บทความนี้ไม่มีจาก |
ภีมะ (สันสกฤต: भीम) เป็นโอรสที่เกิดจากพรของพระพายและเป็นน้องชายต่างมารดาของหนุมาน ซึ่งเกิดวัน เดือน และปีเดียวกับทุรโยธน์ เป็นศิษย์ของพระพลรามผู้เป็นพี่ชายของพระกฤษณะ วันสุดท้ายของสงครามได้ตีหน้าตักของทุรโยธน์แหลกเป็นเสี่ยงตามคำสาบานของภีมะเอง และที่ฤๅษีไมเตรยะเคยสาปไว้ด้วย
ภีมะ | |
---|---|
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง | |
คู่สมรส | พระนางเทราปตี นางหิฑิมพี นางวลันธรา |
บุตร | ฆโฎตกัจ (เกิดจากนางหิฑิมพี) (เกิดจากพระนางเทราปตี) สรรวัท (เกิดจากนางวลันธรา) |
ชื่อต่างๆของภีมะ
ชื่อ ภีมะ (भीम) แปลว่า ผู้ที่น่ากลัว ส่วนชื่อ ภีมเสน (भीमसेन) แปลว่า นักรบผู้น่ากลัว นอกจากนี้ยังมีชื่ออื่นๆอีก ได้แก่
- วฤโกทร (वृकोदर) แปลว่า ผู้เสวยอาหารเหมือนหมาป่า
- คทาธร (गदाधर) แปลว่า ผู้ถือคทา
- ชราสันธ์ชิต (जरासन्धजित्) แปลว่า ผู้ชนะ
- หิฑิมพะภิท (हिडिम्बभिद्) แปลว่า ผู้สังหารากษสหิฑิมพะ
- กิจกะชิต (कीचकजित्) แปลว่า ผู้ชนะ
- ชิห์มะโยธิน (जिह्मयोधिन्) แปลว่า นักรบผู้ต่อต้านความเท็จ
- วัลลภ (वल्लभ) แปลว่า พ่อครัว
- หัญเลารยะ (हन्यलौर्य) แปลว่า ผู้สร้างสรรค์
การถูกวางยาพิษและการท่องเมืองบาดาลใต้แม่น้ำยมุนา
ศกุนิวางแผนการจะสังหารภีมะ โดยให้ทุรโยธน์ชวนภีมะออกไปเล่น ริมแม่น้ำยมุนา และนำอาหารผสมยาพิษให้ภีมะกิน เมื่อภีมะสลบก็ถูกผลักลงแม่น้ำยมุนา ภีมะจมลงไปถึงเมืองบาดาลของวาสุกรีนาคราช พระพายขอให้วาสุกรีถอนพิษให้ภีมะ เมื่อภีมะฟื้นขึ้นมา วาสุกรีนาคราชก็ให้ภีมะดื่มน้ำอมฤต ถึง 8 เหยือก ทำให้ภีมะ มีพละกำลังมหาศาลเท่ากับช้างหมื่นเชือก และพาภีมะกลับมาส่งคืนให้พระนางกุนตี เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในตอนวัยเยาว์ของภีมะ
พระราชวังขี้ผึ้งลักษาคฤหะ
ศกุนิ จ้างปุโรจันให้สร้างพระราชวังที่ทำจากขี้ผึ้ง ชื่อ ลักษาคฤหะ ในวรรณาพรต เพื่อเป็นที่พักของเหล่าปาณฑพ ที่ไปเที่ยวเมืองวรรณาพรต และลอบวางเพลิง ท้าววิทูรรู้ความลับนี้ และส่งคนไปบอกและขุดอุโมงค์ใต้ดินเพื่อที่จะหนี ภีมะสังหารปุโรจัน และพาพี่น้องที่เหลือและพระนางกุนตีหนีออกจากลักษาคฤหะ เข้าไปเดินดงในป่า และต้องการให้ศกุนิเข้าใจว่าพวกเขาถูกไฟคลอกตายแล้ว
ภีมะสังหารพกาสูร
หลังหนีออกจากลักษาคฤหะ เหล่าปาณฑพและพระนางกุนตี เดินดงมาจนถึงป่าชายแดนเมืองเอกจักร พบรากษสชื่อ พกาสูร ซึ่งเที่ยวจับชาวบ้านริมชายแดนกินเป็นอาหาร ภีมะอาสาที่จะปราบพกาสูร เมื่อพบกับพกาสูร ภีมะรบกับพกาสูร และใช้ท่อนซุงฟาดพกาสูรจนตาย
ภีมะสังหารหิฑิมพะ และแต่งงานกับนางหิฑิมพี
เมื่อเดินดงต่อไปไปพบรากษสหิฑิมพะ ภีมะต่อสู้กับหิฑิมพะและสังหารเขาจนตาย นางหิฑิมพีตกหลุมรักภีมะ และแต่งงานกับภีมะ มีบุตรด้วยกันชื่อ ฆโฎตกัจ หลังจากนั้นเหล่าปาณฑพและพระนางกุนตีเดินทางออกจากป่า ภีษมะมาพบเข้าและพากลับกรุงหัสตินาปุระ
พิธีราชสูยะของยุธิษฐิระและการสังหารท้าวชราสันธ์
หลังจากการสร้างกรุงอินทรปรัสถ์ ยุธิษฐิระทำพิธีราชสูยะ เพื่อจะขึ้นครองราชย์ แต่พระกฤษณะแนะนำว่าควรทำลายอิทธิพลของท้าวและให้ภีมะสังหารพระองค์ พระกฤษณะ ภีมะ และ อรชุน ปลอมตัวเป็นพราหมณ์ เดินทางไปแคว้นมคธ ท้าทายท้าวชราสันธ์ให้มาต่อสู้มวยปล้ำ ภีมะฉีกร่างท้าวชราสันธ์จนขาดครึ่งและโยนออกไปคนละทิศคนละทาง หลังจากท้าวชราสันธ์ตาย บุตรทั้งสองคนของท้าวชราสันธ์ คือ ท้าวสหเทพ และ ชยัตเสน แตกคอกันและแบ่งแยกแคว้นมคธ ท้าวสหเทพไปเข้ากับฝ่ายปาณฑพ พระกฤษณะตั้งให้เขาเป็นพระราชาแคว้นมคธ ส่วนชยัตเสนไม่พอใจที่พี่ชายไปเข้ากับศัตรู เขาจึงไปเข้ากับฝ่ายเการพ
การถูกเนรเทศ 13 ปี
หลังแพ้พนันสกา พวกพี่น้องปาณฑพและพระนางเทราปตี ออกเดินป่าโดยการนำของฤๅษีพฤหทัศวะ เข้าสู่ป่ากัมยกะ
ภีมะสังหารกิรมีระ
กิรมีระ พี่ชายของพกาสูร และยังเป็นเพื่อนของหิฑิมพะ เขาอาศัยอยู่ในป่ากัมยกะ เขาต้องการแก้แค้นภีมะ เมื่อพบกับภีมะ และสู้รบกัน เขากลับถูกภีมะสังหารจนกระอักเลือดตาย
ภีมะค้นหาดอกบัวเสาคันธิกะ
วันหนึ่งพระนางเทราปที ได้กลิ่นดอกบัวทิพย์ ชื่อ เสาคันธิกะ นางต้องการดอกบัวนั้น จึงขอร้องให้ภีมะค้นหาดอกบัวนั้น เขาค้นหาไปจนถึงสระแห่งหนึ่ง ใกล้วังของท้าวกุเวร เขาสังหารรากษสผู้เฝ้าสระ 2 ตน คือ โกรธาวสะ และ มณีมาน หลังสังหารรากษสทั้งสอง ท้าวกุเวรก็ยอมมอบดอกบัวให้กับภีมะ
ภีมะพบหนุมาน
วันหนึ่ง ภีมะเดินทางเข้าไปหาของป่า พบลิงแก่ตัวหนึ่งนอนขวางทางอยู่ และท้าทายให้ยกหางมันให้ขึ้น ภีมะทำอย่างไรก็ยกไม่ขึ้น จึงยอมแพ้ ลิงแก่กลายร่างเป็นหนุมาน และให้พรภีมะว่า ตนจะช่วยเหลือฝ่ายปาณฑพในการรบ ด้วยการไปสถิตในธงรถศึกของอรชุน แล้วกล่าวว่า ที่ใดมีธงรูปหนุมาน ที่นั้นจะประสบชัยชนะ
ภีมะสังหารชฎาสูร
วันหนึ่ง ภีมะออกไปล่าสัตว์ ชฎาสูร ปลอมตัวเป็นพราหมณ์ มาลักพาตัวพี่น้องปาณฑพที่เหลือและพระนางเทราปตีไป จับพวกปาณฑพขังไว้ ขโมยศาสตราวุธวิเศษ และพยายามข่มขืนพระนางเทราปตี ภีมะตามมาพบ สังหารและตัดหัวชฎาสูร
การลี้ภัยในราชสำนักท้าววิราฎ
ภีมะ ปลอมตัวเป็นพ่อครัว ชื่อ วัลลภ ทำงานอยู่ในโรงครัวของ ในวรรณกรรมฮินดู มีสองตัวละครที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อครัวมีความสามารถ คือพระนลและภีมะ ภีมะได้ชื่อว่าเป็นผู้คิดค้น Aviyal อาหารที่ขึ้นชื่อในรัฐเกรละทางภาคใต้ของอินเดีย ในระหว่างที่อาศัยในราชสำนักของท้าววิราฎ
ภีมะเอาชนะนักมวยปล้ำชิมูตะ
ในเทศกาลสมโภชพระนครของท้าววิราฎ มีนักมวยปล้ำชื่อ ชิมูตะ เดินทางมาและเข้าแข่งขันในการประลองมวยปล้ำ วัลลภ(ภีมะ)เข้าร่วมประลองและสังหารชิมูตะ สร้างชื่อเสียงให้ตนเองเป็นอย่างมาก
ภีมะสังหารกิจกะ
กิจกะ เสนาบดีกองทัพของท้าววิราฎ น้องชายของพระนางสุเทศนา พยายามเกี้ยวพาราศี และจะข่มขืนนางไศรันทรี(พระนางเทราปตี) วัลลภ(ภีมะ)รู้เข้า ก็ลอบเข้าไปสังหารกิจกะ และฆ่าเขาด้วยมือเปล่า
ภีมะรบชนะสุศรรมา
เมื่อทุรโยธน์รู้ว่าพวกพี่น้องปาณฑพ ลี้ภัยอยู่ในราชสำนัก จึงให้ กษัตริย์แคว้นตรีครรตะ ผู้เป็นพี่เขย ยกทัพหน้ามาตีแคว้นมัตสยะ ท้าววิราฎ พร้อมด้วยมหามนตรีกังกะ(ยุธิษฐิระ) วัลลภ(ภีมะ) ครันถิกะ(นกุล) ตันติบาล(สหเทพ) เข้าต่อสู้ ท้าววิราฎเพลี้ยงพล้ำเกือบถูกสุศรรมาสังหาร วัลลภเข้ามาช่วย ท้าสุศรรมาให้มารบกันด้วยกระบอง และเอาชนะสุศรรมา จิกผม กดลงกับพื้น และจับตัวมาให้ท้าววิราฎ ท้าววิราฎทรงเมตตาและให้ปล่อยตัวสุศรรมาไป
บทบาทในสงครามทุ่งกุรุเกษตร
- ในวันที่ 2 ภีมะสังหารท้าวศรุตายุษ กษัตริย์แคว้นกาลิงคะ และบุตรทั้งสี่ของเขา คือ สักระเทพ ภานุมัต สัตยเทพ สัตยะ และเจ้าชายเกตุมัต บุตรของเอกลัพย์ และยังทำลายกองทัพช้างแคว้นกาลิงคะจนราบคาบ
- ในวันที่ 3 ภีมะรบกับทุรโยธน์ และยิงธนูใส่ทุรโยธน์จนสลบไป
- ในวันที่ 4 ภีมะรบแพ้ แต่ได้ฆโฎตกัจ ผู้เป็นบุตรเข้ามาช่วยไว้
- ในวันที่ 5 ภีมะรบกับภีษมะ
- ในวันที่ 11 ภีมะชนะในการรบด้วยกระบอง
- ในวันที่ 14 ภีมะรบชนะโทรณาจารย์และ แต่พ่ายแพ้ต่อกรรณะ
- ในคืนวันที่ 14 ภีมะสังหาร
- ในวันที่ 15 ภีมะสังหารช้างชื่อ อัศวัตถามา เพื่อหลอกโทรณาจารย์ว่า อัศวัตถามา บุตรของโทรณาจารย์ตายแล้ว
- ในวันที่ 16 ภีมะสังหารทุหศาสัน ฉีกแขนทั้งสองข้าง แหวกอกและดื่มเลือดทุหศาสัน เพื่อแก้แค้นให้พระนางเทราปตี
- ตั้งแต่วันที่ 4 - 16 เจ้าชายเการพ น้องชายของทุรโยธน์ 99 คน ถูกสังหารตายจนหมด เหลือเพียงทุรโยธน์ผู้เดียว
- ในวันที่ 18 ภีมะสังหารทุรโยธน์
ชีวิตหลังสงครามและความตาย
หลังจากสงครามสิ้นสุด ยุธิษฐิระขึ้นเป็นพระจักรพรรดิกรุงหัสตินาปุระ และได้ปราบดาภิเษกให้ภีมะขึ้นเป็นพระมหาอุปราช 36 ปีต่อมา ราชวงศ์ยาทพสูญสลาย พระพลรามและพระกฤษณะตาย ยุธิษฐิระสละราชบัลลังก์ ให้เจ้าชายปรีกษิต และเดินทางสู่เขาหิมาลัย ทุกคนตกเขาตาย เริ่มจากพระนางเทราปตี สหเทพ นกุล อรชุน และจนกระทั่งถึงภีมะ ก่อนที่ภีมะจะตกลงไป เขาถามยุธิษฐิระว่า ทำไมเขาจึงขึ้นสวรรค์ในขณะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ ยุธิษฐิระตอบว่า เพราะเจ้ามีความตะกละ และหยิ่งยโสในพละกำลังของเจ้า เจ้าจึงขึ้นสวรรค์ในขณะมีชีวิตอยู่ไม่ได้
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir phima snskvt भ म epnoxrsthiekidcakphrkhxngphraphayaelaepnnxngchaytangmardakhxnghnuman sungekidwn eduxn aelapiediywkbthuroythn epnsisykhxngphraphlramphuepnphichaykhxngphrakvsna wnsudthaykhxngsngkhramidtihnatkkhxngthuroythnaehlkepnesiyngtamkhasabankhxngphimaexng aelathivisiimetryaekhysapiwdwyphimakhxmultwlakhrineruxngkhusmrsphranangethrapti nanghithimphi nangwlnthrabutrkhodtkc ekidcaknanghithimphi ekidcakphranangethrapti srrwth ekidcaknangwlnthra chuxtangkhxngphimachux phima भ म aeplwa phuthinaklw swnchux phimesn भ मस न aeplwa nkrbphunaklw nxkcakniyngmichuxxunxik idaek wvokthr व क दर aeplwa phueswyxaharehmuxnhmapa khthathr गद धर aeplwa phuthuxkhtha chrasnthchit जर सन धज त aeplwa phuchna hithimphaphith ह ड म बभ द aeplwa phusngharaksshithimpha kickachit क चकज त aeplwa phuchna chihmaoythin ज ह मय ध न aeplwa nkrbphutxtankhwamethc wllph वल लभ aeplwa phxkhrw hyelarya हन यल र य aeplwa phusrangsrrkhkarthukwangyaphisaelakarthxngemuxngbadalitaemnaymunaskuniwangaephnkarcasngharphima odyihthuroythnchwnphimaxxkipeln rimaemnaymuna aelanaxaharphsmyaphisihphimakin emuxphimaslbkthukphlklngaemnaymuna phimacmlngipthungemuxngbadalkhxngwasukrinakhrach phraphaykhxihwasukrithxnphisihphima emuxphimafunkhunma wasukrinakhrachkihphimadumnaxmvt thung 8 ehyuxk thaihphima miphlakalngmhasalethakbchanghmunechuxk aelaphaphimaklbmasngkhunihphranangkunti ehtukarnehlaniekidkhunintxnwyeyawkhxngphimaphrarachwngkhiphunglksakhvhaskuni cangpuorcnihsrangphrarachwngthithacakkhiphung chux lksakhvha inwrrnaphrt ephuxepnthiphkkhxngehlapanthph thiipethiywemuxngwrrnaphrt aelalxbwangephling thawwithurrukhwamlbni aelasngkhnipbxkaelakhudxuomngkhitdinephuxthicahni phimasngharpuorcn aelaphaphinxngthiehluxaelaphranangkuntihnixxkcaklksakhvha ekhaipedindnginpa aelatxngkarihskuniekhaicwaphwkekhathukifkhlxktayaelwphimasngharphkasurhlnghnixxkcaklksakhvha ehlapanthphaelaphranangkunti edindngmacnthungpachayaednemuxngexkckr phbraksschux phkasur sungethiywcbchawbanrimchayaednkinepnxahar phimaxasathicaprabphkasur emuxphbkbphkasur phimarbkbphkasur aelaichthxnsungfadphkasurcntay phimatxsumwyplakbthawchrasnthphimasngharhithimpha aelaaetngngankbnanghithimphiemuxedindngtxipipphbraksshithimpha phimatxsukbhithimphaaelasngharekhacntay nanghithimphitkhlumrkphima aelaaetngngankbphima mibutrdwyknchux khodtkc hlngcaknnehlapanthphaelaphranangkuntiedinthangxxkcakpa phismamaphbekhaaelaphaklbkrunghstinapuraphithirachsuyakhxngyuthisthiraaelakarsngharthawchrasnthhlngcakkarsrangkrungxinthrprsth yuthisthirathaphithirachsuya ephuxcakhunkhrxngrachy aetphrakvsnaaenanawakhwrthalayxiththiphlkhxngthawaelaihphimasngharphraxngkh phrakvsna phima aela xrchun plxmtwepnphrahmn edinthangipaekhwnmkhth thathaythawchrasnthihmatxsumwypla phimachikrangthawchrasnthcnkhadkhrungaelaoynxxkipkhnlathiskhnlathang hlngcakthawchrasnthtay butrthngsxngkhnkhxngthawchrasnth khux thawshethph aela chytesn aetkkhxknaelaaebngaeykaekhwnmkhth thawshethphipekhakbfaypanthph phrakvsnatngihekhaepnphrarachaaekhwnmkhth swnchytesnimphxicthiphichayipekhakbstru ekhacungipekhakbfayekarphkarthukenreths 13 pihlngaephphnnska phwkphinxngpanthphaelaphranangethrapti xxkedinpaodykarnakhxngvisiphvhthswa ekhasupakmyka phimasngharkirmira kirmira phichaykhxngphkasur aelayngepnephuxnkhxnghithimpha ekhaxasyxyuinpakmyka ekhatxngkaraekaekhnphima emuxphbkbphima aelasurbkn ekhaklbthukphimasngharcnkraxkeluxdtay phimakhnhadxkbwesakhnthika wnhnungphranangethrapthi idklindxkbwthiphy chux esakhnthika nangtxngkardxkbwnn cungkhxrxngihphimakhnhadxkbwnn ekhakhnhaipcnthungsraaehnghnung iklwngkhxngthawkuewr ekhasngharrakssphuefasra 2 tn khux okrthawsa aela mniman hlngsngharrakssthngsxng thawkuewrkyxmmxbdxkbwihkbphima kickaekiywpharasinangisrnthriphimaphbhnuman wnhnung phimaedinthangekhaiphakhxngpa phblingaektwhnungnxnkhwangthangxyu aelathathayihykhangmnihkhun phimathaxyangirkykimkhun cungyxmaeph lingaekklayrangepnhnuman aelaihphrphimawa tncachwyehluxfaypanthphinkarrb dwykaripsthitinthngrthsukkhxngxrchun aelwklawwa thiidmithngruphnuman thinncaprasbchychna phimasngharchdasur wnhnung phimaxxkiplastw chdasur plxmtwepnphrahmn malkphatwphinxngpanthphthiehluxaelaphranangethraptiip cbphwkpanthphkhngiw khomysastrawuthwiess aelaphyayamkhmkhunphranangethrapti phimatammaphb sngharaelatdhwchdasurkarliphyinrachsankthawwiradphima plxmtwepnphxkhrw chux wllph thanganxyuinorngkhrwkhxng inwrrnkrrmhindu misxngtwlakhrthikhunchuxwaepnphxkhrwmikhwamsamarth khuxphranlaelaphima phimaidchuxwaepnphukhidkhn Aviyal xaharthikhunchuxinrthekrlathangphakhitkhxngxinediy inrahwangthixasyinrachsankkhxngthawwirad phimaexachnankmwyplachimuta inethskalsmophchphrankhrkhxngthawwirad minkmwyplachux chimuta edinthangmaaelaekhaaekhngkhninkarpralxngmwypla wllph phima ekharwmpralxngaelasngharchimuta srangchuxesiyngihtnexngepnxyangmak phimasngharkicka kicka esnabdikxngthphkhxngthawwirad nxngchaykhxngphranangsuethsna phyayamekiywpharasi aelacakhmkhunnangisrnthri phranangethrapti wllph phima ruekha klxbekhaipsngharkicka aelakhaekhadwymuxepla phimarbchnasusrrma emuxthuroythnruwaphwkphinxngpanthph liphyxyuinrachsank cungih kstriyaekhwntrikhrrta phuepnphiekhy ykthphhnamatiaekhwnmtsya thawwirad phrxmdwymhamntrikngka yuthisthira wllph phima khrnthika nkul tntibal shethph ekhatxsu thawwiradephliyngphlaekuxbthuksusrrmasnghar wllphekhamachwy thasusrrmaihmarbkndwykrabxng aelaexachnasusrrma cikphm kdlngkbphun aelacbtwmaihthawwirad thawwiradthrngemttaaelaihplxytwsusrrmaipbthbathinsngkhramthungkuruekstrinwnthi 2 phimasngharthawsrutayus kstriyaekhwnkalingkha aelabutrthngsikhxngekha khux skraethph phanumt styethph stya aelaecachayektumt butrkhxngexklphy aelayngthalaykxngthphchangaekhwnkalingkhacnrabkhab inwnthi 3 phimarbkbthuroythn aelayingthnuisthuroythncnslbip inwnthi 4 phimarbaeph aetidkhodtkc phuepnbutrekhamachwyiw inwnthi 5 phimarbkbphisma inwnthi 11 phimachnainkarrbdwykrabxng inwnthi 14 phimarbchnaothrnacaryaela aetphayaephtxkrrna inkhunwnthi 14 phimasnghar inwnthi 15 phimasngharchangchux xswtthama ephuxhlxkothrnacarywa xswtthama butrkhxngothrnacarytayaelw inwnthi 16 phimasngharthuhsasn chikaekhnthngsxngkhang aehwkxkaeladumeluxdthuhsasn ephuxaekaekhnihphranangethrapti tngaetwnthi 4 16 ecachayekarph nxngchaykhxngthuroythn 99 khn thuksnghartaycnhmd ehluxephiyngthuroythnphuediyw inwnthi 18 phimasngharthuroythnchiwithlngsngkhramaelakhwamtayhlngcaksngkhramsinsud yuthisthirakhunepnphrackrphrrdikrunghstinapura aelaidprabdaphieskihphimakhunepnphramhaxuprach 36 pitxma rachwngsyathphsuyslay phraphlramaelaphrakvsnatay yuthisthiraslarachbllngk ihecachaypriksit aelaedinthangsuekhahimaly thukkhntkekhatay erimcakphranangethrapti shethph nkul xrchun aelacnkrathngthungphima kxnthiphimacatklngip ekhathamyuthisthirawa thaimekhacungkhunswrrkhinkhnamichiwitxyuimid yuthisthiratxbwa ephraaecamikhwamtakla aelahyingyosinphlakalngkhxngeca ecacungkhunswrrkhinkhnamichiwitxyuimid