อ็อทโท อาด็อล์ฟ ไอช์มัน (เยอรมัน: Otto Adolf Eichmann; 19 มีนาคม ค.ศ. 1906 – 1 มิถุนายน ค.ศ. 1962) เป็นชาวเยอรมัน-ออสเตรียที่ดำรงตำแหน่งยศเป็นเอ็สเอ็ส-โอเบอร์ชตวร์มบันน์ฟือเรอร์(พันโท) และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหลักของฮอโลคอสต์ - "มาตรการสุดท้ายของปัญหาชาวยิว"ในศัพท์บัญญัติของนาซี เขาได้รับมอบหมายจากเอ็สเอ็ส-โอเบอร์กรุพเพินฟือเรอร์(พลเอก) ไรน์ฮาร์ท ไฮดริช ในการให้ความอำนวยสะดวกและจัดทำระบบการขนส่งที่เกี่ยวข้องกับการเนรเทศชาวยิวจำนวนมากมายไปยังเขตเกตโตและค่ายมรณะในยุโรปตะวันออกที่ถูกนาซียึดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ไอช์มันถูกจับกุมโดยมอสซาด หน่วยสืบราชการลับอิสราเอลในอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1960 และต่อมาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาอาชญากรรมสงครามในการพิจารณาคดีที่ได้ถูกเปิดเผยอย่างกว้างขวางในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเขาถูกตัดสินโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในปี ค.ศ. 1962
อาด็อล์ฟ ไอช์มัน Adolf Eichmann | |
---|---|
อาด็อล์ฟ ไอช์มัน ในปี 1942 | |
เกิด | อ็อทโท อาด็อล์ฟ ไอช์มัน 19 มีนาคม ค.ศ. 1906 โซลิงเงิน, จักรวรรดิเยอรมัน |
เสียชีวิต | 1 มิถุนายน ค.ศ. 1962 ประเทศอิสราเอล | (56 ปี)
สาเหตุเสียชีวิต | ประหารชีวิตโดยการแขวนคอ |
สัญชาติ | เยอรมัน |
ชื่ออื่น | ริคาร์โด คลีเมนต์ |
อาชีพ | เอ็สเอ็ส-โอเบิร์ชตูร์มบันน์ฟือเรอร์ (พันโท) |
หลังจากทำงานอาชีพในโรงเรียนที่แสนจะธรรมดา ไอช์มันทำงานในช่วงสั้น ๆ ให้กับบริษัทเหมืองแร่ของพ่อเขาในออสเตรียซึ่งครอบครัวได้ย้ายออกไปในปี ค.ศ. 1914 เขาทำงานเป็นพนักงานขายน้ำมันให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1927 และเข้าร่วมทั้งพรรคนาซีและหน่วยเอ็สเอ็สในปี ค.ศ. 1932 เขาได้เดินทางกลับเยอรมนีในปี ค.ศ. 1933 ซึ่งเขาได้เข้าร่วมหน่วยซิชเชอร์ไฮทซ์ดีนสท์ (เอสเด, "ทบวงอำนวยความปลอดภัย") ที่นั้นเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าแผนกที่รับผิดชอบด้านกิจการของชาวยิว - โดยเฉพาะการอพยพย้ายถิ่นฐาน ซึ่งนาซีให้การส่งเสริมผ่านความรุนแรงและแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ภายหลังการลุกลามของสงครามโลกครั้งที่สองในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 ไอช์มันและลูกน้องของเขาได้จัดให้ชาวยิวรวมตัวกระจุกตัวอยู่ในเขตเกตโตในเมืองใหญ่ ๆ โดยคาดหวังว่าพวกเขาจะถูกขนส่งไปยังทางตะวันออกที่ไกลออกไปหรือโพ้นทะเล เขายังได้ร่างแผนสำหรับการสงวนชาวยิวครั้งแรกที่นิสโก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศโปแลนด์และต่อมาในเกาะมาดากัสการ์ แต่แผนเหล่านี้ไม่เคยถูกดำเนินการใด ๆ
นาซีได้เริ่มการบุกครองสหภาพโซเวียตในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1941 และนโยบายชาวยิวของพวกเขาได้ถูกเปลี่ยนจากการอพยพมาเป็นการกำจัดแทน เพื่อร่วมมือวางแผนการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ไฮดริช ซึ่งเป็นหัวหน้าของไอช์มัน ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมข้าราชการระดับสูงของรัฐบาลในการประชุมที่วันเซ เมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1942 ไอช์มันได้รวบรวมข้อมูลให้แก่เขา ได้เข้าร่วมการประชุมและจัดเตรียมทำรายงานในการประชุม ไอช์มันและลูกน้องของเขาต้องทำหน้าที่รับผิดชอบสำหรับการเนรเทศชาวยิวไปยังค่ายมรณะ ซึ่งเหยื่อทั้งหมดถูกรมควันด้วยแก๊สพิษจนตาย เมื่อเยอรมนีบุกครองฮังการีในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1944 และไอช์มันคอยควบคุมดูแลประชากรชาวยิวส่วนใหญ่ เหยื่อส่วนมากจะถูกส่งไปยังค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ ซึ่งราวประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนถูกสังหารเมื่อเดินทางมาถึง เมื่อถึงเวลาที่การขนส่งได้หยุดลงในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1944 จำนวนชาวยิว 437,000 คน จากจำนวนทั้งหมดในฮังการี 725,000 คน ต่างถูกสังหาร ได้เป็นพยานในการพิจารณาคดีที่เนือร์นแบร์กได้กล่าวว่า ไอช์มันได้บอกกับเขาว่า "จะกระโดดโลดเต้นและหัวเราะไปด้วยในหลุมศพ เพราะความรู้สึกที่ว่าเขามีผู้คนจำนวนห้าล้านคน ในจิตสำนึกของเขา น่าจะเป็นที่มาของความพึงพอใจที่ไม่ธรรมดาสำหรับเขา"
ภายหลังจากเยอรมนียอมจำนนในสงครามในปี ค.ศ. 1945 ไอช์มันถูกจับกุมโดยทหารสหรัฐ แต่หลบหนีออกจากค่ายกักขังและย้ายไปทั่วเยอรมนีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมอีกครั้ง เขาได้ลงเอยอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในโลเออร์ แซคโซนี ซึ่งเขาได้อาศัยอยู่จนถึงปี ค.ศ. 1950 เมื่อเขาได้ย้ายไปยังอาร์เจนตินาโดยใช้เอกสารเท็จที่ได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรที่กำกับโดยนักบวชคาทอลิกระดับบิชอปที่ชื่อว่า ข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดยมอสซาด หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลได้รับการยืนยันตำแหน่งของเขาในปี ค.ศ. 1960 ทีมสายลับของมอสซาดและ เข้าจับกุมไอช์มันและนำตัวเขาไปยังอิสราเอลเพื่อรับการพิจารณาคดีในข้อหาทางอาญา 15 ข้อหา รวมทั้งอาชญากรรมสงครามต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมต่อประชากรชาวยิว ในช่วงพิจารณาคดี เขาไม่ได้หรือบทบาทของเขาในการจัดตั้ง แต่กล่าวอ้างว่า เขาทำตามคำสั่งในระบบ("หลักการของผู้นำ") ของระบอบเผด็จการ เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในทุกข้อกล่าวหาและถูกประหารชีวิตโดยการแขวนคอ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1962 การพิจาณาคดีได้ถูกติดตามอย่างกว้างขวางในสื่อต่าง ๆ และต่อมาเป็นเรื่องราวในหนังสือหลาย ๆ เล่ม รวมทั้ง เรื่อง ของฮันนา อาเรินท์ ซึ่งอาเรินท์เป็นผู้บัญญัติศัพท์ว่า "ความธรรมดาสามัญของความชั่วร้าย" (the banality of evil) เพื่ออธิบายถึงไอช์มัน
อ้างอิง
- Geets 2011.
- Bauer & Rozett 1990, pp. 1797, 1799.
- Stangneth 2014, p. 297.
- Hull 1963, p. 160.
- Arendt 1994, p. 252.
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xxthoth xadxlf ixchmn eyxrmn Otto Adolf Eichmann 19 minakhm kh s 1906 1 mithunayn kh s 1962 epnchaweyxrmn xxsetriythidarngtaaehnngysepnexsexs oxebxrchtwrmbnnfuxerxr phnoth aelaepnhnunginphukxtnghlkkhxnghxolkhxst matrkarsudthaykhxngpyhachawyiw insphthbyytikhxngnasi ekhaidrbmxbhmaycakexsexs oxebxrkruphephinfuxerxr phlexk irnharth ihdrich inkarihkhwamxanwysadwkaelacdtharabbkarkhnsngthiekiywkhxngkbkarenrethschawyiwcanwnmakmayipyngekhtektotaelakhaymrnainyuorptawnxxkthithuknasiyudkhrxnginchwngsngkhramolkkhrngthisxng ixchmnthukcbkumodymxssad hnwysubrachkarlbxisraexlinxarecntina emuxwnthi 11 phvsphakhm kh s 1960 aelatxmathuktdsinwamikhwamphidinkhxhaxachyakrrmsngkhraminkarphicarnakhdithiidthukepidephyxyangkwangkhwanginkrungeyrusaelm sungekhathuktdsinothspraharchiwitdwykaraekhwnkhxinpi kh s 1962xadxlf ixchmn Adolf Eichmannxadxlf ixchmn inpi 1942ekidxxthoth xadxlf ixchmn 19 minakhm kh s 1906 1906 03 19 oslingengin ckrwrrdieyxrmnesiychiwit1 mithunayn kh s 1962 1962 06 01 56 pi praethsxisraexlsaehtuesiychiwitpraharchiwitodykaraekhwnkhxsychatieyxrmnchuxxunrikharod khliemntxachiphexsexs oxebirchturmbnnfuxerxr phnoth hlngcakthanganxachiphinorngeriynthiaesncathrrmda ixchmnthanganinchwngsn ihkbbristhehmuxngaerkhxngphxekhainxxsetriysungkhrxbkhrwidyayxxkipinpi kh s 1914 ekhathanganepnphnkngankhaynamnihaeknkthxngethiywodyerimtninpi kh s 1927 aelaekharwmthngphrrkhnasiaelahnwyexsexsinpi kh s 1932 ekhaidedinthangklbeyxrmniinpi kh s 1933 sungekhaidekharwmhnwysichechxrihthsdinsth exsed thbwngxanwykhwamplxdphy thinnekhaidrbkaraetngtngihepnhwhnaaephnkthirbphidchxbdankickarkhxngchawyiw odyechphaakarxphyphyaythinthan sungnasiihkarsngesrimphankhwamrunaerngaelaaerngkddnthangesrsthkic phayhlngkarluklamkhxngsngkhramolkkhrngthisxngineduxnknyayn kh s 1939 ixchmnaelaluknxngkhxngekhaidcdihchawyiwrwmtwkracuktwxyuinekhtektotinemuxngihy odykhadhwngwaphwkekhacathukkhnsngipyngthangtawnxxkthiiklxxkiphruxophnthael ekhayngidrangaephnsahrbkarsngwnchawyiwkhrngaerkthinisok thangtawnxxkechiyngitkhxngpraethsopaelndaelatxmainekaamadakskar aetaephnehlaniimekhythukdaeninkarid nasiiderimkarbukkhrxngshphaphosewiytineduxnmithunayn kh s 1941 aelanoybaychawyiwkhxngphwkekhaidthukepliyncakkarxphyphmaepnkarkacdaethn ephuxrwmmuxwangaephnkarkhalangephaphnth ihdrich sungepnhwhnakhxngixchmn idepnecaphaphcdnganprachumkharachkarradbsungkhxngrthbalinkarprachumthiwnes emuxwnthi 20 mkrakhm kh s 1942 ixchmnidrwbrwmkhxmulihaekekha idekharwmkarprachumaelacdetriymtharaynganinkarprachum ixchmnaelaluknxngkhxngekhatxngthahnathirbphidchxbsahrbkarenrethschawyiwipyngkhaymrna sungehyuxthnghmdthukrmkhwndwyaeksphiscntay emuxeyxrmnibukkhrxnghngkariineduxnminakhm kh s 1944 aelaixchmnkhxykhwbkhumduaelprachakrchawyiwswnihy ehyuxswnmakcathuksngipyngkhaykkknexachwiths sungrawpraman 75 epxresntlwnthuksngharemuxedinthangmathung emuxthungewlathikarkhnsngidhyudlngineduxnkrkdakhm kh s 1944 canwnchawyiw 437 000 khn cakcanwnthnghmdinhngkari 725 000 khn tangthuksnghar idepnphyaninkarphicarnakhdithienuxrnaebrkidklawwa ixchmnidbxkkbekhawa cakraoddoldetnaelahweraaipdwyinhlumsph ephraakhwamrusukthiwaekhamiphukhncanwnhalankhn incitsanukkhxngekha nacaepnthimakhxngkhwamphungphxicthiimthrrmdasahrbekha phayhlngcakeyxrmniyxmcanninsngkhraminpi kh s 1945 ixchmnthukcbkumodythharshrth aethlbhnixxkcakkhaykkkhngaelayayipthweyxrmniephuxhlikeliyngkarthukcbkumxikkhrng ekhaidlngexyxyuthihmubanelk inolexxr aeskhosni sungekhaidxasyxyucnthungpi kh s 1950 emuxekhaidyayipyngxarecntinaodyichexksarethcthiidrbkhwamchwyehluxcakxngkhkrthikakbodynkbwchkhathxlikradbbichxpthichuxwa khxmulthithukrwbrwmodymxssad hnwysubrachkarlbkhxngxisraexlidrbkaryunyntaaehnngkhxngekhainpi kh s 1960 thimsaylbkhxngmxssadaela ekhacbkumixchmnaelanatwekhaipyngxisraexlephuxrbkarphicarnakhdiinkhxhathangxaya 15 khxha rwmthngxachyakrrmsngkhramtxmnusychatiaelaxachyakrrmtxprachakrchawyiw inchwngphicarnakhdi ekhaimidhruxbthbathkhxngekhainkarcdtng aetklawxangwa ekhathatamkhasnginrabb hlkkarkhxngphuna khxngrabxbephdckar ekhathuktdsinwamikhwamphidinthukkhxklawhaaelathukpraharchiwitodykaraekhwnkhx emuxwnthi 1 mithunayn kh s 1962 karphicanakhdiidthuktidtamxyangkwangkhwanginsuxtang aelatxmaepneruxngrawinhnngsuxhlay elm rwmthng eruxng khxnghnna xaerinth sungxaerinthepnphubyytisphthwa khwamthrrmdasamykhxngkhwamchwray the banality of evil ephuxxthibaythungixchmn ixchmnkhnathukphicarnakhdiinsal kh s 1961xangxingGeets 2011 sfn error no target CITEREFGeets2011 Bauer amp Rozett 1990 pp 1797 1799 sfn error no target CITEREFBauerRozett1990 Stangneth 2014 p 297 sfn error no target CITEREFStangneth2014 Hull 1963 p 160 sfn error no target CITEREFHull1963 Arendt 1994 p 252 sfn error no target CITEREFArendt1994 xangxingphidphlad mipayrabu lt ref gt sahrbklumchux lower alpha aetimphbpayrabu lt references group lower alpha gt thisxdkhlxngkn