ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บทความนี้ไม่มีจาก |
ฟรานซิส คริก (Francis Harry Compton Crick OM FRS (8 มิถุนายน พ.ศ. 2459 – 28 กรกฎาคม 2547) ชาวอังกฤษ นักฟิสิกส์และ ผู้ได้รับการยกย่องเป็นผู้ร่วมค้นพบโครงสร้างโมเลกุลของ “กรดดีออกซีไรโบนิวคลิอิก” หรือ “ดีเอ็นเอ” เมื่อ พ.ศ. 2496 ฟรานซิส คริก กับ เจมส์ ดี. วัตสัน ผู้ร่วมค้นพบ ได้ร่วมรับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยา หรือ การแพทย์ “สำหรับการค้นพบที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างโมเลกุลของกรดนิวคลิอิกและความสำคัญของมันในการถ่ายทอดข้อมูลสำคัญในสิ่งมีชีวิต”
งานของฟรานซิส คริกในช่วงหลังจนถึงปี พ.ศ. 2520 ที่หอทดลองอณูชีววิทยา “เอ็มอาร์ซี” หรือ “สภาวิจัยทางการแพทย์” (MRC-Medical Research Council) ไม่ได้รับการยอมรับเป็นทางการมากนัก ในช่วงท้ายในชีวิตงาน คริกได้ดำรงตำแหน่ง “เจ ดับบลิว คีกเคเฟอร์” ที่ “” ที่เมืองลาโฮลา รัฐแคลิฟอร์เนีย และได้ดำรงตำแหน่งนี้จนสิ้นชีวิตเมื่ออายุได้ 88 ปี
ชีวประวัติ ครอบครัวและการศึกษา
ฟรานซิส คริกเป็นบุตรชายคนโตของแฮรีและอเล็ก คริก เกิดและเติบโตที่เวสตัน ฟาเวล หมู่บ้านเล็กๆ ของเมือง ประเทศอังกฤษ ครอบครัวของคริกทำโรงงานผลิตและทำธุรกิจด้านรองเท้า คริกสนใจวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่วัยเด็กเล็กโดยเรียนจากหนังสือ เมื่ออายุ 12 ปี คริกบอกพ่อแม่ว่าจะไม่ไปโบสถ์อีกเพราะสนใจที่จะหาคำตอบในศาสนาโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์มากกว่าการใช้ศรัทธาและความเชื่อ คริกได้รับการศึกษาในนอร์แทมป์ตัน หลังอายุ 14 ปี คริกศึกษาด้านคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์และเคมี เมื่ออายุ 21 ปีจบปริญญาตรีวิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาเคมี
ฟรานซิส คริกเริ่มงานวิจัยระดับปริญญาเอกเกี่ยวกับการวัดความหนืดของน้ำในอุณหภูมิสูง แต่เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น คริกหันความสนใจไปทางด้านฟิสิกส์แทน และในระหว่างสงคราม คริกเข้าทำงานที่ (Admiralty Research Laboratory) ซึ่งเป็นที่สร้างนักวิทยาศาสตร์เด่นๆ หลายคนของอังกฤษ คริกทำงานในโครงการออกแบบทุ่นระเบิดแบบใช้แม่เหล็กและแบบใช้เสียงสะท้อนซึ่งใช้ได้ผลดี สามารถหลีกพ้นจากการตรวจจับจากเรือกวาดทุ่นระเบิดเยอรมันได้
หลังสงคราม ฟรานซิส คริกเริ่มศึกษาทางชีววิทยาและกลายการส่วนสำคัญของการเคลื่อนไหลวิชาฟิสิกส์เข้าไปในสาขาชีววิทยาซึ่งนำโดย ผู้คิดค้นและประดิษฐ์เครื่องเรดาร์ที่มีส่วนให้สัมพันธมิตรชนะสงคราม คริกต้องปรับตัวจาก “การเข้าลึก ง่ายและสง่างามของฟิสิกส์” มาสู่ “การวิวัฒนาการเป็นพันล้านปีในกลไกของทางเคมีที่ซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติ” ด้วยประสบการณ์ทางสาขาฟิสิกส์ที่ได้มีการค้นพบสิ่งต่างๆ ที่โด่งดังมาแล้วมากมาย คริกจึงคิดว่าด้านชีววิทยาก็น่าจะมีการค้นพบสิ่งสำคัญที่โด่งดังได้เช่นกัน ซึ่งเป็นทัศนคติที่ทำให้คริกมีความมุมานะบากบั่นค้นคว้าในสิ่งยากและท้าทาย
คริกทำงานที่หอปฏิบัติการทดลองที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ 2 ปี โดยค้นคว้าคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของ และย้ายมาทำงานร่วมกับ นักอณูชีววิทยาที่ซึ่งอำนวยการโดย ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเมื่อ พ.ศ. 2458 ด้วยอายุ 25 ปี เซอร์ แบรกก์ เป็นคู่แข่งกับ ไลนัส พอลิง นักเคมีชาวอเมริกันที่กำลังแข่งขันชิงดีชิงเด่นเพื่อการค้นพบโครงสร้างของดีเอ็นเอ (หลังจากพอลิงประสบความสำเร็จในการบ่งชี้โครงสร้างเกลียวอัลฟาของโปรตีน) ในขณะเดียวกันหอคาร์เวนดิชของ เซอร์แบรกก์ฯ ก็ยังเป็นคู่แข่งกับมหาวิทยาลัย แห่งลอนดอนอีกด้วย
ฟรานซิส คริกสมรสกับรูธ ดอรีน ดอดด์ คริก และต่อมากับ โอดายล์ สปอร์ต คริกมีบุตร 3 คน
งานวิจัยทางชีววิทยา
ฟรานซิส คริกมีความสนใจปัญหาพื้นฐานที่ยังแก้ไม่ตกทางชีววิทยาคือ ประการที่ 1 โมลเลกุลก่อตัวจากสิ่งไม่มีชีวิตมาเป็นสิ่งมีชีวิตได้อย่างไร ประการที่ 2 สมองสร้างได้อย่างไร คริกตระหนักดีว่าพื้นความรู้ของตนเหมาะสมกับการแก้ปัญหาแรกและกับสาขา เป็นที่ชัดเจนทางทฤษฎีว่าในโมเลกุลทางชีววิทยาสามารถสร้างเสถียรภาพทางโครงสร้างที่จำเป็นแก่การยึดข้อมูลพันธุกรรมในเซลล์ไว้ได้ เหลือเพียงการปฏิบัติการทดลองทางชีววิทยาเท่านั้น เพื่อการค้นหาว่าโมเลกุลใดกันแน่ที่เป็นโมเลกุลหลักของพันธุกรรม ในความเห็นของคริก การรวมทฤษฎีของดาร์วินเกี่ยวการวิวัฒนาการโดยการคัดเลือกโดยธรรมชาติ และการค้นพบเกี่ยวกับพันธุกรรมและความรู้เกี่ยวกับพื้นฐานของของ เมื่อนำมารวมกันแล้วย่อมเปิดเผยความลับของชีวิตได้ ตี่ความคิดของคริกได้เปลี่ยนในภายหลังหลังจากการสังเกตและสถิติที่ไม่ตอบรับกับที่ได้แถลงไว้ตอนแรก
เป็นที่ค่อนข้างชัดเจนว่าโมเลกุลมหภาคอย่างโมเลกุลโปรตีนมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโมเลกุลพันธุกรรม และเป็นที่ทราบดีแล้วว่าโมเลกุลมหภาคของโปรตีนมีเอนไซม์ที่เป็นตัวทำปฏิกิริยาของเซลล์ ในสิบปีหลังจาก พ.ศ. 2483 ก็ได้มีการพบว่าโมเลกุลตัวหนึ่งคือดีเอ็นเอซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครโมโซมมีสิทธิ์จะเป็นโมเลกุลพันธุกรรมได้
อย่างไรก็ตาม หลักฐานอื่นๆ แปลความหมายเชิงแนะได้ว่า ดีเอ็นเอมีโครงสร้างไม่น่าสนใจและอาจเป็นเพียง “นั่งร้าน” สำหรับโมเลกุลโปรตีนที่น่าสนใจตัวอื่น คริกได้มาอยู่ถูกที่ ถูกเรื่องและถูกเวลา (พ.ศ. 2492) ที่ได้มาร่วมโครงการกับที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และได้เริ่มงานผลิกศาสตร์รังสีเอกซ์ (X-ray crystallography) สำหรับโปรตีนซึ่งตามทฤษฎีแล้วสามารถเปิดโอกาสให้เห็นโครงสร้างของโมเลกุลใหญ่เช่นของโปรตีนและดีเอ็นเอได้ แต่ก็มีปัญหาใหญ่ทางเทคนิคที่ทำให้ไม่สามารถประยุกต์ศาสตร์นี้เข้ากับโมเลกุลใหญ่เหล่านี้ได้
ผลิกศาสตร์รังสี (X-ray crystallography) พ.ศ. 2492 – 2493
คริกศึกษาทฤษฎีคณิตศาสตร์ของผลิกศาสตร์รังสีเอกซ์ด้วยตนเอง และในขณะที่คริกกำลังศึกษาการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ก็กำลังพยายามบ่งชี้รูปที่เสถียรที่สุดของห่วงโซ่กรดอะมิโนในโปรตีน (เกลียวคู่) ที่จะไปด้วยกันได้ ไลนัส พอลิง เป็นคนแรกที่สามารถบ่งชี้สัดส่วน 3.6 ของกรดอะมิโนของเกลียวคู่ได้ คริกได้เห็นข้อผิดพลาดของเพื่อนร่วมงานในการสร้างหุ่นจำลองของของเกลียวคู่ที่ว่าถูกต้อง ซึ่งกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่นำมาพิจารณาในการสร้างหุ่นจำลองโครงสร้างเกลียวคู่ของดีเอ็นเอ
เกลียวคู่ พ.ศ. 2494 – 2496
คริกร่วมกับผู้ร่วมงานอีก 2 คนได้ช่วยกันพัฒนาทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ของการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ในโมเลกุลเกลียวคู่ ซึ่งผลตามทฤษฎีนี้เข้ากันได้พอดีกับข้อมูลเอกซ์เรย์ที่ได้จากโปรตีนที่มีลำดับของกรดอะมิโนในเกลียวคู่อัลฟา (ตีพิมพ์ใน พ.ศ. 2495) ทฤษฎีการเลี้ยวเบนของรังสีเกลียวคู่ได้กลายเป็นประโยชน์อย่างมากในการสร้างความเข้าใจโครงสร้างของดีเอ็นเอ
ปลายปี พ.ศ. 2494 คริกเริ่มงานกับเจมส์ ดี. วัตสันที่ในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยใช้ผลการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ของ มอริส วิลคินส์ และโรซาลินด์ แฟรงคลินแห่งลอนดอน วัตสันและคริกได้ร่วมกันพัฒนาหุ่นจำลองของโครงสร้างเกลียวคู่ของดีเอ็นเอซึ่งตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2496 ซึ่งมีผลให้ทั้งสองคนได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยา หรือ การแพทย์ในปี พ.ศ. 2505 ร่วมกับมอริส วิลคินส์
เมื่อ เจมส์ ดี วัตสันมาเคมบริดจ์นั้น คริกเป็นนักศึกษาปริญญาโทอายุ 35 ปี ส่วนวัตสัน อายุเพียง 23 ปี แต่ก็ได้ปริญญาเอกมาแล้ว ทั้งสองแลกเปลี่ยนความสนใจในการศึกษาพื้นฐานว่าข้อมูลทางพันธุกรรมถูกบรรจุในรูปของโครงสร้างโมเลกุลได้อย่างไร ทั้งสองคนพูดถึงดีเอ็นเออย่างไม่รู้จักจบสิ้น ชิ้นงานสำคัญจากการทดลองของวิลคินส์และนักศึกษาบัณฑิตศึกษาคือ ในปี พ.ศ. 2494 วิลคินส์ได้มาที่เคมบริดจ์และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลกับวัตสันและคริก จากการศึกษางานของนักวิทยาศาสตร์อีกหลายคนที่เกี่ยวข้องในสาขานี้ คริกและวัตสันจึงได้สร้างและจัดแสดงหุ่นจำลองของดีเอ็นเออันแรกที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะวัตสันซึ่งวิตกว่ากำลังแข่งกับไลนัส พอลิงและพอลลิงอาจกำลังบ่งชี้โครงสร้างของดีเอ็นเออยู่ด้วย
หลายคนคาดเดาว่าหากพอลิงมีโอกาสเดินทางมาอังกฤษตามกำหนดในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2495 และได้เห็นการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ของวิลคินส์/โกสลิง/แฟรงคลิน พลลิงก็น่าจะได้ความคิดกลับไปสร้างหุ่นจำลองเกลียวคู่ได้ บังเอิญกิจกรรมทางการเมืองของพอลิงทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขัดขวางการเดินทางในช่วงนั้นไว้ จนกระทั่งอีกนานหลังจากนั้น พอลิงจึงได้มีโอกาสพบกับกลุ่มนักวิจัยดีเอ็นเอของอังกฤษ วัตสันกับคริกไม่ได้ทำงานในเรื่องดีเอ็นเออย่างเป็นทางการ คริกทำเรื่องนี้ในวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ส่วนวัตสันทำงานอื่นที่พยายามทดลองการใช้ผลึกของไมโอโกลบินกับการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ เมื่อ พ.ศ. 2495 วัตสันได้ทำการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ในไวรัสใบยาสูบและพบว่ามันมีโครงสร้างเป็นเกลียว เมื่อล้มเหลวมาครั้งหนึ่งแล้ว ทั้งคู่จึงลังเลที่จะทำการทดลองครั้งที่ 2 อีก ทั้งสอง “ถูกห้าม” ไม่ให้ทำงานเพื่อการสร้างหุ่นจำลองของดีเอ็นเอต่อ
จุดสำคัญที่ในการพยายามสร้างหุ่นจำลองดีเอ็นเอของคริกและวัตสันอยู่ที่ความเข้าใจในเคมีพื้นฐานของโรซาลินด์ แฟรงคลินที่บ่งชี้ว่าไฮโดรส่วนประกอบหลักของของดีเอ็นเอน่าจะอย่ในตำแหน่งที่สามารถทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของน้ำที่ด้านนอกของโมเลกุล ในขณะที่ฐานของไฮโดรโฟบิกควรจะถูกอัดอยู่ในแกนกลาง แฟรงคลินไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้กับคริกและวัตสันเมื่อเธอชี้ให้เห็นในหุ่นจำลองอันแรกของทั้งสองคน (พ.ศ. 2494 ที่มีฟอสเฟตอยู่ด้านใน) ว่าผิดโดยชัดเจน
คริกกล่าวถึงความล้มเหลวของวิลคินส์ และโรซาลินด์ในความพยายามทำงานเพื่อหาโครงสร้างโมเลกุลของดีเอ็นเอด้วยด้วยการชี้ว่าหุ่นจำลองอันแรกผิด ซึ่งเป็นเหตุให้เขาและวัตสันได้ลงมือทำงานอีกเป็นครั้งที่สอง ทั้งสองคนได้ขออนุญาตจากแบรกก์และวิลคินส์และก็ได้รับอนุมัติให้ดำเนินงานได้ ในครั้งนี้ คริกและวัตสันได้ใช้ข้อมูลการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ของตนเองที่นำไปแสดงในการประชุมแต่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ของตนที่มีชื่อวิลคินส์เป็นผู้ร่วมงานด้วย รวมทั้งการใช้รายงานความก้าวหน้าเกี่ยวกับภาพที่ได้จากการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ของแฟรงคลินที่รายงานต่อหอวิจัยของคิงส์คอลเลจของเมื่อปลายปี พ.ศ. 2495 ด้วย
เป็นที่โต้เถียงกันมากว่าคริกและวัตสันควรใช้ข้อมูลการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ของแฟรงคลินไปใช้อ้างอิงก่อนที่เธอจะมีโอกาสตีพิมพ์ได้หรือไม่ ต่อมาเปรุทซ์ก็ได้ตีพิมพ์เอกสารวิชาการกล่าวสนับสนุนว่าคริกและวัตสันได้ใช้ข้อมูลเฉพาะส่วนที่ได้พบปะแลกเปลี่ยนในเรื่องนี้ระหว่างวัตสันกับแฟรงคลินเมื่อปลายปี พ.ศ. 2494 แล้วเท่านั้น ไม่มีข้อมูลอื่นนอกจากที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันในครั้งนั้น และรายงานของแฟรงคลินดังกล่าวเป็นรายงานทางการแพทย์ที่มีขึ้นเพื่อใช้ในการพบปะระหว่างนักวิจัยกลุ่มต่างๆ ที่ทำงานภายใต้ “สภาวิจัยทางการแพทย์” (MRC-Medical Research Council) ด้วยกัน
อณูชีววิทยา
การเป็นที่ยอมรับ
รางวัลปาฐกถาฟรานซิส คริก ราชสมาคม ลอนดอน รางวัลปาฐกถาฟรานซิส คริกก่อตั้วเมือ พ.ศ. 2546 จากการตั้งกองทุนของเพื่อนของคริก ชื่อ ผู้ได้รับร่วมในสาขาสรีรวิทยาและการแพทย์ การปาฐกถามีปีละ 1 ครั้ง ในสาขาใดก็ได้ในวิทยาศาสตร์ชีววิทยา และจะเน้นพิเศษในขอบเขตวิชาที่คริกได้เคยทำงานไว้ ที่สำคัญคือที่เป็นการกำหนดให้เฉพาะนักวิทยาศาสตร์วัยหนุ่มสาวที่มีอายุต่ำกว่า 40
หนังสือแต่งโดยฟรานซิส คริก
- (Prometheus Books, 2004; original edition 1967)
- Life Itself (Simon & Schuster, 1981)
- (Basic Books reprint edition, 1990)
- : The Scientific Search For The Soul (Scribner reprint edition, 1995)
- Kreiseliana: about and around Georg Kreisel; ; 495 pages. For pages 25 - 32 "Georg Kriesel: a Few Personal Recollections" by Francis Crick.
แหล่งข้อมูลอื่น
- บทความทางวิชาการของฟรานซิส คริกใน nature.com
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisudbthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir fransis khrik Francis Harry Compton Crick OM FRS 8 mithunayn ph s 2459 28 krkdakhm 2547 chawxngkvs nkfisiksaela phuidrbkarykyxngepnphurwmkhnphbokhrngsrangomelkulkhxng krddixxksiirobniwkhlixik hrux diexnex emux ph s 2496 fransis khrik kb ecms di wtsn phurwmkhnphb idrwmrbrangwloneblsakhasrirwithya hrux karaephthy sahrbkarkhnphbthiekiywkhxngkbokhrngsrangomelkulkhxngkrdniwkhlixikaelakhwamsakhykhxngmninkarthaythxdkhxmulsakhyinsingmichiwit fransis khrik ngankhxngfransis khrikinchwnghlngcnthungpi ph s 2520 thihxthdlxngxnuchiwwithya exmxarsi hrux sphawicythangkaraephthy MRC Medical Research Council imidrbkaryxmrbepnthangkarmaknk inchwngthayinchiwitngan khrikiddarngtaaehnng ec dbbliw khikekhefxr thi thiemuxnglaohla rthaekhlifxreniy aelaiddarngtaaehnngnicnsinchiwitemuxxayuid 88 pichiwprawti khrxbkhrwaelakarsuksahnatanghxngxaharthiwithyalykxnwillaelaikhxusinekhmbridc pradbkracksirupokhrngsrangdiexnexralukthungfransis khrikphuidrbrangwlonebl fransis khrikepnbutrchaykhnotkhxngaehriaelaxelk khrik ekidaelaetibotthiewstn faewl hmubanelk khxngemuxng praethsxngkvs khrxbkhrwkhxngkhrikthaorngnganphlitaelathathurkicdanrxngetha khriksnicwithyasastrmatngaetwyedkelkodyeriyncakhnngsux emuxxayu 12 pi khrikbxkphxaemwacaimipobsthxikephraasnicthicahakhatxbinsasnaodyichhlkwithyasastrmakkwakarichsrththaaelakhwamechux khrikidrbkarsuksainnxraethmptn hlngxayu 14 pi khriksuksadankhnitsastr fisiksaelaekhmi emuxxayu 21 picbpriyyatriwithyasastrbnthitsakhaekhmi fransis khrikerimnganwicyradbpriyyaexkekiywkbkarwdkhwamhnudkhxngnainxunhphumisung aetemuxekidsngkhramolkkhrngthi 2 khun khrikhnkhwamsnicipthangdanfisiksaethn aelainrahwangsngkhram khrikekhathanganthi Admiralty Research Laboratory sungepnthisrangnkwithyasastredn hlaykhnkhxngxngkvs khrikthanganinokhrngkarxxkaebbthunraebidaebbichaemehlkaelaaebbichesiyngsathxnsungichidphldi samarthhlikphncakkartrwccbcakeruxkwadthunraebideyxrmnid hlngsngkhram fransis khrikerimsuksathangchiwwithyaaelaklaykarswnsakhykhxngkarekhluxnihlwichafisiksekhaipinsakhachiwwithyasungnaody phukhidkhnaelapradisthekhruxngerdarthimiswnihsmphnthmitrchnasngkhram khriktxngprbtwcak karekhaluk ngayaelasngangamkhxngfisiks masu karwiwthnakarepnphnlanpiinklikkhxngthangekhmithisbsxnkhxngsingmichiwitthiekidcakkarkhdeluxkodythrrmchati dwyprasbkarnthangsakhafisiksthiidmikarkhnphbsingtang thiodngdngmaaelwmakmay khrikcungkhidwadanchiwwithyaknacamikarkhnphbsingsakhythiodngdngidechnkn sungepnthsnkhtithithaihkhrikmikhwammumanabakbnkhnkhwainsingyakaelathathay khrikthanganthihxptibtikarthdlxngthimhawithyalyekhmbridc 2 pi odykhnkhwakhunsmbtithangfisikskhxng aelayaymathanganrwmkb nkxnuchiwwithyathisungxanwykarody phuidrbrangwloneblemux ph s 2458 dwyxayu 25 pi esxr aebrkk epnkhuaekhngkb ilns phxling nkekhmichawxemriknthikalngaekhngkhnchingdichingednephuxkarkhnphbokhrngsrangkhxngdiexnex hlngcakphxlingprasbkhwamsaercinkarbngchiokhrngsrangekliywxlfakhxngoprtin inkhnaediywknhxkharewndichkhxng esxraebrkk kyngepnkhuaekhngkbmhawithyaly aehnglxndxnxikdwy fransis khriksmrskbruth dxrin dxdd khrik aelatxmakb oxdayl spxrt khrikmibutr 3 khnnganwicythangchiwwithyafransis khrikmikhwamsnicpyhaphunthanthiyngaekimtkthangchiwwithyakhux prakarthi 1 omlelkulkxtwcaksingimmichiwitmaepnsingmichiwitidxyangir prakarthi 2 smxngsrangidxyangir khriktrahnkdiwaphunkhwamrukhxngtnehmaasmkbkaraekpyhaaerkaelakbsakha epnthichdecnthangthvsdiwainomelkulthangchiwwithyasamarthsrangesthiyrphaphthangokhrngsrangthicaepnaekkaryudkhxmulphnthukrrmineslliwid ehluxephiyngkarptibtikarthdlxngthangchiwwithyaethann ephuxkarkhnhawaomelkulidknaenthiepnomelkulhlkkhxngphnthukrrm inkhwamehnkhxngkhrik karrwmthvsdikhxngdarwinekiywkarwiwthnakarodykarkhdeluxkodythrrmchati aelakarkhnphbekiywkbphnthukrrmaelakhwamruekiywkbphunthankhxngkhxng emuxnamarwmknaelwyxmepidephykhwamlbkhxngchiwitid tikhwamkhidkhxngkhrikidepliyninphayhlnghlngcakkarsngektaelasthitithiimtxbrbkbthiidaethlngiwtxnaerk epnthikhxnkhangchdecnwaomelkulmhphakhxyangomelkuloprtinmikhwamepnipidsungthicaepnomelkulphnthukrrm aelaepnthithrabdiaelwwaomelkulmhphakhkhxngoprtinmiexnismthiepntwthaptikiriyakhxngesll insibpihlngcak ph s 2483 kidmikarphbwaomelkultwhnungkhuxdiexnexsungepnxngkhprakxbsakhykhxngokhromosmmisiththicaepnomelkulphnthukrrmid xyangirktam hlkthanxun aeplkhwamhmayechingaenaidwa diexnexmiokhrngsrangimnasnicaelaxacepnephiyng nngran sahrbomelkuloprtinthinasnictwxun khrikidmaxyuthukthi thukeruxngaelathukewla ph s 2492 thiidmarwmokhrngkarkbthimhawithyalyekhmbridcaelaiderimnganphliksastrrngsiexks X ray crystallography sahrboprtinsungtamthvsdiaelwsamarthepidoxkasihehnokhrngsrangkhxngomelkulihyechnkhxngoprtinaeladiexnexid aetkmipyhaihythangethkhnikhthithaihimsamarthprayuktsastrniekhakbomelkulihyehlaniidphliksastrrngsi X ray crystallography ph s 2492 2493khriksuksathvsdikhnitsastrkhxngphliksastrrngsiexksdwytnexng aelainkhnathikhrikkalngsuksakareliywebnkhxngrngsiexks nkwicythimhawithyalyekhmbridckkalngphyayambngchirupthiesthiyrthisudkhxnghwngoskrdxamioninoprtin ekliywkhu thicaipdwyknid ilns phxling epnkhnaerkthisamarthbngchisdswn 3 6 khxngkrdxamionkhxngekliywkhuid khrikidehnkhxphidphladkhxngephuxnrwmnganinkarsranghuncalxngkhxngkhxngekliywkhuthiwathuktxng sungklayepnbtheriynsakhythinamaphicarnainkarsranghuncalxngokhrngsrangekliywkhukhxngdiexnexekliywkhu ph s 2494 2496khrikrwmkbphurwmnganxik 2 khnidchwyknphthnathvsdithangkhnitsastrkhxngkareliywebnkhxngrngsiexksinomelkulekliywkhu sungphltamthvsdiniekhaknidphxdikbkhxmulexkserythiidcakoprtinthimiladbkhxngkrdxamioninekliywkhuxlfa tiphimphin ph s 2495 thvsdikareliywebnkhxngrngsiekliywkhuidklayepnpraoychnxyangmakinkarsrangkhwamekhaicokhrngsrangkhxngdiexnex aephnphumiaesdngkhuthanokhrngsranghlkkhxngdiexnex thikhlayknkhxngkhwanayn sisotisnaelaxaedninn ithxami thikhuthanlangcathukyudekhadwyknodyaerngekaaekiywknkhxngihodrecn fxseftthiepnokhrngkraduksnhlnghlkcaimwangtwkhnan playpi ph s 2494 khrikerimngankbecms di wtsnthiinmhawithyalyekhmbridc odyichphlkareliywebnkhxngrngsiexkskhxng mxris wilkhins aelaorsalind aefrngkhlinaehnglxndxn wtsnaelakhrikidrwmknphthnahuncalxngkhxngokhrngsrangekliywkhukhxngdiexnexsungtiphimphinpi ph s 2496 sungmiphlihthngsxngkhnidrbrangwloneblsakhasrirwithya hrux karaephthyinpi ph s 2505 rwmkbmxris wilkhins emux ecms di wtsnmaekhmbridcnn khrikepnnksuksapriyyaothxayu 35 pi swnwtsn xayuephiyng 23 pi aetkidpriyyaexkmaaelw thngsxngaelkepliynkhwamsnicinkarsuksaphunthanwakhxmulthangphnthukrrmthukbrrcuinrupkhxngokhrngsrangomelkulidxyangir thngsxngkhnphudthungdiexnexxyangimruckcbsin chinngansakhycakkarthdlxngkhxngwilkhinsaelanksuksabnthitsuksakhux inpi ph s 2494 wilkhinsidmathiekhmbridcaelarwmaelkepliynkhwamkhidehnaelakhxmulkbwtsnaelakhrik cakkarsuksangankhxngnkwithyasastrxikhlaykhnthiekiywkhxnginsakhani khrikaelawtsncungidsrangaelacdaesdnghuncalxngkhxngdiexnexxnaerkthikhladekhluxn odyechphaawtsnsungwitkwakalngaekhngkbilns phxlingaelaphxllingxackalngbngchiokhrngsrangkhxngdiexnexxyudwy hlaykhnkhadedawahakphxlingmioxkasedinthangmaxngkvstamkahndineduxnphvsphakhm ph s 2495 aelaidehnkareliywebnkhxngrngsiexkskhxngwilkhins oksling aefrngkhlin phllingknacaidkhwamkhidklbipsranghuncalxngekliywkhuid bngexiykickrrmthangkaremuxngkhxngphxlingthaihrthbalshrth khdkhwangkaredinthanginchwngnniw cnkrathngxiknanhlngcaknn phxlingcungidmioxkasphbkbklumnkwicydiexnexkhxngxngkvs wtsnkbkhrikimidthanganineruxngdiexnexxyangepnthangkar khrikthaeruxngniinwithyaniphnthpriyyaexk swnwtsnthanganxunthiphyayamthdlxngkarichphlukkhxngimoxoklbinkbkareliywebnkhxngrngsiexks emux ph s 2495 wtsnidthakareliywebnkhxngrngsiexksiniwrsibyasubaelaphbwamnmiokhrngsrangepnekliyw emuxlmehlwmakhrnghnungaelw thngkhucunglngelthicathakarthdlxngkhrngthi 2 xik thngsxng thukham imihthanganephuxkarsranghuncalxngkhxngdiexnextx cudsakhythiinkarphyayamsranghuncalxngdiexnexkhxngkhrikaelawtsnxyuthikhwamekhaicinekhmiphunthankhxngorsalind aefrngkhlinthibngchiwaihodrswnprakxbhlkkhxngkhxngdiexnexnacaxyintaaehnngthisamarththaptikiriyakbomelkulkhxngnathidannxkkhxngomelkul inkhnathithankhxngihodrofbikkhwrcathukxdxyuinaeknklang aefrngkhlinipaelkepliynkhwamkhidehnnikbkhrikaelawtsnemuxethxchiihehninhuncalxngxnaerkkhxngthngsxngkhn ph s 2494 thimifxseftxyudanin waphidodychdecn khrikklawthungkhwamlmehlwkhxngwilkhins aelaorsalindinkhwamphyayamthanganephuxhaokhrngsrangomelkulkhxngdiexnexdwydwykarchiwahuncalxngxnaerkphid sungepnehtuihekhaaelawtsnidlngmuxthanganxikepnkhrngthisxng thngsxngkhnidkhxxnuyatcakaebrkkaelawilkhinsaelakidrbxnumtiihdaeninnganid inkhrngni khrikaelawtsnidichkhxmulkareliywebnkhxngrngsiexkskhxngtnexngthinaipaesdnginkarprachumaetyngimidtiphimphkhxngtnthimichuxwilkhinsepnphurwmngandwy rwmthngkarichrayngankhwamkawhnaekiywkbphaphthiidcakkareliywebnkhxngrngsiexkskhxngaefrngkhlinthirayngantxhxwicykhxngkhingskhxlelckhxngemuxplaypi ph s 2495 dwy epnthiotethiyngknmakwakhrikaelawtsnkhwrichkhxmulkareliywebnkhxngrngsiexkskhxngaefrngkhlinipichxangxingkxnthiethxcamioxkastiphimphidhruxim txmaepruthskidtiphimphexksarwichakarklawsnbsnunwakhrikaelawtsnidichkhxmulechphaaswnthiidphbpaaelkepliynineruxngnirahwangwtsnkbaefrngkhlinemuxplaypi ph s 2494 aelwethann immikhxmulxunnxkcakthiidaelkepliynkhwamrusungknaelakninkhrngnn aelarayngankhxngaefrngkhlindngklawepnraynganthangkaraephthythimikhunephuxichinkarphbparahwangnkwicyklumtang thithanganphayit sphawicythangkaraephthy MRC Medical Research Council dwyknxnuchiwwithyaoprtinkhxllaecnaebb 3 ekliywkarepnthiyxmrbrangwlpathkthafransis khrik rachsmakhm lxndxn rangwlpathkthafransis khrikkxtwemux ph s 2546 cakkartngkxngthunkhxngephuxnkhxngkhrik chux phuidrbrwminsakhasrirwithyaaelakaraephthy karpathkthamipila 1 khrng insakhaidkidinwithyasastrchiwwithya aelacaennphiessinkhxbekhtwichathikhrikidekhythanganiw thisakhykhuxthiepnkarkahndihechphaankwithyasastrwyhnumsawthimixayutakwa 40hnngsuxaetngodyfransis khrik Prometheus Books 2004 original edition 1967 ISBN 1 59102 185 5 Life Itself Simon amp Schuster 1981 ISBN 0 671 25562 2 Basic Books reprint edition 1990 ISBN 0 465 09138 5 The Scientific Search For The Soul Scribner reprint edition 1995 ISBN 0 684 80158 2Kreiseliana about and around Georg Kreisel ISBN 1 56881 061 X 495 pages For pages 25 32 Georg Kriesel a Few Personal Recollections by Francis Crick aehlngkhxmulxunbthkhwamthangwichakarkhxngfransis khrikin nature com