เสาแบบคลาสสิก (อังกฤษ: Classical order) เป็นลักษณะเสาโบราณของ แต่ละแบบแยกจากกันได้โดยรูปทรง ลักษณะสัดส่วน และรายละเอียดของลักษณะของที่ใช้ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา นักทฤษฎีสถาปัตยกรรมแบ่งแยกเสาแบบคลาสสิกออกเป็นห้ากลุ่ม แต่ละกลุ่มก็จะมีลักษณะของเสาที่แตกต่างกันที่ประกอบด้วย (architrave), (frieze) และ
การสร้างเสาแต่ละแบบก็ต่างกันออไปตั้งแต่เสาที่มีลักษณะอ้วนตันและปราศจากการตกแต่ง ไปจนเสาที่เพรียวและเต็มไปด้วยการตกแต่งอย่างงดงาม ที่แบ่งออกเป็น: (โรมัน), เสาแบบดอริก (กรีกและโรมัน), เสาแบบไอออนิก (กรีกและโรมัน), เสาแบบคอรินเทียน (กรีกและโรมัน) และ (โรมัน) ในสมัยโบราณจะมีเพียงสามแบบ คือ ดอริก ไอออนิก และคอรินเทียนที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยชาวกรีก ต่อมาชาวโรมันก็เพิ่มเสาทัสกันซึ่งเป็นแบบที่เรียบง่ายกว่าดอริก และแบบคอมโพซิตซึ่งมีการตกแต่งมากกว่าคอรินเทียน
คอลัมน์แบ่งออกเป็นสามส่วน: ลำตัวเสา (shaft) ฐานล่าง และ หัวเสา สิ่งก่อสร้างคลาสสิกจะมีองค์ประกอบตามแนวนอนที่รองรับด้วยเสาที่เป็นคานที่เรียกว่า เอนทาเบลเชอร์ (entablature) ซึ่งแบ่งออกเป็นสามส่วน: หน้ากระดานทับหลัง (architrave), แถบลายตกแต่ง (frieze) และบัวคอร์นิซ ความแตกต่างของเสาแบบคลาสสิกทราบได้จากลักษณะของหัวเสาที่ใช้ที่จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป
เสาทั้งต้นและคานประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ตั้งแต่ฐานใต้เสา (stylobate) ซึ่งเป็นแป้นแบนที่เป็นที่ตั้งของเสาบนฐานพลินท์ (plinth) ซึ่งอาจจะเป็นสี่เหลี่ยมหรือวงกลมก็ได้ เป็นส่วนล่างสุดของฐาน ส่วนที่เหลือก็อาจจะตกแต่งด้วยบัว เช่นบัวมน (torus) หรือบัวเว้า (scotia) ที่แยกจากกันด้วยสันร่องเว้า (fillet หรือ band)
บนฐานก็จะเป็นลำต้นเสา (shaft) ที่ตั้งตามแนวดิ่ง ที่จะมีลักษณะเป็นแท่งกลมทั้งยาวและเพรียว ลำเสาบางทีก็จะมีการบากตกแต่งเป็นร่องตามแนวดิ่ง (fluting) ลำเสาตอนล่างจะใหญ่กว่าตอนบน ความแคบลงจะเริ่มตั้งแต่ขึ้นไปได้ราวหนึ่งในสามของเสา ที่ทำให้เสาดูเพรียวขึ้นกว่าความเป็นจริง
หัวเสา (capital) จะตั้งอยู่บนลำต้นเสาที่มีหน้าที่รับน้ำหนักที่กระจายลงมาบนคานลงมายังลำเสา แต่โดยทั่วไปแล้วหัวเสาจะเป็นสิ่งตกแต่งเพื่อความงดงาม หัวเสาที่ง่ายที่สุดคือหัวเสาแบบดอริกที่แบ่งออกเป็นสามส่วน คอเสา (necking) คือส่วนที่ต่อจากลำต้นเสา แต่แยกด้วยบัวหงายหัวเสา (echinus) อยู่เหนือคอเสาที่เป็นแป้นกลมที่โป่งออกมาไปเพื่อไปรับกับแป้นหัวเสา (abacus) ที่อาจจะเป็นสี่เหลี่ยมหรือวงกลมก็ได้ที่รองรับคาน
อ้างอิง
- Small, Julien. The Five Orders of Classic Architecture[1]
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เสาแบบต่าง ๆ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha esaaebbkhlassik xngkvs Classical order epnlksnaesaobrankhxng aetlaaebbaeykcakknidodyrupthrng lksnasdswn aelaraylaexiydkhxnglksnakhxngthiich tngaetkhriststwrrsthi 16 epntnma nkthvsdisthaptykrrmaebngaeykesaaebbkhlassikxxkepnhaklum aetlaklumkcamilksnakhxngesathiaetktangknthiprakxbdwy architrave frieze aelaxngkhprakxbkhxngesa 1 entablature khanehnuxesa 2 column esa 3 cornice bwkhxrnis 4 frieze laytkaetng 5 architrave hrux epistyle hnakradanthbhlng 6 capital hwesa 7 shaft latnesa 8 base thanesa 9 stylobate thanitesa 10 stereobate thanaerkniyamkhxngesaaebbtang in Encyclopedie vol 18 karsrangesaaetlaaebbktangknxxiptngaetesathimilksnaxwntnaelaprascakkartkaetng ipcnesathiephriywaelaetmipdwykartkaetngxyangngdngam thiaebngxxkepn ormn esaaebbdxrik krikaelaormn esaaebbixxxnik krikaelaormn esaaebbkhxrinethiyn krikaelaormn aela ormn insmyobrancamiephiyngsamaebb khux dxrik ixxxnik aelakhxrinethiynthipradisthkhunodychawkrik txmachawormnkephimesathsknsungepnaebbthieriybngaykwadxrik aelaaebbkhxmophsitsungmikartkaetngmakkwakhxrinethiyn khxlmnaebngxxkepnsamswn latwesa shaft thanlang aela hwesa singkxsrangkhlassikcamixngkhprakxbtamaenwnxnthirxngrbdwyesathiepnkhanthieriykwa exnthaeblechxr entablature sungaebngxxkepnsamswn hnakradanthbhlng architrave aethblaytkaetng frieze aelabwkhxrnis khwamaetktangkhxngesaaebbkhlassikthrabidcaklksnakhxnghwesathiichthicamiexklksnthiaetktangknxxkip esathngtnaelakhanprakxbdwyxngkhprakxbtang tngaetthanitesa stylobate sungepnaepnaebnthiepnthitngkhxngesabnthanphlinth plinth sungxaccaepnsiehliymhruxwngklmkid epnswnlangsudkhxngthan swnthiehluxkxaccatkaetngdwybw echnbwmn torus hruxbwewa scotia thiaeykcakkndwysnrxngewa fillet hrux band bnthankcaepnlatnesa shaft thitngtamaenwding thicamilksnaepnaethngklmthngyawaelaephriyw laesabangthikcamikarbaktkaetngepnrxngtamaenwding fluting laesatxnlangcaihykwatxnbn khwamaekhblngcaerimtngaetkhunipidrawhnunginsamkhxngesa thithaihesaduephriywkhunkwakhwamepncring hwesa capital catngxyubnlatnesathimihnathirbnahnkthikracaylngmabnkhanlngmaynglaesa aetodythwipaelwhwesacaepnsingtkaetngephuxkhwamngdngam hwesathingaythisudkhuxhwesaaebbdxrikthiaebngxxkepnsamswn khxesa necking khuxswnthitxcaklatnesa aetaeykdwybwhngayhwesa echinus xyuehnuxkhxesathiepnaepnklmthiopngxxkmaipephuxiprbkbaepnhwesa abacus thixaccaepnsiehliymhruxwngklmkidthirxngrbkhanxangxingSmall Julien The Five Orders of Classic Architecture 1 duephimaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb esaaebbtang bthkhwamxakhar hrux sthanthisakhyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk