ยุทธการที่วุร์สเตอร์ (อังกฤษ: Battle of Worcester) เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1651 ที่วุร์สเตอร์ในอังกฤษและเป็นยุทธการสุดท้ายของสงครามกลางเมืองอังกฤษ ที่ฝ่ายรัฐสภาที่นำโดยโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ได้รับชัยชนะต่อฝ่ายนิยมกษัตริย์ (Royalist) ที่นำโดยพระเจ้าชาลส์ที่ 2 โดยทั่วไปเป็นกองกำลังสกอตแลนด์ กองกำลังเพียง 16,000 คนของกองกำลังฝ่ายนิยมกษัตริย์ไม่สามารถต่อสู้กับกองกำลังที่มีจำนวนเหนือกว่ามาก 28,000 คนของ "กองทัพตัวแบบใหม่" (New Model Army) ของครอมเวลล์ได้จนในที่สุดก็จำต้องพ่ายแพ้
ส่วนหนึ่งของ และ สงครามกลางเมืองอังกฤษ | |||||||
โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ในยุทธการที่วุร์สเตอร์ | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ฝ่ายรัฐสภา | ฝ่ายนิยมกษัตริย์ | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ | พระเจ้าชาลส์ที่ 2 | ||||||
กำลัง | |||||||
31,000 | น้อยกว่า 16,000 | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
200 คน | 3,000 คนเสียชีวิต, กว่า 10,000 ถูกจับเป็นนักโทษ |
การรุกรานอังกฤษ
พระเจ้าชาลส์ที่ 2 ทรงได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตรสกอตแลนด์ในการพยายามชิงราชบัลลังก์ที่เสียไปหลังจากที่พระราชบิดาพระเจ้าชาลส์ที่ 1 ถูกปลงพระชนม์คืน แม่ทัพของสกอตแลนด์ (David Leslie, Lord Newark) สนับสนุนแผนการที่ดึงครอมเวลล์เข้ามาต่อสู้ในสกอตแลนด์ที่มีกองหนุนที่หนาแน่นกว่า แต่พระเจ้าชาลส์มีพระราชประสงค์ที่จะทำสงครามในอังกฤษ ทรงคาดคะเนว่าขณะที่ครอมเวลล์นำกองทัพตัวแบบใหม่ขึ้นมาเหนือ (River Forth) ก็จะเป็นโอกาสให้กองกำลังหลักของกองทัพฝ่ายกษัตริย์ของสกอตแลนด์ที่อยู่ใต้แม่น้ำฟอร์ธฉวยโอกาสเลี่ยงกองทัพตัวแบบใหม่และชิงเดินทัพลงไปลอนดอนโดยไม่มีผู้ขัดขวาง พระเจ้าชาลส์มิได้ทรงเพียงแต่จะระดมผู้ที่จงรักภักดีต่อพระองค์แต่ยังทรงระดม (Presbyterian) อังกฤษเพื่อสนับสนุนพระองค์ด้วย นอกจากนั้นก็ทรงคาดว่าการเป็นพันธมิตรกับ (Covenanters) ของ (Presbyterian) และการลงพระนามใน "Solemn League and Covenant" จะเป็นการชักชวนให้กลุ่มเพรสไบทีเรียนอังกฤษหันมาสนับสนุนพระองค์ด้วย
ในระยะแรกของสงครามกองทัพฝ่ายกษัตริย์อยู่ในสภาพที่ดี และภายในอาทิตย์เดียวก็สามารถเดินทัพได้เป็นระยะทางถึง 150 ไมล์เมื่อเทียบกับการรณรงค์ที่ไม่ประสบความสำเร็จของเจมส์ แฮมมิลตัน ดยุคแห่งแฮมมิลตันที่ 1 (James Hamilton, 1st Duke of Hamilton) ในปี ค.ศ. 1648 ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม กองทหารก็ตั้งค่ายพักบริเวณระหว่างกับ
แต่ฝ่ายนิยมกษัตริย์ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ และ (English Council of State) ที่ คาดการณ์ล่วงหน้าถึงแผนการของฝ่ายสนับสนุนพระเจ้าชาลส์ได้ ฝ่ายครอมเวลล์จึงระดมกองทหารเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม โดยมีนายพล (Charles Fleetwood) รวบรวมกองกำลังในบริเวณมิดแลนด์ที่ (Banbury) โดยมีกองทหารที่ได้รับการฝึกในลอนดอนเข้าร่วมด้วยถึง 14,000 คน ผู้ใดที่สงสัยว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนกษัตริย์ก็ได้รับการเฝ้าดูและอาวุธของเจ้าของที่ดินท้องถิ่นก็ถูกรวบรวมไปไว้ในที่มั่นต่าง ๆ ครอมเวลล์ได้รับชัยชนะต่อเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมและนำกองทัพกลับมาลีธภายในวันที่ 5 สิงหาคม หลังจากนั้นครอมเวลล์ก็ส่งนายพลจอห์น แลมเบิร์ต พร้อมกับกองทหารม้าไปรังควานผู้รุกราน ส่วนนายพล (Thomas Harrison) ก็ขึ้นไปนิวคาสเซิลไปเลือกกองทหารสมทบกับกองทหารประจำการ
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พระเจ้าชาลส์ตั้งค่ายอยู่ที่ แลมเบิร์ตโจมตีกองหลังขณะที่แฮร์ริสันเดินทัพอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไปขวางทัพที่ (Mersey) (Thomas Fairfax) รวบรวมกำลังพลที่ยอร์กเชอร์, แลงคาสเชอร์, เชชเชอร์ และสแตฟฟอร์ดเชอร์ และนำไป (Warrington) ไปสมทบกับแฮร์ริสันที่เดินทางไปถึงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ไม่ไกลจากกองหน้าของพระเจ้าชาลส์เพียงไม่กี่ชั่วโมง แลมเบิร์ตก็อ้อมทางด้านซ้ายของกองทัพของพระเจ้าชาลส์ไปสมทบกับแฮร์ริสัน ฝ่ายอังกฤษถอยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม และเลี่ยงการเข้าร่วมต่อสู้อย่างประจันหน้าบนทางไปลอนดอน
ยุทธการที่วุร์สเตอร์
ขณะเดียวกันครอมเวลล์ก็ทิ้งจอร์จ มองค์ ดยุคแห่งอาลเบอมาร์ลที่ 1 กับกองกำลังที่มีสมรรถภาพด้อยที่สุดไว้ต่อสู้ต่อไปในสกอตแลนด์ ส่วนครอมเวลล์เดินทางไปถึงแม่น้ำไทน์ (river Tyne) ภายในเจ็ดวันซึ่งเป็นระยะทางราว 20 ไมล์ต่อวันในสภาวะอากาศที่ร้อนเต็มที่ของเดือนสิงหาคม กองทหารเข้า (Ferrybridge) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ขณะที่แลมเบิร์ต, แฮร์ริสันและกองกำลังจากตะวันตกเฉียงเหนือไปถึง (Congleton) และดูเหมือนว่ายุทธการใหญ่จะเกิดขึ้นในบริเวณระหว่างกับคอเวนทรี ในวันที่หรือหลังจากวันที่25 สิงหาคม โดยมีทั้งครอมเวลล์, แลมเบิร์ต, แฮร์ริสัน และฟลีตวุดเข้าร่วม แต่การคาดการณ์ก็ต้องมีอันเปลี่ยนแปลงเพราะการเคลื่อนย้ายของกองทัพฝ่ายตรงข้าม หลังจากออกจากวอร์ริงตันแล้วพระเจ้าชาลส์ทรงเปลี่ยนแผนการที่จะเดินทัพตรงไปลอนดอนเป็นการเดินทางไปทางหุบเขาเซเวิร์น (Severn) แทนที่ ซึ่งที่เป็นบริเวณที่พระราชบิดาทรงได้รับการสนับสนุนในสงครามครั้งแรกและเป็นศูนย์กลางของขบวนการของผู้สนับสนุนฝ่ายกษัตริย์ในปี ค.ศ. 1648 เซอร์ (Edward Massey) ผู้เดิมเป็นข้าหลวงฝ่ายรัฐสภาของกลอสเตอร์หันมาเข้าข้างพระเจ้าชาลส์ นอกจากนั้นพระเจ้าชาลส์ก็ทรงหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากด้วยกันในการลุกขึ้นจับอาวุธต่อต้านฝ่ายรัฐสภา คุณภาพของทหารฝ่ายนิยมกษัตริย์ในบริเวณเวลส์มีความแข็งแกร่งพอที่ให้พระเจ้าชาลส์ที่ 2 ใช้เป็นกองกำลังสนับสนุนพระองค์ได้
พระเจ้าชาลส์ที่ 2 เสด็จมาถึงวุร์สเตอร์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม และทรงพักอยู่ที่นั่นห้าวันเพื่อเตรียมตัวและรวบรวมกำลังเพิ่มขึ้น แต่การพำนักอยู่ที่วุร์สเตอร์คงจะมิได้ทำให้ผลของยุทธการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับการเดินทัพโดยตรงไปลอนดอน
ขณะที่เดินทัพลงใต้ทางฝ่ายครอมเวลล์ก็ส่งนายพัน (Robert Lilburne) ไปปราบปรามฝ่ายนิยมกษัตริย์ที่แลงคาสเชอร์ภายใต้การนำของ (James Stanley, 7th Earl of Derby) ลิลเบิร์นก็ผลักดันให้กองทหารแลงคาสเชอร์เดินทางไปสมทบกับกองทัพฝ่ายกษัตริย์กองหลักที่ (Battle of Wigan Lane) เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม แต่เหตุการณ์นี้เพียงแต่ทำให้ครอมเวลล์ย้ายบริเวณการเดินทัพไปทางตะวันตกเฉียงใต้ไปยัง (Evesham) เช้าวันที่ 28 สิงหาคม แลมเบิร์ตจู่โจมกองที่เดินทางที่เซเวิร์นที่ (Upton-upon-Severn) 6 ไมล์จากวุร์สเตอร์ที่เป็นผลให้แมสซีย์บาดเจ็บสาหัส ขณะเดียวกันฟลีตวุดก็ติดตามแลมเบิร์ตลงมา กองทัพพระเจ้าชาลส์ขณะนั้นเหลือเพียง 16,000 คนซึ่งเป็นจำนวนเพียงครึ่งหนึ่งของกองกำลังฝ่ายครอมเวลล์
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ครอมเวลล์ถ่วงเวลาในการเริ่มยุทธการเพื่อสร้างสองสะพาน สะพานหนึ่งข้ามแม่น้ำเซเวิร์น (pontoon bridge) อีกสะพานหนึ่งข้ามแม่น้ำทีมใกล้ปากน้ำ การถ่วงเวลาทำให้ยุทธการล่าไปถึงวันที่ 3 กันยายน หนึ่งปีหลังพอดีจากวันที่ได้รับชัยชนะในยุทธการดันบาร์ของครอมเวลล์
การยุทธการ
ครอมเวลล์วางแผนการยุทธการอย่างแน่นหนา ลิลเบิร์นจากแลงคาสเตอร์และนายพลเมอร์เซอร์กับกองทหารม้าวุร์สเตอร์เชอร์มีหน้าที่ยึด (Bewdley Bridge) 20 ไมล์เหนือวุร์สเตอร์และเป็นแนวที่ข้าศึกจะถอยมา ฝ่ายฟลีตวุดก็พยายามเดินทัพไปข้ามแม่น้ำทีมเพื่อไปโจมตีเซนต์จอห์นทางด้านตะวันตกของตัวเมืองวุร์สเตอร์ ขณะที่แลมเบิร์ตนำกองทัพทางตะวันออกเดินหน้าไปล้อมเมืองวุร์สเตอร์ ส่วนครอมเวลล์จะเป็นผู้นำการโจมตีทางด้านใต้ของกำแพงเมือง
การโจมตีเริ่มโดยฝ่ายรัฐสภาเมื่อเช้าวันที่ 3 กันยายน ฟลีตวุดบุกมาทางสะพานพอนทูนมาต่อสู้กับฝ่ายนิยมกษัตริย์ภายใต้การนำของนายพลมอนต์โกเมอรี การพยายามข้ามสะพานโพวิคครั้งแรกนายพลริชาร์ด ดีนไม่สำเร็จเพราะการต่อต้านที่แข็งขันของฝ่ายนิยมกษัตริย์ที่นำโดยนายพลคีธ ทางตะวันออกของเซเวิร์นฝ่ายนิยมกษัตริย์เสียเปรียบเพราะมีกำลังน้อยกว่าโดยถูกโจมตีโดยกองทัพตัวแบบใหม่โดยการนำของครอมเวลล์และทางตะวันตกโดยฟลีตวุดที่ตีวงยาวสี่ไมล์ไปทางวุร์สเตอร์
ฝ่ายนิยมกษัตริย์ต่อต้านอย่างเหนียวแน่นในบริเวณโพวิคเมดโดว์ส การต่อต้านทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเซเวิร์นทางเหนือของแม่น้ำทีมของฝ่ายนิยมกษัตริย์ทำให้เป็นปัญหาหนักต่อฝ่ายรัฐสภา ครอมเวลล์จึงนำกองหนุนมาจากทางด้านตะวันออกของวุร์สเตอร์ข้ามสะพานพอนทูนที่แม่น้ำเซเวิร์นมาช่วยฟลีตวุด
พระเจ้าชาลส์ที่ 2 ทรงมองจากหอคอยของมหาวิหารวุร์สเตอร์ เห็นช่องที่จะโจมตีทางแนวตะวันออกของฝ่ายรัฐสภาที่เปิดอยู่ เมื่อผู้ต่อต้านทางด้านตะวันตกของตัวเมืองถอยเข้ามาในเมืองอย่างเป็นระเบียบแม้ว่าคีธจะถูกจับและนายพลมอนต์โกเมอรีจะได้รับบาดเจ็บ แต่พระเจ้าชาลส์ก็มีพระราชโองการให้กองทหารสองกองเข้าโจมตีฝ่ายรัฐสภาทางด้านตะวันออกของเมือง ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือทางประตูเซนต์มาร์ตินกองทหารนำโดย (William Hamilton, 2nd Duke of Hamilton) โจมตีแนวรัฐสภาที่เพอร์รีวูด ทางตะวันออกเฉียงใต้ทางประตูซิดบรีกองทหารนำโดยพระเจ้าชาลส์ที่ 2 เปิดการโจมตีที่เรดฮิลล์ กองทหารม้าของฝ่ายกษัตริย์นำโดยเดวิด เลสลีย์ที่รวมตัวกันอยู่ที่พิทชครอฟต์เมดโดว์ทางด้านเหนือของเมืองไม่ได้รับคำสั่งให้ช่วย เลสลีย์จึงตัดสินใจไม่เข้าช่วย เมื่อเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นที่แนวตะวันออกที่ต้องถอยข้ามกลับที่สะพานพอนทูนที่เซเวิร์นครอมเวลล์จึงส่งกองหนุนสามกองเข้าช่วย
แม้ว่าจะถูกผลักกลับ แต่ฝ่ายรัฐสภาที่นำโดยแลมเบิร์ตมีจำนวนมากและมีความชำนาญในการต่อสู้ หลังจากการสู้รบเกิดขึ้นได้ชั่วโมงหนึ่งที่เริ่มด้วยการเสียเปรียบของฝ่ายรัฐสภา แต่สถานะการณ์ก็เปลี่ยนไปเมื่อฝ่ายรัฐสภาได้รับการสนับสนุนจากกองหนุนสามกองของครอมเวลล์ที่ส่งมา ทำให้สามารถตีโต้ฝ่ายกษัตริย์ให้ถอยกลับเข้าไปในเมืองได้ การถอยของฝ่ายกษัตริย์กลายเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวของทั้งสองฝ่ายที่ร่นเข้าไปในเมือง ฝ่ายกษัตริย์ยิ่งเสียเปรียบหนักขึ้นเมื่อทหารเอสเซ็กซ์บุกเข้ายึดเนินฟอร์ทรอยัลได้ และใช้ปืนของฝ่ายกษัตริย์เองยิงเข้าไปในเมืองวุร์สเตอร์
เมื่อพลบค่ำวุร์สเตอร์ก็ถูกโจมตีพร้อมกันทั้งสามด้าน ต่างฝ่ายต่างก็ต่อสู้กันอย่างกล้าหาญ ฝ่ายกษัตริย์สองสามพันคนที่พยายามหลบหนีตอนกลางคืนถูกจับได้โดยลิลเบิร์นและเมอร์เซอร์หรือโดยทหารที่อยู่ระหว่างยอร์กเชอร์และแลงคาสเตอร์ แม้แต่ชาวบ้านก็ช่วยจับผู้หลบหนี ภายหลังจากการเสียเมืองทั้งนายทหารและลูกแถวต่างก็ประหลาดใจในสถานะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลันจนมิได้พยายามต่อต้านอีก
ผลของสงคราม
หลังจากการพ่ายแพ้ที่วุร์สเตอร์แล้วพระเจ้าชาลส์ที่ 2 ก็เสด็จหนี ในระหว่างเสด็จหนีก็ทรงต้องทรงเผชิญภัยหลายอย่างรวมทั้งการซ่อนพระองค์ในโพรงต้นโอ้ค ทหารฝ่ายพระองค์ 3,000 คนเสียชีวิตระหว่างยุทธการและอีก 10,000 ถูกจับที่วุร์สเตอร์หรือหลังจากนั้น ถูกประหารชีวิต ทหารอังกฤษที่ถูกจับถูกเกณฑ์ให้เป็นทหารในกองทัพตัวแบบใหม่และถูกส่งไปประจำการในไอร์แลนด์ ส่วนทหารสกอตแลนด์อีก 8,000 คนที่ถูกจับถูกเนรเทศไปนิวอิงแลนด์, เบอร์มิวดา และเวสต์อินดีส ไปทำงานให้กับเจ้าของที่ดินที่นั่นในฐานะ (Indentured labour) ฝ่ายรัฐสภาเสียชีวิตไปเพียงจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับฝ่ายกษัตริย์
หลังจากยุทธการแล้วครอมเวลล์ก็กลับไป (Aylesbury) ในบักกิงแฮมเชอร์ ที่เป็นที่มั่นหนึ่งของฝ่านรัฐสภาและไม่ไกลจากที่ตั้งของลูกพี่ลูกน้องของครอมเวลล์ (John Hampden) ผู้เป็นวีรบุรุษของสงครามกลางเมืองผู้เสียชีวิตไปแล้ว ครอมเวลล์พักอยู่ที่คิงสเฮดอินน์เมื่อได้รับคำขอบคุณจากรัฐสภาในชัยชนะที่ได้รับต่อฝ่ายนิยมกษัตริย์
กองทัพตัวแบบใหม่ฝ่ายรัฐสภาถูกปลดระวางและส่งกลับบ้านเพียงอาทิตย์เดียวหลังจากสงครามสงบ ครอมเวลล์ผู้ถูกเย้ยหยันความคิดในการก่อตั้งกองทัพตัวแบบใหม่ทหารหกเดือนก่อนหน้านั้น เขียนจดหมายไปถึงรัฐสภาสรรเสริญความสามารถและกล่าวแนะนำว่ารัฐสภาควรจะซาบซึ้งในคุณค่าของทหารกลุ่มนี้
ก่อนสงครามพระเจ้าชาลส์ที่ 2 ทรงจ้างช่างตัดเสื้อให้เย็บเครื่องแบบให้กองทหารแต่ไม่ทรงสามารถจ่ายค่าจ้างจำนวน £453.3s ได้ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2008 เจ้าฟ้าชายชาลส์ ทรงชำระหนี้ที่สร้างไว้เมื่อ 357 ปีมาแล้วให้
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1786 จอห์น ควินซี แอดัมส์ และทอมัส เจฟเฟอร์สัน เดินทางไปดูฟอร์ตรอยัลฮิลล์ที่เกิดของยุทธการที่วุร์สเตอร์ เดวิด แมกคัลเลอบันทึกในหนังสือชีวประวัติของ "จอห์น แอดัมส์" ว่าเมื่อจอห์น แอดัมส์ไปถึงฟอร์ตรอยัลฮิลล์ก็เกิดความสะเทือนใจแต่รู้สึกผิดหวังที่ผู้คนในท้องถิ่นขาดความรู้เรื่องที่มาของยุทธการจนให้การบรรยายสดแก่ประชาชนที่มาชุมนุมว่า :
“ | ประชาชนที่อยู่ในบริเวณนี้ดูเหมือนจะไม่มีความสนใจและไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับวุร์สเตอร์ที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องถามตัวเองว่า "ชาวอังกฤษลืมเรื่องราวของแผ่นดินที่เป็นที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพอย่างรวดเร็วเช่นนั้นเชียวหรือ?" ท่านจงบอกเพื่อนบ้านและลูกหลานของท่านว่าแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์กว่าแผ่นดินที่เป็นที่ตั้งของวัด ชาวอังกฤษทุกคนควรจะมาทำความสักการะที่เนินนี้ปีละหน | ” |
อ้างอิง
- Trevor Royal Page 600
- Distance and Journey Times from Worcester to the county’s main towns 2007-04-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน website of Worcestershire County Council
- Battle of Worcester - dawn attack BBC website
- Battle of Worcester - Cromwell intervenes (1)
- Battle of Worcester - Charles intervenes BBC website
- Battle of Worcester - Cromwell intervenes (2) BBC website
- Fort Royal Hill, where liberty was fought for
- Encyclopædia Britannica Eleventh Edition: Great Rebellion
- Trevor Royal Page 602
- President John Adams on โอลิเวอร์ ครอมเวลล์
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yuththkarthiwursetxr xngkvs Battle of Worcester ekidkhunemuxwnthi 3 knyayn kh s 1651 thiwursetxrinxngkvsaelaepnyuththkarsudthaykhxngsngkhramklangemuxngxngkvs thifayrthsphathinaodyoxliewxr khrxmewllidrbchychnatxfayniymkstriy Royalist thinaodyphraecachalsthi 2 odythwipepnkxngkalngskxtaelnd kxngkalngephiyng 16 000 khnkhxngkxngkalngfayniymkstriyimsamarthtxsukbkxngkalngthimicanwnehnuxkwamak 28 000 khnkhxng kxngthphtwaebbihm New Model Army khxngkhrxmewllidcninthisudkcatxngphayaephswnhnungkhxng aela sngkhramklangemuxngxngkvsoxliewxr khrxmewllinyuththkarthiwursetxrwnthi3 knyayn kh s 1651sthanthiwursetxr xngkvsphlfayrthsphaxngkvschnakhusngkhramfayrthsphafayniymkstriyphubngkhbbychaaelaphunaoxliewxr khrxmewllphraecachalsthi 2kalng31 000nxykwa 16 000khwamsuyesiy200 khn3 000 khnesiychiwit kwa 10 000 thukcbepnnkothskarrukranxngkvsphraecachalsthi 2 thrngidrbkhwamchwyehluxcakphnthmitrskxtaelndinkarphyayamchingrachbllngkthiesiyiphlngcakthiphrarachbidaphraecachalsthi 1 thukplngphrachnmkhun aemthphkhxngskxtaelnd David Leslie Lord Newark snbsnunaephnkarthidungkhrxmewllekhamatxsuinskxtaelndthimikxnghnunthihnaaennkwa aetphraecachalsmiphrarachprasngkhthicathasngkhraminxngkvs thrngkhadkhaenwakhnathikhrxmewllnakxngthphtwaebbihmkhunmaehnux River Forth kcaepnoxkasihkxngkalnghlkkhxngkxngthphfaykstriykhxngskxtaelndthixyuitaemnafxrthchwyoxkaseliyngkxngthphtwaebbihmaelachingedinthphlngiplxndxnodyimmiphukhdkhwang phraecachalsmiidthrngephiyngaetcaradmphuthicngrkphkditxphraxngkhaetyngthrngradm Presbyterian xngkvsephuxsnbsnunphraxngkhdwy nxkcaknnkthrngkhadwakarepnphnthmitrkb Covenanters khxng Presbyterian aelakarlngphranamin Solemn League and Covenant caepnkarchkchwnihklumephrsibthieriynxngkvshnmasnbsnunphraxngkhdwy inrayaaerkkhxngsngkhramkxngthphfaykstriyxyuinsphaphthidi aelaphayinxathityediywksamarthedinthphidepnrayathangthung 150 imlemuxethiybkbkarrnrngkhthiimprasbkhwamsaerckhxngecms aehmmiltn dyukhaehngaehmmiltnthi 1 James Hamilton 1st Duke of Hamilton inpi kh s 1648 kxnhnann emuxwnthi 8 singhakhm kxngthharktngkhayphkbriewnrahwangkb aetfayniymkstriyktxngprahladic emuxoxliewxr khrxmewll aela English Council of State thi khadkarnlwnghnathungaephnkarkhxngfaysnbsnunphraecachalsid faykhrxmewllcungradmkxngthharemuxwnthi 7 singhakhm odyminayphl Charles Fleetwood rwbrwmkxngkalnginbriewnmidaelndthi Banbury odymikxngthharthiidrbkarfukinlxndxnekharwmdwythung 14 000 khn phuidthisngsywaepnfaysnbsnunkstriykidrbkarefaduaelaxawuthkhxngecakhxngthidinthxngthinkthukrwbrwmipiwinthimntang khrxmewllidrbchychnatxemuxwnthi 22 krkdakhmaelanakxngthphklbmalithphayinwnthi 5 singhakhm hlngcaknnkhrxmewllksngnayphlcxhn aelmebirt phrxmkbkxngthharmaiprngkhwanphurukran swnnayphl Thomas Harrison kkhunipniwkhasesilipeluxkkxngthharsmthbkbkxngthharpracakar emuxwnthi 9 singhakhm phraecachalstngkhayxyuthi aelmebirtocmtikxnghlngkhnathiaehrrisnedinthphxyangrwderwephuxthicaipkhwangthphthi Mersey Thomas Fairfax rwbrwmkalngphlthiyxrkechxr aelngkhasechxr echchechxr aelasaetffxrdechxr aelanaip Warrington ipsmthbkbaehrrisnthiedinthangipthungemuxwnthi 15 singhakhm imiklcakkxnghnakhxngphraecachalsephiyngimkichwomng aelmebirtkxxmthangdansaykhxngkxngthphkhxngphraecachalsipsmthbkbaehrrisn fayxngkvsthxyemuxwnthi 16 singhakhm aelaeliyngkarekharwmtxsuxyangpracnhnabnthangiplxndxnyuththkarthiwursetxroxliewxr khrxmewll khnaediywknkhrxmewllkthingcxrc mxngkh dyukhaehngxalebxmarlthi 1 kbkxngkalngthimismrrthphaphdxythisudiwtxsutxipinskxtaelnd swnkhrxmewlledinthangipthungaemnaithn river Tyne phayinecdwnsungepnrayathangraw 20 imltxwninsphawaxakasthirxnetmthikhxngeduxnsinghakhm kxngthharekha Ferrybridge emuxwnthi 19 singhakhm khnathiaelmebirt aehrrisnaelakxngkalngcaktawntkechiyngehnuxipthung Congleton aeladuehmuxnwayuththkarihycaekidkhuninbriewnrahwangkbkhxewnthri inwnthihruxhlngcakwnthi25 singhakhm odymithngkhrxmewll aelmebirt aehrrisn aelaflitwudekharwm aetkarkhadkarnktxngmixnepliynaeplngephraakarekhluxnyaykhxngkxngthphfaytrngkham hlngcakxxkcakwxrringtnaelwphraecachalsthrngepliynaephnkarthicaedinthphtrngiplxndxnepnkaredinthangipthanghubekhaesewirn Severn aethnthi sungthiepnbriewnthiphrarachbidathrngidrbkarsnbsnuninsngkhramkhrngaerkaelaepnsunyklangkhxngkhbwnkarkhxngphusnbsnunfaykstriyinpi kh s 1648 esxr Edward Massey phuedimepnkhahlwngfayrthsphakhxngklxsetxrhnmaekhakhangphraecachals nxkcaknnphraecachalskthrnghwngwacaidrbkarsnbsnuncakdwykninkarlukkhuncbxawuthtxtanfayrthspha khunphaphkhxngthharfayniymkstriyinbriewnewlsmikhwamaekhngaekrngphxthiihphraecachalsthi 2 ichepnkxngkalngsnbsnunphraxngkhid phraecachalsthi 2 phraecachalsthi 2 esdcmathungwursetxremuxwnthi 22 singhakhm aelathrngphkxyuthinnhawnephuxetriymtwaelarwbrwmkalngephimkhun aetkarphankxyuthiwursetxrkhngcamiidthaihphlkhxngyuththkarepliynaeplngemuxethiybkbkaredinthphodytrngiplxndxn khnathiedinthphlngitthangfaykhrxmewllksngnayphn Robert Lilburne ipprabpramfayniymkstriythiaelngkhasechxrphayitkarnakhxng James Stanley 7th Earl of Derby lilebirnkphlkdnihkxngthharaelngkhasechxredinthangipsmthbkbkxngthphfaykstriykxnghlkthi Battle of Wigan Lane emuxwnthi 25 singhakhm aetehtukarnniephiyngaetthaihkhrxmewllyaybriewnkaredinthphipthangtawntkechiyngitipyng Evesham echawnthi 28 singhakhm aelmebirtcuocmkxngthiedinthangthiesewirnthi Upton upon Severn 6 imlcakwursetxrthiepnphlihaemssiybadecbsahs khnaediywknflitwudktidtamaelmebirtlngma kxngthphphraecachalskhnannehluxephiyng 16 000 khnsungepncanwnephiyngkhrunghnungkhxngkxngkalngfaykhrxmewll emuxwnthi 30 singhakhm khrxmewllthwngewlainkarerimyuththkarephuxsrangsxngsaphan saphanhnungkhamaemnaesewirn pontoon bridge xiksaphanhnungkhamaemnathimiklpakna karthwngewlathaihyuththkarlaipthungwnthi 3 knyayn hnungpihlngphxdicakwnthiidrbchychnainyuththkardnbarkhxngkhrxmewllkaryuththkarkhrxmewllwangaephnkaryuththkarxyangaennhna lilebirncakaelngkhasetxraelanayphlemxresxrkbkxngthharmawursetxrechxrmihnathiyud Bewdley Bridge 20 imlehnuxwursetxraelaepnaenwthikhasukcathxyma fayflitwudkphyayamedinthphipkhamaemnathimephuxipocmtiesntcxhnthangdantawntkkhxngtwemuxngwursetxr khnathiaelmebirtnakxngthphthangtawnxxkedinhnaiplxmemuxngwursetxr swnkhrxmewllcaepnphunakarocmtithangdanitkhxngkaaephngemuxng karocmtierimodyfayrthsphaemuxechawnthi 3 knyayn flitwudbukmathangsaphanphxnthunmatxsukbfayniymkstriyphayitkarnakhxngnayphlmxntokemxri karphyayamkhamsaphanophwikhkhrngaerknayphlrichard dinimsaercephraakartxtanthiaekhngkhnkhxngfayniymkstriythinaodynayphlkhith thangtawnxxkkhxngesewirnfayniymkstriyesiyepriybephraamikalngnxykwaodythukocmtiodykxngthphtwaebbihmodykarnakhxngkhrxmewllaelathangtawntkodyflitwudthitiwngyawsiimlipthangwursetxr fayniymkstriytxtanxyangehniywaenninbriewnophwikhemdodws kartxtanthangfngtawntkkhxngaemnaesewirnthangehnuxkhxngaemnathimkhxngfayniymkstriythaihepnpyhahnktxfayrthspha khrxmewllcungnakxnghnunmacakthangdantawnxxkkhxngwursetxrkhamsaphanphxnthunthiaemnaesewirnmachwyflitwud phraecachalsthi 2 thrngmxngcakhxkhxykhxngmhawiharwursetxr ehnchxngthicaocmtithangaenwtawnxxkkhxngfayrthsphathiepidxyu emuxphutxtanthangdantawntkkhxngtwemuxngthxyekhamainemuxngxyangepnraebiybaemwakhithcathukcbaelanayphlmxntokemxricaidrbbadecb aetphraecachalskmiphrarachoxngkarihkxngthharsxngkxngekhaocmtifayrthsphathangdantawnxxkkhxngemuxng thangdantawnxxkechiyngehnuxthangpratuesntmartinkxngthharnaody William Hamilton 2nd Duke of Hamilton ocmtiaenwrthsphathiephxrriwud thangtawnxxkechiyngitthangpratusidbrikxngthharnaodyphraecachalsthi 2 epidkarocmtithierdhill kxngthharmakhxngfaykstriynaodyedwid elsliythirwmtwknxyuthiphithchkhrxftemdodwthangdanehnuxkhxngemuxngimidrbkhasngihchwy elsliycungtdsinicimekhachwy emuxehnpyhathiekidkhunthiaenwtawnxxkthitxngthxykhamklbthisaphanphxnthunthiesewirnkhrxmewllcungsngkxnghnunsamkxngekhachwy aemwacathukphlkklb aetfayrthsphathinaodyaelmebirtmicanwnmakaelamikhwamchanayinkartxsu hlngcakkarsurbekidkhunidchwomnghnungthierimdwykaresiyepriybkhxngfayrthspha aetsthanakarnkepliynipemuxfayrthsphaidrbkarsnbsnuncakkxnghnunsamkxngkhxngkhrxmewllthisngma thaihsamarthtiotfaykstriyihthxyklbekhaipinemuxngid karthxykhxngfaykstriyklayepnkartxsutwtxtwkhxngthngsxngfaythirnekhaipinemuxng faykstriyyingesiyepriybhnkkhunemuxthharexsesksbukekhayudeninfxrthrxylid aelaichpunkhxngfaykstriyexngyingekhaipinemuxngwursetxr emuxphlbkhawursetxrkthukocmtiphrxmknthngsamdan tangfaytangktxsuknxyangklahay faykstriysxngsamphnkhnthiphyayamhlbhnitxnklangkhunthukcbidodylilebirnaelaemxresxrhruxodythharthixyurahwangyxrkechxraelaaelngkhasetxr aemaetchawbankchwycbphuhlbhni phayhlngcakkaresiyemuxngthngnaythharaelalukaethwtangkprahladicinsthanakarnthiepliynaeplngipxyangchbphlncnmiidphyayamtxtanxikphlkhxngsngkhramhlngcakkarphayaephthiwursetxraelwphraecachalsthi 2 kesdchni inrahwangesdchnikthrngtxngthrngephchiyphyhlayxyangrwmthngkarsxnphraxngkhinophrngtnoxkh thharfayphraxngkh 3 000 khnesiychiwitrahwangyuththkaraelaxik 10 000 thukcbthiwursetxrhruxhlngcaknn thukpraharchiwit thharxngkvsthithukcbthukeknthihepnthharinkxngthphtwaebbihmaelathuksngippracakarinixraelnd swnthharskxtaelndxik 8 000 khnthithukcbthukenrethsipniwxingaelnd ebxrmiwda aelaewstxindis ipthanganihkbecakhxngthidinthinninthana Indentured labour fayrthsphaesiychiwitipephiyngcanwnnxyemuxethiybkbfaykstriy hlngcakyuththkaraelwkhrxmewllkklbip Aylesbury inbkkingaehmechxr thiepnthimnhnungkhxngfanrthsphaaelaimiklcakthitngkhxnglukphiluknxngkhxngkhrxmewll John Hampden phuepnwirburuskhxngsngkhramklangemuxngphuesiychiwitipaelw khrxmewllphkxyuthikhingsehdxinnemuxidrbkhakhxbkhuncakrthsphainchychnathiidrbtxfayniymkstriy kxngthphtwaebbihmfayrthsphathukpldrawangaelasngklbbanephiyngxathityediywhlngcaksngkhramsngb khrxmewllphuthukeyyhynkhwamkhidinkarkxtngkxngthphtwaebbihmthharhkeduxnkxnhnann ekhiyncdhmayipthungrthsphasrresriykhwamsamarthaelaklawaenanawarthsphakhwrcasabsunginkhunkhakhxngthharklumni kxnsngkhramphraecachalsthi 2 thrngcangchangtdesuxiheybekhruxngaebbihkxngthharaetimthrngsamarthcaykhacangcanwn 453 3s id ineduxnmithunayn kh s 2008 ecafachaychals thrngcharahnithisrangiwemux 357 pimaaelwih ineduxnemsayn kh s 1786 cxhn khwinsi aexdms aelathxms ecfefxrsn edinthangipdufxrtrxylhillthiekidkhxngyuththkarthiwursetxr edwid aemkkhlelxbnthukinhnngsuxchiwprawtikhxng cxhn aexdms waemuxcxhn aexdmsipthungfxrtrxylhillkekidkhwamsaethuxnicaetrusukphidhwngthiphukhninthxngthinkhadkhwamrueruxngthimakhxngyuththkarcnihkarbrryaysdaekprachachnthimachumnumwa prachachnthixyuinbriewnniduehmuxncaimmikhwamsnicaelaimmikhwamruxairekiywkbwursetxrthithaihkhaphecatxngthamtwexngwa chawxngkvslumeruxngrawkhxngaephndinthiepnthitxsuephuxesriphaphxyangrwderwechnnnechiywhrux thancngbxkephuxnbanaelalukhlankhxngthanwaaephndinniepnaephndinskdisiththi skdisiththikwaaephndinthiepnthitngkhxngwd chawxngkvsthukkhnkhwrcamathakhwamskkarathieninnipilahn xangxingTrevor Royal Page 600 Distance and Journey Times from Worcester to the county s main towns 2007 04 02 thi ewyaebkaemchchin website of Worcestershire County Council Battle of Worcester dawn attack BBC website Battle of Worcester Cromwell intervenes 1 Battle of Worcester Charles intervenes BBC website Battle of Worcester Cromwell intervenes 2 BBC website Fort Royal Hill where liberty was fought for Encyclopaedia Britannica Eleventh Edition Great Rebellion Trevor Royal Page 602 President John Adams on oxliewxr khrxmewllduephimphraecachalsthi 2 aehngxngkvs oxliewxr khrxmewll sngkhramklangemuxngxngkvs fayrthspha faykstriyniym