เจ้าชายฟร็องซัว-เออแฌนแห่งซาวอย ฝรั่งเศส: François-Eugène de Savoie) หรือ เจ้าชายออยเกินแห่งซาวอย (เยอรมัน: Eugen von Savoyen)) เจ้าชายเออแฌนแห่งซาวอยเป็นแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงและมีสมรรถภาพที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตรยุโรป เจ้าชายเออแฌนแห่งซาวอยประสูติที่กรุงปารีส จากพระบิดามารดาที่เป็นเจ้าซาวอย เจ้าชายเออแฌนเจริญพระชันษาขึ้นมาในราชสำนักฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เดิมพระองค์มีพระประสงค์จะดำเนินอาชีพเป็นนักบวชแต่เมื่อมีพระชนม์ได้ 19 ก็หันไปสนใจกับอาชีพการเป็นทหาร เมื่อถูกปฏิเสธโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จากการเข้ารับราชการในกองทัพฝรั่งเศส เจ้าชายเออแฌนก็ทรงย้ายไปออสเตรียและหันไปสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
ฟร็องซัว-เออแฌนแห่งซาวอย François-Eugène de Savoie | |
---|---|
ประสูติ | 18 ตุลาคม ค.ศ. 1663 กรุงปารีส ราชอาณาจักรฝรั่งเศส |
สวรรคต | 21 เมษายน ค.ศ. 1736 กรุงเวียนนา จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ |
พระราชบิดา | |
พระราชมารดา | |
ลายพระอภิไธย |
เจ้าชายเออแฌนแห่งซาวอยรับราชการอยู่หกสิบปีภายใต้จักรพรรดิฮาพส์บวร์คสามพระองค์ – , จักรพรรดิโยเซฟที่ 1 และ จักรพรรดิคาร์ลที่ 6
สงครามครั้งแรกที่เจ้าชายเออแฌนทรงมีส่วนร่วมคือการสงครามต่อต้านการล้อมกรุงเวียนนาของออตโตมันเติร์กในยุทธการเวียนนาใน ค.ศ. 1683 และต่อมาสงครามสันนิบาตศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ก่อนที่จะเข้าร่วมในสงครามเก้าปีพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องวิคเตอร์ อมาเดอุสที่ 2 ดยุกแห่งซาวอย แต่ชื่อเสียงของเจ้าชายเออแฌนมามั่นคงเมื่อได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดต่อออตโตมันในในปี ค.ศ. 1697 จากนั้นก็มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นระหว่างสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนเมื่อไปทำการเป็นพันธมิตรกับจอห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระ ที่ได้รับชัยชนะต่อฝรั่งเศสใน, และ จากนั้นก็ไปได้รับความสำเร็จในฐานะแม่ทัพของกองทัพของพระจักรพรรดิทางตอนเหนือของอิตาลี โดยเฉพาะในในปี ค.ศ. 1706 เมื่อความขัดแย้งกับจักรวรรดิออตโตมันเริ่มขึ้นอีกครั้งใน เจ้าชายเออแฌนก็ทรงสามารถปราบปรามข้าศึกศัตรูได้ใน และ ยุทธการเบลเกรด
ตลอดคริสต์ทศวรรษ 1720 อิทธิพลและความสามารถทางการทูตของของเจ้าชายเออแฌนก็สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปัญญาขัดแย้งต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสืบราชบัลลังก์ แต่ในบั้นปลายของชีวิตความเหนื่อยร้าและสุขภาพทางจิตที่เปราะบางทำให้พระองค์ไม่ทรงประสบความสำเร็จในฐานะผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดในการพยายามยุติสงครามสืบราชบัลลังก์โปแลนด์ได้ แต่กระนั้นในออสเตรีย ชื่อเสียงของเจ้าชายเออแฌนก็ไม่มีผู้ใดเทียมได้ ความเห็นเกี่ยวกับบุคลิกของเจ้าชายเออแฌนอาจจะแตกต่างกันไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่จะค้านความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงป้องกันจักรวรรดิฮาพส์บวร์คจากถูกกลืนไปเป็นของฝรั่งเศส และทรงหยุดยั้งการรุกรานมาทางตะวันตกของจักรวรรดิออตโตมัน และปลดปล่อยยุโรปกลางจากการยึดครองของออตโตมันที่ดำเนินมาเป็นเวลาร้อยห้าสิบปี นอกจากนั้นเจ้าชายเออแฌนก็ยังทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะคนสำคัญ เจ้าชายเออแฌนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1736 เมื่อมีพระชนมายุได้ 72 พรรษา
ชีวิตเบื้องต้น (ค.ศ. 1663–ค.ศ. 1699)
โอเตลซัวซองส์
เจ้าชายเออแฌนประสูติที่โอเตลซัวซองส์ในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1663 แม้ว่าจะทรงเป็นข้าราชสำนักในพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แต่บิดามารดาของเจ้าชายเออแฌนมาจากตระกูลอิตาลี พระมารดาเป็นหลานคนหนึ่งของคาร์ดินัลมาซารินที่มาซารินนำตัวจากโรมมายังปารีสด้วย เพื่อมาแสวงหาความก้าวหน้าในปี ค.ศ. 1647 ลูกหลานตระกูลมันชินีถูกเลี้ยงดูเติบโตขึ้นมาในปาแล-รัวยาล (Palais-Royal) พร้อมกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อยังทรงพระเยาว์ ที่โอลิมเปียมีความสัมพันธ์เป็นการส่วนตัว แต่ความทะเยอทะยานที่จะเป็นพระราชินีก็เลื่อนลอยไป ในปี ค.ศ. 1657 โอลิมเปียสมรสกับ ผู้ต่อมาเป็นเคานท์แห่งซัวซองส์ และมีบุตรธิดาด้วยกันแปดคน ชายห้าหญิงสามโดยมีเออแฌนเป็นคนสุดท้อง พระบิดาของเออแฌนเป็นนายทหารผู้กล้าหาญในกองทัพฝรั่งเศสแต่ไม่มีตำแหน่งที่มีหน้ามีตาแต่อย่างใด และใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางไปทำการรณรงค์ทางการทหาร ขณะที่ความไฝ่สูงและการชอบเข้ายุ่งเกี่ยวกับกิจการในราชสำนักทำให้บรรดาบุตรธิดาต้องอยู่กันตามลำพังกับพี่เลี้ยง
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ยังทรงมีความใกล้ชิดกับโอลิมเปียอย่างเหนียวแน่นจนเป็นที่เชื่อกันทั้งสองคนอาจจะเป็นคนรัก แต่ความทะเยอทะยานของโอลิมเปียเป็นสิ่งที่ทำลายตนเองในที่สุด หลังจากที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในราชสำนักแล้ว โอลิมเปียก็หันไปให้ช่วยใช้เวทมนตร์คาถาและโหราศาสตร์ช่วยซึ่งกลายเป็นความสัมพันธ์ที่นำมาสู่ความหายนะ โอลิมเปียเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องอื้อฉาวใน “” (Affaire des poisons) ที่ทำให้เกิดความสงสัยถึงสาเหตุการสิ้นพระชนม์อันกะทันหันของสามีในปี ค.ศ. 1673 และนอกจากนั้นก็ถึงกับถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการพยายามปลงพระชนม์พระเจ้าหลุยส์เอง ไม่ว่าความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรแทนที่จะอยู่สู้คดีโอลิมเปียก็หนีไปบรัสเซลส์ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1680 ทิ้งเจ้าชายเออแฌนให้อยู่ในความดูแลของพระอัยกี และลูกสาว พระมารดาของ
ตั้งแต่มีพระชนม์ได้สิบพรรษาเจ้าชายเออแฌนก็ได้รับการเลี้ยงดูขึ้นมาให้มีอาชีพทางศาสนา ซึ่งเป็นวิถีชีวิตตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้ทรงเห็นว่าเจ้าชายเออแฌนไม่มีพระสุขภาพพลานามัยอันเหมาะแก่งานสำบุกสำบัน บันทึกว่า “พระองค์ไม่เคยมีพระสิริโฉมอันน่าประทับใจ…และก็จริงที่ว่าพระเนตรไมได้ไม่งาม แต่พระนาสิกทำให้พระพักตร์เสียรูป พระองค์มีพระทนต์สองซี่ใหญ่ที่เห็นอยู่เสมอ” ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1683 เจ้าชายเออแฌนก็ทรงตำความตกใจให้แก่ครอบครัวโดยทรงประกาศว่ามีพระประสงค์ที่จะเข้ารับราชการเป็นทหาร เจ้าชายเออแฌนผู้ขณะนั้นมีพระชนม์สิบเก้าพรรษาทูลขอพระเจ้าหลุยส์โดยตรงให้มีหน้าที่บังคับบัญชากองทหารฝรั่งเศส แต่พระเจ้าหลุยส์ – ผู้ไม่มีความเห็นอกเห็นใจบุตรธิดาของโอลิมเปียตั้งแต่มาหมดความสำคัญลงไป – ทรงปฏิเสธ พระเจ้าหลุยส์มีพระราชดำริว่า “คำขอเป็นการอ่อนน้อมแต่เจ้าตัวผู้ขอไม่ และไม่มีผู้ใดที่จะกล้าจ้องฉันอย่างอวดดีเช่นนั้น”
เมื่อไม่ได้อาชีพทางทหารในฝรั่งเศสตามที่ต้องการ เจ้าชายเออแฌนก็ตัดสินพระทัยไปแสวงหาโอกาสในต่างประเทศ พระเชษฐาองค์หนึ่ง หลุยส์ จูเลียสเข้ารับราชการในกองทัพของพระจักรพรรดิปีก่อนหน้านั้น แต่ไปถูกสังหารทันทีในการต่อสู้กับออตโตมันเติร์กในปี ค.ศ. 1683 เมื่อข่าวการเสียชีวิตมาถึงปารีสเจ้าชายเออแฌนก็ตัดสินพระทัยหนีไปออสเตรียโดยหวังที่จะไปทำหน้าที่แทนพระเชษฐา ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่มีเหตุผล เพราะหลุยส์แห่งบาเดินลูกพี่ลูกน้องของเจ้าชายเออแฌนก็รับราชการเป็นนายพลในกองทัพของพระจักรพรรดิอยู่แล้ว และพระญาติห่างๆ มักซีมีเลียนที่ 2 เอมานูเอล ผู้คัดเลือกแห่งบาวาเรีย ในคืนวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1683 เจ้าชายเออแฌนก็หนีออกจากปารีสและมุ่งไปทางตะวันออก
มหาสงครามตุรกี
เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1683 อันตรายจากการรุกรานเวียนนาของ โดยออตโตมันก็ใกล้ความเป็นจริงขึ้นทุกขณะ ก่อนหน้านั้นมหาเสนาบดี (Kara Mustafa Pasha) – ผู้ฉวยโอกาสขณะที่เกิดการก่อความไม่สงบโดยผู้ก่อการมาจยา – นำทัพจำนวน 100,000–200,000 คน เข้ามารุกราน ภายในสองเดือนกองทัพของมุสตาฟาก็มาถึงกำแพงเมืองเวียนนา จึงเสด็จหนีไปยังพาสเซาบนฝั่งแม่น้ำดานูป ซึ่งไกลออกไปจากเมืองหลวงและปลอดภัยกว่า ค่ายที่ประทับของจักรพรรดิเลโอโพลด์ที่ 1 ที่พาสเซาเป็นที่ที่เจ้าชายเออแฌนได้เข้าเฝ้าในกลางเดือนสิงหาคม
แม้เจ้าชายเออแฌนจะไม่ใช่ชาวออสเตรียแต่พระองค์ทรงมีเชื้อสายฮาพส์บวร์ค พระอัยกาผู้ก่อตั้งสายของราชวงศ์ซาวอยเป็นโอรสของ – พระราชธิดาในพระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน – และเหลนของจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แต่ความเกี่ยวพันสำหรับจักรพรรดิเลโอโพลด์ในขณะนั้นคือเจ้าชายเออแฌนทรงเป็นญาติห่างๆ ของวิคเตอร์ อมาเดอุส ดยุกแห่งซาวอย ซึ่งเป็นความเกี่ยวพันที่พระจักรพรรดิทรงเห็นว่าอาจจะมีประโยชน์ในภายภาคหน้าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝรั่งเศส ความเกี่ยวดองเหล่านี้ และบุคลิกภาพที่เหมาะกับบรรยากาศของราชสำนักของจักรพรรดิเลโอโพลด์ มีส่วนทำให้เจ้าชายเออแฌนผู้หนีมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่พาสเซา และได้รับตำแหน่งราชการในกองทัพของพระจักรพรรดิ
เจ้าชายเออแฌนทรงทราบว่าควรจะสวามิภักดิ์ต่อผู้ใด – “ข้าพระองค์จะอุทิศกำลังกายทั้งหมด, ความกล้าหาญทั้งหมด, และถ้าจำเป็นโลหิตหยาดสุดท้ายถวายแด่พระองค์” ความจงรักภักดีนี้ได้รับการทดสอบทันที เมื่อมาถึงเดือนกันยายนกองทัพของพระมหาจักรพรรดิภายใต้การนำของชาร์ลส์ที่ 5 ดยุกแห่งลอร์แรน พร้อมด้วยกองทัพอันเข้มแข็งของพระมหากษัตริย์โปแลนด์พระเจ้าจอห์นที่ 3 โซบีสกีแห่งโปแลนด์ก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าต่อสู้กับกองทัพของสุลต่านออตโตมันที่ล้อมกรุงเวียนนาอยู่ เมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1683 กองทัพฝ่ายคริสเตียนก็รวบรวมกำลังกันบนเนินทางตะวันออกเฉียงใต้ของป่าเวียนนามองลงไปยังค่ายทหารของฝ่ายศัตรูที่ตั้งอยู่กลาดเกลื่อน หลังจากทำการต่อสู้กันวันหนึ่งในยุทธการเวียนนา ฝ่ายคริสเตียนก็สามารถยุติการล้อมเมืองเวียนนาอยู่สองเดือนของฝ่ายออตโตมัน ฝ่ายออตโตมันได้รับความพ่ายแพ้จนต้องถอยทัพ การต่อสู้อย่างกล้าหาญภายใต้การนำของบาเดินทำให้เจ้าชายเออแฌนทรงได้รับคำสรรเสริญจากลอร์แรนและจากพระจักรพรรดิ และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายพันของกองทหารม้าคุฟสไตน์
อ้างอิง
- The Encyclopædia Britannica puts the death of Eugene on 24 April. This is incorrect.
- McKay: Prince Eugene of Savoy, 9–10
- Somerset: The Affair of the Poisons: Murder, Infanticide and Satanism at the Court of Louis XIV, 252
- McKay: Prince Eugene of Savoy, 9
- Henderson: Prince Eugen of Savoy, 9
- Heer: The Holy Roman Empire, 228. This was a clear infringement of taboo which Louis could not tolerate. Other reasons are also speculated. François-Michel le Tellier, Marquis de Louvois, Louis' secretary of State for War, detested Eugene's mother after she had rejected a proposed marriage between her daughter and his son.
- Heer states Eugene's departure date was 21 July.
- Childs: Warfare in the Seventeenth Century, 133. Childs puts the number at 100,000; John Wolf, as high as 200,000.
- Stoye: The Siege of Vienna, 114
- Henderson: Prince Eugen of Savoy, 12
- Churchill: Marlborough: His Life and Times, Bk. 1, 467
- Henderson: Prince Eugen of Savoy, 13
- MacMunn: Prince Eugene: Twin Marshal with Marlborough, 32
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha ecachayfrxngsw exxaechnaehngsawxy frngess Francois Eugene de Savoie hrux ecachayxxyekinaehngsawxy eyxrmn Eugen von Savoyen ecachayexxaechnaehngsawxyepnaemthphphumichuxesiyngaelamismrrthphaphthisudkhnhnunginprawtisastryuorp ecachayexxaechnaehngsawxyprasutithikrungparis cakphrabidamardathiepnecasawxy ecachayexxaechnecriyphrachnsakhunmainrachsankfrngesskhxngphraecahluysthi 14 edimphraxngkhmiphraprasngkhcadaeninxachiphepnnkbwchaetemuxmiphrachnmid 19 khnipsnickbxachiphkarepnthhar emuxthukptiesthodyphraecahluysthi 14 cakkarekharbrachkarinkxngthphfrngess ecachayexxaechnkthrngyayipxxsetriyaelahnipswamiphkditxrachwngshaphsbwrkhfrxngsw exxaechnaehngsawxy Francois Eugene de Savoieprasuti18 tulakhm kh s 1663 krungparis rachxanackrfrngessswrrkht21 emsayn kh s 1736 krungewiynna ckrwrrdiormnxnskdisiththiphrarachbidaphrarachmardalayphraxphiithy ecachayexxaechnaehngsawxyrbrachkarxyuhksibpiphayitckrphrrdihaphsbwrkhsamphraxngkh ckrphrrdioyesfthi 1 aela ckrphrrdikharlthi 6 sngkhramkhrngaerkthiecachayexxaechnthrngmiswnrwmkhuxkarsngkhramtxtankarlxmkrungewiynnakhxngxxtotmnetirkinyuththkarewiynnain kh s 1683 aelatxmasngkhramsnnibatskdisiththisungepnswnhnungkhxng kxnthicaekharwminsngkhramekapiphrxmkblukphiluknxngwikhetxr xmaedxusthi 2 dyukaehngsawxy aetchuxesiyngkhxngecachayexxaechnmamnkhngemuxidrbchychnaxyangeddkhadtxxxtotmnininpi kh s 1697 caknnkmichuxesiyngephimkhunrahwangsngkhramsubrachbllngksepnemuxipthakarepnphnthmitrkbcxhn echxrchil dyukaehngmarlbara thiidrbchychnatxfrngessin aela caknnkipidrbkhwamsaercinthanaaemthphkhxngkxngthphkhxngphrackrphrrdithangtxnehnuxkhxngxitali odyechphaaininpi kh s 1706 emuxkhwamkhdaeyngkbckrwrrdixxtotmnerimkhunxikkhrngin ecachayexxaechnkthrngsamarthprabpramkhasukstruidin aela yuththkareblekrd tlxdkhristthswrrs 1720 xiththiphlaelakhwamsamarththangkarthutkhxngkhxngecachayexxaechnksamarthsrangkhwammnkhngihaekckrphrrdiaehngckrwrrdiormnxnskdisiththiinpyyakhdaeyngtang thiekiywkbkarsubrachbllngk aetinbnplaykhxngchiwitkhwamehnuxyraaelasukhphaphthangcitthiepraabangthaihphraxngkhimthrngprasbkhwamsaercinthanaphubngkhbbychathharsungsudinkarphyayamyutisngkhramsubrachbllngkopaelndid aetkranninxxsetriy chuxesiyngkhxngecachayexxaechnkimmiphuidethiymid khwamehnekiywkbbukhlikkhxngecachayexxaechnxaccaaetktangknip aetkimmiphuidthicakhankhwamsaercxnyingihythiphraxngkhthrngpxngknckrwrrdihaphsbwrkhcakthukklunipepnkhxngfrngess aelathrnghyudyngkarrukranmathangtawntkkhxngckrwrrdixxtotmn aelapldplxyyuorpklangcakkaryudkhrxngkhxngxxtotmnthidaeninmaepnewlarxyhasibpi nxkcaknnecachayexxaechnkyngthrngepnphuxupthmphsilpakhnsakhy ecachayexxaechnsinphrachnmemuxwnthi 21 emsayn kh s 1736 emuxmiphrachnmayuid 72 phrrsachiwitebuxngtn kh s 1663 kh s 1699 oxetlswsxngs oxetlswsxngsthiprasutikhxngecachayexxaechn ecachayexxaechnprasutithioxetlswsxngsinkrungparisemuxwnthi 18 tulakhm kh s 1663 aemwacathrngepnkharachsankinphraecahluysthi 14 aetbidamardakhxngecachayexxaechnmacaktrakulxitali phramardaepnhlankhnhnungkhxngkhardinlmasarinthimasarinnatwcakormmayngparisdwy ephuxmaaeswnghakhwamkawhnainpi kh s 1647 lukhlantrakulmnchinithukeliyngduetibotkhunmainpaael rwyal Palais Royal phrxmkbphraecahluysthi 14 emuxyngthrngphraeyaw thioxlimepiymikhwamsmphnthepnkarswntw aetkhwamthaeyxthayanthicaepnphrarachinikeluxnlxyip inpi kh s 1657 oxlimepiysmrskb phutxmaepnekhanthaehngswsxngs aelamibutrthidadwyknaepdkhn chayhahyingsamodymiexxaechnepnkhnsudthxng phrabidakhxngexxaechnepnnaythharphuklahayinkxngthphfrngessaetimmitaaehnngthimihnamitaaetxyangid aelaichewlaswnihyedinthangipthakarrnrngkhthangkarthhar khnathikhwamifsungaelakarchxbekhayungekiywkbkickarinrachsankthaihbrrdabutrthidatxngxyukntamlaphngkbphieliyng phraecahluysthi 14 yngthrngmikhwamiklchidkboxlimepiyxyangehniywaenncnepnthiechuxknthngsxngkhnxaccaepnkhnrk aetkhwamthaeyxthayankhxngoxlimepiyepnsingthithalaytnexnginthisud hlngcakthiimepnthioprdpraninrachsankaelw oxlimepiykhnipihchwyichewthmntrkhathaaelaohrasastrchwysungklayepnkhwamsmphnththinamasukhwamhayna oxlimepiyekhaipmiswnekiywphnkberuxngxuxchawin Affaire des poisons thithaihekidkhwamsngsythungsaehtukarsinphrachnmxnkathnhnkhxngsamiinpi kh s 1673 aelanxkcaknnkthungkbthukklawhawamiswninkarphyayamplngphrachnmphraecahluysexng imwakhwamepncringcaepnxyangiraethnthicaxyusukhdioxlimepiykhniipbrseslsineduxnmkrakhm kh s 1680 thingecachayexxaechnihxyuinkhwamduaelkhxngphraxyki aelaluksaw phramardakhxng tngaetmiphrachnmidsibphrrsaecachayexxaechnkidrbkareliyngdukhunmaihmixachiphthangsasna sungepnwithichiwittamphrarachprasngkhkhxngphraecahluysthi 14 phuthrngehnwaecachayexxaechnimmiphrasukhphaphphlanamyxnehmaaaekngansabuksabn bnthukwa phraxngkhimekhymiphrasiriochmxnnaprathbic aelakcringthiwaphraentrimidimngam aetphranasikthaihphraphktresiyrup phraxngkhmiphrathntsxngsiihythiehnxyuesmx ineduxnkumphaphnth kh s 1683 ecachayexxaechnkthrngtakhwamtkicihaekkhrxbkhrwodythrngprakaswamiphraprasngkhthicaekharbrachkarepnthhar ecachayexxaechnphukhnannmiphrachnmsibekaphrrsathulkhxphraecahluysodytrngihmihnathibngkhbbychakxngthharfrngess aetphraecahluys phuimmikhwamehnxkehnicbutrthidakhxngoxlimepiytngaetmahmdkhwamsakhylngip thrngptiesth phraecahluysmiphrarachdariwa khakhxepnkarxxnnxmaetecatwphukhxim aelaimmiphuidthicaklacxngchnxyangxwddiechnnn emuximidxachiphthangthharinfrngesstamthitxngkar ecachayexxaechnktdsinphrathyipaeswnghaoxkasintangpraeths phraechsthaxngkhhnung hluys cueliysekharbrachkarinkxngthphkhxngphrackrphrrdipikxnhnann aetipthuksngharthnthiinkartxsukbxxtotmnetirkinpi kh s 1683 emuxkhawkaresiychiwitmathungparisecachayexxaechnktdsinphrathyhniipxxsetriyodyhwngthicaipthahnathiaethnphraechstha sungkepnkartdsinicthimiehtuphl ephraahluysaehngbaedinlukphiluknxngkhxngecachayexxaechnkrbrachkarepnnayphlinkxngthphkhxngphrackrphrrdixyuaelw aelaphrayatihang mksimieliynthi 2 exmanuexl phukhdeluxkaehngbawaeriy inkhunwnthi 26 krkdakhm kh s 1683 ecachayexxaechnkhnixxkcakparisaelamungipthangtawnxxk mhasngkhramturki mksimieliynthi 2 exmanuexl phukhdeluxkaehngbawaeriy kh s 1662 kh s 1726 phuxupthmphrahwangkhristthswrrs 1680 phuklaymaepnstrurahwangsngkhramsubrachbllngksepn emuxmathungpi kh s 1683 xntraycakkarrukranewiynnakhxng odyxxtotmnkiklkhwamepncringkhunthukkhna kxnhnannmhaesnabdi Kara Mustafa Pasha phuchwyoxkaskhnathiekidkarkxkhwamimsngbodyphukxkarmacya nathphcanwn 100 000 200 000 khn ekhamarukran phayinsxngeduxnkxngthphkhxngmustafakmathungkaaephngemuxngewiynna cungesdchniipyngphasesabnfngaemnadanup sungiklxxkipcakemuxnghlwngaelaplxdphykwa khaythiprathbkhxngckrphrrdieloxophldthi 1 thiphasesaepnthithiecachayexxaechnidekhaefainklangeduxnsinghakhm aemecachayexxaechncaimichchawxxsetriyaetphraxngkhthrngmiechuxsayhaphsbwrkh phraxykaphukxtngsaykhxngrachwngssawxyepnoxrskhxng phrarachthidainphraecafilipthi 2 aehngsepn aelaehlnkhxngckrphrrdikharlthi 5 aetkhwamekiywphnsahrbckrphrrdieloxophldinkhnannkhuxecachayexxaechnthrngepnyatihang khxngwikhetxr xmaedxus dyukaehngsawxy sungepnkhwamekiywphnthiphrackrphrrdithrngehnwaxaccamipraoychninphayphakhhnaemuxtxngephchiyhnakbfrngess khwamekiywdxngehlani aelabukhlikphaphthiehmaakbbrryakaskhxngrachsankkhxngckrphrrdieloxophld miswnthaihecachayexxaechnphuhnimaphungphrabrmophthismpharidrbkartxnrbxyangxbxunthiphasesa aelaidrbtaaehnngrachkarinkxngthphkhxngphrackrphrrdi ecachayexxaechnthrngthrabwakhwrcaswamiphkditxphuid khaphraxngkhcaxuthiskalngkaythnghmd khwamklahaythnghmd aelathacaepnolhithyadsudthaythwayaedphraxngkh khwamcngrkphkdiniidrbkarthdsxbthnthi emuxmathungeduxnknyaynkxngthphkhxngphramhackrphrrdiphayitkarnakhxngcharlsthi 5 dyukaehnglxraern phrxmdwykxngthphxnekhmaekhngkhxngphramhakstriyopaelndphraecacxhnthi 3 osbiskiaehngopaelndketriymphrxmthicaekhatxsukbkxngthphkhxngsultanxxtotmnthilxmkrungewiynnaxyu emuxwnthi 12 knyayn kh s 1683 kxngthphfaykhrisetiynkrwbrwmkalngknbneninthangtawnxxkechiyngitkhxngpaewiynnamxnglngipyngkhaythharkhxngfaystruthitngxyukladekluxn hlngcakthakartxsuknwnhnunginyuththkarewiynna faykhrisetiynksamarthyutikarlxmemuxngewiynnaxyusxngeduxnkhxngfayxxtotmn fayxxtotmnidrbkhwamphayaephcntxngthxythph kartxsuxyangklahayphayitkarnakhxngbaedinthaihecachayexxaechnthrngidrbkhasrresriycaklxraernaelacakphrackrphrrdi aelaidrbkaresnxchuxihepnnayphnkhxngkxngthharmakhufsitnxangxingThe Encyclopaedia Britannica puts the death of Eugene on 24 April This is incorrect McKay Prince Eugene of Savoy 9 10 Somerset The Affair of the Poisons Murder Infanticide and Satanism at the Court of Louis XIV 252 McKay Prince Eugene of Savoy 9 Henderson Prince Eugen of Savoy 9 Heer The Holy Roman Empire 228 This was a clear infringement of taboo which Louis could not tolerate Other reasons are also speculated Francois Michel le Tellier Marquis de Louvois Louis secretary of State for War detested Eugene s mother after she had rejected a proposed marriage between her daughter and his son Heer states Eugene s departure date was 21 July Childs Warfare in the Seventeenth Century 133 Childs puts the number at 100 000 John Wolf as high as 200 000 Stoye The Siege of Vienna 114 Henderson Prince Eugen of Savoy 12 Churchill Marlborough His Life and Times Bk 1 467 Henderson Prince Eugen of Savoy 13 MacMunn Prince Eugene Twin Marshal with Marlborough 32duephimsngkhramsubrachbllngksepn yuththkarewiynnabthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk