จักรวรรดิไบแซนไทน์ (อังกฤษ: Byzantine Empire) หรือที่เรียกว่า จักรวรรดิโรมันตะวันออก (อังกฤษ: Eastern Roman Empire) หรือ ไบแซนทิอุม (Byzantium) เป็นจักรวรรดิที่สืบทอดโดยตรงจากจักรวรรดิโรมันในปลายสมัยโบราณ และยุคกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ในบริบทสมัยโบราณตอนปลาย ทั้งคำว่า "จักรวรรดิไบแซนไทน์" และ "จักรวรรดิโรมันตะวันออก" เป็นคำทางภูมิประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นภายหลังและใช้กันในหลายศตวรรษต่อมา ขณะที่พลเมืองยังเรียกจักรวรรดิของตนว่า "จักรวรรดิโรมัน" หรือ "โรมาเนีย" เรื่อยมากระทั่งล่มสลายไป ขณะที่จักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายไปในคริสต์ศตวรรษที่ 5 ส่วนตะวันออกยังดำเนินต่อมาอีกพันปีก่อนจะเสียแก่เติร์กออตโตมันใน ค.ศ. 1453 ในสมัยที่ยังมีจักรวรรดิไบแซนไทน์ยังคงอยู่นั้น จักรวรรดิเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและกำลังทหารแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป
จักรวรรดิไบแซนไทน์ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 395–1453b | |||||||||
(ดูที่)}} กำลังพรรณาถึง ซึ่งได้เป็นบรรทัดฐานของเหรียญในจักรวรรดิไบแซนไทน์ | |||||||||
จักรวรรดิไบแซนไทน์ใน ค.ศ. 555 ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิยุสตินิอานุสที่ 1 ในช่วงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (สีชมพูคือ) | |||||||||
การเปลี่ยนแปลงดินแดนของจักรวรรดิโรมันตะวันออก ในแต่ละสมัยของราชวงศ์ต่าง ๆ จนกระทั่งการล่มสลายของจักรวรรดิใน ค.ศ. 1453 | |||||||||
สถานะ | จักรวรรดิ | ||||||||
เมืองหลวง | คอนสแตนติโนเปิลc (ค.ศ. 395–1204, ค.ศ. 1261–1453) | ||||||||
ภาษาทั่วไป | |||||||||
ศาสนา |
| ||||||||
จักรพรรดิผู้ที่มีชื่อเสียง | |||||||||
• ค.ศ. 306–337 | คอนสแตนตินที่ 1 | ||||||||
• ค.ศ. 395–408 | อาร์กาดิอุส | ||||||||
• ค.ศ. 402–450 | เทออดอซิอุสที่ 2 | ||||||||
• ค.ศ. 527–565 | ยุสตินิอานุสที่ 1 | ||||||||
• ค.ศ. 610–641 | เฮราคลิอัส | ||||||||
• ค.ศ. 717–741 | |||||||||
• ค.ศ. 797–802 | ไอเนรีน | ||||||||
• ค.ศ. 867–886 | |||||||||
• ค.ศ. 976–1025 | เบซิลที่ 2 | ||||||||
• ค.ศ. 1042–1055 | |||||||||
• ค.ศ. 1081–1118 | อเล็กซิออสที่ 1 | ||||||||
• ค.ศ. 1259–1282 | มิคาเอลที่ 8 | ||||||||
• ค.ศ. 1449–1453 | คอนสแตนตินที่ 11 | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคโบราณตอนปลาย ถึง ยุคกลางตอนปลาย | ||||||||
• ((จตุราธิปไตย)) | 1 เมษายน ค.ศ. 286 | ||||||||
• (ก่อตั้งคอนสแตนติโนเปิล) | 11 พฤษภาคม ค.ศ. 330 | ||||||||
• การแบ่งจักรวรรดิตะวันออก-ตะวันตกครั้งสุดท้าย ภายหลังการสวรรคตของจักรพรรดิเทออดอซิอุสที่ 1 | 17 มกราคม ค.ศ. 395 | ||||||||
4 กันยายน ค.ศ. 476 | |||||||||
• ยูลิอุส แนโปสถูกลอบสังหาร; เป็นจุดจบของจักรวรรดิโรมันตะวันตกในทางทฤษฎี | 25 เมษายน ค.ศ. 480 | ||||||||
• ; สูญเสียมณฑลอันมั่งคั่งแห่งและอียิปต์; อำนาจทางทะเลในเมดิเตอร์เรเนียนสิ้นสุดลง; เป็นจุดเริ่มต้นของ | ค.ศ. 622–750 | ||||||||
• สงครามครูเสดครั้งที่ 4; ก่อตั้งจักรวรรดิละติน โดยนักรบครูเสดที่นับถือนิกายคาทอลิก | 12 เมษายน ค.ศ. 1204 | ||||||||
• จักรพรรดิมิคาเอลที่ 8 ยึดกรุงคอนสแตนโนเปิลคืน | 25 กรกฎาคม ค.ศ. 1261 | ||||||||
29 พฤษภาคม ค.ศ. 1453 | |||||||||
• การล่มสลายของ | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1460 | ||||||||
• การล่มสลายของ | 15 สิงหาคม ค.ศ. 1461 | ||||||||
ประชากร | |||||||||
• ค.ศ. 457 | 16,000,000 คนf | ||||||||
• ค.ศ. 565 | 26,000,000 คน | ||||||||
• ค.ศ. 775 | 7,000,000 คน | ||||||||
• ค.ศ. 1025 | 12,000,000 คน | ||||||||
• ค.ศ. 1320 | 2,000,000 คน | ||||||||
สกุลเงิน | , และ | ||||||||
| |||||||||
|
จากประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้แสดงให้เห็นว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์คือจักรวรรดิของชาวกรีก เมื่อคำนึงถึงอิทธิพลของภาษากรีก วัฒนธรรมกรีกและประชากรเชื้อสายกรีก แต่ประชาชนของจักรวรรดิเองนั้น มองจักรวรรดิของตนว่าเป็นเพียงจักรวรรดิโรมันที่มีจักรพรรดิโรมันสืบทอดตำแหน่งอย่างต่อเนื่องกันเท่านั้น[]
การเริ่มต้นของจักรวรรดิไบแซนไทน์นั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด โดยส่วนใหญ่ถือว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มต้นขึ้นเมื่อจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 (ครองราชย์ ค.ศ. 306-337) แห่งโรมได้สถาปนานครคอนสแตนติโนเปิลให้เป็น "โรมใหม่" ใน พ.ศ. 873 (ค.ศ. 330) และย้ายเมืองหลวงจากโรมมาเป็นคอนสแตนติโนเปิลแทน ดังนั้น จึงถือว่าจักรพรรดิคอนสแตนตินเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิไบแซนไทน์ไปโดยปริยาย แต่ก็มีบางส่วนถือว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มต้นขึ้นในสมัยของธีโอโดเซียสมหาราช (ครองราชย์ ค.ศ. 379-395) ซึ่งคริสต์ศาสนาได้เข้ามาแทนที่ลัทธิเพเกินบูชาเทพเจ้าโรมันในฐานะศาสนาประจำชาติ หรือหลังจากธีโอโดเซียสสวรรคตใน ค.ศ. 395 เมื่อจักรวรรดิโรมันได้แบ่งขั้วการปกครองเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตกอย่างเด็ดขาด ทั้งยังมีบ้างส่วนที่ถือว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มต้นขึ้น "อย่างแท้จริง" เมื่อจักรพรรดิโรมูลูส ออกุสตูลูส ซึ่งถือว่าเป็นจักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายถูกปราบดาภิเษก ซึ่งทำให้อำนาจในการปกครองจักรวรรดิตกอยู่ที่ชาวกรีกในฝั่งตะวันออกแต่เพียงฝ่ายเดียว และยังมีอีกบางส่วนที่ถือว่าจักรวรรดิโรมันได้แปลงสภาพเป็นจักรวรรดิไบแซนไทน์โดยสมบูรณ์ เมื่อจักรพรรดิเฮราคลิอุสเปลี่ยนแปลงชื่อตำแหน่งในราชการ จากเดิมที่เป็นภาษาละติน ให้กลายเป็นภาษากรีกแทน
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงสถานะของจักรวรรดินั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงก่อนที่จักรพรรดิคอนสแตนตินจะสถาปนานครคอนสแตนติโนเปิลให้เป็นเมืองหลวงใหม่ของจักรวรรดิโรมันใน ค.ศ. 330 ก็ตาม ในตอนนั้นก็ได้มีการแปลงสภาพวัฒนธรรมจากโรมันเป็นกรีก รวมถึงการเปิดรับคริสต์ศาสนาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปแล้ว
การล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยทั่วไปแล้ว เชื่อว่าเกิดขึ้นหลังจากที่กรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกยึดโดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมันใน ค.ศ. 1453 โดยกรุงคอนสแตนติโนเปิลได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอิสตันบูลมาจนถึงปัจจุบัน และในทางประวัติศาสตร์ยังได้ถือว่าการสิ้นสุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์เป็นจุดสิ้นสุดยุคกลางในยุโรปอีกด้วย
การเรียกชื่อ
การใช้คำว่า "ไบแซนไทน์" เพื่อระบุปีต่อ ๆ มาของจักรวรรดิโรมันเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1557 หรือ 104 ปีภายหลังการล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ เมื่อ นักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้ตีพิมพ์ผลของเขาที่มีชื่อว่า กอร์ปุสฮิสตอรีไอบึซซันตีไน (Corpus Historiæ Byzantinæ) ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์[] ซึ่งคำนี้นำมาจากคำว่า "บิแซนเทียม" ซึ่งเป็นชื่อเมืองที่จักรพรรดิคอนสแตนตินย้ายเมืองหลวงจากโรม และสร้างขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อใหม่คือคอนสแตนติโนเปิล ชื่อเก่าของนครนี้จึงไม่ค่อยใช้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยกเว้นในบริบททางประวัติศาสตร์หรือบทกวี บีซ็องตีนดูว์ลูฟวร์ () ซึ่งเป็นสิ่งตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1648 และ ฮิสตอริอาบึซซันตีนา (Historia Byzantina) ของ ใน ค.ศ. 1680 ได้ทำให้การใช้คำว่า "ไบแซนไทน์" เป็นที่นิยมในหมู่นักเขียนชาวฝรั่งเศส เช่น มงแต็สกีเยอ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 คำนี้เริ่มใช้กันโดยทั่วไปในโลกตะวันตก
จักรวรรดิไบแซนไทน์เป็นที่รู้จักของประชาชนในชื่อ "จักรวรรดิโรมัน" หรือ "จักรวรรดิแห่งชาวโรมัน" (ละติน: Imperium Romanum, Imperium Romanorum; : Βασιλεία τῶν Ῥωμαίων, Ἀρχὴ τῶν Ῥωμαίων, อักษรโรมัน: Basileia tōn Rhōmaiōn, Archē tōn Rhōmaiōn) โรมาเนีย (ละติน: Romania; : Ῥωμανία, อักษรโรมัน: Rhōmania)สาธารณรัฐโรมัน (ละติน: Res Publica Romana; : Πολιτεία τῶν Ῥωμαίων, อักษรโรมัน: Politeia tōn Rhōmaiōn) หรือ "Rhōmais" (: Ῥωμαΐς) ในภาษากรีก ประชากรเรียกตนเองว่า โรมัยอัย (Romaioi) และแม้กระทั่งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ชาวกรีกมักเรียกตนเองด้วยว่า โรมัยกา (Romaiika, "โรมาอิก") ภายหลัง ค.ศ. 1204 จักรวรรดิไบแซนไทน์ถูกจำกัดขอบเขตให้อยู่ในมณฑลต่าง ๆ ของกรีกล้วนเป็นส่วนใหญ่ คำว่า 'เฮลเลนส์' ก็ถูกนำมาใช้มากขึ้นแทน
ในขณะที่จักรวรรดิไบแซนไทน์มีลักษณะหลากหลายเชื้อชาติ ในช่วงของประวัติศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ และรักษาขนบธรรมเนียบแบบโรมัน-กรีกเอาไว้ จักรวรรดิไบแซนไทน์ก็ถูกระบุโดยคนร่วมสมัยทางตะวันตกและทางเหนือ ด้วยที่เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น แหล่งข้อมูลในยุคกลางตะวันตกยังเรียกจักรวรรดินี้ว่า "จักรวรรดิแห่งชาวกรีก" (ละติน: Imperium Graecorum) และตัวจักรพรรดิเองถูกเรียกว่า อีมแปร์ราตอร์ไกรกอร์รูง (Imperator Graecorum; จักรพรรดิแห่งชาวกรีก) คำเหล่านี้ถูกใช้เพื่อแยกจักรวรรดิไบแซนไทน์ออกจากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่อ้างสิทธิ์ในอิทธิพลของจักรวรรดิโรมันโบราณในด้านตะวันตก
ไม่ต่างกันกับโลกอิสลามและสลาฟ ที่ซึ่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ถูกมองว่าเป็นจักรวรรดิที่สืบทอดมาจากจักรวรรดิโรมันอย่างตรงไปตรงมามากกว่า ในโลกอิสลาม จักรวรรดิโรมันเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เป็นหลัก ชื่อ หรือ "ชาติโรมัน" ถูกใช้จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 นั่นเพื่อกล่าวถึงประชากรของจักรวรรดิไบแซนไทน์ นั่นคือ ชุมชน ภายในจักรวรรดิออตโตมัน
ประวัติศาสตร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในปี ค.ศ. 324 จักรพรรดิคอนสแตนตินได้สถาปนาตนเป็นจักรพรรดิโรมัน ในปี ค.ศ. 330 พระองค์ทรงย้ายเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันไปยังเมืองไบแซนทิอุม จากนั้นทรงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นโนวาโรม หรือกรุงโรมใหม่ หลังพระองค์สวรรคตในปี ค.ศ. 337 กรุงโรมใหม่ ก็ได้เปลี่ยนเป็น คอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) เพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระองค์
เมืองไบแซนทิอุม เมื่อถูกตั้งเป็นเมืองหลวงมีความสำคัญทางด้านการเมืองและได้เป็นศูนย์กลางการค้าของจักรวรรดิ ในเวลานั้นจักรวรรดิโรมันตะวันตกและจักรวรรดิโรมันตะวันออกยังมีจักรพรรดิองค์เดียวกันอยู่ การแบ่งจักรวรรดิเป็นสองส่วนนั้นเป็นเพียงแบ่งการปกครองเท่านั้น
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 395 จักรพรรดิเธโอดอซุสที่ 1 ทรงแบ่งแยกจักรวรรดิโรมันเป็น 2 ส่วน เพื่อให้พระโอรสทั้งสองพระองค์ คือ เจ้าชายอาร์คาดิอุส ได้ครองจักรวรรดิโรมันตะวันออกโดยมีกรุงคอนสแตนติโนเปิลเป็นเมืองหลวง ในขณะที่จักรวรรดิโรมันตะวันตกได้ถูกทำลายและล่มสลายไปในปี ค.ศ. 476 ซึ่งนำไปสู่ยุคมืดของยุโรป จักรวรรดิไบแซนไทน์ได้หันมารับภาษาและวัฒธรรมกรีก ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในอนาโตเลีย ภาษาละตินของโรมันค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยภาษากรีกและได้เป็นภาษาที่ยอมรับในจักรวรรดิไบแซนไทน์
ความรุ่งเรืองถึงขีดสุดและรัชสมัยจักรพรรดิจัสติเนียน
จักรวรรดิไบแซนไทน์เจริญถึงขีดสุดในรัชสมัยจักรพรรดิจัสติเนียน (Justinian) (ครองราชย์ ค.ศ. 527-565) ทรงต้องการรวบรวมดินแดนของจักรวรรดิโรมันที่สูญเสียไปกลับคืน ทรงปกครองดินแดนที่ขยายกว้างใหญ่ออกไปให้กว้างกว่าจักรวรรดิโรมันตะวันออก
นอกจากนี้พระองค์ได้ทรงสร้างและบูรณะเมืองต่าง ๆ ทั่วจักรวรรดิ จนทำให้อีกหลายเมือง เช่น เมืองดามาคัส เมืองแอนติออค เมืองเบรุต และเมืองอเล็กซานเดรีย มีศิลปกรรมที่สวยงามและเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน ผลงานชิ้นเอกคือฮายาโซฟีอาเป็นศิลปะไบแซนไทน์
พระราชกรณียกิจที่สำคัญของ คือ ประมวลกฎหมายจัสติเนียน พระองค์ทรงตั้งคณะกรรมการขึ้นมา พิจารณาชำระและร่างกฎหมายขึ้น จักรพรรดิจัสติเนียนเองก็มีส่วนในการวินิจฉัยแก้ประมวลกฎหมายนั้นด้วย กฎหมายตราขึ้นในปี ค.ศ. 529 และแก้ไขเพิ่มให้สมบูรณ์อีกครั้งในอีก 5 ปีต่อมา
จักรวรรดิเสื่อมอำนาจ
หลังจากเสด็จสวรรคตแล้ว จักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มเสื่อมอำนาจลงเรื่อย ๆ ตามเวลา พระองค์สวรรคตในปี ค.ศ. 565 และช่วงเวลาตั้งแต่ปี ค.ศ. 565-641 ปรากฏว่ามีจักรพรรดิปกครองถึง 6 พระองค์ แต่ละองค์ปกครองจักรวรรดิในช่วงเวลาสั้น ๆ และจักรวรรดิไบแซนไทน์ต้องเสียดินแดนในการปกครองอย่างต่อเนื่องโดยจักรพรรดิไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากพยายามรักษาจักรวรรดิเอาไว้จากการรุกรานของต่างชาติ โดยเฉพาะพวกเปอร์เซียและสลาฟ
เปอร์เซียรุกรานจักรวรรดิ กองทัพเปอร์เซียซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้ยกกองทัพเข้ามารุกรานไบแซนไทน์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่พรมแดนยุโรปตะวันออกก็ถูกพวกสลาฟรุกราน ทำให้จักรพรรดิของไบแซนไทน์ต้องทำนโยบายต่าง ๆ นั้นทำให้ประชาชนไม่พอใจและร่วมขับไล่ในปี ค.ศ. 582-602 แล้วนายทหารชื่อโฟคาสก็ได้สถาปนาตนเป็นจักรพรรดิปกครองอยู่ในช่วงหนึ่งคือปี ค.ศ. 602-610 โฟคาสก็ยังต้องพบกับปัญหาเดิม ๆ อีกและด้วยการที่เขานำวิธีการปกครองแบบเผด็จการมาใช้ผนวกเข้าไปด้วยก็กลับสร้างความไม่พอใจกับประชาชน ในที่สุดเขาถูกชิงอำนาจโดยนายทหารอีกผู้หนึ่งแทน
ค.ศ. 610-641 เป็นยุคสมัย ก็ยังคงเผชิญกับการรุกรานเช่นเดิม เปอร์เซียรุกลึกเข้าในจักรวรรดิมากคือเข้ามาถึงอาร์มีเนียและเมโสโปเตเมีย แล้วในปี ค.ศ. 613 ก็สามารถยึดเมืองแอนติออค ปี ค.ศ. 614 ก็ยึดเมืองเยรูซาเล็ม ซีเรีย ปาเลสไตน์ อียิปต์ ก็ต้องตกอยู่ในอำนาจของเปอร์เซีย ไม่รวมแม้แต่เอเชียไมเนอร์ที่กำลังถูกรุกราน ด้วยสถานการณ์ที่คับขันทำให้จักรพรรดิต้องลงนามสนธิสัญญาสันติภาพดับพวกอวาร์ที่รุกรานอยู่ยุโรปตะวันออก โดยหวังจะระดมพลกองทัพไบแซนไทน์ทั้งหมดไปเอเชียไมเนอร์ แต่ปรากฏว่าเมื่อยกทัพออกไป ทัพของเปอร์เซียก็ร่วมมือกับอวาร์เข้าโจมตีกรุงคอนสแตนติโนเปิลทำให้จักรพรรดิต้องยกทัพกลับ
แต่ในปลายปี ค.ศ. 627 กองทัพไบแซนไทน์กลับเอาชนะกองทัพเปอร์เซียได้ ไบแซนไทน์ขับพระมหากษัตริย์เปอร์เซียและปลงชีพพระองค์ทำให้เปอร์เซียถูกบังคับให้ลงนามสนธิสัญญาสงบศึก ทำให้ไบแซนไทน์ดูเหมือนกลับมาสงบอีกครั้ง
การรุกรานมุสลิมอาหรับ
การรุกรานใหม่กำลังเริ่มเข้ามาสู่จักรวรรดิไบแซนไทน์อีกครั้งนั้นก็คือ ศาสนาอิสลามที่กำลังเผยแพร่ศาสนาโดยการนำของมุสลิมชาวอาหรับที่มีอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกที ค.ศ. 632 กองทัพมุสลิมอาหรับก็สามารถเข้าครอบครองคาบสมุทรอารเบีย แล้วเริ่มรุกรานเข้าสู่ดินแดนจักรวรรดิไบแซนไทน์และเปอร์เซีย
ต่อจากนั้นก็เริ่มเข้ายึดครองเมืองดามัสกัสในปี ค.ศ. 635 ได้จอร์แดนและซีเรียในปี ค.ศ. 636 ได้เยรูซาเล็มในปี ค.ศ. 638 มุสลิมชาวอาหรับก็เริ่มรุกเข้าอียิปต์ และรุกรานเอเชียไมเนอร์ ของไบแซนไทน์พยายามต่อต้านการรุกรานอย่างเต็มกำลัง จนกระทั่งสิ้นรัชกาลในปี ค.ศ. 641 สถานการณ์ยังคงไม่ดีขึ้น
กลางคริสต์ศตวรรษที่ 7 มุสลิมอาหรับได้ดินแดนแอฟริกาตอนเหนือของไบแซนไทน์ไปจนหมด ซึ่งดินแดนเหล่านี้ถือเป็นดินแดนที่สำคัญของจักรวรรดิ เพราะมีประชากรมากที่สุด ชาวเมืองเป็นชุมชนที่มีความรู้มีความก้าวหน้าทางวิชาการและที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของเมืองขนาดใหญ่และสำคัญ เช่น เมืองอเล็กซานเดรีย, เยรูซาเล็ม การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นการสุญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับจักรวรรดิไบแซนไทน์ เพราะทำให้ไบแซนไทน์ต้องอ่อนแอลงทั้งด้านกำลังคนและเศรษฐกิจ จนเป็นส่วนหนึ่งของการล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ต่อมา[]
ปัญหาการรุกรานของมุสลิมอาหรับกับไบแซนไทน์ก็ดูเหมือนว่าจะจบลงไปชั่วคราวเมื่อได้พันธมิตร โดย ได้ดำเนินนโยบายเป็นมิตรกับชนเผ่าเติร์กจากเอเชียกลางมาช่วยกันไม่ให้มุสลิมอาหรับและบัลแกเรียที่รุกรานออกห่างกรุงคอนสแตนติโนเปิลได้
สมัยราชวงศ์มาซิโดเนียและการฟื้นตัวของจักรวรรดิ (ค.ศ. 867–1025)
ค.ศ. 867–1025 ความสงบชั่วคราวทำให้จักรวรรดิไบแซนไทน์กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง เพราะจักรวรรดิมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา การเมืองภายในสงบ มึการขยายดินแดน เศรษฐกิจก็มั่นคง ความก้าวหน้าด้านศิลปวิทยาการก็เจริญ ด้วยการปกครองของจักรพรรดิที่มาจากราชวงศ์มาซิโดเนีย โดยมีจักรพรรดิที่สำคัญได้แก่ และเบซิลที่ 2
แท้จริงตำแหน่งจักรพรรดิของไบแซนไทน์นั้นมาจากการเลือกตั้งทำให้ราชวงศ์มาซิโดเนียสามารถเข้ามาเป็นผู้นำได้ อีกทั้งด้วยผลงานของ ที่สามารถมีชัยชนะต่อกองทัพอาหรับ และสามารถขยายดินแดนไปยุโรปตะวันออก อีกทั้งยังยืนยันในการเป็นจักรวรรดิผู้นำคริสต์ศาสนานิกายออร์ทอดอกซ์ไปเผยแพร่อีกด้วยทำให้พระองค์ได้รับความนิยมอย่างมาก
ช่วงปลายรัชสมัยของจักรพรรดิเบซิลนั้นพระองค์สามารถเป็นพันธมิตรกับบัลแกเรียได้ด้วยนโยบายทางศาสนาแต่ก็กลายเป็นปัญหากับไบแซนไทน์มากกว่าที่เคยมีกับอาหรับ โดยจักรพรรดิเบซิลที่ 2 ได้ทำสงครามอย่างยาวนานกับบัลแกเรียนานหลายปี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1018 บัลแกเรียก็พ่ายแพ้และตกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ชัยชนะที่มีต่อบัลแกเรียนี้ทำให้ไบแซนไทน์สามารถขยายอาณาเขตในยุโรปตะวันออกไปไกลอีกคือ เซอร์เบีย โครเอเชีย แต่อำนาจของและความรุ่งเรืองของจักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มเสื่อมลงเรื่อย ๆ หลังจากที่จักรพรรดิเบซิลที่ 2 สวรรคตในปี ค.ศ. 1025
หลังจักรพรรดิเบซิลที่ 2 เสด็จสวรรคต พระอนุชาคือ ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ พระองค์ไม่มีโอรส จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 8 พระองค์ครองอำนาจในระยะสั้น แม้ในเวลาต่อมาพระองค์จะไม่มีพระราชโอรสแต่ก็มีพระองค์มีพระราชธิดา 2 พระองค์เท่านั้นคือ และ แต่ประชาชนก็ยังเลือกเอาพระธิดาของพระองค์ให้ขึ้นครองราชย์ เพราะประชาชนส่วนใหญ่เชื่อกันว่าความมั่งคั่งของจักรวรรดิไบแซนไทน์มากจากราชวงศ์มาซิโดเนียเท่านั้น
แม้จะมีจักรพรรดิจากราชวงศ์อื่นขึ้นเป็นจักรพรรดิก็ตามแต่ก็อยู่ได้เพียงระยะสั้นเพราะประชาชนไม่นิยมสุดท้าย โซอิ ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินี ครองราชย์ในช่วง ค.ศ. 1028-1050 พระนางได้เสกสมรสถึง 3 ครั้ง ทำให้พระสวามีทั้งสามได้เป็นองค์จักรพรรดิตามไปด้วย ได้แก่ ได้เป็นจักรพรรดิเมื่อปี ค.ศ. 1028-1034 ได้เป็นจักรพรรดิเมื่อปี ค.ศ. 1034-1041 และ ได้เป็นจักรพรรดิเมื่อปี ค.ศ. 1042-1055 เมื่อคอนสแตนตินที่ 9 สิ้นพระชนม์ ก็ได้เป็นจักรพรรดินีองค์ต่อมา กระทั่ง ค.ศ. 1055
ช่วงระยะนี้ คือตั้งแต่ปี ค.ศ. 1025-1081 นั้น นับเป็นช่วงปลายยุคทองของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ระยะเวลาเพียง 56 ปี มีจักรพรรดิปกครองถึง 13 พระองค์ มีความพยายามที่จะเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่เข้ามาปกครองแต่ไม่สำเร็จ กระทั่ง ค.ศ. 1081 จากตระกูลคอมเมนุส ก็ทำการสำเร็จ และตระกูลนี้ปกครองต่อมาอีก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1081-1185
การรุกรานของเติร์ก
ยุคทองของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ด้านหนึ่งก็มีผลร้ายเหมือนกัน นั่นคือ ด้วยความมั่งคั่ง และรุ่งเรืองต่อเนื่องยาวนานทำให้ประชาชนหลงใหลและขาดการเตรียมตัว ทำให้จักรวรรดิเริ่มอ่อนแอลง อีกทั้งเกิดความแตกแยกในหมู่ผู้ปกครองและชนชั้นสูงและระหว่างกลุ่มขุนนางทหารกับขุนนางพลเรือน เมื่อเกิดการรุกรานจากศัตรูทำให้ไบแซนไทน์ต้องประสบปัญหาในที่สุด
โดยเฉพาะการรุกรานของชนเผ่าเติร์กหรือเซลจุกเตริร์กในเวลาต่อมากล่าวคือชนเผ่าเติร์กเป็นศัตรูกลุ่มใหม่ที่เริ่มรุกรานจักรวรรดิไบแซนไทน์ในกลางศตวรรษที่ 11 อันที่จริงแล้วเมื่อสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 7 เคยได้เข้าร่วมกับพวกเติร์กในการต่อต้านการรุกรานของบัลแกเรียมาแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นจักรพรรดิทรงอนุญาตให้ชาวเติร์กตั้งถิ่นฐานอยู่ในทางตอนใต้ของแม่น้ำดานูบ และที่สำคัญเหนือไปกว่านั้นชาวไบแซนไทน์เองที่สอนให้ชาวเติร์กให้รบเก่งและมีระบบ
ต่อมาเมื่อเติร์กขยายตัวมากยิ่งขึ้นก็เริ่มรุกรานพื้นที่หลายแห่งของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ในปี ค.ศ. 1055 เติร์กสามารถชนะเปอร์เซีย หลังจากนั้นพวกเขาก็ยกทัพเข้าแบกแดดและเริ่มสถาปนาตนเองเป็นสุลต่าน พร้อมอ้างตัวเป็นผู้คุ้มครอง และเริ่มขยายอำนาจเข้าสู่อียิปต์และอนาโตเนีย ต่อมา ค.ศ. 1065 เติร์กรุกเข้าอาร์มีเนีย และ ค.ศ. 1067 ก็สามารถขยายอำนาจเข้าสู่อนาโตเลียตอนกลาง
ค.ศ. 1067 ไบแซนไทน์มีจักรพรรดิคือ พระองค์ทรงพ่ายแพ้ต่อกองทัพเติร์กที่สนามรบอาร์มีเนีย และพระองค์ก็ถูกจับเป็นเชลยต่อกองทัพของเติร์กจำเป็นต้องเซ็นสัญญาสงบศึกกับเติร์กก่อนจะได้รับการปล่อยตัว เมื่อจักรพรรดิโรมานุสเดินทางกลับยังคอนสแตนติโนเปิลพระองค์ก็ไม่เป็นที่ยอมรับจนเกิดการแย่งชิงอำนาจขึ้นภายในจักรวรรดิไบแซนไทน์ ทำให้เติร์กส่งกองกำลังมารบกวนจนสามารถยึดไนเซีย อันเป็นเมืองฐานกำลังทหารและเศรษฐกิจของจักรวรรดิ ไม่เพียงเท่านั้นไบแซนไทน์ยังถูกซ้ำเติมอีก รุกเข้ามายึดอิตาลีทั้งหมดในกลางปี ค.ศ. 1071 โดยเข้ายึดฐานที่มั่นของไบแซนไทน์ในอิตาลีที่เมืองบารีได้ให้อิตาลีทั้งหมดตกอยู่ในใต้อำนาจของนอร์แมนกลายเป็นการปิดฉากอำนาจของไบแซนไทน์ในคาบสมุทรอิตาลีไปด้วย
หลังจากเสียอิทธิพลในฝั่งอิตาลีไปแล้ว ไบแซนไทน์ก็มีอาณาเขตเล็กลงมาก นอกจากนั้นภายในไบแซนไทน์ก็เกิดการแย่งชิงอำนาจกันอย่างไม่สิ้นสุด หลังจากที่แย่งชิงกันอยู่ถึง 4 ปี สุดท้าย อเล็กเซียส คอมมินุส ซึ่งเป็นขุนนางทหารก็ได้เป็นจักรพรรดิเมื่อจักรวรรดิถูกปิดล้อมทั้งตะวันตกโดยชาวนอร์แมน และทางตะวันออกโดยเซลจุกเติร์กทำให้จักรพรรดิ (ค.ศ. 1081-1811) ต้องไปขอความช่วยเหลือจากพวกเวนิส โดยที่พระองค์ต้องยอมตกลงตามข้อเรียกร้องของเวนิส โดยการให้สิทธิการค้าในกรุงคอนสแตนติโนเปิลและที่อื่น ๆ ในไบแซนไทน์ ซึ่งข้อตกลงนี้เองทำให้ชาวเวนิสกลายมาเป็นพ่อค้าสำคัญในด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในเวลาต่อมา
สงครามครูเสด การรุกรานของชนทั้งสองต่อไบแซนไทน์ก็ยังไม่สิ้นสุดลงจนกระทั่ง จำต้องขอความชั่วเหลือไปยังสมเด็จพระสันตะปาปา โดยยกขออ้างให้ช่วยเหลือเมืองเยรูซาเล็ม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเติร์กยึดครองไปตั้งแต่ ค.ศ. 1077 และกองทัพครูเสดครั้งที่ 1 ก็ถูกส่งเข้ามา
ด้วยชัยชนะของกองทัพครูเสดดินแดนบางส่วนก็ได้ส่งคืนให้กับจักรพรรดิไบแซนไทน์ แต่บางส่วนแม่ทัพชาวมอร์แมนกลับไม่ยอมยกคืนให้ทั้งที่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นั้นจักรพรรดิไบแซนไทน์เป็นผู้ที่เสียให้เกือบทั้งหมด ผ่านพ้นสงครามครูเสดครั้งที่ 1 พวกเติร์กก็ยังรุกรานอยู่เช่นเดิม จักรพรรดิองค์ต่อมาเห็นว่าชาวตะวันตกมีบทบาทจึงได้ดำเนินนโยบายเป็นมิตรกับชาวตะวันตกเอาไว้ ต่อมาเกิดสงครามครูเสดครั้งที่ 2 กองทัพครูเสดต้องใช้ไบแซนไทน์เป็นทางผ่านทำให้ไบแซนไทน์ถูกกองทัพครูเสดบางกลุ่มเข้าปล้น
จักรวรรดิล่มสลาย
ไบแซนไทน์ยังต้องทำสงครามกับเติร์กมาโดยตลอดจนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยชาวเติร์กรุกเข้ามาในจักรวรรดิ โดยเริ่มจาก ค.ศ. 1377 เติร์กประกาศตั้งเมืองหลวงของออตโตมันที่อเดรียนเนเปิล ค.ศ. 1385 ก็ยึดเมืองโซเฟีย ค.ศ. 1386 ได้เมืองนีส เมืองเทสสาโลนิกา
พฤษภาคม ค.ศ. 1453 จักรวรรดิไบแซนไทน์ก็ต้องพ่ายแพ้แก่จักรวรรดิออตโตมันของชาวเติร์ก และถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมันในที่สุด จักรวรรดิโรมันตะวันออกหรือจักรวรรดิไบแซนไทน์ ก็ล่มสลายลง จักรวรรดิไบแซนไทน์นั้นรักษาวัฒธรรมของโรมันและวัฒธรรมกรีก เป็นระยะเวลา 1123 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 330-1453
การล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ เกิดขึ้นหลังจากที่กรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกยึดโดย ในปี ค.ศ. 1453 หลังจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลแตกก็ได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอิสตันบูลมาจนถึงปัจจุบัน และในทางประวัติศาสตร์ยังได้ถือว่าการสิ้นสุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์เป็นที่สิ้นสุดของ
หมายเหตุ
- "โรมาเนีย" เป็นชื่อที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปในจักรวรรดิไบแซนไทน์ ซึ่งหมายถึ่ง "ดินแดนแห่งชาวโรมัน" ภายหลัง ค.ศ. 1081 คำนี้ก็ได้ปรากฏบนเอกสารทางราชการของไบแซนไทน์เป็นบางครั้งอีกด้วย ใน ค.ศ. 1204 ผู้นำในสงครามครูเสดครั้งที่ 4 ได้ตั้งชื่อ โรมาเนีย ให้กับจักรวรรดิละตินที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ แต่คำนี้ไม่ได้หมายถึงประเทศโรมาเนียในปัจจุบัน
อ้างอิง
- https://www.britannica.com/topic/Byzantine-Greek-language
- Fox, What, If Anything, Is a Byzantine?; Rosser 2011, p. 1
- Rosser 2011, p. 2 .
- Fossier & Sondheimer 1997, p. 104 .
- Wolff 1948, pp. 5–7, 33–34 .
- Cinnamus 1976, p. 240 .
- Browning 1992, "Introduction", p. xiii : "The Byzantines did not call themselves Byzantines, but Romaioi–Romans. They were well aware of their role as heirs of the Roman Empire, which for many centuries had united under a single government the whole Mediterranean world and much that was outside it."
- Nicol, Donald M. (30 December 1967). "The Byzantine View of Western Europe". Greek, Roman, and Byzantine Studies (ภาษาอังกฤษ). 8 (4): 318. ISSN 2159-3159.
- Ahrweiler & Laiou 1998, p. 3 ; Mango 2002, p. 13 .
- Gabriel 2002, p. 277 .
- Ahrweiler & Laiou 1998, p. vii ; Davies 1996, p. 245 ; Gross 1999, p. 45 ; Lapidge, Blair & Keynes 1998, p. 79 ; Millar 2006, pp. 2, 15 ; Moravcsik 1970, pp. 11–12 ; Ostrogorsky 1969, pp. 28, 146 ; Browning 1983, p. 113 .
- Klein 2004, p. 290 (Note #39) ; , 389: "Mense lanuario c. epiphaniam Basilii, Graecorum imperatoris, legati cum muneribus et epistolis ad Hludowicum regem Radasbonam venerunt ...".
- Fouracre & Gerberding 1996, p. 345 : "The Frankish court no longer regarded the Byzantine Empire as holding valid claims of universality; instead it was now termed the 'Empire of the Greeks'."
- Tarasov & Milner-Gulland 2004, p. 121 ; El-Cheikh 2004, p. 22
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ckrwrrdiibaesnithn xngkvs Byzantine Empire hruxthieriykwa ckrwrrdiormntawnxxk xngkvs Eastern Roman Empire hrux ibaesnthixum Byzantium epnckrwrrdithisubthxdodytrngcakckrwrrdiormninplaysmyobran aelayukhklang misunyklangxyuthikrungkhxnsaetntionepil inbribthsmyobrantxnplay thngkhawa ckrwrrdiibaesnithn aela ckrwrrdiormntawnxxk epnkhathangphumiprawtisastrthisrangkhunphayhlngaelaichkninhlaystwrrstxma khnathiphlemuxngyngeriykckrwrrdikhxngtnwa ckrwrrdiormn hrux ormaeniy eruxymakrathnglmslayip khnathickrwrrdiormntawntklmslayipinkhriststwrrsthi 5 swntawnxxkyngdaenintxmaxikphnpikxncaesiyaeketirkxxtotmnin kh s 1453 insmythiyngmickrwrrdiibaesnithnyngkhngxyunn ckrwrrdiepnchatithimiesrsthkic wthnthrrmaelakalngthharaekhngaekrngthisudinyuorpckrwrrdiibaesnithn Basileia Ῥwmaiwn a Imperium Romanumkh s 395 1453b duthi kalngphrrnathung sungidepnbrrthdthankhxngehriyyinckrwrrdiibaesnithnckrwrrdiibaesnithnin kh s 555 phayitkarpkkhrxngkhxngckrphrrdiyustinixanusthi 1 inchwngthiyingihythisud nbtngaetkarlmslaykhxngckrwrrdiormntawntk sichmphukhux karepliynaeplngdinaednkhxngckrwrrdiormntawnxxk inaetlasmykhxngrachwngstang cnkrathngkarlmslaykhxngckrwrrdiin kh s 1453sthanackrwrrdiemuxnghlwngkhxnsaetntionepilc kh s 395 1204 kh s 1261 1453 phasathwipsasnakhristtawnxxkd xxrthxdxkstawnxxke epnswnnxy sasnaxislamaelayudayckrphrrdiphuthimichuxesiyng kh s 306 337khxnsaetntinthi 1 kh s 395 408xarkadixus kh s 402 450ethxxdxsixusthi 2 kh s 527 565yustinixanusthi 1 kh s 610 641ehrakhlixs kh s 717 741 kh s 797 802ixenrin kh s 867 886 kh s 976 1025ebsilthi 2 kh s 1042 1055 kh s 1081 1118xelksixxsthi 1 kh s 1259 1282mikhaexlthi 8 kh s 1449 1453khxnsaetntinthi 11yukhprawtisastryukhobrantxnplay thung yukhklangtxnplay cturathipity 1 emsayn kh s 286 kxtngkhxnsaetntionepil11 phvsphakhm kh s 330 karaebngckrwrrditawnxxk tawntkkhrngsudthay phayhlngkarswrrkhtkhxngckrphrrdiethxxdxsixusthi 117 mkrakhm kh s 395 karlmslaykhxngkrungorm ormulus exakustusthukpldodyphraecaoxedesxr4 knyayn kh s 476 yulixus aenopsthuklxbsnghar epncudcbkhxngckrwrrdiormntawntkinthangthvsdi25 emsayn kh s 480 suyesiymnthlxnmngkhngaehngaelaxiyipt xanacthangthaelinemdietxrereniynsinsudlng epncuderimtnkhxngkh s 622 750 sngkhramkhruesdkhrngthi 4 kxtngckrwrrdilatin odynkrbkhruesdthinbthuxnikaykhathxlik12 emsayn kh s 1204 ckrphrrdimikhaexlthi 8 yudkrungkhxnsaetnonepilkhun25 krkdakhm kh s 1261 karesiykrungkhxnsaetntionepil29 phvsphakhm kh s 1453 karlmslaykhxng31 phvsphakhm kh s 1460 karlmslaykhxng15 singhakhm kh s 1461prachakr kh s 45716 000 000 khnf kh s 56526 000 000 khn kh s 7757 000 000 khn kh s 102512 000 000 khn kh s 13202 000 000 khnskulengin aelakxnhna thdipckrwrrdiormn ckrwrrdixxtotmn Basileia Ῥwmaiwn xacthayesiynginxksrlatinidwa Basileia Rhōmaiōn hakaepltrngtamtwxksrcamikhwamhmaywa rachathipitykhxngchawormn aetodythwipaelwcaaeplepn ckrwrrdikhxngchawormn rahwang kh s 1204 thung kh s 1261 mismychwngwangrahwangrchkal emuxckrwrrdiibaesnithnthukaebngxxkepnckrwrrdiinesiy aela sunglwnaetcachingkarpkkhrxngkhxngckrwrrdiibaesnithn ckrwrrdiinesiythuxepnckrwrrdithisubthxdthichxbdwykdhmaykhxngckrwrrdiibaesnithn enuxngcaksamarthyudkhxnsaetntionepilkhunmaid khxnsaetntionepilidklayepnemuxnghlwngkhxngckrwrrdi thirwmepnhnung in kh s 330 in kh s 395 ckrwrrdithukaebngxxkepnsiktawntkaelatawnxxk ekidkhunhlngcakphrarachkvsdika kh s 311 aelamilan kh s 313 hlng kh s 380 phayhlngsasnephthtawnxxk tawntk kh s 1054 duthi sahrbraylaexiydtwelkhephimetimthicdthaody McEvedy and Jones Atlas of World Population History 1978 as well as Angeliki E Laiou The Economic History of Byzantium 2002 cakprawtisastrswnihykhxngckrwrrdiibaesnithnidaesdngihehnwackrwrrdiibaesnithnkhuxckrwrrdikhxngchawkrik emuxkhanungthungxiththiphlkhxngphasakrik wthnthrrmkrikaelaprachakrechuxsaykrik aetprachachnkhxngckrwrrdiexngnn mxngckrwrrdikhxngtnwaepnephiyngckrwrrdiormnthimickrphrrdiormnsubthxdtaaehnngxyangtxenuxngknethann txngkarxangxing karerimtnkhxngckrwrrdiibaesnithnnnimepnthithrabaenchd odyswnihythuxwackrwrrdiibaesnithnerimtnkhunemuxckrphrrdikhxnsaetntinthi 1 khrxngrachy kh s 306 337 aehngormidsthapnankhrkhxnsaetntionepilihepn ormihm in ph s 873 kh s 330 aelayayemuxnghlwngcakormmaepnkhxnsaetntionepilaethn dngnn cungthuxwackrphrrdikhxnsaetntinepnckrphrrdixngkhaerkkhxngckrwrrdiibaesnithnipodypriyay aetkmibangswnthuxwackrwrrdiibaesnithnerimtnkhuninsmykhxngthioxodesiysmharach khrxngrachy kh s 379 395 sungkhristsasnaidekhamaaethnthilththiephekinbuchaethphecaormninthanasasnapracachati hruxhlngcakthioxodesiysswrrkhtin kh s 395 emuxckrwrrdiormnidaebngkhwkarpkkhrxngepnfngtawnxxkaelatawntkxyangeddkhad thngyngmibangswnthithuxwackrwrrdiibaesnithnerimtnkhun xyangaethcring emuxckrphrrdiormulus xxkustulus sungthuxwaepnckrphrrdiormntawntkxngkhsudthaythukprabdaphiesk sungthaihxanacinkarpkkhrxngckrwrrditkxyuthichawkrikinfngtawnxxkaetephiyngfayediyw aelayngmixikbangswnthithuxwackrwrrdiormnidaeplngsphaphepnckrwrrdiibaesnithnodysmburn emuxckrphrrdiehrakhlixusepliynaeplngchuxtaaehnnginrachkar cakedimthiepnphasalatin ihklayepnphasakrikaethn xyangirkdi karepliynaeplngsthanakhxngckrwrrdinnepnipxyangtxenuxng aeminchwngkxnthickrphrrdikhxnsaetntincasthapnankhrkhxnsaetntionepilihepnemuxnghlwngihmkhxngckrwrrdiormnin kh s 330 ktam intxnnnkidmikaraeplngsphaphwthnthrrmcakormnepnkrik rwmthungkarepidrbkhristsasnathiephimkhunxyangtxenuxngipaelw karlmslaykhxngckrwrrdiibaesnithn odythwipaelw echuxwaekidkhunhlngcakthikrungkhxnsaetntionepilthukyudodysultanemhehmdthi 2 aehngckrwrrdixxtotmnin kh s 1453 odykrungkhxnsaetntionepilidthukepliynchuxihmepnxistnbulmacnthungpccubn aelainthangprawtisastryngidthuxwakarsinsudkhxngckrwrrdiibaesnithnepncudsinsudyukhklanginyuorpxikdwykareriykchuxkarichkhawa ibaesnithn ephuxrabupitx makhxngckrwrrdiormnepnkhrngaerk ekidkhunemux kh s 1557 hrux 104 piphayhlngkarlmslaykhxngckrwrrdiibaesnithn emux nkprawtisastrchaweyxrmn idtiphimphphlkhxngekhathimichuxwa kxrpushistxriixbussntiin Corpus Historiae Byzantinae sungepnaehlngrwbrwmaehlngkhxmulthangprawtisastr txngkarxangxing sungkhaninamacakkhawa biaesnethiym sungepnchuxemuxngthickrphrrdikhxnsaetntinyayemuxnghlwngcakorm aelasrangkhunmaihmphayitchuxihmkhuxkhxnsaetntionepil chuxekakhxngnkhrnicungimkhxyichnbtngaetbdniepntnip ykewninbribththangprawtisastrhruxbthkwi bisxngtinduwlufwr sungepnsingtiphimphin kh s 1648 aela histxrixabussntina Historia Byzantina khxng in kh s 1680 idthaihkarichkhawa ibaesnithn epnthiniyminhmunkekhiynchawfrngess echn mngaetskieyx epntn xyangirktam cnthungklangkhriststwrrsthi 19 khanierimichknodythwipinolktawntk ckrwrrdiibaesnithnepnthiruckkhxngprachachninchux ckrwrrdiormn hrux ckrwrrdiaehngchawormn latin Imperium Romanum Imperium Romanorum Basileia tῶn Ῥwmaiwn Ἀrxὴ tῶn Ῥwmaiwn xksrormn Basileia tōn Rhōmaiōn Arche tōn Rhōmaiōn ormaeniy latin Romania Ῥwmania xksrormn Rhōmania satharnrthormn latin Res Publica Romana Politeia tῶn Ῥwmaiwn xksrormn Politeia tōn Rhōmaiōn hrux Rhōmais Ῥwmais inphasakrik prachakreriyktnexngwa ormyxy Romaioi aelaaemkrathngplaykhriststwrrsthi 19 chawkrikmkeriyktnexngdwywa ormyka Romaiika ormaxik phayhlng kh s 1204 ckrwrrdiibaesnithnthukcakdkhxbekhtihxyuinmnthltang khxngkriklwnepnswnihy khawa ehlelns kthuknamaichmakkhunaethn inkhnathickrwrrdiibaesnithnmilksnahlakhlayechuxchati inchwngkhxngprawtisastrepnswnihy aelarksakhnbthrrmeniybaebbormn krikexaiw ckrwrrdiibaesnithnkthukrabuodykhnrwmsmythangtawntkaelathangehnux dwythierimmixiththiphlmakkhun aehlngkhxmulinyukhklangtawntkyngeriykckrwrrdiniwa ckrwrrdiaehngchawkrik latin Imperium Graecorum aelatwckrphrrdiexngthukeriykwa ximaeprratxrikrkxrrung Imperator Graecorum ckrphrrdiaehngchawkrik khaehlanithukichephuxaeykckrwrrdiibaesnithnxxkcakckrwrrdiormnxnskdisiththithixangsiththiinxiththiphlkhxngckrwrrdiormnobranindantawntk imtangknkbolkxislamaelaslaf thisungckrwrrdiibaesnithnthukmxngwaepnckrwrrdithisubthxdmacakckrwrrdiormnxyangtrngiptrngmamakkwa inolkxislam ckrwrrdiormnepnthiruckkninchux epnhlk chux hrux chatiormn thukichcnthungkhriststwrrsthi 20 nnephuxklawthungprachakrkhxngckrwrrdiibaesnithn nnkhux chumchn phayinckrwrrdixxtotmnprawtisastrswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkrungkhxnsaetntionepil Constantinople inpi kh s 324 ckrphrrdikhxnsaetntinidsthapnatnepnckrphrrdiormn inpi kh s 330 phraxngkhthrngyayemuxnghlwngkhxngckrwrrdiormnipyngemuxngibaesnthixum caknnthrngidepliynchuxemuxngepnonwaorm hruxkrungormihm hlngphraxngkhswrrkhtinpi kh s 337 krungormihm kidepliynepn khxnsaetntionepil Constantinople ephuxepnkarthwayekiyrtiaedphraxngkh emuxngibaesnthixum emuxthuktngepnemuxnghlwngmikhwamsakhythangdankaremuxngaelaidepnsunyklangkarkhakhxngckrwrrdi inewlannckrwrrdiormntawntkaelackrwrrdiormntawnxxkyngmickrphrrdixngkhediywknxyu karaebngckrwrrdiepnsxngswnnnepnephiyngaebngkarpkkhrxngethann cnkrathnginpi kh s 395 ckrphrrdiethoxdxsusthi 1 thrngaebngaeykckrwrrdiormnepn 2 swn ephuxihphraoxrsthngsxngphraxngkh khux ecachayxarkhadixus idkhrxngckrwrrdiormntawnxxkodymikrungkhxnsaetntionepilepnemuxnghlwng inkhnathickrwrrdiormntawntkidthukthalayaelalmslayipinpi kh s 476 sungnaipsuyukhmudkhxngyuorp ckrwrrdiibaesnithnidhnmarbphasaaelawththrrmkrik sungepnthiyxmrbxyangaephrhlayinxnaoteliy phasalatinkhxngormnkhxy thukaethnthidwyphasakrikaelaidepnphasathiyxmrbinckrwrrdiibaesnithn khwamrungeruxngthungkhidsudaelarchsmyckrphrrdicstieniyn ckrwrrdiibaesnithninchwngthixanaekhtkwangkhwangthisud inrchsmy kh s 555 ckrwrrdiibaesnithnecriythungkhidsudinrchsmyckrphrrdicstieniyn Justinian khrxngrachy kh s 527 565 thrngtxngkarrwbrwmdinaednkhxngckrwrrdiormnthisuyesiyipklbkhun thrngpkkhrxngdinaednthikhyaykwangihyxxkipihkwangkwackrwrrdiormntawnxxk nxkcakniphraxngkhidthrngsrangaelaburnaemuxngtang thwckrwrrdi cnthaihxikhlayemuxng echn emuxngdamakhs emuxngaexntixxkh emuxngebrut aelaemuxngxelksanedriy misilpkrrmthiswyngamaelaepnaehlngprawtisastrinpccubn phlnganchinexkkhuxhayaosfixaepnsilpaibaesnithn phrarachkrniykicthisakhykhxng khux pramwlkdhmaycstieniyn phraxngkhthrngtngkhnakrrmkarkhunma phicarnacharaaelarangkdhmaykhun ckrphrrdicstieniynexngkmiswninkarwinicchyaekpramwlkdhmaynndwy kdhmaytrakhuninpi kh s 529 aelaaekikhephimihsmburnxikkhrnginxik 5 pitxma ckrphrrdicstieniynckrwrrdiesuxmxanac hlngcakesdcswrrkhtaelw ckrwrrdiibaesnithnerimesuxmxanaclngeruxy tamewla phraxngkhswrrkhtinpi kh s 565 aelachwngewlatngaetpi kh s 565 641 praktwamickrphrrdipkkhrxngthung 6 phraxngkh aetlaxngkhpkkhrxngckrwrrdiinchwngewlasn aelackrwrrdiibaesnithntxngesiydinaedninkarpkkhrxngxyangtxenuxngodyckrphrrdiimsamarththaxairidelynxkcakphyayamrksackrwrrdiexaiwcakkarrukrankhxngtangchati odyechphaaphwkepxresiyaelaslaf dinaedn ckrwrrdiibaesnithn inpi kh s 600 epxresiyrukranckrwrrdi kxngthphepxresiysungmixanaekhttidtxkbckrwrrdiibaesnithnidykkxngthphekhamarukranibaesnithnxyangtxenuxng khnathiphrmaednyuorptawnxxkkthukphwkslafrukran thaihckrphrrdikhxngibaesnithntxngthanoybaytang nnthaihprachachnimphxicaelarwmkhbilinpi kh s 582 602 aelwnaythharchuxofkhaskidsthapnatnepnckrphrrdipkkhrxngxyuinchwnghnungkhuxpi kh s 602 610 ofkhaskyngtxngphbkbpyhaedim xikaeladwykarthiekhanawithikarpkkhrxngaebbephdckarmaichphnwkekhaipdwykklbsrangkhwamimphxickbprachachn inthisudekhathukchingxanacodynaythharxikphuhnungaethn kh s 610 641 epnyukhsmy kyngkhngephchiykbkarrukranechnedim epxresiyruklukekhainckrwrrdimakkhuxekhamathungxarmieniyaelaemosopetemiy aelwinpi kh s 613 ksamarthyudemuxngaexntixxkh pi kh s 614 kyudemuxngeyrusaelm sieriy paelsitn xiyipt ktxngtkxyuinxanackhxngepxresiy imrwmaemaetexechiyimenxrthikalngthukrukran dwysthankarnthikhbkhnthaihckrphrrditxnglngnamsnthisyyasntiphaphdbphwkxwarthirukranxyuyuorptawnxxk odyhwngcaradmphlkxngthphibaesnithnthnghmdipexechiyimenxr aetpraktwaemuxykthphxxkip thphkhxngepxresiykrwmmuxkbxwarekhaocmtikrungkhxnsaetntionepilthaihckrphrrditxngykthphklb aetinplaypi kh s 627 kxngthphibaesnithnklbexachnakxngthphepxresiyid ibaesnithnkhbphramhakstriyepxresiyaelaplngchiphphraxngkhthaihepxresiythukbngkhbihlngnamsnthisyyasngbsuk thaihibaesnithnduehmuxnklbmasngbxikkhrng karrukranmuslimxahrb ckrwrrdiibaesnithn pi kh s 650 karrukranihmkalngerimekhamasuckrwrrdiibaesnithnxikkhrngnnkkhux sasnaxislamthikalngephyaephrsasnaodykarnakhxngmuslimchawxahrbthimixanacmakkhuneruxy thukthi kh s 632 kxngthphmuslimxahrbksamarthekhakhrxbkhrxngkhabsmuthrxarebiy aelwerimrukranekhasudinaednckrwrrdiibaesnithnaelaepxresiy txcaknnkerimekhayudkhrxngemuxngdamsksinpi kh s 635 idcxraednaelasieriyinpi kh s 636 ideyrusaelminpi kh s 638 muslimchawxahrbkerimrukekhaxiyipt aelarukranexechiyimenxr khxngibaesnithnphyayamtxtankarrukranxyangetmkalng cnkrathngsinrchkalinpi kh s 641 sthankarnyngkhngimdikhun klangkhriststwrrsthi 7 muslimxahrbiddinaednaexfrikatxnehnuxkhxngibaesnithnipcnhmd sungdinaednehlanithuxepndinaednthisakhykhxngckrwrrdi ephraamiprachakrmakthisud chawemuxngepnchumchnthimikhwamrumikhwamkawhnathangwichakaraelathisakhykhuxepnthitngkhxngemuxngkhnadihyaelasakhy echn emuxngxelksanedriy eyrusaelm karsuyesiykhrngnithuxepnkarsuyesiykhrngyingihysahrbckrwrrdiibaesnithn ephraathaihibaesnithntxngxxnaexlngthngdankalngkhnaelaesrsthkic cnepnswnhnungkhxngkarlmslaykhxngckrwrrdiibaesnithntxma txngkarxangxing pyhakarrukrankhxngmuslimxahrbkbibaesnithnkduehmuxnwacacblngipchwkhrawemuxidphnthmitr ody iddaeninnoybayepnmitrkbchnephaetirkcakexechiyklangmachwyknimihmuslimxahrbaelablaekeriythirukranxxkhangkrungkhxnsaetntionepilid smyrachwngsmasiodeniyaelakarfuntwkhxngckrwrrdi kh s 867 1025 ckrwrrdiibaesnithn inpi kh s 867 kh s 867 1025 khwamsngbchwkhrawthaihckrwrrdiibaesnithnklbmarungeruxngxikkhrnghnung ephraackrwrrdimikhwamecriyrungeruxngkhunma karemuxngphayinsngb mukarkhyaydinaedn esrsthkickmnkhng khwamkawhnadansilpwithyakarkecriy dwykarpkkhrxngkhxngckrphrrdithimacakrachwngsmasiodeniy odymickrphrrdithisakhyidaek aelaebsilthi 2 aethcringtaaehnngckrphrrdikhxngibaesnithnnnmacakkareluxktngthaihrachwngsmasiodeniysamarthekhamaepnphunaid xikthngdwyphlngankhxng thisamarthmichychnatxkxngthphxahrb aelasamarthkhyaydinaednipyuorptawnxxk xikthngyngyunyninkarepnckrwrrdiphunakhristsasnanikayxxrthxdxksipephyaephrxikdwythaihphraxngkhidrbkhwamniymxyangmak chwngplayrchsmykhxngckrphrrdiebsilnnphraxngkhsamarthepnphnthmitrkbblaekeriyiddwynoybaythangsasnaaetkklayepnpyhakbibaesnithnmakkwathiekhymikbxahrb odyckrphrrdiebsilthi 2 idthasngkhramxyangyawnankbblaekeriynanhlaypi cnkrathngpi kh s 1018 blaekeriykphayaephaelatkepnswnhnungkhxngckrwrrdiibaesnithn chychnathimitxblaekeriynithaihibaesnithnsamarthkhyayxanaekhtinyuorptawnxxkipiklxikkhux esxrebiy okhrexechiy aetxanackhxngaelakhwamrungeruxngkhxngckrwrrdiibaesnithnerimesuxmlngeruxy hlngcakthickrphrrdiebsilthi 2 swrrkhtinpi kh s 1025 ckrwrrdiibaesnithnphayitkarpkkhrxngkhxngckrphrrdiebsilthi 2 hlngckrphrrdiebsilthi 2 esdcswrrkht phraxnuchakhux idkhunepnckrphrrdi phraxngkhimmioxrs ckrphrrdikhxnsaetntinthi 8 phraxngkhkhrxngxanacinrayasn aeminewlatxmaphraxngkhcaimmiphrarachoxrsaetkmiphraxngkhmiphrarachthida 2 phraxngkhethannkhux aela aetprachachnkyngeluxkexaphrathidakhxngphraxngkhihkhunkhrxngrachy ephraaprachachnswnihyechuxknwakhwammngkhngkhxngckrwrrdiibaesnithnmakcakrachwngsmasiodeniyethann aemcamickrphrrdicakrachwngsxunkhunepnckrphrrdiktamaetkxyuidephiyngrayasnephraaprachachnimniymsudthay osxi idkhunepnckrphrrdini khrxngrachyinchwng kh s 1028 1050 phranangidesksmrsthung 3 khrng thaihphraswamithngsamidepnxngkhckrphrrditamipdwy idaek idepnckrphrrdiemuxpi kh s 1028 1034 idepnckrphrrdiemuxpi kh s 1034 1041 aela idepnckrphrrdiemuxpi kh s 1042 1055 emuxkhxnsaetntinthi 9 sinphrachnm kidepnckrphrrdinixngkhtxma krathng kh s 1055 chwngrayani khuxtngaetpi kh s 1025 1081 nn nbepnchwngplayyukhthxngkhxngckrwrrdiibaesnithn rayaewlaephiyng 56 pi mickrphrrdipkkhrxngthung 13 phraxngkh mikhwamphyayamthicaepliynrachwngsihmekhamapkkhrxngaetimsaerc krathng kh s 1081 caktrakulkhxmemnus kthakarsaerc aelatrakulnipkkhrxngtxmaxik tngaetpi kh s 1081 1185 karrukrankhxngetirk ckrphrrdixelkesiysthi 1ckrwrrdiibaesnithn aela eslcuketirk kxnsngkhramkhruesdkhrngthi 1 yukhthxngkhxngckrwrrdiibaesnithn danhnungkmiphlrayehmuxnkn nnkhux dwykhwammngkhng aelarungeruxngtxenuxngyawnanthaihprachachnhlngihlaelakhadkaretriymtw thaihckrwrrdierimxxnaexlng xikthngekidkhwamaetkaeykinhmuphupkkhrxngaelachnchnsungaelarahwangklumkhunnangthharkbkhunnangphleruxn emuxekidkarrukrancakstruthaihibaesnithntxngprasbpyhainthisud odyechphaakarrukrankhxngchnephaetirkhruxeslcuketrirkinewlatxmaklawkhuxchnephaetirkepnstruklumihmthierimrukranckrwrrdiibaesnithninklangstwrrsthi 11 xnthicringaelwemuxsmyckrphrrdikhxnsaetntinthi 7 ekhyidekharwmkbphwketirkinkartxtankarrukrankhxngblaekeriymaaelw sunghlngcaknnckrphrrdithrngxnuyatihchawetirktngthinthanxyuinthangtxnitkhxngaemnadanub aelathisakhyehnuxipkwannchawibaesnithnexngthisxnihchawetirkihrbekngaelamirabb txmaemuxetirkkhyaytwmakyingkhunkerimrukranphunthihlayaehngkhxngckrwrrdiibaesnithn inpi kh s 1055 etirksamarthchnaepxresiy hlngcaknnphwkekhakykthphekhaaebkaeddaelaerimsthapnatnexngepnsultan phrxmxangtwepnphukhumkhrxng aelaerimkhyayxanacekhasuxiyiptaelaxnaoteniy txma kh s 1065 etirkrukekhaxarmieniy aela kh s 1067 ksamarthkhyayxanacekhasuxnaoteliytxnklang kh s 1067 ibaesnithnmickrphrrdikhux phraxngkhthrngphayaephtxkxngthphetirkthisnamrbxarmieniy aelaphraxngkhkthukcbepnechlytxkxngthphkhxngetirkcaepntxngesnsyyasngbsukkbetirkkxncaidrbkarplxytw emuxckrphrrdiormanusedinthangklbyngkhxnsaetntionepilphraxngkhkimepnthiyxmrbcnekidkaraeyngchingxanackhunphayinckrwrrdiibaesnithn thaihetirksngkxngkalngmarbkwncnsamarthyudinesiy xnepnemuxngthankalngthharaelaesrsthkickhxngckrwrrdi imephiyngethannibaesnithnyngthuksaetimxik rukekhamayudxitalithnghmdinklangpi kh s 1071 odyekhayudthanthimnkhxngibaesnithninxitalithiemuxngbariidihxitalithnghmdtkxyuinitxanackhxngnxraemnklayepnkarpidchakxanackhxngibaesnithninkhabsmuthrxitaliipdwy hlngcakesiyxiththiphlinfngxitaliipaelw ibaesnithnkmixanaekhtelklngmak nxkcaknnphayinibaesnithnkekidkaraeyngchingxanacknxyangimsinsud hlngcakthiaeyngchingknxyuthung 4 pi sudthay xelkesiys khxmminus sungepnkhunnangthharkidepnckrphrrdiemuxckrwrrdithukpidlxmthngtawntkodychawnxraemn aelathangtawnxxkodyeslcuketirkthaihckrphrrdi kh s 1081 1811 txngipkhxkhwamchwyehluxcakphwkewnis odythiphraxngkhtxngyxmtklngtamkhxeriykrxngkhxngewnis odykarihsiththikarkhainkrungkhxnsaetntionepilaelathixun inibaesnithn sungkhxtklngniexngthaihchawewnisklaymaepnphxkhasakhyindantawnxxkkhxngthaelemdietxrereniyninewlatxma sngkhramkhruesd karrukrankhxngchnthngsxngtxibaesnithnkyngimsinsudlngcnkrathng catxngkhxkhwamchwehluxipyngsmedcphrasntapapa odyykkhxxangihchwyehluxemuxngeyrusaelm dinaednskdisiththithithuketirkyudkhrxngiptngaet kh s 1077 aelakxngthphkhruesdkhrngthi 1 kthuksngekhama ckrwrrdiibaesnithn pi kh s 1180 dwychychnakhxngkxngthphkhruesddinaednbangswnkidsngkhunihkbckrphrrdiibaesnithn aetbangswnaemthphchawmxraemnklbimyxmykkhunihthngthikhaichcaytang nnckrphrrdiibaesnithnepnphuthiesiyihekuxbthnghmd phanphnsngkhramkhruesdkhrngthi 1 phwketirkkyngrukranxyuechnedim ckrphrrdixngkhtxmaehnwachawtawntkmibthbathcungiddaeninnoybayepnmitrkbchawtawntkexaiw txmaekidsngkhramkhruesdkhrngthi 2 kxngthphkhruesdtxngichibaesnithnepnthangphanthaihibaesnithnthukkxngthphkhruesdbangklumekhapln ckrwrrdilmslay ckrwrrdiibaesnithn simwng pi kh s 1450 ibaesnithnyngtxngthasngkhramkbetirkmaodytlxdcnkrathngthungkhriststwrrsthi 15 odychawetirkrukekhamainckrwrrdi odyerimcak kh s 1377 etirkprakastngemuxnghlwngkhxngxxtotmnthixedriynenepil kh s 1385 kyudemuxngosefiy kh s 1386 idemuxngnis emuxngethssaolnika krungkhxnsaetntionepilodnlxminpi kh s 1453 odykxngthphxxtotmn phvsphakhm kh s 1453 ckrwrrdiibaesnithnktxngphayaephaekckrwrrdixxtotmnkhxngchawetirk aelathukrwmepnswnhnungkhxngckrwrrdixxtotmninthisud ckrwrrdiormntawnxxkhruxckrwrrdiibaesnithn klmslaylng ckrwrrdiibaesnithnnnrksawththrrmkhxngormnaelawththrrmkrik epnrayaewla 1123 pi tngaetpi kh s 330 1453 karlmslaykhxngckrwrrdiibaesnithn ekidkhunhlngcakthikrungkhxnsaetntionepilthukyudody inpi kh s 1453 hlngcakkrungkhxnsaetntionepilaetkkidthukepliynchuxihmepnxistnbulmacnthungpccubn aelainthangprawtisastryngidthuxwakarsinsudkhxngckrwrrdiibaesnithnepnthisinsudkhxnghmayehtu ormaeniy epnchuxthiniymichknodythwipinckrwrrdiibaesnithn sunghmaythung dinaednaehngchawormn phayhlng kh s 1081 khanikidpraktbnexksarthangrachkarkhxngibaesnithnepnbangkhrngxikdwy in kh s 1204 phunainsngkhramkhruesdkhrngthi 4 idtngchux ormaeniy ihkbckrwrrdilatinthiephingkxtngkhunmaihm aetkhaniimidhmaythungpraethsormaeniyinpccubnxangxinghttps www britannica com topic Byzantine Greek language Fox What If Anything Is a Byzantine Rosser 2011 p 1harvnb error no target CITEREFRosser2011 Rosser 2011 p 2harvnb error no target CITEREFRosser2011 Fossier amp Sondheimer 1997 p 104harvnb error no target CITEREFFossierSondheimer1997 Wolff 1948 pp 5 7 33 34harvnb error no target CITEREFWolff1948 Cinnamus 1976 p 240harvnb error no target CITEREFCinnamus1976 Browning 1992 Introduction p xiiiharvnb error no target CITEREFBrowning1992 The Byzantines did not call themselves Byzantines but Romaioi Romans They were well aware of their role as heirs of the Roman Empire which for many centuries had united under a single government the whole Mediterranean world and much that was outside it Nicol Donald M 30 December 1967 The Byzantine View of Western Europe Greek Roman and Byzantine Studies phasaxngkvs 8 4 318 ISSN 2159 3159 Ahrweiler amp Laiou 1998 p 3harvnb error no target CITEREFAhrweilerLaiou1998 Mango 2002 p 13harvnb error no target CITEREFMango2002 Gabriel 2002 p 277harvnb error no target CITEREFGabriel2002 Ahrweiler amp Laiou 1998 p viiharvnb error no target CITEREFAhrweilerLaiou1998 Davies 1996 p 245harvnb error no target CITEREFDavies1996 Gross 1999 p 45harvnb error no target CITEREFGross1999 Lapidge Blair amp Keynes 1998 p 79harvnb error no target CITEREFLapidgeBlairKeynes1998 Millar 2006 pp 2 15harvnb error no target CITEREFMillar2006 Moravcsik 1970 pp 11 12harvnb error no target CITEREFMoravcsik1970 Ostrogorsky 1969 pp 28 146harvnb error no target CITEREFOstrogorsky1969 Browning 1983 p 113harvnb error no target CITEREFBrowning1983 Klein 2004 p 290 Note 39 harvnb error no target CITEREFKlein2004 389 Mense lanuario c epiphaniam Basilii Graecorum imperatoris legati cum muneribus et epistolis ad Hludowicum regem Radasbonam venerunt Fouracre amp Gerberding 1996 p 345harvnb error no target CITEREFFouracreGerberding1996 The Frankish court no longer regarded the Byzantine Empire as holding valid claims of universality instead it was now termed the Empire of the Greeks Tarasov amp Milner Gulland 2004 p 121harvnb error no target CITEREFTarasovMilner Gulland2004 El Cheikh 2004 p 22harvnb error no target CITEREFEl Cheikh2004 bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk