พฤกษ์, ซึก, มะรุมป่า หรือ จามจุรีทอง (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เรียกว่า จามจุรี; ชื่อวิทยาศาสตร์: Albizia lebbeck) พฤกษ์มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนชื้นของทวีปเอเชีย ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วยจึงพบว่าเป็นต้นไม้ พื้นบ้านที่พบขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่ทุกภาคของประเทศไทย ภาษาอังกฤษ เรียกว่า หรือ Siris น่าสังเกตว่า พฤกษ์ มีชื่อซ้ำกับพืชชนิดอื่นที่เรารู้จักกันดีด้วย คือ จามจุรี และก้ามปู อันเป็นต้นไม้อยู่ในวงศ์เดียวกัน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Samanea saman (Jacq.) Merr. มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Rain Tree ความจริงจามจุรี (ก้ามปู, ฉำฉา) เป็นต้นไม้มาจากทวีปอเมริกาใต้ นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ ๕ ชื่อจามจุรี หรือก้ามปูก็นำไปจากชื่อของต้นพฤกษ์นี้เอง เพราะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะลักษณะดอกที่มีเกสรยาวเป็นฝอย ต่างกันที่สีดอกพฤกษ์มี สีขาวเหลือง แต่ดอกจามจุรี(ใหม่) สีออกชมพูแดง จึงเรียกในสมัยแรกๆ ว่าจามจุรีแดง เพื่อให้เห็นความแตกต่างจากจามจุรีเดิม(พฤกษ์) ซึ่งมี ดอกสีขาวเหลือง ต่อมาเรียกสั้น ลงว่าจามจุรี (เฉยๆ) ไม่มีคำว่าแดง ตามหลัง และไม่มีเรียกต้นพฤกษ์ ว่าจามจุรีหรือก้ามปูอีกมาจนถึงปัจจุบัน
พฤกษ์ | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | พืช |
เคลด: | พืชมีท่อลำเลียง |
เคลด: | พืชดอก |
เคลด: | พืชใบเลี้ยงคู่แท้ |
เคลด: | โรสิด |
อันดับ: | ถั่ว |
วงศ์: | ถั่ว |
วงศ์ย่อย: | วงศ์ย่อยราชพฤกษ์ |
เคลด: | Mimosoid clade |
สกุล: | สกุลถ่อน (L.) |
สปีชีส์: | Albizia lebbeck |
ชื่อทวินาม | |
Albizia lebbeck (L.) | |
ชื่อพ้อง | |
See Taxonomy |
ในอดีตที่คนไทยภาคกลางเรียกพฤกษ์ว่าจามจุรีหรือจามรี น่าจะเป็นเพราะลักษณะดอกเป็นฝอย และมีสีออกเหลืองคล้ายแส้ขนจามรี (จามจุรี) ที่ใช้ในพิธีมงคลนั่นเอง ส่วนที่ได้ชื่อว่าก้ามปู ก็เพราะลักษณะตอนปลายช่อใบคล้ายก้ามปูทะเล จึงเรียกว่า ต้นก้ามปู ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของต้นพฤกษ์ ก็คือ กลางคืนใบจะหุบลีบติดกัน เหมือนนอนหลับและแผ่ออกจากกันตอนเช้าไปจนตลอดวัน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
พฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15-25 เมตร ทรงพุ่มกว้างพอสมควร ด้านบนพุ่มค่อนข้างแบน เปลือกสีเทาเข้มหรือน้ำตาลอมเหลือง ผิวเปลือกขรุขระมักแตกเป็นร่องยาว เปลือกด้านในมีสีแสดแดง ใบเป็นรูปขนนก สองชั้นเรียงสลับกัน ก้านช่อใบยาวประมาณ 20 เซนติเมตร มีขนละเอียดปกคลุม ช่อใบแขนงยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ใบย่อยทรงยาวรี กว้างประมาณ 1-2.5 เซนติเมตร ยาว 2-4 เซนติเมตร ใบร่วงในช่วงเดือนธันวาคมและมกราคม (ผลัดใบ) แตกยอดอ่อนราวปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคม ดอกเกิดที่ปลายกิ่งและโคนก้านใบ ออกเป็นช่อยาวประมาณ 30 เซนติเมตร เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรยาวเป็นฝอยมีสีขาวอมเขียว และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล มีกลิ่นหอม มักออกดอกในเดือนมีนาคมถึงเมษายน ฝักแบนโตคล้ายฝักกระถิน สีขาวอมเหลือง กว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10 ถึง 30 เซนติเมตร มีเมล็ด 4-12 เมล็ดต่อฝัก
การใช้ประโยชน์
พฤกษ์มีการนำมาปลูกเป็นไม้ให้ร่มเงาในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ในอินเดียและปากีสถานใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ เนื้อไม้ของพฤกษ์มีความหนาแน่น 0.55-0.66 g/cm3 หรือสูงกว่า
พฤกษ์เป็นพืชพื้นบ้านดั้งเดิมของไทย อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนานจึง ย่อมถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างรอบด้าน เช่น ด้านสมุนไพรรักษาโรค โดยใช้ส่วนต่างๆของพฤกษ์ ดังนี้
เมล็ดและเปลือก : มีรสฝาด เป็นยาสมาน เช่น รักษาแผลในปาก, ในลำคอ, เหงือกหรือฟันผุ, ริดสีดวงทวารหนัก, แก้ท้องร่วง, ห้ามเลือดตกใน
เมล็ด : รักษากลากเกลื้อน, โรคเรื้อน, ทำยารักษาเยื่อตาอักเสบ
ใบ : ใช้ดับพิษร้อน ทำให้เย็น
พฤกษ์เป็นต้นไม้โตเร็วและทนทาน เหมาะสำหรับปลูกในที่เสื่อมโทรมและแห้งแล้งสามารถปรับปรุงสภาพดินให้สมบูรณ์ขึ้นได้ เนื่องจากเป็นพืชตะกูลถั่วจึงสามารถจับไนโตรเจนจากอากาศมาเปลี่ยนเป็นปุ๋ยไนเตรตได้ดี เนื้อไม้พฤกษ์เหนียว แข็งแรง ทนทานปานกลาง เลื่อยไสกบได้ง่าย มีสีน้ำตาลอ่อนถึงแก่ เป็นมัน เป็นไม้ที่ใช้ค้าขายระหว่างประเทศด้วยชื่อทางการค้าคือ Indian Walnut Siris และ Kokko
เนื่องจากพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์และผูกพันกับคนไทยมากชนิดหนึ่ง จึงได้รับการพิจารณาให้เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดมหาสารคาม โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ทรงโปรดพระราชทานกล้าไม้มงคลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดนำไปปลูกเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นไม้มงคลประจำจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด โดยจังหวัดมหาสารคาม ได้รับพระราชทานต้นพฤกษ์เป็นไม้มงคลประจำจังหวัด ดังนั้นต่อไปนี้คนไทยที่ปลูกต้นพฤกษ์นอกจากจะได้ประโยชน์ด้านต่างๆ เช่น ผัก, สมุนไพร, ร่มเงา, เนื้อไม้ ฯลฯ แล้วยังจะเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวอีกด้วย
ความเป็นพิษ
ฝุ่นจากไม้มีกลิ่นหอมและเผ็ดร้อน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อจมูกและลำคอของคนงานโรงเลื่อย เปลือกใช้เป็นยาเบื่อปลา สีย้อมสีแดงจากเปลือกไม้ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ฝักมีซาโปนินและกินไม่ได้มาก
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Plummer, J. (2020). "Albizia lebbeck". IUCN Red List of Threatened Species. 2020: e.T18435916A18435924. สืบค้นเมื่อ 9 March 2023.
- International Legume Database & Information Service (ILDIS) (2005): Albizia lebbeck (L.) Benth.. Version 10.01, November 2005. Retrieved 2008-MAR-30.
- Brown, Sandra. (1997): Appendix 1 - List of wood densities for tree species from tropical America, Africa, and Asia. In: Estimating Biomass and Biomass Change of Tropical Forests: a Primer. FAO Forestry Papers 134. HTML fulltext
- https://khaolan.redcross.or.th/%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C/
- https://gdpark.asia/seed/tree/2080
- เศรษฐมนตร์ กาญจนกุล. ไม้มีพิษ. กทม. เศรษฐศิลป์. 2552
แหล่งข้อมูลอื่น
- Dressler, S.; Schmidt, M. & Zizka, G. (2014). "Albizia lebbeck". African plants – a Photo Guide. Frankfurt/Main: Forschungsinstitut Senckenberg.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phvks suk marumpa hrux camcurithxng phcnanukrm chbbrachbnthitysthan eriykwa camcuri chuxwithyasastr Albizia lebbeck phvksmithinkaenidxyuinekhtrxnchunkhxngthwipexechiy sungrwmthngpraethsithydwycungphbwaepntnim phunbanthiphbkhunexngtamthrrmchatixyuthukphakhkhxngpraethsithy phasaxngkvs eriykwa hrux Siris nasngektwa phvks michuxsakbphuchchnidxunthieraruckkndidwy khux camcuri aelakampu xnepntnimxyuinwngsediywkn michuxwithyasastrwa Samanea saman Jacq Merr michuxphasaxngkvswa Rain Tree khwamcringcamcuri kampu chacha epntnimmacakthwipxemrikait naekhamaplukinpraethsithysmyrchkalthi 5 chuxcamcuri hruxkampuknaipcakchuxkhxngtnphvksniexng ephraamilksnakhlaykhlungkn odyechphaalksnadxkthimieksryawepnfxy tangknthisidxkphvksmi sikhawehluxng aetdxkcamcuri ihm sixxkchmphuaedng cungeriykinsmyaerk wacamcuriaedng ephuxihehnkhwamaetktangcakcamcuriedim phvks sungmi dxksikhawehluxng txmaeriyksn lngwacamcuri echy immikhawaaedng tamhlng aelaimmieriyktnphvks wacamcurihruxkampuxikmacnthungpccubnphvkssthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr phuchekhld phuchmithxlaeliyngekhld phuchdxkekhld phuchibeliyngkhuaethekhld orsidxndb thwwngs thwwngsyxy wngsyxyrachphvksekhld Mimosoid cladeskul skulthxn L spichis Albizia lebbeckchuxthwinamAlbizia lebbeck L chuxphxngSee Taxonomy inxditthikhnithyphakhklangeriykphvkswacamcurihruxcamri nacaepnephraalksnadxkepnfxy aelamisixxkehluxngkhlayaeskhncamri camcuri thiichinphithimngkhlnnexng swnthiidchuxwakampu kephraalksnatxnplaychxibkhlaykamputhael cungeriykwa tnkampu lksnaphiessxyanghnungkhxngtnphvks kkhux klangkhunibcahublibtidkn ehmuxnnxnhlbaelaaephxxkcakkntxnechaipcntlxdwnlksnathangphvkssastrphvksepnimyuntnkhnadklangthungkhnadihy sung 15 25 emtr thrngphumkwangphxsmkhwr danbnphumkhxnkhangaebn epluxksiethaekhmhruxnatalxmehluxng phiwepluxkkhrukhramkaetkepnrxngyaw epluxkdaninmisiaesdaedng ibepnrupkhnnk sxngchneriyngslbkn kanchxibyawpraman 20 esntiemtr mikhnlaexiydpkkhlum chxibaekhnngyawpraman 5 10 esntiemtr ibyxythrngyawri kwangpraman 1 2 5 esntiemtr yaw 2 4 esntiemtr ibrwnginchwngeduxnthnwakhmaelamkrakhm phldib aetkyxdxxnrawplayeduxnmkrakhmthungtneduxnminakhm dxkekidthiplaykingaelaokhnkanib xxkepnchxyawpraman 30 esntiemtr epndxksmburnephs mieksryawepnfxymisikhawxmekhiyw aelaepliynepnsiehluxngnwl miklinhxm mkxxkdxkineduxnminakhmthungemsayn fkaebnotkhlayfkkrathin sikhawxmehluxng kwangpraman 3 5 esntiemtr yawpraman 10 thung 30 esntiemtr miemld 4 12 emldtxfkkarichpraoychnepluxkimkhxngphvks phvksmikarnamaplukepnimihrmengainxemrikaehnuxaelaxemrikait inxinediyaelapakisthanichpraoychncakenuxim enuximkhxngphvksmikhwamhnaaenn 0 55 0 66 g cm3 hruxsungkwa phvksepnphuchphunbandngedimkhxngithy xyukhukhnithymaeninnancung yxmthuknamaichpraoychnxyangrxbdan echn dansmuniphrrksaorkh odyichswntangkhxngphvks dngni emldaelaepluxk mirsfad epnyasman echn rksaaephlinpak inlakhx ehnguxkhruxfnphu ridsidwngthwarhnk aekthxngrwng hameluxdtkin emld rksaklakekluxn orkheruxn thayarksaeyuxtaxkesb ib ichdbphisrxn thaiheyn phvksepntnimoterwaelathnthan ehmaasahrbplukinthiesuxmothrmaelaaehngaelngsamarthprbprungsphaphdinihsmburnkhunid enuxngcakepnphuchtakulthwcungsamarthcbinotrecncakxakasmaepliynepnpuyinetrtiddi enuximphvksehniyw aekhngaerng thnthanpanklang eluxyiskbidngay misinatalxxnthungaek epnmn epnimthiichkhakhayrahwangpraethsdwychuxthangkarkhakhux Indian Walnut Siris aela Kokko enuxngcakphvksepntnimthimipraoychnaelaphukphnkbkhnithymakchnidhnung cungidrbkarphicarnaihepntnimpracacnghwdmhasarkham odysmedcphranangecasirikiti phrabrmrachininath phrabrmrachchnniphnpihlwngidthrngoprdphrarachthanklaimmngkhlihphuwarachkarcnghwdthukcnghwdnaipplukephuxepnsirimngkhl epnimmngkhlpracacnghwdthng 76 cnghwd odycnghwdmhasarkham idrbphrarachthantnphvksepnimmngkhlpracacnghwd dngnntxipnikhnithythipluktnphvksnxkcakcaidpraoychndantang echn phk smuniphr rmenga enuxim l aelwyngcaepnsirimngkhlaektnexngaelakhrxbkhrwxikdwykhwamepnphisfuncakimmiklinhxmaelaephdrxn xacthaihekidkarrakhayekhuxngtxcmukaelalakhxkhxngkhnnganorngeluxy epluxkichepnyaebuxpla siyxmsiaedngcakepluxkimthaihekidkarrakhayekhuxngphiwhnng fkmisaopninaelakinimidmakduephimraychuxphnthuimmngkhlphrarachthanpracacnghwdxangxingPlummer J 2020 Albizia lebbeck IUCN Red List of Threatened Species 2020 e T18435916A18435924 subkhnemux 9 March 2023 International Legume Database amp Information Service ILDIS 2005 Albizia lebbeck L Benth Version 10 01 November 2005 Retrieved 2008 MAR 30 Brown Sandra 1997 Appendix 1 List of wood densities for tree species from tropical America Africa and Asia In Estimating Biomass and Biomass Change of Tropical Forests a Primer FAO Forestry Papers 134 ISBN 92 5 103955 0 HTML fulltext https khaolan redcross or th E0 B8 9E E0 B8 A4 E0 B8 81 E0 B8 A9 E0 B9 8C https gdpark asia seed tree 2080 esrsthmntr kaycnkul immiphis kthm esrsthsilp 2552aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phvks Dressler S Schmidt M amp Zizka G 2014 Albizia lebbeck African plants a Photo Guide Frankfurt Main Forschungsinstitut Senckenberg