หอยงวงช้างกระดาษ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 23–0Ma ไมโอซีน – ปัจจุบัน | |
---|---|
(A. argo) ตัวเมีย พร้อมไข่ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Mollusca |
ชั้น: | Cephalopoda |
อันดับ: | Octopoda |
วงศ์ใหญ่: | |
วงศ์: | |
สกุล: | Argonauta Linnaeus, 1758 |
ชนิด | |
| |
ชื่อพ้อง | |
|
หอยงวงช้างกระดาษ (อังกฤษ: Paper nautilus, Argonaut) เป็นมอลลัสคาประเภทหมึก จำพวกหมึกสายสกุลหนึ่ง ใช้ชื่อสกุลว่า Argonauta แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหอยงวงช้าง แต่ก็มิได้ถูกจัดให้อยู่ในจำพวกหอยงวงช้าง แต่ถูกจัดให้เป็นหมึกสาย
ลักษณะทางกายภาคและการขยายพันธุ์
หอยงวงช้างกระดาษมีลักษณะเด่น คือ เฉพาะตัวเมียเท่านั้นที่มีเปลือกหุ้มตัว เพื่อใช้เป็นที่สำหรับวางไข่และฟักไข่ ตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าเพศเมียมาก และไม่มีเปลือกหุ้มตัว เปลือกหอยงวงช้างกระดาษมีลักษณะบาง เบา เปราะ และแตกหักง่าย ม้วนเป็นวงในแนวราบ วงเกลียวแรก ๆ เป็นสีน้ำตาลเข้มและค่อย ๆ จางลงเป็นสีขาวหม่นหรือสีครีมในวงเกลียวสุดท้าย วงเกลียวสุดท้ายจะคลุมวงเกลียวแรก ๆ ไว้ทั้งหมด ผิวเปลือกมีร่องตามขวางและสันหยัก ทำให้เห็นเป็นลอนตื้นจากจุดยอดออกไปในแนวรัศมี ตามสันเปลือกมีปมเรียงเป็นแถว โดยเปลือกของหอยงวงช้างกระดาษนั้นเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตที่เปราะบางคล้ายกระดาษ อันเป็นที่มาของชื่อสามัญ ตัวหอยงวงช้างกระดาษประกอบด้วยส่วนหัวและลำตัว ที่หัวมีตาขนาดใหญ่ 1 คู่ รอบปากมีหนวดหรือแขน 8 เส้น ลำตัวไม่มีครีบ ตัวเมียมีลำตัวคล้ายถุงรูปรี หัวเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของลำตัว ปลายหนวดคู่แรกมีลักษณะแบน และมีต่อมที่ผลิตสารสำหรับสร้างเปลือก ตัวผู้มีลำตัวกลมคล้ายถุง หัวใหญ่ การผสมพันธุ์มีการจับคู่กัน ตัวเมียวางไข่ไว้ในเปลือก ไข่มีลักษณะเป็นไข่เดี่ยว ไข่แต่ละฟองมีตัวอ่อนเพียงตัวเดียว ตัวอ่อนที่ฟักออกมาจากไข่ มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่มีหนวดสั้น ขนาดเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 10–30 เซนติเมตรในตัวเมีย ขณะที่ตัวผู้มีความยาวเพียง 2 เซนติเมตรเท่านั้น คือเล็กกว่าตัวเมียได้มากถึง 30 เท่า
โดยการผสมพันธุ์จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาน ตัวผู้ที่มีขนาดเล็กกว่ามากจะทิ้งหนวดเอาไว้เกาะกับตัวเมีย ซึ่งสามารถคืบคลานไปมาได้และบรรจุไว้ซึ่งสเปิร์ม สำหรับในการปฏิสนธิตัวเมียอาจจะเก็บสะสมสเปิร์มของตัวผู้ไว้ได้หลายตัว และจะปฏิสนธิเมื่อเวลาผ่านไป ตัวเมียจะวางไข่เป็นสายพันอยู่รอบเปลือก เรียกว่า เปลือกหุ้มไข่ ซึ่งสามาถดูแลไปได้ด้วยขณะที่ไข่มีการพัฒนา ส่วนตัวผู้หลังจากผสมพันธุ์แล้ว ก็จะตาย
ถิ่นที่อยู่อาศัย
หอยงวงช้างกระดาษอาศัยในทะเลที่ห่างฝั่ง ทั้งในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ตั้งแต่ระดับผิวน้ำไปจนถึงระดับน้ำลึกประมาณ 100 เมตร ว่ายน้ำได้ดี แต่มักจะเคลื่อนตัวไปตามกระแสน้ำมากกว่าว่ายไปเอง บางชนิดตัวเมียอาจยึดเกาะกับวัตถุในน้ำ หรือเกาะกันเองเป็นสายจำนวน 20–30 ตัว มักออกหาอาหารในเวลากลางวัน อาหารคือ สัตว์น้ำขนาดเล็ก หอยงวงช้างกระดาษมีทั้งหมด 7 ชนิด (สูญพันธุ์ไปแล้วหลายชนิดตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์) ในน่านน้ำไทยมีการสำรวจพบ 3 ชนิด เปลือกมีความสวยงามแปลกตา จึงมักนำมาเป็นของตกแต่งบ้าน และรับประทานเนื้อเป็นอาหารในบางประเทศ
แม้จะเป็นสัตว์ที่ไม่ใคร่เป็นที่รู้จักหรือพบเห็นกันมากนัก แต่ทว่าที่จริงแล้ว เป็นสัตว์ที่สามารถพบได้ดาษดื่นตามท้องทะเลทั่วไป ขณะเดียวกัน หอยงวงช้างกระดาษก็ตกเป็นอาหารของสัตว์ทะเลที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น ปลาทูน่า, โลมา หรือปลากระโทง เป็นต้น
การจำแนก
- †
- (ชนิดต้นแบบ)
- *
- †
- †
- †
- *
- †
- †
- *ยังเป็นที่สงสัยอยู่
มีชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้ว คือ เคยถูกจัดให้อยู่ในสกุล Argonauta ด้วย แต่ปัจจุบันถูกจัดให้อยู่ในสกุล
ศัพท์มูลวิทยา
หอยงวงช้างกระดาษ ทั้งในชื่อวิทยาศาสตร์และชื่อสามัญภาษาอังกฤษที่ใช้คำว่า "Argonaut" หรือ Argonauta นั้น หมายถึง "กะลาสีบนเรือ" ตามเทพปกรณัมกรีก โดยแปลงมาจากภาษากรีกคำว่า ναυτίλος หมายถึง "กะลาสี" ซึ่งมาจากพฤติกรรมของหอยงวงช้างกระดาษที่มักใช้หนวดที่เป็นเสมือนแขนทั้ง 8 เส้นนั้นยกไว้เหนือลำตัวเสมือนใบเรือ เมื่ออยู่บนพื้นใต้ทะเล โดยชื่อนี้มีที่มาจากอริสโตเติล นักปราชญ์ชาวกรีกโบราณที่บรรยายถึงลักษณะของเปลือกหอยตัวเมียว่า เหมือนเรือและหนวดเป็นเหมือนใบเรือและพาย
รูปภาพ
- เปลือกหอยงวงช้างกระดาษชนิดต่าง ๆ
- ภาพแสดงให้เห็นถึงตัวหอยและเปลือก
- หอยงวงช้างกระดาษใหญ่ตัวเมีย
- เปลือกของหอยงวงช้างกระดาษใหญ่ในมุมต่าง ๆ
อ้างอิง
- "Argonauta". .
- คู่รักประหลาดในมหาสมุทรจับคู่ผสมพันธุ์กันอย่างไร, "สำรวจโลก | สัตว์ก็มีหัวใจ" โดย แพทริเซีย เอดมันส์ และ อีจา แวน เดน เบิร์ก. เนชั่นแนลจีโอกราฟิก ฉบับภาษาไทย ฉบับที่ 216 กรกฎาคม 2562
- . ไทยพีบีเอส. 18 June 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-05. สืบค้นเมื่อ 18 June 2014.
- หอยงวงช้างมุกและหอยงวงช้างกระดาษ (Class Cephalopoda), "หอยในทะเลไทย". สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เล่ม 34 : โดย พระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 328 หน้า (กรุงเทพฯ, 2552)
- Martill, D.M. & M.J. Barker (2006). A paper nautilus (Octopoda, Argonauta) from the Miocene Pakhna Formation of Cyprus. 2019-10-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Palaeontology 49 (5): 1035-1041.
- Naef, A. (1923). "Die Cephalopoden, Systematik". Fauna Flora Golf. Napoli (35) 1: 1–863. (เยอรมัน)
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Argonauta ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hxyngwngchangkradas chwngewlathimichiwitxyu 23 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N imoxsin pccubn A argo twemiy phrxmikhkarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Molluscachn Cephalopodaxndb Octopodawngsihy wngs skul Argonauta Linnaeus 1758chnid chnidtnaebb yngepnthisngsyxyuchuxphxngArgonautarius Dumeril 1806 Todarus nom nud 1815 Todarus 1840 Trichocephalus Chiaje 1827 in 1823 1831 hxyngwngchangkradas xngkvs Paper nautilus Argonaut epnmxllskhapraephthhmuk caphwkhmuksayskulhnung ichchuxskulwa Argonauta aemcaidchuxwaepnhxyngwngchang aetkmiidthukcdihxyuincaphwkhxyngwngchang aetthukcdihepnhmuksaylksnathangkayphakhaelakarkhyayphnthuhxyngwngchangkradasmilksnaedn khux echphaatwemiyethannthimiepluxkhumtw ephuxichepnthisahrbwangikhaelafkikh twphumikhnadelkkwaephsemiymak aelaimmiepluxkhumtw epluxkhxyngwngchangkradasmilksnabang eba epraa aelaaetkhkngay mwnepnwnginaenwrab wngekliywaerk epnsinatalekhmaelakhxy canglngepnsikhawhmnhruxsikhriminwngekliywsudthay wngekliywsudthaycakhlumwngekliywaerk iwthnghmd phiwepluxkmirxngtamkhwangaelasnhyk thaihehnepnlxntuncakcudyxdxxkipinaenwrsmi tamsnepluxkmipmeriyngepnaethw odyepluxkkhxnghxyngwngchangkradasnnepnaekhlesiymkharbxentthiepraabangkhlaykradas xnepnthimakhxngchuxsamy twhxyngwngchangkradasprakxbdwyswnhwaelalatw thihwmitakhnadihy 1 khu rxbpakmihnwdhruxaekhn 8 esn latwimmikhrib twemiymilatwkhlaythungrupri hwelkemuxethiybkbkhnadkhxnglatw playhnwdkhuaerkmilksnaaebn aelamitxmthiphlitsarsahrbsrangepluxk twphumilatwklmkhlaythung hwihy karphsmphnthumikarcbkhukn twemiywangikhiwinepluxk ikhmilksnaepnikhediyw ikhaetlafxngmitwxxnephiyngtwediyw twxxnthifkxxkmacakikh milksnakhlaytwetmwyaetmihnwdsn khnademuxotetmthipraman 10 30 esntiemtrintwemiy khnathitwphumikhwamyawephiyng 2 esntiemtrethann khuxelkkwatwemiyidmakthung 30 etha odykarphsmphnthucaichewlaephiyngimkinan twphuthimikhnadelkkwamakcathinghnwdexaiwekaakbtwemiy sungsamarthkhubkhlanipmaidaelabrrcuiwsungsepirm sahrbinkarptisnthitwemiyxaccaekbsasmsepirmkhxngtwphuiwidhlaytw aelacaptisnthiemuxewlaphanip twemiycawangikhepnsayphnxyurxbepluxk eriykwa epluxkhumikh sungsamathduaelipiddwykhnathiikhmikarphthna swntwphuhlngcakphsmphnthuaelw kcataythinthixyuxasyhxyngwngchangkradasxasyinthaelthihangfng thnginekhtrxnaelakungekhtrxn tngaetradbphiwnaipcnthungradbnalukpraman 100 emtr waynaiddi aetmkcaekhluxntwiptamkraaesnamakkwawayipexng bangchnidtwemiyxacyudekaakbwtthuinna hruxekaaknexngepnsaycanwn 20 30 tw mkxxkhaxaharinewlaklangwn xaharkhux stwnakhnadelk hxyngwngchangkradasmithnghmd 7 chnid suyphnthuipaelwhlaychnidtngaetyukhkxnprawtisastr innannaithymikarsarwcphb 3 chnid epluxkmikhwamswyngamaeplkta cungmknamaepnkhxngtkaetngban aelarbprathanenuxepnxaharinbangpraeths aemcaepnstwthiimikhrepnthiruckhruxphbehnknmaknk aetthwathicringaelw epnstwthisamarthphbiddasduntamthxngthaelthwip khnaediywkn hxyngwngchangkradasktkepnxaharkhxngstwthaelthimikhnadihykwa echn plathuna olma hruxplakraothng epntnkarcaaenk chnidtnaebb yngepnthisngsyxyu michnidthisuyphnthuipaelw khux ekhythukcdihxyuinskul Argonauta dwy aetpccubnthukcdihxyuinskulsphthmulwithyahxyngwngchangkradas thnginchuxwithyasastraelachuxsamyphasaxngkvsthiichkhawa Argonaut hrux Argonauta nn hmaythung kalasibnerux tamethphpkrnmkrik odyaeplngmacakphasakrikkhawa naytilos hmaythung kalasi sungmacakphvtikrrmkhxnghxyngwngchangkradasthimkichhnwdthiepnesmuxnaekhnthng 8 esnnnykiwehnuxlatwesmuxniberux emuxxyubnphunitthael odychuxnimithimacakxrisotetil nkprachychawkrikobranthibrryaythunglksnakhxngepluxkhxytwemiywa ehmuxneruxaelahnwdepnehmuxniberuxaelaphayrupphaphepluxkhxyngwngchangkradaschnidtang phaphaesdngihehnthungtwhxyaelaepluxk hxyngwngchangkradasihytwemiy epluxkkhxnghxyngwngchangkradasihyinmumtang xangxing Argonauta khurkprahladinmhasmuthrcbkhuphsmphnthuknxyangir sarwcolk stwkmihwic ody aephthriesiy exdmns aela xica aewn edn ebirk enchnaenlcioxkrafik chbbphasaithy chbbthi 216 krkdakhm 2562 ithyphibiexs 18 June 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 07 05 subkhnemux 18 June 2014 hxyngwngchangmukaelahxyngwngchangkradas Class Cephalopoda hxyinthaelithy saranukrmithysahrbeyawchn elm 34 ody phrarachprasngkhinphrabathsmedcphraecaxyuhw 328 hna krungethph 2552 ISBN 9748185842 Martill D M amp M J Barker 2006 A paper nautilus Octopoda Argonauta from the Miocene Pakhna Formation of Cyprus 2019 10 16 thi ewyaebkaemchchin Palaeontology 49 5 1035 1041 Naef A 1923 Die Cephalopoden Systematik Fauna Flora Golf Napoli 35 1 1 863 eyxrmn wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Argonautaaehlngkhxmulxunkhxmulthiekiywkhxngkb Argonauta thiwikispichis