000.org.
- พระไตรปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค ฉบับภาษาไทย, เล่ม 10/ข้อ 141/หน้า 178.
- พระไตรปิฎก พระอภิธรรม ฉบับภาษาไทย, เล่ม 9/ข้อ 67.
- http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVE13TVRFMU1nPT0=[]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
khmphirhlkinphraphuththsasna phraitrpidkethrwath 45 elm phrawinypidk khmphir suttwiphngkhkhmphir khnthkakhmphir priwar phrasuttntpidk khmphir thikhnikaykhmphir mchchimnikay phraxphithrrmpidk pu kthaptthanpkrn phraxphithrrmpidk bali Abhidhammapiṭaka epnswnhnungkhxngphraitrpidksungpramwlphraphuththphcnhmwdphraxphithrrm khux hlkthrrmaelakhaxthibaythiepnhlkwichalwn imekiywdwybukhkhlhruxehtukarn aebngepn 7 khmphir eriykyxhruxhwicwa sng wi tha pu ka ya pa khux thmmsngkhni rwmkhxthrrmekhaepnhmwdhmuaelwxthibaythilapraephth wiphngkh ykhmwdthrrmsakhy khuntngepnhweruxngaelwaeykaeyaxxkxthibaychiaecngwinicchyodylaexiyd thatuktha sngekhraahkhxthrrmtang ekhainkhnth xaytna thatu pukhkhlbyyti byytikhwamhmaykhxngbukhkhlpraephthtang tamkhunthrrmthimixyuinbukhkhlnn kthawtthu aethlngaelawinicchythsnakhxngnikaytang smysngkhaynakhrngthi 3 ymk phakh 1 phakh 2 ykhwkhxthrrmkhunwinicchydwywithithamtxb odytngkhathamyxnknepnkhu ptthan hrux mhapkrn phakh 1 phakh 2 phakh 3 phakh 4 phakh 5 phakh 6 xthibaypccy 24 aesdngkhwamsmphnthenuxngxasyknaehngthrrmthnghlayodyphisdarprawtikhasxnkhxngphraphuththeca edimeriykwa thrrmwiny thnghmd yngmiidaeykepnpidksampidk dngphraphuththwcnawa thrrmaelawinyidthieratthakhtaesdngiwaelwbyytiiwaelw thrrmaelawinynncaepnsasdakhxngphwkethxemuxeratthakhtlwnglbipaelw txmainkar phrathrrmwinyidrbkaraebngaeykxxkepnpidksampidk khux phrawinypidk phrasuttntpidk aelaphraxphithrrmpidk txngkarxangxing xrrthka xnepnthixthibaykhmphirsngkhniaehngphraxphithrrmpidk aelaxrrthkathmmpthtthka xnepnxrrthkthathixthibaykhmphirthrrmbthaehngphrasuttntpidk wa phraphuththecaidesdckhunipethsnphraxphithrrmoprdphraphuththmardabnswrrkhchndawdungsinphrrsathi 7 hlngcakthrngtrsru aelaidthrngthaythxdphraxphithrrmnnaekphrasaributrinewlatxma miphusnnisthanwaphraxphithrrmpidkniepnkhxngaetngkhunihm odymiehtuphl idaek sanwninkarekhiynphraxphithrrmpidkepn phasahnngsux aetktangcaksanwnphasainphrawinypidkaelaphrasuttntpidk hlkmhapethsihsawkethiybekhiyngkhwamthuktxngkbphrasutraelaphrawiny impraktwaihethiybekhiyngkbphraxphithrrmpidkely khxxangeruxngphraphuththecaesdckhunipethsnaoprdphraphuththmardathidawdungs impraktinphrasutraelaphrawiny khawa xphithm em thipraktinphrasutrbangaehnghmaythung ophthipkkhiythrrm phraphuththecatrskbsawkwa thm om c winoy c hmaythungphrathrrmkbphrawinyethann thiihepnsasdaaethntxip yy c okh phkhwta chanta ps sta sungaeplwa phraphumiphraphakhecaruxyu ehnxyu aela wut ty ect phkhwta sungaeplwa phraphumiphraphakhidtrsiwdngni epnsanwnkhxng nikaysrwastiwathin nikayxphithrrm thuxwaphraxphithrrmpidkepnsawkphasitenuxhaphraxphithrrmpidk 12 elm phraitrpidkelmthi 34 thmmsngkhni phraitrpidkelmthi 35 wiphngkh phraitrpidkelmthi 36 thatuktha aelapukhkhlbyyti phraitrpidkelmthi 37 kthawtthu phraitrpidkelmthi 38 ymk phakh 1 phraitrpidkelmthi 39 ymk phakh 2 phraitrpidkelmthi 40 ptthan phakh 1 phraitrpidkelmthi 41 ptthan phakh 2 xnuolmtikptthan phraitrpidkelmthi 42 ptthan phakh 3 xnuolmthukptthan phraitrpidkelmthi 43 ptthan phakh 4 xnuolmthukptthan phraitrpidkelmthi 44 ptthan phakh 5 xnuolm phraitrpidkelmthi 45 ptthan phakh 6 pccniyptthanxngkhprakxbsahrbphraxphithrrmpidknnaebngxxkepnecdkhmphir sungeriykyxwa s wi tha pu k y aela p tamladb prakxbipdwy eriykodyyxwa s rwmkhxthrrmekhaepnhmwdhmuaelwxthibaythilapraephth wiphngkh eriykodyyxwa wi ykhmwdthrrmkhuntngepnhwkhxeruxngaelwaeykaeyaxxkxthibaychiaecngwinicchyodylaexiyd eriykodyyxwa tha sngekhraahhruxcdpraephthkhxthrrmtang ekhaepnhmwdepnhmudngtxipni khux khnth xaytna aelathatu pukhkhlbyyti eriykodyyxwa pu byytikhwamhmaybukhkhlpraephthtang tamkhunthrrmthimixyu kthawtthu eriykodyyxwa k aethlngaelawinicchythsnathikhdaeyngknkhxngnikaytang insmysngkhaynakhrngthi 3 odyennkhwamthuktxngkhxngfayethrwath khmphirniepnbthniphnthkhxng ymk eriykodyyxwa y ykhwkhxthrrmkhunwinicchydwywithithamtxb odytngkhathamyxnknepnkhu hruxmhapkrn eriykodyyxwa p xthibaypccy 24 aelaaesdngkhwamsmphnthrahwangthrrmthnghlayxyanglaexiydduephimphrawinypidk phraitrpidkswnwadwywinybyyti phrasuttntpidk phraitrpidkswnwadwyphrasutrxangxingrachbnthitythan 2551 kumphaphnth phcnanukrmchbbrachbnthitysthan ph s 2542 ekhathungidcak lt http rirs3 royin go th dictionary asp 2009 03 03 thi ewyaebkaemchchin gt ekhathungemux 18 tulakhm 2551 rachbnthitysthan 2548 phcnanukrmsphthsasnasakl xngkvs ithy chbbrachbnthitysthan phimphkhrngthisxng krungethph mtichn hna 3 4 khwamhmaykhxng phraxphithrrmpidk 84000 org phraitrpidk thikhnikay mhawrrkh chbbphasaithy elm 10 khx 141 hna 178 phraitrpidk phraxphithrrm chbbphasaithy elm 9 khx 67 http www khaosod co th view news php newsid TUROamIyd3hPVE13TVRFMU1nPT0 lingkesiy wikisxrs mingantnchbbekiywkb phraitrpidk