ศิลปะกรีกโบราณ หรือ ศิลปะกรีซโบราณ (750 ปีก่อน ค.ศ. - 300 ปีก่อนค.ศ.) ชาวกรีกมีความเชื่อว่า "มนุษย์เป็นมาตรวัดสรรพสิ่ง" ซึ่งความเชื่อนี้เป็นรากฐาน ทางวัฒนธรรมของชาวกรีก เทพเจ้าของชาวกรีกจะมีรูปร่างอย่างมนุษย์ และไม่มีความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายเหมือนชาวอียิปต์ ดังนั้น จึงไม่มีสุสานหรือพิธี ฝังศพที่ซับซ้อนวิจิตรเหมือนกับชาวอียิปต์
จิตรกรรม
จิตรกรรม รู้จักกันดีก็มีแต่ภาพวาดระบายสีตกแต่งผิวแจกันเท่านั้น ที่ ชาวกรีกนิยมทำมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 1 เป็นภาพที่มีรูปร่างที่ถูกตัดทอนรูปจน ใกล้เคียงกับรูปเรขาคณิต มีความเรียบง่ายและคมชัด สีที่ใช้ได้แก่ สีดินคือเอาสีดำ อมน้ำตาลผสมบาง ๆ ระบายสีเป็นภาพบนพื้นผิวแจกันที่เป็นดินสีน้ำตาลอมแดง แต่บางทีก็มีสีขาว และสีอื่น ๆ ร่วมด้วย เทคนิคการใช้รูปร่างสีดำ ระบายพื้นหลัง เป็นสีแดงนี้ เรียกว่า "จิตรกรรมแบบรูปตัวดำ" และทำกันเรื่อยมาจนถึงสมัยพุทธ ศตวรรษที่ 1 มีรูปแบบใหม่ขึ้นมา คือ "จิตรกรรมแบบรูปตัวแดง"โดยใช้สีดำอม น้ำตาลเป็นพื้นหลังภาพ ตัวรูปเป็นสีส้มแดง หรือสีน้ำตาลไม้ ตามสีดินของพื้น แจกัน เป็นต้น
ประติมากรรม
ประติมากรรม ส่วนมากเป็นเรื่องศาสนา ซึ่งสร้างถวายเทพเจ้าต่าง ๆ วัสดุที่นิยใช้สร้างงานได้แก่ ทองแดง และดินเผา ในสมัยต่อมานิยมสร้างจาก สำริด และหินอ่อนเพิ่มขึ้น ในสมัยแรก ๆ รูปทรงยังมีลักษณะคล้ายรูปเรขาคณิต อยู่ต่อมาในสมัยอาร์คาอิก (200 ปีก่อน พ.ศ.) เริ่มมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์มากขึ้น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เทพเจ้า รูปนักกีฬา รูปวีรบุรุษ รูปสัตว์ต่าง ๆ ในยุคหลัง ๆ รูปทรงจะมีความเป็น มนุษย์มากขึ้น แสดงท่าทางการเคลื่อนไหวที่สง่างาม มีการ ขัดถูผิวหินให้เรียบ ดูคล้ายผิวมนุษย์ มีลีลาที่เป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ ประติมากรรมกรีก จัดเป็นยุคคลาสสิก ที่ให้ความรู้สึกในความงามที่เป็นความจริงตามธรรมชาตินั่นเอง
สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรม ใช้ระบบโครงสร้างแบบเสาและคาน เช่นเดียวกับอียิปต์ มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากฐานอาคารซึ่งยกเป็นชั้น ๆ ก็จะเป็นฝาผนัง โดยปราศจากหน้าต่าง ซึ่งจะกั้นเป็นห้องต่าง ๆ 1 - 3 ห้อง ปกติสถาปนิกจะสร้างเสารายล้อมรอบอาคารหรือสนามด้วย มีการสลับช่วงเสากันอย่างมีจังหวะ ระหว่างเสากับช่องว่างระหว่างเสา ทำให้พื้นภายนอกรอบ ๆ วิหารมีความสว่าง และมีรูปทรงเปิดมากกว่าสถาปัตยกรรมอียิปต์ และมีขนาดเหมาะสม ไม่ใหญ่โตจนเกินไป มีรูปทรงเรียบง่าย สถาปัตยกรรมกรีกแบบพื้นฐาน 2 ใน 3 แบบ เกิดในสมัยอาร์เคอิก คือ แบบดอริก และแบบไอโอนิก ซึ่งแบบหลังพบแพร่หลายทั่วไป ในแถบเอเชียไมเนอร์ เสาหล่านี้แต่ละต้นจะมีคานพาดหัวเสาถึงกันหมด ในสมัยต่อมา เกิดสถาปัตยกรรมอีกแบบหนึ่งคือ แบบโครินเธียน หัวเสาจะมีลายรูปใบไม้ ชาวกรีกนิยมสร้างอาคารโดยใช้สถาปัตยกรรมทั้งสามชนิดนี้ผสมผสานกัน โดยมีการตกแต่งประดับประดาด้วยการแกะสลักลวดลายประกอบ บางทีก็แกะสลักรูปคนประกอบไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการใช้สีระบายตกแต่งโดยสีน้ำเงินได้รับความนิยมใช้ระบายฉากหลังรูปลวดลายที่หน้าจั่ว และสีแดงใช้ระบายฉากหลังสำหรับประติมากรรมที่หัวเสาและลายคิ้วคาน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
silpakrikobran hrux silpakrisobran 750 pikxn kh s 300 pikxnkh s chawkrikmikhwamechuxwa mnusyepnmatrwdsrrphsing sungkhwamechuxniepnrakthan thangwthnthrrmkhxngchawkrik ethphecakhxngchawkrikcamiruprangxyangmnusy aelaimmikhwamechuxekiywkbchiwithlngkhwamtayehmuxnchawxiyipt dngnn cungimmisusanhruxphithi fngsphthisbsxnwicitrehmuxnkbchawxiyiptcitrkrrmcitrkrrmyukhkrik citrkrrm ruckkndikmiaetphaphwadrabaysitkaetngphiwaecknethann thi chawkrikniymthamacnthungphuththstwrrsthi 1 epnphaphthimiruprangthithuktdthxnrupcn iklekhiyngkbruperkhakhnit mikhwameriybngayaelakhmchd sithiichidaek sidinkhuxexasida xmnatalphsmbang rabaysiepnphaphbnphunphiwaecknthiepndinsinatalxmaedng aetbangthikmisikhaw aelasixun rwmdwy ethkhnikhkarichruprangsida rabayphunhlng epnsiaedngni eriykwa citrkrrmaebbruptwda aelathakneruxymacnthungsmyphuthth stwrrsthi 1 mirupaebbihmkhunma khux citrkrrmaebbruptwaedng odyichsidaxm natalepnphunhlngphaph twrupepnsismaedng hruxsinatalim tamsidinkhxngphun aeckn epntnpratimakrrmpratimakrrmyukhkrik pratimakrrm swnmakepneruxngsasna sungsrangthwayethphecatang wsduthiniyichsrangnganidaek thxngaedng aeladinepha insmytxmaniymsrangcak sarid aelahinxxnephimkhun insmyaerk rupthrngyngmilksnakhlayruperkhakhnit xyutxmainsmyxarkhaxik 200 pikxn ph s erimmilksnakhlaykbmnusymakkhun epneruxngrawekiywkb ethpheca rupnkkila rupwirburus rupstwtang inyukhhlng rupthrngcamikhwamepn mnusymakkhun aesdngthathangkarekhluxnihwthisngangam mikar khdthuphiwhiniheriyb dukhlayphiwmnusy mililathiepniptamthrrmchatimakkhun thaih pratimakrrmkrik cdepnyukhkhlassik thiihkhwamrusukinkhwamngamthiepnkhwamcringtamthrrmchatinnexngsthaptykrrmwiharpharethnxn sthaptykrrm ichrabbokhrngsrangaebbesaaelakhan echnediywkbxiyipt miaephnphngepnrupsiehliymphunpha cakthanxakharsungykepnchn kcaepnfaphnng odyprascakhnatang sungcaknepnhxngtang 1 3 hxng pktisthapnikcasrangesaraylxmrxbxakharhruxsnamdwy mikarslbchwngesaknxyangmicnghwa rahwangesakbchxngwangrahwangesa thaihphunphaynxkrxb wiharmikhwamswang aelamirupthrngepidmakkwasthaptykrrmxiyipt aelamikhnadehmaasm imihyotcnekinip mirupthrngeriybngay sthaptykrrmkrikaebbphunthan 2 in 3 aebb ekidinsmyxarekhxik khux aebbdxrik aelaaebbixoxnik sungaebbhlngphbaephrhlaythwip inaethbexechiyimenxr esahlaniaetlatncamikhanphadhwesathungknhmd insmytxma ekidsthaptykrrmxikaebbhnungkhux aebbokhrinethiyn hwesacamilayrupibim chawkrikniymsrangxakharodyichsthaptykrrmthngsamchnidniphsmphsankn odymikartkaetngpradbpradadwykaraekaslklwdlayprakxb bangthikaekaslkrupkhnprakxbipdwy nxkcakniyngmikarichsirabaytkaetngodysinaenginidrbkhwamniymichrabaychakhlngruplwdlaythihnacw aelasiaedngichrabaychakhlngsahrbpratimakrrmthihwesaaelalaykhiwkhan bthkhwamsilpkrrmniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk