สนธิสัญญาไวตางี (อังกฤษ: Treaty of Waitangi; : Tiriti o Waitangi) เป็นสนธิสัญญาที่ลงนามครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1840 โดยผู้แทนของคราวน์หรือรัฐบริติช (British Crown) และหัวหน้าเผ่าเมารีหลายคนจากเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ ส่งผลให้มีการประกาศอำนาจอธิปไตยของบริเตนเหนือนิวซีแลนด์โดยรองผู้ว่าราชการวิลเลียม ฮอบสัน ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1840
สำเนาสนธิสัญญาไวตางีฉบับหนึ่งในไม่กี่ฉบับเท่าที่เหลืออยู่ | |
บริบท | สนธิสัญญาเพื่อสถาปนาผู้ว่าราชการนิวซีแลนด์ชาวบริติช พิจารณาความเป็นเจ้าของที่ดินและทรัพย์สินอื่นของมาวรี และให้สิทธิคนในบังคับบริเตนแก่มาวรี |
---|---|
วันร่าง | 4–5 กุมภาพันธ์ 1840 โดยวิลเลียม ฮอบสัน ด้วยความช่วยเหลือของเจมส์ ฟรีแมน เลขานุการ และเจมส์ บัสบี ผู้ที่เข้ามามีถิ่นที่อยู่ชาวบริติช |
วันลงนาม | 6 กุมภาพันธ์ 1840 |
ที่ลงนาม | ประเทศนิวซีแลนด์ และที่อื่นอีกมาก ปัจจุบันเก็บรักษาที่หอจดหมายเหตุนิวซีแลนด์ กรุงเวลลิงตัน |
ผู้ลงนาม | ผู้แทนของคราวน์บริติช หัวหน้าเผ่ามาวรีหลายคนจากเกาะเหนือตอนเหนือ และภายหลังมีผู้ลงนามอีกกว่า 500 คน |
ภาษา | อังกฤษ, มาวรี |
สนธิสัญญาไวตางี * | |
---|---|
ความทรงจำแห่งโลกโดยยูเนสโก | |
ที่เก็บรักษา | หอจดหมายเหตุแห่งชาติ, เวลลิงตัน |
ประเทศ | นิวซีแลนด์ |
ภูมิภาค ** | เอเชียและแปซิฟิก |
อ้างอิง | [1] |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 2540 |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีความทรงจำแห่งโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
สนธิสัญญาฯ ตั้งผู้ว่าราชการนิวซีแลนด์ที่เป็นชาวบริติช รับรองความเป็นเจ้าของดินแดนและทรัพย์สินอื่นของมาวรี และให้สิทธิคนในบังคับบริเตนแก่มาวรี สนธิสัญญาฯ ฉบับภาษาอังกฤษและมาวรีต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ฉะนั้นจึงไม่มีการเห็นพ้องต้องกันว่าตกลงอะไรกันแน่ จากมุมมองของบริเตน สนธิสัญญาฯ ให้อำนาจอธิปไตยของบริเตนเหนือนิวซีแลนด์ และให้สิทธิผู้ว่าราชการปกครองประเทศ มาวรีเชื่อว่าตนยกสิทธิการปกครองแก่คราวน์โดยแลกกับการคุ้มครอง โดยไม่สละอำนาจในการจัดการกิจการของพวกตน หลังการลงนามขั้นต้นที่ไวตางี มีการนำสำเนาสนธิสัญญาฯ ไปทั่วนิวซีแลนด์และในหลายเดือนถัดมา มีหัวหน้าอีกหลายคนลงนาม รวมแล้วมีสำเนาสนธิสัญญาไวตางีเก้าฉบับรวมทั้งฉบับดั้งเดิมที่ลงนามเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1840 ชาวมาวรีประมาณ 530 ถึง 540 คน โดยอย่างน้อย 13 คนเป็นหญิง ลงนามสนธิสัญญาไวตางี
จนคริสต์ทศวรรษ 1970 สนธิสัญญาฯ โดยทั่วไปถือว่าบรรลุความมุ่งหมายในประเทศนิวซีแลนด์ ค.ศ. 1840 และถูกศาลและรัฐสภาละเลย แม้โดยทั่วไปถูกพรรณนาในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์ว่าเป็นความใจกว้างในส่วนของจักรวรรดิบริติช ซึ่งในขณะนั้นเป็นจุดสุดยอด มาวรีคาดหวังสิทธิและการชดเชยการเสียที่ดินและการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมจากสนธิสัญญาฯ แต่สำเร็จบ้าง ตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 เมารีเริ่มดึงความสนใจมายังการละเมิดสนธิสัญญาฯ และประวัติศาสตร์ต่อมาเน้นปัญหาเกี่ยวกับการแปล ใน ค.ศ. 1975 มีการตั้งศาลชำนัญพิเศษไวตางีเป็นคณะกรรมการสืบสวนถาวรที่ได้รับมอบหมายให้วิจัยการละเมิดสนธิสัญญาฯ โดยคราวน์บริติชหรือเจ้าหน้าที่ และเสนอวิธีชดใช้
เกือบ 150 ปีหลังการลงนามสนธิสัญญาฯ รัฐบาลพยายามให้ผลทางตุลาการและจริยธรรมต่อเอกสารโดยนิยาม "เจตนารมณ์" หรือ "ความจำนง" ใหม่อีกชุดของสนธิสัญญาผ่านการระบุหลักการของสนธิสัญญาฯ ท่าทีดังกล่าวแสดงว่าเอกสารต้นฉบับมิใช่รากฐานที่หนักแน่นของการสร้างรัฐ
ปัจจุบัน สนธิสัญญาฯ โดยทั่วไปถือเป็นเอกสารก่อตั้งชาตินิวซีแลนด์ กระนั้น ยังเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อน และทั้งชาวมาวรีและชาวนิวซีแลนด์ที่มิใช่มาวรีไม่ลงรอยมาก ชาวมาวรีจำนวนมากรู้สึกว่าคราวน์ไม่บรรลุข้อผูกมัดภายใต้สนธิสัญญาฯ และนำเสนอหลักฐานต่อที่ประชุมศาลชำนัญพิเศษไวตางี ชาวนิวซีแลนด์ที่มิใช่มาวรีบางส่วนแนะว่ามาวรีอาจละเมิดสนธิสัญญาฯ เพื่ออ้างเอกสิทธิ์พิเศษ ในกรณีส่วนใหญ่ คราวน์ไม่มีข้อผูกมัดให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของศาลชำนัญพิเศษฯ แต่กระนั้น ในหลายกรณีก็ยอมรับว่าละเมิดสนธิสัญญาฯ และหลักการ การตกลงการละเมิดสนธิสัญญาฯ จนทุกวันนี้ประกอบด้วยการชดใช้ค่าเสียหายหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินสดและสินทรัพย์ ตลอดจนคำขอขมา
วันที่ลงนามเป็นวันหยุดราชการ ปัจจุบันเรียก วันไวตางี ตั้งแต่ ค.ศ. 1974
อ้างอิง
- . Waitangi Tribunal. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-14. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- "Treaty of Waitangi signings in the South Island", Christchurch City Libraries
- "Treaty of Waitangi – Te Tiriti o Waitangi". . สืบค้นเมื่อ 10 August 2011.
- . Waitangi Tribunal. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-16. สืบค้นเมื่อ 28 May 2015.
- C. Orange.The Treaty of Waitangi. Bridget Willians .1987.Appendices P 260
- "In 1840 the document served its original purpose-to proclaim British sovereignty over the country and bring it into ...the British Empire". Michael King, Nga Iwi O Te Motu, Reed, Auckland, 2001. p 35
- (PDF). Network Waitangi. 2012. p. 13. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-01-26. สืบค้นเมื่อ 28 May 2015.
- "The Treaty in practice: The Treaty debated". nzhistory.net.nz. สืบค้นเมื่อ 10 August 2011.
- . Waitangi Tribunal. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-14. สืบค้นเมื่อ 10 August 2011.
- Michael King, Nga Iwi O Te Motu, Reed, 2001, p 35
- Dr (26 March 2004). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 20 March 2011.
- (1 February 2012). "AUDIO: Laws vs. JT on the Treaty of Waitangi". สืบค้นเมื่อ 8 February 2012.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
snthisyyaiwtangi xngkvs Treaty of Waitangi Tiriti o Waitangi epnsnthisyyathilngnamkhrngaerkemuxwnthi 6 kumphaphnth kh s 1840 odyphuaethnkhxngkhrawnhruxrthbritich British Crown aelahwhnaephaemarihlaykhncakekaaehnuxkhxngpraethsniwsiaelnd sngphlihmikarprakasxanacxthipitykhxngbrietnehnuxniwsiaelndodyrxngphuwarachkarwileliym hxbsn ineduxnphvsphakhm kh s 1840snthisyyaiwtangisaenasnthisyyaiwtangichbbhnunginimkichbbethathiehluxxyubribthsnthisyyaephuxsthapnaphuwarachkarniwsiaelndchawbritich phicarnakhwamepnecakhxngthidinaelathrphysinxunkhxngmawri aelaihsiththikhninbngkhbbrietnaekmawriwnrang4 5 kumphaphnth 1840 odywileliym hxbsn dwykhwamchwyehluxkhxngecms friaemn elkhanukar aelaecms bsbi phuthiekhamamithinthixyuchawbritichwnlngnam6 kumphaphnth 1840thilngnampraethsniwsiaelnd aelathixunxikmak pccubnekbrksathihxcdhmayehtuniwsiaelnd krungewllingtnphulngnamphuaethnkhxngkhrawnbritich hwhnaephamawrihlaykhncakekaaehnuxtxnehnux aelaphayhlngmiphulngnamxikkwa 500 khnphasaxngkvs mawrisnthisyyaiwtangi khwamthrngcaaehngolkodyyuensokthiekbrksahxcdhmayehtuaehngchati ewllingtnpraeths niwsiaelndphumiphakh exechiyaelaaepsifikxangxing 1 prawtikarkhunthaebiynkhunthaebiyn2540 chuxtamthiidkhunthaebiyninbychikhwamthrngcaaehngolk phumiphakhthicdaebngodyyuensok snthisyya tngphuwarachkarniwsiaelndthiepnchawbritich rbrxngkhwamepnecakhxngdinaednaelathrphysinxunkhxngmawri aelaihsiththikhninbngkhbbrietnaekmawri snthisyya chbbphasaxngkvsaelamawritangknxyangminysakhy channcungimmikarehnphxngtxngknwatklngxairknaen cakmummxngkhxngbrietn snthisyya ihxanacxthipitykhxngbrietnehnuxniwsiaelnd aelaihsiththiphuwarachkarpkkhrxngpraeths mawriechuxwatnyksiththikarpkkhrxngaekkhrawnodyaelkkbkarkhumkhrxng odyimslaxanacinkarcdkarkickarkhxngphwktn hlngkarlngnamkhntnthiiwtangi mikarnasaenasnthisyya ipthwniwsiaelndaelainhlayeduxnthdma mihwhnaxikhlaykhnlngnam rwmaelwmisaenasnthisyyaiwtangiekachbbrwmthngchbbdngedimthilngnamemuxwnthi 6 kumphaphnth kh s 1840 chawmawripraman 530 thung 540 khn odyxyangnxy 13 khnepnhying lngnamsnthisyyaiwtangi cnkhristthswrrs 1970 snthisyya odythwipthuxwabrrlukhwammunghmayinpraethsniwsiaelnd kh s 1840 aelathuksalaelarthsphalaely aemodythwipthukphrrnnainprawtisastrniwsiaelndwaepnkhwamickwanginswnkhxngckrwrrdibritich sunginkhnannepncudsudyxd mawrikhadhwngsiththiaelakarchdechykaresiythidinaelakarptibtixyangimethaethiymcaksnthisyya aetsaercbang tngaetplaykhristthswrrs 1960 emarierimdungkhwamsnicmayngkarlaemidsnthisyya aelaprawtisastrtxmaennpyhaekiywkbkaraepl in kh s 1975 mikartngsalchanyphiessiwtangiepnkhnakrrmkarsubswnthawrthiidrbmxbhmayihwicykarlaemidsnthisyya odykhrawnbritichhruxecahnathi aelaesnxwithichdich ekuxb 150 pihlngkarlngnamsnthisyya rthbalphyayamihphlthangtulakaraelacriythrrmtxexksarodyniyam ectnarmn hrux khwamcanng ihmxikchudkhxngsnthisyyaphankarrabuhlkkarkhxngsnthisyya thathidngklawaesdngwaexksartnchbbmiichrakthanthihnkaennkhxngkarsrangrth pccubn snthisyya odythwipthuxepnexksarkxtngchatiniwsiaelnd krann yngepneruxngthimikarthkethiyngxyangephdrxn aelathngchawmawriaelachawniwsiaelndthimiichmawriimlngrxymak chawmawricanwnmakrusukwakhrawnimbrrlukhxphukmdphayitsnthisyya aelanaesnxhlkthantxthiprachumsalchanyphiessiwtangi chawniwsiaelndthimiichmawribangswnaenawamawrixaclaemidsnthisyya ephuxxangexksiththiphiess inkrniswnihy khrawnimmikhxphukmdihptibtitamkhaaenanakhxngsalchanyphiess aetkrann inhlaykrnikyxmrbwalaemidsnthisyya aelahlkkar kartklngkarlaemidsnthisyya cnthukwnniprakxbdwykarchdichkhaesiyhayhlayrxylandxllarshrthepnenginsdaelasinthrphy tlxdcnkhakhxkhma wnthilngnamepnwnhyudrachkar pccubneriyk wniwtangi tngaet kh s 1974xangxing Waitangi Tribunal 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 14 subkhnemux 12 July 2011 Treaty of Waitangi signings in the South Island Christchurch City Libraries Treaty of Waitangi Te Tiriti o Waitangi subkhnemux 10 August 2011 Waitangi Tribunal khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 06 16 subkhnemux 28 May 2015 C Orange The Treaty of Waitangi Bridget Willians 1987 Appendices P 260 In 1840 the document served its original purpose to proclaim British sovereignty over the country and bring it into the British Empire Michael King Nga Iwi O Te Motu Reed Auckland 2001 p 35 PDF Network Waitangi 2012 p 13 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2016 01 26 subkhnemux 28 May 2015 The Treaty in practice The Treaty debated nzhistory net nz subkhnemux 10 August 2011 Waitangi Tribunal khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 14 subkhnemux 10 August 2011 Michael King Nga Iwi O Te Motu Reed 2001 p 35 Dr 26 March 2004 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 03 subkhnemux 20 March 2011 1 February 2012 AUDIO Laws vs JT on the Treaty of Waitangi subkhnemux 8 February 2012