เรด (ออกเสียงอย่าง เหรด; อังกฤษ: Redundant Array of Inexpensive Disks หรือ Redundant Array of Independent Disks:RAID) คือเทคโนโลยีการนำฮาร์ดดิสก์ หลายๆ อันมาต่อเข้าด้วยกันเพื่อให้มองเห็นเป็นอันเดียว เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล หรือเพิ่มประสิทธิภาพการอ่าน/เขียนข้อมูล หลักการโดยรวมของ RAID คือ การสำเนาข้อมูล (mirroring) การแบ่งส่วนข้อมูล (striping) และการแก้ไขความผิดพลาด (error correction)
การตั้งค่า RAID จะแบ่งเป็นระดับ (level) โดยที่แต่ละระดับจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น ที่ระดับ 0 จะใช้วิธีการแบ่งส่วนข้อมูลเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอ่าน/เขียนข้อมูล แต่ไม่ช่วยในเรื่องของการแก้ไขความผิดพลาด ในขณะที่ระดับ 1 จะช่วยในการแก้ไขความผิดพลาดของข้อมูล แต่ต้องแลกกับการเนื้อที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เป็นต้น นอกจากนี้ในการตั้งค่าบางรูปแบบยังสามารถผสมระดับต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นระดับแบบซ้อน เช่น RAID 10 หรือ RAID 0+1 จะเป็นการสร้าง RAID 0 อยู่บน RAID 1 ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและการแก้ไขความผิดพลาด เป็นต้น
Raid 0 (striping) ช่วยให้การบันทึกข้อมูลได้เร็วขึ้น แต่ถ้ามีฮาร์ดดิสก์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเสีย จะทำให้ข้อมูลทั้งหมดไม่สามารถใช้งานได้ สมมติมีฮาร์ดดิสก์ 2 เครื่อง เครื่องละ 100 GB จะมีเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลทั้งหมด 200 GB
ฮาร์ดดิสก์ 1 <<< 1 3 5 7 <<< ข้อมูลที่เข้ามา 1 2 3 4 5 6 7 8 ฮาร์ดดิสก์ 2 <<< 2 4 6 8
Raid 1 (mirroring) ช่วยให้ข้อมูลมีความปลอดภัย ถ้าฮาร์ดดิสก์เครื่องใดเสีย อีกเครื่องหนึ่งก็จะทำงานแทนได้ สมมติมีฮาร์ดดิสก์ 2 เครื่อง เครื่องละ 100 GB จะมีเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลทั้งหมด 100 GB
ฮาร์ดดิสก์ 1 <<< 1 2 3 4 5 6 7 8 <<< ข้อมูลที่เข้ามา 1 2 3 4 5 6 7 8 ฮาร์ดดิสก์ 2 <<< 1 2 3 4 5 6 7 8
Raid 0+1 เป็นการผสมผสานระหว่าง RAID 0 และ RAID 1 เข้าด้วยกัน ทำให้การเข้าถึงข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และมีการทำ mirror ข้อมูล (backup ข้อมูล) ไปด้วย
ฮาร์ดดิสก์ 1 <<< 1 3 5 7 ฮาร์ดดิสก์ 2 <<< 2 4 6 8 <<< ข้อมูลที่เข้ามา 1 2 3 4 5 6 7 8
ฮาร์ดดิสก์ 3 <<< 1 3 5 7 ฮาร์ดดิสก์ 4 <<< 2 4 6 8
นอกจาก เรด 0 , เรด 1 และ เรด 0+1 แล้ว ยังมีเรดอีกหลายระดับ รายละเอียดตามด้านล่างนี้
แบบ RAID 0 ยกตัวอย่าง มีฮาร์ดดิสก์ 2 ลูกแต่ละลูกมีความจุ 500 GB ดังนั้นเราสามารถเก็บข้อมูลได้ 1000 Gb แต่เมื่อฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งเสีย ก็จะทำให้ ฮาร์ดดิสก์ ใช้งานไม่ได้ทั้งสองลูกเลย เพราะ เมื่อเราสั่งเก็บข้อมูล ข้อมูลจะแยกเป็นสองส่วนและแบ่งเก้บในฮาร์ดดิสก์คนละลูก ทำให้ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูง แต่ข้อเสียก็คือหาก harddisk ตัวใดตัวหนึ่งเสียหาย จะส่งผลกับข้อมูลทั้งระบบทันที
แบบ RAID 1 ยกตัวอย่าง มีฮาร์ดดิสก์ 2 ลูกแต่ละคนมีความจุ 500 GB แต่เราจะสามารถเก็บข้อมูลได้แค่ 500 GB เพราะฮาร์ดดิสก์อีกลูกจะมีไว้สำหรับเก็บข้อมูล ทำให้เมื่อฮาร์ดดิสก์ลูกหลักเสียอีกตัวก็จะทำงานแทนทันที จุดเด่นของ RAID 1 คือความปลอดภัยของข้อมูล ไม่เน้นเรื่องประสิทธิภาพและความเร็วเหมือนอย่าง RAID 0 แม้ว่าประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูลของ RAID 1 จะสูงขึ้นก็ตาม
แบบ RAID 3 (N +1) ในกรณีนี้ต้องมีฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 3 ลูก ตัวอย่างเช่นฮาร์ดดิสก์ 3 ลูก แต่ละลูกมีความจุ 200 GB ดังนั้น server เราจะสามารถจุข้อมูลได้ 400 Gb อีก 200 Gb เก็บไว้สำรองข้อมูลในกรณีที่ลูกแรกหรือ ลูกที่สองเสีย ฮาร์ดดิสก์ลูกที่ 3 จะทำงานให้แทนลูกที่เสียทันที ดังนั้น RAID 3 เหมาะสำหรับใช้ในงานที่มีการส่งข้อมูลจำนวนมากๆ เช่นงานตัดต่อ Video เป็นต้น
แบบ RAID 5 (N +1) มีความสามารถเช่นเดียวกับ RAID 3 แต่จุดเด่นของ RAID 5 คือ เทคโนโลยี Hot Swap ทำให้สามารถเปลี่ยน harddisk ในกรณีที่เกิดปัญหาได้ในขณะที่ระบบยังทำงานอยู่ เหมาะสำหรับงาน Server ต่างๆ ที่ต้องทำงานต่อเนื่อง
RAID 6 (N +2) อาศัยพื้นฐานการทำงานของ RAID 5 แต่จะดีกว่า RAID 5 ตรงที่ว่ามี backup hard disk ถึง สองลูก และยอมให้เราทำการ Hot Swap ได้พร้อมกัน 2 ตัว ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความปลอดภัยและเสถียรภาพของข้อมูลที่สูงมากๆ
แบบ RAID 10 หรือ RAID 1 +0 คือการใช้ประโยชน์ของ RAID 0 และ RAID 1 เช่นเรามี ฮาร์ดดิสก์ 6 ลูก เราให้สามลูกแรกเป็น ลูกที่ใช้งานจริง ส่วนสามลูกหลังเป็นฮาร์ดดิสก์สำรอง ในกรณี ฮาร์ดดิสก์สามลูกแรกมีลูกใดลูกหนึ่งเสีย ฮาร์ดดิสก์สามลูกหลังจะทำงานแทนทันที แต่มีข้อเสียคือ เราต้องซื้อ Harddisk เป็นสองเท่าในการเพิ่มพื้นที่การใช้งาน เพื่อเพิ่มในส่วนที่ใช้งานและส่วนที่สำรอง เหมาะสำหรับ Server ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลค่อนข้างมาก แต่ไม่ต้องการความจุมากนัก
แบบ RAID 53 จะเป็นการรวมกันของ RAID ระดับ 0 และ 3 เพื่อความเร็วในการเขียนและอ่านข้อมูลที่มากขึ้น แต่ยังมีตัวสำรองในการป้องกันระบบล่มทั้งระบบ ในเวลาที่มี Harddisk เสีย
ระดับมาตรฐาน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ระดับแบบซ้อน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
- David A. Patterson, Garth Gibson, and Randy H. Katz: A Case for Redundant Arrays of Inexpensive Disks (RAID). University of California Berkley. 1988.
- "Originally referred to as Redundant Array of Inexpensive Disks, the concept of RAID was first developed in the late 1980s by Patterson, Gibson, and Katz of the University of California at Berkeley. (The RAID Advisory Board has since substituted the term Inexpensive with Independent.)" Storage Area Network Fundamentals; Meeta Gupta; Cisco Press; ; Appendix A.
แหล่งข้อมูลอื่น
- raid คืออะไร [บทสรุป] 2017-06-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Tutorial on RAID 6 & performance implications
- Learning about RAID Tutorial, Levels 0, 1, 5, 10, and 50
- เรด ที่เว็บไซต์ Curlie
- Introduction to RAID 2010-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Working RAID illustrations 2008-08-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- RAID Levels — Tutorial and Diagrams 2008-08-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Logical Volume Manager Performance Measurement
- Tutorial on Reed-Solomon Coding for Fault-Tolerance in RAID-like Systems
- Parity Declustering for Continuous Operation in Redundant Disk Arrays
- An Optimal Scheme for Tolerating Double Disk Failures in RAID Architectures
- Linux RAID and LVM Management 2010-04-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- RAIF: Redundant Array of Independent Filesystems
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
erd xxkesiyngxyang ehrd xngkvs Redundant Array of Inexpensive Disks hrux Redundant Array of Independent Disks RAID khuxethkhonolyikarnaharddisk hlay xnmatxekhadwyknephuxihmxngehnepnxnediyw ephuxwtthuprasngkhtang echn ephimkhwamnaechuxthuxkhxngkhxmul hruxephimprasiththiphaphkarxan ekhiynkhxmul hlkkarodyrwmkhxng RAID khux karsaenakhxmul mirroring karaebngswnkhxmul striping aelakaraekikhkhwamphidphlad error correction kartngkha RAID caaebngepnradb level odythiaetlaradbcamicudednthiaetktangkn echn thiradb 0 caichwithikaraebngswnkhxmulephuxchwyephimprasiththiphaphkarxan ekhiynkhxmul aetimchwyineruxngkhxngkaraekikhkhwamphidphlad inkhnathiradb 1 cachwyinkaraekikhkhwamphidphladkhxngkhxmul aettxngaelkkbkarenuxthiephimkhunxikethatw epntn nxkcakniinkartngkhabangrupaebbyngsamarthphsmradbtang ekhadwyknepnradbaebbsxn echn RAID 10 hrux RAID 0 1 caepnkarsrang RAID 0 xyubn RAID 1 sungcachwyephimthngprasiththiphaphaelakaraekikhkhwamphidphlad epntn Raid 0 striping chwyihkarbnthukkhxmuliderwkhun aetthamiharddiskekhruxngidekhruxnghnungesiy cathaihkhxmulthnghmdimsamarthichnganid smmtimiharddisk 2 ekhruxng ekhruxngla 100 GB camienuxthiinkarekbkhxmulthnghmd 200 GB harddisk 1 lt lt lt 1 3 5 7 lt lt lt khxmulthiekhama 1 2 3 4 5 6 7 8 harddisk 2 lt lt lt 2 4 6 8 Raid 1 mirroring chwyihkhxmulmikhwamplxdphy thaharddiskekhruxngidesiy xikekhruxnghnungkcathanganaethnid smmtimiharddisk 2 ekhruxng ekhruxngla 100 GB camienuxthiinkarekbkhxmulthnghmd 100 GB harddisk 1 lt lt lt 1 2 3 4 5 6 7 8 lt lt lt khxmulthiekhama 1 2 3 4 5 6 7 8 harddisk 2 lt lt lt 1 2 3 4 5 6 7 8 Raid 0 1 epnkarphsmphsanrahwang RAID 0 aela RAID 1 ekhadwykn thaihkarekhathungkhxmulepnipidxyangrwderw aelamikartha mirror khxmul backup khxmul ipdwy harddisk 1 lt lt lt 1 3 5 7 harddisk 2 lt lt lt 2 4 6 8 lt lt lt khxmulthiekhama 1 2 3 4 5 6 7 8 harddisk 3 lt lt lt 1 3 5 7 harddisk 4 lt lt lt 2 4 6 8 nxkcak erd 0 erd 1 aela erd 0 1 aelw yngmierdxikhlayradb raylaexiydtamdanlangni aebb RAID 0 yktwxyang miharddisk 2 lukaetlalukmikhwamcu 500 GB dngnnerasamarthekbkhxmulid 1000 Gb aetemuxharddisklukidlukhnungesiy kcathaih harddisk ichnganimidthngsxnglukely ephraa emuxerasngekbkhxmul khxmulcaaeykepnsxngswnaelaaebngekbinharddiskkhnlaluk thaihkhwamerwinkarekhathungkhxmulsung aetkhxesiykkhuxhak harddisk twidtwhnungesiyhay casngphlkbkhxmulthngrabbthnthi aebb RAID 1 yktwxyang miharddisk 2 lukaetlakhnmikhwamcu 500 GB aeteracasamarthekbkhxmulidaekh 500 GB ephraaharddiskxiklukcamiiwsahrbekbkhxmul thaihemuxharddisklukhlkesiyxiktwkcathanganaethnthnthi cudednkhxng RAID 1 khuxkhwamplxdphykhxngkhxmul imenneruxngprasiththiphaphaelakhwamerwehmuxnxyang RAID 0 aemwaprasiththiphaphinkarxankhxmulkhxng RAID 1 casungkhunktam aebb RAID 3 N 1 inkrninitxngmiharddiskxyangnxy 3 luk twxyangechnharddisk 3 luk aetlalukmikhwamcu 200 GB dngnn server eracasamarthcukhxmulid 400 Gb xik 200 Gb ekbiwsarxngkhxmulinkrnithilukaerkhrux lukthisxngesiy harddisklukthi 3 cathanganihaethnlukthiesiythnthi dngnn RAID 3 ehmaasahrbichinnganthimikarsngkhxmulcanwnmak echnngantdtx Video epntn aebb RAID 5 N 1 mikhwamsamarthechnediywkb RAID 3 aetcudednkhxng RAID 5 khux ethkhonolyi Hot Swap thaihsamarthepliyn harddisk inkrnithiekidpyhaidinkhnathirabbyngthanganxyu ehmaasahrbngan Server tang thitxngthangantxenuxng RAID 6 N 2 xasyphunthankarthangankhxng RAID 5 aetcadikwa RAID 5 trngthiwami backup hard disk thung sxngluk aelayxmiherathakar Hot Swap idphrxmkn 2 tw thaihehmaakbnganthitxngkarkhwamplxdphyaelaesthiyrphaphkhxngkhxmulthisungmak aebb RAID 10 hrux RAID 1 0 khuxkarichpraoychnkhxng RAID 0 aela RAID 1 echnerami harddisk 6 luk eraihsamlukaerkepn lukthiichngancring swnsamlukhlngepnharddisksarxng inkrni harddisksamlukaerkmilukidlukhnungesiy harddisksamlukhlngcathanganaethnthnthi aetmikhxesiykhux eratxngsux Harddisk epnsxngethainkarephimphunthikarichngan ephuxephiminswnthiichnganaelaswnthisarxng ehmaasahrb Server thitxngkarkhwamerwinkarekhathungkhxmulkhxnkhangmak aetimtxngkarkhwamcumaknk aebb RAID 53 caepnkarrwmknkhxng RAID radb 0 aela 3 ephuxkhwamerwinkarekhiynaelaxankhxmulthimakkhun aetyngmitwsarxnginkarpxngknrabblmthngrabb inewlathimi Harddisk esiyradbmatrthanswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidradbaebbsxnswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxangxingDavid A Patterson Garth Gibson and Randy H Katz A Case for Redundant Arrays of Inexpensive Disks RAID University of California Berkley 1988 Originally referred to as Redundant Array of Inexpensive Disks the concept of RAID was first developed in the late 1980s by Patterson Gibson and Katz of the University of California at Berkeley The RAID Advisory Board has since substituted the term Inexpensive with Independent Storage Area Network Fundamentals Meeta Gupta Cisco Press ISBN 978 1 58705 065 7 Appendix A aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb erd raid khuxxair bthsrup 2017 06 01 thi ewyaebkaemchchin Tutorial on RAID 6 amp performance implications Learning about RAID Tutorial Levels 0 1 5 10 and 50 erd thiewbist Curlie Introduction to RAID 2010 02 10 thi ewyaebkaemchchin Working RAID illustrations 2008 08 22 thi ewyaebkaemchchin RAID Levels Tutorial and Diagrams 2008 08 21 thi ewyaebkaemchchin Logical Volume Manager Performance Measurement Tutorial on Reed Solomon Coding for Fault Tolerance in RAID like Systems Parity Declustering for Continuous Operation in Redundant Disk Arrays An Optimal Scheme for Tolerating Double Disk Failures in RAID Architectures Linux RAID and LVM Management 2010 04 01 thi ewyaebkaemchchin RAIF Redundant Array of Independent Filesystemsbthkhwamkhxmphiwetxr xupkrntang hruxekhruxkhayniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk