สนามกีฬาซานมาเมส

สนามกีฬาซานมาเมส (หรือรู้จักในชื่อ นูเอโบซานมาเมส หรือ ซานมาเมสบาร์เรีย) เป็นสนามกีฬาฟุตบอลตั้งอยู่ที่ถนนราฟาเอล โมเรโน "ปิชิชิ" ในเมืองบิลบาโอ แคว้นประเทศบาสก์ ประเทศสเปน เปิดใช้เมื่อ 16 กันยายน ค.ศ. 2013 แทนที่ของ เป็นสนามเหย้าของอัตเลติกเดบิลบาโอ มีความจุ 53,289 ที่นั่ง ซึ่งมีความจุมากที่สุดในแคว้นประเทศบาสก์ และเป็นลำดับที่ 8 ของประเทศสเปน

ซานมาเมส

นูเอโบซานมาเมส ซานมาเมสบาร์เรีย กาเตดราลา
การแบ่งประเภทสนามฟุตบอลของยูฟ่าระดับที่สี่
ชื่อเต็ม	ซานมาเมส
ที่ตั้ง	บิลบาโอ แคว้นประเทศบาสก์ สเปน
พิกัด	43°15′51″N 2°57′01″W / 43.264284°N 2.950366°W / 43.264284; -2.950366
เจ้าของ	บริษัท ซานมาเมส บาร์เรีย จำกัด, อัตเลติกเดบิลบาโอ, , สภาจังหวัดบิซกายา และ
ผู้ดำเนินการ	อัตเลติกเดบิลบาโอ
ความจุ	53,289 ที่นั่ง
สถิติผู้ชม	49,164 คน (ฟุตบอล; อัตเลติกพบเรอัลมาดริด, 18 มีนาคม ค.ศ. 2017) (รักบี้) 52,282 คน (พบ, 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2018)
ขนาดสนาม	105 × 68 m (344 × 223 ft)
พื้นผิว	หญ้าผสม
การก่อสร้าง
ลงเสาเข็ม	26 พฤษภาคม ค.ศ. 2010
ก่อสร้าง	16 กันยายน ค.ศ. 2013 (ระยะแรก) 25 สิงหาคม ค.ศ. 2014 (เสร็จสมบูรณ์)
เปิดใช้สนาม	16 กันยายน ค.ศ. 2013
งบประมาณในการก่อสร้าง	211 ล้านยูโร
สถาปนิก	อิดอม เซซาร์ อัซการาเต
ผู้จัดการโครงการ	อิดอม
การใช้งาน
อัตเลติกเดบิลบาโอ (2013–ปัจจุบัน) (2015–2016) (2013–ปัจจุบัน)

ประวัติ

การวางแผนและการก่อสร้าง

ระยะแรกของการวางแผนงานเกิดขึ้นในในข่วงต้นปี ค.ศ. 2004 โดยมีสัญญาเริ่มต้นที่ลงนามในช่วงปลายปี ค.ศ. 2006 หลังจากได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2006 สนามกีฬาแห่งใหม่จะถูกสร้างขึ้นบนที่ดินของสนามเดิม และบนที่ดินของงานแสดงสินค้านานาชาติบิลบาโอ ที่ใช้งานมาจนถึงปี ค.ศ. 2003

ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 ในเวลา 12:00 นาที () พิธีวางศิลาฤกษ์เกิดขึ้นที่ มีผู้เข้าร่วมงาน อาทิ เช่น แห่งแคว้นประเทศบาสก์, ประธาน, นายกเทศมนตรีเมืองบิลบาโอ ประธานธนาคาร, ประธานราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน, และ ประธานสโมสรอัตเลติกบิลบาโอ

ภาพขณะรื้อถอนสนามเดิม กับสนามกีฬาใหม่ที่เพิ่งสร้างขึ้นเพิ่มข้างหลัง ในเดือน มินายน ค.ศ. 2013

ในพิธีการมีการแสดงเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการส่งต่อเศษหญ้าและอิฐจากด้านหน้าที่ถูกรื้อถอนออกจากสนามเดิม ส่งต่อไปยังพื้นที่ก่อสร้างสนามใหม่ที่อยู่ติดกันด้วยห่วงโซ่มนุษย์ ซึ่งมีทั้งผู้เล่นที่มีชื่อเสียง เช่น , , และ รวมทั้งสมาชิกของ และแฟนบอลที่ลงทะเบียนที่อายุมากและอายุน้อยที่สุด

ในขั้นต้น ได้เริ่มการก่อสร้างอัฒจรรย์สามด้านของสนามแห่งใหม่ และจากนั้นก็จัดการแข่งขัน ในขณะที่สนามเก่าถูกรื้อถอนเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับสร้างอัฒจรรย์อีกหนึ่งด้านให้เสร็จสมบูรณ์

สนามระหว่างการก่อสร้าง ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2013

สนามถูกสร้างขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะชาวบาสก์ โดยสนามมีได้ใช้เงินในการซื้อที่ดินและก่อสร้าง 211 ล้านยูโร (178 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง) โดย 52.6% ของทั้งหมดจ่ายโดยงบประมาณของรัฐ ซึ่งเป็นของ 50 ล้านยูโร 11 ล้านยูโร และ 50 ล้านยูโร นอกจากนี้ยังเป็นเงินของอัตเลติกบิลบาโอ 50 ล้านยูโร และ 50 ล้านยูโร ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าสนามกีฬาจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานสาธารณะ เช่น มีความเชื่อว่า คณะกรรมาธิการยุโรป กำลังสืบสวนการใช้งบประมาณสาธารณะที่อาจไม่เหมาะสมในข้อตกลง ก่อนที่ปลายปี ค.ศ. 2013 หนึ่งในกรรมาธิการคณะกรรมาธิการยุโรปในขณะนั้น (ซึ่งเป็นแฟนบอลของอัตเลติกบิลบาโอ) ยืนยันว่าจะไม่มีการดำเนินคดีดังกล่าว

เปิดตัวครั้งแรก

การเสร็จสิ้นบางส่วนในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013

ซันมาเมสสนามใหม่ได้เปิดตัวขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2013 102 วันหลังจากการแข่งขันนัดสุดท้ายในสนามเดิม ในขณะนั้นความจุอย่างเป็นทางการของสนามที่เสร็จสมบูรณ์บางส่วนคือ 35,686 ที่นั่ง การแข่งขันนัดแรกเกิดขึ้นในเวลา 22:00 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอล ระหว่างทีมเหย้าอัตเลติกบิลบาโอ พบกับ ซึ่งทีมเจ้าถิ่นชนะไปด้วยคะแนน 3–2 โดยมีผู้เข้าชมราว 33,000 คน ซึ่งก่อนเกมได้มีกัปตันในแต่ละกลุ่มอายุของสโมสร รวมถึง และ ประธานสโมสร ได้เข้าร่วมในการแสดงสั้นๆ พร้อมด้วยการเต้นรำแบบ "เอาเรสกู" แบบดั้งเดิม โดยผู้ทำประตูคนแรกในสนามแห่งนี้คือ กองหน้าจากเซลตา ขณะที่ผู้ทำประตูคนแรกของอัตเลติกคือ ไม่กี่หลังจากประตูแรกของเซลตาเกิดขึ้น

การแข่งขันนัดนี้เป็นนัดที่สองในฤดูกาลนั้นที่อัตเลติกลงเล่นในสนามเหย้า โดยก่อนหน้านี้ได้แข่งขันใน สนามเหย้าของคู่แข่งสำคัญอย่างเรอัลโซซิเอดัด ซึ่งพวกเขาเอาชนะโอซาซูนา 2–0 ในซานเซบัสเตียน กิปุซโกอา

เสร็จสมบูรณ์

ซันมาเมสในปี ค.ศ. 2015

การแข่งขันนัดแรกภายใต้สนามที่เสร็จสมบูรณ์ เกิดขึ้นใน (ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์-ออฟ) พบกับ นาโปลี ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2014 มีผู้ชม 49,017 คน ซึ่งอัตเลติกเอาชนะ 3–1 ทำให้ผ่านเข้าสู่(รอบแบ่งกลุ่ม)ได้สำเร็จ

การต่อเติมหลังคา

มุมมองด้านบนหลังจากขยายหลังคา (ค.ศ. 2017)

นับตั้งแต่สนามเปิดใข้งาน แฟนบอลที่เข้ามาชมในสนามต่างไม่พอใจลักษณะของหลังคา ซึ่งไม่สามารถป้องกันทุกเก้าอี้ให้พ้นจากฝนที่ตกลงบ่อยครั้งในบิลบาโอได้ เมื่อจบฤดูกาล 2015–16 ตลอดทั้งช่วงปิดเทอมฤดูร้อนและตอนต้นของฤดูกาล 2016–17 การต่อเติมจึงเกิดขึ้นโดยมีมูลค่า 12.6 ล้านยูโร คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทนต่อสภาพอากาศเปียกได้ร้อยละ 70 ในที่สุด เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 งานต่อเติมหลังคาก็แล้วเสร็จและสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ในนัดที่เอาชนะบิยาร์เรอัล 1–0 ในการแข่งขันลาลิกา การขาดแสงแดดลงสู่สนามจากหลังคาถูกชดเชยด้วยโมดูลไฟส่องสว่างภายในซึ่งรักษาสภาพและการเติบโตของสนามหญ้า ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในสนามกีฬาแห่งอื่น ๆ ของสเปน

อ้างอิง

1. UEFA EURO 2020 Evaluation Report
2. "Athletic – Real Madrid". La Liga. 18 March 2017. สืบค้นเมื่อ 13 May 2018.
3. . www.epcrugby.com. 12 May 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-05-13. สืบค้นเมื่อ 13 May 2018.
4. A new Cathedral: Athletic Club’s move to a new San Mamés, Simon Lloyd,
5. Sinnott, John (11 May 2011). "Homage to San Mames". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 10 April 2016.
6. . Irekia Euskadi. 26 May 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-12. สืบค้นเมื่อ 19 March 2017.
7. "¿Cómo se financió San Mames Barria?" [How is San Mamés Barria financed?] (ภาษาสเปน). . 4 July 2016. สืบค้นเมื่อ 24 March 2017.
8. "European Commission confusion over Athletic Bilbao's stadium deal under investigation". The Independent. 18 December 2013. สืบค้นเมื่อ 24 March 2017.
9. "San Mamés se abre al mundo" [San Mamés opens to the world]. (ภาษาสเปน). 16 September 2013. สืบค้นเมื่อ 22 March 2017.
10. "Partido Athletic – Celta en directo, en vivo" (ภาษาสเปน). LaLiga. 16 September 2013.
11. ["We shall be remembered", says Mikel San José, author of first goal in the new San Mamés]. Canal Athletic. 17 September 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-09. สืบค้นเมื่อ 19 March 2017.
12. "20.000 rojiblancos apoyarán al Athletic en Anoeta" [20,000 red-and-whites will support Athletic in Anoeta] (ภาษาสเปน). . 22 August 2013. สืบค้นเมื่อ 10 August 2017.
13. "Una 'mudanza' muy rentable" [A very profitable move']. Marca (ภาษาสเปน). 23 August 2013. สืบค้นเมื่อ 10 August 2017.
14. "El Athletic de Bilbao gana 2-0 a Osasuna en Anoeta" [Athletic Bilbao wins 2-0 against Osasuna at Anoeta]. (ภาษาสเปน). 24 August 2013. สืบค้นเมื่อ 10 August 2017.
15. "Aduriz relishing Athletic's group stage adventure". UEFA.com. 28 August 2014. สืบค้นเมื่อ 25 July 2017.
16. [The derby will be the baptism for San Mamés roof] (ภาษาสเปน). Deia. 11 October 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-14. สืบค้นเมื่อ 24 March 2017.
17. "Una victoria de esas que valen por dos" (ภาษาสเปน). El Desmarque. 20 November 2016. สืบค้นเมื่อ 11 October 2018.
18. @athletic (20 November 2016). "Espectacular vista aérea de San Mamés" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
19. "Sistema de iluminación arquitectónica de fachada de última generación para San Mamés" [State-of-the-art architectural lighting system for San Mamés] (ภาษาสเปน). Smart-lighting.es(with video). 28 February 2014. สืบค้นเมื่อ 24 March 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ สนามกีฬาซานมาเมส

• รายละเอียดสนามกีฬาที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอัตเลติกเดบิลบาโอ 2017-10-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
• เว็บไซต์อย่างเป็นทางการโดยอิดอม
• เว็บไซต์ที่ไม่เป็นทางการ
• สนามกีฬาในประเทศสเปน (ในภาษาอังกฤษ)
• คู่มือสนามกีฬาอย่างไม่เป็นทางการ

ก่อนหน้า		สนามกีฬาซานมาเมส		ถัดไป
อวีวาสเตเดียม ดับลิน		สนามในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่ายูโรปาลีก ()		ไม่ทราบ

43°15′51″N 2°57′01″W / 43.264284°N 2.950366°W / 43.264284; -2.950366