เคลด (อังกฤษ: clade จาก กรีกโบราณ: κλάδος, klados แปลว่า "สาขา") เป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่รวมเอาบรรพบุรุษที่มีร่วมกันและลูกหลานของมันทั้งหมด โดยแสดงเป็น "สาขา" เดียวจากต้นไม้ชีวิต บรรพบุรุษร่วมกันอาจเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งหน่วย กลุ่มประชากร สปีชีส์ (ไม่ว่าจะสูญพันธุ์ไปแล้วหรือยังมีอยู่) เป็นต้น จนไปถึงระดับอาณาจักร เคลดเป็นโครงสร้างซ้อนใน คือจะมีเคลดภายในเคลดเพราะสาขาใหญ่หนึ่ง ๆ จะแยกออกเป็นสาขาย่อย ๆ การแยกออกจะสะท้อนให้เห็นถึงประวัติวิวัฒนาการ เพราะแสดงกลุ่มประชากรที่แยกจากกันแล้ววิวัฒนาการแยกกันต่างหาก ๆ เคลดจะมาจากชาติพันธุ์เดียว (monophyletic)
ในทศวรรษ 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา วิธีการศึกษาแบบแคลดิสติกส์ (คือใช้แนวคิดแบบเคลด) ได้ปฏิวัติการจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิต และได้แสดงความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการที่น่าทึ่งใจระหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ โดยมีผลเป็นนักอนุกรมวิธานพยายามหลีกเลี่ยงการให้ชื่อกับหน่วยที่ไม่ใช่เคลด[] คือหน่วยที่ไม่ได้มาจากชาติพันธุ์เดียว (monophyletic)
ประวัติคำ
นักชีววิทยาวิวัฒนาการจูเลียน ฮักซ์ลีย์ ได้บัญญัติคำว่า "clade" ใน พ.ศ. 2500 เพื่อกล่าวถึงผลจากวิวัฒนาการแบบแยกสาย (cladogenesis)
กลุ่มจำนวนมากที่มีชื่อสามัญเป็นเคลด ยกตัวอย่างเช่น สัตว์ฟันแทะและแมลงเป็นต้น ในแต่ละกรณี ชื่อหมายเอาบรรพบุรุษหนึ่งที่มีร่วมกันและลูกหลานทั้งหมด เช่น สัตว์ฟันแทะเป็นสาขาของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่แยกออก หลังจากช่วงที่เคลดไดโนเสาร์ได้ยุติความเป็นเจ้าโลกในบรรดาสัตว์มีกระดูกสันหลังบนบกเมื่อ 66 ล้านปีก่อน ทั้งกลุ่มประชากรเบื้องต้นรวมทั้งลูกหลานทั้งหมดของมันเป็นเคลด ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับสัตว์อันดับ Rodentia และแมลงก็เป็นกลุ่มเดียวกับ ชั้น Insecta ภายในเคลดเหล่านี้ก็ยังมีเคลดย่อยอื่น ๆ รวมทั้งชิปมังก์และมด ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ยังมีเคลดที่เล็กกว่าอื่น ๆ ส่วนเคลดสัตว์ฟันแทะเองก็อยู่ในเคลดที่ใหญ่กว่าอื่น ๆ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์มีกระดูกสันหลัง และสัตว์
ประวัติการตั้งชื่อและการจัดหมวดอนุกรมวิธาน
ไอเดียเกี่ยวกับเคลดไม่มีในยุคการจัดอนุกรมวิธานแบบลิเนียนก่อนดาร์วิน ซึ่งจัดอาศัยความคล้ายคลึงกันทางสัณฐานทั้งภายในภายนอกระหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ แต่ก็บังเอิญว่า กลุ่มสัตว์ที่รู้จักกันดีในงาน Systema Naturae ของลินเนียส (โดยเฉพาะภายในกลุ่มสัตว์มีกระดูกสันหลัง) จริง ๆ ก็เป็นเคลดด้วย อย่างไรก็ดี วิวัฒนาการเบนเข้าก็เป็นเหตุของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่คล้ายคลึงกันทางสัณฐานจึงชวนให้เข้าใจผิด เพราะจริง ๆ สืบสายพันธุ์มาคนละสาย
เมื่อเข้าใจมากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ว่า สปีชีส์จะเปลี่ยนไปแล้วแยกออกจากกันโดยใช้เวลายาวนาน การจัดหมวดหมู่จึงเห็นมากขึ้นว่าเป็นสาขาต่าง ๆ ของต้นไม้วิวัฒนาการของชีวิต ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินที่พิมพ์ในปี 2402 ให้น้ำหนักต่อมุมมองนี้ ทอมัส เฮ็นรี่ ฮักซ์ลีย์ ผู้สนับสนุนทฤษฎีของดาร์วินคนแรก ๆ คนหนึ่ง ก็ได้เสนอแก้การจัดอนุกรมวิธานโดยอาศัยเคลด ยกตัวอย่างเช่น เขาจัดกลุ่มนกเข้ากับสัตว์เลื้อยคลานโดยอาศัยหลักฐานซากดึกดำบรรพ์
นักชีววิทยาชาวเยอรมันอีมิล ฮานส์ วิลลี เฮ็นนิก (2456 - 2519) ผู้ก่อตั้งสาขาแคลดิสติกส์ ได้เสนอระบบการจัดหมวดหมู่ที่แสดงการแยกออกเป็นสาขา ๆ ของต้นไม้ตระกูล (พงศาวลี) เทียบกับระบบก่อน ๆ ที่จัดสิ่งมีชีวิตเป็น "ขั้นบันได" โดยแสดงสิ่งมีชีวิตที่ "ก้าวหน้า" กว่าบนยอด
นักอนุกรมวิธานจึงได้จัดระบบการจัดหมวดหมู่ ให้สะท้อนกระบวนการวิวัฒนาการมากขึ้นตั้งแต่นั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องการตั้งชื่อ หลักนี้บางครั้งจะไม่เข้ากับการตั้งชื่อตามชั้นตามระบบของลินเนียส เพราะในระบบหลัง หน่วยที่สัมพันธ์กับ "ลำดับชั้น" (rank) เท่านั้นจะมีชื่อ แต่ก็ไม่มีลำดับชั้นเพียงพอที่จะตั้งชื่อตามเคลดมากมายที่มีโครงสร้างแบบซ้อนใน อนึ่ง ชื่อหน่วยอนุกรมวิธานไม่ได้นิยามให้แน่นอนว่าจะหมายถึงเคลด เพราะเหตุผลนี้และอื่น ๆ จึงมีการพัฒนา "การตั้งชื่อตามวิวัฒนาการชาติพันธุ์" (phylogenetic nomenclature) ซึ่งยังไม่มีมติร่วมกัน
นิยาม
โดยนิยามแล้ว เคลดมาจากชาติพันธุ์เดียว (monophyletic) ซึ่งหมายความว่ามันมีบรรพบุรุษหนึ่ง (ซึ่งอาจเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่ง กลุ่มประชากรหนึ่ง สปีชีส์หนึ่ง เป็นต้น) และลูกหลานของมันทั้งหมด บรรพบุรุษอาจจะรู้จักหรือไม่รู้จัก และสมาชิกของเคลดอาจจะยังมีอยู่หรือสูญพันธุ์ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด
เคลดและต้นไม้วิวัฒนาการชาติพันธุ์
ศาสตร์ที่พยายามสร้างต้นไม้วิวัฒนาการชาติพันธุ์และกำหนดเคลดต่าง ๆ เรียกว่า วิวัฒนาการชาติพันธุ์ (phylogenetics) หรือ แคลดิสติกส์ (cladistics) โดยคำหลัง เออร์นสต ไมเออร์ ได้บัญญัติขึ้นในปี 2508 จากคำว่า clade ผลของการวิเคราะห์ทางวิวัฒนาการชาติพันธุ์หรือทางแคลดิสติกส์ จะเป็นผังคล้ายต้นไม้ที่เรียกว่า "แผนภาพวิวัฒนาการชาติพันธุ์" (cladogram) ผังและสาขาของมันทั้งหมด ก็คือสมมติฐานของวิวัฒนาการชาติพันธุ์
ในระบบการตั้งชื่อตามวิวัฒนาการชาติพันธุ์ (phylogenetic nomenclature) มีวิธีการสามอย่างในการกำหนดเคลด ขึ้นอยู่กับ node, stem, และ apomorphy
ศัพท์
ความสัมพันธ์ระหว่างเคลดสามารถอธิบายได้โดยหลายวิธี
- เคลดที่อยู่ภายในอีกเคลดหนึ่งเรียกว่า "ซ้อนใน" (nested) อยู่ในเคลดนั้น ๆ ในผังนี้ เคลดเอป/hominoid ซึ่งรวมทั้งเอปและมนุษย์ ซ้อนในอยู่ในเคลดไพรเมต
- เคลดสองอันเป็น "พี่น้อง" (Sister group) กันถ้ามีบรรพบุรุษคือพ่อแม่ร่วมกัน ในผังนี้ ลีเมอร์และลอริสเป็นเคลดพี่น้องกัน ในขณะที่มนุษย์และทาร์เซียร์ไม่ใช่
- เคลด A เป็น "basal clade" ของเคลด B ถ้า A แยกสาขาออกจากสายพันธุ์ที่นำไปสู่ B ในผังนี้ เคลด "Strepsirrhini" รวมทั้งลีเมอร์และลอริสเป็น "basal clade" ของเคลด "hominoid" ซึ่งรวมทั้งเอปและมนุษย์ แต่ก็มีนักวิชาการที่ใช้คำว่า "basal" ต่างกัน โดยหมายถึงเคลดที่มีลักษณะดั้งเดิมกว่า (more primitive) หรือที่มีสปีชีส์น้อยกว่าเคลดที่เป็นพี่น้องกัน ส่วนนักวิชาการอื่น ๆ เห็นการใช้คำอีกอย่างนี้ว่าไม่ถูกต้อง
ดูเพิ่ม
- การแผ่ขยายของการปรับตัว (Adaptive radiation)
- การตั้งชื่อทวินาม
- อนุกรมวิธาน
- แคลดิสติกส์
- วิวัฒนาการชาติพันธุ์ (Phylogenetics)
เชิงอรรถ
- มีการเสนอโดยความหมายของคำว่า ความจริงควรจะเรียกว่า "holophyletic" แต่คำนี้ยังไม่นิยมใช้
อ้างอิง
- Dupuis, Claude (1984). "Willi Hennig's impact on taxonomic thought". Annual Review of Ecology and Systematics. 15: 1–24. doi:10.1146/annurev.es.15.110184.000245.
- Palmer, Douglas (2009). Evolution: the story of life. Berkeley: University of California Press. p. 13.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Huxley, J. S. (1957). "The three types of evolutionary process". Nature. 180: 454–455. doi:10.1038/180454a0.
- Huxley, T.H. (1876) : Lectures on Evolution. New York Tribune. Extra. no 36. In Collected Essays IV: pp 46-138 original text w/ figures
- Brower, Andrew V. Z. (2013). "Willi Hennig at 100". Cladistics. doi:10.1111/cla.12057.
- "Evolution 101". Understanding Evolution website. University of California, Berkeley. p. 10. สืบค้นเมื่อ 2016-02-26.
- . 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-15. สืบค้นเมื่อ 2012-09-22.
- Envall, Mats (2008). "On the difference between mono-, holo-, and paraphyletic groups: a consistent distinction of process and pattern". Biological Journal of the Linnean Society. 94: 217. doi:10.1111/j.1095-8312.2008.00984.x.
- Nixon, Kevin C.; Carpenter, James M. (2000-09-01). "On the Other "Phylogenetic Systematics"". Cladistics. 16 (3): 298–318. doi:10.1111/j.1096-0031.2000.tb00285.x.
- Krell, F-T & Cranston, P. (2004). "Which side of the tree is more basal?". Systematic Entomology. 29 (3): 279–281. doi:10.1111/j.0307-6970.2004.00262.x.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Evolving Thoughts: Clade
- DM Hillis, D Zwickl & R Gutell. "Tree of life 2014-11-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน". An unrooted cladogram depicting around 3000 species.
- Phylogenetic systematics, an introductory slide-show on evolutionary trees University of California, Berkeley
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ekhld xngkvs clade cak krikobran klados klados aeplwa sakha epnklumsingmichiwitthirwmexabrrphburusthimirwmknaelalukhlankhxngmnthnghmd odyaesdngepn sakha ediywcaktnimchiwit brrphburusrwmknxacepnsingmichiwithnunghnwy klumprachakr spichis imwacasuyphnthuipaelwhruxyngmixyu epntn cnipthungradbxanackr ekhldepnokhrngsrangsxnin khuxcamiekhldphayinekhldephraasakhaihyhnung caaeykxxkepnsakhayxy karaeykxxkcasathxnihehnthungprawtiwiwthnakar ephraaaesdngklumprachakrthiaeykcakknaelwwiwthnakaraeykkntanghak ekhldcamacakchatiphnthuediyw monophyletic aephnphaphwiwthnakarchatiphnthu Cladogram hruxphngsawlikhxngklumsingmichiwit odylatn esntng thithanaetlathancaepnbrrphburusrwmknsudthaykhxngsingmichiwitthiepnlukhlanphayinphumimthixyuehnuxlatnnn klumyxysinaenginaelasiaedng sayaelakhwasud eriykwa clade ephraaepnklum cakchatiphnthuediyw monophyletic odyaetlaklumcamibrrphburusrwmknthithan swnklumyxysiekhiywimeriykwa clade ephraaepnklum paraphyletic aelaimrwmexaklumyxysinaenginaemcasubthxdmacakbrrphburusrwmknsungxyuthithankhxngklumsiekhiyw inthswrrs 2 3 thswrrsthiphanma withikarsuksaaebbaekhldistiks khuxichaenwkhidaebbekhld idptiwtikarcdhmwdhmusingmichiwit aelaidaesdngkhwamsmphnththangwiwthnakarthinathungicrahwangsingmichiwittang odymiphlepnnkxnukrmwithanphyayamhlikeliyngkarihchuxkbhnwythiimichekhld txngkarxangxing khuxhnwythiimidmacakchatiphnthuediyw monophyletic prawtikhankchiwwithyawiwthnakarcueliyn hksliy idbyytikhawa clade in ph s 2500 ephuxklawthungphlcakwiwthnakaraebbaeyksay cladogenesis klumcanwnmakthimichuxsamyepnekhld yktwxyangechn stwfnaethaaelaaemlngepntn inaetlakrni chuxhmayexabrrphburushnungthimirwmknaelalukhlanthnghmd echn stwfnaethaepnsakhakhxngstweliynglukdwynmthiaeykxxk hlngcakchwngthiekhldidonesaridyutikhwamepnecaolkinbrrdastwmikraduksnhlngbnbkemux 66 lanpikxn thngklumprachakrebuxngtnrwmthnglukhlanthnghmdkhxngmnepnekhld sungepnklumediywkbstwxndb Rodentia aelaaemlngkepnklumediywkb chn Insecta phayinekhldehlanikyngmiekhldyxyxun rwmthngchipmngkaelamd sungaetlaklumkyngmiekhldthielkkwaxun swnekhldstwfnaethaexngkxyuinekhldthiihykwaxun rwmthngstweliynglukdwynm stwmikraduksnhlng aelastwprawtikartngchuxaelakarcdhmwdxnukrmwithantnimwiwthnakarchatiphnthuruntn odyehekil Ernst Haeckel pi 2409 klumthikhrnghnungekhyphicarnawaidwiwthnakarkawhnakwa echn stwpik chn Aves caxyuthiyxd ixediyekiywkbekhldimmiinyukhkarcdxnukrmwithanaebblieniynkxndarwin sungcdxasykhwamkhlaykhlungknthangsnthanthngphayinphaynxkrahwangsingmichiwittang aetkbngexiywa klumstwthiruckkndiinngan Systema Naturae khxnglineniys odyechphaaphayinklumstwmikraduksnhlng cring kepnekhlddwy xyangirkdi wiwthnakarebnekhakepnehtukhxngsingmichiwitcanwnmakthikhlaykhlungknthangsnthancungchwnihekhaicphid ephraacring subsayphnthumakhnlasay emuxekhaicmakkhuninchwngkhrungaerkkhxngkhriststwrrsthi 19 wa spichiscaepliynipaelwaeykxxkcakknodyichewlayawnan karcdhmwdhmucungehnmakkhunwaepnsakhatang khxngtnimwiwthnakarkhxngchiwit thvsdiwiwthnakarkhxngdarwinthiphimphinpi 2402 ihnahnktxmummxngni thxms ehnri hksliy phusnbsnunthvsdikhxngdarwinkhnaerk khnhnung kidesnxaekkarcdxnukrmwithanodyxasyekhld yktwxyangechn ekhacdklumnkekhakbstweluxykhlanodyxasyhlkthansakdukdabrrph nkchiwwithyachaweyxrmnximil hans willi ehnnik 2456 2519 phukxtngsakhaaekhldistiks idesnxrabbkarcdhmwdhmuthiaesdngkaraeykxxkepnsakha khxngtnimtrakul phngsawli ethiybkbrabbkxn thicdsingmichiwitepn khnbnid odyaesdngsingmichiwitthi kawhna kwabnyxd nkxnukrmwithancungidcdrabbkarcdhmwdhmu ihsathxnkrabwnkarwiwthnakarmakkhuntngaetnn aetthaepneruxngkartngchux hlknibangkhrngcaimekhakbkartngchuxtamchntamrabbkhxnglineniys ephraainrabbhlng hnwythismphnthkb ladbchn rank ethanncamichux aetkimmiladbchnephiyngphxthicatngchuxtamekhldmakmaythimiokhrngsrangaebbsxnin xnung chuxhnwyxnukrmwithanimidniyamihaennxnwacahmaythungekhld ephraaehtuphlniaelaxun cungmikarphthna kartngchuxtamwiwthnakarchatiphnthu phylogenetic nomenclature sungyngimmimtirwmkn ehlaniepnchuxekhldrwmthng Gavialidae Crocodylidae aela Alligatoridae sungichkbtnimwiwthnakarchatiphnthukhxngstwxndbcraekhniyamodyniyamaelw ekhldmacakchatiphnthuediyw monophyletic sunghmaykhwamwamnmibrrphburushnung sungxacepnsingmichiwithnung klumprachakrhnung spichishnung epntn aelalukhlankhxngmnthnghmd brrphburusxaccaruckhruximruck aelasmachikkhxngekhldxaccayngmixyuhruxsuyphnthuipaelw imwacaepnbangswnhruxthnghmdekhldaelatnimwiwthnakarchatiphnthusastrthiphyayamsrangtnimwiwthnakarchatiphnthuaelakahndekhldtang eriykwa wiwthnakarchatiphnthu phylogenetics hrux aekhldistiks cladistics odykhahlng exxrnst imexxr idbyytikhuninpi 2508 cakkhawa clade phlkhxngkarwiekhraahthangwiwthnakarchatiphnthuhruxthangaekhldistiks caepnphngkhlaytnimthieriykwa aephnphaphwiwthnakarchatiphnthu cladogram phngaelasakhakhxngmnthnghmd kkhuxsmmtithankhxngwiwthnakarchatiphnthu inrabbkartngchuxtamwiwthnakarchatiphnthu phylogenetic nomenclature miwithikarsamxyanginkarkahndekhld khunxyukb node stem aela apomorphysphth aephnphaphwiwthnakarchatiphnthu cladogram khxngklumiphremtinpccubn ihsngektwa tharesiyrthnghmdepn haplorhine ekhld xndbyxy Haplorhini aet haplorhine thnghmdimichtharesiyr aelaexpthnghmdkepn catarrhine clade parvorder Catarrhini aet catarrhine thnghmdimichexp epntn khwamsmphnthrahwangekhldsamarthxthibayidodyhlaywithi ekhldthixyuphayinxikekhldhnungeriykwa sxnin nested xyuinekhldnn inphngni ekhldexp hominoid sungrwmthngexpaelamnusy sxninxyuinekhldiphremt ekhldsxngxnepn phinxng Sister group knthamibrrphburuskhuxphxaemrwmkn inphngni liemxraelalxrisepnekhldphinxngkn inkhnathimnusyaelatharesiyrimich ekhld A epn basal clade khxngekhld B tha A aeyksakhaxxkcaksayphnthuthinaipsu B inphngni ekhld Strepsirrhini rwmthngliemxraelalxrisepn basal clade khxngekhld hominoid sungrwmthngexpaelamnusy aetkminkwichakarthiichkhawa basal tangkn odyhmaythungekhldthimilksnadngedimkwa more primitive hruxthimispichisnxykwaekhldthiepnphinxngkn swnnkwichakarxun ehnkarichkhaxikxyangniwaimthuktxngduephimkaraephkhyaykhxngkarprbtw Adaptive radiation kartngchuxthwinam xnukrmwithan aekhldistiks wiwthnakarchatiphnthu Phylogenetics echingxrrthmikaresnxodykhwamhmaykhxngkhawa khwamcringkhwrcaeriykwa holophyletic aetkhaniyngimniymichxangxingDupuis Claude 1984 Willi Hennig s impact on taxonomic thought Annual Review of Ecology and Systematics 15 1 24 doi 10 1146 annurev es 15 110184 000245 Palmer Douglas 2009 Evolution the story of life Berkeley University of California Press p 13 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint uses authors parameter Huxley J S 1957 The three types of evolutionary process Nature 180 454 455 doi 10 1038 180454a0 Huxley T H 1876 Lectures on Evolution New York Tribune Extra no 36 In Collected Essays IV pp 46 138 original text w figures Brower Andrew V Z 2013 Willi Hennig at 100 Cladistics doi 10 1111 cla 12057 Evolution 101 Understanding Evolution website University of California Berkeley p 10 subkhnemux 2016 02 26 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 06 15 subkhnemux 2012 09 22 Envall Mats 2008 On the difference between mono holo and paraphyletic groups a consistent distinction of process and pattern Biological Journal of the Linnean Society 94 217 doi 10 1111 j 1095 8312 2008 00984 x Nixon Kevin C Carpenter James M 2000 09 01 On the Other Phylogenetic Systematics Cladistics 16 3 298 318 doi 10 1111 j 1096 0031 2000 tb00285 x Krell F T amp Cranston P 2004 Which side of the tree is more basal Systematic Entomology 29 3 279 281 doi 10 1111 j 0307 6970 2004 00262 x aehlngkhxmulxunEvolving Thoughts Clade DM Hillis D Zwickl amp R Gutell Tree of life 2014 11 02 thi ewyaebkaemchchin An unrooted cladogram depicting around 3000 species Phylogenetic systematics an introductory slide show on evolutionary trees University of California Berkeley