มาร์ก-อ็องตวน ชาร์ป็องตีเย (ฝรั่งเศส: Marc-Antoine Charpentier, ค.ศ. 1643 – 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1704) เป็นคีตกวีชาวฝรั่งเศสในยุคบารอก
ชาร์ป็องตีเยประพันธ์งานดนตรีคุณภาพสูงหลากประเภทไว้เป็นจำนวนมาก ที่เด่นที่สุดคือดนตรีศาสนาสำหรับขับร้อง ซึ่งความเชี่ยวชาญในการประพันธ์ของเขาเป็นที่ยอมรับและยกย่องในหมู่คีตกวีในยุคเดียวกัน
มีคีตกวีชาวฝรั่งเศสอีกคนหนึ่งที่มีชึ่อเสียงในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ชื่อกุสตาฟว์ ชาร์ป็องตีเย แต่ทั้งสองคนไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ทางครอบครัวกันเลย
ประวัติ
ชาร์ป็องตีเยเกิดในกรุงปารีสหรือในพื้นที่ใกล้เคียง เขาเป็นบุตรของอาลักษณ์คนสำคัญผู้มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวผู้ทรงอิทธิพลในศาลอุทธรณ์แห่งปารีส มาร์ก-อ็องตวนได้รับการศึกษาที่ดีมาก ซึ่งอาจอยู่ในความดูและของบาทหลวงคณะเยสุอิต และสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนกฎหมายเมื่ออายุได้ 18 ปี แต่เรียนได้เพียงภาคการศึกษาเดียวก็ลาออก เขาใช้เวลา “สองสามปี” ในกรุงโรม น่าจะระหว่าง ค.ศ. 1667 ถึง 1669 เป็นศิษย์ของจาโกโม การิสซีมี และเป็นที่ทราบกันว่าเขาได้ติดต่อกับกวี-นักดนตรีชื่อชาร์ล กัวโป ดาซูซี (Charles Coypeau d'Assoucy) ผู้กำลังประพันธ์ดนตรีให้แก่สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในกรุงโรม มีคำเล่าลือว่าในเบื้องแรกชาร์ป็องตีเยเดินทางไปกรุงโรมเพื่อศึกษาจิตรกรรมก่อนได้พบกับการิสซีมี เรื่องนี้ไม่มีการจดบันทึก และน่าจะไม่เป็นความจริง เพราะในต้นฉบับโน้ตดนตรีที่เขียนด้วยลายมือของเขาทั้ง 28 เล่มนั้น แม้จะแสดงถึงความชำนาญในการวาดลายอาหรับซึ่งนิยมกันในหมู่อาลักษณ์อาชีพ ทว่าไม่มีเล่มใดเลยที่มีภาพวาด แม้เพียงภาพร่างอย่างง่ายก็ไม่มี แต่ไม่ว่าชาร์ป็องตีเยจะไปกรุงโรมเพื่อเรียนอะไร เขาก็ได้เรียนรู้ขนบดนตรีของอิตาลีในยุคนั้นอย่างลึกซึ้งและนำติดตัวกลับไปฝรั่งเศสด้วย
ทันทีที่ชาร์ป็องตีเยกลับถึงฝรั่งเศส เขาน่าจะได้เริ่มงานในฐานะคีตกวีประจำบ้านให้แก่มารี เดอ ลอแรน ดัชเชสแห่งกีซ (Marie de Lorraine, duchesse de Guise) ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่านางสาวแห่งกีซ ดัชเชสได้มอบห้องเป็นสัดส่วนในคฤหาสน์กีซ (Hôtel de Guise) ที่เพิ่งบูรณะเสร็จใหม่ ๆ ให้แก่ชาร์ป็องตีเย ความข้อนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงว่าชาร์ป็องตีเยไม่ได้เป็นเพียงคนรับใช้ที่หลับนอนในซอกหลืบของทำเนียบอันยิ่งใหญ่ แต่เป็นชาววังผู้อาศัยในห้องชุดหรูที่ทำขึ้นใหม่ทางปีกคอกม้า
ในห้วงเวลา 17 ปีนับจากนั้น ชาร์ป็องตีเยได้ประพันธ์ดนตรีสำหรับการขับร้องหลายชิ้นให้แก่ดัชเชสแห่งกีซ เช่นดนตรีสำหรับเพลงสดุดี (Psalm) เพลงสวด (hymns) เพลงโมเทต (motet) ดนตรีประกอบบทภาวนาของพระนางมารีย์ (Magnificat) เพลงมิซซา (mass) และดนตรีสำหรับบทภาวนาวันแห่งพระพิโรธ (Dies Irae) สำหรับใช้ในงานศพ หลุยส์ โฌแซ็ฟ ดยุคแห่งกีซ (Louis Joseph, Duke of Guise) หลานของดัชเชส ทั้งยังมีออราทอริโอในลีลาอิตาลีที่มีบทร้องภาษาละตินที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาอีกหลายเรื่อง ในทศวรรษ ค.ศ. 1670 งานส่วนใหญ่ของชาร์ป็องตีเยประพันธ์ขึ้นสำหรับนักร้อง 3 คน ซึ่งมักใช้สตรี 2 คน และเสียงเบสอีก 1 เสียง ขับร้องไปกับการบรรเลงที่ใช้เครื่องดนตรีเสียงกลาง 2 ชิ้น และเครื่องดนตรีเดินแนวเบสต่อเนื่องอีก 1 ชิ้น แต่หากการแสดงดนตรีเกิดขึ้นในโบสถ์ที่มีแต่ศาสนิกที่เป็นบุรุษ ดนตรีก็จะเปลี่ยนเป็นสำหรับเสียงสูงพิเศษ (haute-contre) เสียงเทเนอร์ และเสียงเบส โดยใช้เครื่องดนตรีชุดเดิม ครั้นถึงราว ค.ศ.1680 ดัชเชสแห่งกีซได้เพิ่มขนาดวงดุริยางค์ขึ้นหลายครั้ง จนในที่สุดวงของดัชเชสก็มีนักร้องนักดนตรีถึง 13 คน กับครูสอนขับร้องอีก 1 คน ในบทประพันธ์ดนตรีตั้งแต่ ค.ศ. 1684 จนถึงปลาย ค.ศ. 1687 ในขอบบนหน้าโน้ตเพลงของชาร์ป็องตีเยจะมีชื่อนักดนตรีในวงของดัชเชสแห่งกีซทุกคน รวมถึงชื่อ "ชาร์ป" ("Charp") ข้างตำแหน่งเสียงสูงพิเศษ เอเตียน ลูลีเย (Étienne Loulié) นักดนตรีอาวุโสมือคีย์บอร์ด ขลุ่ยรีคอร์เดอร์ และซอวิโอล น่าจะรับหน้าที่ฝึกสอนนักดนตรีใหม่ด้วย
แม้จะมีข้อความที่มักกล่าวอ้างว่าชาร์ป็องตีเยเป็น “ผู้อำนวยการ” วงดุริยางค์ในช่วง 17 ปีที่เขาทำงานให้ดัชเชสแห่งกีซด้วย แต่ข้อความนี้ไม่เป็นความจริง ตำแหน่งดังกล่าวเป็นของชายอีกคนหนึ่งในทำเนียบของดัชเชสชื่อ ฟีลิป กัวโบ (Philippe Goibaut) ที่เรียกกันติดปากว่านายดูว์ บัว (Monsieur Du Bois) เขาเป็นนักดนตรีสมัครเล่น นิยมชมชอบทุกสิ่งที่มาจากอิตาลี และเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาละติน ความชื่นชอบดนตรีอิตาลีของดัชเชสแห่งกีซ (เช่นเดียวกับดูว์ บัว) และงานรับรองบ่อยครั้งที่ดัชเชสจัดเป็นเกียรติแก่อาคันตุกะชาวอิตาลีผู้เดินทางผ่านมาทางกรุงปารีส ทำให้ชาร์ป็องตีเยไม่จำเป็นต้องอำพรางสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาจากกรุงโรมและกลายความเป็นอิตาลีในดนตรีของเขา
ในระยะเวลาที่ชาร์ป็องตีเยทำงานให้แก่ดัชเชสหรือนางสาวแห่งกีซ เขาก็ได้ประพันธ์ดนตรีให้แก่มาดาม เดอ กีซ (Mme de Guise) พระญาติสนิทของสมเด็จพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วย บารมีของมาดาม เดอ กีซนี่เองที่เป็นเกราะคุ้มภัยให้แก่วงดุริยางค์ของดัชเชส ทำให้วงสามารถจัดการแสดงอุปรากรเล็กของชาร์ป็องตีเยอยู่ได้อย่างท้าทายการผูกขาดของคีตกวีราชสำนัก ฌ็อง-บาติสต์ ลูว์ลี อุปรากรและเพลงปัสตอราลของชาร์ป็องตีเยที่แสดงเป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งประพันธ์ขึ้นในช่วง ค.ศ. 1684 ถึง 1687 ส่วนใหญ่น่าจะเป็นงานที่ว่าจ้างโดยมาดาม เดอ กีซ สำหรับจัดแสดงในพระราชวังในฤดูหนาว แต่ดัชเชสแห่งกีซต้องได้นำบทประพันธ์เหล่านี้ไปจัดแสดงในงานรื่นเริงที่จัดขึ้นสัปดาห์ละหลายครั้งที่ทำเนียบอันอลังการของนางในกรุงปารีสด้วยอย่างแน่นอน
ถึงปลาย ค.ศ. 1687 สุขภาพของดัชเชสแห่งกีซทรุดโทรมลงมาก ในช่วงนั้นชาร์ป็องตีเยได้ย้ายไปทำงานในคณะเยสุอิต เขาไม่มีชื่อปรากฏในพินัยกรรมของดัชเชสเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1688 ทั้งไม่ปรากฏในเอกสารมรดกใด ๆ จึงเป็นหลักฐานอันหนักแน่นว่าดัชเชสได้สมนาคุณแก่คีตกวีผู้จงรักแล้ว และอนุญาตให้เขาออกไปหางานใหม่ได้
ตลอดเวลากว่า 17 ปีที่ชาร์ป็องตีเยทำงานที่คฤหาสกีซ เขามีงานดนตรีนอกเหนือจากที่ประพันธ์ให้กับดัชเชสแห่งเดอกีซอีกเป็นจำนวนเกือบเท่ากับงานในหน้าที่ ซึ่งเขาเก็บสำเนาไว้ในสมุดบันทึกของเขาอย่างสม่ำเสมอ โดยลงลำดับเป็นพิเศษด้วยเลขโรมัน ตัวอย่างหนึ่งคือหลังจากมอลีแยร์ นักประพันธ์บทละครผู้ยิ่งใหญ่ ตัดไมตรีกับฌ็อง-บาติสต์ ลูว์ลีเมื่อ ค.ศ. 1672 ชาร์ป็องตีเยก็เริ่มรับงานประพันธ์ดนตรีประกอบละครพูดของมอลีแยร์ ความจริงงานประพันธ์เพลงสำหรับละครเรื่อง Le Malade imaginaire ได้มอบหมายให้แก่ดาซูซี (Dassoucy) แต่แรงกดดันจากดัชเชสแห่งกีซและมาดาม เดอ กีซน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มอลีแยร์บอกเลิกความตกลงกับดาซูซีแล้วโอนงานมาให้ชาร์ป็องตีเยแทน และหลังจากมรณกรรมของมอลีแยร์ใน ค.ศ. 1673 ชาร์ป็องตีเยก็ยังประพันธ์ดนตรีให้กับผู้สืบทอดของมอลีแยร์ ได้แก่ตอมา กอร์แนย์ (Thomas Corneille) และฌ็อง ดนโน เดอ วีเซ (Jean Donneau de Visé) อย่างต่อเนื่อง ในละครแต่ละเรื่อง ชาร์ป็องตีเยได้ประพันธ์ดนตรีที่ต้องใช้นักดนตรีจำนวนมากกว่าที่กำหนดไว้ในคำสั่งผูกขาดดนตรีเพื่อการละครของลูว์ลี ครั้นถึง ค.ศ. 1685 คณะละครจำต้องหยุดการละเมิดคำสั่งดังกล่าว ทำให้งานประพันธ์ดนตรีประกอบละครพูดต้องสิ้นสุดลงโดยปริยายสำหรับชาร์ป็องตีเย
ใน ค.ศ. 1679 ชาร์ป็องตีเยได้รับเลือกให้ประพันธ์ดนตรีถวายแด่พระราชบุตรของสมเด็จพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้ดำรงตำแหน่งรัชทายาท งานประพันธ์ส่วนใหญ่เป็นเพลงศาสนาสำหรับโรงสวดส่วนพระองค์ คือเพลงสวดสำหรับวงขนาดเล็ก ผู้ขับร้องเป็นนักร้องของราชสำนัก ได้แก่สองพี่น้องสตรีสกุลเปียช ร่วมกับนักร้องเสียงเบสชื่อฟรีซง นักดนตีคือพี่น้องบุรุษสกุลเปียช เท่ากับว่าหากดัชเชสแห่งกีซอนุญาต วงของรัชทายาทก็สามารถบรรเลงเพลงที่ชาร์ป็องตีเยประพันธ์ในคฤหาสน์กีซได้ เมื่อต้น ค.ศ. 1683 ซึ่งชาร์ป็องตีเยเริ่มได้รับบำนาญหลวง เขาก็ได้รับมอบหมายให้ประพันธ์ดนตรีสำหรับโอกาสต่าง ๆ ในราชสำนัก เช่นการแห่ประจำปีในวันวันสมโภชพระคริสตวรกาย (Corpus Christi) แต่ถึงเดือนเมษายนของปีนั้น อาการป่วยของชาร์ป็องตีเยทำให้เขาต้องถอนตัวจากการสมัครเข้าชิงตำแหน่งรองผู้ดูแลโบสถ์หลวง ข้อสันนิษฐานที่ว่าเขาถอนตัวเพราะรู้อยู่แล้วว่าจะไม่ได้ตำแหน่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ดูจากสมุดบันทึกโน้ตเพลงของเขา ซึ่งไม่มีการเขียนข้อความใดเลยในช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคมของปีนั้น นับเป็นหลักฐานหนักแน่นว่าเขาป่วยเกินกว่าจะทำงาน
จากปลาย ค.ศ. 1687 ถึงต้น ค.ศ. 1698 ชาร์ป็องตีเยทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการตนตรีให้แก่คณะเยสุอิต เริ่มจากที่วิทยาลัยหลุยส์-เลอ-กร็อง (Louis-le-Grand) (เขาประพันธ์ดนตรีเรื่องดาวีกับฌอนาตา (David et Jonathas)) และที่โบสถ์แซ็ง-หลุยส์ ริมถนนแซ็ง-อ็องตวนใกล้อาราม (professed house) ของคณะเยสุอิตในเวลาต่อมา ครั้นย้ายไปโบสถ์แซ็ง-หลุยส์แล้ว ชาร์ป็องตีเยก็เลิกประพันธ์ออราทอริโอ หันไปมุ่งประพันธ์ดนตรีประกอบบทเพลงสดุดีและคำประพันธ์ทางศาสนาบทอื่น งานประพันธ์ของเขาที่โบสถ์แซ็ง-หลุยส์มักเป็นดนตรีสำหรับวงดุริยางค์ขนาดใหญ่ ใช้นักร้องที่ว่าจ้างมาจากคณะอุปรากรหลวง นอกจากนั้น ชาร์ป็องตีเยยังรับช่วงต่อจากเอเตียน ลูลีเย (Étienne Loulié) ในฐานะครูดนตรีของด้วย
ชาร์ป็องตีเยได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการตนตรีของโบสถ์แซ็งต์-ชาแปล กรุงปารีส เมื่อ ค.ศ. 1698 ซึ่งเป็นตำแหน่งในราชสำนัก เขาอยู่ในตำแหน่งนี้จนถึงแก่กรรมเมื่อ ค.ศ. 1704 บทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดบทหนึ่งในช่วงนี้ได้แก่ Mass Assumpta Est Maria (H. 11) การที่บทประพันธ์ชิ้นนี้เหลือรอดอยู่ได้แปลว่าชาร์ป็องตีเยประพันธ์ดนตรีนี้ให้แก่อีกหน่วยงานหนึ่งซึ่งสามารถเรียกใช้และให้ค่าตอบแทนแก่นักดนตรีของโบสถ์ได้ เพราะในกรณีนอกเหนือจากบทประพันธ์นี้ ไม่มีงานของชาร์ป็องตีเยในช่วง ค.ศ. 1690 ถึง ค.ศ. 1704 ชิ้นใดที่หลงเหลืออยู่เลย เนื่องจากหลังมรณกรรมของผู้อำนวยการตนตรี เจ้าหน้าที่ราชสำนักจะยึดงานประพันธ์ทุกชิ้นที่ประพันธ์ขึ้นสำหรับโบสถ์ไปหมด ชาร์ป็องตีเยถึงแก่กรรมที่โบสถ์แซ็ง-ชาแปลในกรุงปารีส และถูกฝังในสุสานขนาดเล็กมีกำแพงปิดล้อมด้านหลังที่สำหรับนักร้องประสานเสียงของโบสถ์ แต่สุสานดังกล่าวไม่มีเหลือแล้วในปัจจุบัน
เมื่อ ค.ศ. 1727 ทายาทของชาร์ป็องตีเยขายต้นฉบับโน้ต 28 เล่มที่บันทึกด้วยลายมือของเขาให้แก่หอสมุดหลวง ซึ่งกลายมาเป็นหอสมุดแห่งชาติของประเทศฝรั่งเศส (Bibliothèque nationale de France) ในปัจจุบัน โน้ตเพลงชุดนี้รู้จักกันทั่วไปในชื่อเมล็องฌ์ (Mélanges หรือ Meslanges) มีสำเนาต้นฉบับที่ตีพิมพ์เผยแพร่โดย Minkoff-France ชาร์ป็องตีเยแบ่งต้นฉบับเหล่านี้ออกเป็น 2 ชุด ชุดหนึ่งใช้เลขลำดับเป็นเลขอารบิค อีกชุดหนึ่งใช้เลขโรมัน ทั้งสองชุดจัดลำดับตามวันเดือนปีที่ประพันธ์ ต้นฉบับของชาร์ป็องตีเยและลายน้ำบนกระดาษโน้ตเพลงไม่เพียงช่วยให้ผู้ศึกษาผลงานของเขาสามารถกำหนดวันที่ของงานดนตรีแต่ละชิ้น แต่ยังบอกได้ด้วยว่าบางชิ้นประพันธ์ขึ้นเพื่อใช้ในโอกาสใดบ้าง
ดนตรี ลีลา และอิทธิพล
งานประพันธ์ดนตรีของชาร์ป็องตีเยมีทั้งออราทอริโอ มิซซา อุปรากร และงานดนตรีเบ็ดเตล็ดอีกจำนวนมากที่ยากต่อการจัดเข้าหมวดหมู่ งานดนตรีสำหรับเสียงร้องหนึ่งหรือสองเสียงกับเครื่องดนตรีดูคล้ายกับเพลงคันตาตาแบบอิตาลีในยุคนั้นมาก คือเหมือนกันในทุกแง่มุมยกเว้นชื่อ ชาร์ป็องตีเยเรียกงานประพันธ์ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสว่า air sérieux หรือ air à boire และงานแบบเดียวกันที่ใช้ภาษาอิตาลีว่าคันตาตา
ชาร์ป็องตีเยไม่เพียงสร้างผลงานใน "ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน" ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อ "วิวัฒนาการของภาษาดนตรี ในจุดที่วิธีปฏิบัติของดนตรีโบราณ และปรากฏการณ์ใหม่อันได้แก่แนวเสียงประสานที่เข้าคู่อย่างกลมกลืน มีความเท่าเทียมกัน และช่วยให้อีกฝ่ายหนึ่งรุ่มรวยขึ้นด้วย" (จาก กาทริน เซซัก, มาร์ก-อ็องตวน ชาร์ป็องตีเย, ฉบับพิมพ์ ค.ศ. 2004, น. 464) เขายังเป็นนักทฤษฎีที่มีผู้นิยมนับถือด้วย เมื่อต้นทศวรรษ ค.ศ. 1680 เขาได้วิเคราะห์เสียงประสานในมิซซาที่ใช้กลุ่มประสานเสียงจำนวนมากของคีตกวีชาวโรมันชื่อฟรันเชสโก เบเรตตา (Francesco Beretta) (Bibliothèque nationale de France, Ms. Réserve VM1 260, fol. 55–56) ราว ค.ศ. 1691 เขาได้เขียนคู่มือสำหรับใช้ในการสอนดนตรีให้แก่ฟีลิปแห่งออร์เลอ็อง ผู้เป็นดยุกแห่งชาทร์ ต่อมาเขาได้ปรับปรุงเพิ่มเนื้อหาในคู่มือดังกล่าวเมื่อ ค.ศ. 1693 คู่มือทั้งสองรุ่นมีตกทอดมาถึงปัจจุบันผ่านเอเตียน ลูลีเย เพื่อนร่วมงานของชาร์ป็องตีเย ลูลีเยเรียกคู่มือเล่มหนึ่งว่า กฎการประพันธ์ดนดรีโดยนายชาร์ป็องตีเย (Règles de Composition par Monsieur Charpentier) และเรียกอีกเล่มหนึ่งว่า ส่วนเสริมจากฉบับต้นของดยุคแห่งชาทร์ (Augmentations tirées de l’original de Mr le duc de Chartres) (Bibliothèque nationale de France, ms. n.a. fr. 6355, fols. 1–16)
ในหน้ากระดาษเปล่าของคู่มือฉบับส่วนเสริม ลูลีเยได้จดหัวข้อซึ่งชาร์ป็องตีเยเขียนไว้ในตำราอีกเล่มหนึ่ง ลูลีเยเรียกตำราเล่มนี้ว่า กฎการบรรเลงประสาน โดยนายชาร์ป็องตีเย (Règles de l’accompagnement de Mr Charpentier) ตำราทางทฤษฎีดนตรีทั้งสามเล่มนี้อยู่ในความรับรู้ของนักวิชาการมานานแล้ว ทว่ามันไม่ได้แสดงถึงวิวัฒนาการของชาร์ป็องตีเยในฐานะนักทฤษฎีอย่างชัดเจนเท่าใดนัก จนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2009 ตำราเล่มที่สี่ได้ถูกค้นพบในคลังหนังสือโบราณของห้องสมุดลิลลี (Lilly Library) ที่มหาวิทยาลัยอินเดียนา เมืองบลูมิงตัน สหรัฐอเมริกา ตำราเล่มใหม่นี้เขียนขึ้นด้วยลายมือของชาร์ป็องตีเยเองในช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายของ ค.ศ. 1698 มีเลขลำดับแบบโรมันว่า XLI เท่ากับว่านี่เป็นตำราลำดับที่ 41 ในชุดซึ่งนักวิชาการผู้ศึกษาเรื่องของชาร์ป็องตีเยไม่เคยรู้มาก่อน นับเป็นชุดตำราที่ผลิตออกมาตลอดเวลาเกือบสองทศวรรษ ตั้งแต่ต้นทศวรรษ ค.ศ. 1680 ถึง ค.ศ. 1698
ความเชื่อมโยงกับปัจจุบัน
ตอนต้นของเพลง Te Deum, H. 146 เป็นดนตรีในรูปแบบรอนโด ซึ่งสหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป (European Broadcasting Union) ใช้เป็นทำนองนำเวลาเปิดรายการเช่น การประกวดเพลงยูโรวิชัน เพลงเดียวกันนี้ถูกนำไปใช้ในสารคดีกีฬาโอลิมปิกของบัด กรีนสแปน (Bud Greenspan)
ผลงานของชาร์ป็องตีเย
งานประพันธ์ดนตรีของชาร์ป็องตีเยได้รับการจัดทำบัญชีรายชื่อโดยฮิว ไวลีย์ ฮิตช์คอก (Hugh Wiley Hitchcock) ในหนังสือ งานของมาร์ก-อ็องตวน ชาร์ป็องตีเย : รายการเชิงพรรณนา (Les œuvres de Marc-Antoine Charpentier: Catalogue Raisonné, (Paris: Picard, 1982)) ของเขา คีตนิพนธ์ของชาป็องเตียจะถูกอ้างอิงโดยใช้เลขลำดับของฮิตช์คอก หรือ H รายชื่อต่อไปนี้เป็นตัวอย่างผลงานคีตนิพนธ์ของเขา ไม่ใช่ผลงานทั้งหมดในแต่ละประเภทดนตรี
อุปรากร
- Les amours d'Acis et Galatée, Lost, 1678?
- Les arts florissants, H. 487, 1685–86
- La descente d'Orphée aux enfers, H. 488; 1686–87
- Le jugement de Pâris, (1690)
- Philomèle, lost, 1690
- Médée, H. 491; 1693
โศกนาฏกรรมจากพระคัมภีร์
- Celse Martyr, Music lost; P. Bretonneau's libretto published in 1687.
- David et Jonathas, H. 490, 1688. (Libretto by P. Bretonneau.)
Pastorales
- Petite pastorale eglogue de bergers, H. 479; October 1676
- Actéon, H. 481; 1684
- Il faut rire et chanter: Dispute de Bergers, H. 484; 1685
- La fête de Ruel, H. 485; 1685
- La couronne de fleurs, H. 486; 1685
- Le retour de printemps, Lost.
- Cupido perfido dentr'al mio cor
Pastoraletta
- Amor vince ogni cosa, H. 492
ดนตรีประกอบการแสดงละคร
- Les Fâcheux, 1672. Music lost (if indeed Charpentier did more than simply conduct the play a few times, as the records of the Comédie Française suggest), comedy by Molière.
- La comtesse d'Escarbagnas, H. 494; 1672 (comedy by Molière.)
- Le médecin malgré lui, four airs survive, date uncertain. (comedy by Molière)
- L'Inconnu, music lost; 1675 ("galant play" by Donneau de Visé and Thomas Corneille)
- Circé, H. 496; 1675. (tragedy with machines by Thomas Corneille; divertissements by Donneau de Visé)
- Ouverture du prologue de l'Inconnu, H. 499; a reworking of the prologue d'Acis et Galathée, an opera written for M. de Riants in 1679
- Andromède, H. 504; 1682 (tragedy with machines by Pierre Corneille)
- Vénus et Adonis, H. 507; 1685 (a play with machines, by Donneau de Visé)
บัลเลต์เบาสมอง
- Le mariage forcé (comedy by Molière,1672)
- Le malade imaginaire (comedy with machines by Molière, 1673)
- Le sicilien (for the comedy by Molière reworked in 1679)
บัลเลต์
- Polyeucte, H. 498 (music for a performance of Pierre Corneille's play at the Collège d'Harcourt, 1679)
Divertissements
- Les plaisirs de Versailles, H. 480; 1682
- Idylle sur le retour de la santé du roi, H. 489; 1687
Interludes (Intermèdes)
- Le triomphe des dames (1676)
- La pierre philosophale (1681)
- Endymion (1681)
- Dialogues d'Angélique et de Médor (1685)
โซนาตา
- Sonate à huit (H.548)
ดนตรีศาสนา
- Messe (H. 1)
- Messe Pour Mr. Mauroy (H. 6)
- Extremum Dei judicium (H. 401)
- Messe de minuit pour noël (H. 9, c. 1690)
- Missa assumpta est Maria (H. 11, 1698–1702)
- Litanies de la vierge (H. 83, 1683–1685)
- Te Deum (H. 146, c. 1690)
- Dixit Dominus (H. 204)
- In nativitatem Domini canticum (H. 416)
- Méditations pour le Carême (H.380-389)
- Noëls (3) (H. 531 c. 1680)
- Noëls pour les instruments (H. 534, c. 1690)
- Precatio pro filio regis (Offertory) (H. 166)
- Panis quem ego dabo (Elevation) (H. 275)
บรรณานุกรม
ชีวประวัติ
- Cessac, Catherine. Marc-Antoine Charpentier. Translated from the French ed. (Paris 1988) by E. Thomas Glasow. Portland (Oregon): Amadeus Press, 1995.
- Cessac, Catherine, ed., Marc-Antoine Charpentier, un musicien retrouvé (Sprimont: Mardaga, 2005), a collection of pioneering works originally disseminated in the Bulletin Charpentier, 1989–2003. The bulk of the articles deal with his life and works: his family and its origins, Italy and Italianism at the Hôtel de Guise, his work for the Jesuits, the sale of his manuscripts, plus background information about specific works.
- Cessac, Catherine, ed., Les Manuscrits autographes de Marc-Antoine Charpentier (Wavre: Mardaga, n.d.), papers presented at the conference held at Versailles, 2004. The articles in this volume focus primarily on what scholars can deduce from the 28 autograph volumes that contain his compositions.
- Ranum, Patricia M. "A Sweet Servitude: A musician's life at the court of Mlle de Guise," Early Music, 15 (1987), pp. 347–60.
- Ranum, Patricia M. "Lully Plays Deaf: Rereading the Evidence on his Privilege," in John Hajdu Heyer, ed., Lully Studies (Cambridge, UK: Cambridge University Press, 2000), pp. 15–31, which focuses on Charpentier's powerful contacts.
- Ranum, Patricia M. (2004). Portraits Around Marc-Antoine Charpentier. Baltimore: Dux Femina Facti. ISBN .
ประวัติศาสตร์ดนตรีและทฤษฎีดนตรี
- Anthony, James R. French Baroque Music: From Beaujoyeulx to Rameau. Revised and expanded edition. Portland (Oregon): Amadeus Press, 1997.
- Hitchcock, H.W. Les Œuvres de Marc-Antoine Charpentier: Catalogue Raisonné. Paris: Picard, 1982.
- Thomas, Downing A. Aesthetics of Opera in the Ancien Régime, 1647–1785. Cambridge (UK): Cambridge University Press, 2002.
- Tunley, David. The Eighteenth-Century French Cantata. 2nd edition. Oxford (UK): Clarendon Press Oxford University Press, 1997.
อ้างอิง
- For this representation, see François Filiatrault, "Un menuet de Charpentier sur un almanach royal," and Patricia M. Ranum, "Un portrait présumé de Marc-Antoine Charpentier," both in Catherine Cessac, ed., Marc-Antoine Charpentier, un musicien retrouvé (Sprimont: Mardaga, 2005), pp. 8–23
- "His Birth Year". Ranumspanat.com. สืบค้นเมื่อ 2014-08-14.
- For his family, see Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier (Baltimore, 2004) pp. 517–23
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-03. สืบค้นเมื่อ 2015-10-01.
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 525–33; and Jean Lionnet, "Charpentier à Rome, in Catherine Cessac, ed., Marc-Antoine Charpentier, un musicien retrouvé (Sprimont: Mardaga, 2005), pp. 74–84
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 533ff; Patricia M. Ranum, "Le mécénat musical de Mademoiselle de Guise (1670–1688), in Yvonne Bellenger, ed., Le Mécénat et l'influence des Guises (Paris: Champion, 1997), pp. 613–38; Patricia M. Ranum, "Mademoiselle de Guise, ou les défis de la quenouille," XVIIe Siècle (1984), pp. 221–32
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 377–78, 426–54, 536–80
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 401-403
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 190–201, 552ff.
- Patricia M. Ranum, "A Sweet Servitude: A Musician's life at the Court of Mlle de Guise", Early Music, 15 (1987), pp. 346–60; and Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 190–201
- Patricia M. Ranum, "Un 'foyer d'italianisme' chez les Guises: Quelques réflexions sur les oratorios de Charpentier," in Catherine Cessac, ed., Marc-Antoine Charpentier, un musicien retrouvé (Sprimont: Mardaga, 2005), pp. 85-109
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 419–25, 574–80; Patricia M. Ranum, "Lully Plays Deaf: Rereading the evidence on his privilege," in John Hajdu Heyer, ed., Lully Studies (Cambridge: Cambridge University Press, 2000), pp. 15–31
- "New Portrait". Ranumspanat.com. สืบค้นเมื่อ 2014-08-14.
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 141–49, 170–76, 177–88, 546–48; John S. Powell, "Les conditions de représentation au théâtre Guénégud et à la Comédie-Française d'après les Mélanges," in Catherine Cessac, ed., Les manuscrits autographes de Marc-Antoine Charpentier (Wavre: Mardaga, 2007), pp. 271–86
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 300–317
- Érik Kocevar, "L'orgue du collège Louis-le-Grand ... à la lumière d'un marché d'orgues inédit," Recherches, 31 (2004-2007), pp. 165–180
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 227–40; Patricia M. Ranum, "Marc-Antoine Charpentier compositeur pour les Jésuites (1687–1698)," in Catherine Cessac, ed., Marc-Antoine Charpentier, un musicien retrouvé (Sprimont: Mardaga, 2005) pp. 231–46
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp.324–27
- Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 241–50
- Patricia M. Ranum, Vers une chronologie des Œuvres de Marc-Antoine Charpentier (Baltimore, 1994); Patricia M. Ranum, Portraits around Marc-Antoine Charpentier, pp. 81–88; Patricia M. Ranum, "Meslanges, Mélanges, Cabinet, Recueil, Ouvrages: L'entrée des manuscrits de Marc-Antoine Charpentier à la Bibliothèque du roi," in Catherine Cessac, ed., Marc-Antoine Charpentier, un musicien retrouvé (Sprimont: Mardaga, 2005), pp. 141–54.
- "A newly identified autograph tre". Ranumspanat.com. 2013-05-09. สืบค้นเมื่อ 2014-08-14.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Free scores by Marc-Antoine Charpentier in the Choral Public Domain Library (ChoralWiki)
- โน้ตเพลงเสรีของ Marc-Antoine Charpentier ที่โครงการห้องสมุดดนตรีนานาชาติ (IMSLP)
- Charpentier, musicien du Baroque, a site in memory of the 300th anniversary of the composer's death
- Te Deum's Prelude in houndbite.com
- John Powell, editions (accompanied by discussions) of some of Charpentier's works 2015-10-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Free scores at the Mutopia Project
- New Perspectives on Marc-Antoine Charpentier ที่ Google Books (edited by Shirley Thompson; Ashgate Publishing, 2010)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mark xxngtwn charpxngtiey frngess Marc Antoine Charpentier kh s 1643 24 kumphaphnth kh s 1704 epnkhitkwichawfrngessinyukhbarxkphaphaekaslkemux kh s 1682 cakhnngsux Almanach Royal sungechuxknwaepnrupkhxngcharpxngtiey charpxngtieypraphnthngandntrikhunphaphsunghlakpraephthiwepncanwnmak thiednthisudkhuxdntrisasnasahrbkhbrxng sungkhwamechiywchayinkarpraphnthkhxngekhaepnthiyxmrbaelaykyxnginhmukhitkwiinyukhediywkn mikhitkwichawfrngessxikkhnhnungthimichuxesiynginchwngplaykhriststwrrsthi 19 thungtnkhriststwrrsthi 20 chuxkustafw charpxngtiey aetthngsxngkhnimnacamikhwamsmphnththangkhrxbkhrwknelyprawticharpxngtieyekidinkrungparishruxinphunthiiklekhiyng ekhaepnbutrkhxngxalksnkhnsakhyphumikhwamsmphnthxndikbkhrxbkhrwphuthrngxiththiphlinsalxuththrnaehngparis mark xxngtwnidrbkarsuksathidimak sungxacxyuinkhwamduaelakhxngbathhlwngkhnaeysuxit aelasmkhrekhaeriyninorngeriynkdhmayemuxxayuid 18 pi aeteriynidephiyngphakhkarsuksaediywklaxxk ekhaichewla sxngsampi inkrungorm nacarahwang kh s 1667 thung 1669 epnsisykhxngcaokom karissimi aelaepnthithrabknwaekhaidtidtxkbkwi nkdntrichuxcharl kwop dasusi Charles Coypeau d Assoucy phukalngpraphnthdntriihaeksthanexkxkhrrachthutfrngessinkrungorm mikhaelaluxwainebuxngaerkcharpxngtieyedinthangipkrungormephuxsuksacitrkrrmkxnidphbkbkarissimi eruxngniimmikarcdbnthuk aelanacaimepnkhwamcring ephraaintnchbbontdntrithiekhiyndwylaymuxkhxngekhathng 28 elmnn aemcaaesdngthungkhwamchanayinkarwadlayxahrbsungniymkninhmuxalksnxachiph thwaimmielmidelythimiphaphwad aemephiyngphaphrangxyangngaykimmi aetimwacharpxngtieycaipkrungormephuxeriynxair ekhakideriynrukhnbdntrikhxngxitaliinyukhnnxyangluksungaelanatidtwklbipfrngessdwy thnthithicharpxngtieyklbthungfrngess ekhanacaiderimnganinthanakhitkwipracabanihaekmari edx lxaern dchechsaehngkis Marie de Lorraine duchesse de Guise sungeriykknthwipwanangsawaehngkis dchechsidmxbhxngepnsdswninkhvhasnkis Hotel de Guise thiephingburnaesrcihm ihaekcharpxngtiey khwamkhxniepnhlkthansakhythiaesdngwacharpxngtieyimidepnephiyngkhnrbichthihlbnxninsxkhlubkhxngthaeniybxnyingihy aetepnchawwngphuxasyinhxngchudhruthithakhunihmthangpikkhxkma inhwngewla 17 pinbcaknn charpxngtieyidpraphnthdntrisahrbkarkhbrxnghlaychinihaekdchechsaehngkis echndntrisahrbephlngsdudi Psalm ephlngswd hymns ephlngometht motet dntriprakxbbthphawnakhxngphranangmariy Magnificat ephlngmissa mass aeladntrisahrbbthphawnawnaehngphraphiorth Dies Irae sahrbichinngansph hluys ochaesf dyukhaehngkis Louis Joseph Duke of Guise hlankhxngdchechs thngyngmixxrathxrioxinlilaxitalithimibthrxngphasalatinthiimekiywkbsasnaxikhlayeruxng inthswrrs kh s 1670 nganswnihykhxngcharpxngtieypraphnthkhunsahrbnkrxng 3 khn sungmkichstri 2 khn aelaesiyngebsxik 1 esiyng khbrxngipkbkarbrrelngthiichekhruxngdntriesiyngklang 2 chin aelaekhruxngdntriedinaenwebstxenuxngxik 1 chin aethakkaraesdngdntriekidkhuninobsththimiaetsasnikthiepnburus dntrikcaepliynepnsahrbesiyngsungphiess haute contre esiyngethenxr aelaesiyngebs odyichekhruxngdntrichudedim khrnthungraw kh s 1680 dchechsaehngkisidephimkhnadwngduriyangkhkhunhlaykhrng cninthisudwngkhxngdchechskminkrxngnkdntrithung 13 khn kbkhrusxnkhbrxngxik 1 khn inbthpraphnthdntritngaet kh s 1684 cnthungplay kh s 1687 inkhxbbnhnaontephlngkhxngcharpxngtieycamichuxnkdntriinwngkhxngdchechsaehngkisthukkhn rwmthungchux charp Charp khangtaaehnngesiyngsungphiess exetiyn luliey Etienne Loulie nkdntrixawuosmuxkhiybxrd khluyrikhxredxr aelasxwioxl nacarbhnathifuksxnnkdntriihmdwy aemcamikhxkhwamthimkklawxangwacharpxngtieyepn phuxanwykar wngduriyangkhinchwng 17 pithiekhathanganihdchechsaehngkisdwy aetkhxkhwamniimepnkhwamcring taaehnngdngklawepnkhxngchayxikkhnhnunginthaeniybkhxngdchechschux filip kwob Philippe Goibaut thieriykkntidpakwanayduw bw Monsieur Du Bois ekhaepnnkdntrismkhreln niymchmchxbthuksingthimacakxitali aelaepnphuechiywchayphasalatin khwamchunchxbdntrixitalikhxngdchechsaehngkis echnediywkbduw bw aelanganrbrxngbxykhrngthidchechscdepnekiyrtiaekxakhntukachawxitaliphuedinthangphanmathangkrungparis thaihcharpxngtieyimcaepntxngxaphrangsingthiekhaideriynrumacakkrungormaelaklaykhwamepnxitaliindntrikhxngekha inrayaewlathicharpxngtieythanganihaekdchechshruxnangsawaehngkis ekhakidpraphnthdntriihaekmadam edx kis Mme de Guise phrayatisnithkhxngsmedcphraecahluysthi 14 dwy barmikhxngmadam edx kisniexngthiepnekraakhumphyihaekwngduriyangkhkhxngdchechs thaihwngsamarthcdkaraesdngxuprakrelkkhxngcharpxngtieyxyuidxyangthathaykarphukkhadkhxngkhitkwirachsank chxng batist luwli xuprakraelaephlngpstxralkhxngcharpxngtieythiaesdngepnphasafrngesssungpraphnthkhuninchwng kh s 1684 thung 1687 swnihynacaepnnganthiwacangodymadam edx kis sahrbcdaesdnginphrarachwnginvduhnaw aetdchechsaehngkistxngidnabthpraphnthehlaniipcdaesdnginnganruneringthicdkhunspdahlahlaykhrngthithaeniybxnxlngkarkhxngnanginkrungparisdwyxyangaennxn phaphehmuxnthikhnphbihm milaymuxcitrkrthibxkwaepnphaphkhxngcharpxngtiey aetwadkhunthihlnginraw kh s 1750 thungplay kh s 1687 sukhphaphkhxngdchechsaehngkisthrudothrmlngmak inchwngnncharpxngtieyidyayipthanganinkhnaeysuxit ekhaimmichuxpraktinphinykrrmkhxngdchechsemuxeduxnminakhm kh s 1688 thngimpraktinexksarmrdkid cungepnhlkthanxnhnkaennwadchechsidsmnakhunaekkhitkwiphucngrkaelw aelaxnuyatihekhaxxkiphanganihmid tlxdewlakwa 17 pithicharpxngtieythanganthikhvhaskis ekhamingandntrinxkehnuxcakthipraphnthihkbdchechsaehngedxkisxikepncanwnekuxbethakbnganinhnathi sungekhaekbsaenaiwinsmudbnthukkhxngekhaxyangsmaesmx odylngladbepnphiessdwyelkhormn twxyanghnungkhuxhlngcakmxliaeyr nkpraphnthbthlakhrphuyingihy tdimtrikbchxng batist luwliemux kh s 1672 charpxngtieykerimrbnganpraphnthdntriprakxblakhrphudkhxngmxliaeyr khwamcringnganpraphnthephlngsahrblakhreruxng Le Malade imaginaire idmxbhmayihaekdasusi Dassoucy aetaerngkddncakdchechsaehngkisaelamadam edx kisnacaepnsaehtusakhythithaihmxliaeyrbxkelikkhwamtklngkbdasusiaelwoxnnganmaihcharpxngtieyaethn aelahlngcakmrnkrrmkhxngmxliaeyrin kh s 1673 charpxngtieykyngpraphnthdntriihkbphusubthxdkhxngmxliaeyr idaektxma kxraeny Thomas Corneille aelachxng dnon edx wies Jean Donneau de Vise xyangtxenuxng inlakhraetlaeruxng charpxngtieyidpraphnthdntrithitxngichnkdntricanwnmakkwathikahndiwinkhasngphukkhaddntriephuxkarlakhrkhxngluwli khrnthung kh s 1685 khnalakhrcatxnghyudkarlaemidkhasngdngklaw thaihnganpraphnthdntriprakxblakhrphudtxngsinsudlngodypriyaysahrbcharpxngtiey in kh s 1679 charpxngtieyidrbeluxkihpraphnthdntrithwayaedphrarachbutrkhxngsmedcphraecahluysthi 14 phudarngtaaehnngrchthayath nganpraphnthswnihyepnephlngsasnasahrborngswdswnphraxngkh khuxephlngswdsahrbwngkhnadelk phukhbrxngepnnkrxngkhxngrachsank idaeksxngphinxngstriskulepiych rwmkbnkrxngesiyngebschuxfrisng nkdntikhuxphinxngburusskulepiych ethakbwahakdchechsaehngkisxnuyat wngkhxngrchthayathksamarthbrrelngephlngthicharpxngtieypraphnthinkhvhasnkisid emuxtn kh s 1683 sungcharpxngtieyerimidrbbanayhlwng ekhakidrbmxbhmayihpraphnthdntrisahrboxkastang inrachsank echnkaraehpracapiinwnwnsmophchphrakhristwrkay Corpus Christi aetthungeduxnemsaynkhxngpinn xakarpwykhxngcharpxngtieythaihekhatxngthxntwcakkarsmkhrekhachingtaaehnngrxngphuduaelobsthhlwng khxsnnisthanthiwaekhathxntwephraaruxyuaelwwacaimidtaaehnngidrbkarphisucnaelwwaepnipimid ducaksmudbnthukontephlngkhxngekha sungimmikarekhiynkhxkhwamidelyinchwngeduxnemsaynthungsinghakhmkhxngpinn nbepnhlkthanhnkaennwaekhapwyekinkwacathangan cakplay kh s 1687 thungtn kh s 1698 charpxngtieythahnathiepnphuxanwykartntriihaekkhnaeysuxit erimcakthiwithyalyhluys elx krxng Louis le Grand ekhapraphnthdntrieruxngdawikbchxnata David et Jonathas aelathiobsthaesng hluys rimthnnaesng xxngtwniklxaram professed house khxngkhnaeysuxitinewlatxma khrnyayipobsthaesng hluysaelw charpxngtieykelikpraphnthxxrathxriox hnipmungpraphnthdntriprakxbbthephlngsdudiaelakhapraphnththangsasnabthxun nganpraphnthkhxngekhathiobsthaesng hluysmkepndntrisahrbwngduriyangkhkhnadihy ichnkrxngthiwacangmacakkhnaxuprakrhlwng nxkcaknn charpxngtieyyngrbchwngtxcakexetiyn luliey Etienne Loulie inthanakhrudntrikhxngdwy charpxngtieyidrbkaraetngtngepnphuxanwykartntrikhxngobsthaesngt chaaepl krungparis emux kh s 1698 sungepntaaehnnginrachsank ekhaxyuintaaehnngnicnthungaekkrrmemux kh s 1704 bthpraphnththimichuxesiyngthisudbthhnunginchwngniidaek Mass Assumpta Est Maria H 11 karthibthpraphnthchinniehluxrxdxyuidaeplwacharpxngtieypraphnthdntriniihaekxikhnwynganhnungsungsamartheriykichaelaihkhatxbaethnaeknkdntrikhxngobsthid ephraainkrninxkehnuxcakbthpraphnthni immingankhxngcharpxngtieyinchwng kh s 1690 thung kh s 1704 chinidthihlngehluxxyuely enuxngcakhlngmrnkrrmkhxngphuxanwykartntri ecahnathirachsankcayudnganpraphnththukchinthipraphnthkhunsahrbobsthiphmd charpxngtieythungaekkrrmthiobsthaesng chaaeplinkrungparis aelathukfnginsusankhnadelkmikaaephngpidlxmdanhlngthisahrbnkrxngprasanesiyngkhxngobsth aetsusandngklawimmiehluxaelwinpccubn emux kh s 1727 thayathkhxngcharpxngtieykhaytnchbbont 28 elmthibnthukdwylaymuxkhxngekhaihaekhxsmudhlwng sungklaymaepnhxsmudaehngchatikhxngpraethsfrngess Bibliotheque nationale de France inpccubn ontephlngchudniruckknthwipinchuxemlxngch Melanges hrux Meslanges misaenatnchbbthitiphimphephyaephrody Minkoff France charpxngtieyaebngtnchbbehlanixxkepn 2 chud chudhnungichelkhladbepnelkhxarbikh xikchudhnungichelkhormn thngsxngchudcdladbtamwneduxnpithipraphnth tnchbbkhxngcharpxngtieyaelalaynabnkradasontephlngimephiyngchwyihphusuksaphlngankhxngekhasamarthkahndwnthikhxngngandntriaetlachin aetyngbxkiddwywabangchinpraphnthkhunephuxichinoxkasidbangdntri lila aelaxiththiphlnganpraphnthdntrikhxngcharpxngtieymithngxxrathxriox missa xuprakr aelangandntriebdetldxikcanwnmakthiyaktxkarcdekhahmwdhmu ngandntrisahrbesiyngrxnghnunghruxsxngesiyngkbekhruxngdntridukhlaykbephlngkhntataaebbxitaliinyukhnnmak khuxehmuxnkninthukaengmumykewnchux charpxngtieyeriyknganpraphnththiichphasafrngesswa air serieux hrux air a boire aelanganaebbediywknthiichphasaxitaliwakhntata charpxngtieyimephiyngsrangphlnganin yukhaehngkarepliynphan sungmikhwamsakhyyingtx wiwthnakarkhxngphasadntri incudthiwithiptibtikhxngdntriobran aelapraktkarnihmxnidaekaenwesiyngprasanthiekhakhuxyangklmklun mikhwamethaethiymkn aelachwyihxikfayhnungrumrwykhundwy cak kathrin essk mark xxngtwn charpxngtiey chbbphimph kh s 2004 n 464 ekhayngepnnkthvsdithimiphuniymnbthuxdwy emuxtnthswrrs kh s 1680 ekhaidwiekhraahesiyngprasaninmissathiichklumprasanesiyngcanwnmakkhxngkhitkwichawormnchuxfrnechsok ebertta Francesco Beretta Bibliotheque nationale de France Ms Reserve VM1 260 fol 55 56 raw kh s 1691 ekhaidekhiynkhumuxsahrbichinkarsxndntriihaekfilipaehngxxrelxxng phuepndyukaehngchathr txmaekhaidprbprungephimenuxhainkhumuxdngklawemux kh s 1693 khumuxthngsxngrunmitkthxdmathungpccubnphanexetiyn luliey ephuxnrwmngankhxngcharpxngtiey lulieyeriykkhumuxelmhnungwa kdkarpraphnthdndriodynaycharpxngtiey Regles de Composition par Monsieur Charpentier aelaeriykxikelmhnungwa swnesrimcakchbbtnkhxngdyukhaehngchathr Augmentations tirees de l original de Mr le duc de Chartres Bibliotheque nationale de France ms n a fr 6355 fols 1 16 inhnakradaseplakhxngkhumuxchbbswnesrim lulieyidcdhwkhxsungcharpxngtieyekhiyniwintaraxikelmhnung lulieyeriyktaraelmniwa kdkarbrrelngprasan odynaycharpxngtiey Regles de l accompagnement de Mr Charpentier tarathangthvsdidntrithngsamelmnixyuinkhwamrbrukhxngnkwichakarmananaelw thwamnimidaesdngthungwiwthnakarkhxngcharpxngtieyinthanankthvsdixyangchdecnethaidnk cnemuxeduxnphvscikayn kh s 2009 taraelmthisiidthukkhnphbinkhlnghnngsuxobrankhxnghxngsmudlilli Lilly Library thimhawithyalyxinediyna emuxngblumingtn shrthxemrika taraelmihmniekhiynkhundwylaymuxkhxngcharpxngtieyexnginchwngimkieduxnsudthaykhxng kh s 1698 mielkhladbaebbormnwa XLI ethakbwaniepntaraladbthi 41 inchudsungnkwichakarphusuksaeruxngkhxngcharpxngtieyimekhyrumakxn nbepnchudtarathiphlitxxkmatlxdewlaekuxbsxngthswrrs tngaettnthswrrs kh s 1680 thung kh s 1698khwamechuxmoyngkbpccubntxntnkhxngephlng Te Deum H 146 epndntriinrupaebbrxnod sungshphaphkarkracayesiyngaelaaephrphaphaehngyuorp European Broadcasting Union ichepnthanxngnaewlaepidraykarechn karprakwdephlngyuorwichn ephlngediywknnithuknaipichinsarkhdikilaoxlimpikkhxngbd krinsaepn Bud Greenspan phlngankhxngcharpxngtieynganpraphnthdntrikhxngcharpxngtieyidrbkarcdthabychiraychuxodyhiw iwliy hitchkhxk Hugh Wiley Hitchcock inhnngsux ngankhxngmark xxngtwn charpxngtiey raykarechingphrrnna Les œuvres de Marc Antoine Charpentier Catalogue Raisonne Paris Picard 1982 khxngekha khitniphnthkhxngchapxngetiycathukxangxingodyichelkhladbkhxnghitchkhxk hrux H raychuxtxipniepntwxyangphlngankhitniphnthkhxngekha imichphlnganthnghmdinaetlapraephthdntri xuprakr Les amours d Acis et Galatee Lost 1678 Les arts florissants H 487 1685 86 La descente d Orphee aux enfers H 488 1686 87 Le jugement de Paris 1690 Philomele lost 1690 Medee H 491 1693osknatkrrmcakphrakhmphir Celse Martyr Music lost P Bretonneau s libretto published in 1687 David et Jonathas H 490 1688 Libretto by P Bretonneau Pastorales Petite pastorale eglogue de bergers H 479 October 1676 Acteon H 481 1684 Il faut rire et chanter Dispute de Bergers H 484 1685 La fete de Ruel H 485 1685 La couronne de fleurs H 486 1685 Le retour de printemps Lost Cupido perfido dentr al mio corPastoraletta Amor vince ogni cosa H 492dntriprakxbkaraesdnglakhr Les Facheux 1672 Music lost if indeed Charpentier did more than simply conduct the play a few times as the records of the Comedie Francaise suggest comedy by Moliere La comtesse d Escarbagnas H 494 1672 comedy by Moliere Le medecin malgre lui four airs survive date uncertain comedy by Moliere L Inconnu music lost 1675 galant play by Donneau de Vise and Thomas Corneille Circe H 496 1675 tragedy with machines by Thomas Corneille divertissements by Donneau de Vise Ouverture du prologue de l Inconnu H 499 a reworking of the prologue d Acis et Galathee an opera written for M de Riants in 1679 Andromede H 504 1682 tragedy with machines by Pierre Corneille Venus et Adonis H 507 1685 a play with machines by Donneau de Vise bleltebasmxng Le mariage force comedy by Moliere 1672 Le malade imaginaire comedy with machines by Moliere 1673 Le sicilien for the comedy by Moliere reworked in 1679 blelt Polyeucte H 498 music for a performance of Pierre Corneille s play at the College d Harcourt 1679 Divertissements Les plaisirs de Versailles H 480 1682 Idylle sur le retour de la sante du roi H 489 1687Interludes Intermedes Le triomphe des dames 1676 La pierre philosophale 1681 Endymion 1681 Dialogues d Angelique et de Medor 1685 osnata Sonate a huit H 548 dntrisasna Messe H 1 Messe Pour Mr Mauroy H 6 Extremum Dei judicium H 401 Messe de minuit pour noel H 9 c 1690 Missa assumpta est Maria H 11 1698 1702 Litanies de la vierge H 83 1683 1685 Te Deum H 146 c 1690 Dixit Dominus H 204 In nativitatem Domini canticum H 416 Meditations pour le Careme H 380 389 Noels 3 H 531 c 1680 Noels pour les instruments H 534 c 1690 Precatio pro filio regis Offertory H 166 Panis quem ego dabo Elevation H 275 brrnanukrmchiwprawti Cessac Catherine Marc Antoine Charpentier Translated from the French ed Paris 1988 by E Thomas Glasow Portland Oregon Amadeus Press 1995 Cessac Catherine ed Marc Antoine Charpentier un musicien retrouve Sprimont Mardaga 2005 a collection of pioneering works originally disseminated in the Bulletin Charpentier 1989 2003 The bulk of the articles deal with his life and works his family and its origins Italy and Italianism at the Hotel de Guise his work for the Jesuits the sale of his manuscripts plus background information about specific works Cessac Catherine ed Les Manuscrits autographes de Marc Antoine Charpentier Wavre Mardaga n d papers presented at the conference held at Versailles 2004 The articles in this volume focus primarily on what scholars can deduce from the 28 autograph volumes that contain his compositions Ranum Patricia M A Sweet Servitude A musician s life at the court of Mlle de Guise Early Music 15 1987 pp 347 60 Ranum Patricia M Lully Plays Deaf Rereading the Evidence on his Privilege in John Hajdu Heyer ed Lully Studies Cambridge UK Cambridge University Press 2000 pp 15 31 which focuses on Charpentier s powerful contacts Ranum Patricia M 2004 Portraits Around Marc Antoine Charpentier Baltimore Dux Femina Facti ISBN 978 0 9660997 3 7 prawtisastrdntriaelathvsdidntri Anthony James R French Baroque Music From Beaujoyeulx to Rameau Revised and expanded edition Portland Oregon Amadeus Press 1997 Hitchcock H W Les Œuvres de Marc Antoine Charpentier Catalogue Raisonne Paris Picard 1982 Thomas Downing A Aesthetics of Opera in the Ancien Regime 1647 1785 Cambridge UK Cambridge University Press 2002 Tunley David The Eighteenth Century French Cantata 2nd edition Oxford UK Clarendon Press Oxford University Press 1997 xangxingFor this representation see Francois Filiatrault Un menuet de Charpentier sur un almanach royal and Patricia M Ranum Un portrait presume de Marc Antoine Charpentier both in Catherine Cessac ed Marc Antoine Charpentier un musicien retrouve Sprimont Mardaga 2005 pp 8 23 His Birth Year Ranumspanat com subkhnemux 2014 08 14 For his family see Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier Baltimore 2004 pp 517 23 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 04 03 subkhnemux 2015 10 01 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 525 33 and Jean Lionnet Charpentier a Rome in Catherine Cessac ed Marc Antoine Charpentier un musicien retrouve Sprimont Mardaga 2005 pp 74 84 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 533ff Patricia M Ranum Le mecenat musical de Mademoiselle de Guise 1670 1688 in Yvonne Bellenger ed Le Mecenat et l influence des Guises Paris Champion 1997 pp 613 38 Patricia M Ranum Mademoiselle de Guise ou les defis de la quenouille XVIIe Siecle 1984 pp 221 32 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 377 78 426 54 536 80 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 401 403 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 190 201 552ff Patricia M Ranum A Sweet Servitude A Musician s life at the Court of Mlle de Guise Early Music 15 1987 pp 346 60 and Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 190 201 Patricia M Ranum Un foyer d italianisme chez les Guises Quelques reflexions sur les oratorios de Charpentier in Catherine Cessac ed Marc Antoine Charpentier un musicien retrouve Sprimont Mardaga 2005 pp 85 109 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 419 25 574 80 Patricia M Ranum Lully Plays Deaf Rereading the evidence on his privilege in John Hajdu Heyer ed Lully Studies Cambridge Cambridge University Press 2000 pp 15 31 New Portrait Ranumspanat com subkhnemux 2014 08 14 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 141 49 170 76 177 88 546 48 John S Powell Les conditions de representation au theatre Guenegud et a la Comedie Francaise d apres les Melanges in Catherine Cessac ed Les manuscrits autographes de Marc Antoine Charpentier Wavre Mardaga 2007 pp 271 86 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 300 317 Erik Kocevar L orgue du college Louis le Grand a la lumiere d un marche d orgues inedit Recherches 31 2004 2007 pp 165 180 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 227 40 Patricia M Ranum Marc Antoine Charpentier compositeur pour les Jesuites 1687 1698 in Catherine Cessac ed Marc Antoine Charpentier un musicien retrouve Sprimont Mardaga 2005 pp 231 46 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 324 27 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 241 50 Patricia M Ranum Vers une chronologie des Œuvres de Marc Antoine Charpentier Baltimore 1994 Patricia M Ranum Portraits around Marc Antoine Charpentier pp 81 88 Patricia M Ranum Meslanges Melanges Cabinet Recueil Ouvrages L entree des manuscrits de Marc Antoine Charpentier a la Bibliotheque du roi in Catherine Cessac ed Marc Antoine Charpentier un musicien retrouve Sprimont Mardaga 2005 pp 141 54 A newly identified autograph tre Ranumspanat com 2013 05 09 subkhnemux 2014 08 14 aehlngkhxmulxunFree scores by Marc Antoine Charpentierin the Choral Public Domain Library ChoralWiki ontephlngesrikhxng Marc Antoine Charpentier thiokhrngkarhxngsmuddntrinanachati IMSLP Charpentier musicien du Baroque a site in memory of the 300th anniversary of the composer s death Te Deum s Prelude in houndbite com John Powell editions accompanied by discussions of some of Charpentier s works 2015 10 18 thi ewyaebkaemchchin Free scores at the Mutopia Project New Perspectives on Marc Antoine Charpentier thi Google Books edited by Shirley Thompson Ashgate Publishing 2010