แก๊สเฉี่อย (อังกฤษ: inert gas) เป็นแก๊สที่ไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมีกับสารอื่น ดังนั้นจึงไม่สามารถสร้างสารประกอบเคมีได้ทันที แก๊สมีสกุลมักไม่ทำปฏิกิริยากับสารส่วนมากและในอดีตถูกเรียกว่าแก๊สเฉื่อย แก๊สเฉื่อยมักถูกใช้เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ไม่ต้องการโดยทำให้สารตัวอย่างเสื่อมสภาพ ปฏิกิริยาเคมีที่ไม่ต้องการมักเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและปฏิกิริยากับออกซิเจนและความชื้นในอากาศ คำว่าแก๊สเฉื่อยถูกใช้ขึ้นอยู่กับบริบทเนื่องจากในบางกรณี แก๊สมีสกุลสามารถทำปฏิกิริยากับสารอื่นได้ ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ แก๊สอาร์กอนบริสุทธิ์เป็นแก๊สเฉื่อยที่ถูกใช้มากที่สุด เนื่องจากมีค่าความอุดมสมบูรณ์สูง (78.3% N2, 1% Ar ในอากาศ) และ ค่าต้นทุนสัมพัทธ์ต่ำ ต่างจากแก๊สมีสกุล แก๊สเฉื่อยไม่จำเป็นต้องเป็นธาตุและสามารถเป็นแก๊สสารประกอบได้ แนวโน้มของการไม่เกิดปฏิกิริยาขึ้นอยู่กับเวเลนซ์อิเล็กตรอน หรือ อิเล็กตรอนในวงนอกสุดบนเปลือกอิเล็กตรอนเพื่อประกอบให้แก๊สเฉื่อยมีความเสถียร อย่างไรก็ตามแนวโน้มดังกล่าว ไม่ได้เป็นจริงเสมอ ทั้งแก๊สมีสกุลและแก๊สเฉื่อยสามารถตอบสนองต่อสารประกอบได้
ความจำเป็น
แก๊สเฉื่อยส่วนใหญ่สามารถสร้างได้จาก ยกเว้นฮีเลียมซึ่งสามารถสกัดได้จากแหล่งแก๊สธรรมชาติ ผ่านการกลั่นด้วยความเย็นจัดหรือการแยกเมมเบรนเท่านั้น สำหรับการใช้งานเฉพาะทาง แก๊สเฉื่อยบริสุทธ์ต้องถูกผลิตจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในไซต์งานหรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบพิเศษสำหรับการใช้ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น โดยแก๊สเฉื่อยถูกใช้ในการเคลื่อนที่ของยานพาหนะอย่างเรือบรรทุกสารเคมีและพื้นที่จัดเก็บผลิตภัณฑ์เคมีต่าง ๆ
การประยุกต์ใช้แก๊สเฉื่อย
เนื่องจากคุณสมบัติการไม่ทำปฏิกิริยาของแก๊สเฉื่อย จึงมีการใช้แก๊สเฉื่อยเพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเคมี เช่น อาหารบางประเภทมีการบรรจุไว้ร่วมกับแก๊สเฉื่อยเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียจากแก๊สออกซิเจน นอกจากนี้ แก๊สเฉื่อยยังป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในอากาศ โดยสามารถสังเกตได้จากการเหม็นหืนซึ่งเกิดจากการออกซิเดชั่นของน้ำมันที่บริโภค ในการบรรจุอาหาร มีการใช้แก๊สเฉื่อยเป็นสารกันบูดทางอ้อม ซึ่งตรงข้ามกับสารจำพวก () หรือ (สารต้านอนุมูลอิสระ) ที่เป็นสารกันบูดโดยตรง
เอกสารทางประวัติศาสตร์จะมีการจัดเก็บไว้พร้อมกับแก๊สเฉื่อยเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ เช่น เอกสารต้นฉบับของ[[ รัฐธรรมนูญสหรัฐ]]มีการจัดเก็บพร้อมกับอาร์กอนที่มีความชื้น ก่อนหน้านี้ มีการใช้แก๊สฮีเลียม แต่เนื่องจากความเหมาะที่ต่ำ เมื่อพิจารณาถึงการแพร่กระจายออกจากกล่องเทียบกับแก๊สอาร์กอน แก๊สฮีเลียมจึงถูกเปลี่ยนออก แก๊สเฉื่อยเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมเคมี ในโรงงานผลิตสารเคมี ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นภายใต้สภาวะที่มีแก๊สเฉื่อย เพื่อลดอันตรายจากไฟไหม้หรือการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ ในโรงงานกลั่นน้ำมันท่อส่งและอุปกรณ์บรรจุสารจะมีการออกด้วยแก๊สเฉื่อยเพื่อป้องกันไฟไหม้และการระเบิด ในหน่วยที่เล็กลงมา นักเคมีอาจมีการใช้แก๊สเฉื่อย เมื่อทำงานกับด้วยซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยใช้แก๊สฮีเลียม นีออน อาร์กอน คริปทอน ซีนอน และเรดอน
ระบบแก๊สเฉื่อยบนเรือ
มีแก๊สเฉื่อยซึ่งผลิตบนเรือบรรทุกน้ำมันดิบมากกว่า 8,000 ตัน (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2016) จากการเผาผลาญน้ำมันก๊าดใน แก๊สเฉื่อยที่เกิดขึ้นในระบบช่วยป้องกันไม่ให้บรรยกาศในหรืออยู่ช่วงที่สามารถระเบิดได้ แก๊สเฉื่อยช่วยให้ระดับออกซิเจนของบรรยากาศในถังบรรจุต่ำกว่า 5% (ในกรณีที่ใช้ขนส่งน้ำมัน และ อาจต่ำกว่านั้น ในกรณีที่ใช้บรรจุแก๊สอื่นๆ) ทำให้มีส่วนของแก๊สไฮโดรคาร์บอนในปริมาณที่มากเกินกว่าจะเกิดการลุกไหม้ (มีอัตราส่วนของเชื้อเพลิงมากกว่าออกซิเจนเกินไป) แก๊สเฉื่อยยังมีความสำคัญอย่างมากในกระบวนการคายประจุ และระหว่างกระบวนการเคลื่อนที่ของบัลลาสต์ เมื่อมีไอของไฮโดรคาร์บอนอยู่มากในบรรยากาศภายในถังบรรจุ นอกจากนี้ แก๊สเฉื่อยมีส่วนช่วยในการไล่แก๊สในบรรยากาศของถังบรรจุ ทั้งในส่วนที่เตรียมปลดปล่อยแก๊สเพื่อเปลี่ยนเป็นอากาศที่สามารถหายใจได้ และในทางกลับกันอีกด้วย ระบบแก๊สไอเสียใช้แรงดันจากไอของเครื่องต้ม อัตราส่วนระหว่างเชื้อเพลิงกับอากาศในเครื่องต้มจึงต้องอยู่ในช่วงที่กำเนิดเพื่อยืนยันการเกิดขึ้นของแก๊สเฉื่อยคุณภาพสูง หากมีอากาศมากเกินไป จะส่งผลให้มีปริมาณแก๊สออกซิเจนมากกว่า 5% และ มีน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณที่มากเกินไปซึ่งทำให้เกิดแก๊สไฮโดรคาร์บอนซึ่งเป็นอันตรายในปริมาณที่มากเกินไป ภายในหอ จะมีการทำความสะอาดและระบายความร้อนของแก๊สไอเสีย โดยอุปกรณ์ความปลอดภัยจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสภาวะแรงดันเกิน ไม่ให้เกิดการเคลื่อนตัวกลับห้องเครื่องยนต์ของแก๊สไฮโดรคาร์บอน หรือ ไม่ให้มีการใช้แก๊สเฉื่อยซึ่งมีส่วนของออกซิเจนสูงเกินไป เรือบรรทุกแก๊สและพาหนะขนส่งผลิตภัณฑ์ไม่สามารถใช้ระบบแก๊สไอเสียได้ เนื่องจากการใช้ระบบดังกล่าว จำเป็นต้องมีแก๊สเฉื่อย และ O2 ซึ่งมีปริมาณ 1% หรือน้อยกว่านั้น จึงมีการใช้ระบบเครื่องผลิตแก๊สเฉื่อยแทน เครื่องผลิตแก๊สเฉื่อยแบ่งออกเป็นห้องเผาไหม้ หน่วยฟอกอากาศซึ่งมีพัดลมติดตั้ง และ หน่อยทำความเย็นซึ่งทำหน้าที่ลดอุณหภูมิของแก๊ส นอกจากนี้ ยังมีเครื่องทำให้แห้งที่ต่ออนุกรมกับระบบ ซึ่งช่วยขจัดความชื้นในแก๊สเพื่อเตรียมแก๊สก่อนถูกส่งต่อ ถังบรรจุไม่ได้ถูกรบกวนในกระบวนการ มีเพียงพื้นที่รอบๆเท่านั้น
ระบบแก๊สเฉื่อยบนเครื่องบิน
เครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินทหารสร้างแก๊สเฉื่อยเพื่อหยุดยั้งปฏิกิริยาเคมีที่อาจเกิดในถังบรรจุเชื้อเพลิง ในวันที่อากาศร้อน ใอน้ำมันเชื้อเพลิงในถังบรรจุเชื้อเพลิงอาจก่อตัวเป็นสารส่วนที่ติดไฟไหม้หรือระเบิดได้ ซึ่งหากถูกออกซิไดซ์ จะสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงตามมา โดยทั่วไป ส่วนที่แยกอากาศจะทำหน้าที่สร้างแก๊สเฉื่อย โดยส่วนที่แยกอากาศประกอบไปด้วยเยื่อซึมผ่านที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ในเยื่อเต็มไปด้วยอากาศอัดที่สกัดจากขั้นตอนการบีบอัดของเครื่องยนต์กังหันแก๊ส การซึมผ่านของออกซิเจนผ่านเนื้อเยื่อที่เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไนโตรเจน ส่งผลให้ความดันช่วยแยกออกซิเจนออกจากอากาศ สำหรับการหยุดปฏิกิริยาเคมีที่อาจเกิดในถังบรรจุเชื้อเพลิง การกำจัดออกซิเจนทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจำเป็น แค่ต้องรักษาระดับของออกซิเจนให้ต่ำกว่าช่วงที่สามารถก่อให้เกิดการเผาไหม้หรือการระเบิด ดังนั้น จึงควบคุมความเข้มข้นของออกซิเจนให้มีความเข้มข้น 10% ถึง 12% ตลอดการเดินทาง
การเชื่อม
ในการเชื่อมอาร์กของแก๊สทังสเตน แก๊สเฉื่อยจะเคลือบผิวทังสเตนเพื่อป้องกันการปนเปื้อน และ เคลือบโลหะเหลว (ที่อาร์กสร้างขึ้น) เพื่อป้องกันแก๊สที่เกิดปฏิกิริยาในอากาศจากการสร้างช่องพรุนในส่วนเชื่อมที่แข็งตัว นอกจากนี้ มีการใช้แก๊สเฉื่อยใน เมื่อเชื่อม แก๊สบางชนิดไม่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นแก๊สเฉื่อย แต่มีพฤติกรรมเหมือนแก๊สเฉื่อย จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์แทนแก๊สเฉื่อย แก๊สเฉื่อยเทียมที่เหมาะสมซึ่งราคาไม่แพงและพบได้ทั่วไปเป็นประโยชน์อย่างมากในหลายกรณี เช่น มีการใช้คาร์บอนไดออกไซด์เป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมอาร์กโลหะด้วยแก๊ส เนื่องจากเป็นแก๊สที่ไม่เกิดปฏิกิริยากับพื้นที่โดยรอบที่เชื่อมอาร์ก แต่มีปฏิกิริยากับส่วนอาร์ก ยิ่งเติมแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในส่วนแก๊สเฉื่อย เช่น อาร์กอน มาก จะยิ่งเพิ่มการแทรกซึม โดยปริมาณของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับประเภทของการถ่ายโอนที่ใช้ในการเชื่อมอาร์กโลหะด้วยแก๊ส ตามทั่วไป สเปรย์การถ่ายโอนอาร์กเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยมักประกอบด้วยอาร์กอน 90% และ คาร์บอนไดออกไซด์ 10%
การดำน้ำ
ในการดำน้ำ แก๊สเฉื่อยเป็นส่วนประกอบของส่วนสำหรับการหายใจ โดยไม่มีฤทธิ์ในการเผาผลาญ แต่สามารถทำหน้าที่เจือจางส่วนผสมของก๊าซโดยรอบได้ แก๊สเฉื่อยอาจมีผลกระทบต่อนักประดาน้ำ แต่เชื่อกันว่าส่งผลกระทบทางกายภาพเท่านั้น เช่น สร้างความเสียหายแก่เนื้อเยื่อด้วยฟองอากาศในสภาวะโรคลดความกด แก๊สที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในการดำน้ำเชิงพาณิชย์ที่สุดคือแก๊สฮีเลียม
ดูเพิ่ม
- สำหรับเครื่องบิน
- เป็นขั้นตอนการล้างระบบปิดด้วยแก๊สเฉื่อย ซึ่งช่วยป้องกันอัคคีภัยและการระเบิดโดยหลีกเลี่ยงสภาพบรรยากาศที่ติดไฟได้
- เป็นขั้นตอนการใส่แก๊สเฉื่อยในบรรยากาศ ซึ่งช่วยป้องกันอัคคีภัยและการระเบิดโดยการทำให้สภาพบรรยากาศที่ติดไฟได้ปลอดภัยขึ้น
อ้างอิง
- IUPAC, Compendium of Chemical Terminology, 2nd ed. (the "Gold Book") (1997). Online corrected version: (2006-) "inert gas".
- Singh, Jasvinder. The Sterling Dictionary of Physics. New Delhi, India: Sterling, 2007. 122.
- Maier, Clive & Teresa Calafut. Polypropylene: The Definitive User's Guide and Databook. Norwich, New York: Plastics Design Library, 1998. 105.
- "Charters of Freedom Re-encasement Project". National Archives. สืบค้นเมื่อ 2012-02-11.
- International Maritime Organization. Tanker yes Familiarization London: Ashford Overload Services, 2000. 185.
- Davis, J.R., ed. Corrosion: Understanding the Basics. Materials Park, Ohio: ASM International, 2000. 188.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
aeksechixy xngkvs inert gas epnaeksthiimwxngiwtxptikiriyaekhmikbsarxun dngnncungimsamarthsrangsarprakxbekhmiidthnthi aeksmiskulmkimthaptikiriyakbsarswnmakaelainxditthukeriykwaaeksechuxy aeksechuxymkthukichephuxpxngknkarekidptikiriyaekhmithiimtxngkarodythaihsartwxyangesuxmsphaph ptikiriyaekhmithiimtxngkarmkekidptikiriyaxxksiedchnaelaptikiriyakbxxksiecnaelakhwamchuninxakas khawaaeksechuxythukichkhunxyukbbribthenuxngcakinbangkrni aeksmiskulsamarththaptikiriyakbsarxunid phayitenguxnikhtang aeksxarkxnbrisuththiepnaeksechuxythithukichmakthisud enuxngcakmikhakhwamxudmsmburnsung 78 3 N2 1 Ar inxakas aela khatnthunsmphththta tangcakaeksmiskul aeksechuxyimcaepntxngepnthatuaelasamarthepnaekssarprakxbid aenwonmkhxngkarimekidptikiriyakhunxyukbewelnsxielktrxn hrux xielktrxninwngnxksudbnepluxkxielktrxnephuxprakxbihaeksechuxymikhwamesthiyr xyangirktamaenwonmdngklaw imidepncringesmx thngaeksmiskulaelaaeksechuxysamarthtxbsnxngtxsarprakxbidkhwamcaepnaeksechuxyswnihysamarthsrangidcak ykewnhieliymsungsamarthskdidcakaehlngaeksthrrmchati phankarklndwykhwameyncdhruxkaraeykemmebrnethann sahrbkarichnganechphaathang aeksechuxybrisuththtxngthukphlitcakekhruxngkaenidiffainistnganhruxekhruxngkaenidiffaaebbphiesssahrbkarichinhxngptibtikarethann odyaeksechuxythukichinkarekhluxnthikhxngyanphahnaxyangeruxbrrthuksarekhmiaelaphunthicdekbphlitphnthekhmitang karprayuktichaeksechuxyenuxngcakkhunsmbtikarimthaptikiriyakhxngaeksechuxy cungmikarichaeksechuxyephuxpxngknkarekidptikiriyaekhmi echn xaharbangpraephthmikarbrrcuiwrwmkbaeksechuxyephuxpxngknkarecriyetibotkhxngechuxaebkhthieriycakaeksxxksiecn nxkcakni aeksechuxyyngpxngknkarekidptikiriyaxxksiedchninxakas odysamarthsngektidcakkarehmnhunsungekidcakkarxxksiedchnkhxngnamnthibriophkh inkarbrrcuxahar mikarichaeksechuxyepnsarknbudthangxxm sungtrngkhamkbsarcaphwk hrux sartanxnumulxisra thiepnsarknbudodytrng exksarthangprawtisastrcamikarcdekbiwphrxmkbaeksechuxyephuxpxngknkaresuxmsphaph echn exksartnchbbkhxng rththrrmnuyshrth mikarcdekbphrxmkbxarkxnthimikhwamchun kxnhnani mikarichaekshieliym aetenuxngcakkhwamehmaathita emuxphicarnathungkaraephrkracayxxkcakklxngethiybkbaeksxarkxn aekshieliymcungthukepliynxxk aeksechuxyepnthiniyminxutsahkrrmekhmi inorngnganphlitsarekhmi ptikiriyacaekidkhunphayitsphawathimiaeksechuxy ephuxldxntraycakifihmhruxkarekidptikiriyathiimphungprasngkh inorngnganklnnamnthxsngaelaxupkrnbrrcusarcamikarxxkdwyaeksechuxyephuxpxngknifihmaelakarraebid inhnwythielklngma nkekhmixacmikarichaeksechuxy emuxthangankbdwysungphthnakhunmaodyichaekshieliym nixxn xarkxn khripthxn sinxn aelaerdxn rabbaeksechuxybnerux miaeksechuxysungphlitbneruxbrrthuknamndibmakkwa 8 000 tn tngaetwnthi 1 mkrakhm kh s 2016 cakkarephaphlaynamnkadin aeksechuxythiekidkhuninrabbchwypxngknimihbrrykasinhruxxyuchwngthisamarthraebidid aeksechuxychwyihradbxxksiecnkhxngbrryakasinthngbrrcutakwa 5 inkrnithiichkhnsngnamn aela xactakwann inkrnithiichbrrcuaeksxun thaihmiswnkhxngaeksihodrkharbxninprimanthimakekinkwacaekidkarlukihm mixtraswnkhxngechuxephlingmakkwaxxksiecnekinip aeksechuxyyngmikhwamsakhyxyangmakinkrabwnkarkhaypracu aelarahwangkrabwnkarekhluxnthikhxngbllast emuxmiixkhxngihodrkharbxnxyumakinbrryakasphayinthngbrrcu nxkcakni aeksechuxymiswnchwyinkarilaeksinbrryakaskhxngthngbrrcu thnginswnthietriympldplxyaeksephuxepliynepnxakasthisamarthhayicid aelainthangklbknxikdwy rabbaeksixesiyichaerngdncakixkhxngekhruxngtm xtraswnrahwangechuxephlingkbxakasinekhruxngtmcungtxngxyuinchwngthikaenidephuxyunynkarekidkhunkhxngaeksechuxykhunphaphsung hakmixakasmakekinip casngphlihmiprimanaeksxxksiecnmakkwa 5 aela minamnechuxephlinginprimanthimakekinipsungthaihekidaeksihodrkharbxnsungepnxntrayinprimanthimakekinip phayinhx camikarthakhwamsaxadaelarabaykhwamrxnkhxngaeksixesiy odyxupkrnkhwamplxdphycachwypxngknimihekidsphawaaerngdnekin imihekidkarekhluxntwklbhxngekhruxngyntkhxngaeksihodrkharbxn hrux imihmikarichaeksechuxysungmiswnkhxngxxksiecnsungekinip eruxbrrthukaeksaelaphahnakhnsngphlitphnthimsamarthichrabbaeksixesiyid enuxngcakkarichrabbdngklaw caepntxngmiaeksechuxy aela O2 sungmipriman 1 hruxnxykwann cungmikarichrabbekhruxngphlitaeksechuxyaethn ekhruxngphlitaeksechuxyaebngxxkepnhxngephaihm hnwyfxkxakassungmiphdlmtidtng aela hnxythakhwameynsungthahnathildxunhphumikhxngaeks nxkcakni yngmiekhruxngthaihaehngthitxxnukrmkbrabb sungchwykhcdkhwamchuninaeksephuxetriymaekskxnthuksngtx thngbrrcuimidthukrbkwninkrabwnkar miephiyngphunthirxbethann rabbaeksechuxybnekhruxngbin ekhruxngbinphanichyaelaekhruxngbinthharsrangaeksechuxyephuxhyudyngptikiriyaekhmithixacekidinthngbrrcuechuxephling inwnthixakasrxn ixnamnechuxephlinginthngbrrcuechuxephlingxackxtwepnsarswnthitidifihmhruxraebidid sunghakthukxxksiids casrangphlkrathbthirayaerngtamma odythwip swnthiaeykxakascathahnathisrangaeksechuxy odyswnthiaeykxakasprakxbipdwyeyuxsumphanthiphankarkhdeluxkaelw ineyuxetmipdwyxakasxdthiskdcakkhntxnkarbibxdkhxngekhruxngyntknghnaeks karsumphankhxngxxksiecnphanenuxeyuxthiephimkhun emuxepriybethiybkbinotrecn sngphlihkhwamdnchwyaeykxxksiecnxxkcakxakas sahrbkarhyudptikiriyaekhmithixacekidinthngbrrcuechuxephling karkacdxxksiecnthnghmdimicheruxngcaepn aekhtxngrksaradbkhxngxxksiecnihtakwachwngthisamarthkxihekidkarephaihmhruxkarraebid dngnn cungkhwbkhumkhwamekhmkhnkhxngxxksiecnihmikhwamekhmkhn 10 thung 12 tlxdkaredinthang karechuxm inkarechuxmxarkkhxngaeksthngsetn aeksechuxycaekhluxbphiwthngsetnephuxpxngknkarpnepuxn aela ekhluxbolhaehlw thixarksrangkhun ephuxpxngknaeksthiekidptikiriyainxakascakkarsrangchxngphruninswnechuxmthiaekhngtw nxkcakni mikarichaeksechuxyin emuxechuxm aeksbangchnidimidrbkarphicarnawaepnaeksechuxy aetmiphvtikrrmehmuxnaeksechuxy cungthuknamaichpraoychnaethnaeksechuxy aeksechuxyethiymthiehmaasmsungrakhaimaephngaelaphbidthwipepnpraoychnxyangmakinhlaykrni echn mikarichkharbxnidxxkisdepnswnhnunginkarechuxmxarkolhadwyaeks enuxngcakepnaeksthiimekidptikiriyakbphunthiodyrxbthiechuxmxark aetmiptikiriyakbswnxark yingetimaekskharbxnidxxkisdekhaipinswnaeksechuxy echn xarkxn mak cayingephimkaraethrksum odyprimankhxngaekskharbxnidxxkisdthiichcakhunxyukbpraephthkhxngkarthayoxnthiichinkarechuxmxarkolhadwyaeks tamthwip seprykarthayoxnxarkepnthiniymxyangmak odymkprakxbdwyxarkxn 90 aela kharbxnidxxkisd 10 kardana inkardana aeksechuxyepnswnprakxbkhxngswnsahrbkarhayic odyimmivththiinkarephaphlay aetsamarththahnathiecuxcangswnphsmkhxngkasodyrxbid aeksechuxyxacmiphlkrathbtxnkpradana aetechuxknwasngphlkrathbthangkayphaphethann echn srangkhwamesiyhayaekenuxeyuxdwyfxngxakasinsphawaorkhldkhwamkd aeksthiniymichepnswnphsminkardanaechingphanichythisudkhuxaekshieliymduephim en en en sahrbekhruxngbin en en epnkhntxnkarlangrabbpiddwyaeksechuxy sungchwypxngknxkhkhiphyaelakarraebidodyhlikeliyngsphaphbrryakasthitidifid en epnkhntxnkarisaeksechuxyinbrryakas sungchwypxngknxkhkhiphyaelakarraebidodykarthaihsphaphbrryakasthitidifidplxdphykhunxangxingIUPAC Compendium of Chemical Terminology 2nd ed the Gold Book 1997 Online corrected version 2006 inert gas Singh Jasvinder The Sterling Dictionary of Physics New Delhi India Sterling 2007 122 Maier Clive amp Teresa Calafut Polypropylene The Definitive User s Guide and Databook Norwich New York Plastics Design Library 1998 105 Charters of Freedom Re encasement Project National Archives subkhnemux 2012 02 11 International Maritime Organization Tanker yes Familiarization London Ashford Overload Services 2000 185 Davis J R ed Corrosion Understanding the Basics Materials Park Ohio ASM International 2000 188