รามชนมภูมิ (สันสกฤต: राम जन्मभूमि; แปลว่า ที่ประสูติของพระราม) เป็นสถานที่ที่สันนิษฐานว่าเป็นที่ประสูติของพระราม อวตารองค์ที่เจ็ดของพระวิษณุ ในรามายณะระบุว่าที่ประสูติของพระรามอยู่บนฝั่ง ในนคร "" เชื่อกันว่าคืออโยธยา ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของรัฐอุตตรประเทศในประเทศอินเดีย
ชาวฮินดูบางส่วนอ้างว่าชนมภูมิของพระรามอยู่ที่อโยธยาในรัฐอุตตรประเทศ ตรงจุดที่เป็นที่ตั้งของมัสยิดบาบรีในอดีตโดยแน่นอน ทฤษฎีดังกล่าวเชื่อว่า จักรวรรดิโมกุลได้ทุบทำลายวิหารในศาสนาฮินดูที่ตั้งอยู่ตรงจุดที่เป็นชนมภูมิของพระรามพอดี และสร้างมัสยิดขึ้นแทนที่ ผู้ที่ปฏิเสธทฤษฎีนี้ระบุว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวปรากฏขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 18 และไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ณ จุดตรงนั้เป็นชนมภูมิของพระรามจริง ๆ สถานที่อื่น ๆ ทั้งในอินเดียส่วนอื่น, ในเนปาล และอัฟกานิสถาน ล้วนเคยมีผู้เสนอว่าเป็นชนมภูมิที่เป็นไปได้ของพระราม ข้อถกเถียงกรณีดังกล่าวเรียกว่า ซึ่งมีทั้งแง่มุมทางการเมือง ประวัติศาสตร์ และสังคมกับศาสนา โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ว่าที่ตั้งของมัสยิดบาบรี และวิหารฮินดูที่มีอยู่ก่อนหน้า แท้จริงแล้วเป็นชนมภูมิแท้จริงของพระรามหรือไม่
ในปี 1992 เหตุการณ์การทุบทำลายมัสยิดบาบรีโดยกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงขึ้นระหว่างชุมชนชาวฮินดูกับมุสลิมไปทั่ว ข้อพิพาททางกฎหมายของมัสยิดได้ถูกตัดสินโดยศาลสูงสุดอินเดียระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2019 โดยคำตัดสินสุดท้ายมีคำสั่งให้ส่งมอบที่ดินดังกล่าวแก่ทรัสต์ชาวฮินดูเพื่อใช้ในการสร้างศาสนสถานของฮินดูขึ้น
ที่ตั้งของมัสยิดบาบรี
รามายณะ มหากาพย์ของฮินดูซึ่งมีส่วนที่เก่าแก่ที่สุดอายุย้อนไปถึง 1000 ปีก่อนคริสต์กาล ระบุว่าราชธานีของพระรามคือกรุงอโยธยา ตามความเชื่อฮินดูพื้นถิ่น ที่ตั้งของอดีตมัสยิดบาบรีในอโยธยาซึ่งได้ถูกทำลายไปแล้วนั้น เป็นจุดที่เป็นที่ประสูติของพระรามพอดี เชื่อว่ามัสยิดบาบรีก่อสร้างขึ้นในปี 1528–29 โดยบุคคลนามว่า 'มีร์ บากี' (Mir Baqi; เป็นไปได้ว่าคือ ) ผู้นำทัพในรัชสมัยของจักรพรรดิบาบูร์ (ค.1526–1530) แห่งโมกุล อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์พบว่าหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ของความเชื่อเหล่านี้มีอยู่น้อยมาก
นักบวชมิชชันนารีคณะเยสุอิต เดินทางไปที่มัสยิดบาบรีระหว่างปี 1766 ถึง 1771 และบันทึกไว้ว่า ไม่จักรพรรดิออรังเซพ (ค.1658–1707) ก็ จักรพรรดิบาบูร์ ได้ทุบทำลายป้อมปราการรามโกฏซึ่งรวมถึงวิหารที่ชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระราม มัสยิดหลังหนึ่งได้ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่วิหารนั้น แต่ชาวฮินดูก็ยังคงทำพิธีสวดภาวนาบนแท่นดินเหนียวที่ระบุจุดที่เป็นสถานที่ประสูติของพระราม ก่อนถึงทศวรรษ 1940s มัสยิดมีชื่อว่า มสายีดีชนมสถาน (Masjid-i-Janmasthan; มัสยิดแห่งสถานที่ประสูติ) ดังที่ปรากฏในเอกสารทางการ
ข้อคัดค้าน
นักประวัติศาสตร์บางส่วน เช่น ระบุว่าข้อกล่าวอ้างว่ามัสยิดบาบรีเป็นจุดที่เป็นชนมภูมิของพระรามนั้นเริ่มมีขึ้นหลังจากศตวรรษที่ 18 และระบุว่าอโยธยาเป็นจุดหมายปลายทางแสวงบุญของชาวฮินดูย้อนไปได้ถึงยุคกลาง และไม่ปรากฏในคัมภีร์ใด ๆ ว่าเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญ ยกตัวอย่างเช่น บทที่ 85 ของวิษณุสมิรตี ระบุรายชื่อสถานที่แสวงบุญ 52 แห่งซึ่งไม่มีชื่อของอโยธยา
นักวิจารณ์จำนวนมากยังอ้างว่าบริเวณที่เป็นอโยธยาในปัจจุบันเดิมทีเป็นพุทธศาสนสถาน ตามที่ระบุได้ตรงกับในคัมภีร์พุทธ ระบุว่าหากไม่ได้พิจารณาแหล่งข้อมูลเชิงปรัมปราวิทยาของฮินดูแล้ว การกล่าวถึงครั้งแรกของอโยธยาในประวัติศาสตร์นั้นย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 7 โดยพระถังซำจั๋ง ซึ่งระบุว่าบริเวณนี้เป็นพุทธศาสนสถาน: 25
สถานที่อื่น ๆ
ผู้ที่ยึดถือว่าพระรามมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ระบุว่าพระรามประสูติก่อน 1,000 ปีก่อนคริสต์กาล กระนั้น การขุดค้นทางโบราณคดีที่อโยธยาไม่ปรากฏหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่เก่าแก่ถึงช่วงเวลานั้น ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้เสนอสถานที่อื่น ๆ อีกมากมายว่าอาจเป็นชนมภูมิของพระราม
ในเดือนพฤศจิกายน 1990 นายกรัฐมนตรซึ่งพึ่งได้รับการแต่งตั้งสู่ตำแหน่ง ได้พยายามที่จะแก้ไขอย่างเป็นมิตรต่อทั้งสองฝ่าย โดยให้ทั้งชุมชนฮินดูและมุสลิมออกมาแลกเปลี่ยนข้อกล่าวอ้างของตนเหนือพื้นที่ของมัสยิดบาบรีในอโยธยา คณะผู้แทนฝั่งมุสลิมคือคณะกรรมการปฏิบัติงานมัสยิดบาบรี (Babri Masjid Action Committee; BMAC) ซึ่งรวมถึง, , และ คณะฝั่งมุสลิมได้นำเสนอหลักฐานที่เป็นบทความทางวิชาการและเสนอทฤษฎีทดแทนเกี่ยวกับชนมภูมิของพระรามที่อื่น ๆ แหล่งข้อมูลเหล่านี้ระบุชนมภูมิที่เป็นไปได้อื่น ๆ รวมแปดแห่งที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมถึงสถานที่อื่นนอกอโยธยา ไปถึงในเนปาล และ อัฟกานิสถาน
ในหนังสือตีพิมพ์ปี 1992 เล่ม Ancient geography of Ayodhya (ประวัติศาสตร์โบราณของอโยธยา) นักประวัติศาสตร์ ศยาม นารายัณ ปัณเฑ (Shyam Narain Pande) เสนอว่าพระรามประสูติในบริเวณที่ปัจจุบันคือนครเฮราต ในประเทศอัฟกานิสถาน ในปี 1997 เขาได้เสนอทฤษฎีนี้ในเกสาร "Historical Rama distinguished from God Rama" ("พระรามในแง่ประวัติศาสตร์ กับพระรามในฐานะเทพเจ้า") ในการประชุมประวัติศาสตร์อินเดียใหญ่ครั้งที่ 58 (58th session of the Indian History Congress) ในเบงคาลูรุ ในปี 2000 ราเชศ โกฉัร (Rajesh Kochhar) ยังได้เสนอว่าชนมภูมิของพระรามอยู่ที่อัฟกานิสถานเช่นกัน ในหนังสือ The Vedic People: Their History and Geography ("ชาวพระเวท: ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์") ระบุว่าในอัฟกานิสถาน เป็นแม่น้ำ "สรายุ" ในรามายณะ ส่วนอโยธยาก็ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำนี้
อ้างอิง
- Jain, Meenakshi (2017), The Battle for Rama – Case of the Temple at Ayodhya, Aryan Books International, ISBN []
- "Ayodhya dispute: The complex legal history of India's holy site". BBC News. จากแหล่งเดิมเมื่อ 17 October 2019. สืบค้นเมื่อ 16 October 2019.
- "Supreme Court hearing ends in Ayodhya dispute; orders reserved". Business Line. Press Trust of India. 2019-10-16. จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2019. สืบค้นเมื่อ 2019-10-18.
- "Ram Mandir verdict: Supreme Court verdict on Ram Janmabhoomi-Babri Masjid case". The Times of India. 2019-11-09. จากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2019. สืบค้นเมื่อ 2019-11-09.
- (2003). "The Ayodhya Issue". ใน and (บ.ก.). Destruction and Conservation of Cultural Property. Routledge. pp. 127–137. ISBN .
- Noorani, A. G. (2003), The Babri Masjid Question, 1528–2003, Volume 1, , Introduction (p. xvii), ISBN ,
It asserts that the Mughal Emperor Babar's governor at Awadh, Mir Baqi Tashqandi, built the Babri Masjid (mosque) at Ayodhya ... The mosque was built in 1528 ...
- Kunal, Ayodhya Revisited (2016), Chapter 6.
- and (2003). Destruction and Conservation of Cultural Property. Routledge. pp. 2–9. ISBN .
- K. Jaishankar (2009). "Communal Violence and Terrorism in India: Issues and Introspections". ใน Yakov Gilinskiy; Thomas Albert Gilly; Vladimir Sergevnin (บ.ก.). The Ethics of Terrorism. Charles C Thomas. pp. 25–26. ISBN .
- (5 August 2006). "Ayodhya's Forgotten Muslim Past". Counter Currents. จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 December 2007. สืบค้นเมื่อ 12 January 2008.
- Thapar 2003, A historical perspective on the story of Rama
- Panikkar, K.N. (1991). "A Historical Overview". ใน Sarvepalli Gopal (บ.ก.). Anatomy of a Confrontation: The Babri Masjid-Ramjanmabhumi Issue. Penguin. pp. 22–37.
- Ram Sharan Sharma (1991). Ramjanmabhumi-Baburi Masjid: A Historians' Report to the Nation. People's Publishing House. ISBN .
- Śyām Nārāyan Paṇde. Arihant International. 1992. pp. 25–43. ISBN .
- Review of The Vedic People: Their History and Geography 20 กันยายน 2020 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Current Science. Volume 80, Issue 4. 25 February 2001. p. 584.
บรรณานุกรม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ramchnmphumi snskvt र म जन मभ म aeplwa thiprasutikhxngphraram epnsthanthithisnnisthanwaepnthiprasutikhxngphraram xwtarxngkhthiecdkhxngphrawisnu inramaynarabuwathiprasutikhxngphraramxyubnfng innkhr echuxknwakhuxxoythya sungpccubnepnswnhnungkhxngrthxuttrpraethsinpraethsxinediynernthra omthi nakyrthmntrixinediyprakxbphithi phumibucha emuxpi 2020 sahrbkarkxsrangrammnethiyr trngthithiechuxwaepnsthanthiprasutikhxngphraram inxoythya chawhindubangswnxangwachnmphumikhxngphraramxyuthixoythyainrthxuttrpraeths trngcudthiepnthitngkhxngmsyidbabriinxditodyaennxn thvsdidngklawechuxwa ckrwrrdiomkulidthubthalaywiharinsasnahinduthitngxyutrngcudthiepnchnmphumikhxngphraramphxdi aelasrangmsyidkhunaethnthi phuthiptiesththvsdinirabuwakhaklawxangdngklawpraktkhunkhrngaerkinstwrrsthi 18 aelaimmihlkthanyunynwa n cudtrngnepnchnmphumikhxngphraramcring sthanthixun thnginxinediyswnxun inenpal aelaxfkanisthan lwnekhymiphuesnxwaepnchnmphumithiepnipidkhxngphraram khxthkethiyngkrnidngklaweriykwa sungmithngaengmumthangkaremuxng prawtisastr aelasngkhmkbsasna odymisunyklangxyuthiwathitngkhxngmsyidbabri aelawiharhinduthimixyukxnhna aethcringaelwepnchnmphumiaethcringkhxngphraramhruxim inpi 1992 ehtukarnkarthubthalaymsyidbabriodykratunihekidkhwamrunaerngkhunrahwangchumchnchawhindukbmuslimipthw khxphiphaththangkdhmaykhxngmsyididthuktdsinodysalsungsudxinediyrahwangeduxnsinghakhmthungtulakhm 2019 odykhatdsinsudthaymikhasngihsngmxbthidindngklawaekthrstchawhinduephuxichinkarsrangsasnsthankhxnghindukhunthitngkhxngmsyidbabriramayna mhakaphykhxnghindusungmiswnthiekaaekthisudxayuyxnipthung 1000 pikxnkhristkal rabuwarachthanikhxngphraramkhuxkrungxoythya tamkhwamechuxhinduphunthin thitngkhxngxditmsyidbabriinxoythyasungidthukthalayipaelwnn epncudthiepnthiprasutikhxngphraramphxdi echuxwamsyidbabrikxsrangkhuninpi 1528 29 odybukhkhlnamwa mir baki Mir Baqi epnipidwakhux phunathphinrchsmykhxngckrphrrdibabur kh 1526 1530 aehngomkul xyangirktam nkprawtisastrphbwahlkthanechingprawtisastrkhxngkhwamechuxehlanimixyunxymak nkbwchmichchnnarikhnaeysuxit edinthangipthimsyidbabrirahwangpi 1766 thung 1771 aelabnthukiwwa imckrphrrdixxrngesph kh 1658 1707 k ckrphrrdibabur idthubthalaypxmprakarramoktsungrwmthungwiharthichawhinduechuxwaepnsthanthiprasutikhxngphraram msyidhlnghnungidthuksrangkhunmaaethnthiwiharnn aetchawhindukyngkhngthaphithiswdphawnabnaethndinehniywthirabucudthiepnsthanthiprasutikhxngphraram kxnthungthswrrs 1940s msyidmichuxwa msayidichnmsthan Masjid i Janmasthan msyidaehngsthanthiprasuti dngthipraktinexksarthangkar khxkhdkhan nkprawtisastrbangswn echn rabuwakhxklawxangwamsyidbabriepncudthiepnchnmphumikhxngphraramnnerimmikhunhlngcakstwrrsthi 18 aelarabuwaxoythyaepncudhmayplaythangaeswngbuykhxngchawhinduyxnipidthungyukhklang aelaimpraktinkhmphirid waepnsunyklangkhxngkaraeswngbuy yktwxyangechn bththi 85 khxngwisnusmirti raburaychuxsthanthiaeswngbuy 52 aehngsungimmichuxkhxngxoythya nkwicarncanwnmakyngxangwabriewnthiepnxoythyainpccubnedimthiepnphuththsasnsthan tamthirabuidtrngkbinkhmphirphuthth rabuwahakimidphicarnaaehlngkhxmulechingprmprawithyakhxnghinduaelw karklawthungkhrngaerkkhxngxoythyainprawtisastrnnyxnipidthungstwrrsthi 7 odyphrathngsacng sungrabuwabriewnniepnphuththsasnsthan 25 sthanthixun phuthiyudthuxwaphrarammitwtncringinprawtisastrrabuwaphraramprasutikxn 1 000 pikxnkhristkal krann karkhudkhnthangobrankhdithixoythyaimprakthlkthankartngthinthankhxngmnusythiekaaekthungchwngewlann dwyehtuni cungmiphuesnxsthanthixun xikmakmaywaxacepnchnmphumikhxngphraram ineduxnphvscikayn 1990 naykrthmntrsungphungidrbkaraetngtngsutaaehnng idphyayamthicaaekikhxyangepnmitrtxthngsxngfay odyihthngchumchnhinduaelamuslimxxkmaaelkepliynkhxklawxangkhxngtnehnuxphunthikhxngmsyidbabriinxoythya khnaphuaethnfngmuslimkhuxkhnakrrmkarptibtinganmsyidbabri Babri Masjid Action Committee BMAC sungrwmthung aela khnafngmuslimidnaesnxhlkthanthiepnbthkhwamthangwichakaraelaesnxthvsdithdaethnekiywkbchnmphumikhxngphraramthixun aehlngkhxmulehlanirabuchnmphumithiepnipidxun rwmaepdaehngthiaetktangkn sungrwmthungsthanthixunnxkxoythya ipthunginenpal aela xfkanisthan inhnngsuxtiphimphpi 1992 elm Ancient geography of Ayodhya prawtisastrobrankhxngxoythya nkprawtisastr syam narayn pneth Shyam Narain Pande esnxwaphraramprasutiinbriewnthipccubnkhuxnkhrehrat inpraethsxfkanisthan inpi 1997 ekhaidesnxthvsdiniineksar Historical Rama distinguished from God Rama phraraminaengprawtisastr kbphraraminthanaethpheca inkarprachumprawtisastrxinediyihykhrngthi 58 58th session of the Indian History Congress inebngkhaluru inpi 2000 raechs okchr Rajesh Kochhar yngidesnxwachnmphumikhxngphraramxyuthixfkanisthanechnkn inhnngsux The Vedic People Their History and Geography chawphraewth prawtisastraelaphumisastr rabuwainxfkanisthan epnaemna srayu inramayna swnxoythyaktngxyubnfngaemnanixangxingJain Meenakshi 2017 The Battle for Rama Case of the Temple at Ayodhya Aryan Books International ISBN 978 8 173 05579 9 txngkarelkhhna Ayodhya dispute The complex legal history of India s holy site BBC News cakaehlngedimemux 17 October 2019 subkhnemux 16 October 2019 Supreme Court hearing ends in Ayodhya dispute orders reserved Business Line Press Trust of India 2019 10 16 cakaehlngedimemux 23 October 2019 subkhnemux 2019 10 18 Ram Mandir verdict Supreme Court verdict on Ram Janmabhoomi Babri Masjid case The Times of India 2019 11 09 cakaehlngedimemux 9 November 2019 subkhnemux 2019 11 09 2003 The Ayodhya Issue in and b k Destruction and Conservation of Cultural Property Routledge pp 127 137 ISBN 9781134604982 Noorani A G 2003 The Babri Masjid Question 1528 2003 Volume 1 Introduction p xvii ISBN 81 85229 78 3 It asserts that the Mughal Emperor Babar s governor at Awadh Mir Baqi Tashqandi built the Babri Masjid mosque at Ayodhya The mosque was built in 1528 Kunal Ayodhya Revisited 2016 Chapter 6 and 2003 Destruction and Conservation of Cultural Property Routledge pp 2 9 ISBN 9781134604982 K Jaishankar 2009 Communal Violence and Terrorism in India Issues and Introspections in Yakov Gilinskiy Thomas Albert Gilly Vladimir Sergevnin b k The Ethics of Terrorism Charles C Thomas pp 25 26 ISBN 9780398079956 5 August 2006 Ayodhya s Forgotten Muslim Past Counter Currents cakaehlngedimemux 21 December 2007 subkhnemux 12 January 2008 Thapar 2003 A historical perspective on the story of Ramaharvnb error no target CITEREFThapar2003 Panikkar K N 1991 A Historical Overview in Sarvepalli Gopal b k Anatomy of a Confrontation The Babri Masjid Ramjanmabhumi Issue Penguin pp 22 37 Ram Sharan Sharma 1991 Ramjanmabhumi Baburi Masjid A Historians Report to the Nation People s Publishing House ISBN 978 81 7007 138 9 Syam Narayan Paṇde Arihant International 1992 pp 25 43 ISBN 9788172770242 Review of The Vedic People Their History and Geography 20 knyayn 2020 thi ewyaebkaemchchin Current Science Volume 80 Issue 4 25 February 2001 p 584 brrnanukrm 2013 Rama and Ayodhya New Delhi Aryan Books ISBN 978 8173054518 2016 Ayodhya Revisited Prabhat Prakashan ISBN 978 81 8430 357 5 Narain Harsh 1993 The Ayodhya Temple Mosque Dispute Focus on Muslim Sources Delhi Penman Publishers ISBN 978 8185504162