มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิม เป็นสิ่งก่อสร้างซึ่งเคยตั้งอยู่ ณ จุดที่เป็นที่ตั้งของมหาวิหารนักบุญเปโตรหลังปัจจุบันในกรุงโรมตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 4 ถึง 16 การก่อสร้างมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่เหนือในอดีต เริ่มต้นขึ้นระหว่างรัชสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ชื่อ "มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิม" ถูกใช้สืบมานับตั้งแต่การก่อกร้างมหาวิหารปัจจุบันเพื่อแยกสิ่งก่อสร้างทั้งสองนี้
ประวัติ
การก่อสร้างเริ่มต้นขึ้นตามพระราชโองการของจักรพรรดิคอนแสตนตินที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมัน ระหว่าง ค.ศ. 326 และ 333 และใช้เวลาก่อสร้างราว 30 ปีจึงแล้วเสร็จ การออกแบบนั้นเป็นรูปแบบมหาวิหารตัวอย่าง ในอีกสิบสองศตวรรษต่อมา โบสถ์จะค่อย ๆ มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น และจะยิ่งกลายเป็นสถานที่สำหรับจาริกแสวงบุญในกรุงโรม
พิธีสมณาภิเษกพระสันตปาปาเริ่มต้นกระทำที่นี่ และใน ค.ศ. 800 สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่พระเจ้าชาร์เลอมาญประกอบพิธีราชาภิเษกเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ใน ค.ศ. 846 พวกซาราเซนปล้นและทำลายมหาวิหารดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม โบสถ์กำลังค่อย ๆ พังทลายลงเมื่อถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 และการอภิปรายที่จะปฏิสังขรณ์บางส่วนของสิ่งก่อสร้างนั้นเริ่มต้นตั้งแต่สำนักพระสันตะปาปาได้ย้ายกลับมาจากอาวีญงปาปาซี สองคนที่เกี่ยวข้องในการปฏิสังขรณ์อาคาร ได้แก่ เลออน บัตติสตา อัลแบร์ตี และเบอร์นาร์โด รอสเซลลีโน ซึ่งการก่อสร้างนั้นดำเนินต่อไปเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งเริ่มก่อสร้างมหาวิหารแห่งใหม่ ในตอนแรกสมเด็จพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2 มีพระประสงค์ที่จะอนุรักษ์อาคารมหาวิหารหลังเก่าไว้ แต่พระประสงค์ของพระองค์ได้เปลี่ยนไปเป็นการทำลายมหาวิหารหลังเก่าเสียและก่อสร้างอาคารหลังใหม่แทน มีหลายคนในเวลานั้นที่รู้สึกตกใจกับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากตัวอาคารแสดงถึงความต่อเนื่องของสมเด็จพระสันตปาปาซึ่งสืบย้อนไปถึงนักบุญเปโตร ส่วนแท่นบูชาดั้งเดิมนั้นถูกเก็บรักษาไว้ในอาคารหลังใหม่ที่จะสร้างครอบมันไว้
สุสานสมเด็จพระสันตปาปา
นับตั้งแต่การตรึงกางเขนและการฝังศพนักบุญเปโตรเมื่อ ค.ศ. 64 จุดดังกล่าวเป็นที่คาดกันว่าจะเป็นตำแหน่งของนักบุญเปโตร ซึ่งมีแท่นบูชาเล็ก ๆ ตั้งอยู่ เมื่อศาสนสถานแห่งนี้เป็นที่เคารพนับถือมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ตัวโบสถ์ก็ได้มีการแต่งตั้งด้วยรูปปั้น ของประดับ และแชนเดอเลียร์อันประณีตเป็นจำนวนมาก ตลอดจนสุสานด้านข้างและแท่นบูชาก็ได้ถูกเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
สิ่งก่อสร้างหลังนี้เต็มไปด้วยสุสานและร่างของนักบุญและสมเด็จพระสันตปาปาทั้งหลาย โครงกระดูกยังคงถูกพบเรื่อยมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1544 ในตอนท้ายสุด การออกแบบของมหาวิหารหลังใหม่จึงพยายามที่จะอุทิศให้กับโครงกระดูกเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
อ้างอิง
- Boorsch, Suzanne (Winter 1982–1983). "The Building of the Vatican: The Papacy and Architecture". The Metropolitan Museum of Art Bulletin. 40 (3): 4–8.
- Sobocinski, Melanie Grunow (2005). Detroit and Rome. The Regents of the Univ of Michigan. p. 77. ISBN .
- Davis, Raymond, The lives of the ninth-century popes (Liber pontificalis) , (Liverpool University Press, 1995), 96.
- Hersey, George L (1993). High Renaissance Art in St. Peter's and the Vatican: An Interpretive Guide. University of Chicago Press. pp. 73–4. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mhawiharnkbuyepotredim epnsingkxsrangsungekhytngxyu n cudthiepnthitngkhxngmhawiharnkbuyepotrhlngpccubninkrungormtngaetkhriststwrrsthi 4 thung 16 karkxsrangmhawihar sungtngxyuehnuxinxdit erimtnkhunrahwangrchsmykhxngckrphrrdikhxnsaetntinthi 1 chux mhawiharnkbuyepotredim thukichsubmanbtngaetkarkxkrangmhawiharpccubnephuxaeyksingkxsrangthngsxngniphaphwadmhawiharnkbuyepotredimsmykhriststwrrsthi 19 odyechuxknwacaepnphaphmhawiharemuxraw kh s 1450prawtikarkxsrangerimtnkhuntamphrarachoxngkarkhxngckrphrrdikhxnaestntinthi 1 aehngckrwrrdiormn rahwang kh s 326 aela 333 aelaichewlakxsrangraw 30 picungaelwesrc karxxkaebbnnepnrupaebbmhawihartwxyang inxiksibsxngstwrrstxma obsthcakhxy mikhwamsakhyephimmakkhun aelacayingklayepnsthanthisahrbcarikaeswngbuyinkrungorm phithismnaphieskphrasntpapaerimtnkrathathini aelain kh s 800 sthanthiaehngniepnsthanthithiphraecacharelxmayprakxbphithirachaphieskepnckrphrrdiormnxnskdisiththi in kh s 846 phwksaraesnplnaelathalaymhawihardngklaw xyangirktam obsthkalngkhxy phngthlaylngemuxthungkhriststwrrsthi 15 aelakarxphipraythicaptisngkhrnbangswnkhxngsingkxsrangnnerimtntngaetsankphrasntapapaidyayklbmacakxawiyngpapasi sxngkhnthiekiywkhxnginkarptisngkhrnxakhar idaek elxxn bttista xlaebrti aelaebxrnarod rxsesllion sungkarkxsrangnndaenintxipepnraya cnkrathngerimkxsrangmhawiharaehngihm intxnaerksmedcphrasntapapacueliysthi 2 miphraprasngkhthicaxnurksxakharmhawiharhlngekaiw aetphraprasngkhkhxngphraxngkhidepliynipepnkarthalaymhawiharhlngekaesiyaelakxsrangxakharhlngihmaethn mihlaykhninewlannthirusuktkickbkhxesnxdngklaw enuxngcaktwxakharaesdngthungkhwamtxenuxngkhxngsmedcphrasntpapasungsubyxnipthungnkbuyepotr swnaethnbuchadngedimnnthukekbrksaiwinxakharhlngihmthicasrangkhrxbmniwsusansmedcphrasntpapanbtngaetkartrungkangekhnaelakarfngsphnkbuyepotremux kh s 64 cuddngklawepnthikhadknwacaepntaaehnngkhxngnkbuyepotr sungmiaethnbuchaelk tngxyu emuxsasnsthanaehngniepnthiekharphnbthuxmakyingkhuneruxy twobsthkidmikaraetngtngdwyruppn khxngpradb aelaaechnedxeliyrxnpranitepncanwnmak tlxdcnsusandankhangaelaaethnbuchakidthukephimetimxyangtxenuxng singkxsranghlngnietmipdwysusanaelarangkhxngnkbuyaelasmedcphrasntpapathnghlay okhrngkradukyngkhngthukphberuxymacnthungeduxnkumphaphnth kh s 1544 intxnthaysud karxxkaebbkhxngmhawiharhlngihmcungphyayamthicaxuthisihkbokhrngkradukehlaniihmakthisudethathicathaidxangxingBoorsch Suzanne Winter 1982 1983 The Building of the Vatican The Papacy and Architecture The Metropolitan Museum of Art Bulletin 40 3 4 8 Sobocinski Melanie Grunow 2005 Detroit and Rome The Regents of the Univ of Michigan p 77 ISBN 0 933691 09 2 Davis Raymond The lives of the ninth century popes Liber pontificalis Liverpool University Press 1995 96 Hersey George L 1993 High Renaissance Art in St Peter s and the Vatican An Interpretive Guide University of Chicago Press pp 73 4 ISBN 0226327825 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb mhawiharnkbuyepotredim