โรคริดสีดวงตา เรียกอย่างอื่นว่า เยื่อตาอักเสบชนิดมีตุ่ม (granular conjunctivitis) ตาอักเสบรุนแรงอียิปต์ (Egyptian ophthalmia) และ โรคริดสีดวงตาขั้นถึงตาบอด (blinding trachoma) เป็นโรคติดเชื้ออันมีสาเหตุมาจากแบคทีเรียชนิด การติดเชื้อดังกล่าวเป็นสาเหตุให้เกิด ที่ผิวด้านในของเปลือกตา ซึ่งผิวที่หยาบขรุขระขึ้นสามารถนำไปสู่อาการเจ็บปวดในดวงตา เกิดการเสียสภาพของผิวด้านนอกหรือ กระจกตา ของดวงตาและอาจจนถึงขั้นตาบอด
โรคริดสีดวงตา | |
---|---|
และ อันเป็นผลจากโรคริดสีดวงตา | |
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | A71 |
ICD- | 076 |
29100 | |
001486 | |
oph/118 | |
MeSH | D014141 |
แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคดังกล่าวสามารถแพร่กระจายโดยการสัมผัสทางตรงและทางอ้อมกับตาหรือจมูกของผู้เป็นโรค การสัมผัสทางอ้อมนั้นรวมไปถึงการสัมผัสผ่านทางเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มหรือแมลงวันที่เกิดไปสัมผัสกับตาหรือจมูกของผู้เป็นโรค ปกติแล้ว ต้องเกิดการติดเชื้อหลายครั้งเป็นระยะเวลานานหลายปีก่อนจะถึงขั้นที่แผลเป็นที่เกิดบนเปลือกตาเป็นหนักจน เริ่มเสียดสีดวงตา เด็กจะแพร่กระจายโรคได้มากกว่าผู้ใหญ่ ระบบสุขาภิบาลที่ไม่ดีนัก สภาพความเป็นอยู่ที่แออัด ขาดน้ำหรือห้องสุขาที่สะอาด เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายได้มากขึ้นเช่นกัน
มีการพยายามหาหนทางต่าง ๆ ในอันที่จะป้องกันโรคดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงให้มีน้ำสะอาดใช้ ลดจำนวนผู้ที่ติดเชื้อโดยการรักษาด้วย ยาปฏิชีวนะ ซึ่งอาจรวมถึงการรักษากลุ่มคนที่โรคดังกล่าวเป็นที่ทราบว่าเป็นกันมาก โดยการรักษาทีเดียวพร้อมกัน ลำพังเฉพาะการชำระล้างให้สะอาดนั้นไม่เพียงพอที่จะป้องกันโรคได้ แต่อาจมีประโยชน์หากกระทำพร้อมกับมาตรการอื่น ๆ ทางเลือกในการรักษารวมไปถึงการให้ ทางปากหรือ เป็นยาป้ายภายนอก โดยยาอะซิโทรไมซินเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากสามารถใช้เป็นยาให้ทางปากเพียงครั้งเดียว หลังจากที่เกิดแผลเป็นที่เปลือกตา อาจจำเป็นต้องใช้ศัลยกรรมเพื่อตกแต่งตำแหน่งขนตาเสียใหม่และเพื่อป้องกันตาบอด
ในโลกมีประมาณ 80 ล้านคนที่ยังไม่หายจากการติดเชื้อดังกล่าว ในบางพื้นที่อาจมีการติดเชื้อดังกล่าวมากถึงร้อยละ 60–90 ของจำนวนเด็กและยิ่งพบทั่วไปในหญิงมากกว่าชายอันเนื่องจากมีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับเด็ก ๆ โรคดังกล่าวเป็นสาเหตุทำให้คนเป็นจำนวนถึง 2.2 ล้านคนหย่อนสมรรถภาพในการมองเห็น ในจำนวนนั้นมี 1.2 ล้านคนที่ตาบอดสนิท เป็นโรคที่พบทั่วไปใน 53 ประเทศในทวีปต่าง ๆ คืออาฟริกา เอเชีย อเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยมีประมาณ 230 ล้านคนที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าว ซึ่งเป็นผลให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี โรคดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มโรคที่ทราบกันในชื่อว่า โรคเขตร้อนที่ถูกละเลย
อ้างอิง
- Swanner, Yann A. Meunier ; with contributions from Michael Hole, Takudzwa Shumba & B.J. (2014). Tropical diseases : a practical guide for medical practitioners and students. Oxford: Oxford University Press, USA. p. 199. ISBN .
- "Blinding Trachoma Fact sheet N°382". World Health Organization. November 2013. สืบค้นเมื่อ 14 March 2014.
- Evans JR1, Solomon AW (March 2011). "Antibiotics for trachoma". Cochrane Database Syst Rev. 16 (3): CD001860. doi:10.1002/14651858.CD001860.pub3. PMID 21412875.
- Ejere, HO; Alhassan, MB; Rabiu, M (Apr 18, 2012). "Face washing promotion for preventing active trachoma". The Cochrane database of systematic reviews. 4: CD003659. doi:10.1002/14651858.CD003659.pub3. PMID 22513915.
- Mariotti SP (November 2004). "New steps toward eliminating blinding trachoma". N. Engl. J. Med. 351 (19): 2004–7. doi:10.1056/NEJMe048205. PMID 15525727.
- Fenwick, A (Mar 2012). "The global burden of neglected tropical diseases". Public health. 126 (3): 233–6. doi:10.1016/j.puhe.2011.11.015. PMID 22325616.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
orkhridsidwngta eriykxyangxunwa eyuxtaxkesbchnidmitum granular conjunctivitis taxkesbrunaerngxiyipt Egyptian ophthalmia aela orkhridsidwngtakhnthungtabxd blinding trachoma epnorkhtidechuxxnmisaehtumacakaebkhthieriychnid kartidechuxdngklawepnsaehtuihekid thiphiwdaninkhxngepluxkta sungphiwthihyabkhrukhrakhunsamarthnaipsuxakarecbpwdindwngta ekidkaresiysphaphkhxngphiwdannxkhrux krackta khxngdwngtaaelaxaccnthungkhntabxdorkhridsidwngtaaela xnepnphlcakorkhridsidwngtabychicaaenkaelalingkipphaynxkICD 10A71ICD 07629100001486oph 118MeSHD014141 aebkhthieriythiepnsaehtukhxngorkhdngklawsamarthaephrkracayodykarsmphsthangtrngaelathangxxmkbtahruxcmukkhxngphuepnorkh karsmphsthangxxmnnrwmipthungkarsmphsphanthangesuxphaekhruxngnunghmhruxaemlngwnthiekidipsmphskbtahruxcmukkhxngphuepnorkh pktiaelw txngekidkartidechuxhlaykhrngepnrayaewlananhlaypikxncathungkhnthiaephlepnthiekidbnepluxktaepnhnkcn erimesiydsidwngta edkcaaephrkracayorkhidmakkwaphuihy rabbsukhaphibalthiimdink sphaphkhwamepnxyuthiaexxd khadnahruxhxngsukhathisaxad ehlaniepnsingthithaihekidkaraephrkracayidmakkhunechnkn mikarphyayamhahnthangtang inxnthicapxngknorkhdngklaw sungrwmthungkarprbprungihminasaxadich ldcanwnphuthitidechuxodykarrksadwy yaptichiwna sungxacrwmthungkarrksaklumkhnthiorkhdngklawepnthithrabwaepnknmak odykarrksathiediywphrxmkn laphngechphaakarcharalangihsaxadnnimephiyngphxthicapxngknorkhid aetxacmipraoychnhakkrathaphrxmkbmatrkarxun thangeluxkinkarrksarwmipthungkarih thangpakhrux epnyapayphaynxk odyyaxasiothrimsinepnthangeluxkthidikwaenuxngcaksamarthichepnyaihthangpakephiyngkhrngediyw hlngcakthiekidaephlepnthiepluxkta xaccaepntxngichslykrrmephuxtkaetngtaaehnngkhntaesiyihmaelaephuxpxngkntabxd inolkmipraman 80 lankhnthiyngimhaycakkartidechuxdngklaw inbangphunthixacmikartidechuxdngklawmakthungrxyla 60 90 khxngcanwnedkaelayingphbthwipinhyingmakkwachayxnenuxngcakmioxkassmphsiklchidkbedk orkhdngklawepnsaehtuthaihkhnepncanwnthung 2 2 lankhnhyxnsmrrthphaphinkarmxngehn incanwnnnmi 1 2 lankhnthitabxdsnith epnorkhthiphbthwipin 53 praethsinthwiptang khuxxafrika exechiy xemrikaklangaelaxemrikait odymipraman 230 lankhnthimikhwamesiyngtxkarepnorkhdngklaw sungepnphlihekidkhwamsuyesiythangesrsthkicthung 8 phnlanehriyyshrthtxpi orkhdngklawcdxyuinklumorkhthithrabkninchuxwa orkhekhtrxnthithuklaelyxangxingSwanner Yann A Meunier with contributions from Michael Hole Takudzwa Shumba amp B J 2014 Tropical diseases a practical guide for medical practitioners and students Oxford Oxford University Press USA p 199 ISBN 9780199997909 Blinding Trachoma Fact sheet N 382 World Health Organization November 2013 subkhnemux 14 March 2014 Evans JR1 Solomon AW March 2011 Antibiotics for trachoma Cochrane Database Syst Rev 16 3 CD001860 doi 10 1002 14651858 CD001860 pub3 PMID 21412875 Ejere HO Alhassan MB Rabiu M Apr 18 2012 Face washing promotion for preventing active trachoma The Cochrane database of systematic reviews 4 CD003659 doi 10 1002 14651858 CD003659 pub3 PMID 22513915 Mariotti SP November 2004 New steps toward eliminating blinding trachoma N Engl J Med 351 19 2004 7 doi 10 1056 NEJMe048205 PMID 15525727 Fenwick A Mar 2012 The global burden of neglected tropical diseases Public health 126 3 233 6 doi 10 1016 j puhe 2011 11 015 PMID 22325616