ยุทธการที่วงรอบปูซาน เป็นการสู้รบขนาดใหญ่ระหว่างกองทัพของ(UN Command)และกองทัพเกาหลีเหนือที่ยืดเยื้อเป็นเวลานาน นับตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ถึง 18 กันยายน ค.ศ. 1950 มันเป็นหนึ่งในการสู้รบที่สำคัญเป็นครั้งแรกของสงครามเกาหลี กองทัพทหารบกยูเอ็นกว่า 140,000 นายที่หลังจากถูกผลักดันจนเกือบจะพ่ายแพ้ ได้รวมตัวกันเพื่อทำการสู้รบตั้งรับครั้งสุดท้ายกับการรุกรานของกองทัพประชาชนเกาหลี จำนวน 98,000 นายที่แข็งแกร่งกว่า
ยุทธการที่วงรอบปูซาน | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามเกาหลี | |||||||
ทหารของหน่วย กำลังรอการโจมตีของเกาหลีเหนือที่กำลังข้ามจากตำแหน่งบนวงรอบปูซาน, 4 กันยายน ค.ศ. 1950. | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
เกาหลีเหนือ | |||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
ดักลาส แมกอาเธอร์ | Kim Ung Kim Mu Chong | ||||||
หน่วยที่เกี่ยวข้อง | |||||||
() | () | ||||||
กำลัง | |||||||
141,808 total (92,000 combat) | 98,000 (70,000 combat) | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
South Korea: 40,000?+ United States: 4,599 killed 12,058 wounded 2,701 missing 401 captured 60 tanks United Kingdom: 5 killed, 17 wounded India: 1 killed 2 60,504 total casualties | 63,590 total casualties 3,380 captured 239 tanks 74 guns |
กองทัพยูเอ็น,ได้พ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยการรุกของกองทัพประชาชนเกาหลี ได้ถูกบีบบังคับให้ล่าถอยไปยัง"วงรอบปูซาน" แนวป้องกันระยะทาง 140 ไมล์(230 กิโลเมตร)บริเวณรอบพื้นที่ทางปลายสุดด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ซึ่งรวมถึงท่าเรือพูซัน กองกำลังทหารยูเอ็นซึ่งประกอบด้วยกองทัพส่วนใหญ่จากสาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรที่ได้ตั้งฐานทัพแห่งสุดท้ายบริเวณวงรอบ ได้ต่อสู้รบกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพประชาชนเกาหลีเป็นเวลาหกสัปดาห์ ในขณะที่พวกเขาได้สู้รบกันบริเวณรอบๆเมืองแทกู, (Masan) (Pohang)และ(Nakdong River) การโจมตีครั้งใหญ่ของกองทัพประชาชนเกาหลีไม่ประสบความสำเร็จในการบีบบังคับกองกำลังทหารยูเอ็นให้ล่าถอยห่างจากเส้นวงรอบ แม้ว่าจะมีการผลักดันครั้งใหญ่สองครั้งในเดือนสิงหาคมและกันยายน
กองกำลังทหารเกาหลีเหนือได้หยุดชะงักจากความขาดแคลนปัจจัยและความสูญเสียครั้งใหญ่ ทำให้เกิดการโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพยูเอ็นในความพยายามที่จะเจาะทะลวงเส้นวงรอบและทะลายแนว อย่างไรก็ตาม, สหประชาชาติได้ใช้ท่าเรือนี้เพื่อสร้างความได้เปรียบอย่างล้นหลามในกองกำลังทหาร อุปกรณ์ และโลจิสิกส์ และกองทัพเรือและกองทัพอากาศที่เหลืออยู่ไม่ได้ถูกขัดขวางโดยกองทัพประชาชนเกาหลีในช่วงระหว่างการรบ ภายหลังหกสัปดาห์ กองทัพประชาชนเกาหลีได้พังทะลายและล่าถอยในความพ่ายแพ้หลังกองทัพยูเอ็นได้เปิดฉาก เมื่อวันที่ 15 กันยายน และกองทัพยูเอ็นที่อยู่ในวงรอบ การรบครั้งนี้เป็นการรุกของกองทัพประชาชนเกาหลีที่ไปได้ไกลกว่า เช่นเดียวกับผลลัพธ์ของการสู้รบในสงครามกลายเป็นทางตัน
อ้างอิง
- Fehrenbach 2001, p. 113.
- Appleman 1998, p. 395.
- Appleman 1998, p. 605.
- Ecker 2004, p. 32.
- Appleman 1998, p. 546.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yuththkarthiwngrxbpusan epnkarsurbkhnadihyrahwangkxngthphkhxng UN Command aelakxngthphekahliehnuxthiyudeyuxepnewlanan nbtngaetwnthi 4 singhakhm thung 18 knyayn kh s 1950 mnepnhnunginkarsurbthisakhyepnkhrngaerkkhxngsngkhramekahli kxngthphthharbkyuexnkwa 140 000 naythihlngcakthukphlkdncnekuxbcaphayaeph idrwmtwknephuxthakarsurbtngrbkhrngsudthaykbkarrukrankhxngkxngthphprachachnekahli canwn 98 000 naythiaekhngaekrngkwayuththkarthiwngrxbpusanswnhnungkhxng sngkhramekahlithharkhxnghnwy kalngrxkarocmtikhxngekahliehnuxthikalngkhamcaktaaehnngbnwngrxbpusan 4 knyayn kh s 1950 wnthi4 singhakhm 18 kyyayn kh s 1950sthanthipusan phlshprachachatichnakhusngkhram shprachachati ekahliit shrth shrachxanackr ekahliehnuxphubngkhbbychaaelaphunadklas aemkxaethxrKim Ung Kim Mu Chonghnwythiekiywkhxng kalng141 808 total 92 000 combat 98 000 70 000 combat khwamsuyesiySouth Korea 40 000 United States 4 599 killed 12 058 wounded 2 701 missing 401 captured 60 tanks United Kingdom 5 killed 17 wounded India 1 killed 2 60 504 total casualties63 590 total casualties 3 380 captured 239 tanks 74 guns kxngthphyuexn idphayaephsaaelwsaelaodykarrukkhxngkxngthphprachachnekahli idthukbibbngkhbihlathxyipyng wngrxbpusan aenwpxngknrayathang 140 iml 230 kiolemtr briewnrxbphunthithangplaysuddantawnxxkechiyngitkhxngekahliitsungrwmthungthaeruxphusn kxngkalngthharyuexnsungprakxbdwykxngthphswnihycaksatharnrthekahli shrthxemrika aelashrachxanackrthiidtngthanthphaehngsudthaybriewnwngrxb idtxsurbkbkarocmtixyangtxenuxngkhxngkxngthphprachachnekahliepnewlahkspdah inkhnathiphwkekhaidsurbknbriewnrxbemuxngaethku Masan Pohang aela Nakdong River karocmtikhrngihykhxngkxngthphprachachnekahliimprasbkhwamsaercinkarbibbngkhbkxngkalngthharyuexnihlathxyhangcakesnwngrxb aemwacamikarphlkdnkhrngihysxngkhrngineduxnsinghakhmaelaknyayn kxngkalngthharekahliehnuxidhyudchangkcakkhwamkhadaekhlnpccyaelakhwamsuyesiykhrngihy thaihekidkarocmtixyangtxenuxngkhxngkxngthphyuexninkhwamphyayamthicaecaathalwngesnwngrxbaelathalayaenw xyangirktam shprachachatiidichthaeruxniephuxsrangkhwamidepriybxyanglnhlaminkxngkalngthhar xupkrn aelaolcisiks aelakxngthpheruxaelakxngthphxakasthiehluxxyuimidthukkhdkhwangodykxngthphprachachnekahliinchwngrahwangkarrb phayhlnghkspdah kxngthphprachachnekahliidphngthalayaelalathxyinkhwamphayaephhlngkxngthphyuexnidepidchak emuxwnthi 15 knyayn aelakxngthphyuexnthixyuinwngrxb karrbkhrngniepnkarrukkhxngkxngthphprachachnekahlithiipidiklkwa echnediywkbphllphthkhxngkarsurbinsngkhramklayepnthangtnxangxingFehrenbach 2001 p 113 sfn error no target CITEREFFehrenbach2001 Appleman 1998 p 395 sfn error no target CITEREFAppleman1998 Appleman 1998 p 605 sfn error no target CITEREFAppleman1998 Ecker 2004 p 32 sfn error no target CITEREFEcker2004 Appleman 1998 p 546 sfn error no target CITEREFAppleman1998