เมเคตอาเตน (พระนามมีความหมายว่า "ผู้ถูกปกป้องโดยอาเตน") เป็นพระราชธิดาลำดับที่สองในอีกหกพระองค์ในฟาโรห์อเคนาเทนกับพระนางเนเฟอร์ติติ พระองค์อาจจะประสูติในปีที่ 4 ของการครองราชย์ของพระบิดา แม้ว่าจะไม่ค่อยทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับพระองค์ แต่พระองค์จะปรากฏอยู่บนภาพสลักบนฝาผนังร่วมกับพระขนิษฐาและพระบิดาพระมารดาในช่วงต้นของรัชสมัยของฟาโรห์อเคนาเทน
เมเคตอาเตน ในไฮเออโรกลีฟ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
เมเคตอาเตน mꜥkt itn ผู้ถูกปกป้องโดยอาเตน | |||||||
ภาพสลักของเจ้าหญิงเมเคตอาเตนบนตักของพระนางเนเฟอร์ติติ (ทางซ้าย) |
พระราชวงศ์
พระองค์เป็นพระราชธิดาลำดับที่สองในฟาโรห์อเคนาเตนกับสมเด็จพระราชินีเนเฟอร์ติติ พระองค์มีพระภคินีหนึ่งพระองค์พระนามว่า เมริทอาเตน และพระขนิษฐาอีกสี่พระองค์พระนามว่า อังค์เอสเอนปาอาเตน, เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน ตาเชริท, เนเฟอร์เนเฟรูเร และ ส่วนเจ้าชายทุตอังค์อาเตนเป็นพระอนุชาต่างพระมารดา
พระประวัติ
พระองค์เป็นไปได้ว่าจะประสูติในช่วงปีที่ 4 แห่งการครองราชย์ของพระบิดาหรือก่อนหน้านั้น โดยพระองค์ปรากฏบนภาพสลักครั้งที่อัท-เบ็นเบ็น ร่วมกับพระมารดาของพระองค์ในธีบส์ พระองค์สลักรูปยืนหลังถัดจากพระนางเมริทอาเตน (พระภคินี) ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดในช่วงหรือหลังปีที่ 4 แห่งการครองราชย์ของพระบิดา โดยข้อโต้แย้งเพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่าพระองค์ประสูติในหรือก่อนปีที่ 4 มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าภาพสลักของพระองค์ถูกเพิ่มเข้าไปในหนึ่งในจิตรกรรมสลักนูนต่ำในปีที่ 4 และแกะสลักในปี 5 แห่งการครองราชย์ของพระบิดา
พระองค์ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองธีบส์ไปยังเมืองอเคนาเทน (ในปัจจุบันคือเมืองอาร์มานา) กับเหล่าเชื้อพระวงศ์ครั้งพระองค์มีพระชนมายุยังน้อย พระองค์ปรากฏอยู่บนภาพสลักภายในหลุมฝังศพของขุนนางหลายแห่งในเมืองอาร์มานา พระองค์ปรากฏอยู่บนภาพสลักในหลุมฝังพระศพของฟาโรห์ไอย์ โดยเป็นภาพสลักที่พระองค์กำลังถือถาดของขวัญในขณะที่โอบแขนข้างหนึ่งไว้รอบพระศอพระมารดาของพระองค์ และยังปรากฏตามสถานที่ต่างๆ ที่กล่าวถึงพระองค์รวมถึงบันทึกสลักหินในเมืองเฮลิโอโปลิส, รูปปั้นฐานในเมืองไฟยุม และหลุมฝังศพของปาเนเฮซิและปาเรนเนเฟอร์ พระองค์ปรากฏในภาพสลักร่วมกับพระบิดาพระมารดาและพระภคินีพระขนิษฐาของพระองค์ในงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ซึ่งสามารถเห็นได้ในหลาย ๆ ส่วนในหลุมฝังศพของขุนนางระดับสูงนามว่า ฮูยา และมหาปุโรหิตนามว่า
การสิ้นพระชนม์และหลุมฝังพระศพ
พระองค์เสิ้นพระชนม์ราวในปีที่ 14 แห่งการครองราชย์ของพระบิดา มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดโรคระบาดไปทั่วอียิปต์ช่วงระหว่างปีที่ 12 และ 15 สำหรับเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ถูกกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง อาทิ พระนางติเย, พระนางคิยา, เจ้าหญิงเมเคตอาเตน, เจ้าหญิงเนเฟอร์เนเฟรูเร และเจ้าหญิงเซเตเพนเร การสิ้นพระชนม์ของพระองค์อาจจะเกิดจากโรคระบาดหรือจากการให้ประสูติบุตร จากการพบพระศพ (ทารก) ที่เป็นเชื้อพระวงศ์ ทำให้เชื่อว่าพระธิดาสิ้นพระชนม์ระหว่างในการให้ประสูติ (ในกรณีที่พระบิดาของพระธิดาน่าจะเป็นฟาโรห์อเคนาเทนเอง) แต่สิ่งนี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ อีกทางเลือกหนึ่งที่ตีความโดยแวง ดจิก ภาพเด็กที่ปรากฏในภาพสลักคือกา (หนึ่งในรูปแบบของวิญญาณตามความเชื่อของอียิปต์โบราณ) ของพระองค์
อ้างอิง
- Dodson, Aidan and Hilton, Dyan. The Complete Royal Families of Ancient Egypt. Thames & Hudson. 2004. ISBN
- Tyldesley, Joyce. Nefertiti: Egypt's Sun Queen. Penguin. 1998. ISBN
- Redford, Donald B. Akhenaten: The Heretic King. Princeton University Press. 1987. ISBN
- Dodson, Aidan, Amarna Sunset: Nefertiti, Tutankhamun, Ay, Horemheb, and the Egyptian Counter-Reformation. The American University in Cairo Press. 2009, ISBN
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
emekhtxaetn phranammikhwamhmaywa phuthukpkpxngodyxaetn epnphrarachthidaladbthisxnginxikhkphraxngkhinfaorhxekhnaethnkbphranangenefxrtiti phraxngkhxaccaprasutiinpithi 4 khxngkarkhrxngrachykhxngphrabida aemwacaimkhxythrabthungkhxmulekiywkbphraxngkh aetphraxngkhcapraktxyubnphaphslkbnfaphnngrwmkbphrakhnisthaaelaphrabidaphramardainchwngtnkhxngrchsmykhxngfaorhxekhnaethnemekhtxaetn inihexxorklifemekhtxaetn mꜥkt itn phuthukpkpxngodyxaetnphaphslkkhxngecahyingemekhtxaetnbntkkhxngphranangenefxrtiti thangsay rupslkhinkhxngecahyingemekhtxaetnphrarachwngsphraxngkhepnphrarachthidaladbthisxnginfaorhxekhnaetnkbsmedcphrarachinienefxrtiti phraxngkhmiphraphkhinihnungphraxngkhphranamwa emrithxaetn aelaphrakhnisthaxiksiphraxngkhphranamwa xngkhexsexnpaxaetn enefxrenefruxaetn taechrith enefxrenefruer aela swnecachaythutxngkhxaetnepnphraxnuchatangphramardaphraprawtiphraxngkhepnipidwacaprasutiinchwngpithi 4 aehngkarkhrxngrachykhxngphrabidahruxkxnhnann odyphraxngkhpraktbnphaphslkkhrngthixth ebnebn rwmkbphramardakhxngphraxngkhinthibs phraxngkhslkrupyunhlngthdcakphranangemrithxaetn phraphkhini sungehtukarnniekidinchwnghruxhlngpithi 4 aehngkarkhrxngrachykhxngphrabida odykhxotaeyngephimetimaesdngihehnwaphraxngkhprasutiinhruxkxnpithi 4 macakkhxethccringthiwaphaphslkkhxngphraxngkhthukephimekhaipinhnungincitrkrrmslknuntainpithi 4 aelaaekaslkinpi 5 aehngkarkhrxngrachykhxngphrabida phraxngkhthrngyaythiprathbcakemuxngthibsipyngemuxngxekhnaethn inpccubnkhuxemuxngxarmana kbehlaechuxphrawngskhrngphraxngkhmiphrachnmayuyngnxy phraxngkhpraktxyubnphaphslkphayinhlumfngsphkhxngkhunnanghlayaehnginemuxngxarmana phraxngkhpraktxyubnphaphslkinhlumfngphrasphkhxngfaorhixy odyepnphaphslkthiphraxngkhkalngthuxthadkhxngkhwyinkhnathioxbaekhnkhanghnungiwrxbphrasxphramardakhxngphraxngkh aelayngprakttamsthanthitang thiklawthungphraxngkhrwmthungbnthukslkhininemuxngehlioxoplis ruppnthaninemuxngifyum aelahlumfngsphkhxngpaenehsiaelapaernenefxr phraxngkhpraktinphaphslkrwmkbphrabidaphramardaaelaphraphkhiniphrakhnisthakhxngphraxngkhinnganeliyngechlimchlxng sungsamarthehnidinhlay swninhlumfngsphkhxngkhunnangradbsungnamwa huya aelamhapuorhitnamwakarsinphrachnmaelahlumfngphrasphphraxngkhesinphrachnmrawinpithi 14 aehngkarkhrxngrachykhxngphrabida mikhwamepnipidsungwacaekidorkhrabadipthwxiyiptchwngrahwangpithi 12 aela 15 sahrbechuxphrawngshlayphraxngkhthukklawkhunmaxikkhrng xathi phranangtiey phranangkhiya ecahyingemekhtxaetn ecahyingenefxrenefruer aelaecahyingesetephner karsinphrachnmkhxngphraxngkhxaccaekidcakorkhrabadhruxcakkarihprasutibutr cakkarphbphrasph thark thiepnechuxphrawngs thaihechuxwaphrathidasinphrachnmrahwanginkarihprasuti inkrnithiphrabidakhxngphrathidanacaepnfaorhxekhnaethnexng aetsingniimsamarthphisucnid xikthangeluxkhnungthitikhwamodyaewng dcik phaphedkthipraktinphaphslkkhuxka hnunginrupaebbkhxngwiyyantamkhwamechuxkhxngxiyiptobran khxngphraxngkh phaphwadthimiecahyingemekhtxaetnkbehlaechuxphrawngsxangxingDodson Aidan and Hilton Dyan The Complete Royal Families of Ancient Egypt Thames amp Hudson 2004 ISBN 0 500 05128 3 Tyldesley Joyce Nefertiti Egypt s Sun Queen Penguin 1998 ISBN 0 670 86998 8 Redford Donald B Akhenaten The Heretic King Princeton University Press 1987 ISBN 978 0 691 00217 0 Dodson Aidan Amarna Sunset Nefertiti Tutankhamun Ay Horemheb and the Egyptian Counter Reformation The American University in Cairo Press 2009 ISBN 978 977 416 304 3