พระเจ้าเฮโรดมหาราช (อังกฤษ: Herod the Great หรือ Herod I; ฮีบรู: הוֹרְדוֹס Horodos, กรีก: Ἡρῴδης (Hērōdēs)) (73 - 4 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่ง (Iudaea Province) ของจักรวรรดิโรมัน เฮโรดมิได้สืบเชื้อสายมาจากชาวยิว และตอนแรกเป็นเพียงคนรับใช้ กล่าวกันว่าเป็น “ผู้บ้าอำนาจและฆาตกรรมครอบครัวของตนเองและรับบีอีกหลายคน” ยูเดียในรัชสมัยของพระองค์เจริญรุ่งเรืองและมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญเป็นประวัติศาสตร์มากมาย
พระเจ้าเฮโรดมหาราช | |
---|---|
กษัตริย์แห่งยูเดีย | |
ครองราชย์ | 37 ปีก่อนค.ศ.– ประมาณ 4 ปีก่อนค.ศ. |
ถัดไป | |
ประสูติ | ประมาณ 74/73 ปีก่อนค.ศ. |
สวรรคต | ประมาณ 4 ปีก่อนค.ศ. , |
ฝังพระศพ | น่าจะฝังที่ |
สนม |
|
พระราชบุตร |
|
ราชวงศ์ | |
พระราชบิดา | |
พระราชมารดา | Cypros |
ศาสนา |
พระเจ้าเฮโรดมหาราชมักจะสับสนกับที่มาจาก (Herodian dynasty) เดียวกัน ผู้เป็นประมุขของกาลิลี ระหว่างปีที่ 4 ก่อนคริสต์ศักราช จนถึง ค.ศ. 39 ในช่วงเวลาของนักบุญยอห์นผู้ให้บัพติศมาและพระเยซู พระเจ้าเฮโรดทรงมีชื่อเสียงในงานสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ในกรุงเยรูซาเลมและบริเวณอื่น ๆ ในดินแดนโบราณรวมทั้งการก่อสร้าง (Second Temple) ในกรุงเยรูซาเลมที่บางครั้งก็เรียกว่า พระราชประวัติของพระองค์ได้รับการกล่าวถึงบ้างในงานเขียนของโยเซพุส นักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน-ยิวสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 1
ในคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า พระเจ้าเฮโรดมีพระราชโองการให้ประหารเด็กทุกคนในหมู่บ้านเบธเลเฮมเพราะทรงหวาดกลัวว่าเด็กที่เกิดใหม่จะเติบโตขึ้นมาเป็น “พระมหากษัตริย์แห่งชาวยิว” (King of the Jews) และยึดราชบัลลังก์ของพระองค์ ตามคำพยากรณ์ของแมไจตามที่บรรยายในพระวรสารนักบุญมัทธิว แต่นักเขียนพระราชประวัติของพระเจ้าเฮโรดเมื่อไม่นานมานี้ค้านว่าเหตุการณ์การสังหารหมู่นั้น อาจจะมิได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์
ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่สองก่อนสากลศักราช ยูเดียอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์เซเลอคิดแห่งซีเรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ราชวงศ์ที่เกิดขึ้นหลังจากจักรวรรดิของอะเล็กซานเดอร์มหาราชล่มสลาย อย่างไรก็ตาม ประมาณปี 168 ก่อนคริสต์ศักราช เมื่อกษัตริย์ของราชวงศ์เซเลอคิดพยายามจะนำเอาการนมัสการซูสเข้ามาแทนที่การนมัสการพระยะโฮวาในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเลม ชาวยิวซึ่งนำโดยตระกูลแมกคาบีจึงก่อกบฏ พวกแมกคาบีหรือฮัสโมเนียนปกครองยูเดียในช่วงปี 142-63 ก่อนคริสต์ศักราช
ในปี 66 ก่อนคริสต์ศักราช เจ้าชายแห่งฮัสโมเนียนสององค์คือ ฮีร์คานุสที่ 2 และอาริสโตบุลุสน้องชายได้ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ หลังจากนั้นเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ทั้งคู่จึงไปขอความช่วยเหลือจากปอมปีย์แม่ทัพของโรมันซึ่งเวลานั้นอยู่ในซีเรีย ปอมปีย์ก็ฉวยโอกาสเข้าแทรกแซงทันที
ที่จริง พวกโรมันกำลังขยายอิทธิพลไปทางตะวันออก และในเวลานั้นพวกเขายึดครองอาณาเขตส่วนใหญ่ของเอเชียไมเนอร์ได้แล้ว แต่เนื่องจากซีเรียมีผู้ปกครองที่ไม่เข้มแข็งสืบต่อกันมาหลายสมัย บ้านเมืองจึงตกอยู่ในสภาพที่ไม่มีขื่อไม่มีแปซึ่งขัดกับความพยายามของโรมที่ต้องการจะรักษาความสงบสุขในดินแดนทางตะวันออกเอาไว้ ดังนั้น ปอมปีย์จึงเข้ายึดครองซีเรีย
ปอมปีย์แก้ปัญหาความขัดแย้งในราชวงศ์ฮัสโมเนียนด้วยการสนับสนุนฮีร์คานุส และในปี 63 ก่อนคริสต์ศักราช พวกโรมันได้บุกโจมตีเยรูซาเลมและตั้งฮีร์คานุสเป็นกษัตริย์ แต่ฮีร์คานุสไม่ได้ปกครองอย่างเอกเทศ พวกโรมันได้เข้ามาแล้วและพวกเขาจะไม่ถอนอิทธิพลออกไปจากดินแดนนี้ ฮีร์คานุสกลายเป็นผู้นำประชาชนที่ต้องปกครองภายใต้อำนาจของโรม และต้องพึ่งการสนับสนุนจากโรมเพื่อรักษาบัลลังก์เอาไว้ เขาสามารถจะบริหารจัดการเรื่องราวภายในได้ตามที่ต้องการ แต่ในเรื่องความสัมพันธ์กับชาติอื่น ๆ เขาจะต้องทำตามนโยบายของโรม
ฮีร์คานุสเป็นผู้ปกครองที่ไม่เข้มแข็ง แต่เขาได้รับการสนับสนุนจากอันทิพาเทอร์ชาวอิดูเมีย ซึ่งเป็นบิดาของเฮโรดมหาราช อันทิพาเทอร์เป็นผู้มีอำนาจที่ให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง เขาสามารถควบคุมพวกยิวกลุ่มต่าง ๆ ที่คิดจะต่อต้านกษัตริย์ได้ และในไม่ช้าตัวเขาเองก็มีอำนาจเหนือยูเดียทั้งหมด เขาได้ช่วยจูเลียส ซีซาร์ รบกับศัตรูในอียิปต์ และพวกโรมันได้ให้รางวัลแก่อันทิพาเทอร์โดยการตั้งเขาเป็นผู้สำเร็จราชการที่ขึ้นกับโรมโดยตรง ส่วนอันทิพาเทอร์เองก็แต่งตั้งบุตรชายสองคน คือฟาเซล ให้เป็นผู้ว่าราชการเยรูซาเลมและเฮโรด ให้เป็นผู้ว่าราชการแกลิลี
อันทิพาเทอร์ได้สอนลูกของตนว่าไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตามไม่อาจสำเร็จได้ถ้าปราศจากการเห็นชอบจากโรม เฮโรดก็ได้จำคำสอนนี้ไว้อย่างดี ตลอดเวลาที่อยู่ในตำแหน่ง เขาพยายามจะเอาใจโรมที่ช่วยให้เขามีอำนาจ และขณะเดียวกันก็เอาใจชาวยิวที่อยู่ใต้อำนาจตนด้วย สิ่งที่ช่วยเขาก็คือความสามารถในการบริหารและการดูแลกองทัพ เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการ เฮโรดในวัย 25 ปีก็กลายเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวยิวและชาวโรมันเนื่องจากเขาได้ปราบปรามกองโจรทั้งหลายอย่างแข็งขันให้หมดไปจากเขตปกครอง
หลังจากอันทิพาเทอร์ถูกศัตรูวางยาพิษในปี 43 ก่อนคริสต์ศักราช เฮโรดก็กลายมาเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในยูเดีย แต่เขาก็มีศัตรูด้วย พวกขุนนางในเยรูซาเลมถือว่าเฮโรดเป็นผู้ช่วงชิงอำนาจ และพยายามเกลี้ยกล่อมให้โรมถอดเขาออกจากตำแหน่ง ความพยายามนั้นล้มเหลว โรมยังระลึกถึงคุณความดีของอันทิพาเทอร์และชื่นชมความสามารถของเฮโรด
วิธีที่ปอมปีย์แก้ปัญหาการสืบราชบัลลังก์ของฮัสโมเนียนประมาณ 20 ปีก่อนได้สร้างความขมขื่นให้กับหลายฝ่าย ฝ่ายที่สนับสนุนอาริสโตบุลุสพยายามที่จะแย่งอำนาจคืนมาหลายครั้งหลายหนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่แล้วในปี 40 ก่อนคริสต์ศักราช พวกเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากชาวปาร์เทียซึ่งเป็นศัตรูของโรม ระหว่างที่เกิดความโกลาหลวุ่นวายในกรุงโรมเนื่องจากสงครามกลางเมือง พวกเขาได้ฉวยโอกาสโจมตีซีเรีย ถอดถอนฮีร์คานุส และแต่งตั้งสมาชิกของราชวงศ์ฮัสโมเนียนคนหนึ่งที่ต่อต้านโรมให้ขึ้นครองอำนาจ
เฮโรดหนีไปโรมและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ชาวโรมันต้องการขับไล่พวกปาร์เทียออกไปจากยูเดียและยึดดินแดนนั้นกลับมา และตั้งผู้ปกครองที่ตนเห็นชอบ พวกเขาต้องการพันธมิตรที่ไว้ใจได้และเห็นว่าเฮโรดคือผู้ที่เหมาะสม สภาสูงของโรมจึงได้ตั้งเฮโรดเป็นกษัตริย์แห่งยูเดีย เพื่อจะรักษาอำนาจของตนไว้ เฮโรดได้ทำหลายสิ่งที่เป็นการประนีประนอมความเชื่อ สิ่งหนึ่งก็คือเขาได้นำขบวนแห่จากสภาสูงไปยังวิหารแห่งจูปีเตอร์เพื่อถวายเครื่องบูชาให้แก่เหล่าเทพเจ้านอกรีต
ด้วยความช่วยเหลือจากกองทหารโรมัน เฮโรดเอาชนะศัตรูในยูเดียและทวงบัลลังก์คืนมาได้ เขาแก้แค้นผู้ที่เคยต่อต้านตนอย่างโหดเหี้ยม เขากำจัดราชวงศ์ฮัสโมเนียนและเหล่าขุนนางชาวยิวที่สนับสนุนราชวงศ์นี้ รวมทั้งใครก็ตามที่ไม่พอใจจะอยู่ใต้อำนาจผู้ปกครองที่เป็นมิตรกับโรม
ในปี 31 ก่อนคริสต์ศักราช เมื่อออกเตเวียสได้ชัยชนะเหนือมาร์ก แอนโทนีที่อักทิอุม และกลายเป็นผู้ปกครองที่มีอำนาจแต่ผู้เดียวของโรม เฮโรดก็กลัวว่าออกเตเวียสจะสงสัยตนเนื่องจากเคยมีมิตรภาพอันยาวนานกับมาร์ก แอนโทนี เฮโรดจึงรีบไปหาออกเตเวียสเพื่อยืนยันว่าตนยังจงรักภักดีอยู่ ผู้ปกครององค์ใหม่ของโรมก็ได้รับรองกับเฮโรดว่าเขายังเป็นกษัตริย์ของยูเดียและมอบดินแดนเพิ่มให้อีก
ในช่วงหลายปีหลังจากนั้น เฮโรดได้สร้างความมั่นคงให้กับอาณาจักรของตนโดยทำให้กรุงเยรูซาเลมกลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมกรีก เขาได้ริเริ่มโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น ราชวังหลายหลัง, เมืองท่าซีซาเรีย, และพระวิหารในกรุงเยรูซาเลมที่ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ ที่ใหญ่โตหรูหรา ตลอดช่วงเวลานั้น นโยบายของเฮโรดมุ่งเน้นที่การรักษาความสัมพันธ์กับโรมซึ่งเป็นขุมกำลังของตน
อำนาจปกครองของเฮโรดเหนือยูเดียนั้นเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นอกจากนี้ เฮโรดยังใช้อำนาจเหนือมหาปุโรหิตด้วย โดยแต่งตั้งผู้ที่ตนพอใจให้ดำรงตำแหน่งนี้
ชีวิตส่วนตัวของเฮโรดมีแต่เรื่องวุ่นวาย ในจำนวนมเหสีสิบคนของเฮโรดมีหลายคนที่ต้องการให้บุตรชายของตนสืบบัลลังก์ต่อจากราชบิดา แผนร้ายต่าง ๆ ในราชวังทำให้เฮโรดระแวงสงสัยและทำสิ่งที่เหี้ยมโหด ด้วยความหึงหวง เขาได้สั่งประหารมาเรียมมเหสีคนโปรด และต่อมาสั่งให้รัดคอบุตรชายสองคนของนางเนื่องจากมีคนกล่าวหาว่าคบคิดแผนชั่วต่อต้านตน บันทึกในมัดธายเกี่ยวกับการสั่งฆ่าเด็กทุกคนในเบทเลเฮมจึงสอดคล้องลงรอยกับเรื่องที่ผู้คนรู้กันดีเกี่ยวกับนิสัยของเฮโรดรวมทั้งความมุ่งมั่นของเขาที่จะกำจัดทุกคนที่สงสัยว่าเป็นศัตรู
บางคนบอกว่าเนื่องจากเฮโรดรู้ตัวว่าไม่เป็นที่นิยมชมชอบ เขาจึงตั้งใจจะทำให้คนทั้งชาติโศกเศร้าในการตายของตนแทนที่จะดีใจ เพื่อให้แผนการสำเร็จ เขาได้จับประชาชนระดับผู้นำของยูเดียและสั่งไว้ว่าให้ฆ่าคนเหล่านี้เมื่อมีการประกาศการตายของเขา แต่ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติตามคำสั่งนี้
เมื่อเฮโรดสิ้นพระชนม์ โรมได้แต่งตั้งอาร์คีลาอุสให้เป็นผู้ปกครองยูเดียต่อจากราชบิดา และแต่งตั้งบุตรชายอีกสองคนของเฮโรดเป็นเจ้าชายหรือเจ้าผู้ครองแคว้นที่ไม่ขึ้นกับโรม คืออันทีพัสเป็นผู้ครองแคว้นแกลิลีและพีเรีย ส่วนฟิลิปเป็นผู้ครองแคว้นอิตูเรียและทราโคนิทิส อาร์คีลาอุสไม่เป็นที่ชื่นชอบของราษฎรและของโรม หลังจากปกครองได้สิบปีโดยไม่มีผลงานที่น่าพอใจ โรมจึงปลดเขาออกจากตำแหน่งและแต่งตั้งผู้ว่าราชการของโรมเองให้ปกครอง ซึ่งก็คือผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนปอนติอุสปีลาต ในระหว่างนั้น อันทีพัสซึ่งลูกาเรียกสั้น ๆ ว่าเฮโรด ยังคงปกครองแคว้นของตนต่อไปเช่นเดียวกับฟิลิป นี่เป็นสถานการณ์ทางการเมืองตอนที่พระเยซูเริ่มทำงานประกาศสั่งสอน—ลูกา 3:1
อ้างอิง
- "Herod". Encyclopædia Britannica Online. Encyclopædia Britannica. 2007. สืบค้นเมื่อ 2007-07-27.
born 74 BC died March/April, 4 BC, Jericho, Judaea byname Herod the Great, Latin Herodes Magnus Roman-appointed king of Judaea ... his father, Antipater, was an Edomite (an Arab from the region between the Dead Sea and the Gulf of Aqaba)
- http://www.jewishvirtuallibrary.org/jsource/Archaeology/jericho.html
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-06. สืบค้นเมื่อ 2009-04-06.
- http://www.aish.com/literacy/JewishHistory/Crash_Course_in_Jewish_History_Part_31_-_Herod3_the_Great.asp
- MATTHEW 2:16 "When Herod realized that he had been outwitted by the Magi, he was furious, and he gave orders to kill all the boys in Bethlehem and its vicinity who were two years old and under, in accordance with the time he had learned from the Magi." 'HOLY' Bible, New International Version (Eng. Bible-NIV095-00301 ABS-1986-20,000-Z-1)
- "Most recent biographies of Herod the Great deny it entirely", Paul L. Maier, "Herod and the Infants of Bethlehem", in Chronos, Kairos, Christos II, Mercer University Press (1998), 170; see also Geza Vermes, The Nativity: History and Legend, London, Penguin, 2006, p22; E. P. Sanders, The Historical Figure of Jesus, Penguin, 1993, p.85
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พระเจ้าเฮโรดมหาราช
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha phraecaehordmharach xngkvs Herod the Great hrux Herod I hibru הו ר דו ס Horodos krik Ἡrῴdhs Herōdes 73 4 pikxnkhristskrach epnphraecaaephndinaehng Iudaea Province khxngckrwrrdiormn ehordmiidsubechuxsaymacakchawyiw aelatxnaerkepnephiyngkhnrbich klawknwaepn phubaxanacaelakhatkrrmkhrxbkhrwkhxngtnexngaelarbbixikhlaykhn yuediyinrchsmykhxngphraxngkhecriyrungeruxngaelamisingkxsrangthisakhyepnprawtisastrmakmayphraecaehordmharachkstriyaehngyuediykhrxngrachy37 pikxnkh s praman 4 pikxnkh s thdipprasutipraman 74 73 pikxnkh s swrrkhtpraman 4 pikxnkh s fngphrasphnacafngthisnmdxrisphramehsixik 5 phraxngkhphrarachbutrecahying ecachayehordrachwngsphrarachbidaphrarachmardaCyprossasna phraecaehordmharachmkcasbsnkbthimacak Herodian dynasty ediywkn phuepnpramukhkhxngkalili rahwangpithi 4 kxnkhristskrach cnthung kh s 39 inchwngewlakhxngnkbuyyxhnphuihbphtismaaelaphraeysu phraecaehordthrngmichuxesiynginngansthaptykrrmxnyingihyinkrungeyrusaelmaelabriewnxun indinaednobranrwmthngkarkxsrang Second Temple inkrungeyrusaelmthibangkhrngkeriykwa phrarachprawtikhxngphraxngkhidrbkarklawthungbanginnganekhiynkhxngoyesphus nkprawtisastrchawormn yiwsmykhriststwrrsthi 1 inkhmphiribebilklawwa phraecaehordmiphrarachoxngkarihpraharedkthukkhninhmubanebthelehmephraathrnghwadklwwaedkthiekidihmcaetibotkhunmaepn phramhakstriyaehngchawyiw King of the Jews aelayudrachbllngkkhxngphraxngkh tamkhaphyakrnkhxngaemictamthibrryayinphrawrsarnkbuymththiw aetnkekhiynphrarachprawtikhxngphraecaehordemuximnanmanikhanwaehtukarnkarsngharhmunn xaccamiidepnehtukarnthiekidkhuncringinprawtisastr in chwng khrung aerk khxng stwrrs thi sxng kxn sakl skrach yuediy xyu phay it kar pkkhrxng khxng rachwngs eselxkhid aehng sieriy sung epn hnung in si rachwngs thi ekid khun hlng cak ckrwrrdi khxng xaelksanedxr mharach lm slay xyang ir k tam praman pi 168 kxnkhristskrach emux kstriy khxng rachwngs eselxkhid phyayam ca na exa kar nmskar sus ekha ma aethn thi kar nmskar phra yaohwa in phra wihar thi krung eyrusaelm chaw yiw sung na ody trakul aemkkhabi cung kx kbt phwk aemkkhabi hrux hsomeniyn pkkhrxng yuediy in chwng pi 142 63 kxnkhristskrach in pi 66 kxnkhristskrach eca chay aehng hsomeniyn sxng xngkh khux hirkhanus thi 2 aela xarisotbulus nxng chay id tx su kn ephux aeyng ching bllngk hlng cak nn ekid sngkhram klang emuxng khun thng khu cung ip khx khwam chwyehlux cak pxmpiy aemthph khxng ormn sung ewla nn xyu in sieriy pxmpiy k chwy oxkas ekha aethrkaesng thnthi thi cring phwk ormn kalng khyay xiththiphl ip thang tawn xxk aela in ewla nn phwk ekha yud khrxng xana ekht swn ihy khxng exechiy imenxr id aelw aet enuxng cak sieriy mi phu pkkhrxng thi im ekhmaekhng sub tx kn ma hlay smy ban emuxng cung tk xyu in sphaph thi im mi khux im mi aep sung khd kb khwam phyayam khxng orm thi txngkar ca rksa khwam sngb sukh in dinaedn thang tawn xxk exa iw dng nn pxmpiy cung ekha yud khrxng sieriy pxmpiy aek pyha khwam khd aeyng in rachwngs hsomeniyn dwy kar snbsnun hirkhanus aela in pi 63 kxnkhristskrach phwk ormn id buk ocmti eyrusaelm aela tng hirkhanus epn kstriy aet hirkhanus im id pkkhrxng xyang exkeths phwk ormn id ekha ma aelw aela phwk ekha ca im thxn xiththiphl xxk ip cak dinaedn ni hirkhanus klay epn phu na prachachn thi txng pkkhrxng phay it xanac khxng orm aela txng phung kar snbsnun cak orm ephux rksa bllngk exa iw ekha samarth ca brihar cd kar eruxng raw phay in id tam thi txngkar aet in eruxng khwam smphnth kb chati xun ekha ca txng tha tam noybay khxng orm hirkhanus epn phu pkkhrxng thi im ekhmaekhng aet ekha id rb kar snbsnun cak xnthiphaethxr chaw xiduemiy sung epn bida khxng ehord mharach xnthiphaethxr epn phu mi xanac thi ih kar chwyehlux xyu ebuxng hlng ekha samarth khwbkhum phwk yiw klum tang thi khid ca tx tan kstriy id aela in im cha tw ekha exng k mi xanac ehnux yuediy thng hmd ekha id chwy cueliys sisar rb kb stru in xiyipt aela phwk ormn id ih rangwl aek xnthiphaethxr ody kar tng ekha epn phu saerc rachkar thi khun kb orm ody trng swn xnthiphaethxr exng k aetng tng butr chay sxng khn khux faesl ih epn phu wa rachkar eyrusaelm aela ehord ih epn phu wa rachkar aeklili xnthiphaethxr id sxn luk khxng tn wa im wa ca tha sing id k tam im xac saerc id tha prascak kar ehn chxb cak orm ehord k id ca kha sxn ni iw xyang di tlxd ewla thi xyu in taaehnng ekha phyayam ca exa ic orm thi chwy ih ekha mi xanac aela khna ediyw kn k exa ic chaw yiw thi xyu it xanac tn dwy sing thi chwy ekha k khux khwam samarth in kar brihar aela kar du ael kxngthph emux id rb aetng tng epn phu wa rachkar ehord in wy 25 pi k klay epn thi chun chxb khxng thng chaw yiw aela chaw ormn enuxng cak ekha id prab pram kxngocr thng hlay xyang aekhngkhn ih hmd ip cak ekht pkkhrxng hlng cak xnthiphaethxr thuk stru wang ya phis in pi 43 kxnkhristskrach ehord k klay ma epn phu mi xanac mak thi sud in yuediy aet ekha k mi stru dwy phwk khunnang in eyrusaelm thux wa ehord epn phu chwng ching xanac aela phyayam ekliyklxm ih orm thxd ekha xxk cak taaehnng khwam phyayam nn lmehlw orm yng raluk thung khun khwam di khxng xnthiphaethxr aela chunchm khwam samarth khxng ehord withi thi pxmpiy aek pyha kar sub rachbllngk khxng hsomeniyn praman 20 pi kxn id srang khwam khmkhun ih kb hlay fay fay thi snbsnun xarisotbulus phyayam thi ca aeyng xanac khun ma hlay khrng hlay hn aet im prasb khwam saerc aet aelw in pi 40 kxnkhristskrach phwk ekha k prasb khwam saerc dwy khwam chwyehlux cak chaw parethiy sung epn stru khxng orm rahwang thi ekid khwam oklahl wunway in krung orm enuxng cak sngkhram klang emuxng phwk ekha id chwy oxkas ocmti sieriy thxd thxn hirkhanus aela aetng tng smachik khxng rachwngs hsomeniyn khn hnung thi tx tan orm ih khun khrxng xanac ehord hni ip orm aela id rb kar txnrb xyang xbxun chaw ormn txngkar khb il phwk parethiy xxk ip cak yuediy aela yud dinaedn nn klb ma aela tng phu pkkhrxng thi tn ehn chxb phwk ekha txngkar phnthmitr thi iw ic id aela ehn wa ehord khux phu thi ehmaa sm spha sung khxng orm cung id tng ehord epn kstriy aehng yuediy ephux ca rksa xanac khxng tn iw ehord id tha hlay sing thi epn kar pranipranxm khwam echux sing hnung k khux ekha id na khbwn aeh cak spha sung ip yng wihar aehng cupietxr ephux thway ekhruxng bucha ih aek ehla ethpheca nxk rit dwy khwam chwyehlux cak kxng thhar ormn ehord exa chna stru in yuediy aela thwng bllngk khun ma id ekha aekaekhn phu thi ekhy tx tan tn xyang ohd ehiym ekha kacd rachwngs hsomeniyn aela ehla khunnang chaw yiw thi snbsnun rachwngs ni rwm thng ikhr k tam thi im phx ic ca xyu it xanac phu pkkhrxng thi epn mitr kb orm in pi 31 kxnkhristskrach emux xxketewiys id chy chna ehnux mark aexnothni thi xkthixum aela klay epn phu pkkhrxng thi mi xanac aet phu ediyw khxng orm ehord k klw wa xxketewiys ca sngsy tn enuxng cak ekhy mi mitrphaph xn yaw nan kb mark aexnothni ehord cung rib ip ha xxketewiys ephux yun yn wa tn yng cngrkphkdi xyu phu pkkhrxng xngkh ihm khxng orm k id rbrxng kb ehord wa ekha yng epn kstriy khxng yuediy aela mxb dinaedn ephim ih xik in chwng hlay pi hlng cak nn ehord id srang khwam mnkhng ih kb xanackr khxng tn ody tha ih krung eyrusaelm klay epn sunyklang wthnthrrm krik ekha id rierim okhrngkar kx srang khnad ihy echn rachwng hlay hlng emuxng tha sisaeriy aela phra wihar in krung eyrusaelm thi prakxb dwy sing kx srang ihm thi ihy ot hruhra tlxd chwng ewla nn noybay khxng ehord mung enn thi kar rksa khwam smphnth kb orm sung epn khum kalng khxng tn xanac pkkhrxng khxng ehord ehnux yuediy nn epn xanac ebdesrc eddkhad nxk cak ni ehord yng ich xanac ehnux mha puorhit dwy ody aetng tng phu thi tn phx ic ih darng taaehnng ni chiwit swn tw khxng ehord mi aet eruxng wunway in canwn mehsi sib khn khxng ehord mi hlay khn thi txngkar ih butr chay khxng tn sub bllngk tx cak rachbida aephn ray tang in rachwng tha ih ehord raaewng sngsy aela tha sing thi ehiym ohd dwy khwam hung hwng ekha id sng prahar ma eriym mehsi khn oprd aela tx ma sng ih rd khx butr chay sxng khn khxng nang enuxng cak mi khn klawha wa khb khid aephn chw tx tan tn bnthuk in mdthay ekiyw kb kar sng kha edk thuk khn in ebthelehm cung sxdkhlxng lng rxy kb eruxng thi phu khn ru kn di ekiyw kb nisy khxng ehord rwm thng khwam mung mn khxng ekha thi ca kacd thuk khn thi sngsy wa epn stru bang khn bxk wa enuxng cak ehord ru tw wa im epn thi niym chm chxb ekha cung tngic ca tha ih khn thng chati osk esra in kar tay khxng tn aethn thi ca diic ephux ih aephnkar saerc ekha id cb prachachn radb phu na khxng yuediy aela sng iw wa ih kha khn ehla ni emux mi kar prakas kar tay khxng ekha aet k im id mi kar ptibti tam kha sng ni emux ehord sin phra chnm orm id aetng tng xarkhilaxus ih epn phu pkkhrxng yuediy tx cak rachbida aela aetng tng butr chay xik sxng khn khxng ehord epn eca chay hrux eca phu khrxng aekhwn thi im khun kb orm khux xnthiphs epn phu khrxng aekhwn aeklili aela phieriy swn filip epn phu khrxng aekhwn xitueriy aela thraokhnithis xarkhilaxus im epn thi chun chxb khxng rasdr aela khxng orm hlng cak pkkhrxng id sib pi ody im mi phl ngan thi na phx ic orm cung pld ekha xxk cak taaehnng aela aetng tng phu wa rachkar khxng orm exng ih pkkhrxng sung k khux phu thi darng taaehnng kxn pxntixus pilat in rahwang nn xnthiphs sung luka eriyk sn wa ehord yng khng pkkhrxng aekhwn khxng tn tx ip echn ediyw kb filip ni epn sthankarn thang kar emuxng txn thi phra eysu erim tha ngan prakas sng sxn luka 3 1xangxing Herod Encyclopaedia Britannica Online Encyclopaedia Britannica 2007 subkhnemux 2007 07 27 born 74 BC died March April 4 BC Jericho Judaea byname Herod the Great Latin Herodes Magnus Roman appointed king of Judaea his father Antipater was an Edomite an Arab from the region between the Dead Sea and the Gulf of Aqaba http www jewishvirtuallibrary org jsource Archaeology jericho html khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 08 06 subkhnemux 2009 04 06 http www aish com literacy JewishHistory Crash Course in Jewish History Part 31 Herod3 the Great asp MATTHEW 2 16 When Herod realized that he had been outwitted by the Magi he was furious and he gave orders to kill all the boys in Bethlehem and its vicinity who were two years old and under in accordance with the time he had learned from the Magi HOLY Bible New International Version Eng Bible NIV095 00301 ABS 1986 20 000 Z 1 Most recent biographies of Herod the Great deny it entirely Paul L Maier Herod and the Infants of Bethlehem in Chronos Kairos Christos II Mercer University Press 1998 170 see also Geza Vermes The Nativity History and Legend London Penguin 2006 p22 E P Sanders The Historical Figure of Jesus Penguin 1993 p 85duephimphramhakstriy ckrwrrdiormnaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb phraecaehordmharach bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk