เพียส เกฟสตัน เอิร์ลที่ 1 แห่งคอร์นวอลล์ (อังกฤษ: Piers Gaveston, 1st Earl of Cornwall) เป็นขุนนางอังกฤษที่มีชีวิตอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 14 เขาเป็นคนโปรดของกษัตริย์อังกฤษ คือ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ
เพียร์ส เกฟสตันเกิดในช่วงราวปี ค.ศ. 1284 บิดาของเขาคืออาร์โนด์ เดอ แกแบสตง ขุนนางชั้นผู้น้อยใน ส่วนมารดาคือแคลรามง เดอ แมซ็อง อาร์โนด์รับใช้กษัตริย์อังกฤษ คือ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ด้วยความซื่อสัตย์จนทำให้ครอบครัวของเขาได้รับพระเมตตาจากกษัตริย์ แกแบสตงถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1302 โดยก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต เขาได้ผลักดันให้คนอื่นๆ ในครอบครัวได้เข้าไปรับใช้กษัตริย์จนทำให้ครอบครัวมีหน้าที่การงานที่มั่นคง มีรายได้ที่มั่นคง และมีอนาคตที่มั่นคง
ความสัมพันธ์กับว่าที่กษัตริย์
เพียร์ส บุตรชายของแกแบสตัน เป็นสมาชิกในครัวเรือนของกษัตริย์ กระทั่งเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่ม ในปี ค.ศ. 1300 เขาได้ย้ายไปอยู่ในครัวเรือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ที่ต่อมาจะขึ้นเป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 เกฟสตันน่าจะมีอายุ 15 หรือ 16 ปีเท่ากับว่าที่กษัตริย์หรือไม่ก็อาจจะแก่กว่าพระองค์เล็กน้อย แหล่งข้อมูลจากยุคนั้นบรรยายถึงเกฟสตันไว้ว่าเป็นคนรูปงาม แข็งแรงปราดเปรียว และสุภาพ มีความเก่งกาจด้านการทหารจนทำให้ได้รับใช้เป็นเพื่อนร่วมรบและเป็นต้นแบบให้เจ้าชายแห่งเวลส์
ความสนิทสนมของทั้งสองพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วมากจนหลายคนมองว่าเป็นความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ ทว่านักประวัติศาสตร์ยุคใหม่ส่วนหนึ่งแย้งว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกฟสตันกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 เป็นความสัมพันธ์แบบ "เพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย" มากกว่า ทั้งคู่อาจสาบานเป็นพี่น้องกันและเอ็ดเวิร์ดเรียกเกฟสตันว่า "เพียร์สน้องข้า"
เพียร์ส เกฟสตัน เอิร์ลแห่งคอร์นวอลล์
เกฟสตันไม่เพียงคนโปรดของเจ้าชายแห่งเวลส์ แต่ยังเป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์ ในปี ค.ศ. 1302 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 มีคำสั่งเลื่อนตำแหน่งให้เขาอย่างต่อเนื่อง ทว่าในปี ค.ศ. 1305 เจ้าชายได้ทะเลาะบาดหมางกับวอลเทอร์ แลงตัน บิชอปแห่งลิชฟิลด์ซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของอังกฤษ กษัตริย์เข้าข้างแลงตันและตัดสินใจลงโทษพระราชโอรส เป็นเหตุให้เจ้าชายเอ็ดร์ดถูกขับไล่ออกจากราชสำนักของพระราชบิดาและถูกตัดลดเงินสนับสนุน ครัวเรือนของเจ้าชายถูกลดขนาดลง ในปี ค.ศ. 1307 เกฟสตันถูกกษัตริย์เนรเทศไปฝรั่งเศส เจ้าชายได้มอบของกำนัลล้ำค่ามากมายให้แก่เกฟสตัน ทั้งเสื้อผ้าชั้นดีสองชุด, ม้าห้าตัว, หงส์ และนกกระสา และเดินทางไปส่งเขาที่โดเวอร์พร้อมกับนักขับลำสองคน
เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 เสด็จสวรรคตในปีเดียวกัน สิ่งแรกที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ทำหลังขึ้นเป็นกษัตริย์คือการเรียกตัวเกฟสตันกลับอังกฤษ กฎบัตรฉบับแรกๆ ที่ตราขึ้นในรัชสมัยของพระองค์คือการพระราชทานตำแหน่งเอิร์ลแห่งคอร์นวอลล์ให้แก่เกฟสตัน ทั้งยังให้เขาสมรสกับ ธิดาของโจนแห่งเอเคอร์ผู้เป็นพระเชษฐภคินี ทำให้กษัตริย์กับเกฟสตันกลายเป็นญาติกัน ความสนิทสนมจนเกินงามของทั้งคู่ทำให้หลายคนมองว่าเกฟสตันคือ "กษัตริย์คนที่สอง" สร้างความโกรธแก่เหล่าขุนนาง อีกทั้งพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ยังแตกต่างจากพระราชบิดาอย่างสิ้นเชิงจีงทำให้มีปัญหากับกลุ่มบารอนผู้ทรงอำนาจ สุดท้ายกษัตริย์กับผู้อยู่ใต้พระราชอำนาจก็กลายเป็นปรปักษ์กัน
การถูกเนรเทศ
แม้จะเป็นคนโปรดของกษัตริย์ แต่เกฟสตันไม่เป็นที่โปรดปรานของราชสำนัก หนึ่งในศัตรูของเขาคือพระนางอีซาแบลแห่งฝรั่งเศสผู้เป็นพระมเหสีของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ทั้งคู่สมรสกันด้วยเหตุผลทางการเมืองในช่วงที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ยังมีชีวิตอยู่ ในตอนนั้นกษัตริย์ต้องการสร้างหลักประกันในการสืบทอดตำแหน่งให้แก่พระโอรสจึงได้จับพระองค์สมรสกับอีซาแบลแห่งฝรั่งเศส พระราชธิดาของพระเจ้าฟีลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศสเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ทว่าในวันพิธีสมรส (ซึ่งเป็นช่วงที่เกฟสตันถูกเนรเทศอยู่) เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดเมินเฉยต่ออีซาแบลจนทำให้พระนางกับพระญาติรู้สึกอับอายขายหน้า
แม้สุดท้ายพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 จะมีพระราชบุตรสี่คนกับพระราชินีชาวฝรั่งเศส แต่พระองค์อาจเป็นไบเซ็กซวล ความสนิทสนมของเกฟสตันกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 อาจเป็นต้นเหตุของรอยร้าวที่ขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับพระราชินี หลังพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 เสด็จสวรรคต พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 กับพระมเหสีเข้ารับการสวมมงกุฎพร้อมกันที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ในปี ค.ศ. 1308 โดยขณะนั้นกษัตริย์มีพระชนมายุ 23 พรรษา ส่วนอีซาแบลมีพระชนมายุ 13 พรรษา ในช่วงพิธีราชาภิเษกมีบันทึกว่ากษัตริย์คนใหม่ใช้เวลาอยู่กับคนโปรดของพระองค์มากกว่าพระราชินีจนทำให้พระญาติส่วนหนึ่งของอีซาแบลตัดสินใจเดินออกจากงาน มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าความอับอายขายหน้าที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้พระเจ้าฟีลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส พระราชบิดาของอีซาแบลว่าจ้างเอิร์ลแห่งลิงคอร์นและเอิร์ลแห่งเพมโบรกให้กำจัดเกฟสตันลงจากอำนาจ เกฟสตันถูกเนรเทศอีกครั้งไปไอร์แลนด์ในช่วงปลายปี แต่ก็ได้กลับมาในปี ค.ศ. 1309 หลังกลับมาจากการถูกเนรเทศครั่งนี้ ความสัมพันธ์ของเขากับพระราชินีดูจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
การเป็นคนโปรดของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 กระตุ้นให้ขุนนางคนอื่นๆ ในราชสำนักริษยาเกฟสตัน อีกทั้งอุปนิสัยที่แข็งกร้าวของเขายิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง ในช่วงปี ค.ศ. 1310 ความไม่พอใจในหมู่ขุนนางรุนแรงมากจนกษัตริย์ถูกบีบให้ตั้งคณะขุนนางผู้บัญญัติ (Lord Ordainers) อันประกอบด้วยเอิร์ล, บารอน และบิชอป จำนวน 21 คน ขึ้นมาปฏิรูปการบริหารจัดการครัวเรือนของกษัตริย์ ขณะที่กษัตริย์นำทัพไปทำศึกในสกอตแลนด์แต่ไม่สามารถกำราบ
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1311 คณะขุนนางผู้บัญญัติมีคำสั่งเนรเทศเกฟสตันอย่างถาวร โดยไม่อนุญาตให้เขากลับมาอีก พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 เสนอข้อแลกเปลี่ยนยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้เกฟสตันได้อยู่ต่อ แต่คณะขุนนางผู้บัญญัติไม่รับข้อเสนอ ในเดือนพฤศจิกายนคนโปรดของพระองค์ต้องเดินทางออกจากประเทศ ในระหว่างการถูกเนรเทศครั้งที่สามนี้ มาร์กาเร็ต เดอ แคลร์ ภรรยาของเพียร์สได้ให้กำเนิดบุตรสาวนามว่าโจน เกฟสตัน พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ทุ่มเงิน 40 ปอนด์ (หรือ 100,000 ปอนด์เมื่อเทียบกับค่าเงินในปัจจุบัน) เพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองการเกิดของโจนเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์
การเสียชีวิตของคนโปรดของกษัตริย์
แม้เกฟสตันจะไปอยู่ที่ แต่ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1312 เขาแอบกลับมาอังกฤษ สันนิษฐานกันว่าเป็นเพราะความเป็นห่วงภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกหรือไม่ก็ต้องการเห็นหน้าบุตรสาว พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมีประกาศให้การเนรเทศเกฟสตันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทรงคืนทรัพย์สินที่ริบมาทั้งหมดให้แก่เขา เหล่าบารอนจึงหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับกษัตริย์จนเกิดเป็นสงครามกลางเมือง กษัตริย์และเกฟสตันเกือบถูก (ซึ่งเป็นบุตรชายของเอ็ดมันด์หลังกางเขน พระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1) จับตัวได้ที่นิวคาสเซิล ทั้งคู่รวมถึงพระราชินี (ซึ่งขณะนั้นกำลังตั้งครรภ์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3) ถูกกลุ่มเอิร์ลทางตอนเหนือของอังกฤษที่กำลังโกรธไล่ต้อนจนต้องหนีทางทะเลไป กลุ่มขุนนางได้วางแผนอย่างแยบยลจนทำให้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และพระราชินีเดินทางไปที่อื่นโดยทิ้งเกฟสตันไว้ที่ เอิร์ลแห่งเพมโบรกและเอิร์ลแห่งวอริกได้ทำการปิดล้อมปราสาท กระทั่งในเดือนพฤษภาคม เกฟสตันยอมจำนนต่ออย่างมีเงื่อนไข คือ หากภายในเดือนสิงหาคมกลุ่มขุนนางยังไม่บรรลุข้อตกลงกับกษัตริย์ เขาจะเดินทางกลับปราสาทสการ์เบอโร
ในช่วงที่กษัตริย์กับกลุ่มเอิร์ลกำลังเจรจาทำข้อตกลงกัน เอิร์ลแห่งเพมโบรกได้รับรองความปลอดภัยแก่เกฟสตันและทิ้งเขาไว้ในเดดดิงตันโดยไร้การคุ้มกันด้วยความประมาทเลินเล่อหรืออาจจะด้วยความตั้งใจ วันต่อมาได้เข้าโจมตีปราสาทและจับกุมตัวเกฟสตัน เขาถูกนำตัวไปวอริกเพื่อเข้ารับการพิจารณาคดีโดยมีธอมัส เอิร์ลที่ 2 แห่งแลงคัสเตอร์, และรู้เห็นเป็นใจกัน เกฟสตันถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานกบฏและต้องโทษประหารชีวิต เขาถูกนำตัวขึ้นไปบนยอดแบล็กโลว์ฮิลล์และถูกตัดหัวด้วยดาบในวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1312 ขณะมีอายุได้ 28 ปี ร่างของเขาถูกทิ้งให้เน่าที่นั่น แต่ต่อมาถูกเก็บไปดองและฝังที่ศาสนสถานดอมินิกันที่คิงส์แลงลีย์ในฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ แม้จะถูกประหารชีวิตใน แต่เล่าลือกันว่าวิญญาณของเขาวนเวียนอยู่ในปราสาทสการ์เบอโร การประหารชีวิตของเกฟสตันทำให้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 รู้สึกถูกหมิ่นพระเกียรติและเสียใจเป็นอย่างมาก
อ้างอิง
- Ancient Origins, Piers Gaveston: Exile, Secrets, and Jealousy Marked the Life of the Favorite of King Edward II
- British Heritage Travel, King Edward II & Piers Gaveston: The Real Story Of The King & His Husband
- English Heritage, PIERS GAVESTON, HUGH DESPENSER AND THE DOWNFALL OF EDWARD II
- History Today, Piers Gaveston Executed
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ephiys ekfstn exirlthi 1 aehngkhxrnwxll xngkvs Piers Gaveston 1st Earl of Cornwall epnkhunnangxngkvsthimichiwitxyuinchwngkhriststwrrsthi 13 thung 14 ekhaepnkhnoprdkhxngkstriyxngkvs khux phraecaexdewirdthi 2 aehngxngkvs ephiyrs ekfstnekidinchwngrawpi kh s 1284 bidakhxngekhakhuxxarond edx aekaebstng khunnangchnphunxyin swnmardakhuxaekhlramng edx aemsxng xarondrbichkstriyxngkvs khux phraecaexdewirdthi 1 dwykhwamsuxstycnthaihkhrxbkhrwkhxngekhaidrbphraemttacakkstriy aekaebstngthungaekkrrminpi kh s 1302 odykxnhnathicaesiychiwit ekhaidphlkdnihkhnxun inkhrxbkhrwidekhaiprbichkstriycnthaihkhrxbkhrwmihnathikarnganthimnkhng mirayidthimnkhng aelamixnakhtthimnkhngkhwamsmphnthkbwathikstriyphaph phraecaexdewirdthi 2 kbkhnoprd ephiyrs ekfstn odymarkhs sotn pi kh s 1872 ephiyrs butrchaykhxngaekaebstn epnsmachikinkhrweruxnkhxngkstriy krathngerimekhasuwyhnum inpi kh s 1300 ekhaidyayipxyuinkhrweruxnkhxngecachayaehngewlsthitxmacakhunepnphraecaexdewirdthi 2 ekfstnnacamixayu 15 hrux 16 piethakbwathikstriyhruximkxaccaaekkwaphraxngkhelknxy aehlngkhxmulcakyukhnnbrryaythungekfstniwwaepnkhnrupngam aekhngaerngpradepriyw aelasuphaph mikhwamekngkacdankarthharcnthaihidrbichepnephuxnrwmrbaelaepntnaebbihecachayaehngewls khwamsnithsnmkhxngthngsxngphthnakhunxyangrwderwmakcnhlaykhnmxngwaepnkhwamsmphnthaebbrkrwmephs thwankprawtisastryukhihmswnhnungaeyngwakhwamsmphnthrahwangekfstnkbphraecaexdewirdthi 2 epnkhwamsmphnthaebb ephuxnrwmepnrwmtay makkwa thngkhuxacsabanepnphinxngknaelaexdewirderiykekfstnwa ephiyrsnxngkha ephiyrs ekfstn exirlaehngkhxrnwxllchwngaerkkhxngkdbtrthiphrarachthantaaehnngexirlaehngkhxrnwxllihaekephiyrs ekfstninwnthi 6 singhakhm kh s 1307 ekfstnimephiyngkhnoprdkhxngecachayaehngewls aetyngepnthioprdprankhxngkstriy inpi kh s 1302 phraecaexdewirdthi 1 mikhasngeluxntaaehnngihekhaxyangtxenuxng thwainpi kh s 1305 ecachayidthaelaabadhmangkbwxlethxr aelngtn bichxpaehnglichfildsungepnphuduaelthrphysinkhxngxngkvs kstriyekhakhangaelngtnaelatdsiniclngothsphrarachoxrs epnehtuihecachayexdrdthukkhbilxxkcakrachsankkhxngphrarachbidaaelathuktdldenginsnbsnun khrweruxnkhxngecachaythukldkhnadlng inpi kh s 1307 ekfstnthukkstriyenrethsipfrngess ecachayidmxbkhxngkanllakhamakmayihaekekfstn thngesuxphachndisxngchud mahatw hngs aelankkrasa aelaedinthangipsngekhathiodewxrphrxmkbnkkhblasxngkhn emuxphraecaexdewirdthi 1 esdcswrrkhtinpiediywkn singaerkthiphraecaexdewirdthi 2 thahlngkhunepnkstriykhuxkareriyktwekfstnklbxngkvs kdbtrchbbaerk thitrakhuninrchsmykhxngphraxngkhkhuxkarphrarachthantaaehnngexirlaehngkhxrnwxllihaekekfstn thngyngihekhasmrskb thidakhxngocnaehngexekhxrphuepnphraechsthphkhini thaihkstriykbekfstnklayepnyatikn khwamsnithsnmcnekinngamkhxngthngkhuthaihhlaykhnmxngwaekfstnkhux kstriykhnthisxng srangkhwamokrthaekehlakhunnang xikthngphraecaexdewirdthi 2 yngaetktangcakphrarachbidaxyangsinechingcingthaihmipyhakbklumbarxnphuthrngxanac sudthaykstriykbphuxyuitphrarachxanackklayepnprpksknkarthukenrethsphaphphraecaexdewirdthi 2 aehngxngkvskalngekharbkarswmmngkud in phngsawdarxngkvs aemcaepnkhnoprdkhxngkstriy aetekfstnimepnthioprdprankhxngrachsank hnunginstrukhxngekhakhuxphranangxisaaeblaehngfrngessphuepnphramehsikhxngphraecaexdewirdthi 2 thngkhusmrskndwyehtuphlthangkaremuxnginchwngthiphraecaexdewirdthi 1 yngmichiwitxyu intxnnnkstriytxngkarsranghlkprakninkarsubthxdtaaehnngihaekphraoxrscungidcbphraxngkhsmrskbxisaaeblaehngfrngess phrarachthidakhxngphraecafilipthi 4 aehngfrngessephuxechuxmsmphnthimtri thwainwnphithismrs sungepnchwngthiekfstnthukenrethsxyu ecachayexdewirdeminechytxxisaaeblcnthaihphranangkbphrayatirusukxbxaykhayhna aemsudthayphraecaexdewirdthi 2 camiphrarachbutrsikhnkbphrarachinichawfrngess aetphraxngkhxacepnibeskswl khwamsnithsnmkhxngekfstnkbphraecaexdewirdthi 2 xacepntnehtukhxngrxyrawthikhuninkhwamsmphnthrahwangkstriykbphrarachini hlngphraecaexdewirdthi 1 esdcswrrkht phraecaexdewirdthi 2 kbphramehsiekharbkarswmmngkudphrxmknthiwiharewstminsetxrinpi kh s 1308 odykhnannkstriymiphrachnmayu 23 phrrsa swnxisaaeblmiphrachnmayu 13 phrrsa inchwngphithirachaphieskmibnthukwakstriykhnihmichewlaxyukbkhnoprdkhxngphraxngkhmakkwaphrarachinicnthaihphrayatiswnhnungkhxngxisaaebltdsinicedinxxkcakngan mihlkthanthithaihechuxwakhwamxbxaykhayhnathiekidkhunnisngphlihphraecafilipthi 4 aehngfrngess phrarachbidakhxngxisaaeblwacangexirlaehnglingkhxrnaelaexirlaehngephmobrkihkacdekfstnlngcakxanac ekfstnthukenrethsxikkhrngipixraelndinchwngplaypi aetkidklbmainpi kh s 1309 hlngklbmacakkarthukenrethskhrngni khwamsmphnthkhxngekhakbphrarachiniducaphthnaipinthangthidikhun karepnkhnoprdkhxngphraecaexdewirdthi 2 kratunihkhunnangkhnxun inrachsankrisyaekfstn xikthngxupnisythiaekhngkrawkhxngekhayingthaihthukxyangelwraylng inchwngpi kh s 1310 khwamimphxicinhmukhunnangrunaerngmakcnkstriythukbibihtngkhnakhunnangphubyyti Lord Ordainers xnprakxbdwyexirl barxn aelabichxp canwn 21 khn khunmaptirupkarbriharcdkarkhrweruxnkhxngkstriy khnathikstriynathphipthasukinskxtaelndaetimsamarthkarab ineduxnsinghakhm kh s 1311 khnakhunnangphubyytimikhasngenrethsekfstnxyangthawr odyimxnuyatihekhaklbmaxik phraecaexdewirdthi 2 esnxkhxaelkepliynyindithathukxyangephuxihekfstnidxyutx aetkhnakhunnangphubyytiimrbkhxesnx ineduxnphvscikaynkhnoprdkhxngphraxngkhtxngedinthangxxkcakpraeths inrahwangkarthukenrethskhrngthisamni markaert edx aekhlr phrryakhxngephiyrsidihkaenidbutrsawnamwaocn ekfstn phraecaexdewirdthi 2 thumengin 40 pxnd hrux 100 000 pxndemuxethiybkbkhaengininpccubn ephuxcdnganeliyngchlxngkarekidkhxngocnepnrayaewlahnungspdahkaresiychiwitkhxngkhnoprdkhxngkstriyphaphsirsakhxngephiyrs ekfstn exirlthi 1 aehngkhxrnwxllthukyunaesdngaekthxms exirlthi 2 aehngaelngkhsetxr hmfriy edx obhn exirlthi 4 aehngehrifxrd aelaexdmnd fitsxln exirlthi 9 aehngxarnedl in phngsawdarxngkvs odyecms wileliym exdmnd dxyl pi kh s 1864 aemekfstncaipxyuthi aetineduxnmkrakhm kh s 1312 ekhaaexbklbmaxngkvs snnisthanknwaepnephraakhwamepnhwngphrryathiephingkhlxdlukhruximktxngkarehnhnabutrsaw phraecaexdewirdmiprakasihkarenrethsekfstnepnkarkrathathiphidkdhmay thrngkhunthrphysinthiribmathnghmdihaekekha ehlabarxncunghyibxawuthkhunmatxsukbkstriycnekidepnsngkhramklangemuxng kstriyaelaekfstnekuxbthuk sungepnbutrchaykhxngexdmndhlngkangekhn phraxnuchakhxngphraecaexdewirdthi 1 cbtwidthiniwkhasesil thngkhurwmthungphrarachini sungkhnannkalngtngkhrrphphraecaexdewirdthi 3 thukklumexirlthangtxnehnuxkhxngxngkvsthikalngokrthiltxncntxnghnithangthaelip klumkhunnangidwangaephnxyangaeybylcnthaihphraecaexdewirdthi 2 aelaphrarachiniedinthangipthixunodythingekfstniwthi exirlaehngephmobrkaelaexirlaehngwxrikidthakarpidlxmprasath krathngineduxnphvsphakhm ekfstnyxmcanntxxyangmienguxnikh khux hakphayineduxnsinghakhmklumkhunnangyngimbrrlukhxtklngkbkstriy ekhacaedinthangklbprasathskarebxor inchwngthikstriykbklumexirlkalngecrcathakhxtklngkn exirlaehngephmobrkidrbrxngkhwamplxdphyaekekfstnaelathingekhaiwinedddingtnodyirkarkhumkndwykhwampramathelinelxhruxxaccadwykhwamtngic wntxmaidekhaocmtiprasathaelacbkumtwekfstn ekhathuknatwipwxrikephuxekharbkarphicarnakhdiodymithxms exirlthi 2 aehngaelngkhsetxr aelaruehnepnickn ekfstnthuktdsinwamikhwamphidthankbtaelatxngothspraharchiwit ekhathuknatwkhunipbnyxdaeblkolwhillaelathuktdhwdwydabinwnthi 19 mithunayn kh s 1312 khnamixayuid 28 pi rangkhxngekhathukthingihenathinn aettxmathukekbipdxngaelafngthisasnsthandxminiknthikhingsaelngliyinhartfxrdechxr aemcathukpraharchiwitin aetelaluxknwawiyyankhxngekhawnewiynxyuinprasathskarebxor karpraharchiwitkhxngekfstnthaihphraecaexdewirdthi 2 rusukthukhminphraekiyrtiaelaesiyicepnxyangmakxangxingAncient Origins Piers Gaveston Exile Secrets and Jealousy Marked the Life of the Favorite of King Edward II British Heritage Travel King Edward II amp Piers Gaveston The Real Story Of The King amp His Husband English Heritage PIERS GAVESTON HUGH DESPENSER AND THE DOWNFALL OF EDWARD II History Today Piers Gaveston Executed