พระเจ้าเอนริเกที่ 2 (สเปน: Enrique II) หรือ เอนริเกแห่งตรัสตรามารา (สเปน: Enrique de Trastámara) หรือ เอนริเกผู้สังหารพี่น้อง (สเปน: Enrique El Fratricida) หรือ เอนริเกผู้เป็นบุตรนอกสมรส (สเปน: Enrique El Bastardo) (ค.ศ. 1333 – 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1379) เป็นกษัตริย์แห่งกัสติยา ผู้เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ตรัสตามารา พระองค์เป็นบุตรชายนอกสมรสของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 11 แห่งกัสติยา
พระเจ้าเอนริเกที่ 2 | |
---|---|
กษัตริย์แห่งกัสติยาและเลออน | |
ครองราชย์ | 13 มีนาคม ค.ศ. 1366 – 3 เมษายน ค.ศ. 1367 (ครั้งที่ 1) 23 มีนาคม ค.ศ. 1369 – 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1379 (ครั้งที่ 2) |
ราชาภิเษก | 29 มีนาคม ค.ศ. 1366 ที่วิหารซันตามารีอาลาเรอัลเดลาสอูเอลกัส |
รัชกาลก่อนหน้า | พระเจ้าเปโดรแห่งกัสติยา |
รัชกาลถัดไป | พระเจ้าเปโดรแห่งกัสติยา (ครั้งที่ 1) (ครั้งที่ 2) |
ประสูติ | 13 มกราคม ค.ศ. 1334 เซบิยา |
สวรรคต | 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1379 (45 พรรษา) |
ฝังพระศพ | |
พระมเหสี | ฆัวนา มานูเอล สมเด็จพระราชินีแห่งกัสติยา |
พระราชบุตร | อินฟันตาฆัวนา |
ราชวงศ์ | ตรัสตรามารา |
พระราชบิดา | พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 11 แห่งกัสติยา |
พระมารดา | เลโอนอร์ เด กุซมัน |
ผู้สังหารพี่น้อง
เลโอนอร์ เด กุซมัน พระมารดาของเอนริเกเป็นสนมลับของ (โดยเธอเป็นลูกหลานของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 9 แห่งเลออน) สัมพันธภาพนอกสมรสของทั้งคู่ได้ให้กำเนิดบุตรธิดา 10 คนซึ่งหนึ่งในนั้นคือเอนริเก เอนริเกเติบโตมาพร้อมกับฝาแฝดของพระองค์ที่มีชื่อว่าฟาดริเก อัลฟอนโซแห่งกัสติยา พระองค์ได้รับพระราชทานทรัพย์สินที่ดินมากมายจากพระราชบิดา หนึ่งในนั้นคือเคาน์ตีตรัสตรามารา เช่นเดียวกับบุตรชายคนอื่นๆ ของเลโอนอร์ ในขณะที่เปโดร ทายาทตามกฎหมายซึ่งเกิดจาก พระราชินีผู้ไม่เป็นที่สนใจของกษัตริย์ไม่ได้รับความสำคัญใดๆ กระทั่งในปี ค.ศ. 1350 เมื่อพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 11 สวรรคตอย่างกระทันหันด้วยโรคระบาดด้วยวัยเพียง 40 พรรษา สถานการณ์ก็พลิกผันเมื่อราชบัลลังก์กัสติยาตกเป็นของเปโดรผู้เป็นพระราชโอรสตามกฎหมาย
การขึ้นมามีอำนาจของพระเจ้าเปโดรที่ 1 กับมารีอาแห่งโปรตุเกสผู้เป็นพระราชมารดาทำให้ขุนนางกลุ่มใหญ่เลิกให้การสนับสนุนจนบุตรของเลโอนอร์ต้องหนีไปจากราชสำนัก ระหว่างเดินทางไปเซบิยาเพื่อร่วมพิธีศพของกษัตริย์ผู้ล่วงลับ เลโอนอร์ เด กุซมันถูกจับกุมตัว โดยเธอถูกกล่าวหาว่าได้วางแผนสมคบคิดให้เอนริเก บุตรชายของตนได้ขึ้นกษัตริย์ บุตรของเลโอนอร์ได้ลุกฮือขึ้นก่อกบฏทั่วราชอาณาจักร พระเจ้าเปโดรจึงมีคำสั่งให้ประหารชีวิตเลโอนอร์ในตาลาเบราเดลาไรนา
ตลอดรัชสมัยของพระเจ้าเปโดรที่ 1 เอนริเกได้แสดงตนเป็นกบฏต่อพระเชษฐาต่างมารดา ในปี ค.ศ. 1353 พระเจ้าเปโดรได้อภิเษกสมรสกับซึ่งถูกกษัตริย์ทอดทิ้งหลังสมรสได้เพียงสองวันเนื่องจากข้อเรียกร้องทางการเงินของฝรั่งเศสและความเฉยเมยที่มีต่อกันของสองสามีภรรยา เป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ของพระองค์กับฝรั่งเศสเกิดรอยร้าว อิทธิพลของ ธิดาขุนนางกัสติยาซึ่งเป็นสนมลับของกษัตริย์มีบทบาทสำคัญทำให้พระองค์ตัดสินใจผิดสัญญากับฝรั่งเศส
ความขัดแย้งระหว่างพระเจ้าเปโดรกับเอนริเกผู้เป็นพระอนุชาต่างมารดาลุกลามเป็นความขัดแย้งระดับนานาชาติเมื่ออังกฤษกับฝรั่งเศสซึ่งกำลังต่อสู้กันในสงครามร้อยปีได้ยื่นมือเข้ามายุ่ง เอนริเกได้ทำการปฏิวัติในอัสตูเรียสในปี ค.ศ. 1352 และปฏิวัติอีกครั้งในซิวดัดโรดริโกในปี ค.ศ. 1354 หลังพ่ายแพ้พระองค์ได้หนีไปฝรั่งเศสและได้สร้างสัมพันธไมตรีกับกษัตริย์ฝรั่งเศส ความขัดแย้งได้ขยายเข้าสู่ราชอาณาจักรอารากอนในปี ค.ศ. 1357 เมื่อเอนริเกหนีมาอารากอน ให้การสนับสนุนเอนริเก ขณะที่อินฟันเตเฟร์นันโด พระอนุชาของพระองค์ให้การสนับสนุนพระเจ้าเปโดร การห้ำหั่นกันระหว่างสองราชอาณาจักรอิสปาเนียเป็นจุดเริ่มต้นของการพิชิตปราสาทบิเฆสกาและตาราโซนาของกัสติยา ชื่อเสียงด้านความโหดเหี้ยมของพระเจ้าเปโดรเพิ่มมากขึ้นเมื่อพระองค์ได้ประหารชีวิตผู้คนมากมายจนทำให้ได้รับฉายานามว่าพระเจ้าเปโดรผู้โหดเหี้ยม
ด้วยความช่วยเหลือของทหารรับจ้างอังกฤษ กษัตริย์แห่งกัสติยายึดเมืองสำคัญของอารากอนได้หลายแห่ง เช่น เตรูเอล เกาเดเต และอาลิกันเต ในปี ค.ศ. 1358 ฟาดริเก อัลฟอนโซ ฝาแฝดของเอนริเกเดินทางมาเซบิยาเพื่อรับการอภัยโทษจากกษัตริย์ ทว่ากลับถูกจับกุมตัว บุตรชายนอกสมรสของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 11 สามารถหนีออกไปที่ลานของได้ แต่ก็ถูกสังหารโดยทหารของกษัตริย์ พงศาวดารบางฉบับกล่าวว่ากษัตริย์ได้สังหารพระอนุชาต่างมารดาด้วยน้ำมือพระองค์เอง
เอนริเกกลับมากัสติยาอีกครั้งพร้อมกับสมัครพรรคพวกของเบร์ตร็อง ดู เกสแกล็ง ด้วยความร่วมมือจากอารากอนและฝรั่งเศสชาติพันธมิตร พระองค์สามารถขับไล่พระเจ้าเปโดรออกจากประเทศได้สำเร็จ กษัตริย์ลี้ภัยไปอยู่ใน ขณะที่เคานต์แห่งตรัสตรามาราประกาศตนเป็นกษัตริย์ใน พระเจ้าเปโดรที่ 1 ได้รับการช่วยเหลือจากกองทหารอังกฤษนำโดยเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ (หรือเจ้าชายดำ) และปราบพระเจ้าเอนริเกได้ที่ซึ่งต่อสู้กันในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1367
แต่ไม่นานกองทหารอังกฤษก็ถอนทัพออกไปจากกัสติยา เอนริเกกลับมาเคลื่อนไหวทางทหารอีกครั้งโดยทำการปิดล้อมเมืองโตเลโดและปราบกองทหารของกษัตริย์ได้ที่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1369 ขณะถูกปิดล้อมอยู่ในปราสาทมอนติเอล พระเจ้าเปโดรที่ 1 หาทางเจรจากับเอนริเกและตกหลุมพรางที่พระอนุชาวางไว้ด้วยการให้เบร์ตร็อง ดู เกสแกล็งแกล้งทำเป็นรู้สึกผิดและเสนอตัวพากษัตริย์หลบหนี สุดท้ายพระองค์ถูกล่อลวงไปให้เอนริเกทำการฆาตกรรมและแย่งบัลลังก์กลับมาเป็นของตน
กษัตริย์แห่งกัสติยา
การสวรรคตของพระเจ้าเปโดรที่ 1 เป็นการสิ้นสุดการปกครองกัสติยาของราชวงศ์บูร์กอญและเป็นการเริ่มต้นศักราชของราชวงศ์ตรัสตามารา การสร้างความมั่นคงทางอำนาจไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อมีเพียงฝรั่งเศสชาติเดียวที่ให้การสนับสนุนพระเจ้าเอนริเกที่ 2 ขณะที่พระองค์ต้องคุ้มกันตนเองจากการโจมตีของอังกฤษ, โปรตุเกส, และนาวาร์ ทั้งยังไม่สามารถควบคุมแคว้นต่างๆ เช่น กาลิเซีย, ซาโมรา, ซิวดัดโรดริโก และการ์โมนา ที่ยังคงซื่อสัตย์ต่ออดีตกษัตริย์ผู้ถูกฆาตกรรม
พระเจ้าเอนริเกเริ่มต้นด้วยการพระราชทานรางวัลให้แก่พันธมิตร แต่พระองค์รักษาผลประโยชน์ให้แก่ราชอาณาจักรด้วยการไม่ยอมยกอาณาเขตให้แก่กษัตริย์อารากอนตามที่เคยได้ข้อตกลงไว้ สำหรับการเมืองภายใน พระองค์ได้สร้างราชอาณาจักรที่ได้รับความเสียหายจากสงครามกลางเมืองขึ้นมาใหม่ ทรงเพิ่มอำนาจของกษัตริย์ วิกฤตทางเศรษฐกิจตามมาเมื่อพระองค์รักษาสัญญาด้วยการให้รางวัลแก่ขุนนางที่เคยช่วยพระองค์ต่อสู้กับพระเชษฐาต่างมารดา ทั้งยังต้องใช้เงินก้อนโตไปกับการทำสงครามภายในที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังชนะสงครามกลางเมือง พระองค์ได้นำกองทัพเข้าต่อสู้กับโปรตุเกส หลังยึดได้ พระองค์ได้ทำสนธิสัญญาสงบศึกอัลเกาชิงในปี ค.ศ. 1371 กับ ศัตรูคนสำคัญในระดับนานาชาติของพระองค์คืออังกฤษซึ่งเป็นอดีตพันธมิตรของพระเจ้าเปโดร พระราชธิดาสองคนของพระเจ้าเปโดรที่เกิดจากมาเรีย เด ปาดียาได้สมรสกับพระราชโอรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ คือ สมรสกับจอห์นแห่งกอนท์ ดยุคแห่งแลงคัสเตอร์ และสมรสกับเอ็ดมันด์ ดยุคแห่งยอร์ก อังกฤษมองว่าดยุคทั้งสองเป็นผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของบัลลังก์กัสติยา พระเจ้าเอนริเกที่ 2 จึงตัดสินใจเข้าร่วมสงครามร้อยปีโดยอยู่ฝั่งเดียวกับฝรั่งเศส กองทัพกัสติยาได้ร่วมกับกองทัพฝรั่งเศสปลดแอกลาโรเชลจากอังกฤษ สมรภูมิทางเรือลาโรเชลในปี ค.ศ. 1372 เป็นตัวแทนแสดงถึงชัยชนะของกัสติยาเหนืออังกฤษ ซึ่งส่งผลดีต่อการทหารและเศรษฐกิจของกัสติยา จากนั้นพระองค์กลับไปคุกคามโปรตุเกสอีกครั้งด้วยการยึดและวีเซว และปิดกั้นท่าเรือลิสบอน กระทั่งพระเจ้าเฟร์นังดูยอมลงนามในสนธิสัญญาซังตาเร็ง ประกาศให้กองเรือโปรตุเกสอยู่ฝั่งฝรั่งเศสและกัสติยา
ต่อมาทรงนำทัพเข้าต่อสู้กับนาวาร์และได้รับชัยชนะจนนำไปสู่การทำสนธิสัญญาสงบศึกบริยอน สุดท้ายทรงทำศึกกับพระเจ้าเปโดรที่ 4 แห่งอารากอนซึ่งพ่ายแพ้ต่อพระองค์เช่นกันและได้มีการลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกอัลมาซานในปี ค.ศ. 1375 ในสนธิสัญญาทั้งสามฉบับที่ทำกับโปรตุเกส, นาวาร์ และอารากอน พระเจ้าเอนริเกที่ 2 ได้สร้างพันธมิตรผ่านทางการสมรสระหว่างพระโอรสธิดาของพระองค์กับพระโอรสธิดาของกษัตริย์ของอาณาจักรทั้งสาม อันเป็นจุดเริ่มของการขยายราชวงศ์
การเคลื่อนไหวนอกประเทศของพระองค์ได้ยุติการถูกคุกคามอาณาเขตของกัสติยา พระองค์ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลใหญ่ที่ได้รับพระราชทานทั้งอภิสิทธิ์ สิ่งของ และที่ดิน ในช่วงท้ายรัชสมัยพระองค์ถูกบีบให้กลับไปทำสงครามต่างแดนอีกครั้งในการรับมือการโจมตีร่วมกันของอังกฤษและนาวาร์ในปี ค.ศ. 1377 และได้มีการลงนามทำสนธิสัญญาสงบศึกซันโตโดมิงโกเดลากัลซาดาในปี ค.ศ. 1379 ก่อนที่พระองค์จะสวรรคต
พระเจ้าเอนริเกที่ 2 สวรรคตในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1379 ในซันโตโดมิงโกเดลากัลซาดา พงศาวดารบางฉบับกล่าวว่าพระองค์ถูกวางยาพิษตามคำสั่งของกษัตริย์แห่งกรานาดาซึ่งเคยเป็นพันธมิตรของพระเจ้าเปโดร หรือไม่พระองค์อาจสวรรคตด้วยโรคไขข้อ ผู้สืบทอดบัลลังก์กัสติยาต่อจากพระองค์คือ พระราชโอรสที่ต้องต่อสู้กับลูกหลานของพระเจ้าเปโดรเพื่อปกป้องสิทธิ์ในบัลลังก์ของตนเช่นกัน
การสมรสและทายาท
พระเจ้าเอนริกาที่ 2 สมรสเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1350 กับฆัวนา มานูเอล เด บิเยนา เลดีแห่งบิเยนา, เอสกาโลนา และปัญญาฟิเอล ทั้งคู่มีพระราชโอรสธิดาด้วยกัน 3 คน คือ
- (ประสูติ ค.ศ. 1358) สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระราชบิดาเป็นพระเจ้าฆวนที่ 1 แห่งกัสติยา
- (ประสูติ ค.ศ. 1362) สมรสกับและเป็นพระราชินีคู่สมรสแห่งนาวาร์
- ฆัวนา (ประสูติ ค.ศ. 1367) สิ้นพระชนม์ในวัยเด็ก
นอกจากนี้พระองค์ยังมีบุตรธิดานอกสมรสอีกจำนวนมาก
อ้างอิง
- Enrique II of Castilla: Biographies and Lives
- Enrique II «el Fratricida», el hijo bastardo que mató a su hermano para ser Rey de Castilla
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecaexnriekthi 2 sepn Enrique II hrux exnriekaehngtrstramara sepn Enrique de Trastamara hrux exnriekphusngharphinxng sepn Enrique El Fratricida hrux exnriekphuepnbutrnxksmrs sepn Enrique El Bastardo kh s 1333 29 phvsphakhm kh s 1379 epnkstriyaehngkstiya phuepnpthmkstriyaehngrachwngstrstamara phraxngkhepnbutrchaynxksmrskhxngphraecaxlfxnosthi 11 aehngkstiyaphraecaexnriekthi 2kstriyaehngkstiyaaelaelxxnkhrxngrachy13 minakhm kh s 1366 3 emsayn kh s 1367 khrngthi 1 23 minakhm kh s 1369 29 phvsphakhm kh s 1379 khrngthi 2 rachaphiesk29 minakhm kh s 1366 thiwiharsntamarixalaerxledlasxuexlksrchkalkxnhnaphraecaepodraehngkstiyarchkalthdipphraecaepodraehngkstiya khrngthi 1 khrngthi 2 prasuti13 mkrakhm kh s 1334 esbiyaswrrkht29 phvsphakhm kh s 1379 45 phrrsa fngphrasphphramehsikhwna manuexl smedcphrarachiniaehngkstiyaphrarachbutrxinfntakhwnarachwngstrstramaraphrarachbidaphraecaxlfxnosthi 11 aehngkstiyaphramardaeloxnxr ed kusmnphusngharphinxngeloxnxr ed kusmn phramardakhxngexnriekepnsnmlbkhxng odyethxepnlukhlankhxngphraecaxlfxnosthi 9 aehngelxxn smphnthphaphnxksmrskhxngthngkhuidihkaenidbutrthida 10 khnsunghnunginnnkhuxexnriek exnrieketibotmaphrxmkbfaaefdkhxngphraxngkhthimichuxwafadriek xlfxnosaehngkstiya phraxngkhidrbphrarachthanthrphysinthidinmakmaycakphrarachbida hnunginnnkhuxekhantitrstramara echnediywkbbutrchaykhnxun khxngeloxnxr inkhnathiepodr thayathtamkdhmaysungekidcak phrarachiniphuimepnthisnickhxngkstriyimidrbkhwamsakhyid krathnginpi kh s 1350 emuxphraecaxlfxnosthi 11 swrrkhtxyangkrathnhndwyorkhrabaddwywyephiyng 40 phrrsa sthankarnkphlikphnemuxrachbllngkkstiyatkepnkhxngepodrphuepnphrarachoxrstamkdhmay karkhunmamixanackhxngphraecaepodrthi 1 kbmarixaaehngoprtueksphuepnphrarachmardathaihkhunnangklumihyelikihkarsnbsnuncnbutrkhxngeloxnxrtxnghniipcakrachsank rahwangedinthangipesbiyaephuxrwmphithisphkhxngkstriyphulwnglb eloxnxr ed kusmnthukcbkumtw odyethxthukklawhawaidwangaephnsmkhbkhidihexnriek butrchaykhxngtnidkhunkstriy butrkhxngeloxnxridlukhuxkhunkxkbtthwrachxanackr phraecaepodrcungmikhasngihpraharchiwiteloxnxrintalaebraedlairna tlxdrchsmykhxngphraecaepodrthi 1 exnriekidaesdngtnepnkbttxphraechsthatangmarda inpi kh s 1353 phraecaepodridxphiesksmrskbsungthukkstriythxdthinghlngsmrsidephiyngsxngwnenuxngcakkhxeriykrxngthangkarenginkhxngfrngessaelakhwamechyemythimitxknkhxngsxngsamiphrrya epnehtuihkhwamsmphnthkhxngphraxngkhkbfrngessekidrxyraw xiththiphlkhxng thidakhunnangkstiyasungepnsnmlbkhxngkstriymibthbathsakhythaihphraxngkhtdsinicphidsyyakbfrngess khwamkhdaeyngrahwangphraecaepodrkbexnriekphuepnphraxnuchatangmardaluklamepnkhwamkhdaeyngradbnanachatiemuxxngkvskbfrngesssungkalngtxsukninsngkhramrxypiidyunmuxekhamayung exnriekidthakarptiwtiinxstueriysinpi kh s 1352 aelaptiwtixikkhrnginsiwddordriokinpi kh s 1354 hlngphayaephphraxngkhidhniipfrngessaelaidsrangsmphnthimtrikbkstriyfrngess khwamkhdaeyngidkhyayekhasurachxanackrxarakxninpi kh s 1357 emuxexnriekhnimaxarakxn ihkarsnbsnunexnriek khnathixinfnetefrnnod phraxnuchakhxngphraxngkhihkarsnbsnunphraecaepodr karhahnknrahwangsxngrachxanackrxispaeniyepncuderimtnkhxngkarphichitprasathbiekhskaaelataraosnakhxngkstiya chuxesiyngdankhwamohdehiymkhxngphraecaepodrephimmakkhunemuxphraxngkhidpraharchiwitphukhnmakmaycnthaihidrbchayanamwaphraecaepodrphuohdehiym dwykhwamchwyehluxkhxngthharrbcangxngkvs kstriyaehngkstiyayudemuxngsakhykhxngxarakxnidhlayaehng echn etruexl ekaedet aelaxaliknet inpi kh s 1358 fadriek xlfxnos faaefdkhxngexnriekedinthangmaesbiyaephuxrbkarxphyothscakkstriy thwaklbthukcbkumtw butrchaynxksmrskhxngphraecaxlfxnosthi 11 samarthhnixxkipthilankhxngid aetkthuksngharodythharkhxngkstriy phngsawdarbangchbbklawwakstriyidsngharphraxnuchatangmardadwynamuxphraxngkhexng exnriekklbmakstiyaxikkhrngphrxmkbsmkhrphrrkhphwkkhxngebrtrxng du eksaeklng dwykhwamrwmmuxcakxarakxnaelafrngesschatiphnthmitr phraxngkhsamarthkhbilphraecaepodrxxkcakpraethsidsaerc kstriyliphyipxyuin khnathiekhantaehngtrstramaraprakastnepnkstriyin phraecaepodrthi 1 idrbkarchwyehluxcakkxngthharxngkvsnaodyexdewird ecachayaehngewls hruxecachayda aelaprabphraecaexnriekidthisungtxsukninwnthi 3 emsayn kh s 1367 aetimnankxngthharxngkvskthxnthphxxkipcakkstiya exnriekklbmaekhluxnihwthangthharxikkhrngodythakarpidlxmemuxngotelodaelaprabkxngthharkhxngkstriyidthiineduxnminakhm kh s 1369 khnathukpidlxmxyuinprasathmxntiexl phraecaepodrthi 1 hathangecrcakbexnriekaelatkhlumphrangthiphraxnuchawangiwdwykarihebrtrxng du eksaeklngaeklngthaepnrusukphidaelaesnxtwphakstriyhlbhni sudthayphraxngkhthuklxlwngipihexnriekthakarkhatkrrmaelaaeyngbllngkklbmaepnkhxngtnkstriyaehngkstiyaphaphehmuxnkhxngphraecaexnriekthi 2 aehngkstiya odyokhes marixa ordrieks karswrrkhtkhxngphraecaepodrthi 1 epnkarsinsudkarpkkhrxngkstiyakhxngrachwngsburkxyaelaepnkarerimtnskrachkhxngrachwngstrstamara karsrangkhwammnkhngthangxanacimicheruxngngayemuxmiephiyngfrngesschatiediywthiihkarsnbsnunphraecaexnriekthi 2 khnathiphraxngkhtxngkhumkntnexngcakkarocmtikhxngxngkvs oprtueks aelanawar thngyngimsamarthkhwbkhumaekhwntang echn kaliesiy saomra siwddordriok aelakaromna thiyngkhngsuxstytxxditkstriyphuthukkhatkrrm phraecaexnriekerimtndwykarphrarachthanrangwlihaekphnthmitr aetphraxngkhrksaphlpraoychnihaekrachxanackrdwykarimyxmykxanaekhtihaekkstriyxarakxntamthiekhyidkhxtklngiw sahrbkaremuxngphayin phraxngkhidsrangrachxanackrthiidrbkhwamesiyhaycaksngkhramklangemuxngkhunmaihm thrngephimxanackhxngkstriy wikvtthangesrsthkictammaemuxphraxngkhrksasyyadwykarihrangwlaekkhunnangthiekhychwyphraxngkhtxsukbphraechsthatangmarda thngyngtxngichenginkxnotipkbkarthasngkhramphayinthiyngkhngekidkhunxyangtxenuxng hlngchnasngkhramklangemuxng phraxngkhidnakxngthphekhatxsukboprtueks hlngyudid phraxngkhidthasnthisyyasngbsukxlekachinginpi kh s 1371 kb strukhnsakhyinradbnanachatikhxngphraxngkhkhuxxngkvssungepnxditphnthmitrkhxngphraecaepodr phrarachthidasxngkhnkhxngphraecaepodrthiekidcakmaeriy ed padiyaidsmrskbphrarachoxrskhxngphraecaexdewirdthi 3 aehngxngkvs khux smrskbcxhnaehngkxnth dyukhaehngaelngkhsetxr aelasmrskbexdmnd dyukhaehngyxrk xngkvsmxngwadyukhthngsxngepnphusubthxdthithuktxngtamkdhmaykhxngbllngkkstiya phraecaexnriekthi 2 cungtdsinicekharwmsngkhramrxypiodyxyufngediywkbfrngess kxngthphkstiyaidrwmkbkxngthphfrngesspldaexklaorechlcakxngkvs smrphumithangeruxlaorechlinpi kh s 1372 epntwaethnaesdngthungchychnakhxngkstiyaehnuxxngkvs sungsngphlditxkarthharaelaesrsthkickhxngkstiya caknnphraxngkhklbipkhukkhamoprtueksxikkhrngdwykaryudaelawiesw aelapidknthaeruxlisbxn krathngphraecaefrnngduyxmlngnaminsnthisyyasngtaerng prakasihkxngeruxoprtueksxyufngfrngessaelakstiya txmathrngnathphekhatxsukbnawaraelaidrbchychnacnnaipsukarthasnthisyyasngbsukbriyxn sudthaythrngthasukkbphraecaepodrthi 4 aehngxarakxnsungphayaephtxphraxngkhechnknaelaidmikarlngnaminsnthisyyasngbsukxlmasaninpi kh s 1375 insnthisyyathngsamchbbthithakboprtueks nawar aelaxarakxn phraecaexnriekthi 2 idsrangphnthmitrphanthangkarsmrsrahwangphraoxrsthidakhxngphraxngkhkbphraoxrsthidakhxngkstriykhxngxanackrthngsam xnepncuderimkhxngkarkhyayrachwngs rupaekaslkhlumsphkhxngphraecaexnriekthi 2 aehngkstiyainxasnwiharotelod karekhluxnihwnxkpraethskhxngphraxngkhidyutikarthukkhukkhamxanaekhtkhxngkstiya phraxngkhidrbkarsnbsnuncaktrakulihythiidrbphrarachthanthngxphisiththi singkhxng aelathidin inchwngthayrchsmyphraxngkhthukbibihklbipthasngkhramtangaednxikkhrnginkarrbmuxkarocmtirwmknkhxngxngkvsaelanawarinpi kh s 1377 aelaidmikarlngnamthasnthisyyasngbsuksnotodmingokedlaklsadainpi kh s 1379 kxnthiphraxngkhcaswrrkht phraecaexnriekthi 2 swrrkhtinwnthi 29 phvsphakhm kh s 1379 insnotodmingokedlaklsada phngsawdarbangchbbklawwaphraxngkhthukwangyaphistamkhasngkhxngkstriyaehngkranadasungekhyepnphnthmitrkhxngphraecaepodr hruximphraxngkhxacswrrkhtdwyorkhikhkhx phusubthxdbllngkkstiyatxcakphraxngkhkhux phrarachoxrsthitxngtxsukblukhlankhxngphraecaepodrephuxpkpxngsiththiinbllngkkhxngtnechnknkarsmrsaelathayathphraecaexnrikathi 2 smrsemuxwnthi 27 krkdakhm kh s 1350 kbkhwna manuexl ed bieyna eldiaehngbieyna exskaolna aelapyyafiexl thngkhumiphrarachoxrsthidadwykn 3 khn khux prasuti kh s 1358 subthxdtaaehnngtxcakphrarachbidaepnphraecakhwnthi 1 aehngkstiya prasuti kh s 1362 smrskbaelaepnphrarachinikhusmrsaehngnawar khwna prasuti kh s 1367 sinphrachnminwyedk nxkcakniphraxngkhyngmibutrthidanxksmrsxikcanwnmakxangxingEnrique II of Castilla Biographies and Lives Enrique II el Fratricida el hijo bastardo que mato a su hermano para ser Rey de Castilla