เน็กไท (อังกฤษ: necktie) มีวิวัฒนาการมาจากคราแวต (cravat) โดยช่างตัดเสื้อชาวอเมริกัน Jesse Langsdorf ได้ออกแบบโดยการตัดผ้าเฉียง ๆ และจดสิทธิบัตรไว้ในปี ค.ศ. 1924 จนคริสต์ทศวรรษ 1950 เน็กไทได้รับความนิยมสูงสุดจนเป็นที่มาของประโยค a man wasn't fully dressed until he had put on his tie. (ผู้ชายยังแต่งตัวไม่เต็มที่ถ้าไม่ได้ผูกไท)
เน็กไทเริ่มกลายเป็นแฟชั่นในคริสต์ทศวรรษ 1970 โดย Ralph Lauren ห้องเสื้อชื่อดังแห่งอเมริกาได้ออกแบบเน็กไทที่มีความกว้าง 10 เซนติเมตร ในคริสต์ทศวรรษ 1980 มีการวาดและพิมพ์งานศิลปะของศิลปินลงบนเน็กไท
ถึงแม้ว่าเน็กไทจะได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก แต่ชาวตะวันออกกลางไม่เคยสนใจวัฒนธรรมตะวันตกเลย ส่วนมากจะสวมเพียงและหนึ่งตัวก็เป็นทางการแล้ว แม้แต่ประเทศโบลิเวียซึ่งอยู่ทางตอนกลางของทวีปอเมริกาใต้ก็ไม่ได้หลงใหลวัฒนธรรมตะวันตกทั้งหมด
ในปัจจุบันวิธีผูกเน็กไทที่นิยมตามแบบสากลซึ่งมีการใช้ในประเทศไทยมี 5 วิธี ได้แก่ ซิมเปิลนอต, ฟอร์อินแฮนด์นอต, ฮาล์ฟวินด์เซอร์นอต, ทราดิชันนัลวินด์เซอร์นอต และแพรตนอต (เชลบีนอต)
อ้างอิง
- ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมคำใหม่ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม 1-2. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์, 2557, หน้า 187.
- หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2551
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
enkith xngkvs necktie miwiwthnakarmacakkhraaewt cravat odychangtdesuxchawxemrikn Jesse Langsdorf idxxkaebbodykartdphaechiyng aelacdsiththibtriwinpi kh s 1924 cnkhristthswrrs 1950 enkithidrbkhwamniymsungsudcnepnthimakhxngpraoykh a man wasn t fully dressed until he had put on his tie phuchayyngaetngtwimetmthithaimidphukith twxyangenkith enkitherimklayepnaefchninkhristthswrrs 1970 ody Ralph Lauren hxngesuxchuxdngaehngxemrikaidxxkaebbenkiththimikhwamkwang 10 esntiemtr inkhristthswrrs 1980 mikarwadaelaphimphngansilpakhxngsilpinlngbnenkith thungaemwaenkithcaidrbkhwamniymipthwthukmumolk aetchawtawnxxkklangimekhysnicwthnthrrmtawntkely swnmakcaswmephiyngaelahnungtwkepnthangkaraelw aemaetpraethsobliewiysungxyuthangtxnklangkhxngthwipxemrikaitkimidhlngihlwthnthrrmtawntkthnghmd inpccubnwithiphukenkiththiniymtamaebbsaklsungmikarichinpraethsithymi 5 withi idaek simepilnxt fxrxinaehndnxt halfwindesxrnxt thradichnnlwindesxrnxt aelaaephrtnxt echlbinxt xangxingrachbnthitysthan phcnanukrmkhaihm chbbrachbnthitysthan elm 1 2 krungethph nanmibukhsphbliekhchns 2557 hna 187 hnngsuxphimphkrungethphthurkic chbbwnxngkharthi 19 singhakhm ph s 2551