อะเลคเซย์ นีโคลาเยวิช (รัสเซีย: Алексе́й Никола́евич) (12 สิงหาคม [ตามปฎิทินเก่า: 30 กรกฎาคม] ค.ศ. 1904 – 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1918) เป็นซาเรวิชองค์สุดท้าย (รัชทายาทสืบราชบัลลังก์ของจักรวรรดิรัสเซีย) เป็นพระราชโอรสองค์สุดท้องและโอรสองค์เดียวของจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 และจักรพรรดินีอะเลคซันดรา เฟโอโดรอฟนา พระองค์ประสูติมาพร้อมกับโรคฮีโมฟิเลีย ซึ่งพระบิดาและพระมารดาของพระองค์พยายามรักษาด้วยวิธีการรักษาตามความเชื่อของชาวนาชื่อ กริกอรี รัสปูติน
อะเลคเซย์ นีโคลาเยวิช | |||||
---|---|---|---|---|---|
ซาเรวิชอะเลคเซย์ ในปี 1913 | |||||
ประสูติ | 12 สิงหาคม ค.ศ. 1904 [: 30 กรกฎาคม] พระราชวังเปเตียร์กอฟ, , รัสเซีย | ||||
สิ้นพระชนม์ | 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1918 , เยคาเตรินบุร์ก, สาธารณรัฐโซเวียตรัสเซีย | (13 ปี)||||
| |||||
ราชวงศ์ | (ฮ็อลชไตน์-ก็อทตาร์ฟ-โรมานอฟ) | ||||
พระบิดา | จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย | ||||
พระมารดา | อาลิกซ์แห่งเฮ็สเซินและโดยไรน์ | ||||
ศาสนา | รัสเซียออร์ทอดอกซ์ | ||||
ลายพระอภิไธย |
ชีวิตในวัยเยาว์
เมื่อเจริญพระชันษาแล้ว ซาเรวิชอะเลคเซย์ไม่ทรงได้รับอนุญาตให้เล่นสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดพระโลหิต เช่นขี่จักรยาน หรือเล่นเทนนิส เนื่องจากซาเรวิชนั้นได้ประชวรด้วยโรคฮีโมฟิเลีย พระองค์ได้ทูลขอพระมารดาหลายครั้ง แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนเดิมทุกทีว่า "ลูกก็รู้ว่าลูกทำไม่ได้" และทุกครั้งที่ได้ยินซาเรวิชน้อยก็ทรงพระกันแสงและพูดว่า "ทำไมฉันไม่เหมือนทุกคน ทำไมเด็กผู้ชายคนอื่นมีทุกอย่าง แต่ฉันไม่" แต่ในทางกลับกัน ซาเรวิชอะเลคเซย์ก็ถูกตามใจมากอยู่เหมือนกัน มีครั้งหนึ่งที่ได้มีขุนนางเสด็จมาเข้าเฝ้าองค์ซาเรวิช พระองค์จะทรงต่อยพวกเขา หรือไม่ก็แกล้งเล่นแรงๆ เกือบทุกครั้ง
และเมื่อครอบครัวของพระองค์ได้จัดเลี้ยงพระกระยาหารนั้น ซาเรวิชอะเลกเซย์ได้ซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ ถอดรองเท้าของนางสนองพระโอษฐ์และนำไปให้จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ผู้เป็นพระราชบิดา พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ซาเรวิชนำรองเท้าข้างนั้นกลับไปไว้ที่เดิม แต่ซาเรวิชอะเลคเซย์นั้นกลับใส่สตรอว์เบอรี่ลงไปในรองเท้าของนางกำนัลผู้นั้นแทน เจ้าชายคอนสตันตินผู้เป็นพระญาติของซาร์นิโคลัสได้เขียนไว้ในไดอารี่ว่า "เมื่อไม่นานมานี้ พระชายาของฉันได้ไปทานมื้อกลางวันกลับครอบครัวของพระเจ้าซาร์ และลำบากใจกับพฤติกรรมของซาเรวิชองค์น้อยเป็นอย่างมาก พระองค์ลุกนั่งตลอดเวลา ทานอาหารมูมมาม และหยอกล้อทุกคนไปทั่ว" ปิแอร์ กิลลาร์ด พระอาจารย์ของซาเรวิชอะเลคเซย์พูดกับพระราชบิดาของซาเรวิชและโน้มน้าวให้พระเจ้าซาร์นั้นกำหนดระเบียบให้ซาเรวิช เพื่อที่จะเป็นการดีสำหรับการเป็นพระเจ้าซาร์ของซาเรวิชในอนาคต
พระอาการประชวร
ซาเรวิชอะเลคเซย์ นีโคลาเยยวิช ทรงมีโรคประจำพระองค์คือ โรคราชวงศ์ (royal Disease) หรือฮีโมฟิเลีย โดยผู้เป็นพระมารดาคือจักรพรรดินีอะเลคซันดรา เฟโอโดรอฟนานั้นได้ทรงเป็นพาหะโรคฮีโมฟิเลีย เนื่องด้วยสืบเชื้อสายมาจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียนั่นเอง
พระอาการประชวรของซาเรวิชอะเลคเซย์ นีโคลาเยวิชนั้น ทำให้จักรพรรดินิโคลัสที่ 2และจักรพรรดินีอะเลคซันดรา เฟโอโดรอฟนานั้นเป็นกังวลพระทัยมาก เพราะซาเรวิชอะเลคเซย์เป็นพระโอรสองค์สุดท้องเพียงองค์เดียวและยังเป็นซาเรวิชแห่งรัสเซียด้วย ทั้งสองพระองค์จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะรักษาพระอาการประชวรของพระโอรส เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้กริกอรี รัสปูตินได้เข้ามารักษาพระอาการประชวรของซาเรวิชอะเลคเซย์จนหายดีแต่ทว่าไม่ได้มีการเปิดเผยใดๆว่ารัสปูตินได้รักษาแก่ซาเรวิชอะเลคเซย์ได้อย่างไร แต่นั้นก็ทำให้รัสปูตินได้กลายเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าซาร์และพระราชินีและได้มอบไว้วางพระทัยให้ในฐานะที่ปรึกษาของจักรพรรดิได้ดูแลการเมืองและราชวงศ์รัสเซีย ด้วยความักใหญ่ใฝ่สูงของรัสปูตินทำให้รัสเซียต้องเผชิญกับความเสื่อมโทรมจนนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิรัสเซียในที่สุด
สิ้นพระชนม์
คืนวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1918 ซาเรวิชอะเลกเซย์และครอบครัว ถูกปลงพระชนม์ในห้องใต้ดินของ ซึ่งเป็นสถานที่คุมขัง ในเยคาเตรินบุร์ก (Ekaterinburg) สิริพระชนมายุได้ 14 พรรษา
การฝังพระศพและการยกย่อง
พระศพถูกฝังแบบคริสต์ในปี ค.ศ. 1998 ในวิหารเซนต์เยหาเจรีนาใน ซึ่งเป็นที่ฝังพระบรมศพของอดีตซาร์ทุกพระองค์ของรัสเซีย และในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2000 ศาสนจักรออร์โธด็อกซ์แห่งรัสเซียประกาศให้สมาชิกราชวงศ์โรมานอฟเป็นนักบุญ (passion bearer)
- ซาเรวิชอะเลคเซย์เมื่อทรงพระเยาว์
- จักรพรรดินิโคลัสที่ 2และซาเรวิชอะเลคเซย์ขณะถูกจองจำในปี ค.ศ. 1917
- ภาพสุดท้ายที่เป็นที่รู้จักกันดีของซาเรวิชอะเลคเซย์และแกรนด์ดัชเชสโอลก้าก่อนที่จะถูกสังหารในปี ค.ศ. 1918
อ้างอิง
- . ณัฐวุฒิ สุทธิสงคราม และคณะ (บ.ก.). สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่: ยุโรป ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (pdf). Vol. 1 (อักษร A-B) (3 ed.). กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน. p. 39. ISBN . สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2555.
- Bentkowska, Anna (2003). Radziwiłł family. Oxford Art Online. Oxford University Press.
- "Notes", Local Story, University of Hawaii Press, pp. 117–136, 2017-12-31, ISBN , สืบค้นเมื่อ 2021-07-06
- Rogaev, Evgeny I.; Grigorenko, Anastasia P.; Faskhutdinova, Gulnaz; Kittler, Ellen L. W.; Moliaka, Yuri K. (2009-11-06). "Genotype Analysis Identifies the Cause of the "Royal Disease"". Science (ภาษาอังกฤษ). 326 (5954): 817–817. doi:10.1126/science.1180660. ISSN 0036-8075. PMID 19815722.
- . web.archive.org. 2009-10-12. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-12. สืบค้นเมื่อ 2021-07-06.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "Alexis | Biography, Death, & Facts". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xaelkhesy niokhlaeywich rsesiy Alekse j Nikola evich 12 singhakhm tampdithineka 30 krkdakhm kh s 1904 17 krkdakhm kh s 1918 epnsaerwichxngkhsudthay rchthayathsubrachbllngkkhxngckrwrrdirsesiy epnphrarachoxrsxngkhsudthxngaelaoxrsxngkhediywkhxngckrphrrdiniokhlsthi 2 aelackrphrrdinixaelkhsndra efoxodrxfna phraxngkhprasutimaphrxmkborkhhiomfieliy sungphrabidaaelaphramardakhxngphraxngkhphyayamrksadwywithikarrksatamkhwamechuxkhxngchawnachux krikxri rsputinxaelkhesy niokhlaeywichsaerwichaehngrsesiysaerwichxaelkhesy inpi 1913prasuti12 singhakhm kh s 1904 30 krkdakhm phrarachwngepetiyrkxf rsesiysinphrachnm17 krkdakhm kh s 1918 1918 07 17 13 pi eykhaetrinburk satharnrthosewiytrsesiyphranametmxaelkhesy niokhlaeywich ormanxfrachwngshxlchitn kxthtarf ormanxfphrabidackrphrrdiniokhlsthi 2 aehngrsesiyphramardaxaliksaehngehsesinaelaodyirnsasnarsesiyxxrthxdxkslayphraxphiithychiwitinwyeyawemuxecriyphrachnsaaelw saerwichxaelkhesyimthrngidrbxnuyatihelnsingthixaccathaihekidphraolhit echnkhickryan hruxelnethnnis enuxngcaksaerwichnnidprachwrdwyorkhhiomfieliy phraxngkhidthulkhxphramardahlaykhrng aetkidrbkhatxbklbmaehmuxnedimthukthiwa lukkruwalukthaimid aelathukkhrngthiidyinsaerwichnxykthrngphraknaesngaelaphudwa thaimchnimehmuxnthukkhn thaimedkphuchaykhnxunmithukxyang aetchnim aetinthangklbkn saerwichxaelkhesykthuktamicmakxyuehmuxnkn mikhrnghnungthiidmikhunnangesdcmaekhaefaxngkhsaerwich phraxngkhcathrngtxyphwkekha hruximkaeklngelnaerng ekuxbthukkhrng aelaemuxkhrxbkhrwkhxngphraxngkhidcdeliyngphrakrayaharnn saerwichxaelkesyidsxntwxyuitota thxdrxngethakhxngnangsnxngphraoxsthaelanaipihckrphrrdiniokhlsthi 2 phuepnphrarachbida phraxngkhthrngmirbsngihsaerwichnarxngethakhangnnklbipiwthiedim aetsaerwichxaelkhesynnklbisstrxwebxrilngipinrxngethakhxngnangkanlphunnaethn ecachaykhxnstntinphuepnphrayatikhxngsarniokhlsidekhiyniwinidxariwa emuximnanmani phrachayakhxngchnidipthanmuxklangwnklbkhrxbkhrwkhxngphraecasar aelalabakickbphvtikrrmkhxngsaerwichxngkhnxyepnxyangmak phraxngkhluknngtlxdewla thanxaharmummam aelahyxklxthukkhnipthw piaexr killard phraxacarykhxngsaerwichxaelkhesyphudkbphrarachbidakhxngsaerwichaelaonmnawihphraecasarnnkahndraebiybihsaerwich ephuxthicaepnkardisahrbkarepnphraecasarkhxngsaerwichinxnakhtphraxakarprachwrsaerwichxaelkhesy niokhlaeyywich thrngmiorkhpracaphraxngkhkhux orkhrachwngs royal Disease hruxhiomfieliy odyphuepnphramardakhuxckrphrrdinixaelkhsndra efoxodrxfnannidthrngepnphahaorkhhiomfieliy enuxngdwysubechuxsaymacaksmedcphrarachininathwiktxeriynnexng phraxakarprachwrkhxngsaerwichxaelkhesy niokhlaeywichnn thaihckrphrrdiniokhlsthi 2aelackrphrrdinixaelkhsndra efoxodrxfnannepnkngwlphrathymak ephraasaerwichxaelkhesyepnphraoxrsxngkhsudthxngephiyngxngkhediywaelayngepnsaerwichaehngrsesiydwy thngsxngphraxngkhcungphyayamthukwithithangephuxthicarksaphraxakarprachwrkhxngphraoxrs ephraaehtuniexngcungthaihkrikxri rsputinidekhamarksaphraxakarprachwrkhxngsaerwichxaelkhesycnhaydiaetthwaimidmikarepidephyidwarsputinidrksaaeksaerwichxaelkhesyidxyangir aetnnkthaihrsputinidklayepnthioprdprankhxngphraecasaraelaphrarachiniaelaidmxbiwwangphrathyihinthanathipruksakhxngckrphrrdiidduaelkaremuxngaelarachwngsrsesiy dwykhwamkihyifsungkhxngrsputinthaihrsesiytxngephchiykbkhwamesuxmothrmcnnaipsukarlmslaykhxngckrwrrdirsesiyinthisudsinphrachnmkhunwnthi 17 krkdakhm kh s 1918 saerwichxaelkesyaelakhrxbkhrw thukplngphrachnminhxngitdinkhxng sungepnsthanthikhumkhng ineykhaetrinburk Ekaterinburg siriphrachnmayuid 14 phrrsakarfngphrasphaelakarykyxngphrasphthukfngaebbkhristinpi kh s 1998 inwiharesnteyhaecrinain sungepnthifngphrabrmsphkhxngxditsarthukphraxngkhkhxngrsesiy aelainwnthi 15 singhakhm kh s 2000 sasnckrxxrothdxksaehngrsesiyprakasihsmachikrachwngsormanxfepnnkbuy passion bearer saerwichxaelkhesyemuxthrngphraeyaw ckrphrrdiniokhlsthi 2aelasaerwichxaelkhesykhnathukcxngcainpi kh s 1917 phaphsudthaythiepnthiruckkndikhxngsaerwichxaelkhesyaelaaekrnddchechsoxlkakxnthicathuksngharinpi kh s 1918xangxing nthwuthi suththisngkhram aelakhna b k saranukrmprawtisastrsaklsmyihm yuorp chbbrachbnthitysthan pdf Vol 1 xksr A B 3 ed krungethph rachbnthitysthan p 39 ISBN 974 9588 25 8 subkhnemux 2 krkdakhm 2555 Bentkowska Anna 2003 Radziwill family Oxford Art Online Oxford University Press Notes Local Story University of Hawaii Press pp 117 136 2017 12 31 ISBN 978 0 8248 4021 1 subkhnemux 2021 07 06 Rogaev Evgeny I Grigorenko Anastasia P Faskhutdinova Gulnaz Kittler Ellen L W Moliaka Yuri K 2009 11 06 Genotype Analysis Identifies the Cause of the Royal Disease Science phasaxngkvs 326 5954 817 817 doi 10 1126 science 1180660 ISSN 0036 8075 PMID 19815722 web archive org 2009 10 12 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 10 12 subkhnemux 2021 07 06 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Alexis Biography Death amp Facts Encyclopedia Britannica phasaxngkvs bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk