หัวตะเข้ เป็นชื่อชุมชนและตลาด เป็นจุดตัดของคลอง 3 คลอง ได้แก่ คลองหัวตะเข้ คลองลำปลาทิว และคลองประเวศบุรีรมย์ ในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ที่มาของชื่อชุมชนมาจากการขุดคลองในบริเวณนี้แล้วพบกะโหลกจระเข้ตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง มีแค่ส่วนหัว แต่ไม่มีตัว กะโหลกนี้ยังคงอยู่ที่ศาลเจ้าปึงเถ่ากงจนถึงปัจจุบัน
ประวัติ
พื้นที่เดิมมีสภาพเป็นทุ่งนากว้าง เริ่มตั้งเป็นชุมชนตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เริ่มมีชุมชนหลังจากขุดคลองประเวศบุรีรมย์ (พ.ศ. 2421–2423) จากพระโขนงถึงฉะเชิงเทรา ทำให้มีความเจริญเกิดขึ้นทั้งสองริมฝั่งคลอง มีตลาดสด ร้านรวง และชุมชนริมน้ำ โดยชุมชนหัวตะเข้เป็นจุดที่ใหญ่ที่สุด เพราะเป็นจุดตัดของคลอง 3 คลอง คนเรียกติดปากว่า "สี่แยก" ปรากฏมีการตั้งชุมชนริมน้ำในแผนที่เก่าเมื่อ พ.ศ. 2456 ในแผนที่ปรากฏสถานีรถไฟหัวตะเข้และสี่แยกหัวตะเข้ กลุ่มคนที่เข้ามาคือ คนไทย คนมอญ คนจีน การสัญจรสามารถส่วนใหญ่ใช้ทางน้ำ รวมถึงการใช้รถไฟที่มีสถานีอยู่ทางทิศเหนือของตลาดหัวตะเข้ อาคารหลังแรกที่สร้างขึ้น สร้างเมื่อ พ.ศ. 2440 ตั้งอยู่บริเวณตลาดหัวตะเข้ฝั่งเหนือคลองประเวศบุรีรมย์ สร้างด้วยไม้สัก จากข้อมูล พ.ศ. 2558 ยังคงปรากฏอาคารหลังนี้อยู่
การสร้างอาคารแถวเรือนไม้บริเวณสองฝั่งคลองประเวศบุรีรมย์ มีรูปแบบอาคารในลักษณะเดียวทั้งสองฝั่ง โดยมีจำนวนอาคารเรือนแถวไม้ทั้งหมดประมาณ 137 หลัง แบ่งเป็นอาคารเรือนแถวไม้ฝั่งเหนือคลองประเวศบุรีรมย์ทั้งหมด 5–7 หลัง และอาคารเรือนแถวไม้ฝั่งใต้คลองบุรีรมย์ ทั้งหมด 80 หลัง อาคารทั้งหมดสร้างด้วยไม้เนื้อแข็งฝาไม้กระดานตีเกร็ด มุงกระเบื้องสังกะสี ด้านหน้าเป็นทางเดินมีลักษณะเป็นดิน และคลุมด้วยหลังคาไม้ทอดยาวตลอดแนวความยาวด้านหน้า โดยแต่ละคูหากว้างประมาณ 3.5 เมตร ลึก 25 เมตร สูงประมาณ 5 เมตร จากความลึกของที่ดิน ทำให้มีการแบ่งหลังคาจั่วเป็นสองตอน ส่วนด้านหน้าของอาคารเรือนแถวไม้ มีลักษณะเป็นชานไม่มีหลังคาคลุมเป็นทางเดิน ขนาดประมาณ 1 เมตร สร้างด้วยดินกว้างจรดริมคลองประเวศบุรีรมย์
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีการขยายตัวของชุมชนออกไปทางทิศตะวันตก และด้านหลังของกลุ่มอาคารเดิมที่เกาะติดอยู่ริมคลอง การสัญจรในช่วงเวลานี้ มีรูปแบบการเข้าถึงโดยใช้เส้นทางน้ำและรถไฟเป็นหลัก รวมถึงมีการใช้เรือเมล์ขาวหรือเรือนายเลิศ เข้ามาบริการภายในพื้นที่ ขณะที่บริเวณใกล้เคียงยังไม่พบตลาดคู่แข่งทางการค้า ในช่วง พ.ศ. 2500 เกิดไฟไหม้ตลาดฝั่งใต้คลองประเวศบุรีรมย์ ได้มีการสร้างอาคารใหม่ทั้งหมด
จนกระทั่งเริ่มมีการตัดถนน มีการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ คนเริ่มสัญจรทางรถยนต์แทนทางเรือทำให้ย่านนี้เริ่มซบเซา เมื่อ พ.ศ. 2537 เกิดไฟไหม้ตลาดฝั่งตรงข้าม มีบ้านเรือนเสียหาย 150 ห้อง มีคนย้ายออก ขณะที่ฝั่งตลาดหัวตะเข้เหลือ 58 ห้อง หลายร้านปิดตัวลง จนเมื่อ พ.ศ. 2552 ชาวชุมชนหัวตะเข้ได้ร่วมกันฟื้นฟูชุมชนด้วยการใช้งานศิลปะมาเป็นสื่อกลางในการฟื้นฟูตลาด โดยร่วมมือกับสถานศึกษาแถบลาดกระบังหลายแห่ง ตลาดหัวตะเข้ได้เผชิญวิกฤติเพลิงไหม้อีก 2 ครั้ง คือ เมื่อ พ.ศ. 2556 และ 2557 จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ทำให้ชาวชุมชนเกิดการตื่นตัวในการรวมกลุ่มกันแก้ปัญหาต่าง ๆ ของชุมชนมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีการการจัดแสดงานศิลปะหมุนเวียน การสอนเวิร์กชอปสำหรับผู้ที่สนใจ ร้านเอเฟรม แหล่งขายอุปกรณ์ศิลปะ ศูนย์การเรียนรู้วิถีถิ่นหัวตะเข้
อ้างอิง
- "ย้อนวันวาน ชมตลาดโบราณ "ชุมชนเก่าหัวตะเข้" สัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิก ย่านลาดกระบัง". ผู้จัดการออนไลน์.
- วีรดา สุขเจริญมิตร, กฤตพร ห้าวเจริญ. "ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอาคารและกิจกรรมของตลาดหัวตะเข้ กรุงเทพมหานคร". มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
- "ชุมชน "หัวตะเข้" ต้นแบบใช้ศิลปะ พลิกฟื้นย่านเก่า". ไทยโพสต์.
- "ตลาดหัวตะเข้". กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hwtaekh epnchuxchumchnaelatlad epncudtdkhxngkhlxng 3 khlxng idaek khlxnghwtaekh khlxnglaplathiw aelakhlxngpraewsburirmy inekhtladkrabng krungethphmhankhr thimakhxngchuxchumchnmacakkarkhudkhlxnginbriewnniaelwphbkaohlkcraekhtwelk twhnung miaekhswnhw aetimmitw kaohlkniyngkhngxyuthisalecapungethakngcnthungpccubnkhlxnghwtaekhthnnladkrabngbriewnhwtaekhbanrimkhlxngbriewnchumchnhwtaekhprawtiphunthiedimmisphaphepnthungnakwang erimtngepnchumchntngaetsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw erimmichumchnhlngcakkhudkhlxngpraewsburirmy ph s 2421 2423 cakphraokhnngthungchaechingethra thaihmikhwamecriyekidkhunthngsxngrimfngkhlxng mitladsd ranrwng aelachumchnrimna odychumchnhwtaekhepncudthiihythisud ephraaepncudtdkhxngkhlxng 3 khlxng khneriyktidpakwa siaeyk praktmikartngchumchnrimnainaephnthiekaemux ph s 2456 inaephnthipraktsthanirthifhwtaekhaelasiaeykhwtaekh klumkhnthiekhamakhux khnithy khnmxy khncin karsycrsamarthswnihyichthangna rwmthungkarichrthifthimisthanixyuthangthisehnuxkhxngtladhwtaekh xakharhlngaerkthisrangkhun srangemux ph s 2440 tngxyubriewntladhwtaekhfngehnuxkhlxngpraewsburirmy srangdwyimsk cakkhxmul ph s 2558 yngkhngpraktxakharhlngnixyu karsrangxakharaethweruxnimbriewnsxngfngkhlxngpraewsburirmy mirupaebbxakharinlksnaediywthngsxngfng odymicanwnxakhareruxnaethwimthnghmdpraman 137 hlng aebngepnxakhareruxnaethwimfngehnuxkhlxngpraewsburirmythnghmd 5 7 hlng aelaxakhareruxnaethwimfngitkhlxngburirmy thnghmd 80 hlng xakharthnghmdsrangdwyimenuxaekhngfaimkradantiekrd mungkraebuxngsngkasi danhnaepnthangedinmilksnaepndin aelakhlumdwyhlngkhaimthxdyawtlxdaenwkhwamyawdanhna odyaetlakhuhakwangpraman 3 5 emtr luk 25 emtr sungpraman 5 emtr cakkhwamlukkhxngthidin thaihmikaraebnghlngkhacwepnsxngtxn swndanhnakhxngxakhareruxnaethwim milksnaepnchanimmihlngkhakhlumepnthangedin khnadpraman 1 emtr srangdwydinkwangcrdrimkhlxngpraewsburirmy inchwnghlngsngkhramolkkhrngthisxng mikarkhyaytwkhxngchumchnxxkipthangthistawntk aeladanhlngkhxngklumxakharedimthiekaatidxyurimkhlxng karsycrinchwngewlani mirupaebbkarekhathungodyichesnthangnaaelarthifepnhlk rwmthungmikaricheruxemlkhawhruxeruxnayelis ekhamabrikarphayinphunthi khnathibriewniklekhiyngyngimphbtladkhuaekhngthangkarkha inchwng ph s 2500 ekidifihmtladfngitkhlxngpraewsburirmy idmikarsrangxakharihmthnghmd cnkrathngerimmikartdthnn mikarsrangsnambinsuwrrnphumi khnerimsycrthangrthyntaethnthangeruxthaihyannierimsbesa emux ph s 2537 ekidifihmtladfngtrngkham mibaneruxnesiyhay 150 hxng mikhnyayxxk khnathifngtladhwtaekhehlux 58 hxng hlayranpidtwlng cnemux ph s 2552 chawchumchnhwtaekhidrwmknfunfuchumchndwykarichngansilpamaepnsuxklanginkarfunfutlad odyrwmmuxkbsthansuksaaethbladkrabnghlayaehng tladhwtaekhidephchiywikvtiephlingihmxik 2 khrng khux emux ph s 2556 aela 2557 cakehtukarndngklaw idthaihchawchumchnekidkartuntwinkarrwmklumknaekpyhatang khxngchumchnmakyingkhun pccubnmikarkarcdaesdngansilpahmunewiyn karsxnewirkchxpsahrbphuthisnic ranexefrm aehlngkhayxupkrnsilpa sunykareriynruwithithinhwtaekhxangxing yxnwnwan chmtladobran chumchnekahwtaekh smphsbrryakassudkhlassik yanladkrabng phucdkarxxniln wirda sukhecriymitr kvtphr hawecriy pccythisngphltxkarepliynaeplngrupaebbxakharaelakickrrmkhxngtladhwtaekh krungethphmhankhr mhawithyalythrrmsastr chumchn hwtaekh tnaebbichsilpa phlikfunyaneka ithyophst tladhwtaekh krathrwngkarthxngethiywaelakila