เลเซอร์ (อังกฤษ: laser ย่อมาจากคำว่า light amplification by stimulated emission of radiation) ในทางฟิสิกส์ คือ อุปกรณ์ที่ให้กำเนิดลำแสง ที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่รวมกันระหว่างกลศาสตร์ควอนตัมกับอุณหพลศาสตร์ ซึ่งพลังงานแสงเลเซอร์ สามารถมีคุณสมบัติได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการออกแบบ เลเซอร์ส่วนมากจะเป็นลำแสงที่มีขนาดเล็ก มีการเบี่ยงเบนน้อย (low-divergence beam) และสามารถระบุความยาวคลื่นได้ง่าย โดยดูจากสีของเลเซอร์ ถ้าอยู่ในสเป็กตรัมที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (visible spectrum) ซึ่งเลเซอร์นี้อาจกล่าวได้ว่า เป็นการรวมพลังงานแสงที่ส่งออกมาจากหลายความยาวคลื่นเข้าด้วยกัน
เลเซอร์ จะหมายรวมไปถึงการให้พลังงานผ่านทางสื่อนำแสง ซึ่งสื่อนำแสงอาจเป็นได้ทั้งของแข็ง ของเหลว ก๊าซ หรืออิเล็กตรอนอิสระที่มีคุณสมบัติสามารถนำแสงได้ ในรูปแบบที่ง่ายที่สุด ออบติคัลคาวิตี (Optical cavity) จะประกอบไปด้วยกระจก 2 อัน ที่จะจัดเรียงแสงเข้าด้วยกันครั้งแล้วครั้งเล่า โดยที่แต่ละครั้งจะผ่านสื่อนำแสง โดนหนึ่งในกระจกนั้น (Output coupler) จะส่งลำแสงออกมา
ลำแสงเลเซอร์ ที่ผ่านทางสื่อนำแสงจะมีความยาวคลื่นเฉพาะ และมีพลังงานเพิ่ม ซึ่งกระจกนี้จะพยายามทำให้แสงส่วนมาก สามารถผ่านทางสื่อนำแสงให้ได้ และออกมาเป็นลำแสงเลเซอร์ กระบวนการเหนี่ยวนำลำแสงเพื่อเพิ่มพลังงานนี้ จะใช้พลังงานไฟฟ้าหรือแแสงในหลายความยาวคลื่น ซึ่งในการทดลองแต่ละครั้ง ความยาวคลื่นของแสงในแต่ละความยาวคลื่น จะส่งผลโดยตรงต่อคุณสมบัติ รูปร่าง และความยาวคลื่นของลำแสงเลเซอร์ที่สร้างออกมา
การค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเลเซอร์ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 1960 โดย ทีโอดอร์ ไมแมน (Theodore Maiman) ที่สถาบันวิจัย ฮิวจ์ (Hughes Research Laboratories) ทุกวันนี้เลเซอร์กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้หลายพันล้านดอนล่าร์ ผลผลิตจากงานวิจัยเลเซอร์ และกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีใช้กันอย่างแพร่หลาย มีให้เห็นอย่างเช่น แผ่นดีวีดี แผ่นซีดี เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องอ่านบาร์โค้ด อุปกรณ์ตัดโลหะด้วยเลเซอร์ ฯลฯ จะเห็นได้ว่าเลเซอร์มีการใช้กันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์ ด้านอุตสาหกรรม ด้านการแพทย์ หรือแม้กระทั่งด้านการทหาร ก็เพราะว่าเลเซอร์สามารถควบคุมความยาวคลื่นตามที่ต้องการได้
คุณสมบัติของเลเซอร์
1. มีทิศทางเดียวที่แน่นอน (Directionality) ลำแสงเลเซอร์จะขนานกันไปตลอดระยะทางไกลๆไม่มีการบานปลายออก ดังนั้นความเข้มของแสงเลเซอร์จะลดลงน้อยมากในระยะทางไกลๆ
2. เป็นแสงเอกรงค์ (Monochromaticity) แสงเลเซอร์มีความยาวคลื่นเพียงค่าเดียว แหล่งกำเนิดแสงที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น หลอดไฟฟ้า และ ดวงอาทิตย์จะเป็นแสงสีขาว ถ้าให้แสงสีขาวนี้ผ่านปริซึม จะเห็นแถบสีต่างๆเรียงกันอย่างต่อเนื่องจากสีม่วงถึงสีแดง เรียกว่า แถบสเปกตรัมของแสงเลเซอร์ เช่น เลเซอร์ฮีเลียม- นีออน เมื่อให้แสงสีแดงของเลเซอร์ฮีเลียม-นีออนผ่านปริซึม จะไม่มีการแยกเป็นหลายเส้นแต่ยังคงมีเพียง 1 เส้นที่มีความยาวคลื่น 632.8 นาโนเมตร
3. มีความเจิดจ้า (Brightness) แสงเลเซอร์มีลักษณะโดดเด่นไม่ซ้ำแหล่งกำเนิดแสงชนิดอื่นในเชิงความเข้มสูง และเมื่อลำแสงตกกระทบวัตถุ ก็เกิดความระยิบระยับของลำแสงขึ้น (Laser Speackle) โดยเฉพาะเมื่อวัตถุนั้นมีความหยาบหรือแม้แต่ในบรรยากาศที่มีฝุ่นละอองหรือควันซึ่งเป็นอนุภาคแขวนลอยอยุ่อย่างrandom ทั้งนี้เนื่องจากแสงเลเซอร์เกิดการสะท้อนแบบไม่มีทิศทางกับอนุภาค หรือผิวของวัตถุ และเกิดการแทรกสอดของลำแสง ทำให้เกิดความระยิบระยับขึ้นจึงเป็นมิติของการมองเห็นโดยใช้ Laser displays แสงเลเซอร์กำลังต่ำๆ เช่น เลเซอรืฮีเลียม-นีออน ขนาด 1 mW ก็มีความเข้มสูงกว่าแสงพระอาทิตย์ ฉะนั้นถ้าฉายเข้าตามนุษย์โดยตรงแล้ว จะเป็นอันตรายต่อนัยน์ตาถึงตาบอดได้
4. มีความเป็นอาพันธ์ (coherence) หลอดไฟฟ้าที่เปล่งแสงประกอบด้วยอะตอมที่เล็กจำนวนมาก โดยแต่ละอะตอมจะทำหน้าที่เป็นต้นกำเนิดแสง ดังนั้นแต่ละอะตอมก็ปล่อยแสงออกมาอย่างอิสระซึ่งกันและกัน แสงที่ถูกปล่อยออกมาจากหลอดไฟจึงมีเฟส และความยาวคลื่นต่างๆกัน ยิ่งกว่านั้นแต่ละคลื่นที่ถูกปล่อยออกมามีทิศทางไม่แน่นอน หรือเป็น random แสงจากแหล่งต้นกำเนิดแสงธรรมดาโดยทั่วไปจะเรียกว่า แสงอนาพันธ์ (incoherence light) ต้นกำเนิดของแสงเลเซอร์นอกจากจะให้แสงสีเดียวทุกๆ คลื่นของแสงเลเซอร์จะมีเฟสเดียวกันหมด ดังนั้นแสงเลเซอร์จึงเรียกว่า แสงอาพันธ์ (coherence light)
การออกแบบ
เลเซอร์ประกอบด้วยที่มีกลไกในการป้อนพลังงานเพื่อให้เกิดอัตราการขยายของตัวมันเองและสิ่งที่จะให้ผลลัพธ์ตอบสนองทางด้านแสงกลับคืนมา สื่อตัวกลางที่มีอัตราการขยายเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติที่อนุญาตให้ขยายแสงโดยการปลดปล่อยด้วยการถูกกระตุ้น แสงของความยาวคลื่นเฉพาะที่ผ่านตัวกลางนั้นได้ถูกขยาย (เพิ่มกำลัง)
สำหรับสื่อตัวกลางที่ได้รับการขยายแสงมันจะต้องถูกจ่ายพลังงานมาจากแหล่งพลังงานที่นำมาใช้ กระบวนการนี้เรียกว่าการสูบหรือ (pumping) พลังงาน
ฟิสิกส์เลเซอร์
อิเล็กตรอนและวิธีการที่พวกมันมีปฏิสัมพันธ์กับนั้นมีความสำคัญในการทำความเข้าใจของเราในวิชาเคมีและฟิสิกส์
การปลดปล่อยโดยการกระตุ้น
ในมุมมองแบบฟิสิกส์คลาสสิก, พลังงานของอิเล็กตรอนที่โคจรรอบนิวเคลียสมีขนาดใหญ่สำหรับวงโคจรที่ห่างจากนิวเคลียสของอะตอม อย่างไรก็ตาม, ผลลัพธ์ทางกลศาสตร์ควอนตัมบังคับให้อิเล็กตรอนอยู่ในตำแหน่งที่ทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องในวงโคจร ดังนั้นอิเล็กตรอนจะถูกพบว่าอยู่ในระดับพลังงานที่เฉพาะเจาะจงของอะตอมสองแห่งดังที่แสดงอยู่ด้านล่าง:
เมื่ออิเล็กตรอนดูดซับพลังงานทั้งจากแสง (โฟตอน) หรือความร้อน () เข้าไว้ซึ่งเป็นอุบัติการณ์ทางควอนตัมของพลังงาน แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นในระหว่างระดับพลังงานที่ไม่ต่อเนื่องเช่น ระดับพลังงานสองระดับดังแสดงไว้ด้านบน นี่จะทำให้เกิด (emission lines) และ (absorption lines) ขึ้น
เมื่ออิเล็กตรอน (excited) จากระดับพลังงานที่ต่ำกว่าไปสู่ระดับพลังงานที่สูงกว่า, มันก็จะไม่อาจคงตัวอยู่ที่ระดับพลังงานชั้นนั้น ๆ ได้ตลอดไป อิเล็กตรอนในสถานะที่ถูกทำให้ตื่นตัวนี้อาจจะสลายตัวไปสู่ยังสถานะพลังงานที่ต่ำกว่าซึ่งยังไม่ได้ถูกยึดครองตำแหน่งเอาไว้โดยอิเล็กตรอนตัวอื่น ๆ, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ค่าคงที่ของเวลา ที่จะแสดงลักษณะว่ามีการเปลี่ยนผ่านของอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่มีความแตกต่างกันนั้น ๆ
ชนิดและหลักการทำงาน
เลเซอร์ก๊าซ
จากที่มีการประดิษฐ์เลเซอร์ก๊าซฮีเลียม-นีออน (He-Ne), การคายประจุของแก๊สอื่น ๆ หลายชนิดพบว่ามีการขยายแสงที่มีความเป็นอาพันธ์ หรือ ความสอดคล้องกัน เลเซอร์ก๊าซใช้ก๊าซที่แตกต่างกันจำนวนมากที่ได้รับการสร้างขึ้นและนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย (HeNe) สามารถทำงานที่จำนวนของความยาวคลื่นที่แตกต่างกันได้, แต่ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาที่ความยาวคลื่น 633 นาโนเมตร; เหล่านี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำ แต่เลเซอร์อาพันธ์ถูกใช้ทั่วไปในการวิจัยแสงและห้องปฏิบัติการสำหรับการศึกษา
การประยุกต์ใช้งานเลเซอร์
เลเซอร์เป็นแหล่งกำเนิดแสงที่มีคุณสมบัติเด่น คือ เป็นคลื่นแสงที่มีระเบียบ มีลักษณะเป็นลำแสง ความเข้มแสงสูง จึงมีศักยภาพในการประยุกต์มากมาย ได้แก่ การใช้เลเซอร์เพื่อเจาะ ตัด เชื่อม เลเซอร์เป็นแสงที่มีความเข้มสูง และเป็นลำแสง เมื่อโฟกัสจะมีขนาดเล็กสามารถ เจาะ ตัด เชื่อมวัสดุต่างๆได้ รูปที่เจาะ รอยเชื่อม จะมีขนาดเล็กและคมชัดมาก ทำให้สามารถทำงานที่มีความละเอียดสูงได้ เลเซอร์ที่ใช้งานต้องมีกำลังสูงเช่น เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์
1. การใช้เลเซอร์ด้านการแพทย์
เลเซอร์ถูกนำมาใช้ในการผ่าตัดและรักษาทางด้านการแพทย์และจักษุแพทย์ เช่น การผ่าตัดที่มีขนาดเล็ก (Microsurgery) การผ่าตัดต้อ เป็นต้น เลเซอร์ที่ใช้ได้แก่ เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ เลเซอร์อาร์กอน การเลือกใช้เลเซอร์แบบต่างๆขึ้นอยู่กับว่า อวัยวะที่ต้องการผ่าตัดมีความสามารถในการดูดกลืนแสงสีอะไร และขนาดกำลังของเลเซอร์ เช่น เส้นเลือดแดงจะดูดกลืนสีแดงได้น้อย จึงใช้เลเซอร์แสงสีเขียวที่ได้จากเลเซอร์แก๊สอาร์กอน
ในการใช้งานจริงๆ อาจใช้ลำแขนที่มีกระจกเลนส์อยู่ภายใน และหักงอได้เป็นตัวนำแสงเลเซอร์ ไปยังบริเวณรอวัยวะที่จะผ่าตัด หรือใช้ลำแสงเลเซอร์ผ่านกล้องจุลทรรศน์ผ่าตัด ในการรักษาโรคมะเร็ง เลเซอร์ที่ใช้จะต้องมีความหนาแน่นพลังงาน 300-500 ลูกบาศก์เซนติเมตร แสงเลเซอร์จะทำลายเซลล์เนื้องอก โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อปกติโดยรอบ บาดแผลภายหลังการผ่าตัดจะฟื้นตัวเร็ว ในงานจุลศัลยกรรมของเส้นเลือด เลเซอร์สามารถห้ามเลือดให้หยุดไหลโดยการเชื่อมเส้นเลือดเล็กๆภายในบริเวณจำกัดให้ติดกัน วิธีการอาจใช้ท่อนำแสงเข้าช่วยด้วย เพื่อนำแสงเลเซอร์ไปตามช่องอวัยวะที่เข้าถึงยาก
2. การใช้เลเซอร์ด้านสื่อสารโทรคมนาคม
การสื่อสารในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้คลื่นไมโครเวฟ หรือใช้โทรศัพท์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการพัฒนาเลเซอร์ไดโอด (semiconductor diode laser) และเส้นใยแก้วนำแสง (optical fiber) แล้วการสื่อด้วยแสง (optical communication) หรือการส่งข้อมูลข่าวสารจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งหรือระหว่างเมืองต่างๆ ก็เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ในอนาคตการสื่อสารด้วยเลเซอร์จะเข้ามาแทนที่ระบบโทรศัพท์ที่ใช้ลวดตัวนำที่ใช้กันอยู่ทั่วไป แสงเลเซอร์นี้มีจุดเด่นที่จะไม่มีสัญญาณรบกวนเพราะเป็นคลื่นแสง มีความจุข้อมูลสูงมากเพราะมีความถี่สูงกว่าคลื่นวิทยุ ทำให้เส้นใยแก้วนำแสงเส้นหนึ่งสามารถจุคู่สายโทรศัพท์ได้เป็นพันๆคู่
3. การใช้เลเซอร์ด้านการสร้างภาพสามมิติ
ปัจจุบันได้ใช้เลเซอร์ในการสร้างภาพ 3 มิติหรือภาพ โฮโลกราฟี หมายถึง กระบวนการสร้างภาพฮอโลแกรม ซึ่งเป็นภาพ 3 มิติ แตกต่างจากการสร้างภาพเชิง 3 มิติ โดยฮอโลแกรมนั้นเป็นภาพที่บันทึกลงบนฟิล์ม หรือ แผ่นเคลือบด้วยสารสำหรับบันทึกแสง ซึ่งผ่านเทคนิคการบันทึกด้วยการใช้ แสงที่มีหน้าคลื่นสอดคล้องกัน (coherence) เช่น แสงเลเซอร์ และเมื่อถูกส่องสว่างอย่างเหมาะสม จะแสดงให้เห็นภาพที่มีลักษณะ 3 มิติ
ฮอโลกราฟี เป็นเทคนิคที่ช่วยให้แสงกระจายจากวัตถุที่จะบันทึก และได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ต่อมา เพื่อให้ปรากฏเป็นวัตถุอยู่ในตำแหน่งเดิมเมื่อเทียบกับการบันทึก การเปลี่ยนแปลงรูปแบบตำแหน่งและทิศทางของการระบบการมองเห็น เปลี่ยนแปลงไปอย่างถูกต้องเหมือนกับถ้าวัตถุก็ยังคงเป็นปัจจุบันจึงทำให้ภาพที่บันทึก (โฮโลแกรม) ปรากฏเป็นสามมิติ
เทคนิคของฮอโลกราฟียังสามารถใช้ในการเก็บ ดึงและประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับแสง ในขณะที่ฮอโลกราฟีเป็นที่นิยมใช้เพื่อใช้แสดงภาพ 3 มิติแบบคงที่ แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างฉากตามต้องการโดยการแสดงปริมาตรของ holographic ได้
ถ้าจะกล่าวในคำพูดที่เป็นเชิงวิชาการมากขึ้น ก็อาจกล่าวได้ว่า ฮอโลแกรม ก็คือ บันทึกของรูปแบบการแทรกสอดของลำแสง ที่มีหน้าคลื่นสอดคล้องกัน 2 ลำ
4. การใช้เลเซอร์ในการวัด
การใช้เลเซอร์ในการวัด นับ ทดสอบ ตรวจสอบการควบคุม ทั้งในกระบวนการผลิตและในงานวิทยาศาสตร์ เช่น การตรวจสอบยางล้อเครื่องบินโดยไม่ทำลาย โดยวิธีโฮโลกราฟี (holography) การวัดปริมาณมลภาวะเพื่อหาปริมาณของสารต่างๆในบรรยากาศ เนื่องจากเลเซอร์มีความยามคลื่นคงที่และเป็นลำแสงขนานจึงถูกนำมาใช้เป็นมาตรฐานการวัดที่ละเอียดแม่นยำ เช่น การวัดขนาดของสิ่งของ การวัดระยะทางทั้งใกล้และไกล โดยอาศัยหลักการของการแทรกสอด
5. การใช้เลเซอร์ในการตัดโลหะ
การตัดโลหะด้วยเลเซอร์เป็นกระบวนการที่ใช้ลำแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูงในการตัดโลหะ ลำแสงเลเซอร์จะหลอมละลายหรือระเหยโลหะเพื่อสร้างรอยตัด การตัดโลหะด้วยเลเซอร์เป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพสูงและแม่นยำ สามารถตัดโลหะได้หลากหลายประเภท เช่น เหล็ก อลูมิเนียม สแตนเลส และสามารถสร้างรอยตัดที่เรียบและสะอาด การตัดโลหะด้วยเลเซอร์จึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
อ้างอิง
- Gould, R. Gordon (1959). "The LASER, Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation". in Franken, P.A. and Sands, R.H. (Eds.). The Ann Arbor Conference on Optical Pumping, the University of Michigan, 15 June through 18 June 1959. pp. 128. OCLC 02460155.
- นพพร รัตนช่วง.ม.ป.ป.คู่มือปฏิบัติการฟิสิกส์ยุคใหม่ (01420222). คณะศิปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน,นครปฐม.(อัดสำเนา)
- https://abtmetalwork.com/laser-cutting-technology/
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
elesxr xngkvs laser yxmacakkhawa light amplification by stimulated emission of radiation inthangfisiks khux xupkrnthiihkaenidlaaesng thimilksnaechphaa sungepnethkhonolyithirwmknrahwangklsastrkhwxntmkbxunhphlsastr sungphlngnganaesngelesxr samarthmikhunsmbtiidhlakhlay khunxyukbcudprasngkhinkarxxkaebb elesxrswnmakcaepnlaaesngthimikhnadelk mikarebiyngebnnxy low divergence beam aelasamarthrabukhwamyawkhlunidngay odyducaksikhxngelesxr thaxyuinsepktrmthisamarthmxngehniddwytaepla visible spectrum sungelesxrnixacklawidwa epnkarrwmphlngnganaesngthisngxxkmacakhlaykhwamyawkhlunekhadwyknelesxrsiaedng 635 naonemtr siekhiyw 532 naonemtr aelasimwng naengin 445 naonemtr elesxr cahmayrwmipthungkarihphlngnganphanthangsuxnaaesng sungsuxnaaesngxacepnidthngkhxngaekhng khxngehlw kas hruxxielktrxnxisrathimikhunsmbtisamarthnaaesngid inrupaebbthingaythisud xxbtikhlkhawiti Optical cavity caprakxbipdwykrack 2 xn thicacderiyngaesngekhadwyknkhrngaelwkhrngela odythiaetlakhrngcaphansuxnaaesng odnhnunginkracknn Output coupler casnglaaesngxxkma laaesngelesxr thiphanthangsuxnaaesngcamikhwamyawkhlunechphaa aelamiphlngnganephim sungkracknicaphyayamthaihaesngswnmak samarthphanthangsuxnaaesngihid aelaxxkmaepnlaaesngelesxr krabwnkarehniywnalaaesngephuxephimphlngnganni caichphlngnganiffahruxaeaesnginhlaykhwamyawkhlun sunginkarthdlxngaetlakhrng khwamyawkhlunkhxngaesnginaetlakhwamyawkhlun casngphlodytrngtxkhunsmbti ruprang aelakhwamyawkhlunkhxnglaaesngelesxrthisrangxxkma karkhnkhwawicyekiywkbelesxr ekidkhunkhrngaerkemuxeduxnphvsphakhm pi 1960 ody thioxdxr imaemn Theodore Maiman thisthabnwicy hiwc Hughes Research Laboratories thukwnnielesxrklayepnxutsahkrrmthitharayidhlayphnlandxnlar phlphlitcaknganwicyelesxr aelaklayepnxupkrnthimiichknxyangaephrhlay miihehnxyangechn aephndiwidi aephnsidi ekhruxngelndiwidi ekhruxngxanbarokhd xupkrntdolhadwyelesxr l caehnidwaelesxrmikarichknxyangkwangkhwang imwacaepndanwithyasastr danxutsahkrrm dankaraephthy hruxaemkrathngdankarthhar kephraawaelesxrsamarthkhwbkhumkhwamyawkhluntamthitxngkaridkhunsmbtikhxngelesxrkhunsmbtikarmithisthangediywthiaennxn 1 mithisthangediywthiaennxn Directionality laaesngelesxrcakhnankniptlxdrayathangiklimmikarbanplayxxk dngnnkhwamekhmkhxngaesngelesxrcaldlngnxymakinrayathangikl 2 epnaesngexkrngkh Monochromaticity aesngelesxrmikhwamyawkhlunephiyngkhaediyw aehlngkaenidaesngthieraphbehninchiwitpracawn echn hlxdiffa aela dwngxathitycaepnaesngsikhaw thaihaesngsikhawniphanprisum caehnaethbsitangeriyngknxyangtxenuxngcaksimwngthungsiaedng eriykwa aethbsepktrmkhxngaesngelesxr echn elesxrhieliym nixxn emuxihaesngsiaedngkhxngelesxrhieliym nixxnphanprisum caimmikaraeykepnhlayesnaetyngkhngmiephiyng 1 esnthimikhwamyawkhlun 632 8 naonemtr 3 mikhwamecidca Brightness aesngelesxrmilksnaoddednimsaaehlngkaenidaesngchnidxuninechingkhwamekhmsung aelaemuxlaaesngtkkrathbwtthu kekidkhwamrayibraybkhxnglaaesngkhun Laser Speackle odyechphaaemuxwtthunnmikhwamhyabhruxaemaetinbrryakasthimifunlaxxnghruxkhwnsungepnxnuphakhaekhwnlxyxyuxyangrandom thngnienuxngcakaesngelesxrekidkarsathxnaebbimmithisthangkbxnuphakh hruxphiwkhxngwtthu aelaekidkaraethrksxdkhxnglaaesng thaihekidkhwamrayibraybkhuncungepnmitikhxngkarmxngehnodyich Laser displays aesngelesxrkalngta echn elesxruhieliym nixxn khnad 1 mW kmikhwamekhmsungkwaaesngphraxathity channthachayekhatamnusyodytrngaelw caepnxntraytxnyntathungtabxdid 4 mikhwamepnxaphnth coherence hlxdiffathieplngaesngprakxbdwyxatxmthielkcanwnmak odyaetlaxatxmcathahnathiepntnkaenidaesng dngnnaetlaxatxmkplxyaesngxxkmaxyangxisrasungknaelakn aesngthithukplxyxxkmacakhlxdifcungmiefs aelakhwamyawkhluntangkn yingkwannaetlakhlunthithukplxyxxkmamithisthangimaennxn hruxepn random aesngcakaehlngtnkaenidaesngthrrmdaodythwipcaeriykwa aesngxnaphnth incoherence light tnkaenidkhxngaesngelesxrnxkcakcaihaesngsiediywthuk khlunkhxngaesngelesxrcamiefsediywknhmd dngnnaesngelesxrcungeriykwa aesngxaphnth coherence light karxxkaebbswnprakxbkhxngelesxr 1 twklangkhyayaesng 2 karpmphlngnganekhaip 3 krackengasathxnaesngklbhmd 4 5 laaesngelesxr elesxrprakxbdwythimiklikinkarpxnphlngnganephuxihekidxtrakarkhyaykhxngtwmnexngaelasingthicaihphllphthtxbsnxngthangdanaesngklbkhunma suxtwklangthimixtrakarkhyayepnwsduthimikhunsmbtithixnuyatihkhyayaesngodykarpldplxydwykarthukkratun aesngkhxngkhwamyawkhlunechphaathiphantwklangnnidthukkhyay ephimkalng sahrbsuxtwklangthiidrbkarkhyayaesngmncatxngthukcayphlngnganmacakaehlngphlngnganthinamaich krabwnkarnieriykwakarsubhrux pumping phlngnganfisikselesxrxielktrxnaelawithikarthiphwkmnmiptismphnthkbnnmikhwamsakhyinkarthakhwamekhaickhxngerainwichaekhmiaelafisiks karpldplxyodykarkratun inmummxngaebbfisikskhlassik phlngngankhxngxielktrxnthiokhcrrxbniwekhliysmikhnadihysahrbwngokhcrthihangcakniwekhliyskhxngxatxm xyangirktam phllphththangklsastrkhwxntmbngkhbihxielktrxnxyuintaaehnngthithaihekidkhwamimtxenuxnginwngokhcr dngnnxielktrxncathukphbwaxyuinradbphlngnganthiechphaaecaacngkhxngxatxmsxngaehngdngthiaesdngxyudanlang emuxxielktrxndudsbphlngnganthngcakaesng oftxn hruxkhwamrxn ekhaiwsungepnxubtikarnthangkhwxntmkhxngphlngngan aetmikarepliynaeplngthiidrbxnuyatethanninrahwangradbphlngnganthiimtxenuxngechn radbphlngngansxngradbdngaesdngiwdanbn nicathaihekid emission lines aela absorption lines khun emuxxielktrxn excited cakradbphlngnganthitakwaipsuradbphlngnganthisungkwa mnkcaimxackhngtwxyuthiradbphlngnganchnnn idtlxdip xielktrxninsthanathithukthaihtuntwnixaccaslaytwipsuyngsthanaphlngnganthitakwasungyngimidthukyudkhrxngtaaehnngexaiwodyxielktrxntwxun odyechphaaxyangying khux khakhngthikhxngewla thicaaesdnglksnawamikarepliynphankhxngxielktrxninradbphlngnganthimikhwamaetktangknnn chnidaelahlkkarthanganelesxrkas cakthimikarpradisthelesxrkashieliym nixxn He Ne karkhaypracukhxngaeksxun hlaychnidphbwamikarkhyayaesngthimikhwamepnxaphnth hrux khwamsxdkhlxngkn elesxrkasichkasthiaetktangkncanwnmakthiidrbkarsrangkhunaelanamaichephuxwtthuprasngkhthihlakhlay HeNe samarththanganthicanwnkhxngkhwamyawkhlunthiaetktangknid aetswnihycathukxxkaebbmathikhwamyawkhlun 633 naonemtr ehlanimikhaichcaythikhxnkhangta aetelesxrxaphnththukichthwipinkarwicyaesngaelahxngptibtikarsahrbkarsuksakarprayuktichnganelesxrkarthdlxngelesxrthangfisiks elesxrepnaehlngkaenidaesngthimikhunsmbtiedn khux epnkhlunaesngthimiraebiyb milksnaepnlaaesng khwamekhmaesngsung cungmiskyphaphinkarprayuktmakmay idaek karichelesxrephuxecaa td echuxm elesxrepnaesngthimikhwamekhmsung aelaepnlaaesng emuxofkscamikhnadelksamarth ecaa td echuxmwsdutangid rupthiecaa rxyechuxm camikhnadelkaelakhmchdmak thaihsamarththanganthimikhwamlaexiydsungid elesxrthiichngantxngmikalngsungechn elesxrkharbxnidxxkisd 1 karichelesxrdankaraephthy elesxrthuknamaichinkarphatdaelarksathangdankaraephthyaelacksuaephthy echn karphatdthimikhnadelk Microsurgery karphatdtx epntn elesxrthiichidaek elesxrkharbxnidxxkisd elesxrxarkxn kareluxkichelesxraebbtangkhunxyukbwa xwywathitxngkarphatdmikhwamsamarthinkardudklunaesngsixair aelakhnadkalngkhxngelesxr echn esneluxdaedngcadudklunsiaedngidnxy cungichelesxraesngsiekhiywthiidcakelesxraeksxarkxn inkarichngancring xacichlaaekhnthimikrackelnsxyuphayin aelahkngxidepntwnaaesngelesxr ipyngbriewnrxwywathicaphatd hruxichlaaesngelesxrphanklxngculthrrsnphatd inkarrksaorkhmaerng elesxrthiichcatxngmikhwamhnaaennphlngngan 300 500 lukbaskesntiemtr aesngelesxrcathalayesllenuxngxk odyimthalayenuxeyuxpktiodyrxb badaephlphayhlngkarphatdcafuntwerw innganculslykrrmkhxngesneluxd elesxrsamarthhameluxdihhyudihlodykarechuxmesneluxdelkphayinbriewncakdihtidkn withikarxacichthxnaaesngekhachwydwy ephuxnaaesngelesxriptamchxngxwywathiekhathungyak 2 karichelesxrdansuxsarothrkhmnakhm karsuxsarinpccubnswnihyichkhlunimokhrewf hruxichothrsphth xyangirktamhlngcakthimikarphthnaelesxridoxd semiconductor diode laser aelaesniyaekwnaaesng optical fiber aelwkarsuxdwyaesng optical communication hruxkarsngkhxmulkhawsarcakcudhnungipyngxikcudhnunghruxrahwangemuxngtang kepnipidxyangrwderw inxnakhtkarsuxsardwyelesxrcaekhamaaethnthirabbothrsphththiichlwdtwnathiichknxyuthwip aesngelesxrnimicudednthicaimmisyyanrbkwnephraaepnkhlunaesng mikhwamcukhxmulsungmakephraamikhwamthisungkwakhlunwithyu thaihesniyaekwnaaesngesnhnungsamarthcukhusayothrsphthidepnphnkhu 3 karichelesxrdankarsrangphaphsammiti pccubnidichelesxrinkarsrangphaph 3 mitihruxphaph oholkrafi hmaythung krabwnkarsrangphaphhxolaekrm sungepnphaph 3 miti aetktangcakkarsrangphapheching 3 miti odyhxolaekrmnnepnphaphthibnthuklngbnfilm hrux aephnekhluxbdwysarsahrbbnthukaesng sungphanethkhnikhkarbnthukdwykarich aesngthimihnakhlunsxdkhlxngkn coherence echn aesngelesxr aelaemuxthuksxngswangxyangehmaasm caaesdngihehnphaphthimilksna 3 miti hxolkrafi epnethkhnikhthichwyihaesngkracaycakwtthuthicabnthuk aelaidthuksrangkhunihmtxma ephuxihpraktepnwtthuxyuintaaehnngedimemuxethiybkbkarbnthuk karepliynaeplngrupaebbtaaehnngaelathisthangkhxngkarrabbkarmxngehn epliynaeplngipxyangthuktxngehmuxnkbthawtthukyngkhngepnpccubncungthaihphaphthibnthuk oholaekrm praktepnsammiti ethkhnikhkhxnghxolkrafiyngsamarthichinkarekb dungaelapramwlphlkhxmulthiekiywkbaesng inkhnathihxolkrafiepnthiniymichephuxichaesdngphaph 3 mitiaebbkhngthi aetkyngimsamarthsrangchaktamtxngkarodykaraesdngprimatrkhxng holographic id thacaklawinkhaphudthiepnechingwichakarmakkhun kxacklawidwa hxolaekrm kkhux bnthukkhxngrupaebbkaraethrksxdkhxnglaaesng thimihnakhlunsxdkhlxngkn 2 la 4 karichelesxrinkarwd karichelesxrinkarwd nb thdsxb trwcsxbkarkhwbkhum thnginkrabwnkarphlitaelainnganwithyasastr echn kartrwcsxbyanglxekhruxngbinodyimthalay odywithioholkrafi holography karwdprimanmlphawaephuxhaprimankhxngsartanginbrryakas enuxngcakelesxrmikhwamyamkhlunkhngthiaelaepnlaaesngkhnancungthuknamaichepnmatrthankarwdthilaexiydaemnya echn karwdkhnadkhxngsingkhxng karwdrayathangthngiklaelaikl odyxasyhlkkarkhxngkaraethrksxd 5 karichelesxrinkartdolha kartdolhadwyelesxrepnkrabwnkarthiichlaaesngelesxrthimikhwamekhmkhnsunginkartdolha laaesngelesxrcahlxmlalayhruxraehyolhaephuxsrangrxytd kartdolhadwyelesxrepnkrabwnkarthimiprasiththiphaphsungaelaaemnya samarthtdolhaidhlakhlaypraephth echn ehlk xlumieniym saetnels aelasamarthsrangrxytdthieriybaelasaxad kartdolhadwyelesxrcungthuknamaichknxyangaephrhlayinxutsahkrrmtang echn xutsahkrrmyanynt xutsahkrrmxielkthrxniks aelaxutsahkrrmkarbinaelaxwkasxangxingGould R Gordon 1959 The LASER Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation in Franken P A and Sands R H Eds The Ann Arbor Conference on Optical Pumping the University of Michigan 15 June through 18 June 1959 pp 128 OCLC 02460155 nphphr rtnchwng m p p khumuxptibtikarfisiksyukhihm 01420222 khnasipsastraelawithyasastr mhawithyalyekstrsastr withyaekhtkaaephngaesn nkhrpthm xdsaena https abtmetalwork com laser cutting technology bthkhwamfisiksniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk