รอเบิร์ตที่ 2 ดยุกแห่งนอร์มังดี หรือ รอเบิร์ต เคอร์ทโฮส (ภาษาอังกฤษ: Robert II, Duke of Normandy) (ราว ค.ศ. 1051 หรือ ค.ศ. 1054 - 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1134) รอเบิร์ตที่ 2 ดยุกแห่งนอร์มังดีเป็นนักการทหารชาวอังกฤษ รอเบิร์ตเกิดในในฝรั่งเศส เมื่อราว ค.ศ. 1051 หรือ ค.ศ. 1054 เป็นพระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษและมาทิลดาแห่งฟลานเดอร์ส รอเบิร์ตเป็นระหว่างปี ค.ศ. 1087 ถึงปี ค.ศ. 1106 แต่ไม่สามารถอ้างสิทธิในการครองราชบัลลังก์ของราชอาณาจักรอังกฤษได้สำเร็จ ชื่อเล่น “Curthose” มาจากภาษานอร์มันฝรั่งเศสว่า “Courtheuse” ที่แปลว่าถุงน่องสั้น วิลเลียมแห่งมาล์มสบรี (William of Malmesbury) และ (Orderic Vitalis) บันทึกว่าพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 ทรงเรียกแผลงว่า “brevis-ocrea” (บูทสั้น) รอเบิร์ตมีบทบาทในการเข้าร่วมในสงครามครูเสดครั้งที่ 1
รอเบิร์ตที่ 2 ดยุกแห่งนอร์มังดี | |
---|---|
พระอนุสรณ์ของรอเบิร์ตที่ 2 ดยุกแห่งนอร์มังดีที่มหาวิหารกลอสเตอร์ | |
ดยุกแห่งนอร์ม็องดี | |
ระหว่าง | 9 กันยายน 1087 – 1106 |
ก่อนหน้า | วิลเลียมที่ 3 ผู้พิชิต |
ถัดไป | เฮนรีที่ 1 |
ประสูติ | ราว ค.ศ. 1051 หรือ ค.ศ. 1054 |
สิ้นพระชนม์ | 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1134 |
คู่อภิเษก | ซิบิลลาแห่งคอนเวอร์ซาโน |
ราชวงศ์ | นอร์มัน |
พระราชบิดา | สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ |
พระราชมารดา | มาทิลดาแห่งฟลานเดอร์ส |
พระประวัติ
ครอบครัว
โรเบิร์ต (รอแบร์ต) เคอร์โธส พระราชโอรสพระองค์โตของพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ (ผู้พิชิต) กับมาทิลดาแห่งฟลานเดอร์ส์ ประสูติในนอร์มองดีราวปี ค.ศ. 1051 พระสมัญญาของโรเบิร์ต เคอร์โธส มาจากภาษานอร์มันฝรั่งเศส courtheuse ที่แปลว่า "ถุงน่องสั้น" นักพงศาวดาร วิลเลียมแห่งมัล์มสบรีกับออร์เดอริค วิตาลิส เล่าว่าชื่อที่ดูถูกดูแคลนนี้มาจากพระราชบิดาของโรเบิร์ตที่ล้อเลียนรูปร่างอันเตี้ยของพระราชโอรส
โรเบิร์ตมีพระพี่น้องอย่างน้อยแปดพระองค์ ลำดับการเกิดของพี่น้องชายนั้นชัดเจน แต่ของพี่น้องหญิงนั้นไม่ชัดเจน ในวัยเด็ก โรเบิร์ตถูกหมั้นหมายให้แต่งงานกับมาร์เกอริตแห่งเมน บุตรสาวของอูกที่ 4 เคานต์แห่งเมน แต่มาร์เกอริตเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1063 ก่อนที่การแต่งงานของทั้งคู่จะเกิดขึ้น โรเบิร์ตกล้าหาญและได้รับการฝึกฝนอย่างดีสมเป็นอัศวิน แต่ก็ขี้เกียจและมีบุคคลิกที่อ่อนแอ
ในปี ค.ศ. 1066 พระบิดาของโรเบิร์ต วิลเลียมที่ 3 ดยุคแห่งนอร์มองดี บุกอังกฤษและปราบกษัตริย์แองโกลแซกซันคนสุดท้าย พระเจ้าแฮโรลด์ กอดวินสัน ที่สมรภูมิเฮสติงส์ ดยุคแห่งนอร์มองดีกลายเป็นพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ ตั้งแต่ก่อนที่การแบ่งดินแดนจะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1087 โรเบิร์ตกับพระอนุชามีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก นักพงศาวดารในยุคนั้น ออร์เดอริค วิตาลิส เขียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เลเกลอในนอร์มองดีในปี ค.ศ. 1077 ว่าวิลเลียม รูฟัสกับเฮนรีเบื่อกับการเล่นทอยลูกเต๋าและหันไปเล่นซนด้วยการราดน้ำใส่พระเชษฐา โรเบิร์ต จากหอศิลป์ที่อยู่ด้านบน โรเบิร์ตโกรธมาก พระบิดาของทั้งสามเข้ามาไกล่เกลี่ยเพื่อให้ความสงบกลับคืนมา ทรงโกรธที่พระบิดาไม่ลงโทษพระอนุชา โรเบิร์ตกับผู้ติดตามจึงพยายามจะปิดล้อม (นอร์มองดี) แต่ถูกบีบให้หนีเมื่อดยุคแห่งนอร์มองดีโจมตีค่ายของพระองค์ เรื่องนี้นำไปสู่ความห่างเหินเป็นเวลา 3 ปีระหว่างโรเบิร์ตกับครอบครัวที่จบลงด้วยการไกล่เกลี่ยของพระมารดาของโรเบิร์ต
ดยุคแห่งนอร์มองดี
ในปี ค.ศ. 1087 พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แบ่งดินแดนให้กับพระโอรสทั้งสอง โรเบิร์ต เคอร์โธสได้รับดัชชีนอร์มองดี ส่วนวิลเลียม รูฟัสได้รับราชอาณาจักรอังกฤษ เฮนรีได้รับเหรียญเงิน 5,000 ปอนด์กับทรัพย์สินที่ดินในอังกฤษของพระมารดา พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ (ผู้พิชิต) สิ้นพระชนม์ในวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1087 โรเบิร์ต เคอรโธสกลายเป็นโรเบิร์ตที่ 3 เคอร์โธส ดยุคแห่งนอร์มองดี ส่วนวิลเลียม รูฟัสกลายเป็นพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 รูฟัส แห่งอังกฤษ เฮนรีได้รับเงิน แต่ไม่ได้ที่ดิน
พระเจ้าวิลเลียมที่ 2 รูฟัส แห่งอังกฤษ
วิลเลียม รูฟัสกับโรเบิร์ต เคอร์โธสยังคงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีต่อไป วิลเลียม รูฟัสเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาระหว่างสนับสนุนโรเบิร์ตให้ต่อกรกับกษัตริย์ฝรั่งเศสกับอยู่ฝ่ายตรงข้ามเพื่อที่จะได้ควบคุมนอร์มองดี เฮนรีถูกบีบให้เลือกระหว่างพระเชษฐาทั้งสองอยู่เสมอและเมื่อพระเชษฐาคนหนึ่งถูกเลือก อีกคนก็จะโกรธพระองค์ หลังวิลเลียมที่ 1 สิ้นพระชนม์และดินแดนถูกแบ่ง ขุนนางที่มีดินแดนอยู่ทั้งในนอร์มองดีและในอังกฤษค้นพบว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับใช้ลอร์ดทั้งสองพร้อมกัน หากพวกเขาสนับสนุนวิลเลียม รูฟัส โรเบิร์ตก็จะริบดินแดนของพวกเขาในนอร์มองดี หากเขาสนับสนุนโรเบิร์ต พวกเขาก็เสี่ยงที่จะเสียดินแดนในอังกฤษ
ทางออกเดียวที่เหล่าขุนนางมองเห็นคือการรวมนอร์มองดีกับอังกฤษเข้าด้วยกัน และเรื่องนี้นำไปสู่การก่อการปฏิวัติต่อพระเจ้าวิลเลียม รูฟัสเพื่อเปิดทางให้โรเบิร์ตในการก่อกบฏปี ค.ศ. 1088 ภายใต้การนำของบิชอปโอโดแห่งบายูซ์ พี่น้องชายร่วมแม่ของวิลเลียมผู้พิชิต การก่อกบฏไม่ประสบผลสำเร็จส่วนหนึ่งเพราะโรเบิร์ตไม่ได้แสดงตัวว่าสนับสนุนเหล่าขุนนางอังกฤษ
ในปี ค.ศ. 1096 โรเบิร์ตออกเดินทางไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำสงครามครูเสดครั้งที่ 1 เพื่อเพิ่มเงินทุนในการทำสงครามครูเสด พระองค์จำนองดัชชีนอร์มองดีกับพระเชษฐา พระเจ้าวิลเลียมที่ 2 รูฟัส สองพระเชษฐาทำข้อตกลงร่วมกันว่าหากคนใดคนหนึ่งสิ้นพระชนม์โดยไร้ทายาท ทั้งนอร์มองดีและอังกฤษจะถูกรวมกันเป็นหนึ่งเดียวภายใต้อีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้ววิลเลียม รูฟัสก็ปกครองนอร์มองดีเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในช่วงที่โรเบิร์ตไม่อยู่
ในวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1100 พระเจ้าวิลเลียมที่ 2 รูฟัส ขี่ม้าออกจากปราสาทวินเชสเตอร์ ออกเดินทางไปล่าสัตว์ที่นิวฟอเรสต์ โดยมีพระอนุชา เฮนรี กับขุนนางอีกหลายคนติดตามไปด้วย อ้างอิงตามบันทึกในสมัยนั้น วิลเลียม รูฟัสกำลังไล่ล่ากวางตัวผู้โดยมีขุนนาง วอลแตร์ ทิเรลคอยติดตาม วิลเลียม รูฟัสยิงธนู แต่ไม่โดนกวาง พระองค์จึงตะโกนบอกวอลแตร์ให้ยิง ซึ่งเขาก็ทำตาม แต่ลูกธนูยิงโดนหน้าอกของกษัตริย์ ทะลุปอด และสังหารพระองค์ วอลแตร์ ทิเรลกระโดดขึ้นมาและหนีไปฝรั่งเศส
พระเจ้าเฮนรีที่ 1 แห่งอังกฤษ
พระเชษฐาของวิลเลียม รูฟัส โรเบิร์ต เคอร์โธส ยังคงทำสงครามครูเสดอยู่ ดังนั้นพระอนุชาของพระองค์ เฮนรี จึงสามารถฉกฉวยเอาราชบัลลังก์อังกฤษมาเป็นของตัวเองได้ เฮนรีรีบไปที่วินเชสเตอร์เพื่อดูแลรักษาท้องพระคลังหลวง วันหลังจากพิธีศพของวิลเลียม รูฟัสที่วินเชสเตอร์ เหล่าขุนนางเลือกเฮนรีเป็นกษัตริย์ เฮนรีออกเดินทางไปลอนดอนเพื่อรับการสวมมงกุฎโดยอาร์ชบิชอปแห่งลอนดอนสามวันหลังการสิ้นพระชนม์ของวิลเลียม พระเจ้าเฮนรีที่ 1 ไม่รอให้อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรีมาถึง ยังคงมีคนคิดว่ามีการสมคบคิดกันวางแผนลอบสังหารวิลเลียม รูฟัส
ระหว่างเดินทางกลับจากสงครามครูเสด โรเบิร์ตแต่งงานกับทายาทหญิงผู้ร่ำรวย ในปี ค.ศ. 110 ที่บ้านเกิดของเจ้าสาว อาปูเลีย (ปัจจุบันอยู่ในอิตาลี) การสิ้นพระชนม์ของวิลเลียมจะทำให้โรเบิร์ตไม่จำเป็นต้องไถ่ถอนดัชชี หลังกลับถึงนอร์มองดี และพบว่าหนึ่งในพี่น้องชายของตนสิ้นพระชนม์แล้ว และพี่น้องชายอีกคนของคนได้ฉกฉวยเอาบัลลังก์อังกฤษไป โรเบิร์ตอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์อังกฤษโดยอิงจากข้อตกลงที่ทรงทำไว้กับวิลเลียม รูฟัส ที่ว่าหากคนใดคนหนึ่งสิ้นพระชนม์โดยไร้ทายาท ทั้งนอร์มองดีและอังกฤษจะถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้อีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ในปี ค.ศ. 1101 โรเบิร์ตเป็นผู้นำในการรุกรานเพื่อขับไล่พระอนุชา เฮนรี จากบัลลังก์อังกฤษ พระองค์ขึ้นฝั่งที่พอร์ตสมัธพร้อมกับกองทัพ แต่พบว่ามีผู้สนับสนุนพระองค์น้อยมาก โรเบิร์ดถูกบีบให้ล้มเลิกการอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์อังกฤษในปี ค.ศ. 1101 ด้วยสนธิสัญญาอันทอน
ไม่ถึงหกเดือนหลังให้กำเนิดบุตรชาย ซีบิลลาเสียชีวิตในวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1103 ที่รูอองในนอร์มองดีและถูกฝังที่มหาวิหารรูออง อ้างอิงตามนักพงศาวดาร ออร์เดอริค วิตาลิสกับรอแบร์ต์ เดอ ตอรินญี ซีบิลลาถูกวางยาพิษโดยภรรยาลับของสามี แอกเนส เดอ ริเบอมงต์
ในปี ค.ศ. 1105 พระเจ้าเฮนรีที่ 1 บุกนอร์มองดีและปราบกองทัพของโรเบิร์ตที่สมรภูมิแห่งทินเชอเบรย์ในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1106 นอร์มองดีตกอยู่ในการครอบครองของราชบัลลังก์อังกฤษเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ โรเบิร์ตถูกจับกุมหลังการทำสมรภูมิและใช้ชีวิตที่เหลือในการถูกจองจำ ตอนแรกที่ปราสาทเดไวเซสเป็นเวลา 20 ปี ต่อมาที่ปราสาทคาร์ดิฟฟ์ตลอดชีวิตที่เหลือ โรเบิร์ต เคอร์โธสยังดำรงพระชนม์อยู่จนถึงวัยแปดสิบพรรษาและสิ้นพระชนม์ที่ปราสาทคาร์ดิฟฟ์ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1134 พระองค์ถูกฝังที่แอบบีย์โบสถ์ของนักบุญปีเตอร์ในมหาวิหารกลอสเตอร์
พระบุตร
พระบุตรคนเดียวของโรเบิร์ต ประสบกับโชคร้ายตลอดทั้งชีวิต ความพยายามที่จะบุกนอร์มองดีของเขาสองครั้งล้มเหลว (ปี ค.ศ. 1119 และ 1125) การแต่งงานครั้งแรกของเขากับซีบิลลาแห่งอองฌูถูกประกาศให้เป็นโมฆะจากกลอุบายของอา พระเจ้าเฮนรีที่ 1 การแต่งงานครั้งที่สองของเขากับฌวนนาแห่งมงต์แฟร์ราต์ พระกนิษฐภคินีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศส ไม่มีบุตร พระเจ้าหลุยส์ที่ 6 ทรงช่วยให้วิลเลียม คลิโตได้เป็นเคานต์แห่งฟลานเดอร์ส์ แต่วิลเลียมได้รับบาดเจ็บในสนามรบและเสียชีวิตจากเนื้อเน่าตายตอนอายุ 25 ในวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1128 เขาถูกฝังที่แอบบีย์ของนักบุญแบร์นาร์ด์ แอบบีย์ขอคณะเบเนดิกส์ตินในแซงต์-โอแมร์ ประเทศฝรั่งเศส เขาไม่มีบุตรทิ้งไว้ ส่วนบิดาของเขาสิ้นพระชนม์หลังเขาหกปี
อ้างอิง
- Barlow, Frank (1983). William Rufus. Berkeley, CA: University of California Press. . OCLC 8954468.
- David, Charles Wendell (1920). Robert Curthose, Duke of Normandy. Cambridge, MA: Harvard University Press. OCLC 1960516. Also OCLC 187406785 Also published as David, Charles Wendell (1982). Robert Curthose, Duke of Normandy. New York: AMS Press. . OCLC 7976915. Also published as David, Charles Wendell (2007). Robert Curthose, Duke of Normandy. Gardners Books. . OCLC 166871921.
- Green, Judith (2000). "Robert Curthose Reassessed". in Harper-Bill, Christopher. Anglo-Norman studies XXII: proceedings of the Battle Conference 1999. Woodbridge: Boydell Press. pp. 95–116. . OCLC 45238208. Also OCLC 247394557
- Mooers, Stephanie L (Fall 1981). ""Backers and Stabbers": Problems of Loyalty in Robert Curthose's Entourage". Journal of British Studies 21 (1): 1–17. doi:10.1086/385779.
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rxebirtthi 2 dyukaehngnxrmngdi hrux rxebirt ekhxrthohs phasaxngkvs Robert II Duke of Normandy raw kh s 1051 hrux kh s 1054 10 kumphaphnth kh s 1134 rxebirtthi 2 dyukaehngnxrmngdiepnnkkarthharchawxngkvs rxebirtekidininfrngess emuxraw kh s 1051 hrux kh s 1054 epnphrarachoxrsxngkhotkhxngsmedcphraecawileliymthi 1 aehngxngkvsaelamathildaaehngflanedxrs rxebirtepnrahwangpi kh s 1087 thungpi kh s 1106 aetimsamarthxangsiththiinkarkhrxngrachbllngkkhxngrachxanackrxngkvsidsaerc chuxeln Curthose macakphasanxrmnfrngesswa Courtheuse thiaeplwathungnxngsn wileliymaehngmalmsbri William of Malmesbury aela Orderic Vitalis bnthukwaphraecawileliymthi 1 thrngeriykaephlngwa brevis ocrea buthsn rxebirtmibthbathinkarekharwminsngkhramkhruesdkhrngthi 1rxebirtthi 2 dyukaehngnxrmngdiphraxnusrnkhxngrxebirtthi 2 dyukaehngnxrmngdithimhawiharklxsetxrdyukaehngnxrmxngdirahwang9 knyayn 1087 1106kxnhnawileliymthi 3 phuphichitthdipehnrithi 1prasutiraw kh s 1051 hrux kh s 1054sinphrachnm10 kumphaphnth kh s 1134khuxphiesksibillaaehngkhxnewxrsaonrachwngsnxrmnphrarachbidasmedcphraecawileliymthi 1 aehngxngkvsphrarachmardamathildaaehngflanedxrsphraprawtikhrxbkhrw phrasathislksnorebirt ekhxrothsinkhriststwrrsthi 19 orebirt rxaebrt ekhxroths phrarachoxrsphraxngkhotkhxngphraecawileliymthi 1 aehngxngkvs phuphichit kbmathildaaehngflanedxrs prasutiinnxrmxngdirawpi kh s 1051 phrasmyyakhxngorebirt ekhxroths macakphasanxrmnfrngess courtheuse thiaeplwa thungnxngsn nkphngsawdar wileliymaehngmlmsbrikbxxredxrikh witalis elawachuxthiduthukduaekhlnnimacakphrarachbidakhxngorebirtthilxeliynruprangxnetiykhxngphrarachoxrs orebirtmiphraphinxngxyangnxyaepdphraxngkh ladbkarekidkhxngphinxngchaynnchdecn aetkhxngphinxnghyingnnimchdecn inwyedk orebirtthukhmnhmayihaetngngankbmarekxritaehngemn butrsawkhxngxukthi 4 ekhantaehngemn aetmarekxritesiychiwitinpi kh s 1063 kxnthikaraetngngankhxngthngkhucaekidkhun orebirtklahayaelaidrbkarfukfnxyangdismepnxswin aetkkhiekiycaelamibukhkhlikthixxnaex inpi kh s 1066 phrabidakhxngorebirt wileliymthi 3 dyukhaehngnxrmxngdi bukxngkvsaelaprabkstriyaexngoklaesksnkhnsudthay phraecaaehorld kxdwinsn thismrphumiehstings dyukhaehngnxrmxngdiklayepnphraecawileliymthi 1 aehngxngkvs tngaetkxnthikaraebngdinaedncaekidkhuninpi kh s 1087 orebirtkbphraxnuchamikhwamsmphnththiimkhxydink nkphngsawdarinyukhnn xxredxrikh witalis ekhiynthungehtukarnthiekidkhunthieleklxinnxrmxngdiinpi kh s 1077 wawileliym rufskbehnriebuxkbkarelnthxyluketaaelahnipelnsndwykarradnaisphraechstha orebirt cakhxsilpthixyudanbn orebirtokrthmak phrabidakhxngthngsamekhamaiklekliyephuxihkhwamsngbklbkhunma thrngokrththiphrabidaimlngothsphraxnucha orebirtkbphutidtamcungphyayamcapidlxm nxrmxngdi aetthukbibihhniemuxdyukhaehngnxrmxngdiocmtikhaykhxngphraxngkh eruxngninaipsukhwamhangehinepnewla 3 pirahwangorebirtkbkhrxbkhrwthicblngdwykariklekliykhxngphramardakhxngorebirt dyukhaehngnxrmxngdi inpi kh s 1087 phraecawileliymthi 1 aebngdinaednihkbphraoxrsthngsxng orebirt ekhxrothsidrbdchchinxrmxngdi swnwileliym rufsidrbrachxanackrxngkvs ehnriidrbehriyyengin 5 000 pxndkbthrphysinthidininxngkvskhxngphramarda phraecawileliymthi 1 aehngxngkvs phuphichit sinphrachnminwnthi 9 knyayn kh s 1087 orebirt ekhxrothsklayepnorebirtthi 3 ekhxroths dyukhaehngnxrmxngdi swnwileliym rufsklayepnphraecawileliymthi 2 rufs aehngxngkvs ehnriidrbengin aetimidthidin phraecawileliymthi 2 rufs aehngxngkvs phrasathislksnkhxngorebirt ekhxroths rahwangkarpidlxmaexnethiych inchwngsngkhramkhruesdkhrngthi 1 wileliym rufskborebirt ekhxrothsyngkhngmikhwamsmphnththiimkhxyditxip wileliym rufsepliynipepliynipepliynmarahwangsnbsnunorebirtihtxkrkbkstriyfrngesskbxyufaytrngkhamephuxthicaidkhwbkhumnxrmxngdi ehnrithukbibiheluxkrahwangphraechsthathngsxngxyuesmxaelaemuxphraechsthakhnhnungthukeluxk xikkhnkcaokrthphraxngkh hlngwileliymthi 1 sinphrachnmaeladinaednthukaebng khunnangthimidinaednxyuthnginnxrmxngdiaelainxngkvskhnphbwamnepnipimidelythicarbichlxrdthngsxngphrxmkn hakphwkekhasnbsnunwileliym rufs orebirtkcaribdinaednkhxngphwkekhainnxrmxngdi hakekhasnbsnunorebirt phwkekhakesiyngthicaesiydinaedninxngkvs thangxxkediywthiehlakhunnangmxngehnkhuxkarrwmnxrmxngdikbxngkvsekhadwykn aelaeruxngninaipsukarkxkarptiwtitxphraecawileliym rufsephuxepidthangihorebirtinkarkxkbtpi kh s 1088 phayitkarnakhxngbichxpoxodaehngbayus phinxngchayrwmaemkhxngwileliymphuphichit karkxkbtimprasbphlsaercswnhnungephraaorebirtimidaesdngtwwasnbsnunehlakhunnangxngkvs inpi kh s 1096 orebirtxxkedinthangipyngdinaednskdisiththiephuxthasngkhramkhruesdkhrngthi 1 ephuxephimenginthuninkarthasngkhramkhruesd phraxngkhcanxngdchchinxrmxngdikbphraechstha phraecawileliymthi 2 rufs sxngphraechsthathakhxtklngrwmknwahakkhnidkhnhnungsinphrachnmodyirthayath thngnxrmxngdiaelaxngkvscathukrwmknepnhnungediywphayitxikkhnthiyngmichiwitxyu aelwwileliym rufskpkkhrxngnxrmxngdiepnphusaercrachkaraephndininchwngthiorebirtimxyu inwnthi 2 singhakhm kh s 1100 phraecawileliymthi 2 rufs khimaxxkcakprasathwinechsetxr xxkedinthangiplastwthiniwfxerst odymiphraxnucha ehnri kbkhunnangxikhlaykhntidtamipdwy xangxingtambnthukinsmynn wileliym rufskalngillakwangtwphuodymikhunnang wxlaetr thierlkhxytidtam wileliym rufsyingthnu aetimodnkwang phraxngkhcungtaoknbxkwxlaetrihying sungekhakthatam aetlukthnuyingodnhnaxkkhxngkstriy thalupxd aelasngharphraxngkh wxlaetr thierlkraoddkhunmaaelahniipfrngess phraecaehnrithi 1 aehngxngkvs hlumphrasphkhxngorebirtinmhawiharklxsetxrhxkhxyinprasathkhardiffthioraebrt ekhxrothsthrngthukkkkhngepnewla 26 pi phraechsthakhxngwileliym rufs orebirt ekhxroths yngkhngthasngkhramkhruesdxyu dngnnphraxnuchakhxngphraxngkh ehnri cungsamarthchkchwyexarachbllngkxngkvsmaepnkhxngtwexngid ehnriribipthiwinechsetxrephuxduaelrksathxngphrakhlnghlwng wnhlngcakphithisphkhxngwileliym rufsthiwinechsetxr ehlakhunnangeluxkehnriepnkstriy ehnrixxkedinthangiplxndxnephuxrbkarswmmngkudodyxarchbichxpaehnglxndxnsamwnhlngkarsinphrachnmkhxngwileliym phraecaehnrithi 1 imrxihxarchbichxpaehngaekhnethxrbrimathung yngkhngmikhnkhidwamikarsmkhbkhidknwangaephnlxbsngharwileliym rufs rahwangedinthangklbcaksngkhramkhruesd orebirtaetngngankbthayathhyingphurarwy inpi kh s 110 thibanekidkhxngecasaw xapueliy pccubnxyuinxitali karsinphrachnmkhxngwileliymcathaihorebirtimcaepntxngiththxndchchi hlngklbthungnxrmxngdi aelaphbwahnunginphinxngchaykhxngtnsinphrachnmaelw aelaphinxngchayxikkhnkhxngkhnidchkchwyexabllngkxngkvsip orebirtxangsiththiinrachbllngkxngkvsodyxingcakkhxtklngthithrngthaiwkbwileliym rufs thiwahakkhnidkhnhnungsinphrachnmodyirthayath thngnxrmxngdiaelaxngkvscathukrwmepnhnungediywknphayitxikkhnthiyngmichiwitxyu inpi kh s 1101 orebirtepnphunainkarrukranephuxkhbilphraxnucha ehnri cakbllngkxngkvs phraxngkhkhunfngthiphxrtsmthphrxmkbkxngthph aetphbwamiphusnbsnunphraxngkhnxymak orebirdthukbibihlmelikkarxangsiththiinbllngkxngkvsinpi kh s 1101 dwysnthisyyaxnthxn imthunghkeduxnhlngihkaenidbutrchay sibillaesiychiwitinwnthi 18 minakhm kh s 1103 thiruxxnginnxrmxngdiaelathukfngthimhawiharruxxng xangxingtamnkphngsawdar xxredxrikh witaliskbrxaebrt edx txrinyi sibillathukwangyaphisodyphrryalbkhxngsami aexkens edx riebxmngt inpi kh s 1105 phraecaehnrithi 1 buknxrmxngdiaelaprabkxngthphkhxngorebirtthismrphumiaehngthinechxebryinwnthi 28 knyayn kh s 1106 nxrmxngditkxyuinkarkhrxbkhrxngkhxngrachbllngkxngkvsepnewlakwahnungstwrrs orebirtthukcbkumhlngkarthasmrphumiaelaichchiwitthiehluxinkarthukcxngca txnaerkthiprasathediwessepnewla 20 pi txmathiprasathkhardifftlxdchiwitthiehlux orebirt ekhxrothsyngdarngphrachnmxyucnthungwyaepdsibphrrsaaelasinphrachnmthiprasathkhardiffinwnthi 10 kumphaphnth kh s 1134 phraxngkhthukfngthiaexbbiyobsthkhxngnkbuypietxrinmhawiharklxsetxrphrabutrphrabutrkhnediywkhxngorebirt prasbkbochkhraytlxdthngchiwit khwamphyayamthicabuknxrmxngdikhxngekhasxngkhrnglmehlw pi kh s 1119 aela 1125 karaetngngankhrngaerkkhxngekhakbsibillaaehngxxngchuthukprakasihepnomkhacakklxubaykhxngxa phraecaehnrithi 1 karaetngngankhrngthisxngkhxngekhakbchwnnaaehngmngtaefrrat phraknisthphkhinikhxngphraecahluysthi 6 aehngfrngess immibutr phraecahluysthi 6 thrngchwyihwileliym khliotidepnekhantaehngflanedxrs aetwileliymidrbbadecbinsnamrbaelaesiychiwitcakenuxenataytxnxayu 25 inwnthi 28 krkdakhm kh s 1128 ekhathukfngthiaexbbiykhxngnkbuyaebrnard aexbbiykhxkhnaebendikstininaesngt oxaemr praethsfrngess ekhaimmibutrthingiw swnbidakhxngekhasinphrachnmhlngekhahkpixangxingBarlow Frank 1983 William Rufus Berkeley CA University of California Press ISBN 978 0 520 04936 9 OCLC 8954468 David Charles Wendell 1920 Robert Curthose Duke of Normandy Cambridge MA Harvard University Press OCLC 1960516 Also OCLC 187406785 Also published as David Charles Wendell 1982 Robert Curthose Duke of Normandy New York AMS Press ISBN 978 0 404 17007 3 OCLC 7976915 Also published as David Charles Wendell 2007 Robert Curthose Duke of Normandy Gardners Books ISBN 978 1 4326 9296 4 OCLC 166871921 Green Judith 2000 Robert Curthose Reassessed in Harper Bill Christopher Anglo Norman studies XXII proceedings of the Battle Conference 1999 Woodbridge Boydell Press pp 95 116 ISBN 978 0 85115 796 2 OCLC 45238208 Also OCLC 247394557 Mooers Stephanie L Fall 1981 Backers and Stabbers Problems of Loyalty in Robert Curthose s Entourage Journal of British Studies 21 1 1 17 doi 10 1086 385779 duephimsngkhramkhruesdkhrngthi 1 bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk