พายุหมุนเขตร้อนใน พ.ศ. 2562 แบ่งออกเป็นพื้นที่เจ็ดบริเวณที่แตกต่างกันเรียกว่า แอ่ง รวมถึงพื้นที่ด้วย จนถึงขณะนี้ มีพายุก่อตัวขึ้นทั่วโลกในระหว่างปีนี้ 38 ลูก ในจำนวนนั้นมีพายุ 24 ลูกเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่มีกำลังจนได้รับชื่อเรียกจากบรรดาศูนย์อุตุนิยมวิทยาชำนัญพิเศษประจำภูมิภาค (RSMC) หรือศูนย์เตือนพายุหมุนเขตร้อน (TCWC) ในพื้นที่
พายุหมุนเขตร้อนใน พ.ศ. 2562 | |
---|---|
แผนที่สรุปปี | |
ขอบเขตของปี | |
ระบบแรก | โมนา |
ก่อตัว | 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561 |
ระบบสุดท้าย | ซาไร |
สลายตัว | 2 มกราคม พ.ศ. 2563 |
พายุมีกำลังมากที่สุด | |
ชื่อ | (หะลอง) |
ความกดอากาศต่ำที่สุด | 905 mbar/hPa; 26.72 |
พายุที่มีช่วงเวลายาวนานที่สุด | |
ชื่อ | โอมา |
ระยะเวลา | 15 วัน |
สถิติปี | |
พายุทั้งหมด | 143 ลูก |
พายุที่ได้รับชื่อ | 105 ลูก |
ผู้เสียชีวิตทั้งหมด | ทั้งหมด 2,090 คน |
ความเสียหายทั้งหมด | > 6.064 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงิน USD พ.ศ. 2562) |
พายุหมุนเขตร้อนที่เป็นเหตุให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดของปี คือ (พายุไซโคลนรุนแรงอิดาอี)ในมหาสมุทรอินเดียตะวันตก-ใต้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1,066 คนในประเทศโมซัมบิก ประเทศมาลาวี ประเทศซิมบับเว และประเทศมาดากัสการ์ ส่วนพายุที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุดของปี คือ (พายุไซโคลนกำลังแรงวิรอนิกา)ในภูมิภาคออสเตรเลีย โดยมีความเสียหายเกิดขึ้น 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
กิจกรรมพายุหมุนเขตร้อน ในแต่ละแอ่งจะอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาชำนัญพิเศษประจำภูมิภาคต่าง ๆ ดังนี้ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (NHC) รับผิดชอบพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก, ศูนย์เฮอริเคนแปซิฟิกกลาง (CPHC) รับผิดชอบพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง โดยทั้ง NHC และ CPHC เป็นหน่วยงานย่อยของ, กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ทำหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก, (IMD) ทำหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรอินเดียเหนือ ขณะที่ศูนย์ในเกาะเรอูว์นียง (MFR) ทำหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรอินเดียใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนในภูมิภาคออสเตรเลีย พายุหมุนเขตร้อนจะถูกติดตามโดย TCWC ห้าศูนย์ภายใต้การประสานงานของสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย (BOM), กรมอุตุนิยมวิทยาฟีจี (FMS) และ ของนิวซีแลนด์ รวมถึงยังมีหน่วยงานที่ติดตามพายุอย่างไม่เป็นทางการ คือ ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วม (JTWC) และหน่วยงานที่ตั้งชื่อพายุอย่างไม่เป็นทางการ คือ (PAGASA) ด้วย
สรุป
มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ | มหาสมุทรอินเดียเหนือ | ภูมิภาคออสเตรเลีย |
มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกและกลาง | มหาสมุทรอินเดียใต้ฝั่งตะวันตก | มหาสมุทรแอตแลนติกใต้ |
มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก | มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ |
พายุ
มกราคม
เดือนมกราคมเป็นเดือนที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมของพายุนัก มีพายุหมุนเขตร้อนเพียงแปดลูกเท่านั้น ซึ่งในจำนวนพายุทั้งหมดของเดือน มีพายุจำนวนห้าลูกที่ได้รับชื่อ อย่างไรก็ตาม พายุโซนร้อนปาบึก กลายเป็นพายุโซนร้อนที่ก่อตัวเร็วที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ทำลายสถิติเดิมที่พายุไต้ฝุ่นอลิซทำไว้เมื่อปี พ.ศ. 2522 ปาบึกทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คนในประเทศไทย, ประเทศเวียดนาม และ ประเทศมาเลเซีย และทำให้มีความเสียหายเกิดขึ้น 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ค.ศ. 2019) ต่อมาช่วงปลายเดือนมกราคม พายุโซนร้อนเอเกตแซงได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 27 คนในประเทศมาดากัสการ์
ชื่อพายุ | ช่วงที่พายุมีกำลัง | ลมแรงสุด กม./ชม. (ไมล์/ชม.) | ควมกดอากาศ (hPa) | พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (USD) | ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
(โมนา) | 28 ธันวาคม—9 มกราคม | 95 (60) | 985 | หมู่เกาะโซโลมอน, ฟีจี, ตองงา | เล็กน้อย | ไม่มี | |
(ปาบึก) | 31 ธันวาคม—7 มกราคม | 85 (50) | 994 | , เวียดนาม, มาเลเซีย, ไทย, พม่า, หมู่เกาะอันดามัน | 151 ล้าน | 10 | |
(01W (อามัง)) | 4–22 มกราคม | 55 (35) | 1004 | คิริบาส, หมู่เกาะมาร์แชลล์, หมู่เกาะแคโรไลน์, ฟิลิปปินส์ | 4.11 ล้าน | 9 | |
(11U) | 15—23 มกราคม | ไม่ได้ระบุ | 1004 | เกาะชวา | ไม่มี | ไม่มี | |
(เดสมอนด์) | 17—22 มกราคม | 65 (40) | 995 | โมซัมบิก, มาดากัสการ์ | ไม่ทราบ | ไม่มี | |
(ไรลีย์) | 19—30 มกราคม | 120 (75) | 974 | หมู่เกาะมาลูกู, ติมอร์ตะวันออก, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย | ไม่มี | ไม่มี | |
(13U) | 21—25 มกราคม | 55 (35) | 999 | คาบสมุทรเคปยอร์ก | ไม่มี | ไม่มี | |
(เอเกตแซง) | 22—24 มกราคม | 75 (45) | 993 | มาดากัสการ์ | ไม่ทราบ | 27 |
กุมภาพันธ์
เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมของพายุนัก มีพายุหมุนเขตร้อนเพียงสิบลูกเท่านั้น ซึ่งในจำนวนพายุทั้งหมดของเดือน มีพายุจำนวนเจ็ดลูกที่ได้รับชื่อ อย่างไรก็ตาม พายุไต้ฝุ่นหวู่ติบ ได้กลายเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์
ชื่อพายุ | ช่วงที่พายุมีกำลัง | ลมแรงสุด กม./ชม. (ไมล์/ชม.) | ควมกดอากาศ (hPa) | พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (USD) | ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
(ฟูนานี) | 3–10 กุมภาพันธ์ | 195 (120) | 940 | ไม่มี | ไม่มี | ||
(06F) | 3–9 กุมภาพันธ์ | 65 (40) | 994 | วอลิสและฟูตูนา, หมู่เกาะซามัว | None | None | |
(เจเลนา) | 4–14 กุมภาพันธ์ | 205 (125) | 942 | มาดากัสการ์, มอริเชียส, รอดริเกซ | 1.02 ล้าน | ไม่มี | |
(โอมา) | 7–22 กุมภาพันธ์ | 130 (80) | 974 | วานูวาตู, นิวแคลิโดเนีย, หมู่เกาะโซโลมอน, รัฐควีนส์แลนด์, รัฐนิวเซาท์เวลส์ | 51 ล้าน | 1 | |
(เนอีล) | 8–10 กุมภาพันธ์ | 65 (40) | 994 | วอลิสและฟูตูนา, ฟีจี, ตองงา | ไม่มี | ไม่มี | |
(08F) | 10–13 กุมภาพันธ์ | ไม่ได้ระบุ | 996 | ฟีจี, ตองงา | ไม่มี | ไม่มี | |
(10F) | 11–13 กุมภาพันธ์ | ไม่ได้ระบุ | 996 | วอลิสและฟูตูนา, ฟีจี | ไม่มี | ไม่มี | |
(หวู่ติบ (เบตตี)) | 18 กุมภาพันธ์–2 มีนาคม | 195 (120) | 920 | หมู่เกาะแคโรไลน์, กวม | 3.3 ล้าน | ไม่มี | |
(โปลา) | 23 กุมภาพันธ์–2 มีนาคม | 165 (105) | 950 | วอลิสและฟูตูนา, ฟีจี, ตองงา | ไม่มี | ไม่มี | |
(ฮาเลฮ์) | 28 กุมภาพันธ์–7 มีนาคม | 175 (110) | 945 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี |
มีนาคม
มีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวขึ้นในเดือนมีนาคมจำนวนสิบลูก ในจำนวนนี้หกลูกได้รับชื่อ ซึ่งไซโคลนอิดาอีเป็นพายุที่ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตในทวีปอเมริกาใต้ถึง 1,007 คน. ส่วนพายุโซนร้อนอีบากลายเป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้นับตั้งแต่พายุแอนีตาใน พ.ศ. 2553
ชื่อพายุ | ช่วงที่พายุมีกำลัง | ลมแรงสุด กม./ชม. (ไมล์/ชม.) | ควมกดอากาศ (hPa) | พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (USD) | ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
(อิดาอี) | 4–16 มีนาคม | 195 (120) | 940 | โมซัมบิก, มาลาวี, มาดากัสการ์, ซิมบับเว | ≥2 พันล้าน | 1,297 | |
(15U) | 6–11 มีนาคม | ไม่ได้ระบุ | 1007 | หมู่เกาะมาลูกู | ไม่มี | ไม่มี | |
(ซะแวนนาห์) | 7–20 มีนาคม | 175 (110) | 951 | เกาะชวา, เกาะคริสต์มาส, หมู่เกาะโคโคส (คีลิง) | >7.5 ล้าน | 10 | |
(TL) | 13–14 มีนาคม | ไม่ได้ระบุ | ไม่ได้ระบุ | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(03W (เชเดง)) | 14–19 มีนาคม | ไม่ได้ระบุ | 1006 | ปาเลา, ฟิลิปปินส์ | 23,000 | ไม่มี | |
(เทรเวอร์) | 15–26 มีนาคม | 175 (110) | 955 | ปาปัวนิวกินี, รัฐควีนส์แลนด์, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี | 71,000 | ไม่มี | 1 |
(วิรอนิกา) | 18–31 มีนาคม | 195 (125) | 938 | ติมอร์, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย | 1.2 พันล้าน | ไม่มี | |
(จัวนินฮา) | 18–30 มีนาคม | 185 (115) | 939 | ไม่มี | ไม่มี | ||
(อีบา) | 23–28 มีนาคม | 85 (55) | 1006 | บราซิล | ไม่มี | ไม่มี | |
(TL) | 31 มีนาคม–3 เมษายน | ไม่ได้ระบุ | 1005 | ภาคตะวันออกเฉียงใต้ปาปัวนิวกินี | ไม่มี | ไม่มี |
เมษายน
มีพายุหมุนเขตร้อนหกลูกก่อตัวขึ้นในเดือนเมษายน และสี่ลูกได้รับชื่อ ในเดือนนี้ เคนเนท ได้กลายเป็นพายุไซโคลนรุนแรงที่มีกำลังแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่งประเทศโมซัมบิก โดยทำให้มีผู้เสียชีวิต 48 คน ซึ่งในจำนวนนั้น 41 คนเสียชีวิตในประเทศโมซัมบิก ส่วน ฟานี ได้พัดเข้าบางส่วนของประเทศอินเดียและบังกลาเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 72 คนในรัฐโอฑิศา 17 คนในประเทศบังกลาเทศ และ 8 คนในรัฐอุตตรประเทศ โดยนับเป็นพายุที่สร้างความเสียหายไว้มากที่สุดในปีนี้ (นับถึงปัจจุบัน) ที่ 2.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ชื่อพายุ | ช่วงที่พายุมีกำลัง | ลมแรงสุด กม./ชม. (ไมล์/ชม.) | ควมกดอากาศ (hPa) | พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (USD) | ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
(วอลลิซ) | 1–16 เมษายน | 120 (75) | 980 | นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี, หมู่เกาะมาลูกู, เกาะติมอร์, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย | ไม่มี | ไม่มี | |
(22U) | 5–15 เมษายน | ไม่ได้ระบุ | 1006 | เกาะนิวกินี, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี | ไม่มี | ไม่มี | |
(เคนเนท) | 21–29 เมษายน | 215 (130) | 934 | เซเชลส์, มาดากัสการ์, , โมซัมบิก, แทนซาเนีย, มาลาวี | >100 ล้าน | 50 | |
(โลร์นา) | 21 เมษายน–1 พฤษภาคม | 110 (70) | 978 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(TL) | 21–25 เมษายน | ไม่ได้ระบุ | 1003 | เกาะสุมาตรา, หมู่เกาะโคโคส (คีลิง) | ไม่มี | ไม่มี | |
(ฟานี) | 26 เมษายน–4 พฤษภาคม | 215 (130) | 937 | ศรีลังกา, รัฐอานธรประเทศ, , บังกลาเทศ, ภูฏาน | 1.81 พันล้าน | 89 |
พฤษภาคม
เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมของพายุนัก มีพายุหมุนเขตร้อนเพียงแปดลูกเท่านั้น ซึ่งในจำนวนพายุทั้งหมดของเดือน มีพายุจำนวนสี่ลูกที่ได้รับชื่อ พายุไซโคลนลีลีก่อนตัวชึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อนในแอ่งออสเตรเลีย นับเป็นพายุหมุนนอกฤดูกาลของภูมิภาคออสเตรเลีย และพัดเข้าติมอร์ตะวันออก และหมู่เกาะมาลูกูของประเทศอินโดนีเซีย ปริมาณน้ำฝนทำให้เกิดอุทกภัย และส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นที่และทรัพย์สินประชาชนเล็กน้อย พายุไซโคลนแอนน์ เป็นพายุหมุนนอกฤดูกาลของภูมิภาคออสเตรเลียอีกลูก พัฒนาขึ้นเป็นพายุในระดับพายุโซนร้อนที่มีความรุนแรงตามมาตราแซฟเฟอร์–ซิมป์สัน และพัดขึ้นฝั่งใน ประเทศออสเตรเลียในฐานะความกดอากาศต่ำเขตร้อน โดยพายุแอนน์นับเป็นพายุหมุนแถบออสเตรเลียที่ก่อตัวในเดือนพฤษภาคมที่มีความรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่พายุรอนดาเมื่อปี พ.ศ. 2540 ต่อมาพายุกึ่งโซนร้อนก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ และได้ชื่อว่า ฌากัวร์ ทำให้พายุฌากัวร์เป็นพายุหมุนเขตร้อนของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ลูกที่สองของปี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวขึ้นสองลูกในปีเดียวกันของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 และตามด้วยการก่อตัวของพายุกึ่งโซนร้อนอายุสั้นชื่อ แอนเดรีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเบอร์มิวดาในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทำให้ฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติกเริ่มต้นขึ้นก่อนวันเริ่มฤดูกาลอย่างเป็นทางการ เป็นปีที่ห้าติดต่อกันแล้ว
ชื่อพายุ | ช่วงที่พายุมีกำลัง | ลมแรงสุด กม./ชม. (ไมล์/ชม.) | ควมกดอากาศ (hPa) | พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (USD) | ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
(ลีลี) | 4–11 พฤษภาคม | 75 (45) | 997 | ภาคตะวันออกของอินโดนีเชีย, ติมอร์ตะวันออก, , | ปานกลาง | ไม่มี | |
(TD) | 7–8 พฤษภาคม | ไม่ได้ระบุ | 1006 | แยป, ปาเลา | ไม่มี | ไม่มี | |
(TD) | 7–15 พฤษภาคม | ไม่ได้ระบุ | 1004 | หมู่เกาะแคโรไลน์ | ไม่มี | ไม่มี | |
(แอนน์) | 7–18 พฤษภาคม | 95 (60) | 993 | หมู่เกาะโซโลมอน, นิวแคลิโดเนีย, รัฐควีนส์แลนด์, | ไม่มี | ไม่มี | |
(TD) | 10–11 พฤษภาคม | ไม่ได้ระบุ | 1006 | แยป, ปาเลา | ไม่มี | ไม่มี | |
(12F) | 16–21 พฤษภาคม | 55 (35) | 1002 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(ฌากัวร์) | 20–22 พฤษภาคม | 65 (40) | 1010 | บราซิล | ไม่มี | ไม่มี | |
(แอนเดรีย) | 20–21 พฤษภาคม | 65 (40) | 1006 | เบอร์มิวดา | ไม่มี | ไม่มี |
มิถุนายน
วันที่ 1 มิถุนายน เป็นวันเริ่มต้นฤดูอย่างเป็นทางการของฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติก แม้ว่าพายุลูกแรกของฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติกปีนี้ (พายุแอนเดรีย) จะก่อตัวไปตั้งแต่ก่อนฤดูกาลเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมก็ตาม หลังจากที่เว้นช่วงไปอย่างยาวนานที่สุดของปี ในที่สุด ระบบพายุแรกในทะเลอาหรับของฤดูพายุไซโคลนมหาสมุทรอินเดียเหนือ พ.ศ. 2562 ก็ก่อตัวขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน และได้ชื่อว่า วายุ มีกำลังเป็นพายุไซโคลนกำลังแรงมาก ต่อมาในช่วงปลายเดือน พายุเฮอริเคนแอลวินก่อตัวขึ้นและกลายเป็นพายุลูกแรกของฤดูพายุเฮอริเคนแปซิฟิกนี้ นอกจากนี้ยังมีพายุดีเปรสชันเขตร้อนที่ก่อตัวขึ้นและกลายเป็นพายุโซนร้อนชื่อ เซอปัต ซึ่งนับเป็นพายุโซนร้อนลูกแรกในรอบสี่เดือนนับแต่พายุหวู่ติบในเดือนกุมภาพันธ์
ชื่อพายุ | ช่วงที่พายุมีกำลัง | ลมแรงสุด กม./ชม. (ไมล์/ชม.) | ควมกดอากาศ (hPa) | พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (USD) | ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
(วายุ) | 10—19 มิถุนายน | 150 (90) | 978 | ภาคเหนือของมัลดีฟส์, ลักษทวีป, อินเดียตะวันตก, ปากีสถานตะวันออกเฉียงใต้ | >140,000 | 8 | |
(เซอปัต) | 17—28 มิถุนายน | 75 (45) | 992 | หมู่เกาะแคโรไลน์, ญี่ปุ่น | ไม่มี | ไม่มี | |
(TD) | 26 มิถุนายน | 55 (35) | 1000 | หมู่เกาะรีวกีว, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น | ไม่มี | ไม่มี | |
(แอลวิน) | 25—29 มิถุนายน | 120 (75) | 992 | ไม่มี | ไม่มี | ||
(04W) | 26 มิถุนายน—1 กรกฎาคม | 55 (35) | 1006 | หมู่เกาะแคโรไลน์, ปาเลา | ไม่มี | ไม่มี | |
(บาร์บารา) | 30 มิถุนายน—6 กรกฎาคม | 250 (155) | 933 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี |
กรกฎาคม
เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่มีกิจกรรมของพายุหมุนเขตร้อนค่อนข้างมากในปีนี้ โดยมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวขึ้นสิบสามลูก ในจำนวนนั้นสิบลูกมีความรุนแรงถึงพายุโซนร้อน ในบรรดาพายุเหล่านี้ พายุโซนร้อนมูน ได้พัดขึ้นฝั่งทางภาคเหนือของประเทศเวียดนาม และพายุเฮอริเคนแบร์รี ได้พัดขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งมิดเวสเทิร์นของสหรัฐและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐในฐานะพายุโซนร้อน สร้างความเสียหาย 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีผู้เสียชีวิตทางอ้อมจากพายุจำนวน 1 คน
ชื่อพายุ | ช่วงที่พายุมีกำลัง | ลมแรงสุด กม./ชม. (ไมล์/ชม.) | ควมกดอากาศ (hPa) | พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (USD) | ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
(มูน) | 1—4 กรกฎาคม | 65 (40) | 992 | เกาะไหหนัน, ภาคใต้ของจีน, หมู่เกาะพาราเซล, เวียดนาม, ลาว | 240,000 | 2 | |
(คอสมี) | 6—8 กรกฎาคม | 85 (50) | 1001 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(แบร์รี) | 11—15 กรกฎาคม | 120 (75) | 991 | , , , รัฐอาร์คันซอ, รัฐโอคลาโฮมา, , | ≥500 ล้าน | 1 | |
(สี่-อี) | 12—14 กรกฎาคม | 55 (35) | 1006 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(ดานัส) | 12—21 กรกฎาคม | 85 (50) | 985 | แยป, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, หมู่เกาะรีวกีว, ภาคตะวันออกของจีน, ญี่ปุ่น, คาบสมุทรเกาหลี, ภาคเหนือของจีน, รัสเซียตะวันออกไกล, หมู่เกาะคูริล | 302,000 | 4 | |
(TD) | 17—19 กรกฎาคม | 55 (35) | 996 | ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, หมู่เกาะรีวกีว | ไม่มี | ไม่มี | |
(เดลิลา) | 22—25 กรกฎาคม | 65 (40) | 1005 | ปานามา, คอสตาริกา, | ไม่มี | ไม่มี | |
(สาม) | 22—23 กรกฎาคม | 50 (30) | 1013 | บาฮามาส | ไม่มี | ไม่มี | |
(01) | 22—24 กรกฎาคม | 45 (30) | 1001 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(นารี) | 24—27 กรกฎาคม | 65 (40) | 998 | หมู่เกาะโบนิน, ญี่ปุ่น | ไม่มี | ไม่มี | |
(เอริก) | 27 กรกฎาคม—ปัจจุบัน | 215 (130) | 952 | รัฐฮาวาย | ไม่มี | ไม่มี | |
(ฟลอสซี) | 28 กรกฎาคม—ปัจจุบัน | 130 (80) | 990 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(วิภา) | 30 กรกฎาคม—3 สิงหาคม | 55 (35) | 992 | หมู่เกาะพาราเซล, เกาะไหหนัน, ภาคใต้ของจีน, เวียดนาม, ลาว | ไม่มี | ไม่มี |
สิงหาคม
ชื่อพายุ | ช่วงที่พายุมีกำลัง | ลมแรงสุด กม./ชม. (ไมล์/ชม.) | ควมกดอากาศ (hPa) | พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (USD) | ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
(ฟรานซิสโก) | 1 สิงหาคม—ปัจจุบัน | 95 (60) | 992 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(เลกีมา) | 1 สิงหาคม—ปัจจุบัน | 65 (40) | 996 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
(กิล) | 3 สิงหาคม—ปัจจุบัน | 65 (40) | 1006 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี |
ผลกระทบทั่วโลก
- ผลรวมของจำนวนพายุในแต่ละแอ่งจะไม่เท่ากับจำนวนที่แสดงในทั้งหมด เพราะเมื่อพายุเคลื่อนตัวข้ามแอ่งมันจะถูกนับเป็นพายุในอีกหนึ่งด้วย ทำให้เกิกเป็นข้อแตกต่าง (ในสิ่งที่ควรจะเหมือนกัน) ของจำนวนพายุจริง
- ผลรวมของจำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละแอ่งจะไม่เท่ากับจำนวนที่แสดงในทั้งหมด เพราะเมื่อพายุเคลื่อนตัวข้ามแอ่งมันจะถูกนับเป็นพายุในอีกหนึ่งด้วย ทำให้เกิกเป็นข้อแตกต่าง (ในสิ่งที่ควรจะเหมือนกัน) ของจำนวนผู้เสียชีวิตจริง
หมายเหตุ
1 เฉพาะพายุที่ก่อตัว ในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 เท่านั้นที่ถูกนับในจำนวนพายุรวม
2 เฉพาะพายุที่ก่อตัว ก่อนหรือในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เท่านั้นที่ถูกนับในจำนวนพายุรวม
3 ความเร็วลมสูงสุดในแอ่งนี้อ้างอิงตาม(มาตราของกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย) ซึ่งจะใช้ความเร็วลมเฉลี่ยใน 3 นาที
4 ความเร็วลมสูงสุดในแอ่งนี้อ้างอิงตาม(มาตราแซฟเฟอร์–ซิมป์สัน) ซึ่งจะใช้ความเร็วลมเฉลี่ยใน 1 นาที
5ความเร็วลมของพายุหมุนเขตร้อนนี้อ้างอิงตามซึ่งวัดที่ความเร็วลมกระโชก
อ้างอิง
- Meteorology, corporateName=Bureau of. "Tropical Cyclones". www.bom.gov.au (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-04-10.
- Doyle, Kate (2019-02-19). "Why are cyclone paths so difficult to predict?". ABC News (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). สืบค้นเมื่อ 2019-04-10.
- "Tropical Cyclone Programme". www.wmo.int. สืบค้นเมื่อ 2019-04-07.
- Olarn, Kocha (5 January 2019). "Storm kills 3 in Thailand, moves into Andaman Sea". CNN. สืบค้นเมื่อ 2019-04-09.
- "Pabuk leaves 4 dead, billions of Baht in damage – Thailand". ReliefWeb. สืบค้นเมื่อ 2019-04-09.
- Olarn, Kocha. "Storm Kills 3 in Thailand, moves into Andaman Sea". CNN. CNN. สืบค้นเมื่อ 26 January 2019.
- Wright, Pam. "Tropical Storm Pabuk Makes First on Record Southern Thailand January Landfall; Two Killed, Thousands Evacuated". The Weather Channel. The Weather Channel. สืบค้นเมื่อ 26 January 2019.
- Dalizon, Alfred. . Journal Online. People's Journal. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-20. สืบค้นเมื่อ 26 January 2019.
- "Wutip 2019 – Hurricane And Typhoon Updates". blogs.nasa.gov (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2019-04-09.
- Leahy, Stephen (2019-03-19). "Why Cyclone Idai was so destructive". Environment. สืบค้นเมื่อ 2019-04-09.
- "Resources stretched as Cyclone Kenneth piles misery on Mozambique". Reliefweb. 27 April 2019. สืบค้นเมื่อ 27 April 2019.
- "Hundreds feared dead after Cyclone Idai". BBC News. 18 March 2019. สืบค้นเมื่อ 18 March 2019.
- Osental, Duffie (5 April 2019). "Insurers on standby as cyclone looms off Western Australia coast". Insurance Business America. สืบค้นเมื่อ 5 April 2019.
- Brandon Miller (25 April 2019). "Cyclone Kenneth: Thousands evacuated as Mozambique is hit with the strongest storm in its history". Cable News Network. สืบค้นเมื่อ 25 April 2019.
- Mutsaka, Farai. . SF Gate. The Associated Press. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-01. สืบค้นเมื่อ 1 May 2019.
- "Number Of Dead From Cyclone Fani Rises To 29 In Odisha". NDTV. 5 May 2019. สืบค้นเมื่อ 5 May 2019.
- "Cyclone Fani: 14 killed in 8 districts". Dhaka Tribune. 4 May 2019. สืบค้นเมื่อ 4 May 2019.
- "Lightning kills 8 in Uttar Pradesh". New Indian Express. 3 May 2019. สืบค้นเมื่อ 5 May 2019.
- "Andhra Pradesh pegs loss due to Cyclone Fani at ₹58.62 crore". The Hindu. 5 May 2019. สืบค้นเมื่อ 5 May 2019.
- . Banglanews24.com. 9 May 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-11. สืบค้นเมื่อ 9 May 2019.
แหล่งข้อมูลอื่น
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาชำนัญพิเศษประจำภูมิภาค
- ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ – แอตแลนติกเหนือ, แปซิฟิกตะวันออก
- ศูนย์เฮอริเคนแปซิฟิกกลาง – แปซิฟิกกลาง
- กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น – แปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ
- กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย – อ่าวเบงกอล และ ทะเลอาหรับ
- Météo-France – เรอูว์นียง – มหาสมุทรอินเดียใต้จาก 30°E ถึง 90°E
- Fiji Meteorological Service – แปซิฟิกใต้ทางตะวันตกของ 160°E ทางเหนือของ 25°S
ศูนย์เตือนพายุหมุนเขตร้อน
- กรมอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยา และธรณีฟิสิกส์แห่งอินโดนีเซีย – มหาสมุทรอินเดียใต้จาก 90°E ถึง 141°E, บริเวณตอนเหนือของ 10°S
- สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย (TCWC ศูนย์เพิร์ท, ดาร์วิน และ บริสเบน) – มหาสมุทรอินเดียใต้และมหาสมุทรแปซิฟิกใต้จาก 90°E ถึง 160°E, บริเวณตอนใต้ของ 10°S
- บริการลมฟ้าอากาศแห่งชาติปาปัวนิวกินี 2020-11-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน – มหาสมุทรแปซิฟิกใต้จาก 141°E ถึง 160°E, บริเวณตอนเหนือของ 10°S
- เมทเซอร์วิสนิวซีแลนด์ – มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ทางตะวันตกของ 160°E, ทางใต้ของ 25°S
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phayuhmunekhtrxnin ph s 2562 aebngxxkepnphunthiecdbriewnthiaetktangkneriykwa aexng rwmthungphunthidwy cnthungkhnani miphayukxtwkhunthwolkinrahwangpini 38 luk incanwnnnmiphayu 24 lukepnphayuhmunekhtrxnthimikalngcnidrbchuxeriykcakbrrdasunyxutuniymwithyachanyphiesspracaphumiphakh RSMC hruxsunyetuxnphayuhmunekhtrxn TCWC inphunthiphayuhmunekhtrxnin ph s 2562aephnthisruppikhxbekhtkhxngpirabbaerkomnakxtw28 thnwakhm ph s 2561rabbsudthaysairslaytw2 mkrakhm ph s 2563phayumikalngmakthisudchuxhalxngkhwamkdxakastathisud905 mbar hPa 26 72phayuthimichwngewlayawnanthisudchuxoxmarayaewla15 wnsthitipiphayuthnghmd143 lukphayuthiidrbchux105 lukphuesiychiwitthnghmdthnghmd 2 090 khnkhwamesiyhaythnghmd gt 6 064 hmunlandxllarshrth khaengin USD ph s 2562 bthkhwamthiekiywkhxngvduphayuehxriekhnaextaelntik ph s 2562 vduphayuehxriekhnaepsifik ph s 2562 vduphayuitfunaepsifik ph s 2562 vduphayuisokhlnmhasmuthrxinediyehnux ph s 2562 vduphayuisokhlnmhasmuthrxinediytawntk it ph s 2561 2562 vduphayuisokhlnmhasmuthrxinediytawntk it ph s 2562 2563 vduphayuisokhlnphumiphakhxxsetreliy ph s 2561 2562 vduphayuisokhlnphumiphakhxxsetreliy ph s 2562 2563 vduphayuisokhlnaepsifikit ph s 2561 2562 vduphayuisokhlnaepsifikit ph s 2562 2563pixun 2562 phayuhmunekhtrxnthiepnehtuihmicanwnphuesiychiwitmakthisudkhxngpi khux phayuisokhlnrunaerngxidaxiinmhasmuthrxinediytawntk it sungmiphuesiychiwitcanwn 1 066 khninpraethsomsmbik praethsmalawi praethssimbbew aelapraethsmadakskar swnphayuthikxihekidkhwamesiyhaymakthisudkhxngpi khux phayuisokhlnkalngaerngwirxnikainphumiphakhxxsetreliy odymikhwamesiyhayekidkhun 1 6 phnlandxllarshrth kickrrmphayuhmunekhtrxn inaetlaaexngcaxyuphayitxanachnathikhxngsunyxutuniymwithyachanyphiesspracaphumiphakhtang dngni sunyehxriekhnaehngchati NHC rbphidchxbphayuhmunekhtrxninmhasmuthraextaelntikehnuxaelamhasmuthraepsifiktawnxxk sunyehxriekhnaepsifikklang CPHC rbphidchxbphayuhmunekhtrxninmhasmuthraepsifikklang odythng NHC aela CPHC epnhnwynganyxykhxng krmxutuniymwithyayipun JMA thahnathiefarawngaelatidtamphayuhmunekhtrxninmhasmuthraepsifiktawntk IMD thahnathiefarawngaelatidtamphayuhmunekhtrxninmhasmuthrxinediyehnux khnathisunyinekaaerxuwniyng MFR thahnathiefarawngaelatidtamphayuhmunekhtrxninmhasmuthrxinediyitfngtawntk swninphumiphakhxxsetreliy phayuhmunekhtrxncathuktidtamody TCWC hasunyphayitkarprasanngankhxngsankxutuniymwithyaxxsetreliy BOM krmxutuniymwithyafici FMS aela khxngniwsiaelnd rwmthungyngmihnwynganthitidtamphayuxyangimepnthangkar khux sunyetuxnitfunrwm JTWC aelahnwynganthitngchuxphayuxyangimepnthangkar khux PAGASA dwysrup mhasmuthraextaelntikehnux mhasmuthrxinediyehnux phumiphakhxxsetreliy mhasmuthraepsifiktawnxxkaelaklang mhasmuthrxinediyitfngtawntk mhasmuthraextaelntikit mhasmuthraepsifiktawntk mhasmuthraepsifikit phayumkrakhm phayuosnrxnpabuk eduxnmkrakhmepneduxnthiimkhxymikickrrmkhxngphayunk miphayuhmunekhtrxnephiyngaepdlukethann sungincanwnphayuthnghmdkhxngeduxn miphayucanwnhalukthiidrbchux xyangirktam phayuosnrxnpabuk klayepnphayuosnrxnthikxtwerwthisudinmhasmuthraepsifiktawntk thalaysthitiedimthiphayuitfunxlisthaiwemuxpi ph s 2522 pabukthaihmiphuesiychiwit 10 khninpraethsithy praethsewiydnam aela praethsmaelesiy aelathaihmikhwamesiyhayekidkhun 115 landxllarshrth khaengindxllarshrth kh s 2019 txmachwngplayeduxnmkrakhm phayuosnrxnexektaesngidthaihmiphuesiychiwitcanwn 27 khninpraethsmadakskar phayuhmunekhtrxnthikxtwineduxnmkrakhm ph s 2562 chuxphayu chwngthiphayumikalng lmaerngsud km chm iml chm khwmkdxakas hPa phunthiidrbphlkrathb khwamesiyhay USD phuesiychiwit xangxingomna 28 thnwakhm 9 mkrakhm 95 60 985 hmuekaaosolmxn fici txngnga elknxy immipabuk 31 thnwakhm 7 mkrakhm 85 50 994 ewiydnam maelesiy ithy phma hmuekaaxndamn 151 lan 1001W xamng 4 22 mkrakhm 55 35 1004 khiribas hmuekaamaraechll hmuekaaaekhoriln filippins 4 11 lan 911U 15 23 mkrakhm imidrabu 1004 ekaachwa immi immiedsmxnd 17 22 mkrakhm 65 40 995 omsmbik madakskar imthrab immiirliy 19 30 mkrakhm 120 75 974 hmuekaamaluku timxrtawnxxk rthewsethirnxxsetreliy immi immi13U 21 25 mkrakhm 55 35 999 khabsmuthrekhpyxrk immi immiexektaesng 22 24 mkrakhm 75 45 993 madakskar imthrab 27kumphaphnth phayuitfunhwutib eduxnkumphaphnthepneduxnthiimkhxymikickrrmkhxngphayunk miphayuhmunekhtrxnephiyngsiblukethann sungincanwnphayuthnghmdkhxngeduxn miphayucanwnecdlukthiidrbchux xyangirktam phayuitfunhwutib idklayepnphayuitfunthimikalngaerngthisudineduxnkumphaphnth phayuhmunekhtrxnthikxtwineduxnkumphaphnth ph s 2562 chuxphayu chwngthiphayumikalng lmaerngsud km chm iml chm khwmkdxakas hPa phunthiidrbphlkrathb khwamesiyhay USD phuesiychiwit xangxingfunani 3 10 kumphaphnth 195 120 940 immi immi06F 3 9 kumphaphnth 65 40 994 wxlisaelafutuna hmuekaasamw None Noneecelna 4 14 kumphaphnth 205 125 942 madakskar mxriechiys rxdrieks 1 02 lan immioxma 7 22 kumphaphnth 130 80 974 wanuwatu niwaekhliodeniy hmuekaaosolmxn rthkhwinsaelnd rthniwesathewls 51 lan 1enxil 8 10 kumphaphnth 65 40 994 wxlisaelafutuna fici txngnga immi immi08F 10 13 kumphaphnth imidrabu 996 fici txngnga immi immi10F 11 13 kumphaphnth imidrabu 996 wxlisaelafutuna fici immi immihwutib ebtti 18 kumphaphnth 2 minakhm 195 120 920 hmuekaaaekhoriln kwm 3 3 lan immiopla 23 kumphaphnth 2 minakhm 165 105 950 wxlisaelafutuna fici txngnga immi immihaelh 28 kumphaphnth 7 minakhm 175 110 945 immi immi immiminakhm phayuisokhlnxidaxi miphayuhmunekhtrxnkxtwkhunineduxnminakhmcanwnsibluk incanwnnihklukidrbchux sungisokhlnxidaxiepnphayuthithaihmicanwnphuesiychiwitinthwipxemrikaitthung 1 007 khn swnphayuosnrxnxibaklayepnphayuhmunekhtrxnlukaerkthikxtwkhuninmhasmuthraextaelntikitnbtngaetphayuaexnitain ph s 2553 phayuhmunekhtrxnthikxtwineduxnminakhm ph s 2562 chuxphayu chwngthiphayumikalng lmaerngsud km chm iml chm khwmkdxakas hPa phunthiidrbphlkrathb khwamesiyhay USD phuesiychiwit xangxingxidaxi 4 16 minakhm 195 120 940 omsmbik malawi madakskar simbbew 2 phnlan 1 29715U 6 11 minakhm imidrabu 1007 hmuekaamaluku immi immisaaewnnah 7 20 minakhm 175 110 951 ekaachwa ekaakhristmas hmuekaaokhokhs khiling gt 7 5 lan 10TL 13 14 minakhm imidrabu imidrabu immi immi immi03W echedng 14 19 minakhm imidrabu 1006 paela filippins 23 000 immiethrewxr 15 26 minakhm 175 110 955 papwniwkini rthkhwinsaelnd nxrethirnethrrithxri 71 000 immi 1wirxnika 18 31 minakhm 195 125 938 timxr rthewsethirnxxsetreliy 1 2 phnlan immicwninha 18 30 minakhm 185 115 939 immi immixiba 23 28 minakhm 85 55 1006 brasil immi immiTL 31 minakhm 3 emsayn imidrabu 1005 phakhtawnxxkechiyngitpapwniwkini immi immiemsayn phayuisokhlnfani miphayuhmunekhtrxnhklukkxtwkhunineduxnemsayn aelasilukidrbchux ineduxnni ekhnenth idklayepnphayuisokhlnrunaerngthimikalngaerngthisudthiphdkhunfngpraethsomsmbik odythaihmiphuesiychiwit 48 khn sungincanwnnn 41 khnesiychiwitinpraethsomsmbik swn fani idphdekhabangswnkhxngpraethsxinediyaelabngklaeths thaihmiphuesiychiwitcanwn 72 khninrthoxthisa 17 khninpraethsbngklaeths aela 8 khninrthxuttrpraeths odynbepnphayuthisrangkhwamesiyhayiwmakthisudinpini nbthungpccubn thi 2 46 phnlandxllarshrth phayuhmunekhtrxnthikxtwineduxnemsayn ph s 2562 chuxphayu chwngthiphayumikalng lmaerngsud km chm iml chm khwmkdxakas hPa phunthiidrbphlkrathb khwamesiyhay USD phuesiychiwit xangxingwxllis 1 16 emsayn 120 75 980 nxrethirnethrrithxri hmuekaamaluku ekaatimxr rthewsethirnxxsetreliy immi immi22U 5 15 emsayn imidrabu 1006 ekaaniwkini nxrethirnethrrithxri immi immiekhnenth 21 29 emsayn 215 130 934 esechls madakskar omsmbik aethnsaeniy malawi gt 100 lan 50olrna 21 emsayn 1 phvsphakhm 110 70 978 immi immi immiTL 21 25 emsayn imidrabu 1003 ekaasumatra hmuekaaokhokhs khiling immi immifani 26 emsayn 4 phvsphakhm 215 130 937 srilngka rthxanthrpraeths bngklaeths phutan 1 81 phnlan 89phvsphakhm phayuisokhlnlili eduxnphvsphakhmepneduxnthiimkhxymikickrrmkhxngphayunk miphayuhmunekhtrxnephiyngaepdlukethann sungincanwnphayuthnghmdkhxngeduxn miphayucanwnsilukthiidrbchux phayuisokhlnlilikxntwchunepnphayuhmunekhtrxninaexngxxsetreliy nbepnphayuhmunnxkvdukalkhxngphumiphakhxxsetreliy aelaphdekhatimxrtawnxxk aelahmuekaamalukukhxngpraethsxinodniesiy primannafnthaihekidxuthkphy aelasngphlihekidkhwamesiyhaytxokhrngsrangphunthiaelathrphysinprachachnelknxy phayuisokhlnaexnn epnphayuhmunnxkvdukalkhxngphumiphakhxxsetreliyxikluk phthnakhunepnphayuinradbphayuosnrxnthimikhwamrunaerngtammatraaesfefxr simpsn aelaphdkhunfngin praethsxxsetreliyinthanakhwamkdxakastaekhtrxn odyphayuaexnnnbepnphayuhmunaethbxxsetreliythikxtwineduxnphvsphakhmthimikhwamrunaerngthisud nbtngaetphayurxndaemuxpi ph s 2540 txmaphayukungosnrxnkxtwkhuninmhasmuthraextaelntikit aelaidchuxwa chakwr thaihphayuchakwrepnphayuhmunekhtrxnkhxngmhasmuthraextaelntikitlukthisxngkhxngpi sungepnkhrngaerkthimiphayuhmunekhtrxnkxtwkhunsxnglukinpiediywknkhxngmhasmuthraextaelntikit nbtngaetpi ph s 2559 aelatamdwykarkxtwkhxngphayukungosnrxnxayusnchux aexnedriy thangtawntkechiyngitkhxngebxrmiwdainmhasmuthraextaelntikehnux thaihvduphayuehxriekhnaextaelntikerimtnkhunkxnwnerimvdukalxyangepnthangkar epnpithihatidtxknaelw phayuhmunekhtrxnthikxtwineduxnphvsphakhm ph s 2562 chuxphayu chwngthiphayumikalng lmaerngsud km chm iml chm khwmkdxakas hPa phunthiidrbphlkrathb khwamesiyhay USD phuesiychiwit xangxinglili 4 11 phvsphakhm 75 45 997 phakhtawnxxkkhxngxinodniechiy timxrtawnxxk panklang immiTD 7 8 phvsphakhm imidrabu 1006 aeyp paela immi immiTD 7 15 phvsphakhm imidrabu 1004 hmuekaaaekhoriln immi immiaexnn 7 18 phvsphakhm 95 60 993 hmuekaaosolmxn niwaekhliodeniy rthkhwinsaelnd immi immiTD 10 11 phvsphakhm imidrabu 1006 aeyp paela immi immi12F 16 21 phvsphakhm 55 35 1002 immi immi immichakwr 20 22 phvsphakhm 65 40 1010 brasil immi immiaexnedriy 20 21 phvsphakhm 65 40 1006 ebxrmiwda immi immimithunayn phayuisokhlnwayu wnthi 1 mithunayn epnwnerimtnvduxyangepnthangkarkhxngvduphayuehxriekhnaextaelntik aemwaphayulukaerkkhxngvduphayuehxriekhnaextaelntikpini phayuaexnedriy cakxtwiptngaetkxnvdukalemuxwnthi 20 phvsphakhmktam hlngcakthiewnchwngipxyangyawnanthisudkhxngpi inthisud rabbphayuaerkinthaelxahrbkhxngvduphayuisokhlnmhasmuthrxinediyehnux ph s 2562 kkxtwkhunemuxwnthi 10 mithunayn aelaidchuxwa wayu mikalngepnphayuisokhlnkalngaerngmak txmainchwngplayeduxn phayuehxriekhnaexlwinkxtwkhunaelaklayepnphayulukaerkkhxngvduphayuehxriekhnaepsifikni nxkcakniyngmiphayudieprschnekhtrxnthikxtwkhunaelaklayepnphayuosnrxnchux esxpt sungnbepnphayuosnrxnlukaerkinrxbsieduxnnbaetphayuhwutibineduxnkumphaphnth phayuhmunekhtrxnthikxtwineduxnmithunayn ph s 2562 chuxphayu chwngthiphayumikalng lmaerngsud km chm iml chm khwmkdxakas hPa phunthiidrbphlkrathb khwamesiyhay USD phuesiychiwit xangxingwayu 10 19 mithunayn 150 90 978 phakhehnuxkhxngmldifs lksthwip xinediytawntk pakisthantawnxxkechiyngit gt 140 000 8esxpt 17 28 mithunayn 75 45 992 hmuekaaaekhoriln yipun immi immiTD 26 mithunayn 55 35 1000 hmuekaariwkiw ekahliit yipun immi immiaexlwin 25 29 mithunayn 120 75 992 immi immi04W 26 mithunayn 1 krkdakhm 55 35 1006 hmuekaaaekhoriln paela immi immibarbara 30 mithunayn 6 krkdakhm 250 155 933 immi immi immikrkdakhm phayuehxriekhnexrik eduxnkrkdakhmepneduxnthimikickrrmkhxngphayuhmunekhtrxnkhxnkhangmakinpini odymiphayuhmunekhtrxnkxtwkhunsibsamluk incanwnnnsiblukmikhwamrunaerngthungphayuosnrxn inbrrdaphayuehlani phayuosnrxnmun idphdkhunfngthangphakhehnuxkhxngpraethsewiydnam aelaphayuehxriekhnaebrri idphdkhunfngbriewnchayfngmidewsethirnkhxngshrthaelaphakhtawnxxkechiyngitkhxngshrthinthanaphayuosnrxn srangkhwamesiyhay 500 landxllarshrth aelamiphuesiychiwitthangxxmcakphayucanwn 1 khn phayuhmunekhtrxnthikxtwineduxnkrkdakhm ph s 2562 chuxphayu chwngthiphayumikalng lmaerngsud km chm iml chm khwmkdxakas hPa phunthiidrbphlkrathb khwamesiyhay USD phuesiychiwit xangxingmun 1 4 krkdakhm 65 40 992 ekaaihhnn phakhitkhxngcin hmuekaapharaesl ewiydnam law 240 000 2khxsmi 6 8 krkdakhm 85 50 1001 immi immi immiaebrri 11 15 krkdakhm 120 75 991 rthxarkhnsx rthoxkhlaohma 500 lan 1si xi 12 14 krkdakhm 55 35 1006 immi immi immidans 12 21 krkdakhm 85 50 985 aeyp filippins ithwn hmuekaariwkiw phakhtawnxxkkhxngcin yipun khabsmuthrekahli phakhehnuxkhxngcin rsesiytawnxxkikl hmuekaakhuril 302 000 4TD 17 19 krkdakhm 55 35 996 filippins ithwn hmuekaariwkiw immi immiedlila 22 25 krkdakhm 65 40 1005 panama khxstarika immi immisam 22 23 krkdakhm 50 30 1013 bahamas immi immi01 22 24 krkdakhm 45 30 1001 immi immi imminari 24 27 krkdakhm 65 40 998 hmuekaaobnin yipun immi immiexrik 27 krkdakhm pccubn 215 130 952 rthhaway immi immiflxssi 28 krkdakhm pccubn 130 80 990 immi immi immiwipha 30 krkdakhm 3 singhakhm 55 35 992 hmuekaapharaesl ekaaihhnn phakhitkhxngcin ewiydnam law immi immisinghakhm phayuhmunekhtrxnthikxtwineduxnsinghakhm ph s 2562 chuxphayu chwngthiphayumikalng lmaerngsud km chm iml chm khwmkdxakas hPa phunthiidrbphlkrathb khwamesiyhay USD phuesiychiwit xangxingfransisok 1 singhakhm pccubn 95 60 992 immi immi immielkima 1 singhakhm pccubn 65 40 996 immi immi immikil 3 singhakhm pccubn 65 40 1006 immi immi immiphlkrathbthwolkchuxvdukal phunthiidrbphlkrathb phayuthnghmd phayuthiidrbchux khwamesiyhay USD phuesiychiwitvduphayuehxriekhnaextaelntik ph s 2562 ebxrmiwda shrth rthxarkhnsx rthoxkhlaohma bahamas 3 2 500 lan 1vduphayuehxriekhnaepsifik ph s 2562 xemrikaklang panama khxstarika nikarakw rthhaway hmuekaahaway cxhnstnxathxll 7 6 0 0vduphayuitfunaepsifik ph s 25621 ewiydnam maelesiy ithy phma khiribas hmuekaamaraechll hmuekaaaekhoriln paela filippins kwm shphnthrthimokhrniechiy hmuekaamaeriyna aeyp ithwn hmuekaariwkiw yipun khabsmuthrekahli rsesiytawnxxkikl fngtawntkkhxngrthaexlaska ekhtxarktik hmuekaaobnin law 17 7 165 lan 25vduphayuisokhlnmhasmuthrxinediyehnux ph s 2562 ithy phma hmuekaaxndamn hmuekaaniokhbar srilngka bngklaeths phutan 2 2 gt 1 812 phnlan 97phayuhmunekhtrxninaextaelntikit ph s 2562 brasil 2 2 0 0vduphayuisokhlnmhasmuthrxinediytawntk it ph s 2561 25621 madakskar mxriechiys omsmbik malawi simbbew 9 9 gt 2 111 phnlan 1 376vduphayuisokhlnmhasmuthrxinediytawntk it ph s 2562 25632 immi 1 0 0 0vduphayuisokhlnphumiphakhxxsetreliy ph s 2561 25621 ekaachwa xinodniechiy rthewsethirnxxsetreliy hmuekaamaluku timxrtawnxxk khabsmuthrekhpyxrk rthkhwinsaelnd rthniwesathewls hmuekaaosolmxn hmuekaaokhokhs khiling ekaakhristmas nxrethirnethrrithxri ekaasumatra niwaekhliodeniy 16 8 1 209 phnlan 13vduphayuisokhlnphumiphakhxxsetreliy ph s 2562 25632 immi 0 0 0 0vduphayuisokhlnaepsifikit ph s 2561 25621 hmuekaaosolmxn fici hmuekaasamw txngnga wanuwatu niwaekhliodeniy 11 4 51 lan 0vduphayuisokhlnaepsifikit ph s 2562 25632 immi 0 0 0thwolk dudanbn 67 40 gt 5 748 phnlan 1 510phlrwmkhxngcanwnphayuinaetlaaexngcaimethakbcanwnthiaesdnginthnghmd ephraaemuxphayuekhluxntwkhamaexngmncathuknbepnphayuinxikhnungdwy thaihekikepnkhxaetktang insingthikhwrcaehmuxnkn khxngcanwnphayucring phlrwmkhxngcanwnphuesiychiwitinaetlaaexngcaimethakbcanwnthiaesdnginthnghmd ephraaemuxphayuekhluxntwkhamaexngmncathuknbepnphayuinxikhnungdwy thaihekikepnkhxaetktang insingthikhwrcaehmuxnkn khxngcanwnphuesiychiwitcringhmayehtu1echphaaphayuthikxtw inhruxhlngwnthi 1 mkrakhm ph s 2562 ethannthithuknbincanwnphayurwm 2echphaaphayuthikxtw kxnhruxinwnthi 31 thnwakhm ph s 2562 ethannthithuknbincanwnphayurwm 3khwamerwlmsungsudinaexngnixangxingtammatrakhxngkrmxutuniymwithyaxinediy sungcaichkhwamerwlmechliyin 3 nathi 4khwamerwlmsungsudinaexngnixangxingtammatraaesfefxr simpsn sungcaichkhwamerwlmechliyin 1 nathi 5khwamerwlmkhxngphayuhmunekhtrxnnixangxingtamsungwdthikhwamerwlmkraochkxangxingMeteorology corporateName Bureau of Tropical Cyclones www bom gov au phasaxngkvs subkhnemux 2019 04 10 Doyle Kate 2019 02 19 Why are cyclone paths so difficult to predict ABC News phasaxngkvsaebbxxsetreliy subkhnemux 2019 04 10 Tropical Cyclone Programme www wmo int subkhnemux 2019 04 07 Olarn Kocha 5 January 2019 Storm kills 3 in Thailand moves into Andaman Sea CNN subkhnemux 2019 04 09 Pabuk leaves 4 dead billions of Baht in damage Thailand ReliefWeb subkhnemux 2019 04 09 Olarn Kocha Storm Kills 3 in Thailand moves into Andaman Sea CNN CNN subkhnemux 26 January 2019 Wright Pam Tropical Storm Pabuk Makes First on Record Southern Thailand January Landfall Two Killed Thousands Evacuated The Weather Channel The Weather Channel subkhnemux 26 January 2019 Dalizon Alfred Journal Online People s Journal khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 04 20 subkhnemux 26 January 2019 Wutip 2019 Hurricane And Typhoon Updates blogs nasa gov phasaxngkvsaebbxemrikn subkhnemux 2019 04 09 Leahy Stephen 2019 03 19 Why Cyclone Idai was so destructive Environment subkhnemux 2019 04 09 Resources stretched as Cyclone Kenneth piles misery on Mozambique Reliefweb 27 April 2019 subkhnemux 27 April 2019 Hundreds feared dead after Cyclone Idai BBC News 18 March 2019 subkhnemux 18 March 2019 Osental Duffie 5 April 2019 Insurers on standby as cyclone looms off Western Australia coast Insurance Business America subkhnemux 5 April 2019 Brandon Miller 25 April 2019 Cyclone Kenneth Thousands evacuated as Mozambique is hit with the strongest storm in its history Cable News Network subkhnemux 25 April 2019 Mutsaka Farai SF Gate The Associated Press khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 05 01 subkhnemux 1 May 2019 Number Of Dead From Cyclone Fani Rises To 29 In Odisha NDTV 5 May 2019 subkhnemux 5 May 2019 Cyclone Fani 14 killed in 8 districts Dhaka Tribune 4 May 2019 subkhnemux 4 May 2019 Lightning kills 8 in Uttar Pradesh New Indian Express 3 May 2019 subkhnemux 5 May 2019 Andhra Pradesh pegs loss due to Cyclone Fani at 58 62 crore The Hindu 5 May 2019 subkhnemux 5 May 2019 Banglanews24 com 9 May 2019 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 06 11 subkhnemux 9 May 2019 aehlngkhxmulxunsunyxutuniymwithyachanyphiesspracaphumiphakh sunyehxriekhnaehngchatishrth aextaelntikehnux aepsifiktawnxxk sunyehxriekhnaepsifikklang aepsifikklang krmxutuniymwithyayipun aepsifiktawntkechiyngehnux krmxutuniymwithyaxinediy xawebngkxl aela thaelxahrb Meteo France erxuwniyng mhasmuthrxinediyitcak 30 E thung 90 E Fiji Meteorological Service aepsifikitthangtawntkkhxng 160 E thangehnuxkhxng 25 S sunyetuxnphayuhmunekhtrxn krmxutuniymwithya phumixakaswithya aelathrnifisiksaehngxinodniesiy mhasmuthrxinediyitcak 90 E thung 141 E briewntxnehnuxkhxng 10 S sankxutuniymwithyaxxsetreliy TCWC sunyephirth darwin aela brisebn mhasmuthrxinediyitaelamhasmuthraepsifikitcak 90 E thung 160 E briewntxnitkhxng 10 S brikarlmfaxakasaehngchatipapwniwkini 2020 11 23 thi ewyaebkaemchchin mhasmuthraepsifikitcak 141 E thung 160 E briewntxnehnuxkhxng 10 S emthesxrwisniwsiaelnd mhasmuthraepsifikitthangtawntkkhxng 160 E thangitkhxng 25 S