เซซิล จอห์น โรดส์ (อังกฤษ: Cecil John Rhodes; 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1853 – 26 มีนาคม ค.ศ. 1902) เป็นนักการเมืองชาวอังกฤษและผู้ทรงอิทธิพลด้านการทำเหมืองแร่ในภูมิภาคแอฟริกาใต้ เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาณานิคมแหลมตั้งแต่ ค.ศ. 1890 ถึง ค.ศ. 1896 โรดส์เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของลัทธิจักรวรรดินิยมอังกฤษในทวีปแอฟริกา เขาและมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งดินแดนโรดีเชีย (ปัจจุบันคือประเทศแซมเบียและซิมบับเว) ซึ่งภูมิภาคนี้ได้รับการตั้งชื่อตามเขาใน ค.ศ. 1895 โรดส์ยังมีวิสัยทัศน์ในการสร้างที่เชื่อมอาณานิคมของอังกฤษ และจัดตั้ง (Rodes Scholarship) เพื่อสนับสนุนการศึกษาด้วยทรัพย์มรดกของเขา
เซซิล โรดส์ | |
---|---|
โรดส์ ป.ค.ศ. 1900 | |
นายกรัฐมนตรีอาณานิคมแหลม คนที่ 7 | |
ดำรงตำแหน่ง 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1890 – 12 มกราคม ค.ศ. 1896 | |
กษัตริย์ | สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย |
ผู้ว่าการ | เซอร์ เซอร์ เซอร์ |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | เซซิล จอห์น โรดส์ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1853 ฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ |
เสียชีวิต | 26 มีนาคม ค.ศ. 1902 อาณานิคมแหลม | (48 ปี)
ที่ไว้ศพ | ประเทศซิมบับเว |
เชื้อชาติ | บริติช |
พรรคการเมือง | |
ความสัมพันธ์ | (พี่ชาย) |
ศิษย์เก่า | |
อาชีพ |
|
ลายมือชื่อ | |
โรดส์เกิดที่ฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ในครอบครัวของวิการ์ (vicar) ด้วยสุขภาพที่อ่อนแอตั้งแต่วัยเยาว์ ครอบครัวจึงส่งตัวเขาไปยังแอฟริกาใต้เมื่ออายุ 17 ปี โดยเชื่อว่าสภาพอากาศอบอุ่นจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพของเขาได้ ต่อมาเมื่ออายุ 18 ปี เขาเข้าสู่วงการค้าเพชรที่เมืองคิมเบอร์ลีย์ และเริ่มสร้างเครือข่ายธุรกิจด้วยการซื้อและควบรวมกิจการเหมืองเพชรอย่างเป็นระบบ โดยได้รับเงินสนับสนุนจาก (Rothschild & Co) ภายในเวลา 20 ปี เขาได้ผูกขาดตลาดค้าเพชรเกือบทั้งหมดในโลก และได้ก่อตั้งบริษัทเดอเบียร์สใน ค.ศ. 1888 ซึ่งยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเพชรในศตวรรษที่ 21
โรดส์เข้าสู่เมื่ออายุ 27 ปี และได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีใน ค.ศ. 1890 ในช่วงดำรงตำแหน่ง เขาใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อผลักดันกฎหมายที่จำกัดสิทธิของชาวแอฟริกันผิวดำ เช่น ที่ริบที่ดินจากชาวพื้นเมือง และที่เพิ่มเกณฑ์ทรัพย์สินสำหรับการลงคะแนนเสียง เพื่อกีดกันชาวแอฟริกันผิวดำจากการเลือกตั้ง โรดส์ลาออกจากตำแหน่งใน ค.ศ. 1896 หลังที่ล้มเหลวในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (หรือทรานส์วาล) ในช่วงหลังสุขภาพของเขาทรุดโทรมลง และถึงแก่แสัญกรรมใน ค.ศ. 1902 อัฐิของเขาถูกฝังในประเทศซิมบับเว และหลุมศพของเขากลายเป็นประเด็นถกเถียงในเวลาต่อมา
แม้โรดส์จะมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ แต่สิ่งสืบเนื่องจากผลงานและแนวคิดของเขายังคงเป็นที่ถกเถียงจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการยึดครองที่ดินของชาวพื้นเมืองผิวดำและการสนับสนุนลัทธิจักรวรรดินิยม ตัวอย่างเช่น การอ้างเท็จว่าแหล่งโบราณคดีสำคัญในแอฟริกาตอนใต้อย่างถูกสร้างขึ้นโดยอารยธรรมยุโรป การกระทำเหล่านี้ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และรณรงค์ต่อต้านในยุคปัจจุบัน เช่น ขบวนการโรดส์มัสต์ฟอลล์ (Rhodes Must Fall) ซึ่งมุ่งท้าทายผลกระทบทางประวัติศาสตร์และสังคมจากมรดกของเขาในแอฟริกาใต้และภูมิภาคอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ในความปรารถนาสุดท้าย โรดส์ได้ก่อตั้งทุนการศึกษาโรดส์ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ซึ่งถือเป็นทุนการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยมอบทุนให้แก่ผู้รับจำนวน 102 ทุนในแต่ละปี ทุนนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนบุคคลผู้มีศักยภาพทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงนายกรัฐมนตรีของมอลตา ออสเตรเลีย และแคนาดา ตลอดจนบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ
บรรพบุรุษ
โรดส์เกิดเมื่อ ค.ศ. 1853 ในเมือง มณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นบุตรชายคนที่ห้าของบาทหลวงฟรานซิส วิลเลียม โรดส์ (ค.ศ. 1807–1878) และลุยซา พีค็อก ผู้เป็นภรรยา ฟรานซิสเป็นเคลอจีในคริสตจักรแห่งอังกฤษ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งคูเรตถาวร (perpetual curate) ประจำที่เบรนท์วูด มณฑลเอสเซกซ์ (ค.ศ. 1834–1843) และต่อมาเป็นวิการ์ (vicar) ในบิชอปส์สตอร์ตฟอร์ด (ค.ศ. 1849–1876) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าไม่เคยเทศนาเกินสิบนาที
ฟรานซิสเป็นบุตรชายคนโตของวิลเลียม โรดส์ (ค.ศ. 1774–1855) ผู้ประกอบการผลิตอิฐจาก มณฑลมิดเดิลเซกซ์ ครอบครัวนี้เป็นเจ้าของที่ดินที่สำคัญในและ กรุงลอนดอน ซึ่งเซซิลจะได้รับมรดกในเวลาต่อมา
บรรพบุรุษที่สืบสายตรงที่สุดของเซซิล โรดส์ คือ เจมส์ โรดส์ (มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1660) จากหมู่บ้านวิทมอร์ มณฑลสแตฟฟอร์ดเชอร์ เซซิลมีพี่น้อง คือ ซึ่งเป็นนายทหารกองทัพสหราชอาณาจักร
มุมมองทางการเมือง
โรดส์ต้องการขยายจักรวรรดิบริติช เพราะเขาเชื่อว่าเชื้อชาติแองโกล-แซกซันถูกลิขิตมาให้สูงส่ง ใน ค.ศ. 1877 ขณะที่เขายังเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เขาได้เขียนถึงแนวคิดนี้ไว้ในเอกสารที่เขาเรียกว่า "ร่างแนวคิดบางส่วนของข้าพเจ้า" โดยระบุว่า "ข้าพเจ้ายืนยันว่าเราคือเชื้อชาติอันดับหนึ่งของโลก และยิ่งเราได้ครอบครองโลกมากเท่าไร มันก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ข้าพเจ้ายืนยันว่าทุกเอเคอร์ที่เพิ่มเข้ามาในอาณาเขตของเรา หมายถึงการเกิดของเชื้อชาติอังกฤษที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่มีพื้นที่เหล่านั้น ผู้คนเหล่านี้อาจไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นเลย" โรดส์ยังแสดงความเสียใจที่ไม่มีดินแดนให้พิชิตเหลืออยู่มากนัก และกล่าวว่า "การได้เห็นดวงดาวในยามค่ำคืน โลกอันกว้างใหญ่ที่เราไม่สามารถไปถึงได้ ข้าพเจ้าอยากยึดครองดาวเคราะห์ต่าง ๆ หากข้าพเจ้าทำได้ ข้าพเจ้ามักจะคิดถึงเรื่องนี้ มันทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกโศกเศร้าที่ได้เห็นมันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังอยู่ไกลเกินเอื้อม"
นอกจากนี้ โรดส์มองว่าจักรวรรดินิยมเป็นวิธีแก้ปัญหาสังคมภายในประเทศ เขากล่าวว่า "เพื่อช่วยชีวิตประชากร 40 ล้านคนในสหราชอาณาจักรจากสงครามกลางเมืองอันนองเลือด เราผู้เป็นรัฐบุรุษอาณานิคมจึงต้องเข้ายึดดินแดนใหม่เพื่อให้ประชากรส่วนเกินสามารถตั้งรกรากได้ และเพื่อเปิดตลาดใหม่สำหรับสินค้าที่ผลิตในโรงงานและเหมืองแร่ วลี "จักรวรรดิ" อย่างที่ข้าพเจ้ากล่าวตลอด เป็นเรื่องของปากท้อง หากท่านต้องการหลีกเลี่ยงสงครามกลางเมือง ท่านต้องเป็นนักจักรวรรดินิยม"
โรดส์ต้องการพัฒนาเครือจักรภพ โดยทุกประเทศที่อยู่ภายใต้จักรวรรดิบริติชจะมี เขายังระบุไว้ชัดเจนในพินัยกรรมของเขาว่าทุกเชื้อชาติควรมีสิทธิได้รับทุนการศึกษา มีการกล่าวว่าเขาต้องการสร้างชนชั้นนำชาวอเมริกันที่เป็น ซึ่งจะทำให้สหรัฐกลับมารวมอยู่ในจักรวรรดิอีกครั้ง นอกจากนี้ เนื่องจากโรดส์เคารพและชื่นชมชาวเยอรมันและจักรพรรดิ เขาจึงอนุญาตให้นักศึกษาเยอรมันมีสิทธิได้รับทุนการศึกษาโรดส์ด้วย เขาเชื่อว่าท้ายที่สุดสหราชอาณาจักร (รวมถึงไอร์แลนด์) สหรัฐ และเยอรมนีจะร่วมกันครอบครองโลกและรักษาสันติภาพชั่วนิรันดร์[]
มุมมองของโรดส์เกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกัน บ้างระบุว่าเขาสนับสนุนสิทธิของชาวแอฟริกันพื้นเมืองในการออกเสียง แต่ก็มีผู้วิจารณ์ที่เรียกเขาว่าเป็น "สถาปนิกของการถือผิว" และเป็น "พวกที่เชื่อว่าคนผิวขาวนั้นสูงส่ง" โดยเฉพาะตั้งแต่ ค.ศ. 2015 เป็นต้นมา มากูบาเนกล่าวว่าโรดส์ไม่พอใจที่ในหลายเขตเลือกตั้งของอาณานิคมแหลม เขากังวลว่าชาวแอฟริกันอาจมีบทบาทสำคัญ หากมีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนมากขึ้นตามกฎหมายในขณะนั้น [หมายถึงพระราชบัญญัติสิทธิลงคะแนนเสียงที่ได้รับการรับรอง] เขาเสนอว่า "ชาวพื้นเมืองควรถูกปฏิบัติเหมือนเด็กและถูกปฏิเสธสิทธิเลือกตั้ง เราจำเป็นต้องนำระบบเผด็จการแบบอินเดียมาใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ของเรากับชนป่าเถื่อนในแอฟริกาใต้" โรดส์สนับสนุนการปกครองชาวแอฟริกันพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในอาณานิคมแหลมภายใต้ "สถานะของชนป่าเถื่อนและการครอบครองร่วมกัน" ในฐานะ "ชนชาติที่อยู่ภายใต้การปกครอง" โดยเขากล่าวว่า "ข้าพเจ้าไม่ได้เห็นด้วยกับสมาชิกจากวิกตอเรียเวสต์ที่ไม่ต้องการให้คนผิวดำมีสิทธิออกเสียง ... หากคนผิวขาวรักษาสถานะของตนในฐานะชนชาติสูงสุดไว้ได้ วันหนึ่งเราอาจรู้สึกขอบคุณที่เรายังมีชาวพื้นเมืองอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมของพวกเขา"
เขาเคยกล่าวว่า "ข้าพเจ้าชอบที่ดินมากกว่าคนผิวดำ" และเรียกเชื้อชาติ "แองโกล-แซกซัน" ว่าเป็น "ชนชาติที่ดีที่สุด มีมนุษยธรรมที่สุด และทรงเกียรติที่สุดในโลก" เขาเชื่อว่าดินแดนที่ถูก "ตัวอย่างที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์" ครอบครอง ควรถูกแองโกล-แซกซันยึดครอง
อย่างไรก็ตาม มุมมองเหล่านี้ถูกบางฝ่ายโต้แย้ง นักประวัติศาสตร์ เรย์มอนด์ ซี. เมนซิง กล่าวว่าโรดส์มีชื่อเสียงในฐานะตัวอย่างที่เด่นชัดของจิตวิญญาณจักรวรรดิบริติช และมักเชื่อว่าสถาบันของบริเตนดีที่สุด เมนซิงอ้างว่าโรดส์พัฒนาความคิดเกี่ยวกับสหพันธ์จักรวรรดิในแอฟริกาอย่างเงียบ ๆ และความคิดเห็นของเขาในช่วงหลังมีความสมดุลและสมเหตุสมผลมากขึ้น เมนซิงชี้ว่า "โรดส์ไม่ได้เป็น หากแต่เป็น" ใน ค.ศ. 2016 ศาสตราจารย์ไนเจล บิกการ์ แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เขียนบทความในเดอะไทมส์ว่า ถึงแม้โรดส์จะเป็นนักจักรวรรดินิยม แต่ข้อกล่าวหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาตินั้นไม่มีมูลความจริง โดยบทความใน ค.ศ. 2021 บิกการ์ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า
หากโรดส์เป็นผู้เหยียดเชื้อชาติ เขาคงไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวแอฟริกันรายบุคคลได้ และคงไม่เห็นว่าชาวแอฟริกันมีความสามารถในการพัฒนาอารยธรรม นอกจากนี้ เขาคงไม่สนับสนุนสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนของพวกเขา และคงไม่ระบุในพินัยกรรมสุดท้ายของเขาในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1899 ว่าทุนการศึกษาที่มีชื่อของเขาไม่ควรคำนึงถึง 'เชื้อชาติ' แต่เขากลับทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
ในด้านการเมืองภายในสหราชอาณาจักร โรดส์สนับสนุน ผลกระทบหลักที่เขามีต่อการเมืองอังกฤษ คือ การสนับสนุนอย่างมหาศาลต่อพรรคชาตินิยมไอริชที่นำโดย (ค.ศ. 1846–1891)
โรดส์มีความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานร่วมกับชาวอาฟรีกาเนอร์ในอาณานิคมแหลม โดยเขาสนับสนุนการสอนภาษาดัตช์ควบคู่ไปกับภาษาอังกฤษในโรงเรียนรัฐบาล ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาณานิคมแหลม เขาช่วยยกเลิกข้อจำกัดทางกฎหมายส่วนใหญ่ที่เคยมีต่อชาวอาฟรีกาเนอร์ โรดส์ยังเป็นเพื่อนกับยาน ฮอฟเมเยอร์ (Jan Hofmeyr) ผู้นำสหภาพอาฟรีกาเนอร์ (Afrikaner Bond) และเป็นเพราะการสนับสนุนจากชาวอาฟรีกาเนอร์ที่ทำให้เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ โรดส์ยังสนับสนุนการปกครองตนเองที่มากขึ้นสำหรับอาณานิคมแหลม ซึ่งสอดคล้องกับความชอบของเขาที่ต้องการให้จักรวรรดิอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ตั้งถิ่นฐานและนักการเมืองในท้องถิ่นมากกว่าการควบคุมจากลอนดอน
นักวิชาการและนักเขียนชาวซิมบับเว ปีเตอร์ ก็อดวิน (Peter Godwin) ซึ่งมีท่าทีวิจารณ์โรดส์ ระบุว่าควรมองโรดส์ผ่านมุมมองทางวัฒนธรรมและสังคมในยุคของเขา โดยก็อดวินชี้ว่า "โรดส์ไม่ใช่ฮิตเลอร์แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 19 เขาไม่ใช่ตัวประหลาดแต่เป็นคนในยุคสมัยของเขาเอง...โรดส์และผู้บุกเบิกผิวขาวในแอฟริกาใต้ประพฤติในลักษณะที่น่ารังเกียจตามมาตรฐานในปัจจุบัน แต่ไม่ได้แย่ไปกว่าผู้ตั้งถิ่นฐานผิวขาวในอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย และในบางแง่มุมอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะการสังหารหมู่ชนพื้นเมืองในแอฟริกานั้นไม่สมบูรณ์เท่ากับในทวีปอื่น ๆ อดีตอาณานิคมแอฟริกาทั้งหมดในปัจจุบันปกครองโดยชนพื้นเมือง ซึ่งแตกต่างจากในอเมริกาและออสเตรเลียที่ชนพื้นเมืองส่วนใหญ่แทบถูกกำจัดหมดสิ้น"
ก็อดวินยังกล่าวเสริมว่า "โรดส์และกลุ่มพรรคพวกของเขาปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมและยึดถือคุณธรรม (หรือขาดมัน) ของยุคสมัยได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งตามปรกติแล้ว ประวัติศาสตร์ก็มักดำเนินไปตามแรงดึงดูดของอำนาจที่เหนือกว่า"
สิ่งสืบเนื่อง
โรดส์ตกเป็นเป้าของเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยนักประวัติศาสตร์บางคนมองว่าเขาเป็นนักจักรวรรดินิยมที่ไร้ความปรานีและเป็นพวกที่เชื่อว่าคนผิวขาวนั้นสูงส่ง (white supremacist) ในประเทศซิมบับเว หลุมศพของเขาที่ตั้งอยู่ในเนินเขามาโตโบยังคงเป็นประเด็นถกเถียงอย่างต่อเนื่อง ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 เคน มาเธมา (Cain Mathema) ผู้ว่าราชการเมืองบูลาวาโย ได้ประณามหลุมศพของโรดส์ว่าเป็น "การดูหมิ่นบรรพบุรุษชาวแอฟริกัน" และเชื่อว่าการมีอยู่ของหลุมศพนี้นำมาซึ่งโชคร้ายและสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในภูมิภาคดังกล่าว
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 กลุ่มผู้ภักดีต่อรอเบิร์ต มูกาบี และนักเคลื่อนไหวของแนวร่วมรักชาติของสหภาพแห่งชาติแอฟริกันซิมบับเว (ZANU-PF) เดินทางไปยังที่ไว้ศพของโรดส์เพื่อขออนุญาตจากผู้นำท้องถิ่นในการขุดย้ายอัฐิของเขาเพื่อนำกลับไปยังอังกฤษ หลายฝ่ายมองว่านี่เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองในช่วงก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้นำท้องถิ่นมาซูกู และกอดฟรีย์ มาฮาชี นักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญของประเทศ ได้คัดค้านแนวคิดการย้ายหลุมศพอย่างหนักแน่น โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของหลุมศพที่มีต่อประเทศซิมบับเว ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีมูกาบีก็แสดงการคัดค้านแนวคิดดังกล่าวเช่นกัน ใน ค.ศ. 2004 โรดส์ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 56 ในรายการโทรทัศน์ (Great South Africans) ของช่องเอสเอบีซี 3 นอกจากนี้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งหนึ่งที่เมืองกเวรู ในภูมิภาคมิดแลนด์ของประเทศซิมบับเว ยังได้รับการตั้งชื่อตามเขา อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 2000 ระหว่างช่วงที่การปฏิรูปที่ดินและความตึงเครียดทางเชื้อชาติกำลังรุนแรง นักการเมืองของแนวร่วมรักชาติได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนทั่วประเทศที่เกี่ยวข้องกับยุคอาณานิคม แต่ความพยายามดังกล่าวส่วนใหญ่ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็น ทั้งยังมองว่าชื่อสถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่สะท้อนถึงอัตลักษณ์และมรดกทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของประเทศ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับประวัติศาสตร์ของประเทศและเปิดโอกาสให้ตั้งชื่อใหม่สำหรับสถานที่ใหม่ ๆ ในเมืองที่กำลังขยายตัว
ในพินัยกรรมฉบับที่สองของเขา ซึ่งเขียนขึ้นในช่วงก่อนที่เขาจะมั่งคั่งใน ค.ศ. 1877 เขาได้แสดงความปรารถนาที่จะสร้างสมาคมลับซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้โลกทั้งใบอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ นักชีวประวัติของเขาอธิบายแนวคิดนี้ว่าเป็น "จินตนาการที่กว้างไกล" โรดส์วาดฝันถึงสมาคมลับนี้เพื่อขยายอิทธิพลของอังกฤษไปทั่วโลก รวมถึงจีน ญี่ปุ่น แอฟริกา อเมริกาใต้ และแม้กระทั่งสหรัฐอเมริกา ดังที่ระบุไว้ว่า
เพื่อการก่อตั้ง ส่งเสริม และพัฒนาสมาคมลับ อันมีเป้าหมายแท้จริงในการขยายการปกครองของอังกฤษไปทั่วโลก เพื่อความสมบูรณ์แบบของระบบการย้ายถิ่นฐานจากสหราชอาณาจักร และของการตั้งถิ่นฐานโดยชาวอังกฤษในทุกหนแห่งที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความพากเพียร การทำงาน และความมุ่งมั่น เพื่อการปรับปรุงระบบการย้ายถิ่นฐานจากสหราชอาณาจักร และการตั้งถิ่นฐานโดยชาวอังกฤษในทุกดินแดนที่สามารถดำรงชีวิตด้วยความพากเพียร การทำงาน และความมุ่งมั่น โดยเฉพาะการตั้งถิ่นฐานของชาวอังกฤษในทวีปแอฟริกาทั้งหมด แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ หุบเขาแม่น้ำยูเฟรทีส เกาะไซปรัสและครีต ทวีปอเมริกาใต้ หมู่เกาะแปซิฟิกที่ยังไม่ได้อยู่ในการครอบครองของอังกฤษ หมู่เกาะมาเลย์ ชายฝั่งของจีนและญี่ปุ่น รวมถึงการฟื้นฟูสหรัฐอเมริกาให้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษอย่างสมบูรณ์ เพื่อการริเริ่มระบบตัวแทนอาณานิคมในรัฐสภาแห่งจักรวรรดิ ซึ่งอาจนำไปสู่การเชื่อมโยงอาณานิคมที่แตกแยกให้เป็นหนึ่งเดียว และท้ายที่สุด เพื่อสร้างมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่จนสามารถทำให้สงครามหมดสิ้น และส่งเสริมผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของมนุษยชาติ
— เซซิล โรดส์
พินัยกรรมฉบับสุดท้ายของโรดส์ที่เขียนขึ้นในช่วงที่เขามั่งคั่งแล้วมีเป้าหมายที่เป็นจริงมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การมอบทุนการศึกษา เขายังมอบที่ดินผืนใหญ่บนเชิงภูเขาโต๊ะให้แก่ประเทศแอฟริกาใต้ ส่วนหนึ่งของที่ดินนี้กลายเป็นวิทยาเขตส่วนบนของมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ อีกส่วนหนึ่งกลายเป็น และพื้นที่บางส่วนได้รับการอนุรักษ์ไว้จากการพัฒนา ซึ่งปัจจุบันเป็นเขตอนุรักษ์ที่สำคัญ นอกจากนี้ ในประเทศแอฟริกาใต้ก็ได้รับการตั้งชื่อตามเขาเช่นกัน
ทุนการศึกษาโรดส์
ในพินัยกรรมฉบับสุดท้าย โรดส์ได้จัดตั้ง ซึ่งในช่วงครึ่งศตวรรษก่อนหน้านี้ ทางรัฐบาล มหาวิทยาลัย และบุคคลในอาณานิคมต่าง ๆ ได้เริ่มจัดตั้งทุนการศึกษาสำหรับการเดินทางในลักษณะนี้ ดังนั้นทุนของโรดส์จึงเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางที่มีอยู่แล้ว ทุนนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาชายจาก รวมถึงเยอรมนี ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ซึ่งเป็นสถาบันที่โรดส์เคยศึกษา เป้าหมายของโรดส์คือการส่งเสริมภาวะผู้นำที่มีจิตสาธารณะและมีคุณธรรม รวมถึงการ "ทำให้สงครามเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้" โดยส่งเสริมมิตรภาพระหว่างมหาอำนาจ
อนุสรณ์
อนุสรณ์สถานโรดส์ ตั้งอยู่บนจุดที่โรดส์โปรดปรานบนยอดเดวิล เมืองเคปทาวน์ โดยหันหน้ามองไปทางทิศเหนือและตะวันออกสู่เส้นทาง ตั้งแต่ ค.ศ. 1910 ถึง ค.ศ. 1984 บ้านของโรดส์ในเคปทาวน์ที่ชื่อว่า เคยเป็นที่พักอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีแอฟริกาใต้ และต่อมาใช้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดี
บ้านเกิดของโรดส์ถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ใน ค.ศ. 1938 ในชื่อ "พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์โรดส์" ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ (Bishops Stortford Museum) ส่วนกระท่อมในมิวเซนเบิร์ก (Muizenberg) ที่เขาถึงแก่กรรมนั้นเป็นแหล่งมรดกประจำจังหวัดเวสเทิร์นเคป ปัจจุบันกระท่อมดังกล่าวเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ภายใต้การดูแลของสมาคมอนุรักษ์ประวัติศาสตร์มิวเซนเบิร์ก และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ ภายในจัดแสดงสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับโรดส์มากมาย รวมถึงโต๊ะประชุมเดิมของบริษัทเดอเบียร์ส ซึ่งใช้ในการซื้อขายเพชรมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์[]
วิทยาลัยอุดมศึกษาโรดส์ หรือปัจจุบัน คือ ที่ตั้งอยู่ในเมือง ก่อตั้งขึ้นตามชื่อของเขาโดยผู้จัดการทรัพย์สิน และก่อตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติรัฐสภาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1904
พลเมืองคิมเบอร์ลีย์ เลือกสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูเกียรติของโรดส์ในเมืองของพวกเขา อนุสรณ์นี้เปิดตัวใน ค.ศ. 1907 โดยเป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์น้ำหนัก 72 ตัน แสดงภาพโรดส์ขี่ม้า หันหน้าไปทางทิศเหนือ ถือแผนที่ในมือ และแต่งกายเหมือนเมื่อครั้งเขาพบกับชาวอึงเดเบเลหลังการ
เซซิล จอห์น โรดส์ ผู้ก่อตั้งประเทศโรดีเชีย (ปัจจุบันคือประเทศซิมบับเว) ได้เยือนเมืองนยังกา (Nyanga) บริเวณที่สูงทางตะวันออกของประเทศครั้งแรกใน ค.ศ. 1897 เขาประทับใจกับความงดงามของพื้นที่ และซื้อที่ดินรวม 40,000 เฮกตาร์ จากนั้นได้นำเข้าปศุสัตว์จากโมซัมบิกและพัฒนาแปลงปลูกแอปเปิลและผลไม้อย่างกว้างขวาง เมื่อเขาถึงแก่อสัญกรรมใน ค.ศ. 1902 โรดส์ได้มอบที่ดินส่วนใหญ่ให้แก่ประเทศชาติ ที่ดินเหล่านี้ปัจจุบันกลายเป็น (Nyanga National Park) บ้านไร่ดั้งเดิมของโรดส์ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยมและปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมโรดส์นยังกา (Rhodes Nyanga Hotel)
การต่อต้าน
การสร้างอนุสรณ์แด่โรดส์ถูกต่อต้านตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 โดยมีนักศึกษาบางกลุ่มเรียกร้องให้ถอดรูปปั้นของโรดส์ออกจากมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ ใน ค.ศ. 2015 ขบวนการที่เรียกว่า "โรดส์มัสต์ฟอลล์" (หรือ #RhodesMustFall ในโซเชียลมีเดีย) เริ่มต้นขึ้นจากการประท้วงของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคปทาวน์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ทางมหาวิทยาลัยถอดรูปปั้นโรดส์ออกจากบริเวณมหาวิทยาลัย การประท้วงนี้ยังมีเป้าหมายที่กว้างขึ้นในการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างด้านเชื้อชาติในสถาบันต่าง ๆ ของแอฟริกาใต้หลังยุคการถือผิว
หลังจากการประท้วงและการทำลายรูปปั้นในมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ การเคลื่อนไหวที่ต่อต้านอนุสรณ์สถานของโรดส์ก็ได้ขยายไปยังประเทศอื่น ๆ รวมถึงการรณรงค์เปลี่ยนชื่อ และเรียกร้องให้ถอดรูปปั้นโรดส์ออกจาก มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการกล่าวถึงในสารคดีของแชนแนลโฟร์ในชื่อ "The Battle for Britain’s Heroes" ซึ่งจัดทำขึ้นหลังจากอาฟัว เฮิร์ช (Afua Hirsch) เขียนบทความเกี่ยวกับหัวข้อนี้ นอกจากนี้ อามิต ชัวธูรี (Amit Chaudhuri) ยังได้เขียนบทความในหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน โดยระบุว่าการวิจารณ์โรดส์เป็นสิ่งที่ "ไม่น่าแปลกใจและล่าช้ามานาน" ขณะที่เคฮินเด แอนดรูว์ (Kehinde Andrews) นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาของคนผิวดำ ได้สนับสนุนการเคลื่อนไหว #RhodesMustFall อย่างแข็งขัน อย่างไรก็ตาม ใน ค.ศ. 2016 วิทยาลัยโอเรียลเลือกที่จะเก็บรูปปั้นของโรดส์ไว้ โดยอ้างว่าการถอดรูปปั้นอาจทำให้สูญเสียเงินบริจาคกว่า 100 ล้านปอนด์ แต่ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 วิทยาลัยได้ลงมติสนับสนุนการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนอิสระ ท่ามกลางการสนับสนุนอย่างกว้างขวางสําหรับการถอดรูปปั้น รูปปั้นของโรดส์ถูกสร้างขึ้นในเมืองบูลาวาโยใน ค.ศ. 1904 ในใจกลางเมือง โดยหลังจาก ค.ศ. 1981 หลังจากประเทศได้รับเอกราช รูปปั้นถูกย้ายไปยังสวนร้อยปีที่
สารานุกรมบริแทนนิกากล่าวถึงสิ่งสืบเนื่องของโรดส์ไว้ว่า "เขาเคยกล่าวว่านโยบายของเขาคือ 'สิทธิที่เท่าเทียมกันสำหรับคนผิวขาวทุกคนทางตอนใต้ของแม่น้ำแซมบีซี' และต่อมาแก้ไขเป็น 'คนที่มีอารยะ' ภายใต้แรงกดดันจากกลุ่มเสรีนิยม แต่สำหรับโรดส์ ความเป็นไปได้ที่ชาวแอฟริกันพื้นเมืองจะถูกมองว่า 'มีอารยะ' นั้นช่างห่างไกลจนคำสองคำนี้แทบจะมีความหมายเดียวกันในมุมมองของเขา"
มรดกของโรดส์ส่วนหนึ่ง หลังจากที่เขาเสียชีวิต เขาได้ทิ้งเงินจำนวนมากเพื่อสนับสนุนนักศึกษาที่มีความสามารถ ("เชื้อชาติ" ไม่ใช่เกณฑ์ในการคัดเลือก) ให้ศึกษาในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดมีนักศึกษาจากแอฟริกาใต้และซิมบับเวที่ได้รับทุนจากมรดกนี้บางส่วนออกมาเรียกร้องให้ถอดรูปปั้นของโรดส์ในออกซฟอร์ด เมื่อถูกถามถึงความย้อนแย้งในเรื่องการรับทุนจากมูลนิธิของโรดส์และการได้รับประโยชน์จากโอกาสนั้น ขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามต่อมรดกของเขา นักเคลื่อนไหวชาวแอฟริกาใต้คนหนึ่งชื่อ Ntokozo Qwabe ตอบว่า "ทุนการศึกษานี้ไม่ได้ซื้อความเงียบของเรา...ไม่มีความย้อนแย้งในการเป็นผู้รับทุนโรดส์และการวิจารณ์มรดกของเซซิล โรดส์ต่อสาธารณะ...ไม่มีข้อกำหนดใดที่บังคับให้เราต้องค้นหาด้าน 'ดี' ในตัวโรดส์ หรือทำให้วาระอาณานิคมและจักรวรรดิของเขาดูขาวสะอาด"
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 ท่ามกลางบริบทที่กว้างขึ้นของ ทางคณะผู้บริหารของวิทยาลัยโอเรียลจึงลงมติให้ถอดรูปปั้นของโรดส์ที่ตั้งอยู่บนด้านหน้าของวิทยาลัยซึ่งหันหน้าไปทางในออกซฟอร์ด อย่างไรก็ตาม การถอดรูปปั้นจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 2021 เมื่อคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นโดยวิทยาลัยส่งรายงานเกี่ยวกับอนาคตของรูปปั้นดังกล่าว ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2021 คณะกรรมการรายงานว่า แม้ว่าสมาชิกส่วนใหญ่จะสนับสนุนการถอดรูปปั้น แต่ต้นทุนในการดำเนินการที่สูงเกินไปทำให้วิทยาลัยตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการต่อ
เชิงอรรถ
อ้างอิง
- Pinney 1995, p. 72.
- The Times & 27 March 1902.
- Sanger, Clyde William; Ingham, Kenneth (2024-11-29). "British, South Africa, Company". Encyclopedia Britannica. สืบค้นเมื่อ 2024-12-01.
- Rotberg 1988, p. 128.
- (17 April 1994). "Apartheid: made in Britain: Richard Dowden explains how Churchill, Rhodes and Smuts caused black South Africans to lose their rights". The Independent. London. สืบค้นเมื่อ 15 January 2016.
- History of South Africa Timeline (1485–1975) เก็บถาวร 13 กันยายน 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Maylam, Paul (14 January 2016). "What Cecil John Rhodes said in his will about who should get scholarships". The Conversation (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-03-13.
- "'Colonialism had never really ended': my life in the shadow of Cecil Rhodes". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2021-01-14. สืบค้นเมื่อ 2022-03-13.
- "Cecil Rhodes was a racist, but you can't readily expunge him from history | Will Hutton". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2015-12-20. สืบค้นเมื่อ 2022-03-13.
- Koutonin, Mawuna (2016-08-18). "Lost cities #9: racism and ruins – the plundering of Great Zimbabwe". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-03-13.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อsahistory.org.za
- Davies, Andrew John (14 August 1995). "site unseen : Netteswell House, Bishop's Stortford". The Independent (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 26 February 2021.
- "The Rhodes Settled Estates". The National Archives.
- "Papers of the Rhodes Family (Hildersham Hall collection)". bodley.ox.ac.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-27. สืบค้นเมื่อ 4 August 2019.
- Rhodes 1902, p. 58.
- Bell 2022, p. 131.
- Parry 1983.
- Rotberg 1988, p. 150.
- Biggar 2016.
- Flint 2009.
- Magubane 1996, p. 109.
- Castle 2016.
- Mnyanda, Siya (25 March 2015). "'Cecil Rhodes' colonial legacy must fall – not his statue'". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 15 January 2016.
- (25 November 2015). "Woodrow Wilson and Cecil Rhodes must fall". The Washington Post. Washington, D.C. สืบค้นเมื่อ 15 January 2016.
- Plaut, Martin (16 April 2015). "From Cecil Rhodes to Mahatma Gandhi: why is South Africa tearing its statues down?". New Statesman. London. สืบค้นเมื่อ 15 January 2016.
- Magubane 1996, p. 108.
- Phillip, Riley (2007). Language, Culture and Identity: An Ethnolinguistic Perspective. Bloomsbury Academic. p. 29.
- Robert I., Rotberg; Shore, Miles F. (1990). The Founder Cecil Rhodes and the Pursuit of Power. Oxford University Press. p. 100.
- Mensing 1986, pp. 99–106.
- Moyse, Ashley (2016). "The Controversial Legacy of Cecil Rhodes". .
- Biggar, Nigel (12 August 2021). "Cecil Rhodes and the Abuse of History". History Reclaimed (ภาษาอังกฤษแบบบริติช).
- McCracken 2003, pp. 22–24.
- Rotberg 1988, pp. 131–33.
- Maylam 2005, p. 6.
- Kenrick, David (2019). Decolonisation, Identity and Nation in Rhodesia, 1964–1979: a race against time. Springer. ISBN .
- Laing 2012.
- Blair 2004.
- Rotberg 1988, p. 102.
- Michael Howard, The Lessons of History (1992) p. 66.
- Rotberg 1988, pp. 663–69.
- Pietsch 2011, pp. 723–39.
- Rhodes 1902, pp. 23–45.
- Philip Ziegler, Legacy: Cecil Rhodes, the Rhodes Trust and Rhodes Scholarships (Yale UP, 2008) online review
- Maylam 2005, p. 56.
- Masondo, Sipho (22 March 2015). "Rhodes: As divisive in death as in life". News24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 February 2016. สืบค้นเมื่อ 20 January 2016.
- "Op-Ed: Rhodes statue removed from uct". . Johannesburg: . 9 April 2015. สืบค้นเมื่อ 10 April 2015.
- Grootes, Stephen (6 April 2015). "Op-Ed: Say it aloud – Rhodes must fall". . สืบค้นเมื่อ 7 April 2015.
- Ispas, Mara. "Rhodes Uni Council approves plans for name change". SA Breaking News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 July 2018. สืบค้นเมื่อ 1 June 2015.
- Hind, Hassan (12 July 2015). "Oxford Students Want 'Racist' Statue Removed". Sky News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 January 2017. สืบค้นเมื่อ 13 July 2015.
- O'Grady, Sean (29 March 2019). "TV Review: The Battle for Britain's Heroes (Channel 4)". The Independent (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2 April 2019.
- (16 March 2016). "The real meaning of Rhodes Must Fall". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2 April 2019.
- "The Real Cecil Rhodes". New Politic. 19 November 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 February 2022. สืบค้นเมื่อ 20 February 2022.
- Scott, Peter (2 February 2016). "Oxford students' fight to topple Cecil Rhodes statue was the easy option". The Guardian.
- Rawlinson, Kevin (28 January 2016). "Cecil Rhodes statue to remain at Oxford after 'overwhelming support'". The Guardian.
- Mohdin, Aamna; Adams, Richard; Quinn, and Ben (17 June 2020). "Oxford college backs removal of Cecil Rhodes statue". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 17 June 2020.
- Encyclopaedia Britannica Effects Of The Jameson Raid On Rhodes’s Career
- "Cecil Rhodes statue row: Chris Patten tells students to embrace freedom of thought". The Guardian (ภาษาอังกฤษ). 13 January 2016. สืบค้นเมื่อ 17 June 2020.
- Shakib, Delara; Linda Givetash (18 June 2020). "Rhodes will fall: Oxford University to remove statue amid anti-racism calls". NBC News. สืบค้นเมื่อ 7 July 2020.
- Race, Michael (5 January 2021). "Decision over future of Oxford's Cecil Rhodes statue delayed". BBC News. สืบค้นเมื่อ 27 April 2021.
- Race, Michael (20 May 2021). "Removal of Oxford's Cecil Rhodes statue on hold over costs". BBC News. สืบค้นเมื่อ 20 May 2021.
แหล่งข้อมูล
บทความ
- Aldrich, Robert; Wotherspoon, Garry (2001). Who's who in Gay and Lesbian History: From Antiquity to World War II. Routledge. ISBN .
- Alexander, Eleanor, บ.ก. (1914). "Chapter XIV: South Africa 1893". Primate Alexander, Archbishop of Armagh. A memoir. London: Edward Arnold. p. 259.
- Bell, Duncan (2022). Dreamworlds of Race: Empire and the Utopian Destiny of Anglo-America. Princeton University Press.
{{}}
: CS1 maint: ref duplicates default () - Bigelow, Bill; Peterson, Bob (2002). Rethinking Globalization: Teaching for Justice in an Unjust World. Milwaukee: Rethinking Schools. ISBN .
- (1977). A History of Rhodesia. London: Methuen. ISBN .
- Anon (2007). Boschendal: founded 1685. Boschendal Ltd. ISBN .
- Britten, Sarah (2006). The Art of the South African Insult. 30° South Publishers. ISBN .
- (1922). The Life of Jameson. London: E. Arnold and Co. ISBN .
- Currey, John Blades; Simons, Phillida Brooke (1986). 1850 to 1900: fifty years in the Cape Colony. Brenthurst Press. ISBN .
- Davidson, Apollon Borisovich (2003). Cecil Rhodes and his Time. Christopher English (trans.). Protea Book House. ISBN .
- Epstein, Edward Jay (1982). The rise and fall of diamonds: the shattering of a brilliant illusion. Simon and Schuster. ISBN .
- Ferguson, Niall (1999). The house of Rothschild: the world's banker, 1849–1999. Viking. ISBN .
- Flint, John (2009). Cecil Rhodes. Little, Brown. ISBN ., a scholarly biography
- Crown and Charter: the Early Years of the British South Africa Company (1974).
- (1905). . The Empire and the century. London: John Murray. pp. 478–520.
- Johari, J. C. (1993). Voices Of Indian Freedom Movement. Anmol Publications Pvt. Limited. ISBN .[]
- Judd, Denis, and Keith Surridge. The Boer War: A History (Bloomsbury Publishing, 2013).
- Knowles, Lilian Charlotte Anne; Knowles, Charles Matthew (2005). The Economic Development of the British Overseas Empire. Taylor & Francis. ISBN .
- Le Sueur, Gordon (1913). Cecil Rhodes. The Man and His Work. London: London.
- Lockhart, John Gilbert; Woodhouse, Christopher Montague (1963). Cecil Rhodes: The Colossus of Southern Africa. Macmillan.
- McDonald, J.G. (1917). Rhodes – A Life. London: Chatto & Windus. p. 403.
- Magubane, Bernard M. (1996). The Making of a Racist State: British Imperialism and the Union of South Africa, 1875–1910. Trenton, New Jersey: Africa World Press. ISBN .
- Martin, Meredith (2009). Diamonds, Gold, and War: The British, the Boers, and the Making of South Africa. CreateSpace. ISBN .
- (1991). Dreadnought: Britain, Germany and the Coming of the Great War. London: Jonathan Cape. ISBN .
- McCracken, Donal P. (2003). Forgotten Protest: Ireland and the Anglo-Boer War. Ulster Historical Foundation. pp. 22–24. ISBN .
- (1933). Rhodes. Harper & brothers.
- Oberholster, A. G.; Van Breda, Pieter (1987). Paarl Valley, 1687–1987. Human Sciences Research Council. ISBN .
- Pakenham, Thomas (1992). Boer War. HarperCollins. ISBN .
- Parsons, Neil (1993). A New History of Southern Africa. London: Macmillan. ISBN .
- Phelan, T. (1913). The Siege of Kimberley. Dublin: M.H. Gill and Son. ISBN .
- Picton-Seymour, Désirée (1989). Historical Buildings in South Africa. Struikhof Publishers. ISBN .
- Pinney, Thomas (1995). The Letters of Rudyard Kipling: Volume 3: 1900–10. Palgrave Macmillan UK. p. 72. ISBN .
- Plomer, William (1984). Cecil Rhodes. D. Philip. ISBN .
- Radziwill, Princess Catherine (1918). Cecil Rhodes: Man and Empire Maker. London, New York, Toronto and Melbourne: Cassell & Company, Ltd. ISBN .
- Rhodes, Cecil (1902). Stead, William Thomas (บ.ก.). . London.
- Roberts, Brian (1969). Cecil Rhodes and the Princess. Lippincott.
- Roberts, Brian (1976). Kimberley: Turbulent City. D. Philip. ISBN .
- Rönnbäck, Klas; Broberg, Oskar (2019). Capital and Colonialism: The Return on British Investments in Africa 1869–1969. Springer. ISBN .
- Rosenthal, Eric (1965). South African Surnames. H. Timmins.
- (1988). The Founder: Cecil Rhodes and the Pursuit of Power. Oxford University Press. ISBN .; 856pp; the standard scholarly biography says McFarlane, (2007)
- Simpson, William; Jones, Martin Desmond (2000). Europe, 1783–1914. Routledge. p. 237. ISBN .
- Thomas, Antony (1997). Rhodes: Race for Africa. St. Martin's Press. ISBN .
- Thompson, J. Lee (2007). Forgotten Patriot: A Life of Alfred, Viscount Milner of St. James's and Cape Town, 1854–1925. Fairleigh Dickinson Univ Press. ISBN .
- Twain, Mark (1898). A Journey around the World. Hartford, CT: The American Publishing Company.
- Williams, Basil (1921). Cecil Rhodes. Holt.
- Wilson, Scott (2016). Resting Places: The Burial Sites of More Than 14,000 Famous Persons, 3d ed. McFarland. ISBN .
สารานุกรม
- Domville-Fife, C.W. (1900). The encyclopedia of the British Empire the first encyclopedic record of the greatest empire in the history of the world. Bristol: Rankin. p. 89.
- Farwell, Byron (2001). The Encyclopedia of Nineteenth-century Land Warfare: An Illustrated World View. W. W. Norton & Company. ISBN .
- Panton, Kenneth J. (2015). Historical Dictionary of the British Empire. London: Rowman & Littlefield. ISBN .
บทความวารสาร
- Brown, Richard (November 1990). "The Colossus". The Journal of African History. Cambridge University Press. 31 (3): 499–502. doi:10.1017/S002185370003125X. S2CID 197414114.
- Gray, J.A. (1956). "A Country in Search of a Name". The Northern Rhodesia Journal. III (1): 75–78. สืบค้นเมื่อ 1 August 2014.
- Gray, J.A. (1954). "First Records-? 6. The Name Rhodesia". The Northern Rhodesia Journal. II (4): 101–02. สืบค้นเมื่อ 1 August 2014.
- Lowry, Donal (2004). "'The granite of the ancient North': race, nation and empire at Cecil Rhodes's mountain mausoleum and Rhodes House, Oxford". ใน Wrigley, Richard; Craske, Matthew (บ.ก.). Pantheons: Transformations of a Monumental Idea. Ashgate. ISBN .
- Mensing, Raymond C. (1986). "Cecil Rhodes's Ideas of Race and Empire". International Social Science Review. 61 (3): 99 – โดยทาง .
- Parry, Richard (1983). ""In a Sense Citizens, but Not Altogether Citizens...": Rhodes, Race, and the Ideology of Segregation at the Cape in the Late Nineteenth Century". Canadian Journal of African Studies. 17 (3).
- Pietsch, Tamson (2011). "Many Rhodes: travelling scholarships and imperial citizenship in the British academic world, 1880–1940". History of Education. 40 (6): 723–39. doi:10.1080/0046760X.2011.594096. ISSN 0046-760X. S2CID 144672521.
- Plumb, J. H. "Cecil Rhodes" History Today (June 1953) 3#6 pp 431–38.
- (2014). "Did Cecil Rhodes Really Try to Control the World?". The Journal of Imperial and Commonwealth History. 42 (3): 551–67. doi:10.1080/03086534.2014.934000. ISSN 0308-6534. S2CID 159787554.
บทความหนังสือพิมพ์
- Blair, David (19 October 2004). "Racists on List of 'Great South Africans'". The Telegraph. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 January 2022. สืบค้นเมื่อ 18 July 2014.
- Briggs, Simon (31 May 2009). "England on Guard as World Takes Aim in Twenty20 Stakes". The Daily Telegraph. London. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 January 2022. สืบค้นเมื่อ 13 June 2009.
- Castle, Stephen (29 January 2016). "Oxford University Will Keep Statue of Cecil Rhodes". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 15 February 2016.
- "Death of Mr. Rhodes". The Times. 27 March 1902. p. 7.
- Laing, Aislinn (22 February 2013). "Robert Mugabe blocks Cecil John Rhodes Exhumation". The Telegraph. London. สืบค้นเมื่อ 1 April 2013.
- "The Lottery of Life". The Independent. 5 May 2001. สืบค้นเมื่อ 26 January 2010.
เว็บไซต์
- PBS: Empires; Queen Victoria; The Changing Empire; Characters : Cecil Rhodes
- Godwin, Peter (11 January 1998). "Rhodes to Hell". Slate. สืบค้นเมื่อ 7 January 2007.
- Biggar, Nigel (23 February 2016). "Rhodes, Race, and the Abuse of History". Standpoint. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 August 2019. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ
- Verschoyle, F. (1900). Cecil Rhodes: His Political Life and Speeches, 1881–1900. Chapman and Hall Limited.
ประวัติศาสตร์นิพนธ์และความทรงจำ
- Galbraith, John S. (2008). "Cecil Rhodes and his 'cosmic dreams': A reassessment". The Journal of Imperial and Commonwealth History. 1 (2): 173–89. doi:10.1080/03086537308582371. ISSN 0308-6534.
- McFarlane, Richard A. (2007). "Historiography of Selected Works on Cecil John Rhodes (1853–1902)". History in Africa. 34: 437–46. doi:10.1353/hia.2007.0013. S2CID 163034852.
- Maylam, Paul (2005). The Cult of Rhodes: Remembering an Imperialist in Africa. New Africa Books. ISBN .
- Phimister, I.R. (2007). "Rhodes, Rhodesia and the Rand". Journal of Southern African Studies. 1 (1): 74–90. doi:10.1080/03057077408707924. ISSN 0305-7070.
- Van Hartesveldt, Fred R. (2000). The Boer War: Historiography and Annotated Bibliography. Greenwood Publishing Group. pp. 6–. ISBN .
- von Tunzelmann, Alex (17 February 2016). "Rhodes Must Fall? A Question of When Not If". historytoday.com. สืบค้นเมื่อ 21 August 2017.
- Ziegler, Philip (2008). Legacy: Cecil Rhodes, the Rhodes Trust and Rhodes Scholarship s. Yale University Press. ISBN . online review
แหล่งข้อมูลอื่น
- Cecil John Rhodes history
- กฤตภาคจากหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับ เซซิล โรดส์ ใน ของ
- ภาพเหมือนของ Cecil John Rhodes ที่หอศิลป์ภาพเหมือนแห่งชาติ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
essil cxhn ords xngkvs Cecil John Rhodes 5 krkdakhm kh s 1853 26 minakhm kh s 1902 epnnkkaremuxngchawxngkvsaelaphuthrngxiththiphldankarthaehmuxngaerinphumiphakhaexfrikait ekhadarngtaaehnngnaykrthmntrixananikhmaehlmtngaet kh s 1890 thung kh s 1896 ordsepnhnunginbukhkhlsakhykhxnglththickrwrrdiniymxngkvsinthwipaexfrika ekhaaelamibthbathsakhyinkarkxtngdinaednordiechiy pccubnkhuxpraethsaesmebiyaelasimbbew sungphumiphakhniidrbkartngchuxtamekhain kh s 1895 ordsyngmiwisythsninkarsrangthiechuxmxananikhmkhxngxngkvs aelacdtng Rodes Scholarship ephuxsnbsnunkarsuksadwythrphymrdkkhxngekhaedxairtxxnaraebilessil ordsords p kh s 1900naykrthmntrixananikhmaehlm khnthi 7darngtaaehnng 17 krkdakhm kh s 1890 12 mkrakhm kh s 1896kstriysmedcphrarachininathwiktxeriyphuwakaresxr esxr esxrkxnhnathdipkhxmulswnbukhkhlekidessil cxhn ords 5 krkdakhm kh s 1853 1853 07 05 hartfxrdechxr praethsxngkvsesiychiwit26 minakhm kh s 1902 1902 03 26 48 pi xananikhmaehlmthiiwsphpraethssimbbewechuxchatibritichphrrkhkaremuxngkhwamsmphnth phichay sisyekaxachiphnkthurkic nkkaremuxnglaymuxchux ordsekidthihartfxrdechxrinkhrxbkhrwkhxngwikar vicar dwysukhphaphthixxnaextngaetwyeyaw khrxbkhrwcungsngtwekhaipyngaexfrikaitemuxxayu 17 pi odyechuxwasphaphxakasxbxuncachwyfunfusukhphaphkhxngekhaid txmaemuxxayu 18 pi ekhaekhasuwngkarkhaephchrthiemuxngkhimebxrliy aelaerimsrangekhruxkhaythurkicdwykarsuxaelakhwbrwmkickarehmuxngephchrxyangepnrabb odyidrbenginsnbsnuncak Rothschild amp Co phayinewla 20 pi ekhaidphukkhadtladkhaephchrekuxbthnghmdinolk aelaidkxtngbristhedxebiyrsin kh s 1888 sungyngkhngepnphunainxutsahkrrmephchrinstwrrsthi 21 ordsekhasuemuxxayu 27 pi aelaidrbeluxkepnnaykrthmntriin kh s 1890 inchwngdarngtaaehnng ekhaichxanacthangkaremuxngephuxphlkdnkdhmaythicakdsiththikhxngchawaexfriknphiwda echn thiribthidincakchawphunemuxng aelathiephimeknththrphysinsahrbkarlngkhaaennesiyng ephuxkidknchawaexfriknphiwdacakkareluxktng ordslaxxkcaktaaehnngin kh s 1896 hlngthilmehlwinsatharnrthaexfrikait hruxthranswal inchwnghlngsukhphaphkhxngekhathrudothrmlng aelathungaekaesykrrmin kh s 1902 xthikhxngekhathukfnginpraethssimbbew aelahlumsphkhxngekhaklayepnpraednthkethiynginewlatxma aemordscamibthbathsakhyinprawtisastr aetsingsubenuxngcakphlnganaelaaenwkhidkhxngekhayngkhngepnthithkethiyngcnthungpccubn odyechphaakaryudkhrxngthidinkhxngchawphunemuxngphiwdaaelakarsnbsnunlththickrwrrdiniym twxyangechn karxangethcwaaehlngobrankhdisakhyinaexfrikatxnitxyangthuksrangkhunodyxarythrrmyuorp karkrathaehlanisngphlihekidkarwiphakswicarnaelarnrngkhtxtaninyukhpccubn echn khbwnkarordsmstfxll Rhodes Must Fall sungmungthathayphlkrathbthangprawtisastraelasngkhmcakmrdkkhxngekhainaexfrikaitaelaphumiphakhxun xyangirktam inkhwamprarthnasudthay ordsidkxtngthunkarsuksaordsthimhawithyalyxxksfxrd sungthuxepnthunkarsuksaradbbnthitsuksathiekaaekthisudinolk odymxbthunihaekphurbcanwn 102 thuninaetlapi thunnimibthbathsakhyinkarsnbsnunbukhkhlphumiskyphaphthwolk sungincanwnnirwmthungnaykrthmntrikhxngmxlta xxsetreliy aelaaekhnada tlxdcnbil khlintn xditprathanathibdishrthbrrphburusordsekidemux kh s 1853 inemuxng mnthlhartfxrdechxr praethsxngkvs epnbutrchaykhnthihakhxngbathhlwngfransis wileliym ords kh s 1807 1878 aelaluysa phikhxk phuepnphrrya fransisepnekhlxciinkhristckraehngxngkvs sungekhydarngtaaehnngkhuertthawr perpetual curate pracathiebrnthwud mnthlexsesks kh s 1834 1843 aelatxmaepnwikar vicar inbichxpsstxrtfxrd kh s 1849 1876 sungepnthiruckkndiwaimekhyethsnaekinsibnathi fransisepnbutrchaykhnotkhxngwileliym ords kh s 1774 1855 phuprakxbkarphlitxithcak mnthlmidedilesks khrxbkhrwniepnecakhxngthidinthisakhyinaela krunglxndxn sungessilcaidrbmrdkinewlatxma brrphburusthisubsaytrngthisudkhxngessil ords khux ecms ords michiwitxyuinchwng kh s 1660 cakhmubanwithmxr mnthlsaetffxrdechxr essilmiphinxng khux sungepnnaythharkxngthphshrachxanackrmummxngthangkaremuxngessil ords praman kh s 1900 ordstxngkarkhyayckrwrrdibritich ephraaekhaechuxwaechuxchatiaexngokl aesksnthuklikhitmaihsungsng in kh s 1877 khnathiekhayngepnnksuksathimhawithyalyxxksfxrd ekhaidekhiynthungaenwkhidniiwinexksarthiekhaeriykwa rangaenwkhidbangswnkhxngkhapheca odyrabuwa khaphecayunynwaerakhuxechuxchatixndbhnungkhxngolk aelayingeraidkhrxbkhrxngolkmakethair mnkyingepnpraoychntxmnusychati khaphecayunynwathukexekhxrthiephimekhamainxanaekhtkhxngera hmaythungkarekidkhxngechuxchatixngkvsthiephimkhun sunghakimmiphunthiehlann phukhnehlanixacimidthuxkaenidkhunely ordsyngaesdngkhwamesiyicthiimmidinaednihphichitehluxxyumaknk aelaklawwa karidehndwngdawinyamkhakhun olkxnkwangihythieraimsamarthipthungid khaphecaxyakyudkhrxngdawekhraahtang hakkhaphecathaid khaphecamkcakhidthungeruxngni mnthaihkhaphecarusukoskesrathiidehnmnxyangchdecn aetkyngxyuiklekinexuxm nxkcakni ordsmxngwackrwrrdiniymepnwithiaekpyhasngkhmphayinpraeths ekhaklawwa ephuxchwychiwitprachakr 40 lankhninshrachxanackrcaksngkhramklangemuxngxnnxngeluxd eraphuepnrthburusxananikhmcungtxngekhayuddinaednihmephuxihprachakrswnekinsamarthtngrkrakid aelaephuxepidtladihmsahrbsinkhathiphlitinorngnganaelaehmuxngaer wli ckrwrrdi xyangthikhaphecaklawtlxd epneruxngkhxngpakthxng hakthantxngkarhlikeliyngsngkhramklangemuxng thantxngepnnkckrwrrdiniym ordstxngkarphthnaekhruxckrphph odythukpraethsthixyuphayitckrwrrdibritichcami ekhayngrabuiwchdecninphinykrrmkhxngekhawathukechuxchatikhwrmisiththiidrbthunkarsuksa mikarklawwaekhatxngkarsrangchnchnnachawxemriknthiepn sungcathaihshrthklbmarwmxyuinckrwrrdixikkhrng nxkcakni enuxngcakordsekharphaelachunchmchaweyxrmnaelackrphrrdi ekhacungxnuyatihnksuksaeyxrmnmisiththiidrbthunkarsuksaordsdwy ekhaechuxwathaythisudshrachxanackr rwmthungixraelnd shrth aelaeyxrmnicarwmknkhrxbkhrxngolkaelarksasntiphaphchwnirndr txngkarelkhhna mummxngkhxngordsekiywkberuxngechuxchatiepnpraednthimikarthkethiyngkn bangrabuwaekhasnbsnunsiththikhxngchawaexfriknphunemuxnginkarxxkesiyng aetkmiphuwicarnthieriykekhawaepn sthapnikkhxngkarthuxphiw aelaepn phwkthiechuxwakhnphiwkhawnnsungsng odyechphaatngaet kh s 2015 epntnma makubaenklawwaordsimphxicthiinhlayekhteluxktngkhxngxananikhmaehlm ekhakngwlwachawaexfriknxacmibthbathsakhy hakmiphuichsiththilngkhaaennmakkhuntamkdhmayinkhnann hmaythungphrarachbyytisiththilngkhaaennesiyngthiidrbkarrbrxng ekhaesnxwa chawphunemuxngkhwrthukptibtiehmuxnedkaelathukptiesthsiththieluxktng eracaepntxngnarabbephdckaraebbxinediymaichinkarsrangkhwamsmphnthkhxngerakbchnpaethuxninaexfrikait ordssnbsnunkarpkkhrxngchawaexfriknphunemuxngthixasyxyuinxananikhmaehlmphayit sthanakhxngchnpaethuxnaelakarkhrxbkhrxngrwmkn inthana chnchatithixyuphayitkarpkkhrxng odyekhaklawwa khaphecaimidehndwykbsmachikcakwiktxeriyewstthiimtxngkarihkhnphiwdamisiththixxkesiyng hakkhnphiwkhawrksasthanakhxngtninthanachnchatisungsudiwid wnhnungeraxacrusukkhxbkhunthierayngmichawphunemuxngxyuintaaehnngthiehmaasmkhxngphwkekha ekhaekhyklawwa khaphecachxbthidinmakkwakhnphiwda aelaeriykechuxchati aexngokl aesksn waepn chnchatithidithisud mimnusythrrmthisud aelathrngekiyrtithisudinolk ekhaechuxwadinaednthithuk twxyangthielwraythisudkhxngmnusy khrxbkhrxng khwrthukaexngokl aesksnyudkhrxng phaphekhiynords ody in kh s 1901 xyangirktam mummxngehlanithukbangfayotaeyng nkprawtisastr erymxnd si emnsing klawwaordsmichuxesiynginthanatwxyangthiednchdkhxngcitwiyyanckrwrrdibritich aelamkechuxwasthabnkhxngbrietndithisud emnsingxangwaordsphthnakhwamkhidekiywkbshphnthckrwrrdiinaexfrikaxyangengiyb aelakhwamkhidehnkhxngekhainchwnghlngmikhwamsmdulaelasmehtusmphlmakkhun emnsingchiwa ordsimidepn hakaetepn in kh s 2016 sastracaryinecl bikkar aehngmhawithyalyxxksfxrd ekhiynbthkhwaminedxaithmswa thungaemordscaepnnkckrwrrdiniym aetkhxklawhaeruxngkarehyiydechuxchatinnimmimulkhwamcring odybthkhwamin kh s 2021 bikkaryngrabuephimetimxikwa hakordsepnphuehyiydechuxchati ekhakhngimsamarthsrangkhwamsmphnththidikbchawaexfriknraybukhkhlid aelakhngimehnwachawaexfriknmikhwamsamarthinkarphthnaxarythrrm nxkcakni ekhakhngimsnbsnunsiththiinkarxxkesiynglngkhaaennkhxngphwkekha aelakhngimrabuinphinykrrmsudthaykhxngekhaineduxnkrkdakhm kh s 1899 wathunkarsuksathimichuxkhxngekhaimkhwrkhanungthung echuxchati aetekhaklbthasingehlanithnghmd indankaremuxngphayinshrachxanackr ordssnbsnun phlkrathbhlkthiekhamitxkaremuxngxngkvs khux karsnbsnunxyangmhasaltxphrrkhchatiniymixrichthinaody kh s 1846 1891 ordsmikhwamsmphnththidiinkarthanganrwmkbchawxafrikaenxrinxananikhmaehlm odyekhasnbsnunkarsxnphasadtchkhwbkhuipkbphasaxngkvsinorngeriynrthbal khnadarngtaaehnngnaykrthmntrixananikhmaehlm ekhachwyykelikkhxcakdthangkdhmayswnihythiekhymitxchawxafrikaenxr ordsyngepnephuxnkbyan hxfemeyxr Jan Hofmeyr phunashphaphxafrikaenxr Afrikaner Bond aelaepnephraakarsnbsnuncakchawxafrikaenxrthithaihekhaidepnnaykrthmntri nxkcakni ordsyngsnbsnunkarpkkhrxngtnexngthimakkhunsahrbxananikhmaehlm sungsxdkhlxngkbkhwamchxbkhxngekhathitxngkarihckrwrrdixyuphayitkarkhwbkhumkhxngphutngthinthanaelankkaremuxnginthxngthinmakkwakarkhwbkhumcaklxndxn nkwichakaraelankekhiynchawsimbbew pietxr kxdwin Peter Godwin sungmithathiwicarnords rabuwakhwrmxngordsphanmummxngthangwthnthrrmaelasngkhminyukhkhxngekha odykxdwinchiwa ordsimichhitelxraehngkhriststwrrsthi 19 ekhaimichtwprahladaetepnkhninyukhsmykhxngekhaexng ordsaelaphubukebikphiwkhawinaexfrikaitpraphvtiinlksnathinarngekiyctammatrthaninpccubn aetimidaeyipkwaphutngthinthanphiwkhawinxemrikaehnux xemrikait aelaxxsetreliy aelainbangaengmumxaccadikwadwysa ephraakarsngharhmuchnphunemuxnginaexfrikannimsmburnethakbinthwipxun xditxananikhmaexfrikathnghmdinpccubnpkkhrxngodychnphunemuxng sungaetktangcakinxemrikaaelaxxsetreliythichnphunemuxngswnihyaethbthukkacdhmdsin kxdwinyngklawesrimwa ordsaelaklumphrrkhphwkkhxngekhaprbtwekhakbsingaewdlxmaelayudthuxkhunthrrm hruxkhadmn khxngyukhsmyidxyangsmburn sungtamprktiaelw prawtisastrkmkdaeniniptamaerngdungdudkhxngxanacthiehnuxkwa singsubenuxngehriyyengin 1 khrawnesaethirnordiechiy sungmirupslkkhrungtwkhxngessil cxhn ords naykrthmntrixananikhmaehlm phuthrngxiththiphlinyukhxananikhm aelaphuthichuxkhxngekhaepnaerngbndalicinkartngchuxdinaednesaethirnordiechiy xyuinwngklmtrngklang danlangmiolsamibaethndinaednthiordsmibthbathinkarphthna idaek caksayipkhwa nxrethirnordiechiy esaethirnordiechiy aelanyasaaelnd odymihridsxngkhangpradbdwyaethbthnglxmrxbolehlani ordstkepnepakhxngesiyngwiphakswicarnxyanghnkinchwngimkipithiphanma odynkprawtisastrbangkhnmxngwaekhaepnnkckrwrrdiniymthiirkhwampraniaelaepnphwkthiechuxwakhnphiwkhawnnsungsng white supremacist inpraethssimbbew hlumsphkhxngekhathitngxyuineninekhamaotobyngkhngepnpraednthkethiyngxyangtxenuxng ineduxnthnwakhm kh s 2010 ekhn maethma Cain Mathema phuwarachkaremuxngbulawaoy idpranamhlumsphkhxngordswaepn karduhminbrrphburuschawaexfrikn aelaechuxwakarmixyukhxnghlumsphninamasungochkhrayaelasphaphxakasthiyaaeyinphumiphakhdngklaw ineduxnkumphaphnth kh s 2012 klumphuphkditxrxebirt mukabi aelankekhluxnihwkhxngaenwrwmrkchatikhxngshphaphaehngchatiaexfriknsimbbew ZANU PF edinthangipyngthiiwsphkhxngordsephuxkhxxnuyatcakphunathxngthininkarkhudyayxthikhxngekhaephuxnaklbipyngxngkvs hlayfaymxngwaniepnkaraesdngxxkechingsylksnthangkaremuxnginchwngkxnkareluxktng xyangirktam phunathxngthinmasuku aelakxdfriy mahachi nkobrankhdiphuechiywchaykhxngpraeths idkhdkhanaenwkhidkaryayhlumsphxyanghnkaenn odychiihehnthungkhwamsakhythangprawtisastrkhxnghlumsphthimitxpraethssimbbew inkhnaediywkn prathanathibdimukabikaesdngkarkhdkhanaenwkhiddngklawechnkn in kh s 2004 ordsidrbkarcdxndbepnxndbthi 56 inraykarothrthsn Great South Africans khxngchxngexsexbisi 3 nxkcakni orngeriynetriymxudmsuksaaehnghnungthiemuxngkewru inphumiphakhmidaelndkhxngpraethssimbbew yngidrbkartngchuxtamekha xyangirktam inchwngtnkhristthswrrs 2000 rahwangchwngthikarptirupthidinaelakhwamtungekhriydthangechuxchatikalngrunaerng nkkaremuxngkhxngaenwrwmrkchatiideriykrxngihmikarepliynchuxorngeriynthwpraethsthiekiywkhxngkbyukhxananikhm aetkhwamphyayamdngklawswnihyimprasbphlsaerc enuxngcakprachachnswnihyehnwaeruxngniimcaepn thngyngmxngwachuxsthanthithiphwkekhaxasyxyusathxnthungxtlksnaelamrdkthangwthnthrrmxnhlakhlaykhxngpraeths khnaediywknkeriykrxngihrthbalyxmrbprawtisastrkhxngpraethsaelaepidoxkasihtngchuxihmsahrbsthanthiihm inemuxngthikalngkhyaytw inphinykrrmchbbthisxngkhxngekha sungekhiynkhuninchwngkxnthiekhacamngkhngin kh s 1877 ekhaidaesdngkhwamprarthnathicasrangsmakhmlbsungmiepahmayephuxiholkthngibxyuphayitkarpkkhrxngkhxngxngkvs nkchiwprawtikhxngekhaxthibayaenwkhidniwaepn cintnakarthikwangikl ordswadfnthungsmakhmlbniephuxkhyayxiththiphlkhxngxngkvsipthwolk rwmthungcin yipun aexfrika xemrikait aelaaemkrathngshrthxemrika dngthirabuiwwa ephuxkarkxtng sngesrim aelaphthnasmakhmlb xnmiepahmayaethcringinkarkhyaykarpkkhrxngkhxngxngkvsipthwolk ephuxkhwamsmburnaebbkhxngrabbkaryaythinthancakshrachxanackr aelakhxngkartngthinthanodychawxngkvsinthukhnaehngthisamarthdarngchiwitxyuiddwykhwamphakephiyr karthangan aelakhwammungmn ephuxkarprbprungrabbkaryaythinthancakshrachxanackr aelakartngthinthanodychawxngkvsinthukdinaednthisamarthdarngchiwitdwykhwamphakephiyr karthangan aelakhwammungmn odyechphaakartngthinthankhxngchawxngkvsinthwipaexfrikathnghmd aephndinskdisiththi hubekhaaemnayuefrthis ekaaisprsaelakhrit thwipxemrikait hmuekaaaepsifikthiyngimidxyuinkarkhrxbkhrxngkhxngxngkvs hmuekaamaely chayfngkhxngcinaelayipun rwmthungkarfunfushrthxemrikaihklbmaepnswnhnungkhxngckrwrrdixngkvsxyangsmburn ephuxkarrierimrabbtwaethnxananikhminrthsphaaehngckrwrrdi sungxacnaipsukarechuxmoyngxananikhmthiaetkaeykihepnhnungediyw aelathaythisud ephuxsrangmhaxanacthiyingihycnsamarththaihsngkhramhmdsin aelasngesrimphlpraoychnthidithisudkhxngmnusychati essil ords phinykrrmchbbsudthaykhxngordsthiekhiynkhuninchwngthiekhamngkhngaelwmiepahmaythiepncringmakkhun odymungennipthikarmxbthunkarsuksa ekhayngmxbthidinphunihybnechingphuekhaotaihaekpraethsaexfrikait swnhnungkhxngthidinniklayepnwithyaekhtswnbnkhxngmhawithyalyekhpthawn xikswnhnungklayepn aelaphunthibangswnidrbkarxnurksiwcakkarphthna sungpccubnepnekhtxnurksthisakhy nxkcakni inpraethsaexfrikaitkidrbkartngchuxtamekhaechnkn thunkarsuksaords n emuxngxxksfxrd in kh s 2004 inphinykrrmchbbsudthay ordsidcdtng sunginchwngkhrungstwrrskxnhnani thangrthbal mhawithyaly aelabukhkhlinxananikhmtang iderimcdtngthunkarsuksasahrbkaredinthanginlksnani dngnnthunkhxngordscungepnswnhnungkhxngaenwthangthimixyuaelw thunniepidoxkasihnksuksachaycak rwmthungeyxrmni idekhasuksathimhawithyalyxxksfxrd sungepnsthabnthiordsekhysuksa epahmaykhxngordskhuxkarsngesrimphawaphunathimicitsatharnaaelamikhunthrrm rwmthungkar thaihsngkhramepnsingthiepnipimid odysngesrimmitrphaphrahwangmhaxanac xnusrn xnusrnsthanords nruppnordsinkhimebxrliy xnusrnsthanords tngxyubncudthiordsoprdpranbnyxdedwil emuxngekhpthawn odyhnhnamxngipthangthisehnuxaelatawnxxksuesnthang tngaet kh s 1910 thung kh s 1984 bankhxngordsinekhpthawnthichuxwa ekhyepnthiphkxyangepnthangkarkhxngnaykrthmntriaexfrikait aelatxmaichepnthiphankkhxngprathanathibdi banekidkhxngordsthukcdtngepnphiphithphnthin kh s 1938 inchux phiphithphnthxnusrnords sungpccubnruckkninchux Bishops Stortford Museum swnkrathxminmiwesnebirk Muizenberg thiekhathungaekkrrmnnepnaehlngmrdkpracacnghwdewsethirnekhp pccubnkrathxmdngklawepidepnphiphithphnthphayitkarduaelkhxngsmakhmxnurksprawtisastrmiwesnebirk aelaepidihprachachnekhachmid phayincdaesdngsingkhxngthiekiywkhxngkbordsmakmay rwmthungotaprachumedimkhxngbristhedxebiyrs sungichinkarsuxkhayephchrmulkhahlayphnlandxllar txngkarxangxing withyalyxudmsuksaords hruxpccubn khux thitngxyuinemuxng kxtngkhuntamchuxkhxngekhaodyphucdkarthrphysin aelakxtngkhuntamphrarachbyytirthsphaemuxwnthi 31 phvsphakhm kh s 1904 phlemuxngkhimebxrliy eluxksrangxnusrnsthanephuxechidchuekiyrtikhxngordsinemuxngkhxngphwkekha xnusrnniepidtwin kh s 1907 odyepnruppnthxngsmvththinahnk 72 tn aesdngphaphordskhima hnhnaipthangthisehnux thuxaephnthiinmux aelaaetngkayehmuxnemuxkhrngekhaphbkbchawxungedebelhlngkar essil cxhn ords phukxtngpraethsordiechiy pccubnkhuxpraethssimbbew ideyuxnemuxngnyngka Nyanga briewnthisungthangtawnxxkkhxngpraethskhrngaerkin kh s 1897 ekhaprathbickbkhwamngdngamkhxngphunthi aelasuxthidinrwm 40 000 ehktar caknnidnaekhapsustwcakomsmbikaelaphthnaaeplngplukaexpepilaelaphlimxyangkwangkhwang emuxekhathungaekxsykrrmin kh s 1902 ordsidmxbthidinswnihyihaekpraethschati thidinehlanipccubnklayepn Nyanga National Park banirdngedimkhxngordsidrbkarxnurksiwxyangdieyiymaelapccubnklayepnorngaermordsnyngka Rhodes Nyanga Hotel kartxtan ruppnkhrungtwthicmukesiyhayinxnusrnsthanords emuxngekhpthawn karsrangxnusrnaedordsthuktxtantngaetchwngthswrrs 1950 odyminksuksabangklumeriykrxngihthxdruppnkhxngordsxxkcakmhawithyalyekhpthawn in kh s 2015 khbwnkarthieriykwa ordsmstfxll hrux RhodesMustFall inosechiylmiediy erimtnkhuncakkarprathwngkhxngnksuksathimhawithyalyekhpthawn sungprasbkhwamsaercinkarphlkdnihthangmhawithyalythxdruppnordsxxkcakbriewnmhawithyaly karprathwngniyngmiepahmaythikwangkhuninkareriykrxngihmikarepliynaeplngechingokhrngsrangdanechuxchatiinsthabntang khxngaexfrikaithlngyukhkarthuxphiw hlngcakkarprathwngaelakarthalayruppninmhawithyalyekhpthawn karekhluxnihwthitxtanxnusrnsthankhxngordskidkhyayipyngpraethsxun rwmthungkarrnrngkhepliynchux aelaeriykrxngihthxdruppnordsxxkcak mhawithyalyxxksfxrd karekhluxnihwdngklawidrbkarklawthunginsarkhdikhxngaechnaenlofrinchux The Battle for Britain s Heroes sungcdthakhunhlngcakxafw ehirch Afua Hirsch ekhiynbthkhwamekiywkbhwkhxni nxkcakni xamit chwthuri Amit Chaudhuri yngidekhiynbthkhwaminhnngsuxphimphedxakarediyn odyrabuwakarwicarnordsepnsingthi imnaaeplkicaelalachamanan khnathiekhhined aexndruw Kehinde Andrews nkwichakarphuechiywchaydankarsuksakhxngkhnphiwda idsnbsnunkarekhluxnihw RhodesMustFall xyangaekhngkhn xyangirktam in kh s 2016 withyalyoxeriyleluxkthicaekbruppnkhxngordsiw odyxangwakarthxdruppnxacthaihsuyesiyenginbricakhkwa 100 lanpxnd aetineduxnmithunayn kh s 2020 withyalyidlngmtisnbsnunkarcdtngkhnakrrmkarsxbswnxisra thamklangkarsnbsnunxyangkwangkhwangsahrbkarthxdruppn ruppnkhxngordsthuksrangkhuninemuxngbulawaoyin kh s 1904 inicklangemuxng odyhlngcak kh s 1981 hlngcakpraethsidrbexkrach ruppnthukyayipyngswnrxypithi saranukrmbriaethnnikaklawthungsingsubenuxngkhxngordsiwwa ekhaekhyklawwanoybaykhxngekhakhux siththithiethaethiymknsahrbkhnphiwkhawthukkhnthangtxnitkhxngaemnaaesmbisi aelatxmaaekikhepn khnthimixarya phayitaerngkddncakklumesriniym aetsahrbords khwamepnipidthichawaexfriknphunemuxngcathukmxngwa mixarya nnchanghangiklcnkhasxngkhaniaethbcamikhwamhmayediywkninmummxngkhxngekha mrdkkhxngordsswnhnung hlngcakthiekhaesiychiwit ekhaidthingengincanwnmakephuxsnbsnunnksuksathimikhwamsamarth echuxchati imicheknthinkarkhdeluxk ihsuksainmhawithyalyxxksfxrd odypccubnmhawithyalyxxksfxrdminksuksacakaexfrikaitaelasimbbewthiidrbthuncakmrdknibangswnxxkmaeriykrxngihthxdruppnkhxngordsinxxksfxrd emuxthukthamthungkhwamyxnaeyngineruxngkarrbthuncakmulnithikhxngordsaelakaridrbpraoychncakoxkasnn khnaediywknktngkhathamtxmrdkkhxngekha nkekhluxnihwchawaexfrikaitkhnhnungchux Ntokozo Qwabe txbwa thunkarsuksaniimidsuxkhwamengiybkhxngera immikhwamyxnaeynginkarepnphurbthunordsaelakarwicarnmrdkkhxngessil ordstxsatharna immikhxkahndidthibngkhbiheratxngkhnhadan di intwords hruxthaihwaraxananikhmaelackrwrrdikhxngekhadukhawsaxad ineduxnmithunayn kh s 2020 thamklangbribththikwangkhunkhxng thangkhnaphubriharkhxngwithyalyoxeriylcunglngmtiihthxdruppnkhxngordsthitngxyubndanhnakhxngwithyalysunghnhnaipthanginxxksfxrd xyangirktam karthxdruppncayngimekidkhuncnkwacathungchwngtnvduibimphli kh s 2021 emuxkhnakrrmkarthicdtngkhunodywithyalysngraynganekiywkbxnakhtkhxngruppndngklaw ineduxnphvsphakhm kh s 2021 khnakrrmkarraynganwa aemwasmachikswnihycasnbsnunkarthxdruppn aettnthuninkardaeninkarthisungekinipthaihwithyalytdsinicthicaimdaeninkartxechingxrrthxangxing Pinney 1995 p 72 The Times amp 27 March 1902 Sanger Clyde William Ingham Kenneth 2024 11 29 British South Africa Company Encyclopedia Britannica subkhnemux 2024 12 01 Rotberg 1988 p 128 17 April 1994 Apartheid made in Britain Richard Dowden explains how Churchill Rhodes and Smuts caused black South Africans to lose their rights The Independent London subkhnemux 15 January 2016 History of South Africa Timeline 1485 1975 ekbthawr 13 knyayn 2011 thi ewyaebkaemchchin Maylam Paul 14 January 2016 What Cecil John Rhodes said in his will about who should get scholarships The Conversation phasaxngkvs subkhnemux 2022 03 13 Colonialism had never really ended my life in the shadow of Cecil Rhodes the Guardian phasaxngkvs 2021 01 14 subkhnemux 2022 03 13 Cecil Rhodes was a racist but you can t readily expunge him from history Will Hutton the Guardian phasaxngkvs 2015 12 20 subkhnemux 2022 03 13 Koutonin Mawuna 2016 08 18 Lost cities 9 racism and ruins the plundering of Great Zimbabwe the Guardian phasaxngkvs subkhnemux 2022 03 13 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux sahistory org za Davies Andrew John 14 August 1995 site unseen Netteswell House Bishop s Stortford The Independent phasaxngkvs subkhnemux 26 February 2021 The Rhodes Settled Estates The National Archives Papers of the Rhodes Family Hildersham Hall collection bodley ox ac uk khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 09 27 subkhnemux 4 August 2019 Rhodes 1902 p 58 Bell 2022 p 131 Parry 1983 Rotberg 1988 p 150 Biggar 2016 Flint 2009 Magubane 1996 p 109 Castle 2016 Mnyanda Siya 25 March 2015 Cecil Rhodes colonial legacy must fall not his statue The Guardian London subkhnemux 15 January 2016 25 November 2015 Woodrow Wilson and Cecil Rhodes must fall The Washington Post Washington D C subkhnemux 15 January 2016 Plaut Martin 16 April 2015 From Cecil Rhodes to Mahatma Gandhi why is South Africa tearing its statues down New Statesman London subkhnemux 15 January 2016 Magubane 1996 p 108 Phillip Riley 2007 Language Culture and Identity An Ethnolinguistic Perspective Bloomsbury Academic p 29 Robert I Rotberg Shore Miles F 1990 The Founder Cecil Rhodes and the Pursuit of Power Oxford University Press p 100 Mensing 1986 pp 99 106 Moyse Ashley 2016 The Controversial Legacy of Cecil Rhodes Biggar Nigel 12 August 2021 Cecil Rhodes and the Abuse of History History Reclaimed phasaxngkvsaebbbritich McCracken 2003 pp 22 24 Rotberg 1988 pp 131 33 Maylam 2005 p 6 Kenrick David 2019 Decolonisation Identity and Nation in Rhodesia 1964 1979 a race against time Springer ISBN 978 3 030 32697 5 Laing 2012 Blair 2004 Rotberg 1988 p 102 Michael Howard The Lessons of History 1992 p 66 Rotberg 1988 pp 663 69 Pietsch 2011 pp 723 39 Rhodes 1902 pp 23 45 Philip Ziegler Legacy Cecil Rhodes the Rhodes Trust and Rhodes Scholarships Yale UP 2008 online review Maylam 2005 p 56 Masondo Sipho 22 March 2015 Rhodes As divisive in death as in life News24 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 6 February 2016 subkhnemux 20 January 2016 Op Ed Rhodes statue removed from uct Johannesburg 9 April 2015 subkhnemux 10 April 2015 Grootes Stephen 6 April 2015 Op Ed Say it aloud Rhodes must fall subkhnemux 7 April 2015 Ispas Mara Rhodes Uni Council approves plans for name change SA Breaking News khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 10 July 2018 subkhnemux 1 June 2015 Hind Hassan 12 July 2015 Oxford Students Want Racist Statue Removed Sky News khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 16 January 2017 subkhnemux 13 July 2015 O Grady Sean 29 March 2019 TV Review The Battle for Britain s Heroes Channel 4 The Independent phasaxngkvs subkhnemux 2 April 2019 16 March 2016 The real meaning of Rhodes Must Fall The Guardian phasaxngkvsaebbbritich ISSN 0261 3077 subkhnemux 2 April 2019 The Real Cecil Rhodes New Politic 19 November 2021 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 20 February 2022 subkhnemux 20 February 2022 Scott Peter 2 February 2016 Oxford students fight to topple Cecil Rhodes statue was the easy option The Guardian Rawlinson Kevin 28 January 2016 Cecil Rhodes statue to remain at Oxford after overwhelming support The Guardian Mohdin Aamna Adams Richard Quinn and Ben 17 June 2020 Oxford college backs removal of Cecil Rhodes statue The Guardian phasaxngkvsaebbbritich ISSN 0261 3077 subkhnemux 17 June 2020 Encyclopaedia Britannica Effects Of The Jameson Raid On Rhodes s Career Cecil Rhodes statue row Chris Patten tells students to embrace freedom of thought The Guardian phasaxngkvs 13 January 2016 subkhnemux 17 June 2020 Shakib Delara Linda Givetash 18 June 2020 Rhodes will fall Oxford University to remove statue amid anti racism calls NBC News subkhnemux 7 July 2020 Race Michael 5 January 2021 Decision over future of Oxford s Cecil Rhodes statue delayed BBC News subkhnemux 27 April 2021 Race Michael 20 May 2021 Removal of Oxford s Cecil Rhodes statue on hold over costs BBC News subkhnemux 20 May 2021 aehlngkhxmul bthkhwam Aldrich Robert Wotherspoon Garry 2001 Who s who in Gay and Lesbian History From Antiquity to World War II Routledge ISBN 978 0 415 15982 1 Alexander Eleanor b k 1914 Chapter XIV South Africa 1893 Primate Alexander Archbishop of Armagh A memoir London Edward Arnold p 259 Bell Duncan 2022 Dreamworlds of Race Empire and the Utopian Destiny of Anglo America Princeton University Press a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint ref duplicates default Bigelow Bill Peterson Bob 2002 Rethinking Globalization Teaching for Justice in an Unjust World Milwaukee Rethinking Schools ISBN 978 0 942961 28 7 1977 A History of Rhodesia London Methuen ISBN 978 0413283504 Anon 2007 Boschendal founded 1685 Boschendal Ltd ISBN 978 0 620 38001 0 Britten Sarah 2006 The Art of the South African Insult 30 South Publishers ISBN 978 1 920143 05 3 1922 The Life of Jameson London E Arnold and Co ISBN 978 1 116 69524 3 Currey John Blades Simons Phillida Brooke 1986 1850 to 1900 fifty years in the Cape Colony Brenthurst Press ISBN 978 0 909079 31 4 Davidson Apollon Borisovich 2003 Cecil Rhodes and his Time Christopher English trans Protea Book House ISBN 978 1 919825 24 3 Epstein Edward Jay 1982 The rise and fall of diamonds the shattering of a brilliant illusion Simon and Schuster ISBN 978 0671412890 Ferguson Niall 1999 The house of Rothschild the world s banker 1849 1999 Viking ISBN 978 0 670 88794 1 Flint John 2009 Cecil Rhodes Little Brown ISBN 978 0 316 08670 7 a scholarly biography Crown and Charter the Early Years of the British South Africa Company 1974 1905 Rhodes and Milner The Empire and the century London John Murray pp 478 520 Johari J C 1993 Voices Of Indian Freedom Movement Anmol Publications Pvt Limited ISBN 978 81 7158 225 9 lingkesiy Judd Denis and Keith Surridge The Boer War A History Bloomsbury Publishing 2013 Knowles Lilian Charlotte Anne Knowles Charles Matthew 2005 The Economic Development of the British Overseas Empire Taylor amp Francis ISBN 978 0415350488 Le Sueur Gordon 1913 Cecil Rhodes The Man and His Work London London Lockhart John Gilbert Woodhouse Christopher Montague 1963 Cecil Rhodes The Colossus of Southern Africa Macmillan McDonald J G 1917 Rhodes A Life London Chatto amp Windus p 403 Magubane Bernard M 1996 The Making of a Racist State British Imperialism and the Union of South Africa 1875 1910 Trenton New Jersey Africa World Press ISBN 978 0865432413 Martin Meredith 2009 Diamonds Gold and War The British the Boers and the Making of South Africa CreateSpace ISBN 978 1 4587 1877 8 1991 Dreadnought Britain Germany and the Coming of the Great War London Jonathan Cape ISBN 978 1781856680 McCracken Donal P 2003 Forgotten Protest Ireland and the Anglo Boer War Ulster Historical Foundation pp 22 24 ISBN 978 1903688182 1933 Rhodes Harper amp brothers Oberholster A G Van Breda Pieter 1987 Paarl Valley 1687 1987 Human Sciences Research Council ISBN 0 7969 0539 8 Pakenham Thomas 1992 Boer War HarperCollins ISBN 978 0380720019 Parsons Neil 1993 A New History of Southern Africa London Macmillan ISBN 978 0 8419 5319 2 Phelan T 1913 The Siege of Kimberley Dublin M H Gill and Son ISBN 978 0 554 24773 1 Picton Seymour Desiree 1989 Historical Buildings in South Africa Struikhof Publishers ISBN 978 0 947458 01 0 Pinney Thomas 1995 The Letters of Rudyard Kipling Volume 3 1900 10 Palgrave Macmillan UK p 72 ISBN 978 1349137398 Plomer William 1984 Cecil Rhodes D Philip ISBN 978 0 08646018 9 Radziwill Princess Catherine 1918 Cecil Rhodes Man and Empire Maker London New York Toronto and Melbourne Cassell amp Company Ltd ISBN 978 0 554 35300 5 Rhodes Cecil 1902 Stead William Thomas b k The Last Will and Testament of Cecil John Rhodes with Elucidatory Notes to which are Added Some Chapters Describing the Political and Religious Ideas of the Testator London Roberts Brian 1969 Cecil Rhodes and the Princess Lippincott Roberts Brian 1976 Kimberley Turbulent City D Philip ISBN 978 0 949968 62 3 Ronnback Klas Broberg Oskar 2019 Capital and Colonialism The Return on British Investments in Africa 1869 1969 Springer ISBN 978 3 030 19711 7 Rosenthal Eric 1965 South African Surnames H Timmins 1988 The Founder Cecil Rhodes and the Pursuit of Power Oxford University Press ISBN 978 0 19 987920 5 856pp the standard scholarly biography says McFarlane 2007 Simpson William Jones Martin Desmond 2000 Europe 1783 1914 Routledge p 237 ISBN 978 0 415 22660 8 Thomas Antony 1997 Rhodes Race for Africa St Martin s Press ISBN 978 0 312 16982 4 Thompson J Lee 2007 Forgotten Patriot A Life of Alfred Viscount Milner of St James s and Cape Town 1854 1925 Fairleigh Dickinson Univ Press ISBN 978 0 8386 4121 7 Twain Mark 1898 A Journey around the World Hartford CT The American Publishing Company Williams Basil 1921 Cecil Rhodes Holt Wilson Scott 2016 Resting Places The Burial Sites of More Than 14 000 Famous Persons 3d ed McFarland ISBN 978 1 4766 2599 7 saranukrm Domville Fife C W 1900 The encyclopedia of the British Empire the first encyclopedic record of the greatest empire in the history of the world Bristol Rankin p 89 Farwell Byron 2001 The Encyclopedia of Nineteenth century Land Warfare An Illustrated World View W W Norton amp Company ISBN 978 0 393 04770 7 Panton Kenneth J 2015 Historical Dictionary of the British Empire London Rowman amp Littlefield ISBN 978 0810878013 bthkhwamwarsar Brown Richard November 1990 The Colossus The Journal of African History Cambridge University Press 31 3 499 502 doi 10 1017 S002185370003125X S2CID 197414114 Gray J A 1956 A Country in Search of a Name The Northern Rhodesia Journal III 1 75 78 subkhnemux 1 August 2014 Gray J A 1954 First Records 6 The Name Rhodesia The Northern Rhodesia Journal II 4 101 02 subkhnemux 1 August 2014 Lowry Donal 2004 The granite of the ancient North race nation and empire at Cecil Rhodes s mountain mausoleum and Rhodes House Oxford in Wrigley Richard Craske Matthew b k Pantheons Transformations of a Monumental Idea Ashgate ISBN 978 0 7546 0808 0 Mensing Raymond C 1986 Cecil Rhodes s Ideas of Race and Empire International Social Science Review 61 3 99 odythang Parry Richard 1983 In a Sense Citizens but Not Altogether Citizens Rhodes Race and the Ideology of Segregation at the Cape in the Late Nineteenth Century Canadian Journal of African Studies 17 3 Pietsch Tamson 2011 Many Rhodes travelling scholarships and imperial citizenship in the British academic world 1880 1940 History of Education 40 6 723 39 doi 10 1080 0046760X 2011 594096 ISSN 0046 760X S2CID 144672521 Plumb J H Cecil Rhodes History Today June 1953 3 6 pp 431 38 2014 Did Cecil Rhodes Really Try to Control the World The Journal of Imperial and Commonwealth History 42 3 551 67 doi 10 1080 03086534 2014 934000 ISSN 0308 6534 S2CID 159787554 bthkhwamhnngsuxphimph Blair David 19 October 2004 Racists on List of Great South Africans The Telegraph ekbcakaehlngedimemux 11 January 2022 subkhnemux 18 July 2014 Briggs Simon 31 May 2009 England on Guard as World Takes Aim in Twenty20 Stakes The Daily Telegraph London ekbcakaehlngedimemux 11 January 2022 subkhnemux 13 June 2009 Castle Stephen 29 January 2016 Oxford University Will Keep Statue of Cecil Rhodes The New York Times subkhnemux 15 February 2016 Death of Mr Rhodes The Times 27 March 1902 p 7 Laing Aislinn 22 February 2013 Robert Mugabe blocks Cecil John Rhodes Exhumation The Telegraph London subkhnemux 1 April 2013 The Lottery of Life The Independent 5 May 2001 subkhnemux 26 January 2010 ewbist PBS Empires Queen Victoria The Changing Empire Characters Cecil Rhodes Godwin Peter 11 January 1998 Rhodes to Hell Slate subkhnemux 7 January 2007 Biggar Nigel 23 February 2016 Rhodes Race and the Abuse of History Standpoint khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 August 2019 subkhnemux 9 June 2016 aehlngkhxmulpthmphumi Verschoyle F 1900 Cecil Rhodes His Political Life and Speeches 1881 1900 Chapman and Hall Limited prawtisastrniphnthaelakhwamthrngca Galbraith John S 2008 Cecil Rhodes and his cosmic dreams A reassessment The Journal of Imperial and Commonwealth History 1 2 173 89 doi 10 1080 03086537308582371 ISSN 0308 6534 McFarlane Richard A 2007 Historiography of Selected Works on Cecil John Rhodes 1853 1902 History in Africa 34 437 46 doi 10 1353 hia 2007 0013 S2CID 163034852 Maylam Paul 2005 The Cult of Rhodes Remembering an Imperialist in Africa New Africa Books ISBN 978 0 86486 684 4 Phimister I R 2007 Rhodes Rhodesia and the Rand Journal of Southern African Studies 1 1 74 90 doi 10 1080 03057077408707924 ISSN 0305 7070 Van Hartesveldt Fred R 2000 The Boer War Historiography and Annotated Bibliography Greenwood Publishing Group pp 6 ISBN 978 0 313 30627 3 von Tunzelmann Alex 17 February 2016 Rhodes Must Fall A Question of When Not If historytoday com subkhnemux 21 August 2017 Ziegler Philip 2008 Legacy Cecil Rhodes the Rhodes Trust and Rhodes Scholarship s Yale University Press ISBN 978 0 300 11835 3 online reviewaehlngkhxmulxunessil ords thiokhrngkarphinxngkhxngwikiphiediy phaphaelasuxcakkhxmmxnskhakhmcakwikikhakhmkhxmultnchbbcakwikisxrs Cecil John Rhodes history kvtphakhcakhnngsuxphimphekiywkb essil ords in khxng phaphehmuxnkhxng Cecil John Rhodes thihxsilpphaphehmuxnaehngchatibthkhwamthwipaexfrikaniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk