เสื้อเกราะกันกระสุน (อังกฤษ: ballistic vest หรือ bullet-resistant vest มักจะเรียกว่า bulletproof vest) เป็นที่ช่วยดูดกลืนแรงกระแทกและลดหรือหยุดการเจาะเข้าไปในร่างกายจากลูกกระสุนอาวุธปืนและจากการระเบิด โดยสวมบนลำตัว เสื้อเกราะแบบอ่อนทำจากเส้นใยถักหรือลามิเนตหลายชั้นและสามารถป้องกันผู้สวมใส่จากปืนพกและปืนไรเฟิลลำกล้องปืนขนาดเล็ก และชิ้นส่วนเล็ก ๆ จากวัตถุระเบิด เช่น ระเบิดมือ
เสื้อเหล่านี้มักจะมีแผ่นป้องกันอันตรายจากกระสุนใส่เข้าไปในเสื้อ แผ่นโลหะหรือเซรามิกสามารถใช้กับเสื้อเกราะแบบอ่อนได้ ซึ่งเป็นการป้องกันเพิ่มเติมจากปืนไรเฟิลโดยรอบ และส่วนประกอบโลหะหรือชั้นเส้นใยที่ทออย่างแน่นหนาสามารถให้ความต้านทานเกราะแบบนิ่มต่อการแทงและเฉือนจากมีด รวมถึงอาวุธระยะใกล้ที่คล้ายคลึงกัน เสื้อเกราะแบบนิ่มมักจะสวมใส่โดยกองกำลังตำรวจ, พลเมืองส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการถูกยิง (เช่น ผู้นำประเทศ), เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และองครักษ์ ในขณะที่เสื้อเกราะเสริมแผ่นแข็งส่วนใหญ่จะถูกสวมใส่โดยทหาร, หน่วยยุทธวิธีตำรวจ,
ชุดเกราะอาจรวมเสื้อเกราะกันกระสุนกับสิ่งของป้องกันอื่น ๆ เช่น เสื้อเกราะสำหรับตำรวจและทหารอาจประกอบด้วยไหล่กันกระสุนและส่วนประกอบเกราะป้องกันด้านข้าง รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำลายล้างวัตถุระเบิดสวมชุดเกราะหนักและหมวกนิรภัยที่มีกระบังหน้าตลอดจนการป้องกันกระดูกสันหลัง
เสื้อเกราะกันกระสุนใช้ชั้นของเส้นใยที่แข็งแรงมากในการ "ต้าน" และทำให้กระสุนผิดรูปร่าง, แบนเป็นทรงดอกเห็ด และกระจายแรงไปยังส่วนที่ใหญ่กว่าของใยเสื้อเกราะ เสื้อเกราะดูดซับพลังงานจากกระสุนเปลี่ยนรูป มันถูกหยุดยั้งก่อนที่มันจะสามารถเจาะสิ่งทอได้อย่างสมบูรณ์ บางชั้นอาจถูกเจาะแต่เป็นกระสุนที่เสียโฉม ซึ่งพลังงานถูกดูดซับโดยพื้นที่เส้นใยที่ใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น
ในขณะที่เสื้อเกราะสามารถป้องกันกระสุนเจาะเกราะ เสื้อเกราะและผู้สวมใส่ยังได้รับการดูดซับแรงกระตุ้นของกระสุน แม้ไม่มีการเจาะ กระสุนหนักมีกำลังเพียงพอที่จะทำให้เกิดภายใต้จุดกระแทก โดยทั่วไปข้อมูลจำเพาะเสื้อเกราะจะรวมทั้งข้อกำหนดความต้านทานการเจาะและขีดจำกัดของปริมาณแรงกระแทกที่ส่งไปยังร่างกาย
ในด้านอื่น ๆ กระสุนบางนัดสามารถทะลุเสื้อเกราะได้ แต่ก็ยังสร้างความเสียหายได้น้อยต่อผู้สวมใส่เนื่องจากการสูญเสียความเร็วหรือมวล/รูปทรงขนาดเล็ก
เสื้อเกราะที่ออกแบบมาสำหรับกระสุนให้การป้องกันน้อยลงจากการโจมตีโดยอุปกรณ์ที่มีคม เช่น มีด, ลูกศร หรือ หรือจากกระสุนที่ผลิตด้วยวัสดุแข็ง ตัวอย่างเช่น กระสุนที่มีแกนเหล็กแทนที่จะเป็นตะกั่ว เนื่องจากแรงกระแทกของวัตถุเหล่านี้ยังคงรวมกำลังในพื้นที่ที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้สิ่งเหล่านั้นมีความเป็นไปได้ที่ดีกว่าในการเจาะชั้นเส้นใยของผ้ากันกระสุนส่วนใหญ่ที่ใช้ในเกราะอ่อน[] ตรงกันข้าม ให้การป้องกันที่ดีกว่ากับอุปกรณ์ที่มีคม แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพต่อกระสุน อย่างไรก็ตาม เกราะอ่อนจะยังคงป้องกันการโจมตีที่เจ็บแสบมากที่สุด
สิ่งทอเสื้อเกราะอาจเสริมด้วยโลหะ (เหล็กกล้าหรือไทเทเนียม), (เซรามิก) หรือแผ่น(พอลิเอทิลีน)ที่ให้การป้องกันเป็นพิเศษในพื้นที่สำคัญ แผ่นเกราะแข็งเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพกับกระสุนปืนพกและปืนไรเฟิลหลากหลายประเภท เสื้อเกราะกันกระสุนที่อัพเกรดเหล่านี้กลายเป็นมาตรฐานในการใช้งานทางทหาร ในขณะที่เสื้อเกราะอ่อนไม่ได้ผลกับปืนไรเฟิลทหาร ส่วนผู้คุมในเรือนจำและตำรวจมักจะใส่เสื้อเกราะที่ออกแบบมาเพื่อต่อต้านอาวุธมีดและของมีคม เสื้อเกราะเหล่านี้อาจรวมถึงสิ่งที่ปกคลุมผิวหน้า และสิ่งทอพาราที่เป็นแผ่น หรือส่วนประกอบโลหะ
ประวัติ
ก่อนยุคสมัยใหม่
ใน ค.ศ. 1538 มอบหมายให้ สร้างเสื้อเกราะกันกระสุน ส่วนใน ค.ศ. 1561 จักรพรรดิมัคซีมีลีอานที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้รับการบันทึกในฐานะการทดสอบเกราะของเขาจากการยิงปืน ในทำนองเดียวกัน ใน ค.ศ. 1590 คาดว่าเสื้อเกราะของเขาจะเป็น "การป้องกันปืนพก" ซึ่งประสิทธิภาพที่แท้จริงของมันเป็นที่ถกเถียงในเวลานั้น สำหรับศัพทมูลวิทยาของ "กระสุน" และรูปแบบคำคุณศัพท์ของ "กันทะลุ" ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 จะมุ่งเสนอคำว่า "กันกระสุน" หลังจากนั้นไม่นาน
ในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษ ของโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ได้จัดให้มีหมวกนิรภัย และกันปืนคาบศิลาซึ่งประกอบด้วยแผ่นเกราะสองชั้น (ในการศึกษาต่อมาที่เกี่ยวข้องกับรังสีเอกซ์ชั้นที่สามถูกค้นพบ ซึ่งอยู่ระหว่างชั้นนอกและชั้นใน) ชั้นนอกถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับพลังงานของกระสุน และชั้นในที่หนาขึ้นจะหยุดการเจาะต่อไป เกราะจะเว้าแหว่งฉกรรจ์ แต่ก็ยังเป็นประโยชน์ หนึ่งในคำอธิบายที่บันทึกแรกของการใช้ชุดเกราะแบบอ่อนถูกค้นพบในยุคกลางของญี่ปุ่น ด้วยชุดเกราะที่ผลิตจากผ้าไหม
ยุคอุตสาหกรรม
หนึ่งในตัวอย่างแรกของชุดเกราะกันกระสุนที่ขายในเชิงพาณิชย์ผลิตโดยช่างตัดเสื้อในดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ในคริสต์ทศวรรษ 1840 โดยหนังสือพิพม์รายงานเกี่ยวกับสายธุรกิจของเขาในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1847
การปฏิบัติตามกฎหมาย
ประเทศ | ความเป็นเจ้าของโดยไม่มีใบอนุญาต | หมายเหตุ |
---|---|---|
อาร์เจนตินา | ผิดกฎหมาย | |
ออสเตรเลีย | แตกต่างกันไปภายใน | |
บราซิล | ผิดกฎหมาย | |
แคนาดา | แตกต่างกันไปภายใน | |
อิตาลี | ถูกกฎหมาย | |
ญี่ปุ่น | ถูกกฎหมาย | |
เนเธอร์แลนด์ | ถูกกฎหมาย | |
โปแลนด์ | ถูกกฎหมาย | |
สวีเดน | ถูกกฎหมาย | |
ไทย | ผิดกฎหมาย | โทษจำคุกสูงสุดไม่เกินห้าปี |
สหรัฐ | ถูกกฎหมาย |
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-13. สืบค้นเมื่อ 2010-10-07.
{{}}
: CS1 maint: archived copy as title () - Williams, Allan (2003). The Knight and the Blast Furnace: A History of the Metallurgy of Armour in the Middle Ages & the Early Modern Period. Boston: Brill Academic Publishers. ISBN .
- Ricketts, H, Firearms p. 5
- "Selection and Application guide to Personal Body Armor" (PDF). National Criminal Justice Reference Service. สืบค้นเมื่อ 2009-12-30.
- "The Landlord's Protective Garment". . December 6, 1847.
- Sacar la tenencia de chaleco antibalas
- Firearms-Control Legislation and Policy: Brazil
- British journalist arrested in Thailand for carrying body armor
แหล่งข้อมูลอื่น
- Ankylosaurus- The bullet proof dinosaur
- NIJ Ballistic Resistance of Body Armor
- Body Armor News and Knowledge Website
- Body Armor Site
- NIJ body armor standard overview
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
esuxekraaknkrasun xngkvs ballistic vest hrux bullet resistant vest mkcaeriykwa bulletproof vest epnthichwydudklunaerngkraaethkaelaldhruxhyudkarecaaekhaipinrangkaycaklukkrasunxawuthpunaelacakkarraebid odyswmbnlatw esuxekraaaebbxxnthacakesniythkhruxlamienthlaychnaelasamarthpxngknphuswmiscakpunphkaelapunirefillaklxngpunkhnadelk aelachinswnelk cakwtthuraebid echn raebidmux IOTV inrupaebb sungxxkihaekthharkxngthphbkshrth esuxehlanimkcamiaephnpxngknxntraycakkrasunisekhaipinesux aephnolhahruxesramiksamarthichkbesuxekraaaebbxxnid sungepnkarpxngknephimetimcakpunirefilodyrxb aelaswnprakxbolhahruxchnesniythithxxyangaennhnasamarthihkhwamtanthanekraaaebbnimtxkaraethngaelaechuxncakmid rwmthungxawuthrayaiklthikhlaykhlungkn esuxekraaaebbnimmkcaswmisodykxngkalngtarwc phlemuxngswnbukhkhlthimikhwamesiyngtxkarthukying echn phunapraeths ecahnathirksakhwamplxdphy aelaxngkhrks inkhnathiesuxekraaesrimaephnaekhngswnihycathukswmisodythhar hnwyyuththwithitarwc chudekraaxacrwmesuxekraaknkrasunkbsingkhxngpxngknxun echn esuxekraasahrbtarwcaelathharxacprakxbdwyihlknkrasunaelaswnprakxbekraapxngkndankhang rwmthungecahnathithalaylangwtthuraebidswmchudekraahnkaelahmwknirphythimikrabnghnatlxdcnkarpxngknkraduksnhlng esuxekraaknkrasunichchnkhxngesniythiaekhngaerngmakinkar tan aelathaihkrasunphidruprang aebnepnthrngdxkehd aelakracayaerngipyngswnthiihykwakhxngiyesuxekraa esuxekraadudsbphlngngancakkrasunepliynrup mnthukhyudyngkxnthimncasamarthecaasingthxidxyangsmburn bangchnxacthukecaaaetepnkrasunthiesiyochm sungphlngnganthukdudsbodyphunthiesniythiihykhunaelaihykhun inkhnathiesuxekraasamarthpxngknkrasunecaaekraa esuxekraaaelaphuswmisyngidrbkardudsbaerngkratunkhxngkrasun aemimmikarecaa krasunhnkmikalngephiyngphxthicathaihekidphayitcudkraaethk odythwipkhxmulcaephaaesuxekraacarwmthngkhxkahndkhwamtanthankarecaaaelakhidcakdkhxngprimanaerngkraaethkthisngipyngrangkay indanxun krasunbangndsamarththaluesuxekraaid aetkyngsrangkhwamesiyhayidnxytxphuswmisenuxngcakkarsuyesiykhwamerwhruxmwl rupthrngkhnadelk esuxekraathixxkaebbmasahrbkrasunihkarpxngknnxylngcakkarocmtiodyxupkrnthimikhm echn mid luksr hrux hruxcakkrasunthiphlitdwywsduaekhng twxyangechn krasunthimiaeknehlkaethnthicaepntakw enuxngcakaerngkraaethkkhxngwtthuehlaniyngkhngrwmkalnginphunthithikhxnkhangelk thaihsingehlannmikhwamepnipidthidikwainkarecaachnesniykhxngphaknkrasunswnihythiichinekraaxxn txngkarxangxing trngknkham ihkarpxngknthidikwakbxupkrnthimikhm aetodythwipaelwcaimkhxymiprasiththiphaphtxkrasun xyangirktam ekraaxxncayngkhngpxngknkarocmtithiecbaesbmakthisud singthxesuxekraaxacesrimdwyolha ehlkklahruxithetheniym esramik hruxaephnphxliexthilinthiihkarpxngknepnphiessinphunthisakhy aephnekraaaekhngehlaniidrbkarphisucnaelwwamiprasiththiphaphkbkrasunpunphkaelapunirefilhlakhlaypraephth esuxekraaknkrasunthixphekrdehlaniklayepnmatrthaninkarichnganthangthhar inkhnathiesuxekraaxxnimidphlkbpunirefilthhar swnphukhumineruxncaaelatarwcmkcaisesuxekraathixxkaebbmaephuxtxtanxawuthmidaelakhxngmikhm esuxekraaehlanixacrwmthungsingthipkkhlumphiwhna aelasingthxpharathiepnaephn hruxswnprakxbolhaprawtikxnyukhsmyihm in kh s 1538 mxbhmayih srangesuxekraaknkrasun swnin kh s 1561 ckrphrrdimkhsimilixanthi 2 aehngckrwrrdiormnxnskdisiththi idrbkarbnthukinthanakarthdsxbekraakhxngekhacakkaryingpun inthanxngediywkn in kh s 1590 khadwaesuxekraakhxngekhacaepn karpxngknpunphk sungprasiththiphaphthiaethcringkhxngmnepnthithkethiynginewlann sahrbsphthmulwithyakhxng krasun aelarupaebbkhakhunsphthkhxng knthalu inplaykhriststwrrsthi 16 camungesnxkhawa knkrasun hlngcaknnimnan inchwngsngkhramklangemuxngxngkvs khxngoxliewxr khrxmewll idcdihmihmwknirphy aelaknpunkhabsilasungprakxbdwyaephnekraasxngchn inkarsuksatxmathiekiywkhxngkbrngsiexkschnthisamthukkhnphb sungxyurahwangchnnxkaelachnin chnnxkthukxxkaebbmaephuxdudsbphlngngankhxngkrasun aelachninthihnakhuncahyudkarecaatxip ekraacaewaaehwngchkrrc aetkyngepnpraoychn hnunginkhaxthibaythibnthukaerkkhxngkarichchudekraaaebbxxnthukkhnphbinyukhklangkhxngyipun dwychudekraathiphlitcakphaihm yukhxutsahkrrm hnungintwxyangaerkkhxngchudekraaknkrasunthikhayinechingphanichyphlitodychangtdesuxindblin praethsixraelnd inkhristthswrrs 1840 odyhnngsuxphiphmraynganekiywkbsaythurkickhxngekhaineduxnthnwakhm kh s 1847 esuxekraaknkrasunrunkradanithkhxngend ekhllikarptibtitamkdhmaypraeths khwamepnecakhxngodyimmiibxnuyat hmayehtu xarecntina phidkdhmay xxsetreliy aetktangknipphayin brasil phidkdhmay aekhnada aetktangknipphayin xitali thukkdhmay yipun thukkdhmay enethxraelnd thukkdhmay opaelnd thukkdhmay swiedn thukkdhmay ithy phidkdhmay othscakhuksungsudimekinhapi shrth thukkdhmayxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 13 subkhnemux 2010 10 07 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint archived copy as title lingk Williams Allan 2003 The Knight and the Blast Furnace A History of the Metallurgy of Armour in the Middle Ages amp the Early Modern Period Boston Brill Academic Publishers ISBN 978 90 04 12498 1 Ricketts H Firearms p 5 Selection and Application guide to Personal Body Armor PDF National Criminal Justice Reference Service subkhnemux 2009 12 30 The Landlord s Protective Garment December 6 1847 Sacar la tenencia de chaleco antibalas Firearms Control Legislation and Policy Brazil British journalist arrested in Thailand for carrying body armoraehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb esuxekraaknkrasun Ankylosaurus The bullet proof dinosaur NIJ Ballistic Resistance of Body Armor Body Armor News and Knowledge Website Body Armor Site NIJ body armor standard overview