บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
ภาพสามมิติแบบซ้อนเหลื่อม (หรือ ภาพสามมิติแอนะกลิ๊ป หรือ แอนะกลิ๊ปทรีดี) (อังกฤษ: Anaglyph 3D) คือภาพสองมิติภาพเดียวที่หากดูด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นภาพสีแดงกับสีฟ้าพิมพ์ซ้อนเหลื่อมกัน ต้องดูผ่านฟิวเตอร์ (Filter) 2 สี หรือแว่นตาที่มีแผ่นใส หรือเลนส์ สีแดง(red)สำหรับตาซ้าย และสีฟ้า(cyan)สำหรับตาขวา เมื่อมองผ่านฟิวเตอร์สีแดง ตาเราจะไม่เห็นภาพที่พิมพ์ด้วยสีแดงแต่จะเห็นเฉพาะภาพที่พิมพ์ด้วยสีฟ้า โดยจะเห็นเป็นสีเกือบดำ ส่วนตาขวาเมื่อมองผ่านฟิวเตอร์สีฟ้า จะเห็นภาพส่วนที่พิมพ์ด้วยสีแดง โดยเห็นเป็นสีเกือบดำเช่นกัน ซึ่งภาพที่ดูจากสองตาจะเป็นภาพที่มีมุมมองต่างกันเล็กน้อย จากนั้นสมองจะแปลความรวมเป็นภาพเดียวกันแบบที่มีมิติตื้นลึก หรือสามมิติ
ประวัติ
ดูว์ ฮาว์รอน (Du Hauron) นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้คิดค้นระบบภาพซ้อนเหลื่อมขึ้นในปี ค.ศ. 1891 โดยอาศัยหลักการของสี การตัดกันของสี โดยผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ดูภาพแบบแอนะกลิ๊ป (Anaglyph) ขึ้นมา โดยมักกำหนดให้เป็นสีฟ้าอมเขียว (Cyan) และ สีแดง (Red) เมื่อลองนำอุปกรณ์ที่ทำเป็นแว่นตามองดูภาพแปดเหลี่ยมที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ทดสอบ โดยปิดและเปิดตาทีละข้างจะสังเกตเห็นว่าเมื่อปิดตาซ้ายและเปิดตาขวา (มองรูปผ่าน Filter สีฟ้าอมเขียว) จะมองเห็นว่าสีแดงนี้จะหายไปเหลือแต่เส้นสีขาว จากนั้นเปิดตาซ้ายปิดตาขวา (มอง Filter สีแดง) จะมองเห็นว่าสีฟ้าอมเขียวหายไปเหลือแต่เส้นสีขาว แต่เมื่อลืมตาพร้อมกันผ่าน ทั้งสองข้าง จะเห็นกรอบสีขาวของรูป 8 เหลี่ยมชัดเจน นี่คือหลักการของภาพ 3 มิติแบบแอนะกลิ๊ป
ภาพที่ได้จากกล้องทั่วไป หรือภาพจากการสแกนด้วยเครื่องสแกนเนอร์ ถ้าเป็น Mode ภาพแบบ RGB คือ ภาพ 1 ภาพจะมีองค์ประกอบของสีแดง (R) สีเขียว (G) สีน้ำเงิน (B)
ภาพ 3 มิติแบบแอนะกลิ๊ป นั้นประยุกต์มาจากภาพคู่สเตอริโอ หรือ สเตอริโอแพร์ส (Stereo Pairs) คือ มีรูปด้านซ้าย และขวา แยกจากกันสำหรับดูด้วยตาข้างซ้ายและตาขวา จากนั้นทำการตัดสีของภาพสเตอริโอแพร์สทั้ง 2 ภาพออก โดยให้ภาพทางขวาคงเหลือไว้เป็นภาพสีแดง (ตัดสีเขียวและสีน้ำเงินออก) และภาพทางซ้ายจะเป็นภาพสีฟ้าอมเขียว (ตัดสีแดงออก) และนำภาพที่ได้นี้มาวางทับซ้อนกัน การวางภาพให้ทับซ้อนกันนั้นโดยส่วนใหญ่จะให้ภาพที่เหลื่อมทางขวาเป็นภาพสีแดง (red) และภาพที่เหลื่อมทางซ้ายจะเป็น ภาพสีฟ้าอมเขียว (cyan) อย่างไรก็ตามการวางภาพซ้อนเหลื่อมนี้ไม่ได้มีกฏตายตัว เราสามารถที่จะกำหนดให้ภาพเหลื่อมด้านขวาเป็นสีฟ้าอมเขียว และภาพทางด้านซ้ายเป็นสีแดงก็ได้ แต่แว่นตาสำหรับดูภาพนี้ต้องใส่ฟิวเติร์ให้สลับด้าน เช่น ถ้ากำหนดให้ภาพสีแดงเหลื่อมทางด้านขวาก็ต้องใช้ฟิวเตอร์สีแดงสำหรับตาซ้าย เป็นต้น
การดูภาพ 3 มิติแบบแอนะกลิ๊ป
• การดูภาพซ้อนเหลื่อมแบบแอนะกลิ๊ป ต้องอาศัยแว่นตาพิเศษที่มีสองสี ตามมาตรฐานแล้ว มักใช้สีฟ้าอมเขียวสำหรับตาขวา (แต่หากหาไม่ได้สามารถใช้สีน้ำเงินแทนได้) และสีแดงสำหรับตาซ้าย
• การมองจากแว่นทางด้านซ้ายจะได้รูปที่เป็นโทนสีแดง ทำให้สามารถแยกภาพออกมาได้ แต่จะเห็นว่าภาพที่มองได้จะเป็นภาพที่ได้จากกล้องทางด้านขวามือ เช่นเดียวกับเมื่อมองภาพผ่านฟิวเตอร์สีฟ้าอมเขียว (คือ ภาพที่ได้จากกล้องด้านซ้ายมือ) ตามหลักการมองภาพแบบไขว้ หรือ ครอสอายวิว (Cross-Eye View) แต่ในความเป็นจริงเรามองภาพนี้ผ่านฟิวเตอร์ทั้งสองพร้อมกัน ทำให้เป็นการจำลองภาพเหมือนกับว่าเรากำลังดูภาพเดียวกันอยู่ โดยเห็นส่วนลึกและมิติตื้นลึกของภาพได้
ข้อมูลเพิ่มเติม Anaglyphs
ความรู้ทั่วไป
ภาพถ่ายภาพ แม้จะสามารถให้รายละเอียดของวัตถุได้ แต่มีข้อจำกัดด้านการให้ข้อมูลด้านความลึก ทั้งนี้เนื่องจากภาพของสิ่งต่างๆ จะถูกสร้าง(render)ลงบนระนาบเดียว นับตั้งแต่มีการเริ่มถ่ายภาพ มีความพยายามที่จะจำลองภาพ 3 มิติ หรือ ภาพสเตริโอ หลายร้อยวิธี ความจริงที่น่าแปลกก็คือ บุคคลแรกที่คิดค้นหลักการของการมองภาพแบบสเตริโอสโคปิก (stereoscopic vision) คือ เซอร์ ชาร์ลส วีทสโตน (Sir Charles Wheatstone) ในปี ค.ศ. 1838 ซึ่งเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่การถ่ายภาพจะถูกคิดค้นขึ้น
เมื่อ เฮนรี่ ฟ๊อกซ์ ทาลบ็อต (Henry Fox Talbot) และ ดาแกร์ (Daguerre) คิดค้นกรรมวิธีล้างอัดภาพขึ้นในปี ค.ศ. 1839 ผู้คนก็เริ่มถ่ายภาพ 3 มิติ ซึ่งมีคุณภาพดีใกล้เคียงกับปัจจุบัน ต่างกันตรงที่การล้างอัดภาพ มีค่าใช้จ่ายสูงมากในตอนนั้น และอุปกรณ์ดูภาพ 3 มิติ ก็ยังมีน้อย และไม่ค่อยแพร่หลาย
จุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1850 เมื่อ เดวิด บรูว์สเตอร์ (David Brewster) ประดิษฐ์ albumen print และ อุปกรณ์ดูภาพ ที่มีราคาถูก และ Oliver Wendall Homes ที่ประดิษฐ์อุปกรณ์ดูภาพที่มีราคาถูกยิ่งกว่า
หลักการง่ายๆ ของการถ่ายภาพ 3 มิติ ก็คือการถ่ายภาพจำนวน 2 ภาพ ของวัตถุเดียวกัน ในมุมที่ต่างกันเล็กน้อย หลังจากนั้น จึงใช้เทคนิคของการดูภาพ 3 มิติ วิธีใดวิธีหนึ่ง เพื่อส่งภาพแต่ละภาพแยกจากกันสำหรับตาแต่ละข้าง ซึ่งจะถูกผสมรวมกันในสมองของเราอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เราเห็นภาพดังกล่าว ในลักษณะ 3 มิติ คือเห็นมิติตื้นลึก
ข้อสำคัญของการถ่ายภาพ 3 มิติ
เลนส์ทั้ง 2 ตัว ต้องมีทางยาวโฟกัสเท่ากัน แนวการถ่ายภาพทั้ง 2 ภาพ ต้องขนานกัน ระยะห่างระหว่างกล้อง 2 ตัว หรือระยะการเลื่อนกล้อง จะเท่ากับระยะห่างระหว่างลูกตา คือประมาณ 6.5 ซ.ม.
อ้างอิง
- การผลิตภาพถ่าย 3 มิติ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน[], หน้า 10.
- ความรู้ทั่วไป 2009-02-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
แหล่งข้อมูลอื่น
- การถ่ายภาพ 3 มิติ 2005-04-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Thai3DWorld.com 2016-04-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Stereovisions[]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid phaphsammitiaebbsxnehluxm hrux phaphsammitiaexnaklip hrux aexnaklipthridi xngkvs Anaglyph 3D khuxphaphsxngmitiphaphediywthihakdudwytaeplacaehnepnphaphsiaedngkbsifaphimphsxnehluxmkn txngduphanfiwetxr Filter 2 si hruxaewntathimiaephnis hruxelns siaedng red sahrbtasay aelasifa cyan sahrbtakhwa emuxmxngphanfiwetxrsiaedng taeracaimehnphaphthiphimphdwysiaedngaetcaehnechphaaphaphthiphimphdwysifa odycaehnepnsiekuxbda swntakhwaemuxmxngphanfiwetxrsifa caehnphaphswnthiphimphdwysiaedng odyehnepnsiekuxbdaechnkn sungphaphthiducaksxngtacaepnphaphthimimummxngtangknelknxy caknnsmxngcaaeplkhwamrwmepnphaphediywknaebbthimimititunluk hruxsammitiphaphsxnthbknaebbaexnaklip Anaglyph odytxngduphanfiwetxrsiaedng tasay aelafa takhwa inkarchm khwris aewnsammitiaedng fa ephuxduphaphniinmummxng 3 mitiphaphtnchbb kxncaaeplngepnphaphaexnaklip Anaglyph rupbnphaph 3 mitiinphaphthaykhwamlaexiydsung khwris aewnsammitiaedng fa ephuxduphaphniinmummxng 3 mitiphaphaexnaklip Anaglyph khxngxuthyanaehngchatisakwor khwris aewnsammitiaedng fa ephuxduphaphniinmummxng 3 mitiphaphaewntasahrbduphaphsammitiaebbsxnehluxm Anaglyph 3D odycamiaephnissiaedngsahrbtasay aelaaephnissifasahrbtakhwaprawtiduw hawrxn Du Hauron nkwithyasastrchawfrngessidkhidkhnrabbphaphsxnehluxmkhuninpi kh s 1891 odyxasyhlkkarkhxngsi kartdknkhxngsi odyphlitxupkrnthiichduphaphaebbaexnaklip Anaglyph khunma odymkkahndihepnsifaxmekhiyw Cyan aela siaedng Red emuxlxngnaxupkrnthithaepnaewntamxngduphaphaepdehliymthithakhunmaephuxichthdsxb odypidaelaepidtathilakhangcasngektehnwaemuxpidtasayaelaepidtakhwa mxngrupphan Filter sifaxmekhiyw camxngehnwasiaedngnicahayipehluxaetesnsikhaw caknnepidtasaypidtakhwa mxng Filter siaedng camxngehnwasifaxmekhiywhayipehluxaetesnsikhaw aetemuxlumtaphrxmknphan thngsxngkhang caehnkrxbsikhawkhxngrup 8 ehliymchdecn nikhuxhlkkarkhxngphaph 3 mitiaebbaexnaklip phaphthiidcakklxngthwip hruxphaphcakkarsaekndwyekhruxngsaeknenxr thaepn Mode phaphaebb RGB khux phaph 1 phaphcamixngkhprakxbkhxngsiaedng R siekhiyw G sinaengin B phaph 3 mitiaebbaexnaklip nnprayuktmacakphaphkhusetxriox hrux setxrioxaephrs Stereo Pairs khux mirupdansay aelakhwa aeykcakknsahrbdudwytakhangsayaelatakhwa caknnthakartdsikhxngphaphsetxrioxaephrsthng 2 phaphxxk odyihphaphthangkhwakhngehluxiwepnphaphsiaedng tdsiekhiywaelasinaenginxxk aelaphaphthangsaycaepnphaphsifaxmekhiyw tdsiaedngxxk aelanaphaphthiidnimawangthbsxnkn karwangphaphihthbsxnknnnodyswnihycaihphaphthiehluxmthangkhwaepnphaphsiaedng red aelaphaphthiehluxmthangsaycaepn phaphsifaxmekhiyw cyan xyangirktamkarwangphaphsxnehluxmniimidmikttaytw erasamarththicakahndihphaphehluxmdankhwaepnsifaxmekhiyw aelaphaphthangdansayepnsiaedngkid aetaewntasahrbduphaphnitxngisfiwetirihslbdan echn thakahndihphaphsiaedngehluxmthangdankhwaktxngichfiwetxrsiaedngsahrbtasay epntnkarduphaph 3 mitiaebbaexnaklip karduphaphsxnehluxmaebbaexnaklip txngxasyaewntaphiessthimisxngsi tammatrthanaelw mkichsifaxmekhiywsahrbtakhwa aethakhaimidsamarthichsinaenginaethnid aelasiaedngsahrbtasay karmxngcakaewnthangdansaycaidrupthiepnothnsiaedng thaihsamarthaeykphaphxxkmaid aetcaehnwaphaphthimxngidcaepnphaphthiidcakklxngthangdankhwamux echnediywkbemuxmxngphaphphanfiwetxrsifaxmekhiyw khux phaphthiidcakklxngdansaymux tamhlkkarmxngphaphaebbikhw hrux khrxsxaywiw Cross Eye View aetinkhwamepncringeramxngphaphniphanfiwetxrthngsxngphrxmkn thaihepnkarcalxngphaphehmuxnkbwaerakalngduphaphediywknxyu odyehnswnlukaelamititunlukkhxngphaphidkhxmulephimetim Anaglyphskhwamruthwipphaphthayphaph aemcasamarthihraylaexiydkhxngwtthuid aetmikhxcakddankarihkhxmuldankhwamluk thngnienuxngcakphaphkhxngsingtang cathuksrang render lngbnranabediyw nbtngaetmikarerimthayphaph mikhwamphyayamthicacalxngphaph 3 miti hrux phaphsetriox hlayrxywithi khwamcringthinaaeplkkkhux bukhkhlaerkthikhidkhnhlkkarkhxngkarmxngphaphaebbsetrioxsokhpik stereoscopic vision khux esxr charls withsotn Sir Charles Wheatstone inpi kh s 1838 sungepnewla 1 pi kxnthikarthayphaphcathukkhidkhnkhun emux ehnri fxks thalbxt Henry Fox Talbot aela daaekr Daguerre khidkhnkrrmwithilangxdphaphkhuninpi kh s 1839 phukhnkerimthayphaph 3 miti sungmikhunphaphdiiklekhiyngkbpccubn tangkntrngthikarlangxdphaph mikhaichcaysungmakintxnnn aelaxupkrnduphaph 3 miti kyngminxy aelaimkhxyaephrhlay cudepliynaeplngkhrngihy ekidkhuninpi kh s 1850 emux edwid bruwsetxr David Brewster pradisth albumen print aela xupkrnduphaph thimirakhathuk aela Oliver Wendall Homes thipradisthxupkrnduphaphthimirakhathukyingkwa hlkkarngay khxngkarthayphaph 3 miti kkhuxkarthayphaphcanwn 2 phaph khxngwtthuediywkn inmumthitangknelknxy hlngcaknn cungichethkhnikhkhxngkarduphaph 3 miti withiidwithihnung ephuxsngphaphaetlaphaphaeykcakknsahrbtaaetlakhang sungcathukphsmrwmkninsmxngkhxngeraxikkhrnghnung thaiheraehnphaphdngklaw inlksna 3 miti khuxehnmititunluk khxsakhykhxngkarthayphaph 3 miti elnsthng 2 tw txngmithangyawofksethakn aenwkarthayphaphthng 2 phaph txngkhnankn rayahangrahwangklxng 2 tw hruxrayakareluxnklxng caethakbrayahangrahwanglukta khuxpraman 6 5 s m xangxingkarphlitphaphthay 3 miti ephuxichepnsuxkareriynkarsxn lingkesiy hna 10 khwamruthwip 2009 02 20 thi ewyaebkaemchchinaehlngkhxmulxunkarthayphaph 3 miti 2005 04 08 thi ewyaebkaemchchin Thai3DWorld com 2016 04 15 thi ewyaebkaemchchin Stereovisions lingkesiy