ในกายวิภาคศาสตร์มนุษย์เพศชาย หนังหุ้มปลาย คือส่วนทบแบบสองขั้นของกล้ามเนื้อเรียบ หลอดเลือด เซลล์ประสาท ผิวหนัง และ เยื่อเมือก ที่เป็นส่วนหนึ่งของขององคชาต ทำหน้าที่ปกคลุมและปกป้องและ มันยังสามารถอธิบายว่าเป็นหนังหุ้มปลายองคชาตได้อีกด้วย ในทางกว้างขึ้นทางศัพท์เทคนิคนั้นจะหมายรวมไปถึง (Clitoral hood) ในผู้หญิงด้วยด้วย ซึ่งหนังหุ้มปลายนั้นเป็นตัวอ่อนที่ เป็นบริเวณที่ปกคลุมไปเส้นประสาทอย่างมากขององคชาต ซึ่งเกิดขึ้นใกล้กับส่วนปลายของหนังหุ้มปลาย หนังหุ้มปลายนั้นสามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย ยืดออกได้พอสมควร และทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นตามธรรมชาติ
หนังหุ้ม | |
---|---|
หนังหุ้มปลายที่กำลังปกคลุมบางส่วนของ แสดงให้เห็นที่ปรากฏที่ปลายสุดของหนังหุ้มปลาย | |
รายละเอียด | |
คัพภกรรม | , |
หลอดเลือดแดง | หลอดเลือดแดงด้านบนขององคชาต |
หลอดเลือดดำ | หลอดเลือดดำด้านบนขององคชาต |
ประสาท | |
ตัวระบุ | |
ภาษาละติน | Praeputium |
MeSH | D052816 |
TA98 | A09.4.01.011 |
TA2 | 3675 |
FMA | 19639 |
[แก้ไขบนวิกิสนเทศ] |
โดยปกติ หนังหุ้มปลายของผู้ใหญ่จะสามารถดึงรั้งลงมา (retractable) จากส่วนหัวองคชาตได้ ซึ่งครอบคลุมส่วนหัวทั้งในสถานะอ่อนตัวและแข็งตัว ขึ้นอยู่กับความยาวของหนังหุ้มปลาย เมื่อแรกเกิดหนังหุ้มปลายจะยึดอยู่กับส่วนหัวองคชาต และโดยทั่วไปจะยังไม่สามารถดึงรั้งลงได้ในวัยทารก เมื่อโตขึ้นในวัยเด็กสามารถจึงสามารถดึงรั้งลงมาได้ แต่จากผลสำรวจพบว่า 95% ของผู้ชายสามารถดึงรั้งหนังหุ้มปลายลงมาได้อย่างเต็มที่ขณะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว การไม่สามารถดึงรั้งหนังหุ้มปลายลงมาได้ในวัยเด็กนั้นไม่ควรถือว่าเป็นปัญหาเว้นแต่มีอาการอย่างอื่น
องค์การอนามัยโลกมีการอภิปรายถึงหน้าที่อย่างแน่นอนของหนังหุ้มปลาย ซึ่งรวมถึง "ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นของส่วนหัวขององคชาต ปกป้องการพัฒนาขององคชาตในวัยแรก หรือเพิ่มความความสุขทางเพศเนื่องจากมีตัวรับความรู้สึก"
หนังหุ้มปลายอาจตกอยู่ภายใต้สภาวะทางพยาธิวิทยาจำนวนมาก ส่วนมากเงื่อนไขนั้นเกิดยาก และสามารถรักษาได้ง่าย ในบางกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาวะเรื้อรัง การรักษาอาจทำได้วิธีการการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นการนำหนังหุ้มปลายองคชาตบางส่วนหรือทั้งหมดออกไป
อธิบาย
เมื่อมองจากภายนอก หนังหุ้มปลาย คือ การต่อเนื่องกันของผิวหนังและแท่งองคชาต (Shaft) แต่ด้านใน หนังหุ้มปลาย คือ เยื่อเมือกเหมือนกับที่อยู่ด้านในของเปลือกตาหรือปาก เกิดขึ้นในบริเวณที่ด้านนอกและด้านในของหนังหุ้มปลายมาพบกัน เป็นบริเวณที่ปกคลุมไปด้วยเนื้อเยื่อเส้นประสาทอย่างมากและอยู่ด้านในส่วนบนสุดของหนังหุ้มปลาย เช่นเดียวกับเปลือกตา หนังหุ้มปลายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระหลังจากที่มันแยกตัวออกจากส่วนหัวองคชาตแล้ว ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงก่อนหรือในช่วงวัยเริ่มเจริญพันธุ์ โดยหนังหุ้มปลายถูกเชื่อมต่อกับส่วนหัวองคชาตด้วยเส้นสองสลึง
เทย์เลอร์และคณะ (ค.ศ. 1996) รายงานการนำเสนอเกี่ยวกับ (Bulboid corpuscle) และชนิดของปลายประสาทที่เรียกว่า ตามรายงานนั้น ความหนาแน่นของความกว้างในแถบริ้ว (บริเวณของริ้วเยื่อเมือกที่ส่วนปลายของหนังหุ้มปลาย) จะมีมากกว่าบริเวณเยื่อเมือกที่เรียบในบริเวณที่ยาวกว่า ซึ่งมีผลตามอายุ ซึ่งพวกมันจะลดลงหลังจากวัยรุ่น เมซเนอร์คอร์พัสเคิลไม่สามารถแยกได้ในทุกรายบุคคล ส่วนแบตและคณะ ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเมซเนอร์คอร์พัสเคิลที่จำนวนของความแตกต่างไซท์ ประกอบด้วย "ปลายนิ้ว อุ้งมือ ด้านหน้าของแขนท่อนปลาย ฝ่าเท้า ริมฝีปาก หนังหุ้มปลายขององคชาต ด้านหลังของแขนและเท้า" พวกเขาพบว่าดัชนีเมซเนอร์ (Meissner's Index) ที่ต่ำที่สุดในเรื่องความหนาแน่นนั้นอยู่ในหนังหุ้มปลาย และในรายงานยังระบุอีกว่าคอร์พัสเคิลที่ไซท์นี้มีขนาดเล็กทางกายภาพ ซึ่งมีการบันทึกถึงความแตกต่างของรูปร่างด้วย พวกเขาสรุปว่าคุณลักษณะเหล่านี้ถูกพบใน "บริเวณความรู้สึกน้อยของร่างกาย" ในช่วงปลายยุค ค.ศ. 1950 วิงเกิลแมนน์ ชี้ว่าตัวรับค่าบางอย่างนั้นผิดพลาดที่นำมาใช้แยกเมซเนอร์คอร์พัสเคิล
วิทยาลัยแพทย์และศัลยแพทย์แห่งบริติชโคลัมเบีย ได้เขียนระบุเกี่ยวกับหนังหุ้มปลายว่าเป็น "การประกอบด้วยของผิวหนังด้านนอกและเยื่อเมือกด้านในซึ่งอุดมไปด้วยปลายประสาทสัมผัสพิเศษและเนื้อเยื่ออีโรจีนัส (Erogenous tissue)"
การพัฒนา
แปดสัปดาห์หลังการปฏิสนธิ หนังหุ้มปลายเริ่มเจริญขึ้นเหนือหัวขององคชาต และจะปกคลุมอย่างสมบูรณ์เมื่อวัย 16 สัปดาห์ ที่สถานะนี้ หนังหุ้มปลายและส่วนหัวองคชาตแบ่งปันเยื่อบุผิว (ชั้นเยื่อเมือก) ด้วยกัน นั่นทำให้มันรวมเข้าด้วยกัน และจะคงอยู่ไปจนกว่าหนังหุ้มปลายจะแยกออกจากส่วนหัวขององคชาต
ตามที่การศึกษาเมื่อปี 1949 โดย หนังหุ้มปลายโดยทั่วไปจะยังคงถูกรวมเข้ากับส่วนหัวในตอนที่เกิด ในกระบวนการตอนวัยเด็ก มันจะแยกออกจากกันทีละน้อย จากรายงานนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามอายุที่หนังหุ้มปลายจะสามารถแยกออกได้ เมื่อปี 2005 ทอร์วาลด์เซนและเมย์ฮอฟฟ์ รายงานว่า 21% ของเด็กชายวัย 7 ปีในการศึกษาของพวกเขาไม่สามารถแยกหนังหุ้มปลายออกได้ และสัดส่วนนี้จะลดลงไป 7% ในวัยเริ่มเจริญพันธุ์ ซึ่งการแยกออกครั้งแรกนั้นเฉลี่ยจะอยู่ที่อายุประมาณ 10.4 ปี แต่รายงานของแกรดเนอร์เมื่อปี 1949 ระบุว่ามีเพียง 10% ของเด็กชายวัย 3 ปีเท่านั้นที่ไม่สามารถแยกหนังหุ้มปลายออกได้ อย่างไรก็ตาม แกรดเนอร์นั้นมีข้อผิดพลาดในเรื่องของการพัฒนาและการแยกออกของหนังหุ้มปลาย รายงานของไรท์ (Wright) เมื่อปี 1994 ได้โต้แย้งในการใช้ความรุนแรงในการแยกหนังหุ้มปลาย ซึ่งควรหลีกเลี่ยงการกระทำนั้น และควรให้ตัวเด็กเองเป็นผู้แยกหนังหุ้มปลายของเขาเองในครั้งแรก ความพยายามที่จะแยกหนังหุ้มปลายอาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดและเป็นเหตุแห่งอาการบาดเจ็บได้
ในวัยเด็ก หนังหุ้มปลายโดยมากจะปกคลุมส่วนหัวโดยสมบูรณ์ แต่ในวัยผู้ใหญ่มันอาจไม่เป็นอย่างนั้น Schöberlein (1966) ได้จัดการศึกษาผู้ชายวัยรุ่น 3,000 คนในเยอรมัน และพบว่า 41.9% ยังมีหนังหุ้มปลายปกคลุมบางส่วน และ 8.5% นั้นไม่มีปกคลุมแล้ว ราว ๆ ครึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น (4%) หนังหุ้มปลายได้ถอยร่นไปเองตามธรรมชาติโดยปราศจากการศัลยกรรม ในระหว่างการแข็งตัว องศาของการถอยร่นของหนังหุ้มปลายนั้นต่างกันอย่างมาก ในผู้ใหญ่บางคน หนังหุ้มปลายจะยังคงเหลือปกคลุมทั้งหมดหรือบางส่วนของส่วนหัวองคชาต จนกระทั่งมีการถอยร่นด้วยตนเองหรือมีกิจกรรมทางเพศ ความแตกต่างนี้ถูกพิจารณาโดยเฉิงซูเมื่อปี 2011 ในฐานะเงื่อนไขผิดปกติชื่อว่า 'prepuce redundant' ความถี่ของการแยกออกและล้างภายใต้ของหนังหุ้มปลายนั้นแนะนำสำหรับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีหนังหุ้มปลายยาวหรือหนังหุ้มปลายมากเกินไป เมื่อหนังหุ้มปลายนั้นยาวกว่าองคชาต มันจะไม่ถอยร่นออกไปเองขณะมีการแข็งตัว
มันแสดงให้เห็นว่าการดึงหนังหุ้มปลายโดยใช้มือระหว่างวัยเด็กหรือในวัยผู้ใหญ่ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาตามปกติและดึงหนังหุ้มปลายลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งชี้ว่ามีหลายเงื่อนไขที่มีผลต่อหนังหุ้มปลายซึ่งอาจกีดขวางหรือถนอมทางพฤติกรรม ในผู้ชายบางคน ตามที่ Xianze ระบุไว้เมื่อปี 2012 พวกเขาอาจไม่เต็มใจที่ส่วนหัวองคชาตของพวกเขานั้นถูกเปิดออก เพราะว่ารู้สึกไม่สะดวกสบายเมื่อมันถูกรบกวนจากการปะทะกับเสื้อผ้า แม้ว่าความรู้สึกไม่สะดวกสบายส่วนหัวของคชาตตามรายงานจะหายไปภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากเปิดออก Guochang (2010) รายงานว่าสำหรับคนที่มีหนังหุ้มปลายองคชาตที่คับแน่นจนเกินไปที่จะเปิดออกหรือมีบางสิ่งที่ยืดไว้ ควรหลีกเลี่ยงการเปิดออกเพราะอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บได้
หน้าที่
องค์การอนามัยโลกมีการอภิปรายถึงหน้าที่อย่างแน่นอนของหนังหุ้มปลาย ซึ่งรวมถึง "ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นของส่วนหัวขององคชาต ปกป้องการพัฒนาขององคชาตในวัยแรก หรือเพิ่มความความสุขทางเพศเนื่องจากมีตัวรับความรู้สึก" หนังหุ้มปลายช่วยให้องคชาตมีผิวหนังเพียงพอเมื่อเกิดการแข็งตัวและขยายออกได้อย่างเต็มรูปร่าง สมาคมเพศวิทยาคลินิกแห่งนอร์ดิก ได้ระบุว่าหนังหุ้มปลาย "ก่อให้เกิดการทำงานตามธรรมชาติเมื่อมีการใช้องคชาตในกิจกรรมทางเพศ"
อ้างอิง
- Wright JE. Further to "the further fate of the foreskin". Update on the natural history of the foreskin. Med J Aust. 1994;160(3):134–5. PMID 8295581.
- Øster J. Further fate of the foreskin: Incidence of preputial adhesions, phimosis, and smegma among Danish schoolboys. Arch Dis Child. April 1968;43(228):200–202. doi:10.1136/adc.43.228.200. PMID 5689532.
- "Phimosis (tight foreskin)". NHS Choices. สืบค้นเมื่อ 3 November 2013.
- "Male circumcision: Global trends and determinants of prevalence, safety and acceptability" (PDF). World Health Organization. 2007.
- Manu Shah (January 2008). The Male Genitalia: A Clinician's Guide to Skin Problems and Sexually Transmitted Infections. Radcliffe Publishing. pp. 37–. ISBN .
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อtaylor
- Dong G, Sheng-mei X, Hai-yang J, et al. Observation of Meissner's corpuscle on fused phimosis. J Guangdong Medical College. 2007 [ 2011-07-07; cited 2017-07-30].
- Haiyang J, Guxin W, Guo Dong G, Mingbo T et al.. Observation of Meissner's corpuscle in abundant prepuce and phimosis. J Modern Urol. 2005 [ 2011-07-07; cited 2017-07-30].
- Bhat GM, Bhat MA, Kour K, Shah BA. Density and structural variations of Meissner's corpuscle at different sites in human glabrous skin. J Anat Soc India. 2008 [ 2013-12-04; cited 2017-07-30];57(1):30–33.
- Winkelmann RK. The cutaneous innervation of human newborn prepuce. J Investigative Dermatol. 1956;26(1):53–67. doi:10.1038/jid.1956.5. PMID 13295637.
- Winkelmann RK. The mucocutaneous end-organ: the primary organized sensory ending in human skin. AMA Arch Dermatol. 1957;76(2):225–35. doi:10.1001/archderm.1957.01550200069015. PMID 13443512.
- College of Physicians; Surgeons of British Columbia (2009). "Circumcision (Infant Male)" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-05-31. สืบค้นเมื่อ April 22, 2012.
- Gaidner D. Fate of the Foreskin. BMJ. 1949;2(4642):1433–7. doi:10.1136/bmj.2.4642.1433. PMID 15408299.
- Øster J. Further fate of the foreskin: incidence of preputial adhesions, phimosis, and smegma among Danish Schoolboys. Arch Dis Child. 1968;43:200–3. doi:10.1136/adc.43.228.200. PMID 5689532.
- Thorvaldsen MA, Meyhoff H. Phimosis: Pathological or Physiological?. Ugeskrift for Læger. 2005;167(17):1858–62. PMID 15929334.
- Denniston GC, Hill G. Gairdner was wrong.. Can Fam Physician. 2010;56(1):986-7. PMID 20944034. PMC 2954072.
- "Circumcision of infant males" (PDF). RACP. p. 7.[]
- "The Significance and Frequency of Phimosis and Smegma". Male-initiation.net. 1966. สืบค้นเมื่อ 2013-04-16.
- Chengzu, Liu (2011). "Health Care for Foreskin Conditions". Epidemiology of Urogenital Diseases. Beijing: People's Medical Publishing House.
- "Best Way to Cure Phimosis / Tight Foreskin". ehealthforum.com. 2007. สืบค้นเมื่อ 2013-10-21.
- Xianze, Liang (2012). Tips on Puberty Health. Beijing: People's Education Press.
- Guochang, Huang (2010). General Surgery. Beijing: People's Medical Publishing House.
- "Male circumcision: Global trends and determinants of prevalence, safety and acceptability" (PDF). World Health Organization. p. 13.
- Nordic Association of Clinical Sexologists. Statement on Non-therapeutic circumcision of boys; 10 October 2013 [ 2016-01-14; cited 6 January 2016].
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
inkaywiphakhsastrmnusyephschay hnnghumplay khuxswnthbaebbsxngkhnkhxngklamenuxeriyb hlxdeluxd esllprasath phiwhnng aela eyuxemuxk thiepnswnhnungkhxngkhxngxngkhchat thahnathipkkhlumaelapkpxngaela mnyngsamarthxthibaywaepnhnnghumplayxngkhchatidxikdwy inthangkwangkhunthangsphthethkhnikhnncahmayrwmipthung Clitoral hood inphuhyingdwydwy sunghnnghumplaynnepntwxxnthi epnbriewnthipkkhlumipesnprasathxyangmakkhxngxngkhchat sungekidkhuniklkbswnplaykhxnghnnghumplay hnnghumplaynnsamarthekhluxnthiidngay yudxxkidphxsmkhwr aelathahnathiepnsarhlxluntamthrrmchatihnnghumhnnghumplaythikalngpkkhlumbangswnkhxng aesdngihehnthipraktthiplaysudkhxnghnnghumplayraylaexiydkhphphkrrm hlxdeluxdaednghlxdeluxdaedngdanbnkhxngxngkhchathlxdeluxddahlxdeluxddadanbnkhxngxngkhchatprasathtwrabuphasalatinPraeputiumMeSHD052816TA98A09 4 01 011TA23675FMA19639 aekikhbnwikisneths odypkti hnnghumplaykhxngphuihycasamarthdungrnglngma retractable cakswnhwxngkhchatid sungkhrxbkhlumswnhwthnginsthanaxxntwaelaaekhngtw khunxyukbkhwamyawkhxnghnnghumplay emuxaerkekidhnnghumplaycayudxyukbswnhwxngkhchat aelaodythwipcayngimsamarthdungrnglngidinwythark emuxotkhuninwyedksamarthcungsamarthdungrnglngmaid aetcakphlsarwcphbwa 95 khxngphuchaysamarthdungrnghnnghumplaylngmaidxyangetmthikhnaotepnphuihyaelw karimsamarthdungrnghnnghumplaylngmaidinwyedknnimkhwrthuxwaepnpyhaewnaetmixakarxyangxun xngkhkarxnamyolkmikarxphipraythunghnathixyangaennxnkhxnghnnghumplay sungrwmthung thahnathirksakhwamchumchunkhxngswnhwkhxngxngkhchat pkpxngkarphthnakhxngxngkhchatinwyaerk hruxephimkhwamkhwamsukhthangephsenuxngcakmitwrbkhwamrusuk hnnghumplayxactkxyuphayitsphawathangphyathiwithyacanwnmak swnmakenguxnikhnnekidyak aelasamarthrksaidngay inbangkrni odyechphaaxyangyingkbphawaeruxrng karrksaxacthaidwithikarkarkhlibhnnghumplayxwywaephs sungepnkarnahnnghumplayxngkhchatbangswnhruxthnghmdxxkipxthibayaephnphaphtdaebngkhxngkaywiphakhsastrephschay emuxmxngcakphaynxk hnnghumplay khux kartxenuxngknkhxngphiwhnngaelaaethngxngkhchat Shaft aetdanin hnnghumplay khux eyuxemuxkehmuxnkbthixyudaninkhxngepluxktahruxpak ekidkhuninbriewnthidannxkaeladaninkhxnghnnghumplaymaphbkn epnbriewnthipkkhlumipdwyenuxeyuxesnprasathxyangmakaelaxyudaninswnbnsudkhxnghnnghumplay echnediywkbepluxkta hnnghumplaysamarthekhluxnihwidxyangxisrahlngcakthimnaeyktwxxkcakswnhwxngkhchataelw sungmkekidkhuninchwngkxnhruxinchwngwyerimecriyphnthu odyhnnghumplaythukechuxmtxkbswnhwxngkhchatdwyesnsxngslung ethyelxraelakhna kh s 1996 rayngankarnaesnxekiywkb Bulboid corpuscle aelachnidkhxngplayprasaththieriykwa tamrayngannn khwamhnaaennkhxngkhwamkwanginaethbriw briewnkhxngriweyuxemuxkthiswnplaykhxnghnnghumplay camimakkwabriewneyuxemuxkthieriybinbriewnthiyawkwa sungmiphltamxayu sungphwkmncaldlnghlngcakwyrun emsenxrkhxrphsekhilimsamarthaeykidinthukraybukhkhl swnaebtaelakhna idthakarsuksaekiywkbemsenxrkhxrphsekhilthicanwnkhxngkhwamaetktangisth prakxbdwy playniw xungmux danhnakhxngaekhnthxnplay faetha rimfipak hnnghumplaykhxngxngkhchat danhlngkhxngaekhnaelaetha phwkekhaphbwadchniemsenxr Meissner s Index thitathisudineruxngkhwamhnaaennnnxyuinhnnghumplay aelainraynganyngrabuxikwakhxrphsekhilthiisthnimikhnadelkthangkayphaph sungmikarbnthukthungkhwamaetktangkhxngruprangdwy phwkekhasrupwakhunlksnaehlanithukphbin briewnkhwamrusuknxykhxngrangkay inchwngplayyukh kh s 1950 wingekilaemnn chiwatwrbkhabangxyangnnphidphladthinamaichaeykemsenxrkhxrphsekhil withyalyaephthyaelaslyaephthyaehngbritichokhlmebiy idekhiynrabuekiywkbhnnghumplaywaepn karprakxbdwykhxngphiwhnngdannxkaelaeyuxemuxkdaninsungxudmipdwyplayprasathsmphsphiessaelaenuxeyuxxiorcins Erogenous tissue karphthnaaepdspdahhlngkarptisnthi hnnghumplayerimecriykhunehnuxhwkhxngxngkhchat aelacapkkhlumxyangsmburnemuxwy 16 spdah thisthanani hnnghumplayaelaswnhwxngkhchataebngpneyuxbuphiw chneyuxemuxk dwykn nnthaihmnrwmekhadwykn aelacakhngxyuipcnkwahnnghumplaycaaeykxxkcakswnhwkhxngxngkhchat tamthikarsuksaemuxpi 1949 ody hnnghumplayodythwipcayngkhngthukrwmekhakbswnhwintxnthiekid inkrabwnkartxnwyedk mncaaeykxxkcakknthilanxy cakrayngannncaaetktangknxxkiptamxayuthihnnghumplaycasamarthaeykxxkid emuxpi 2005 thxrwaldesnaelaemyhxff raynganwa 21 khxngedkchaywy 7 piinkarsuksakhxngphwkekhaimsamarthaeykhnnghumplayxxkid aelasdswnnicaldlngip 7 inwyerimecriyphnthu sungkaraeykxxkkhrngaerknnechliycaxyuthixayupraman 10 4 pi aetrayngankhxngaekrdenxremuxpi 1949 rabuwamiephiyng 10 khxngedkchaywy 3 piethannthiimsamarthaeykhnnghumplayxxkid xyangirktam aekrdenxrnnmikhxphidphladineruxngkhxngkarphthnaaelakaraeykxxkkhxnghnnghumplay rayngankhxngirth Wright emuxpi 1994 idotaeynginkarichkhwamrunaernginkaraeykhnnghumplay sungkhwrhlikeliyngkarkrathann aelakhwrihtwedkexngepnphuaeykhnnghumplaykhxngekhaexnginkhrngaerk khwamphyayamthicaaeykhnnghumplayxackxihekidkhwamecbpwdaelaepnehtuaehngxakarbadecbid phaphkhxnghnnghumplaythiaeykxxkcakexngtamthrrmchati chnthngsxngkhxnghnnghumplaykhxngphiwhnngdannxkaelaeyuxyemuxkdaninsamarthaeykxxkcakswnhw inwyedk hnnghumplayodymakcapkkhlumswnhwodysmburn aetinwyphuihymnxacimepnxyangnn Schoberlein 1966 idcdkarsuksaphuchaywyrun 3 000 khnineyxrmn aelaphbwa 41 9 yngmihnnghumplaypkkhlumbangswn aela 8 5 nnimmipkkhlumaelw raw khrunghnungincanwnnn 4 hnnghumplayidthxyrnipexngtamthrrmchatiodyprascakkarslykrrm inrahwangkaraekhngtw xngsakhxngkarthxyrnkhxnghnnghumplaynntangknxyangmak inphuihybangkhn hnnghumplaycayngkhngehluxpkkhlumthnghmdhruxbangswnkhxngswnhwxngkhchat cnkrathngmikarthxyrndwytnexnghruxmikickrrmthangephs khwamaetktangnithukphicarnaodyechingsuemuxpi 2011 inthanaenguxnikhphidpktichuxwa prepuce redundant khwamthikhxngkaraeykxxkaelalangphayitkhxnghnnghumplaynnaenanasahrbphuihy odyechphaaxyangyinginphuthimihnnghumplayyawhruxhnnghumplaymakekinip emuxhnnghumplaynnyawkwaxngkhchat mncaimthxyrnxxkipexngkhnamikaraekhngtw mnaesdngihehnwakardunghnnghumplayodyichmuxrahwangwyedkhruxinwyphuihythahnathiepntwkratunihekidkarphthnatampktiaeladunghnnghumplaylngodyxtonmti sungchiwamihlayenguxnikhthimiphltxhnnghumplaysungxackidkhwanghruxthnxmthangphvtikrrm inphuchaybangkhn tamthi Xianze rabuiwemuxpi 2012 phwkekhaxacimetmicthiswnhwxngkhchatkhxngphwkekhannthukepidxxk ephraawarusukimsadwksbayemuxmnthukrbkwncakkarpathakbesuxpha aemwakhwamrusukimsadwksbayswnhwkhxngkhchattamrayngancahayipphayinewlahnungspdahhlngcakepidxxk Guochang 2010 raynganwasahrbkhnthimihnnghumplayxngkhchatthikhbaenncnekinipthicaepidxxkhruxmibangsingthiyudiw khwrhlikeliyngkarepidxxkephraaxackxihekidxakarbadecbidhnathihnnghumplayxngkhchatpkkhlumbriewnswnhwxngkhchatkhnaimaekhngtw phaphbn aetodythwipmkepidxxkemuxekidphawaaekhngtw phaphlang karkhrxbkhlumswnhwkhxngxngkhchatinkhnaxxntwaelaaekhngtwcaaetktangkniptamkhwamyawkhxnghnnghumplay xngkhkarxnamyolkmikarxphipraythunghnathixyangaennxnkhxnghnnghumplay sungrwmthung thahnathirksakhwamchumchunkhxngswnhwkhxngxngkhchat pkpxngkarphthnakhxngxngkhchatinwyaerk hruxephimkhwamkhwamsukhthangephsenuxngcakmitwrbkhwamrusuk hnnghumplaychwyihxngkhchatmiphiwhnngephiyngphxemuxekidkaraekhngtwaelakhyayxxkidxyangetmruprang smakhmephswithyakhlinikaehngnxrdik idrabuwahnnghumplay kxihekidkarthangantamthrrmchatiemuxmikarichxngkhchatinkickrrmthangephs xangxingWright JE Further to the further fate of the foreskin Update on the natural history of the foreskin Med J Aust 1994 160 3 134 5 PMID 8295581 Oster J Further fate of the foreskin Incidence of preputial adhesions phimosis and smegma among Danish schoolboys Arch Dis Child April 1968 43 228 200 202 doi 10 1136 adc 43 228 200 PMID 5689532 Phimosis tight foreskin NHS Choices subkhnemux 3 November 2013 Male circumcision Global trends and determinants of prevalence safety and acceptability PDF World Health Organization 2007 Manu Shah January 2008 The Male Genitalia A Clinician s Guide to Skin Problems and Sexually Transmitted Infections Radcliffe Publishing pp 37 ISBN 978 1 84619 040 7 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux taylor Dong G Sheng mei X Hai yang J et al Observation of Meissner s corpuscle on fused phimosis J Guangdong Medical College 2007 2011 07 07 cited 2017 07 30 Haiyang J Guxin W Guo Dong G Mingbo T et al Observation of Meissner s corpuscle in abundant prepuce and phimosis J Modern Urol 2005 2011 07 07 cited 2017 07 30 Bhat GM Bhat MA Kour K Shah BA Density and structural variations of Meissner s corpuscle at different sites in human glabrous skin J Anat Soc India 2008 2013 12 04 cited 2017 07 30 57 1 30 33 Winkelmann RK The cutaneous innervation of human newborn prepuce J Investigative Dermatol 1956 26 1 53 67 doi 10 1038 jid 1956 5 PMID 13295637 Winkelmann RK The mucocutaneous end organ the primary organized sensory ending in human skin AMA Arch Dermatol 1957 76 2 225 35 doi 10 1001 archderm 1957 01550200069015 PMID 13443512 College of Physicians Surgeons of British Columbia 2009 Circumcision Infant Male PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 05 31 subkhnemux April 22 2012 Gaidner D Fate of the Foreskin BMJ 1949 2 4642 1433 7 doi 10 1136 bmj 2 4642 1433 PMID 15408299 Oster J Further fate of the foreskin incidence of preputial adhesions phimosis and smegma among Danish Schoolboys Arch Dis Child 1968 43 200 3 doi 10 1136 adc 43 228 200 PMID 5689532 Thorvaldsen MA Meyhoff H Phimosis Pathological or Physiological Ugeskrift for Laeger 2005 167 17 1858 62 PMID 15929334 Denniston GC Hill G Gairdner was wrong Can Fam Physician 2010 56 1 986 7 PMID 20944034 PMC 2954072 Circumcision of infant males PDF RACP p 7 lingkesiy The Significance and Frequency of Phimosis and Smegma Male initiation net 1966 subkhnemux 2013 04 16 Chengzu Liu 2011 Health Care for Foreskin Conditions Epidemiology of Urogenital Diseases Beijing People s Medical Publishing House Best Way to Cure Phimosis Tight Foreskin ehealthforum com 2007 subkhnemux 2013 10 21 Xianze Liang 2012 Tips on Puberty Health Beijing People s Education Press Guochang Huang 2010 General Surgery Beijing People s Medical Publishing House Male circumcision Global trends and determinants of prevalence safety and acceptability PDF World Health Organization p 13 Dobanavacki D Lucic Prostran B Sarac D et al Prepuce in boys and adolescents what when and how Med Pregl 2012 65 7 8 295 300 PMID 22924249 Nordic Association of Clinical Sexologists Statement on Non therapeutic circumcision of boys 10 October 2013 2016 01 14 cited 6 January 2016