นุด (บ้างสะกดว่า นุศ) เป็นหมอสักและหมอดูชาวเขมร เป็นโอรสเพียงคนเดียวในหม่อมเจ้าฉวีวาด ปราโมช กับออกญาแสรนธิบดี (ปัล) เจ้าเมืองระลาเปือย สามีคนที่สี่ของมารดา ทว่าเขากระทำความผิดด้วยการแอบอ้างเป็นพระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารในฝั่งกัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส ใช้ชื่อว่า พระองค์เจ้าพานดุรี (หรือ พานดูรี) หลอกเงินคนไปเป็นจำนวนมาก จึงถูกตัดสินจำคุกถึงสองครั้งที่เมืองพระตะบองและพนมเปญ ต่อมาเขาหลบหนีเข้าราชอาณาจักรสยาม โดยแอบอ้างเป็นเจ้านายชั้นสูงของเขมรอีกคำรบหนึ่ง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ของจังหวัดพิจิตรจับกุมตัวในเวลาต่อมา
คุณ นุด | |
---|---|
อาชีพ | หมอดู, หมอสัก |
บิดามารดา | ออกญาแสรนธิบดี (ปัล) หม่อมเจ้าฉวีวาด ปราโมช |
ฐาน | โจรกรรม (2461–2462) แอบอ้างเบื้องสูง (2464) |
บทลงโทษ | จำคุก 5 ปี (คดีแอบอ้างเบื้องสูง) |
ลายมือชื่อ | |
งานเขียน ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช อ้างว่า หม่อมเจ้าฉวีวาดได้ถวายตัวเป็นพระราชเทวีในสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร มีพระราชโอรสพระองค์หนึ่งชื่อ พระองค์เจ้าพานคุลี จนกลายเป็นข้อมูลที่ถูกทำซ้ำต่อกันแพร่หลายเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพระองค์เจ้ามาลิกา ยุคันธร เจ้านายฝ่ายในของราชวงศ์กัมพูชา และเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว โดยแนบลายพระหัตถ์ถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระบุว่า นุดหรือพานดุรีไม่ใช่เจ้า หากแต่เป็นลูกของหม่อมเจ้าฉวีวาดที่เกิดกับเจ้าเมืองระลาเปือยซึ่งเป็นชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนเท่านั้น
ประวัติ
นุด หรือสะกดว่า นุศ เป็นโอรสเพียงคนเดียวในหม่อมเจ้าฉวีวาด ปราโมช กับออกญาแสรนธิบดี (ปัล) เจ้าเมืองระลาเปือย สามีคนที่สี่ของมารดา ซึ่งหม่อมเจ้าฉวีวาดนี้เป็นเจ้านายชั้นอนุวงศ์ของราชวงศ์จักรี ทั้งยังเป็นป้าของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช และหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ส่วนบิดาผู้เป็นเจ้าเมืองระลาเปือยนั้น "...เป็นเชื้อเจ๊กจะได้เป็นเชื้อเจ้าหามิได้..." ตัวนุดเองก็ทราบด้วยว่ามารดาของตนนั้นมีเชื้อสายเจ้าจากสยาม "...ตังแต่ข้าพระพุฒีเจ้าเกีดม่ารู่ตัวว่าพระมาด่า เปนชาฏิสยาม ก็ตังใจ่จะรักส่าชาฏิสยามให้อุตมะชาฏิ..."
ในวัยเยาว์ นุดและหม่อมเจ้าฉวีวาดเข้านอกออกในพระราชวังในกรุงกัมพูชาเพื่อถวายงานรับใช้เจ้านายกัมพูชาอยู่หลายครั้ง กระทั่งพระองค์เจ้าอรรคนารีทรงอุปการะนุดไปเลี้ยงในพระบรมราชวัง บ่าวไพร่ในพระองค์เจ้าอรรคนารี ต่างเรียกขานกันว่า คุณนุด ส่วนหม่อมเจ้าฉวีวาดเข้าไปอยู่กับหม่อมเจ้าพัชนีเพื่อทำขนมและลูกกวาดไทยในราชสำนักกัมพูชา และเคยเข้าไปถวายงานพระองค์เจ้ามาลิกา ยุคันธร ที่พระตำหนักส่วนพระองค์ เพื่อทำขนมลูกกวาด แต่อยู่ได้เพียงสองปี หม่อมเจ้าฉวีวาดก็ออกจากตำหนักหม่อมเจ้าพัชนีไปมีสามีใหม่ คือขุนพิทักราชสถาน (ทอง) เป็นสามีคนที่ห้า หลังขุนพิทักราชสถานถึงแก่กรรมลง หม่อมเจ้าฉวีวาดก็สมรสใหม่กับขุนศรีมโนไมย และพานุดออกไปอาศัยอยู่ด้วยกัน อย่างไรก็ตามสถานะทางการเงินของครอบครัวหม่อมเจ้าฉวีวาดนั้นอัตคัตนัก หลังขุนศรีมโนไมยล้มป่วยด้วยไข้ทรพิษ ก็เกรงว่าแพทย์จะขึ้นมาเผาเรือนและเสื้อผ้าของผู้ป่วย จึงหลอกขายเรือนดังกล่าวแก่ผู้อื่น แล้วนำเงินที่ได้ไปตั้งรกรากอยู่ที่เมืองทางตอนใต้ของกัมพูชาและอาศัยอยู่ที่นั่นร่วมกับนุดผู้เป็นบุตรชายอยู่พักใหญ่ ช่วงเวลานั้นนุดเที่ยวออกเล่าเรื่องตำนานโบราณปรัมปราแก่ชาวเมืองฟังซึ่งสร้างรายได้หลักร้อย ทว่านุดถูกจับกุมด้วยข้อหาโจรกรรมช่วง พ.ศ. 2461–2462 และติดคุกในเมืองเขมร ฝ่ายหม่อมเจ้าฉวีวาดเองก็กลับไปที่กรุงเทพมหานครใน พ.ศ. 2461 แต่กลับไม่ได้รับส่วนแบ่งมรดกจากหม่อมราชวงศ์ดวงใจผู้เป็นแม่ จึงออกบวชเป็นนางชี และเริ่มอ้างตัวว่าเคยเป็นพระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร จนถูก เจ้านายกรุงกัมพูชา ตรัสบริภาษอย่างรุนแรง
เมื่อนุดพ้นโทษจากคดีครั้งก่อนไม่นานปี นุดก็อ้างตนเป็นพระราชโอรสกษัตริย์กัมพูชา ใช้ชื่อว่า พระองค์เจ้าพานดุรี (หรือ พานดูรี) เที่ยวหลอกลวงผู้อื่นในเมืองพระตะบอง ตุลาการศาลอุทธรณ์กรุงพนมเปญตัดสินให้จำคุกห้าปี ข้อหาตั้งตนเป็นเจ้า นุดจึงต้องอยู่ในคุกเมืองเขมรเป็นครั้งที่สอง และพ้นโทษในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2469 หลังพ้นโทษนุดเดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักรสยามพร้อมกับภรรยาชาวเขมรเพื่อตามหาหม่อมเจ้าฉวีวาด โดยอ้างว่า "...มอมเจ้าแม่ใด่กรับม่าอยู่ไนสยาม ๑๖ ปีนีแล้ว ข้าพระพุฒีเจ้าก็ใด่ภย่ายามถามม่า วังใจ่จะทีพึงพระบูรมะโพธีสมพาน..." ภายหลังภรรยาชาวเขมรได้เดินทางกลับกรุงกัมพูชาไปก่อน ระหว่างที่นุดอยู่ในแผ่นดินสยาม เขาได้แอบอ้างเป็นเจ้านายชั้นสูงของกัมพูชา ประกอบอาชีพเป็นช่างสักและหมอดูเร่ร่อนไปตามหัวเมืองต่าง ๆ กระทั่งพระยาวิฑูรธุระการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พบตัวนุดที่วัดท่าหลวงเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 จากนั้นได้ส่งจดหมายพร้อมแนบภาพถ่ายของนุด ถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
หลังจากนั้นเรื่องราวของนุดก็เงียบหายไป ก่อนมาปรากฏอีกครั้งในงานเขียน ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ซึ่งอ้างถึงประวัติของหม่อมเจ้าฉวีวาด ซึ่งเป็นป้าของตนเองไว้อย่างพิสดาร โดยเฉพาะเรื่องการเข้าเป็นพระราชเทวีของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทววาวตาร มีพระราชโอรสด้วยกันพระองค์หนึ่ง คือ พระองค์เจ้าพานคุลี ซึ่งน่าจะหมายถึง พานดุรี หรือนุด งานเขียนของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ขัดแย้งกับลายพระหัตถ์ของพระองค์เจ้ามาลิกา ยุคันธร ถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าพานดุรีหรือนุดไม่ได้มีเชื้อเจ้าของกัมพูชาแต่อย่างใด
อ้างอิง
- อภิญญา ตะวันออก (7 กุมภาพันธ์ 2565). "โอรส "นโรดม" กับเจ้าชายกำมะลอ". มติชนสุดสัปดาห์. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2566.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - โรม บุนนาค (27 มกราคม 2559). "เจ้าหญิงสยามหนีคดีความมั่นคง ลงสำเภาชักใบไปมีพระราชโอรสให้กษัตริย์เขมร!!!". ผู้จัดการออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2566.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - กิเลน ประลองเชิง (4 สิงหาคม 2560). "ปฏิบัติการแบ่ง 3 สยาม". ไทยรัฐออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2566.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nud bangsakdwa nus epnhmxskaelahmxduchawekhmr epnoxrsephiyngkhnediywinhmxmecachwiwad praomch kbxxkyaaesrnthibdi pl ecaemuxngralaepuxy samikhnthisikhxngmarda thwaekhakrathakhwamphiddwykaraexbxangepnphrarachoxrskhxngphrabathsmedcphranordm brmramethwawtarinfngkmphuchainxarkkhakhxngfrngess ichchuxwa phraxngkhecaphanduri hrux phanduri hlxkenginkhnipepncanwnmak cungthuktdsincakhukthungsxngkhrngthiemuxngphratabxngaelaphnmepy txmaekhahlbhniekharachxanackrsyam odyaexbxangepnecanaychnsungkhxngekhmrxikkharbhnung kxnthukecahnathikhxngcnghwdphicitrcbkumtwinewlatxmakhun nudxachiphhmxdu hmxskbidamardaxxkyaaesrnthibdi pl hmxmecachwiwad praomchthanocrkrrm 2461 2462 aexbxangebuxngsung 2464 bthlngothscakhuk 5 pi khdiaexbxangebuxngsung laymuxchux nganekhiyn khxnghmxmrachwngskhukvththi praomch xangwa hmxmecachwiwadidthwaytwepnphrarachethwiinsmedcphranordm brmramethwawtar miphrarachoxrsphraxngkhhnungchux phraxngkhecaphankhuli cnklayepnkhxmulthithukthasatxknaephrhlayeruxymacnthungpccubn sungphraxngkhecamalika yukhnthr ecanayfayinkhxngrachwngskmphucha aelaepnphrarachthidainphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar idxxkmaptiestheruxngdngklaw odyaenblayphrahtththungsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph rabuwa nudhruxphanduriimicheca hakaetepnlukkhxnghmxmecachwiwadthiekidkbecaemuxngralaepuxysungepnchawkmphuchaechuxsaycinethannprawtinud hruxsakdwa nus epnoxrsephiyngkhnediywinhmxmecachwiwad praomch kbxxkyaaesrnthibdi pl ecaemuxngralaepuxy samikhnthisikhxngmarda sunghmxmecachwiwadniepnecanaychnxnuwngskhxngrachwngsckri thngyngepnpakhxnghmxmrachwngsesniy praomch aelahmxmrachwngskhukvththi praomch xditnaykrthmntrikhxngithy swnbidaphuepnecaemuxngralaepuxynn epnechuxeckcaidepnechuxecahamiid twnudexngkthrabdwywamardakhxngtnnnmiechuxsayecacaksyam tngaetkhaphraphuthiecaekidmarutwwaphramada epnchatisyam ktngiccarksachatisyamihxutmachati inwyeyaw nudaelahmxmecachwiwadekhanxkxxkinphrarachwnginkrungkmphuchaephuxthwaynganrbichecanaykmphuchaxyuhlaykhrng krathngphraxngkhecaxrrkhnarithrngxupkaranudipeliynginphrabrmrachwng bawiphrinphraxngkhecaxrrkhnari tangeriykkhanknwa khunnud swnhmxmecachwiwadekhaipxyukbhmxmecaphchniephuxthakhnmaelalukkwadithyinrachsankkmphucha aelaekhyekhaipthwaynganphraxngkhecamalika yukhnthr thiphratahnkswnphraxngkh ephuxthakhnmlukkwad aetxyuidephiyngsxngpi hmxmecachwiwadkxxkcaktahnkhmxmecaphchniipmisamiihm khuxkhunphithkrachsthan thxng epnsamikhnthiha hlngkhunphithkrachsthanthungaekkrrmlng hmxmecachwiwadksmrsihmkbkhunsrimonimy aelaphanudxxkipxasyxyudwykn xyangirktamsthanathangkarenginkhxngkhrxbkhrwhmxmecachwiwadnnxtkhtnk hlngkhunsrimonimylmpwydwyikhthrphis kekrngwaaephthycakhunmaephaeruxnaelaesuxphakhxngphupwy cunghlxkkhayeruxndngklawaekphuxun aelwnaenginthiidiptngrkrakxyuthiemuxngthangtxnitkhxngkmphuchaaelaxasyxyuthinnrwmkbnudphuepnbutrchayxyuphkihy chwngewlannnudethiywxxkelaeruxngtananobranprmpraaekchawemuxngfngsungsrangrayidhlkrxy thwanudthukcbkumdwykhxhaocrkrrmchwng ph s 2461 2462 aelatidkhukinemuxngekhmr fayhmxmecachwiwadexngkklbipthikrungethphmhankhrin ph s 2461 aetklbimidrbswnaebngmrdkcakhmxmrachwngsdwngicphuepnaem cungxxkbwchepnnangchi aelaerimxangtwwaekhyepnphramehsiinphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar cnthuk ecanaykrungkmphucha trsbriphasxyangrunaerng emuxnudphnothscakkhdikhrngkxnimnanpi nudkxangtnepnphrarachoxrskstriykmphucha ichchuxwa phraxngkhecaphanduri hrux phanduri ethiywhlxklwngphuxuninemuxngphratabxng tulakarsalxuththrnkrungphnmepytdsinihcakhukhapi khxhatngtnepneca nudcungtxngxyuinkhukemuxngekhmrepnkhrngthisxng aelaphnothsineduxntulakhm ph s 2469 hlngphnothsnudedinthangekhasurachxanackrsyamphrxmkbphrryachawekhmrephuxtamhahmxmecachwiwad odyxangwa mxmecaaemidkrbmaxyuinsyam 16 piniaelw khaphraphuthiecakidphyayamthamma wngiccathiphungphraburmaophthismphan phayhlngphrryachawekhmridedinthangklbkrungkmphuchaipkxn rahwangthinudxyuinaephndinsyam ekhaidaexbxangepnecanaychnsungkhxngkmphucha prakxbxachiphepnchangskaelahmxduerrxniptamhwemuxngtang krathngphrayawithurthurakar phuwarachkarcnghwdphicitr phbtwnudthiwdthahlwngemuxwnthi 16 phvscikayn ph s 2469 caknnidsngcdhmayphrxmaenbphaphthaykhxngnud thwaysmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph hlngcaknneruxngrawkhxngnudkengiybhayip kxnmapraktxikkhrnginnganekhiyn khxnghmxmrachwngskhukvththi praomch sungxangthungprawtikhxnghmxmecachwiwad sungepnpakhxngtnexngiwxyangphisdar odyechphaaeruxngkarekhaepnphrarachethwikhxngphrabathsmedcphranordm brmramethwwawtar miphrarachoxrsdwyknphraxngkhhnung khux phraxngkhecaphankhuli sungnacahmaythung phanduri hruxnud nganekhiynkhxnghmxmrachwngskhukvththi khdaeyngkblayphrahtthkhxngphraxngkhecamalika yukhnthr thungsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph thirabuiwxyangchdecnwaphandurihruxnudimidmiechuxecakhxngkmphuchaaetxyangidxangxingxphiyya tawnxxk 7 kumphaphnth 2565 oxrs nordm kbecachaykamalx mtichnsudspdah subkhnemux 22 singhakhm 2566 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help orm bunnakh 27 mkrakhm 2559 ecahyingsyamhnikhdikhwammnkhng lngsaephachkibipmiphrarachoxrsihkstriyekhmr phucdkarxxniln subkhnemux 22 singhakhm 2566 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help kieln pralxngeching 4 singhakhm 2560 ptibtikaraebng 3 syam ithyrthxxniln subkhnemux 22 singhakhm 2566 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help