ในว นท 20 ก มภาพ นธ พ ศ 2562 เก ดเหต เพล งไหม ในธากา ประเทศบ งกลาเทศ เหต เพล งไหม เร มข นจากอ บ ต เหต ทางถนนระหว างรถกระ

ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เกิดเหตุเพลิงไหม้ในธากา ประเทศบังกลาเทศ เหตุเพลิงไหม้เริ่มขึ้นจากอุบัติเหตุทางถนนระหว่างรถกระบะกับรถยนต์ส่วนตัว หลังจากการปะทะ ถังแก๊สของรถยนต์ส่วนตัวระเบิด ไฟจึงลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงที่ใช้เก็บสารเคมีและยิ่งลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังอาคารข้างเคียงในย่านประวัติศาสตร์ของใน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 คน และบาดเจ็บอีก 50 คน

เหตุเพลิงไหม้ที่ธากา พ.ศ. 2562
วันที่	20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
เวลา	22:38 ()
ที่ตั้ง	, นครเก่าธากา, ประเทศบังกลาเทศ
พิกัด	23°42′59″N 90°23′39″E / 23.7165°N 90.3941°E / 23.7165; 90.3941
สาเหตุ	ถังแก๊สระเบิด
เสียชีวิต	80+
บาดเจ็บไม่ถึงตาย	50+

สาเหตุ

มีการรายงานว่าเพลิงไหม้เกิดขึ้นจากการระเบิดของถังแก๊สธรรมชาติอัดในยานพาหนะ ซึ่งทำให้เพลิงไหม้นั้นลุกลามไปยังถังแก๊สข้างเคียงและอาคาร เพลิงไหม้ถูกรายงานครั้งแรกเมื่อเวลา 22:38 น. และถูกรายงานว่าสามารถควบคุมเพลิงได้แล้วเมื่อเวลาประมาณ 03:00 น.

อาคารแรกที่ถูกเพลิงไหม้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและโกดังเก็บสินค้า โดยชั้นแรกเป็นโกดังเก็บสินค้าจากพลาสติก เครื่องสำอาง และน้ำหอม ส่วนชั้นสองขึ้นไปเป็นที่อยู่อาศัย แล้วไฟก็ลุกลามไปยังอาคารสี่ชั้นที่อยู่ด้านหลังมัสยิดชาฮี ผู้คนในบริเวณนั้นบอกว่าอาคารนี้เป็นของประธานบริษัทวาฮิดคนหนึ่ง จากอาคารนั้น ไฟก็ลุกลามไปยังร้านอาหารรัจโมนีและอาคารอื่น ๆ อีกสามแห่งในซอยแคบ ๆ

หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดหลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งทำลายรถหลายคันที่จอดอยู่ในซอยนั้น ซอยนั้นมีคนเป็นจำนวนมากเนื่องจากกำลังมีงานฉลองมงคลสมรสที่อยู่ในศูนย์ชุมชนข้างเคียง

ความเสียหาย

ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จำนวนผู้เสียชีวิตถูกประมาณไว้ว่าอย่างน้อย 80 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 50 คนและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยแผลไหม้อย่างหนักและความเสียหายต่อปอด

ปฎิกิริยา

อับดุล ฮามิด ประธานาธิบดีบังกลาเทศ และ นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ร่วมกับ หัวหน้าพรรคชาติยะ และคนอื่น ๆ แสดงความเสียใจต่อเหยื่อจากเหตุเพลิงไหม้

หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ หัวหน้าของ กล่าวว่าโกดังเก็บสารเคมีจะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในเมืองอีกต่อไป

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของบังกลาเทศออกมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

ทูตสหรัฐในธากาออกมาแสดงความเสียใจต่อเหยื่อจากเหตุเพลิงไหม้ผ่านทวิตเตอร์

ความช่วยเหลือทางการเงิน

กระทรวงแรงงานของบังกลาเทศเสนอเงินจำนวน 100,000 ตากาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต และ 50,000 ตากาให้กับผู้บาดเจ็บ

อ้างอิง

"Deadly fire sweeps Dhaka historic district" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2019-02-21. สืบค้นเมื่อ 2019-02-21.
Safi, Michael (21 February 2019). "Dhaka fire that killed 80 raises questions over chemical stores". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 24 February 2019.
"Scores Dead in Bangladesh Fire: 'This Isn't About Poverty, It's About Greed'". The New York Times. 21 February 2019. สืบค้นเมื่อ 23 February 2019.
. Bangla Tribune. 21 February 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-20. สืบค้นเมื่อ 23 February 2019.
"At least 81 dead as blaze rips through buildings in Bangladeshi capital". China Daily. 21 February 2019. สืบค้นเมื่อ 23 February 2019.
. Bangla Tribune (ภาษาเบงกอล). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-22. สืบค้นเมื่อ 2019-02-21.
"Chawakbazar fire evokes wounds of 2010 Nimtali tragedy". . 21 February 2019. สืบค้นเมื่อ 21 February 2019.
"Old Dhaka fire death toll jumps to 70". bdnews24.com. 21 February 2019. สืบค้นเมื่อ 21 February 2019.
CNN. "67 dead in Dhaka fire that ripped through apartment blocks". CNN. สืบค้นเมื่อ 22 February 2019.
"চকবাজার অগ্নিকাণ্ড: নির্ঘুম রাত কাটালেন প্রধানমন্ত্রী". Jugantor. สืบค้นเมื่อ 2019-02-22.
"There will be no chemical warehouse in Dhaka: DSCC mayor". The Daily Star (ภาษาอังกฤษ). 2019-02-21. สืบค้นเมื่อ 2019-02-22.
"Pakistan condoles loss of lives in Dhaka fire incident". ARYNEWS. 22 February 2019.
Mati (22 February 2019). "Pakistan grieves over loss of lives in Dhaka fire". Dispatch News Desk.
Dhaka, U. S. Embassy (2019-02-21). "The United States Embassy Dhaka community offers our heartfelt condolences to all those affected by the fire in Chawkbazar in Dhaka last night. Our prayers are with the families of those injured and lost and to all who mourn across the great nation of Bangladesh". @usembassydhaka (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-02-21.
"চকবাজারে আগুনের পর কর্তৃপক্ষ যা বললেন..." প্রথম আলো (ภาษาเบงกอล). สืบค้นเมื่อ 2019-02-22.

[:0-1] "Deadly fire sweeps Dhaka historic district" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2019-02-21. สืบค้นเมื่อ 2019-02-21.

[guardian-2] Safi, Michael (21 February 2019). "Dhaka fire that killed 80 raises questions over chemical stores". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 24 February 2019.

[nyt-3] "Scores Dead in Bangladesh Fire: 'This Isn't About Poverty, It's About Greed'". The New York Times. 21 February 2019. สืบค้นเมื่อ 23 February 2019.

[4] . Bangla Tribune. 21 February 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-20. สืบค้นเมื่อ 23 February 2019.

[5] "At least 81 dead as blaze rips through buildings in Bangladeshi capital". China Daily. 21 February 2019. สืบค้นเมื่อ 23 February 2019.

[:1-6] . Bangla Tribune (ภาษาเบงกอล). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-22. สืบค้นเมื่อ 2019-02-21.

[Fire2-7] "Chawakbazar fire evokes wounds of 2010 Nimtali tragedy". . 21 February 2019. สืบค้นเมื่อ 21 February 2019.

[End-8] "Old Dhaka fire death toll jumps to 70". bdnews24.com. 21 February 2019. สืบค้นเมื่อ 21 February 2019.

[9] CNN. "67 dead in Dhaka fire that ripped through apartment blocks". CNN. สืบค้นเมื่อ 22 February 2019.

[10] "চকবাজার অগ্নিকাণ্ড: নির্ঘুম রাত কাটালেন প্রধানমন্ত্রী". Jugantor. สืบค้นเมื่อ 2019-02-22.

[11] "There will be no chemical warehouse in Dhaka: DSCC mayor". The Daily Star (ภาษาอังกฤษ). 2019-02-21. สืบค้นเมื่อ 2019-02-22.

[12] "Pakistan condoles loss of lives in Dhaka fire incident". ARYNEWS. 22 February 2019.

[13] Mati (22 February 2019). "Pakistan grieves over loss of lives in Dhaka fire". Dispatch News Desk.

[14] Dhaka, U. S. Embassy (2019-02-21). "The United States Embassy Dhaka community offers our heartfelt condolences to all those affected by the fire in Chawkbazar in Dhaka last night. Our prayers are with the families of those injured and lost and to all who mourn across the great nation of Bangladesh". @usembassydhaka (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-02-21.

[15] "চকবাজারে আগুনের পর কর্তৃপক্ষ যা বললেন..." প্রথম আলো (ภาษาเบงกอล). สืบค้นเมื่อ 2019-02-22.